มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดทำบัญชีของ SMEs [ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....]

Details

Category: มติ ครม.

Published: Sunday, 28 February 2016 15:20

Hits: 1654

มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดทำบัญชีของ SMEs [ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....]

    เรื่อง มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดทำบัญชีของ SMEs [ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....]

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้

     1. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดทำบัญชีของ SMEs สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561

     2. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้

    กค. เสนอว่า เพื่อช่วยลดภาระให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่มีพื้นฐานด้านบัญชีให้สามารถลงบัญชีได้ด้วยตนเองอย่างถูกต้องตามมาตรฐานบัญชีและกฎหมายภาษี รวมทั้งยังมีส่วนในการสร้างโอกาส สร้างประสบการณ์และสร้างรายได้ให้แก่นักเรียนนักศึกษาไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายปฏิรูปการศึกษาตามนโยบาย 'ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ (Moderate Class More Knowledge)' ของรัฐบาล จึงเห็นควรกำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดทำบัญชีของ SMEs โดยการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรายจ่ายในการจ้างนักเรียน นักศึกษาที่อยู่ระหว่างศึกษาแผนกวิชาบัญชีที่ได้รับการรับรองจากสถาบันการศึกษาในสังกัดของ ศธ. ได้สองเท่าของที่จ่ายจริงเป็นระยะเวลาสามรอบระยะเวลาบัญชี

สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา

    กำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่มีทรัพย์สินถาวรไม่รวมที่ดินไม่เกินสองร้อยล้านบาท และมีการจ้างแรงงานไม่เกินสองร้อยคนสำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าจ้างให้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับบัญชีแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่อยู่ระหว่างศึกษาในแผนกวิชาบัญชีที่ได้รับการรับรองจากสถาบันการศึกษาในสังกัดของ ศธ. สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด

    ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559