WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8790 ข่าวสดรายวัน


'ยรรยง'จวก บิดสต๊อกข้าว 
หวังผลเอาผิด'ปู'เวทีรับฟังนศ.จืด


จร.ปีใหม่ - พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมรับมือการจราจรบนถนนมิตรภาพ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีประชาชนพากันเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้าน และไปท่องเที่ยวจำนวนมาก เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ จ.นครราชสีมา

       "ยรรยง"โวย"ปนัดดา"บิดเบือนผลสอบสต๊อกข้าว หวังโยงคดีถอดถอน"ยิ่งลักษณ์"แนะเจ้าของ โกดังเซอร์เวเยอร์ฟ้องกลับ หม่อมเหลนปัดวุ่น ยันผลตรวจข้าวโปร่งใส รองปลัดยธ.ขานรับแนวคิดยกเลิกโทษประหาร เผยยธ.มีแผนไว้อยู่แล้ว เวทีรับฟังนักศึกษากร่อย "ถวิลวดี" เผยคสช.ขอดูรายชื่อน.ศ.ที่เข้าร่วมแต่ไม่พบกลุ่มชู 3 นิ้ว วอนกลุ่มต้านให้ร่วมส่งความคิดเห็น แย้ม"บวรศักดิ์"เตรียมลงพื้นที่อีสาน กมธ.ยกร่างรธน.นัดชี้ขาดปมเลือกตรงนายกฯวันอังคารนี้ "ไพบูลย์"มั่นใจถูกตีตกตั้งแต่ยกแรก แต่อาจหารือกันยาวในประเด็นส.ส.-ส.ว. "ณัฐวุฒิ"หนุนทำประชามติรธน.ใหม่ แต่ห่วงคสช.ใช้เป็นไพ่ใบสุดท้ายยื้อ อยู่ต่อ นักวิชาการแนะเลิกกฎอัยการศึก เปิดพื้นที่ทางความคิด 

บิ๊กตู่คว้าไมค์"ขอใจแลกเบอร์โทร"

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเผยแพร่คลิปภาพและเสียง ทางสื่อ โซเชี่ยลต่างๆ ถึงบรรยากาศในงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์รับรองผู้นำลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่ น้ำโขง (จีเอ็มเอส) ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.

ที่ผ่านมา ที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ โดยคลิปดังกล่าวถูกนำไปโพสต์ทางเฟซบุ๊กใช้ชื่อ "ครูปูสอนร้องเพลง ประภัสสร เทียมประเสริฐ" ปรากฏภาพพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สวมเสื้อผ้าไทยสีเหลือง มอบพวงมาลัยให้กับผู้ร้องเพลงและถือโพยร่วมร้องเพลง "ขอใจเธอแลกเบอร์โทร" บนเวทีการแสดง ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ร่วมงาน

โดยผู้โพสต์เขียนข้อความว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับครูปู ได้รับพวงมาลัยจากพล.อ.ประยุทธ์ และให้เกียรติร่วมร้องเพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทร ในงานกาล่าดินเนอร์ ซึ่งเวทีใหญ่มากมองไม่เห็นนักร้องเลย คนเยอะมาก ตื่นเต้นจนแทบเป็นลม

ชี้รถไฟเร็วสูงยุโรปไม่เหมาะกับไทย

เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ เขตปทุมวัน พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการยุวโฆษก รุ่นที่ 8 จำนวน 72 คน ระหว่างวันที่ 21-25 ธ.ค. จัดโดยสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมี ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ร่วมงาน 

พล.อ.วิลาศกล่าวตอนหนึ่งว่า เยาวชนที่ร่วมโครงการมีส่วนสำคัญในการเผยแพร่ผลงานของรัฐบาลและความภูมิใจของชาติไทย ซึ่งตำแหน่งโฆษกมีหน้าที่เผยแพร่ข่าวสู่สาธารณะ จึงต้องรู้จริงและมีความรับผิดชอบในสิ่งที่เผยแพร่ออกไป ซึ่งหวังให้เยาวชนทุกคนมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์เพื่อสร้างความภูมิใจในชาติ และสำนึก เรื่องการยอมรับในความหลากหลาย ท่าม กลางการเปลี่ยนแปลง เช่น การสร้างรถไฟความเร็วสูงของรัฐบาลที่เพิ่งมีการลงนามกับนายกฯนั้น เป็นการพัฒนาโครงสร้างของประเทศเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสังคม

พล.อ.วิลาศกล่าวว่า การที่ไทยตัดสินใจจะสร้างรถไฟความเร็วปานกลาง เพราะเชื่อว่าเพียงพอสำหรับการใช้แล้ว ส่วนรถไฟความเร็วสูงแบบในยุโรปนั้นยังไม่พร้อมสำหรับเมืองไทย หากจะทำอะไรต้องทำให้ชาวบ้านในต่างจังหวัดใช้ได้ด้วย เพราะนักท่องเที่ยวคงมาใช้ไม่มาก ในอนาคตอาจสร้างได้ ดังนั้น เวลาจะทำอะไร อย่าทำไปตามกระแส แต่ให้ทำตามความต้องการของคนส่วนใหญ่ด้วย

แถลงผลงานรัฐบาล 3 เดือน25ธ.ค.

ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวถึงการแถลงผลงานรัฐบาลครบ 3 เดือนในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ว่า สำนักโฆษกฯ ได้รับข้อมูลผลการดำเนินงานจากรองนายกฯ และแต่ละกระทรวงที่ส่งมาเกือบครบแล้ว ขาดเพียง 4-5 กระทรวง ที่ตรวจและปรับปรุงรายละเอียดเล็กน้อย ซึ่งตนได้รวบรวมและจัดแบ่งเป็นกลุ่มประเภทงาน เช่น งานด้านบริการ การลดค่าครองชีพ งานพัฒนาเทคโนโลยีภาครัฐซึ่งกำลังจัดทำเป็นเพาเวอร์พอยต์ให้พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แถลงรายละเอียดในภาพรวมทั้งหมด จากนั้นรอง นายกฯจะแถลงถึงผลงานแต่ละด้านที่รับผิดชอบ คาดว่าจะใช้เวลาแถลงกว่า 1 ชั่วโมง

โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า สำหรับของขวัญปีใหม่ที่รัฐบาลเตรียมมอบให้ประชาชนที่แต่ละกระทรวงเสนอมานั้น จะรวบรวมแบ่งเป็นหมวดหมู่ และเสนอรายงานให้ครม.เห็นชอบ ก่อนชี้แจงให้ประชาชนรับทราบต่อไป

"ตู่"เยือนจีน-ทดลองนั่งรถไฟเร็วสูง

ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวถึงภารกิจของนายกฯ ในการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 22-23 ธ.ค.นี้ว่า นายกฯ มีกำหนดหารือทวิภาคีกับนายหลี่ เค่อเฉียง นายกฯ จีน พร้อมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ 4 ฉบับ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งธนาคารชำระดุลเงินหยวนในประเทศ ไทย ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารประชาชนจีน, ความตกลงทวิภาคีแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาทเพื่อต่ออายุความตกลง ซึ่งเป็นความตกลงฉบับเดิม, บันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือทางวิชาการทรัพยากรน้ำและการชลประทาน และบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและธนาคารแห่งประเทศจีน จำกัด

จากนั้นวันที่ 23 ธ.ค. นายกฯ จะเยี่ยมชมศูนย์ควบคุมรถไฟแห่งประเทศจีน และทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงจากสถานีรถไฟทางใต้แห่งกรุงปักกิ่งถึงสถานีรถไฟนครเทียนจิน และเข้าพบประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน เข้าเยี่ยมคารวะนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ทั้งนี้ นายกฯ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง ในวันที่ 22 ธ.ค. เวลา 09.30 น.ถึงสนามบินปักกิ่งเวลา 15.00 น. ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง 

ฉะ"อ๋อย"มีปัญหากับกฎอัยการศึก

ด้านพล.ต.สรรเสริญกล่าวถึงกรณี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ และแกนนำพรรคเพื่อไทย แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเรียกร้องให้รัฐบาลและ คสช.เปิดให้มีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และให้ยกเลิกกฎอัยการศึก ในช่วงเวลาที่ลงประชามติว่า เรื่องที่นาย จตุรนต์เสนอแนะเป็นสิ่งที่ฟังได้ แต่การทำประชามติไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลทำได้เองทันที ต้องมีขั้นตอนกระบวนการ เริ่มตั้งแต่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรม นูญและฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สุดท้ายนายกฯ ในฐานะหัวหน้า คสช.จะต้องหารือกับฝ่ายเกี่ยวข้องเพื่อตกลงว่าจะทำอย่างไร ตนไม่สามารถตอบคำถามแทนได้ แต่เชื่อว่านายกฯ จะปรึกษาหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคนอย่างรอบด้าน อยากให้คนไทยสบายใจได้ว่าจะเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุด และทำให้สังคมเกิดความสบายใจ 

"เรื่องกฎอัยการศึกผมไม่แน่ใจว่านาย จาตุรนต์ติดขัดหรือมีปัญหาอะไรกับกฎอัยการศึก ไปตลาดไม่ได้หรืออย่างไร ทั้งที่ทำทุกอย่างได้ปกติ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ใช้ กฎอัยการศึกเพื่อดูแลสถานการณ์บ้านเมือง เพื่อระงับยับยั้งเหตุที่จะสร้างความวุ่นวาย ส่วนอย่างอื่นแทบไม่ได้ใช้อะไรเลย เด็กชู 3 นิ้ว เราแค่เชิญตัวมาพูดคุย เรื่องอื่นๆ เราไม่เคยทำเป็นเรื่องใหญ่ ผมเชื่อมั่นว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีใครเดือดร้อน จึงขออนุญาตคงกฎอัยการศึกไว้เพื่อความจำเป็นจริงๆ" พล.ต.สรรเสริญกล่าว

สปช.เล็งเปิดรับฟังน.ศ.ทั่วปท.

เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ สถาบันพระปกเกล้าร่วมกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเวทีประชาเสวนา "สานพลังนักศึกษาเพื่อปฏิรูปประเทศไทย" เพื่อเปิดให้นักศึกษามีส่วนร่วมในกระบวน การปฏิรูปประเทศไทยและการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งจัดขึ้นเป็นวันทีสองนายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า สปช.ทำหนังสือไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อให้ตัวแทนนักศึกษาเข้าร่วมในโครงการนี้ โดยเปิดรับนักศึกษาทุกกลุ่มแม้จะมีความเห็นต่าง สปช.ก็พร้อมรับฟัง จากการประเมินนักศึกษาที่มาร่วมงานทั้ง 2 วัน ให้ความร่วมมือและสะท้อนความเห็นในการปฏิรูปเป็นอย่างดี ซึ่งนักศึกษากลุ่มนี้ส่วนใหญ่ทำกิจกรรมด้านอาสาอยู่แล้ว จึงได้เห็นพลังด้านบวกในทางสร้างสรรค์ โดยสปช. จะรวบรวมความคิดเห็นที่ได้ไปพิจารณาและหากเรื่องใดเกี่ยวกับข้อกฎหมาย จะเสนอให้คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาได้จนถึงเดือนก.ย. 2558 

"คาดหวังว่านักศึกษาเหล่านี้จะนำความรู้ความเข้าใจไปขยายผลและจัดทำเวทีในมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งสปช.ก็พร้อมรับข้อเสนอ เพราะมีภารกิจหลักรวบรวมความคิดเห็นของทุกภาคส่วนเพื่อส่งต่อไปยังกมธ. ยกร่างฯ อยู่แล้ว ซึ่งกมธ.ยกร่างฯจะเป็น ผู้คัดกรองความเห็นเพื่อใช้ประกอบการร่างรัฐธรรมนูญต่อไป" นายประสารกล่าวและว่า สปช.จะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษาที่อยู่ต่างจังหวัดด้วย ถือเป็นพื้นฐานปฏิรูปประเทศ จากนั้นจะเปิดเวทีภาคประชาชนทั่วประเทศ เชื่อมั่นว่าในปี 2558 ประชาชนทุกภาคส่วนจะตื่นตัวและเข้าร่วมเวทีแสดงความเห็นเพื่อการปฏิรูปมากขึ้น

เผยกลุ่มชู 3 นิ้วเมินร่วมเวที

นางถวิลวดี บุรีกุล กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ในฐานะประธานอนุกมธ.การรับฟังความคิดเห็นและมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า ในการจัดเวทีรับความคิดเห็น อนุกมธ.ได้รายงานให้คสช. และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) รับทราบรายละเอียดทุกครั้ง ซึ่งการจัดเวทีประชาเสวนา"สานพลังนักศึกษาเพื่อปฏิรูปประเทศไทย" ทางคสช.ขอดูรายชื่อนักศึกษาที่เข้าร่วม แต่ไม่พบรายชื่อนักศึกษาที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมือง เนื่องจากกลุ่มนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ส่วนใหญ่ทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มนักศึกษาที่เคยเคลื่อนไหว อยากมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น อนุกมธ.ยินดีรับฟังและเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วม แต่ถ้าไม่ประสงค์จะเข้าร่วมก็ส่งความคิดเห็นมายังอนุกมธ.ได้ 

"บวรศักดิ์"ลงพื้นที่ฟังเสียงอีสาน

นางถวิลวดีกล่าวว่า อนุกมธ. จะลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นประชาชนเป็นครั้งแรกที่จ.สุพรรณบุรี ในวันที่ 17-18 ม.ค. 2558 จากนั้นจะทยอยลงพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก และเวทีสุดท้ายจะจัดขึ้นที่กทม. ซึ่งในเวทีที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯ จะลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นด้วยตนเอง 

นางถวิลวดีกล่าวว่า ส่วนรูปแบบการจัดเวทีประชาเสวนา อนุกมธ.กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะไปรับความคิดเห็นเรียบร้อยแล้วโดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีโอกาสเข้าร่วมกระบวนการ และหลังรับฟังความคิดเห็นเสร็จ อนุกมธ.จะนำความคิดเห็นและเสียงสะท้อนไปประกอบกระบวนการปฏิรูปประเทศและการยกร่างรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ในปี 2558 อนุกมธ.จะประสานกมธ. ปฏิรูปการแรงงาน และกมธ.ปฏิรูปการเกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ การท่องเที่ยวและบริการ เพื่อจัดรับฟังความคิดเห็นกลุ่มแรงงานและกลุ่มเกษตรกรให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม 

สปช.นัดถกเสนอปฏิรูปเร่งด่วน

นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการกมธ.กิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิปสปช.) เปิดเผยว่า หลังจาก สปช.ส่งมอบความเห็นและข้อเสนอ 246 ประเด็นของกมธ.วิสามัญ 18 คณะ ประจำสภาต่อกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญแล้วนั้น ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. ทุกวันจันทร์ สปช.จะประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางข้อเสนอการปฏิรูปแบบเร่งด่วนหรือควิกวิน เมื่อพิจารณาเสร็จ ประธานสปช.จะส่งให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา เพื่อให้ทำทันทีให้เป็นของขวัญปีใหม่กับประชาชน และตั้งแต่ต้นปี 2558 สปช.จะประชุมทุกวันอังคารเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วงแรกจะระดมความคิดเห็นเพื่อกำหนดวิสัยทัศน์การปฏิรูปประเทศ จัดทำเป็นแผนแม่บทหรือพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศ ยืนยันว่าเป็นการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ก้าวแรก 60 วันสู่ก้าวสำคัญปฏิรูปประเทศ

กมธ.ยกร่างเร่งถกข้อเสนอรธน.

นายสุจิต บุญบงการ รองประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่ 3 เปิดเผยว่า กมธ.ยกร่างฯจะเริ่มประชุมหารือถึงข้อเสนอที่สปช. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และส่วนอื่นๆ นำมาประกอบการยกร่างรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.เป็นต้นไป เริ่มไล่เรียงไปตั้งแต่ประเด็นภาคพลเรือนและประชาชน สิทธิเสรีภาพ ส่วนวันที่ 23 ธ.ค. จะได้ข้อสรุปในประเด็นภาคการเมืองโดยเฉพาะประเด็นเลือกตั้งนายกฯและครม.โดยตรง หรือไม่นั้น ต้องรอฟังที่ประชุมก่อน แต่ในหลายประเด็น ทางกมธ.ยกร่างฯได้พูดคุยกันมาก่อนหน้านี้แล้ว รู้ว่าสปช. มีแนวคิดอย่างไร เพราะมีการอภิปรายกันมาพอสมควร จึงพอจะได้แนวทาง แต่ขอให้รอดูการหารือในสัปดาห์หน้าก่อน

เชื่อกมธ.ตีตกปมเลือกตรงนายกฯ

ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า เบื้องต้น กมธ.ยกร่างฯจะหารือประเด็นเลือกตั้งนายกฯและครม.โดยตรงในวันที่ 23 ธ.ค. ซึ่งวันนั้นน่าจะได้แนวทางเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาเสียงสนับสนุนให้เลือกตั้งนายกฯโดยตรงนั้นมีไม่มาก มีผู้ไม่เห็นด้วยเยอะ เสียงเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยถือว่าไม่ได้ก้ำกึ่งกัน จึงเชื่อว่าจะใช้เวลาหารือไม่นาน แต่ประเด็นที่จะใช้เวลาหารือนาน น่าจะเป็นเรื่องระบบรัฐสภาว่าจะกำหนดให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิ สภามีที่มาอย่างไร เรื่องนี้ต้องพูดกันยาวเพราะมีรายละเอียดค่อนข้างมาก

นายไพบูลย์กล่าวว่า ข้อสรุปในแต่ละประเด็นที่ได้มานั้น จะเป็นเพียงข้อสรุปเบื้องต้น ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุดได้เพราะขั้นตอนจากนั้น กมธ.ยกร่างฯ ต้องให้ฝ่ายเลขาธิการนำข้อสรุปไปยกเป็นมาตราและนำมาดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งยังมีขั้นตอนการรับฟังความเห็นจากส่วนอื่นๆ อีก แต่ส่วนตัวเชื่อว่าประเด็นเลือกตั้งนายกฯโดยตรงนั้น หากไม่ผ่านในเบื้องต้นก็ไม่น่าจะผ่านในตอนหลัง

"ชาญเชาวน์"ชี้-เลิกโทษประหารทำได้ 

นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) กล่าวถึงกรณีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ เสนอให้ยกเลิกโทษประหารชีวิตว่า จากกรณีดังกล่าว ตนเห็นว่ากระทรวงยุติธรรมมีการทำแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีเป้าหมายต้องการยกเลิกโทษประหารชีวิต ซึ่งที่ผ่านมา ยธ. ก็มีระบบการลงโทษที่เป็นภาพใหญ่อยู่แล้ว โดยเฉพาะแนวทางที่จะปรับปรุงโทษที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อีกทั้งเราจะพัฒนาแนวทางการสืบสวนสอบสวนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

นายชาญเชาวน์กล่าวว่า การยกเลิกโทษประหารชีวิตในปัจจุบันมีความเป็นไปได้ หากทำตามแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้สำเร็จและทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมให้ได้ว่า หากยกเลิกโทษประหารชีวิตแล้วกระทรวงยุติธรรมยังจัดการกับคนผิดได้ โดยกรมราชทัณฑ์จะมีบทลงโทษกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายอาญาสากล ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีบทลงโทษสูงสุดคือการจำคุกตลอดชีวิตอยู่แล้ว แม้จะมีการลดโทษก็ต้องมั่นใจว่าผู้กระทำผิดจะไม่กลับมาทำผิดอีก หากในรัฐธรรมนูญจะเขียนให้มีการยกเลิกโทษประหารชีวิต ก็ทำได้ ซึ่งหากมองย้อนไป 10 ปีที่ผ่านมา เราไม่มีการใช้โทษประหารชีวิตแล้ว

สนช.ลุยอีสาน-ซาวเสียงปชช.

นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช. คนที่ 2 เผยว่า นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. มอบให้ตนลงพื้นที่ตามโครงการ "สมาชิกสนช.พบประชาชน" วันที่ 27-29 ธ.ค. ที่จ.มุกดาหาร และบึงกาฬ เพื่อเผยแพร่บทบาทหน้าที่ของสนช. และ รับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ เช่น ที่จ.มุกดาหาร รับฟังการบรรยายสรุปเรื่องเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และพบปะกับคณะเจ้าแขวง บอลิคำไซ ที่จ.บึงกาฬ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดจะส่งเรื่องไปยังกระทรวงนั้นๆ และถือเป็นการช่วยรัฐบาลติดตามงานต่างๆ ซึ่งงานดังกล่าวหอการค้าแห่งประเทศ ไทยจะร่วมงานด้วย เพราะพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษชายแดนไทยลาว จึงมีการเชิญตัวแทนทางการลาวที่ติดกับ จ.มุกดาหารและจ.บึงกาฬเข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นด้วย 

เลิกอัยการศึก-เปิดพื้นที่ความคิด

นายยุทธพร อิสรชัย คณบดีรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า จุดใหญ่คือเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนต้องมีทางเชื่อมระหว่างประชาชนกับการร่างรัฐธรรมนูญ โดยสปช.ต้องรับฟังความคิดเห็นและนำข้อมูล จาก กมธ.ยกร่างฯไปถามประชาชนว่าเป็นอย่างไร และประชาชนต้องมีอำนาจตัดสินใจได้จริง ซึ่งการรับฟังคิดเห็นต้องไม่ใช่แค่พิธีกรรม ส่วนตัวเห็นด้วยกับการทำประชามติ แต่ต้องให้ข้อมูลกับประชาชนก่อนลงประชามติ เป็นข้อมูลสรุปที่เข้าใจง่าย แต่อย่าทำเหมือนประชามติรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ที่เอารัฐธรรมนูญไปแจก เพราะไม่ได้ประโยชน์ มีคนอ่านแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

นายยุทธพรกล่าวว่า การลงประชามติควรดูตัวอย่างของสกอตแลนด์ที่ให้ข้อมูลก่อนลงประชามติถึง 2 ปี ทั้งข้อดีและข้อเสียในการแยกออกจากสหราชอาณาจักร โดยทางการเป็นผู้ให้ข้อมูล ซึ่งประเทศไทยก็เช่นกัน การลงประชามติต้องให้ข้อมูลทั้งสองด้านแก่ประชาชน แม้จะเสียเวลาแต่ถือว่าได้ประโยชน์มาก นอกจากนี้ควรยกเลิกกฎอัยการศึกเพราะการรับฟังความเห็น ประชาชนต้องมีอิสระทางความคิด มีพื้นที่ปลอดภัยให้แสดงออก ไม่เช่นนั้นกมธ. ยกร่างฯ อาจได้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง มีข้อมูลเพียงด้านเดียว เพราะประชาชนไม่กล้าคัดค้าน หรือให้ความเห็นที่แตกต่าง 

"เต้น"หนุนทำประชามติ-ห้ามมัดมือชก

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงการ ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า เสร็จเรื่องลุ้นขุนพลช้างศึกก็หันกลับมาดูขุนพลเรือแป๊ะ ตนเห็นด้วยกับการทำประชามติและเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ประสงค์เช่นนั้น ซึ่งเข้าใจตรงกันว่าหากผ่านก็เดินหน้าสู่การบังคับใช้ แต่สิ่งที่ต้องพูดกันให้ชัด คือ ถ้าประชามติไม่ผ่าน ผลคืออะไร ถ้าจะยุบสปช. ยุบกมธ.ยกร่างฯตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้วนับหนึ่งใหม่ ก็อย่าทำประชามติให้เปลืองงบเปลืองเวลาเลย เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะให้ประชาชนซึ่งถูกจำกัดเสรีภาพอยู่แล้วไปลงประชามติในกติกาแบบมัดมือชก

"ต้องรับอย่างเดียว ขืนไม่รับก็เท่ากับออกใบอนุญาตต่ออายุให้คสช.และแม่น้ำ ทั้ง 5 สาย ผมเสนอว่าหากจะทำประชามติ ก็แก้รัฐธรรมนูญชั่วคราว บัญญัติลงไปให้ชัดว่าถ้าไม่ผ่านให้นำรัฐธรรมนูญฉบับใด มาบังคับใช้ก่อน เพื่อให้มีการเลือกตั้ง และให้สภาที่มาจากประชาชนยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อการปฏิรูปประเทศ ต่อไป แบบนี้ถึงยุติธรรม ถ้าร่างรัฐธรรมนูญแล้วประชามติไม่ผ่าน จะเอาความชอบธรรมที่ไหนให้กระบวนการเดิมยกร่างขึ้นใหม่ ซึ่งเงินเดือน สวัสดิการและผลประโยชน์อื่นรับไปแล้วเต็มที่ พอทำงานล้มเหลวก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่น่าจะใช่แบบฉบับที่คนดีเขาทำกัน" นายณัฐวุฒิระบุ

นายณัฐวุฒิระบุด้วยว่า เห็นหลายคนบอกว่ายังไม่ถึงเวลาพูดเรื่องประชามติ แต่ตนเห็นว่าจำเป็นต้องพูดกันตั้งแต่ตอนนี้

เพื่อแสดงความจริงใจ ไม่งั้นอาจมองได้ว่าประชามติเป็นไพ่ใบสำคัญที่คสช.เก็บไว้เล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ อีกเรื่องที่ควรทราบ คือการทำประชามติภายใต้กฎอัยการศึกก็เหมือนเอาเสรีภาพของคนไทยใส่ไว้ในขากางเกงเดฟ อ้างความชอบธรรมอะไรไม่ได้

ชทพ.แนะทำประชาพิจารณ์ก่อน

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงข้อเสนอในการยกร่างรัฐธรรมนูญขณะนี้ว่า พรรคยังไม่มีการหารือกัน ควรรอให้ตกผลึกก่อน หากไปวิจารณ์จะเหมือนนักมวยที่ ชกลม จึงไม่อยากให้พรรคต่างๆ ออกมาแสดงความเห็นในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม การร่างรัฐธรรมนูญต้องรับฟังความเห็น ของประชาชนเพราะจะได้มุมมองที่กว้าง หลากหลาย 

เมื่อถามว่าจะต้องจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญก่อนใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประชามติเป็นเรื่องปลายน้ำ ตนอยากเห็นการทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนก่อน และเมื่อจัด ทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จค่อยทำประชามติ อีกรอบ ไม่เช่นนั้นจะเหมือนการจัดทำรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งบอกว่าค่อยไปแก้ทีหลัง และกลายเป็นชนวนสร้างความแตกแยกอย่างนี้ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก เมื่อถามว่าการทำประชาพิจารณ์ และประชามติจะต้องแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาล และคสช.จะเห็นอย่างไร เพราะสั่งการได้อยู่แล้ว

หนุนตั้ง"บิ๊กป้อม"จี้รมต.ผลงานอืด

จากกรณีมีข่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. เตรียมลงนามตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง มอบให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธาน เพื่อมาช่วยติดตามการทำงานของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง เนื่องจากบางกระทรวงมีผลงานไม่คืบหน้า ไม่เป็นไปตามโรดแม็ปนั้น แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เผยว่ารัฐมนตรี ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่าจะมีการลงนามแต่งตั้งพล.อ.ประวิตร มายกเครื่องการทำงานจริงหรือไม่และจะเป็นไปในแนวทางใด แต่หากเป็นจริงมองว่าเป็นเรื่องดี และไม่น่ามีปัญหา เพราะพล.อ.ประวิตร เป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบ การณ์ และรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลให้ความเกรงใจ สามารถช่วยนายกฯดูแลความเรียบร้อยได้

หม่อมเหลนโต้ทนายปู

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความทางเฟซบุ๊กกรณีตรวจสอบข้าวคงเหลือของรัฐ ว่า ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐตามคำสั่งของรัฐบาล เรียนให้ทราบถึงข่าวเสนอในสื่อบางแขนงโดยอ้างถึงคำพูดทนายความของอดีตนายกฯ ที่กล่าวในทำนองปนัดดาทุบตลาดข้าว ขณะที่ทางการไทยกำลังทำข้อตกลงขายข้าวให้กับต่างประเทศ ทั้งยังกล่าวถึงการจำแนกหรือการแบ่งเกรดข้าวในโกดังและไซโลต่างๆ เป็น เอ บี และซี นั้นทุกขั้นตอนดำเนินการไปตาม Laboratory Procedures ทั้งการตรวจทางสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) การตรวจทางกายภาพ หลักการปฏิบัติแห่งความสุจริตยุติธรรม ตรงไปตรงมา 

ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า การแบ่งเกรดต่างข้าว เพื่อให้ข้าวที่ไม่ผ่านมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์ ที่เป็นภาพรวมสามารถปรับปรุงคุณภาพและนำข้าวบางส่วนออกจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้ให้กับแผ่นดินและเกษตรกร เรียกว่าขายผลผลิตทางการเกษตร โดยยึดผลประโยชน์สูงสุดและคุณภาพ ตลอดจน ระบบเกียรติศักดิ์ทางการค้า ไม่คิดไปเอารัดเอาเปรียบลูกค้าหรือจำหน่ายสินค้าด้อยคุณภาพ จะทำให้ลูกค้าเข็ดขยาดและไม่กลับมาคบกับเราอีก ซึ่งทีมงานประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านและนักวิชาการจากหลายหน่วยเพื่อหวังผลการศึกษาวิจัยที่เป็นเลิศ และเพื่อให้ตลาดการพาณิชย์ของไทยได้รับประโยชน์สูงสุด มิเช่นนั้นข้าวเกรดที่ไม่ผ่านมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ จะกลายเป็นความสูญเปล่าและเสียประโยชน์ครั้งใหญ่ไปกว่าปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่

ลั่นทีมงานโปร่งใส-ไม่ยุ่งการเมือง

ม.ล.ปนัดดาระบุว่า ทีมงานทุกคนทำงานยึดหลักความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างใคร ตลาดการค้าต่างประเทศในทางกลับกันต่างหากที่กล่าวชมเชยถึงความจริงใจ ความตรงไปตรงมา ไม่หลอกลวงผู้ค้าขายร่วมกับหน่วยงานไทย ถือเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยมาช้านาน นั่นคือความจริงใจ ซึ่งเราทุกคนต้องช่วยกันฟื้นฟูศักดิ์ศรีและค่านิยมไทยแห่งความซื่อสัตย์สุจริตนี้เพื่อชื่อเสียงและเกียรติคุณของข้าวไทยให้กลับมามีชื่อเสียงไปทั่วโลกดั่งเดิมอีกครั้ง 

"ยรรยง"โต้ผลตรวจสต๊อกข้าวรัฐบาล

นายยรรยง พวงราช อดีตรมช.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเปิดเผยผลการตรวจสต๊อกข้าวของคณะอนุกรรมตรวจสอบคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ ที่มีม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นประธานว่า พบว่ามีพิรุธและมีความคลาดเคลื่อนบิดเบือน และยังมีข้อสังเกตที่ช่วงเวลาที่ออกมาแถลงข่าวเพื่อชี้นำสังคม รวมทั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ที่อยู่ระหว่างพิจารณาถอดถอน และอัยการสูงสุด (อสส.)จะพิจารณาสั่งฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่

นายยรรยงกล่าวว่า ผลสรุปการตรวจสอบว่ามีปริมาณข้าวสารผ่านมาตรฐาน 2 ล้านตัน ข้าวสารที่ไม่ตรงตามมาตรฐานกว่า 14 ล้านตัน เป็นการชี้นำว่าคณะอนุกรรมการชุดนี้ได้ตรวจสอบข้าวของรัฐบาลโดยละเอียดทุกกระสอบหรือทุกเม็ดจึงระบุถึงปริมาณอย่างชัดเจน ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะวิธีการตรวจสอบครั้งนี้เป็นเพียงการสุ่มตรวจ ซึ่งมีปริมาณข้าวที่ตรวจจริงไม่มากนัก เช่น ข้าวในแต่ละโกดังมีหลายกอง กองละ 2 หมื่นกระสอบก็จะตรวจสอบด้านลึก คือมีการผ่ากองเพียง 1 ใน 7 กองเท่านั้น นอกนั้นตรวจกระสอบข้าวที่อยู่รอบนอกกองเท่านั้น ผลการตรวจสอบครั้งนี้จึงอาจผิดพลาดคลาดเคลื่อนมาก เพราะข้าวในแต่ละกองอาจมาจากหลายโรงสีและหลายพื้นที่ ผลการสุ่มตรวจจึงไม่สะท้อนความเป็นจริง

ฉะชี้นำสังคมโยงปมถอดถอน"ปู"

นายยรรยงกล่าวว่า ผลการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการชุดนี้ ขัดแย้งกับผลการตรวจสอบของทีมตรวจสอบของกรมการค้าต่างประเทศและคณะอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างชัดเจน เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อนุมัติให้จัดทีมตรวจสอบคุณภาพข้าวและปริมาณข้าวเป็นพิเศษเพื่อตรวจเช็ก การตรวจสอบและรับมอบข้าวของผู้ตรวจสอบหรือเซอร์เวเยอร์เป็นประจำโดยสำนักมาตรฐานสินค้า กรมการค้าต่างประเทศ นอกจากนี้ยังจัดชุดปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวอยู่เป็นประจำ ซึ่งรายงานผลการตรวจสอบไม่เคยปรากฏว่ามีข้าวที่ต่ำกว่ามาตรฐานจำนวนมากผิดปกติเหมือนคณะอนุกรรมการชุดม.ล.ปนัดดา

นายยรรยงกล่าวว่า เป็นไปได้ว่าคณะอนุกรรมการชุดม.ล.ปนัดดา ระบุมีข้าว ต่ำกว่ามาตรฐานกว่า 14 ล้านตัน ก็เพื่อชี้นำสังคม รวมทั้งจะพิจารณาคดีถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในช่วงต้นปี 2558 โดยพยายามแสดงว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก 

แนะเจ้าของโกดังฟ้องกลับ

นายยรรยงกล่าวว่า ขอยืนยันว่าผลการตรวจสอบโดยคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว ไม่สามารถใช้ถอดถอนหรือเอาผิดกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะรัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายหรืองบประมาณ เพราะได้กำหนดตัวผู้รับผิดชอบในสัญญาเช่าโกดังและสัญญาฝากข้าวไว้กับโกดังอย่างชัดเจน โดยระบุในสัญญาว่าหากมีความเสียหายจากการสูญหายหรือเสื่อมคุณภาพ เจ้าของโกดังหรือเซอร์เวเยอร์จะรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด 

อดีตรมช.พาณิชย์กล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังจัดทีมตรวจสอบออกปฏิบัติการหลายทีม เช่น ทีมของกรมการค้าต่างประเทศ ทีมของอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการรับจำนำและทีมพิเศษของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรอง นายกฯ จึงสรุปได้ว่ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปล่อยปละละเลยจนเกิดความเสียหาย

นายยรรยงกล่าวว่า ทั้งนี้ เจ้าของโกดังและเซอร์เวเยอร์ทั่วประเทศที่ได้รับความเสียหายจากการสรุปผลตรวจสอบของคณะอนุกรรมการชุดม.ล.ปนัดดา ที่ระบุมีข้าวไม่ตรงตามมาตรฐานกว่า 14 ล้านตัน เท่ากับถูกกล่าวหาว่าทำผิดเงื่อนไขในสัญญาเช่าโกดังและสัญญารับฝากข้าว ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องผู้ที่เห็นว่าได้ตรวจสอบหรือรายงานผล อย่างไม่เป็นธรรมและทำลายชื่อเสียงในระยะยาวด้วย

บิ๊กจินส่งทีมถก"เจ๊เกียว"ลดค่าตั๋ว

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 ธ.ค. ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม พร้อมคณะ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาและมอบนโยบายการแก้ปัญหาจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 มีนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าฯ นครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วม

จากนั้นพล.อ.อ.ประจินให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ส่วนใหญ่ใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ ผ่าน จ.นครราชสีมา ทุกปีจะเกิดปัญหาการจราจรหนาแน่นและมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหาแนวทางแก้ปัญหา เบื้องต้นวางมาตรการไว้ 3 เรื่อง 1.ให้เสริมรถประจำทาง เพิ่มเที่ยวขบวนรถไฟ เพิ่มเที่ยวบินให้เพียงพอ 2.จัดชุดตำรวจร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง 3.จัดชุดปฏิบัติการส่วนกลางมาช่วยเสริมในท้องที่ที่บุคลากรไม่เพียงพอ มั่นใจว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย

ส่วนการเจรจาขอให้ผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางลดราคาค่าโดยสารลง หลังจากราคาน้ำมันลดลงอย่างมากนั้น พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า บ่ายวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ตัวแทนกระทรวงคมนาคมจะไปเจรจากับนางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสาร และเจ้าของสัมปทานรถโดยสารประจำทางรายใหญ่ของไทย ทั้งนี้ ตนได้รับคำชี้แจงเบื้องต้นว่าผู้ประกอบการพยายามพยุงราคาเดิมมาตั้งแต่เดือนเม.ย. 2555 ซึ่งขณะนั้นน้ำมันดีเซลลิตรละ 26.87 บาท ต่อมาดีดตัวสูงขึ้นเป็น 29.99 บาท ทางรัฐบาลขอร้องให้คงราคาเดิมไว้ก่อน แต่ขณะนี้น้ำมันดีเซลลดลงเหลือลิตรละ 26.81 บาท ดังนั้น อะไรที่พอช่วยเหลือได้ก็ต้องช่วยกันก่อน คาดว่าจะทราบผลการเจรจาและกระทรวงจะแถลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ธ.ค.นี้

จี้รัฐ-คสช.เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ

วันที่ 21 ธ.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,595 คน ระหว่างวันที่ 15-20 ธ.ค. กรณี "ผลงาน คสช.และรัฐบาล ที่โดนใจประชาชน" พบว่า ผลงานของ คสช. ร้อยละ 80.90 ระบุชื่นชอบการปราบการทุจริตคอร์รัปชั่น มาเฟีย ผู้มีอิทธิพล เพราะมีการดำเนินงานอย่างจริงจังเด็ดขาด ไม่เกรงกลัวอำนาจหรือผู้มีอิทธิพลมีข่าวต่อเนื่อง ร้อยละ 77.80 ระบุชื่นชอบการจัดกิจกรรมคืนความสุขให้ประชาชน เพราะทำให้เกิดความสุข สร้างความสามัคคี และร้อยละ 75.82 ระบุการช่วยเหลือชาวนา จ่ายเงินจำนำข้าว

ส่วนผลงานของรัฐบาลที่ชื่นชอบ ร้อยละ 78.56 ของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนโดยเฉพาะการลดราคาสินค้า เพราะได้รับประโยชน์โดยตรง ร้อยละ 76.94 ลดราคาน้ำมันเพราะช่วยลดภาระของประชาชน ร้อยละ 72.19 ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ เพราะเป็นข่าวดีในช่วงปีใหม่รายได้เพิ่มขึ้น เงินหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจ 

สำหรับงานที่อยากให้คสช.และรัฐบาลเร่งมือทำให้เป็นของขวัญปีใหม่ ร้อยละ 86.21 กระตุ้นเศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศเพราะอยากให้เศรษฐกิจฟื้น การค้าขายดี ประชาชนอยู่ดีกินดี ร้อยละ 82.53 ปราบปรามการทุจริตทุกรูปแบบ และร้อยละ 80.87 ปรับโครงสร้างราคาพลังงานเพราะมีความสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

กกต.ขู่ฟ้องค่าเสียหายล้มลต.

วันที่ 21 ธ.ค. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า สำนักงาน กกต.กำลังเร่งรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเพื่อเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่ทำให้การเลือกตั้งส.ส. เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2557 เป็นโมฆะ รวมกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนั้น กกต.พยายามส่งสัญญาณให้รัฐบาลขณะนั้นทราบว่าถ้าจัดเลือกตั้งต่อไปการเลือกตั้งต้องเป็นโมฆะ เนื่องจาก 28 เขตเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ไม่สามารถรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตได้ ดังนั้น การเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้นภายในวันเดียวกันได้ ส่งผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แต่รัฐบาลขณะนั้นไม่ฟังเรา 

นายสมชัยกล่าวว่า เมื่อผลเลือกตั้งออกมาเป็นโมฆะก็ต้องมีคนรับผิดชอบ เร็วๆ นี้ กกต.จะทวงค่าเสียหายกลับคืนแผ่นดินและประชาชน ซึ่งอีกไม่นานจะรู้เป็นใคร เมื่อถามว่าคนที่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายนั้นหมายถึงรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช่หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่ได้พูดถึงใคร ขอให้รอการแถลงข่าวของ กกต.ว่าใครคือฝ่ายที่ กกต.จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย

ปปช.ระดมสอบทุจริตฟุตซอล

วันที่ 21 ธ.ค. นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะอนุกรรมการไต่สวนสำนวนกรณีการจัดซื้อจัดจ้างสนามฟุตซอลในโรงเรียน 3 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ได้นัดประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนฯครั้งแรกในวันที่ 22 ธ.ค. เพื่อดูข้อมูลจากทุกภาคส่วน ทั้งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กระทรวงศึกษาธิการ ป.ป.ช.จังหวัด มาประกอบกับหลักฐานที่ได้จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) โดยจะระดมกรรมการให้เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง เพื่อหารือในหลักการและแบ่งงานกันทำ ตั้งทีมแสวงหาข้อเท็จจริง แบ่งเป็นพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และตอนล่าง แต่ยังไม่ถึงขั้นแจ้งข้อกล่าวหาเพราะต้องเรียกพยานมาสอบปากคำก่อน

นายปรีชากล่าวว่า ส่วนการตรวจสอบในจังหวัดภาคเหนือ ต้องรอหารือกับนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการป.ป.ช. ที่เป็นอนุกรรมการไต่สวนฯก่อนว่าต้องแยกเป็นอีกคณะอนุกรรมการหรือไม่ ซึ่งอยากให้แยกเพื่อความคล่องตัว ทำงานจะได้เร็วขึ้นเพราะภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปัญหาเยอะ

"เรื่องนี้น่าห่วง เพราะครูถือเป็นบุคลากรสำคัญ หากโดนวินัยอาญาอาจกระทบต่อการศึกษาได้ ทั้งนี้หากครูทำถูกต้องตามขั้นตอนก็ไม่น่ามีปัญหา ข้อสำคัญคือพบพิรุธอะไรให้พูดตรงๆ เหมือนมีเงินทอนหรือมีความไม่ถูกต้อง ส่วนเรื่องรู้เห็นก็ค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง" นายปรีชากล่าวและว่า ส่วนปัญหาที่หลายฝ่ายกังวลคือผู้ตรวจรับงาน ทางเราต้องตรวจสอบว่าการตรวจรับถูกต้องหรือไม่ ส่วนความผิดเรื่องฮั้วนั้น จะดูกระบวนการของการได้เงินมากับนำเงินไปใช้ มีอะไรบิดเบี้ยวหรือไม่ ยืนยันไม่ล่าช้า เราจะทำในส่วนของผู้กระทำผิดหลักก่อน 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!