WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8800 ข่าวสดรายวัน


สะพัด 3 บิ๊กรมต. เลิกควบ ทิ้งเก้าอี้กองทัพ 
สปช.ดิเรกฮึ่มเข้าชื่อค้านรธน. กสม.สากลลดเกรดกสม.ไทย


ปีใหม่"เติ้ง" - นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดบ้านพักถนนจรัญสนิทวงศ์ให้สมาชิกพรรคและคนใกล้ชิดเข้าขอพรปีใหม่ โดยเตือนว่าการยกร่างรธน.ฉบับใหม่อย่ามีอคติ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.

        ข่าวสะพัด 3 รมต. 'ฉัตรชัย-ไพบูลย์-สุรเชษฐ์' เลิกควบ จ่อทิ้งเก้าอี้บิ๊กทหาร ลุยงานรัฐมนตรี 'บิ๊กต๊อก'ไม่ตอบ บอกแค่ให้รอดูกันไป 'เติ้ง'ชม'บิ๊กตู่' ทำดีแล้ว ค้านเลือกตั้งสูตรเยอรมัน ชี้ส.ส.ไม่ต้องสังกัดพรรควุ่นแน่ สปช.ระดมสมองครั้งใหญ่ 19-21 ม.ค. กำหนดวิสัยทัศน์ประเทศไทย กมธ.ยกร่างฯ เล็งออกจุลสาร 'รธน.ฉบับปฏิรูป'ไอซีซี'ลดระดับกรรมการสิทธิฯ ของไทย จากเกรดเอ เป็นบี ชี้ ไม่เป็นกลาง ไม่ตอบสนองการละเมิดสิทธิช่วงชุมนุมปี 53 และการรัฐประหาร

'เติ้ง'ลั่นเอาพรรคชาติไทยคืน 
    วันที่ 31 ธ.ค. นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดบ้านศิลปอาชา ย่านจรัญสนิทวงศ์ ให้เข้าอวยพรปีใหม่ โดยมีบุคคลสำคัญ ในพรรคเดินทางเข้าร่วมอวยพร อาทิ นาย ธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคเข้ารวมอวยพรเป็นจำนวนมาก
     นายธีระ นำลูกพรรคเข้าอวยพร โดยกล่าวว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานายบรรหารได้ทำคุณประโยชน์ต่อบ้านเมืองอย่างมาก และกล่าวตลอดว่าชีวิตคือการทำงาน ที่บางครั้งสนุก ตื่นเต้น บางครั้งก็เหน็ดเหนื่อย ในปี 2558 ขอให้เป็นปีที่มีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต
     นายบรรหาร กล่าวกับสมาชิกพรรคว่า ในทางการเมืองเราจะมีความสุขและความทุกข์ สิ่งที่เราสามารถทำเพื่อบ้านเมืองได้ก็ถือเป็นความสุข เรื่องที่เราไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้นั่นคือความทุกข์ ขอบคุณลูกพรรคทุกคนด้วยที่เข้ามาอวรพรปีใหม่ นายธีระเป็นคนเก่ง และเมื่อได้รับเชิญให้เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคก็แสดงความสามารถออกมาให้เห็นได้ชัด ในโอกาสนี้จึงขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้คุ้มครองนายธีระและกรรมการบริหารพรรครวมถึงสมาชิกพรรคทุกคน เพื่อพัฒนาพรรคไปสู่ความก้าวหน้า ในอนาคตหวังเป็นอย่างยิ่งว่าต่อไปคงต้องเอาพรรคชาติไทยกลับมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเตรียมตัวในการเลือกตั้ง

ชม'บิ๊กตู่'ทำดีอยู่แล้ว 
     นายบรรหาร ให้สัมภาษณ์ว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่คนไทยลำบากใจกันพอสมควร มีกลุ่มคนหลากสีมากมาย แต่เรื่องก็สามารถสงบเรียบร้อยไปด้วยดี ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ดลบันดาลให้เกิดความเรียบร้อย ประเทศสงบ หวังว่าปี 2558 ทุกอย่างจะดีขึ้นโดยเฉพาะเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหน้าที่รัฐบาลต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ขอให้ทุกคนมีความรักความสามัคคี มีเงินทองมาจับจ่ายใช้สอย ทำให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง
    เมื่อถามว่า ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีมีข้อแนะนำใดถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่าคงไม่ต้องแนะนำอะไร พล.อ.ประยุทธ์เก่งกว่าตนหลายสิบเท่า ทราบดีหมดทุกอย่างตามที่นายกฯให้สัมภาษณ์ ครบถ้วน นายกฯทำดีอยู่แล้ว 

ร่างรธน.อย่ามีอคติ
     เมื่อถามว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังจะออกมาถือเป็นความหวังของชาติ ต้องการให้มีหน้าตาอย่างไร นายบรรหารกล่าวว่า เท่าที่ติดตามข่าวก็เห็นว่าเป็นการถกเถียง ยังไม่ทราบว่าจะออกมาเป็นอย่างไร แต่เอาเป็นว่าไม่ว่าจะออกมาอย่างไรก็เอา เพียงขอให้ยุติด้วยดีและขออย่างเดียวว่ารัฐธรรมนูญที่จะออกมานั้น อย่าให้เป็นรัฐธรรมนูญที่มีอคติต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ตรงนี้สำคัญมาก เพราะไม่เช่นนั้นการปรองดองคงจะไม่เกิดขึ้นในประเทศอย่างเด็ดขาด จะต้องละกันบ้าง ให้อภัยกันบ้าง หากทำได้ประเทศก็หมดปัญหา เท่าที่เห็นในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต่างก็ถกเถียงกันไปไม่รู้จะเอาอย่างไรกัน มีข้อสังเกตข้อเดียวว่าหากผู้สมัครไม่สังกัดพรรคการเมืองจะมีปัญหาในอนาคตแน่ ขอทายเอาไว้เลย เพราะเมื่อปี 2524-2525 เคยมีปัญหามาแล้ว วุ่นวายมาก 
     เมื่อถามถึงประเด็นนายกฯคนนอก นายบรรหารกล่าวว่าเรื่องนี้ตนไม่มีความเห็น เมื่อถามว่าแต่ประเด็นนี้อาจทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นอีก นายบรรหารกล่าวว่าเป็นเรื่องอนาคตคงตอบไม่ได้ ตนคิดว่าจะเอาอย่างไรก็ได้ จะให้มาจากส.ส.ก็ได้ หรือไม่มาก็ได้ ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ตนรับได้ทุกเรื่อง 

ค้านตัดสิทธิ์นักการเมืองซ้ำ 
   เมื่อถามถึงกรณีกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ เตรียมเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นในจ.สุพรรณบุรีเป็นแห่งแรก นายบรรหารกล่าวว่าทำไมถึงเลือกจ.สุพรรณบุรีเป็นแห่งแรก จะไปอำเภออะไร ไปวันที่เท่าไร หากตรงกับที่ตนว่างก็จะไปนั่งฟังด้วย อย่างไรก็ตามการลงไปรับฟังความคิดเห็นจากคนในพื้นที่ต่างๆ ถือเป็นเรื่องดี 
    เมื่อถามถึงกรณีอาจมีการตัดสิทธินักการเมืองซ้ำในคดีทุจริต ที่จะนำมาระบุในรัฐธรรมนูญด้วยนั้น นายบรรหารกล่าวว่า ในจุดนี้เรื่องที่ผ่านแล้วก็ควรจะผ่านไป อย่าหยิบยกขึ้นมาบัญญัติลงโทษในอดีตคงไม่ถูกต้อง แต่อนาคตจะทำก็โอเค อดีตที่เขาทำและถูกลงโทษไปแล้ว ผ่านไปแล้ว ก็ไม่ควรหยิบยกมาลงโทษอีก ขอพูดแค่นี้ 
    เมื่อถามว่า ขณะนี้มีเสียงวิจารณ์ว่าต้องการให้มีการล่ามโซ่นักการเมือง นายบรรหารกล่าวว่าก็แล้วแต่ ถ้าต้องการอยากให้เกิดการซื้อเสียงเยอะ ก็เอา จะติดคุกติดตะรางก็เอา เมื่อถามว่าคิดว่าจะแก้ปัญหาการซื้อเสียงได้หรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่าคงตอบตอนนี้ไม่ได้ ต้องให้มีการเลือกตั้งก่อนถึงจะรู้ เรื่องโทษของการซื้อสิทธิขายเสีย ยังไม่ทราบว่าจะบัญญัติอย่างไร คงต้องรอดูกรอบของกมธ.ก่อน ยังไม่สามารถให้ความเห็นใดๆ ได้ 

เลือกตั้งสูตรเยอรมันไม่ดีเท่าไร
    "ทำไมชอบใจเยอรมันกันนัก ทำไมไม่ทำให้เป็นแบบประเทศไทย เอาที่แล้วๆ มามาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น ทำไมต้องเอาเยอรมัน เพราะไม่เห็นจะดีเท่าไร ก็มีปัญหาอยู่ในเวลานี้" นายบรรหารกล่าว เมื่อถามว่าถ้าจะให้เป็นรูปแบบแกงส้มไส้กรอกเยอรมันคิดว่าไม่ดีหรือ นายบรรหารกล่าวว่าเอาแกงส้มไส้กรอกไทยดีกว่าหรือไม่ 
    นายบรรหาร ยังระบุว่าเคยบริหารงานมา การเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ง่าย อยู่บนหอคอยงาช้างข้างบนสูงมาก ในการทำงานข้างล่างบางทีไม่ค่อยรู้ ผิดถูกยังไม่รู้เท่าไร ตรงนี้สำคัญและสำคัญว่าลงไปดูในรายละเอียดหรือไม่ ในสมัยผมอยู่ข้างบนเสร็จผมก็ลงมาดูข้างล่าง ก็มาหาว่าล้วงลูก ถ้าไม่ลงมาตามข้างล่างแล้วงานจะเดินได้อย่างไร ถูกต้องอย่างไร ปัญหาอุปสรรคจะแก้อย่างไร เพราะปัญหาอุปสรรคมีเยอะ สมัยที่ผมเป็นนายกฯ สะบักสะบอม ทุลักทุเล แต่ตอนนี้งานดีเพราะมีคสช.สั่งได้โดยตรงและเด็ดขาดด้วย นายกฯเขาก็ลงมาดูอยู่แล้ว 

สปช.นัดประชุม 5-6 ม.ค. 
    วันเดียวกัน นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มีคำสั่งนัดประชุม สปช. ครั้งที่ 1/2558 วันที่ 5 ม.ค. และครั้งที่ 2/2558 วันที่ 6 ม.ค. เวลา 09.30 น. มีวาระการประชุมพิจารณาเรื่องที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้วคือ รายงานพิจารณาศึกษาเรื่องอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามระยะเวลาการใช้งานที่เป็นจริงโดยคิดเป็นวินาที และรายงานพิจารณาศึกษาเรื่องสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติกับการปฏิรูปคุณธรรม จริยธรรมและธรรมาภิบาลของประเทศไทย ในระยะเปลี่ยนผ่านของกมธ.ปฏิรูปคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล ส่วนวันที่ 6 ม.ค.มีวาระการพิจารณารายงานศึกษาเรื่องโครงการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟ (ระบบผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์สำหรับบ้านและอาคาร) และการพิจารณารายงานศึกษา เรื่องการกำหนดให้องค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคที่เป็นอิสระจากหน่วยงานของรัฐ ซึ่งกมธ.ปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณาเสร็จแล้ว
     นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปสื่อว่า จะไม่ใช่การปฏิรูปในเรื่องจรรยาบรรณ หรือวิธีการทำงานของสื่อ แต่ในฐานะตนเองเป็นนักเศรษฐ ศาสตร์เป็นห่วงเรื่องการผูกขาดสื่อและการครอบงำสื่อผ่านทุนค่อนข้างมาก เพราะจะเกิดกระบวนการซื้อขายธุรกิจสื่อได้ โดยปัจจุบันธุรกิจสื่อได้พัฒนามาสู่การเป็นธุรกิจมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ ตรงนี้เองที่น่าเป็นห่วง เพราะในที่สุดแล้วเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นจะถูกบดไปได้ด้วยกระบวนการของธุรกิจผูกขาด เรื่องการผูกขาดมันกระทบสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน และไม่ใช่เพียงธุรกิจสื่อเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าธุรกิจใดที่เกิดการผูกขาดขึ้นย่อมกระทบต่อเสรีภาพ และจะทำให้กระบวนการทางเศรษฐกิจของประเทศถูกกระทบทันที สปช.พยายามคิดและหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาด

เชื่อสปช.จะผ่านร่างรธน. 
     นายเทียนฉาย กล่าวถึงภาพรวมการทำงานของ สปช.ในปี 2557 ว่า สปช.ทำงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่ยังไม่ได้ลงลึกในเรื่องของการปฏิรูป เพราะต้องหาวิธีตั้งหลักการทำงานอยู่สักพัก รวมถึงมุ่งเน้นการทำข้อเสนอแนะการปฏิรูปด้านต่างๆ เพื่อส่งให้กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ประเด็นการปฏิรูปจะเริ่มต้นช่วงปีหน้าเป็นต้นไปตลอดทั้งปี ขณะนี้ สปช.กำลังประเมินว่ามีโครงสร้างใดบ้างที่จะต้องปฏิรูปและยกเครื่องใหญ่ แต่ระหว่างนี้จะมีประเด็นปฏิรูปย่อย หรือปฏิรูปโดยรวดเร็วทยอยออกมาก่อน สาระสำคัญของการปฏิรูปประเทศต้องเป็นที่ยอมรับของประชาชนและเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่
     เมื่อถามว่า ปีหน้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะผ่านความเห็นชอบจาก สปช.หรือไม่ นายเทียนฉายกล่าวว่า น่าจะเป็นเช่นนั้น โดยหลังจากที่กมธ.ยกร่างพิจารณาเสร็จแล้วจะส่งให้สปช.พิจารณา สปช.จะสะท้อนความเห็นที่ค่อนข้างลึก เพราะจะเห็นร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับและเห็นรายมาตรา ช่วงดังกล่าวจึงถือเป็นช่วงเวลาสำคัญ ในปีหน้าการทำหน้าที่วางระบบปฏิรูปของสปช.ต้องจบ แต่การปฏิรูปที่แท้จริงยังมีหลายขั้นตอน ซึ่งอาจยาวนานเป็น 10 ปีที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง

เตรียมระดมสมองครั้งใหญ่ 
     เมื่อถามว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องลงประชามติหรือไม่ นายเทียนฉาย กล่าวว่า วันนี้เร็วเกินไปที่จะให้ความเห็นเพราะยังเป็นวุ้นอยู่ แต่มีปัจจัย 2-3 เรื่องที่ต้องพิจารณา เช่น ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ หากเป็นที่พอใจในภาพรวมไม่มีข้อติติงมากก็อาจไม่ต้องทำประชามติ แต่ถ้ามีตัวแปรอื่นๆ มาเกี่ยวข้องก็อาจต้องทำ การทำประชามติมีจุดอ่อนคือจะทอดเวลาการเลือกตั้งออกไป หรือถ้าทำแล้วไม่ผ่านก็ยิ่งยุ่งไปกันใหญ่ ดังนั้น เรื่องการทำประชามติต้องใช้เวลาการพิจารณาให้รอบคอบ สปช.ไม่มีหน้าที่ตัดสินใจ เป็นเรื่องของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล หากต้องการให้ทำก็ส่งเรื่องให้ สนช.พิจารณาออกกฎหมายประชามติ
    นายเทียนฉาย กล่าวถึงการตั้งสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติที่สปช.กำลังดำเนินการว่า เป็นองค์กรเพื่อกำหนดมาตรฐานคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลของบุคคลสาธารณะ หน่วยงานสาธารณะ และธุรกิจเอกชนที่ทำธุรกรรมกับหน่วยงานสาธารณะ ต้องเปิดเผยข้อมูลด้วยความโปร่งใส รวมถึงเก็บรวบรวมข้อมูลและทำข้อมูลให้เป็นข้อมูลสาธารณะ เช่น ข้อมูลของบุคคลที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ประสานหน่วยงานรัฐและเอกชนที่ทำหน้าที่เรื่องคุณธรรมจริยธรรม ตรวจสอบมาตรฐานคุณธรรมจริยธรรมก่อนเลือกตั้ง ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญที่สุดเพื่อให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณก่อนตัดสินใจ ถ้ากมธ.ยกร่างเห็นพ้องเรื่องนี้ก็คงคิดว่าน่าจะมีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
      นายเทียนฉาย กล่าวว่า วันที่ 19-21 ม.ค.จะมีการประชุม สปช.เพื่อระดมสมองครั้งใหญ่สำหรับการวางวิสัยทัศน์ของประเทศไทย คิดว่าจะมีการนำความเห็นจากหลายแหล่งมาประมวลกำหนดเป็นวิสัยทัศน์ของประเทศ ไทย โดยการกำหนดยุทธศาสตร์ที่ควรจะเป็นของประเทศไทย เมื่อถามว่าควรมีการปฏิรูปกองทัพด้วยหรือไม่และคิดว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ นายเทียนฉาย กล่าวว่า เป็นไปได้ ยังไม่คิดเลย แต่ก็น่าสนใจ ขอบคุณที่แนะนำ

ดิเรก ชูเลือกตรงนายกฯ-สส.-สว.
    นายดิเรก ถึงฝั่ง สมาชิกสปช.นนทบุรี กล่าวถึงข้อเสนอกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาของนายกฯ ส.ส. และส.ว. ว่า ตนไม่เห็นด้วยทุกกรณี ความพยายามดังกล่าวเพียงแค่ต้องการทำให้ระบบการเมืองไทยหลุดพ้นจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียง โดยไม่สนใจต่อหลักการของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ปกครองตามหลักการของประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน เป็นการฝืนหลักการปกครองและอาจนำมาซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกในอนาคต ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกรณีที่มาของส.ว. โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไปเพิ่มอำนาจส.ว.ให้ถอดถอนนายกฯ ครม.ได้ มากไปกว่านั้นยังเป็นส.ว.ที่มาจากการสรรหาทั้งหมด ในความคิดเห็นของตนต้องเลือกตั้งทั้งหมด
    "ทางออกจากปัญหาดังกล่าวคือ ไม่ว่าจะเลือกตั้งนายกฯ ส.ส. และส.ว.ต้องเป็นการเลือกตั้งทั้งหมด ไม่มีสรรหา หรือแต่งตั้งใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าหวั่นวิตกว่าจะมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงก็ต้องให้ความรู้ความเข้าใจประชาชน ไม่ใช่มาบิดพลิ้วหลักการเช่นนี้ และร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องกำหนดอำนาจ 3 ฝ่ายให้ชัดเจน นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ต้องไม่เข้ามาก้าวก่ายกัน"นายดิเรกกล่าว

ล่าชื่อค้านร่างกมธ.
      เมื่อถามว่า ข้อเสนอของ กมธ.ยกร่างถูกส่งให้สปช. จะคัดค้านอย่างไร นายดิเรกกล่าวว่า ตนจะยืนกรานแสดงความคิดเห็นคัดค้านแนวคิดดังกล่าวอย่างเต็มที่ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพราะสามารถยื่นญัตติทักทวงในหลักการได้ แม้จะยากเพราะต้องหาสมาชิกสปช. ร่วมลงชื่อรับรองหลักการกว่า 30-40 คนก็ตาม 

คลอดจุลสารรธน.ฉบับปฏิรูป
      นายมานิจ สุขสมจิต กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ในฐานะประธานคณะทำงานสื่อสารกับสังคม กล่าวว่า กมธ.ยกร่างได้หารือและตั้งคณะทำงานนี้ขึ้นเพื่อช่วยสื่อสารกับสังคมไทยอีกทาง นอกเหนือจากที่มีโฆษก กมธ.ยกร่างทำหน้าที่เผยแพร่ข่าวสารต่อสังคมแล้ว คณะทำงานจะจัดทำสื่อสิ่งพิมพ์ในชื่อว่า "รัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปประเทศเป็นอย่างไร" เพื่อทำความเข้าใจกับสังคมในวงกว้าง นอกเหนือจากสื่อสารมวลชน โดยจะจัดทำในรูปแบบจุลสารที่จะออกประจำทุกเดือน จนกว่าจะยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วเสร็จนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อชี้แจงขั้นตอนการยกร่างรัฐธรรมนูญ มติและกรอบแนวคิดของคณะกมธ.ยกร่างทั้งหมด รวมถึงความคืบหน้าของรัฐธรรมนูญในข้อสงสัยต่างๆ ของสังคม ที่เขียนโดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ และนายปกรณ์ ปรียากร กมธ.ยกร่างฯ 
      นายมานิจ กล่าวว่า จุลสารดังกล่าวฉบับแรกจะพิมพ์นำร่อง 3 หมื่นฉบับ แจกครั้งแรกวันที่ 12 ม.ค. ที่จะเปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังการพิจารณายกร่างรัฐธรรมนูญได้ที่ห้องประชุมงบประมาณชั้น 3 อาคาร 3 รัฐสภา และจะแจกจ่ายตามชุมชน เวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนที่สปช.จัด และที่ปั๊มน้ำมันบางจากทั่วประเทศ ทั้งนี้ นอกจาก บ.บางจากอาสาจัดพิมพ์จุลสารนี้แล้ว บ.ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ยังรับอาสาที่จะจัดทำแอนิเมชั่นเผยแพร่ในสื่อออนไลน์และสื่อสาธารณะต่างๆ ด้วย

หึ่ง 3 รมต.ทิ้งเก้าอี้บิ๊กเหล่าทัพ
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายทหารระดับสูงของ ทบ.ที่เข้าไปมีบทบาทการบริหารประเทศในตำแหน่งรัฐมนตรีพร้อมกันหลายตำแหน่ง ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้การบริหารงานของกองทัพเกิดปัญหาในบางเรื่อง ขาดการเอาใจใส่งานประจำ เพราะนายทหารแต่ละนายต้องไปทำงานที่รับผิดชอบในตำแหน่งรัฐมนตรีที่ค่อนข้างหนัก ทำให้งานในตำแหน่งหลักของกองทัพชะงักจนกระทั่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในกองทัพอย่างกว้างขวาง 
    ขณะที่ในระดับรัฐบาลเองมีการพูดคุยในเบื้องต้นขอร้องให้นายทหารระดับสูงลาออกก่อนเกษียณ 3 นายคือ พล.อ.ฉัตรชัย สาริ กัลยะ รองผบ.ทบ.ที่ไปเป็นรมว.พาณิชย์ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รองผบ.ทหารสูงสุด ที่ไปเป็นรมว.ยุติธรรม และพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสธ.ประจำผู้บังคับบัญชา ที่ไปเป็นรมช.ศึกษาธิการ

บิ๊กนมชงปัด-บิ๊กต๊อกหัวเราะ
     โดยมีรายงานว่า นายทหารทั้ง 3 นายจะตัดสินใจลาออกก่อนเกษียณราชการในปี 2558 เพื่อไม่ให้มีปัญหาในการบริหารงานกองทัพ เนื่องจากจะเกษียณอายุราชการอยู่แล้ว ดังนั้น การโยกย้ายนายทหารกลางปี 2558 หรือเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้จึงมีความเป็นไปได้ที่ทั้ง 3 นายจะลาออกก่อนกำหนด เพื่อเอาเวลาทั้งหมดไปบริหารงานสนองนโยบายรัฐบาล 
      ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พล.อ.ไพบูลย์ หัวเราะกล่าวว่า "ผมไม่ตอบ รอดูกันไป" 
      ด้านพล.อ.ฉัตรชัย ปฏิเสธว่า "ผมไม่รู้เรื่อง เอาข่าวมาจากไหน ไม่เคยพูด เพิ่งทราบจากผู้สื่อข่าว ไม่รู้ใครปล่อยข่าว" 

โผคนเสียบแทนสะพัด 
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลาออกของนายทหารทั้ง 3 นายทำให้ ทบ.โดย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. ต้องพิจารณาขยับนายทหารที่มีอาวุโสขึ้นมารับตำแหน่งแทนพล.อ.ฉัตรชัย ในตำแหน่ง รองผบ.ทบ. ที่ว่างลงหนึ่งตำแหน่ง ซึ่งมีนายทหาร บก.ที่เหมาะสมอยู่ 2 นายคือ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา และพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วยผบ.ทบ. โดยพล.อ.ปรีชา เติบโตตามเส้นทางรับราชการมาจากกองทัพภาคที่ 3 กระทั่งได้เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 และยังเป็นน้องชาย พล.อ. ประยุทธ์ ด้านพล.อ.ธีรชัย เป็นนายทหารบูรพาพยัคฆ์ เติบโตมาจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) เป็นคนสนิทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ทั้ง 2 คนเหมาะสมจะขยับขึ้นเป็น รองผบ.ทบ.ได้ทั้งคู่ แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.
    นอกจากนี้ อาจขยับ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เป็น ผู้ช่วยผบ.ทบ.แทนตำแหน่งที่ว่างลง เพื่อเปิดทางให้ พล.ท.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ แม่ทัพน้อยที่ 1 นายทหารบูรพาพยัคฆ์อีกคน ขยับขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 แทนในคราวเดียวกัน
    ส่วนตำแหน่งรองผบ.ทหารสูงสุด หากพล.อ.ไพบูลย์ ลาออกจริง มีการวางตัวนายทหารบูรพาพยัคฆ์เอาไว้ล่วงหน้าคือ พล.อ. วลิต โรจนภักดี รองเสธ.ทหาร ซึ่งได้รับการผลักดันจากพล.อ.ประวิตร ขยับขึ้นเป็น รองผบ.ทหารสูงสุด รอจ่อเก้าอี้ ผบ.ทหารสูงสุดในปลายปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้ พล.อ. วรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.ทหารสูงสุด วางตัวพล.อ.สมหมาย เกาฎีระ เสธ.ทหาร ไว้ แต่ก็ขึ้นอยู่ที่การพิจารณาความเหมาะสมของคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล ซึ่งมีนายกฯ เป็นประธาน

กก.สิทธิฯ สากลลดระดับกสม.ไทย 
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. เว็บไซต์คณะกรรมการประสานงานระหว่างประเทศว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือไอซีซี เปิดเผยรายงานการพิจารณารับรองคุณภาพ ลงวันที่ 30 ธ.ค. ของสมาชิกสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติประจำปี 2557 ซึ่งมีทั้งหมด 109 ประเทศ แบ่งเป็นเกรดเอ บี และซี ผลปรากฏว่าสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของประเทศไทยถูกไอซีซีมีมติ "แนะนำ" ให้ลดระดับจากเกรดเอลงมาที่เกรดบี โดยให้เวลา 1 ปีปรับปรุงการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับ "หลักการปารีส" ซึ่งถือเป็นเกณฑ์ที่ไอซีซีใช้รับรองคุณภาพของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของแต่ละประเทศ เกรดเอ หมายถึง สถาบันสิทธิมนุษยชนฯ ประเทศนั้นๆ ปฏิบัติตามหลักการปารีส เกรดบีปฏิบัติตามบางส่วน เกรดซีไม่ปฏิบัติตาม
     เหตุผลของการลดระดับมี 5 ข้อ 1.กระบวนการคัดเลือกและแต่งตั้ง กสม. ไม่มีประกาศประชาสัมพันธ์การรับสมัคร กรรมการคัดเลือกมาจากองค์กรสาธารณะจำนวนน้อย ไม่ชัดเจนถึงความเป็นผู้แทนฯ ขอให้กสม.ไทยรณรงค์ให้เกิดการเปลี่ยน แปลงรูปแบบการสรรหา กสม. 2.เอกสิทธิ์และความเป็นอิสระ ควรมีพ.ร.บ.คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ควรมีบทบัญญัติที่ชัดเจนถึงการคุ้มครองทางกฎหมายต่อเจ้าหน้าที่กสม.ที่ปฏิบัติงานอย่างสุจริต 

ทำงานล่าช้า-ไม่เป็นกลาง 
     3.การตอบสนองต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชนให้ทันท่วงที ห่วงกังวลที่ กสม.ไม่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ทันท่วงที ทั้งเหตุการณ์ประท้วงทางการเมืองและการปราบปรามประชาชนในปี "53 ส่งผลทำให้มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก แม้ว่าจะมีความรุนแรงของการละเมิดเกิดขึ้น แต่ กสม.ใช้เวลากว่า 3 ปีในการจัดทำรายงานและเผยแพร่รายงานการละเมิดสิทธิที่เกิดขึ้นในปี"53 ส่วนการรัฐประหารและการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน กสม.ควรจัดให้ตรวจสอบเฝ้าระวังอย่างเป็นอิสระ และส่งเสริมคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตยและสร้างความเข้มแข็งในระบบนิติรัฐนิติธรรมโดยไม่ละเว้น รวมทั้งตรวจสอบ จดบันทึกการแถลงการณ์สาธารณะ และรายงานสถานการณ์สิทธิต่อกรณีการละเมิดอย่างสม่ำเสมอผ่านสื่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง 
     4.ความเป็นอิสระและความเป็นกลาง เจ้าหน้าที่ กสม.แสดงออกต่อสาธารณะถึงการฝักใฝ่ทางการเมือง ขณะที่ทำหน้าที่ในกสม. จนเหยื่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอาจยากลำบากในการเข้ามาร้องเรียนต่อกสม. 5.กระบวนการทางกฎหมายในการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ การยกร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังเกิดเป็นโอกาสที่ กสม.จะรณรงค์แก้ไขให้มีพ.ร.บ.คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีความสมบูรณ์ตามหลักการปารีส 
      รายงานข้างต้นแบ่งคุณภาพของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของแต่ละประเทศ เกรดเอ 73 ประเทศ เกรดบี 26 ประเทศ และเกรดซี 10 ประเทศ ในส่วนของไทยสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติล่าสุดยังมีสถานะอยู่ที่เกรดเอ ถูกประเมินเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมาให้ลดระดับจากเกรดเอลงมาเป็นเกรดบี โดยให้เวลา 1 ปีเพื่อปฏิบัติตามหลักการปารีส
      โดยประเทศที่อยู่ในกลุ่มเกรดบี ได้แก่ ฮอนดูรัส บังกลาเทศ ศรีลังกา มัลดีฟส์ โอมาน คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน แอลจีเรีย ชาด คองโก ลิเบีย มาลี เซเนกัล ตูนิเซีย เอธิโอเปีย ออสเตรีย เบลเยียม บัลแกเรีย มาซิโดเนีย มอลโดวา นอร์เวย์ สโลวะเกีย สโลวีเนีย และสวีเดน

สวนยางใต้ขีดเส้น 4 ม.ค.ชุมนุม
    นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางและสวนปาล์ม 16 จังหวัดภาคใต้ แกนนำการชุมนุมประท้วงเรียกร้องราคายางที่แยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ช่วงกลางปี 2556 กล่าวว่า ภายในวันที่ 4 ม.ค.นี้ หากรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหายางพาราตกต่ำและตอบคำถามข้อข้องใจต่างๆ ที่กลุ่มเกษตรกรสวนยางพาราได้ถามไปก่อนหน้านี้ ทั้งสต๊อกยาง 2.1 แสนตัน รวมทั้งยางกว่า 1,000 ตันที่ทะลักเข้ามาในตลาดกลางยางพาราช่วงนี้ต้องมีการรวมตัวกันเรียกร้อง ต่อสู้อย่างที่ผ่านมา
     นายทศพล กล่าวว่า กรณีรัฐบาลตั้งราคายางพาราไว้ที่กิโลกรัมละ 60 บาทว่า เป็นการกดราคาที่ไม่ช่วยให้ราคายางสูงขึ้นเลย นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ยังดื้อ ฟังแต่พวกรอบข้างที่คอยบงการ ฟังข้าราชการที่ขึ้นไปเป็นมือขวา หากนายอำนวยไม่พิจารณาตัวเองหลังปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.เป็นต้นไป เราจะไม่ให้โอกาสนายอำนวยอีกต่อไป เพราะนายอำนวยเป็นนายทุนย่อมเข้าใจนายทุนมากกว่าที่จะเข้าใจชาวสวนยาง ชาวสวนยางตอนนี้ประกาศขายบ้าน ขายสวน ขายรถ รถถูกตามยึด ลูกไม่มีเงินจะไปโรงเรียน ใครช่วยพวกเราได้บ้าง ถึงเวลาที่เกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้จะออกมาต่อสู้อีกครั้ง 

จี้'อำนวย'พิจารณาตัวเอง 
     "นายอำนวยต้องพิจารณาตัวเองก่อนที่พวกเราจะขับไล่ คนถึงตาจนแล้วรู้ใช่หรือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อคิดจะฆ่าชาวสวนยางภาคใต้ให้ตายก็ถึงเวลาเฮือกสุดท้ายที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้อีกครั้ง ต้องสู้จนชนะเพราะเรากำลังจะอดตาย อีกไม่กี่วันเจอกันแน่"นายทศพลกล่าว 
    นายสาย อิ่นคำ กรรมการสมาคมยางพารา สถาบันเกษตรกรยางพาราไทย เผยว่า สถานการณ์ราคายางพาราในภาคเหนือขณะนี้ยังตกต่ำต่อเนื่อง โดยเฉพาะยางก้อนถ้วย หรือขี้ยาง ราคาล่าสุดวันที่ 30 ธ.ค.อยู่ที่กิโลฯ ละ 16 บาทเท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลไม่มีมาตรการรับซื้อยางก้อนถ้วยเพื่อกระตุ้นราคาช่วยเหลือเกษตรกร จึงเป็นเหตุให้กลุ่มพ่อค้าคนกลางเอาเปรียบเกษตรกรกดราคาอย่างต่อเนื่อง หากเกษตรกรไม่ขายก็ไม่มีเงินมาใช้จ่าย หรือแม้แต่จะฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่วนราคายางพาราแผ่นดิบที่รัฐบาลแจ้งว่าสามารถทำได้ถึงกิโลฯ ละ 60 บาทแล้วนั้นเป็นเพียงการประกาศราคาที่ตลาดกลางในจังหวัดภาคใต้ แต่ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือไม่มีตลาดกลางยางพาราเหมือนภาคใต้ การซื้อขายในตลาดท้องถิ่นซบเซามาก จ.พะเยาไม่มีการซื้อขายยางพาราแผ่นดิบแต่อย่างใด เพราะราคาตกต่ำถึงกิโลฯ ละ 43 บาทเท่านั้น แนวทางเดียวที่จะแก้ปัญหายางพาราราคาตกต่ำได้ในขณะนี้คือการส่งออกยางพาราอัดแท่งหรือ STR 20 ไปยังประเทศจีน 

'ปู'ร่วมงานวันเกิดลูกเจ๊แดง
      ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.เชียงใหม่ว่า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมน้องไปป์ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย ไปร่วมงานวันเกิดน.ส. ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาวของนายสมชายและนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่หมู่บ้านกรีน วัลเล่ย์ อ.แม่ริม โดยมีอดีตนักการเมืองและข้าราชการท้องถิ่น รวมทั้งอดีตส.ส.เพื่อไทยในพื้นที่มาร่วมงาน และรับพรปีใหม่จากนายสมชายด้วย 
     ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ส่งการ์ดสวัสดีปีใหม่ให้กับคนรู้จักและคนสนิทผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ โดยเป็นภาพพ.ต.ท.ทักษิณยืนยิ้มด้วยสีหน้าแจ่มใส จากที่แห่งหนึ่งในประเทศจีน พร้อมข้อความ "Happy New Year 2015" พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ฝากอะไรถึงคนไทย เพราะไม่ต้องการให้เป็นประเด็นทางการเมือง มีเพียงการส่งความปรารถนาดีให้กับหมู่คนรู้จักเท่านั้น 
     พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ระหว่างพักผ่อนที่กรุงปักกิ่ง เพื่อเคานต์ดาวน์และฉลองเทศกาลปีใหม่ร่วมกับนายพานทองแท้ บุตรชาย และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว โดยไม่ได้เปิดให้ใครเข้าพบ เพราะต้องการพักผ่อนเงียบๆ กับครอบครัว 

พท.จี้เลิก'อัยการศึก'รับปีใหม่
      นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่อยากให้รัฐบาลดูแลปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน เพราะปี 58 เศรษฐกิจจะผันผวน การส่งออก การลงทุนเป็นเรื่องยากและท้าทาย ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาให้คนยากจนให้มากที่สุด ไม่อยากให้เสียเวลาหรือหวั่นวิตกกับประเด็นการเมืองมากเกินไป และอยากให้รัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึก เพราะจะช่วยให้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้มากขึ้น นักท่องเที่ยวจะมาไทยมากขึ้น เม็ดเงินอัดฉีดเข้าสู่ระบบได้เร็วขึ้น
      นายนพดล กล่าวว่า เชื่อว่าทุกฝ่ายคงเห็นด้วยกับการปฏิรูปประเทศ ทั้งระยะสั้น ระยะยาวประสบความสำเร็จ ขอให้สปช.ระลึกเสมอว่าไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน สามารถชดเชยจุดอ่อนได้ด้วยการรับฟังความเห็นจากฝ่ายที่มีความเห็นต่างให้มากที่สุด ขอให้เขียนรัฐธรรมนูญวางกติกาบ้านเมืองบนพื้นฐานของประชาธิป ไตย ความเท่าเทียม คำนึงถึงศักดิ์ศรีของฝ่ายต่างๆ ไม่อยากให้เขียนจากความหวาดกลัว หวาดระแวง แต่ควรเขียนกติกาของบ้านเมืองให้เป็นสากล ความสำเร็จจะเกิดได้ต้องอาศัย 3 ส่วนคือ 1.หลักการประชาธิปไตย 2.ความยุติธรรม 3.การให้โอกาสกับทุกคนในสังคมอย่างเท่าเทียม หวังว่าสปช. จะใช้โอกาสนี้สร้างประวัติ ศาสตร์และสิ่งที่ดีให้กับประเทศไทย
      นายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าขณะนี้เข้าสู่ปีใหม่ 2558 แล้วถือเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ สิ่งดีๆ ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ต้องเร่งเดินหน้าเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน คือยกเลิกกฎอัยการศึกได้แล้ว เพราะสร้างความอ่อนแอให้กับภาคเศรษฐกิจและการลงทุน 
      นายวรชัย กล่าวว่า ที่สำคัญอีกเรื่องคือเดินหน้าประเทศสู่การปฏิรูปตามโรดแม็ป ร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง นายกฯในฐานะหัวหน้าคสช.ต้องเข้าไปตรวจสอบกำกับดูแลด้วยตัวเอง อย่าปล่อยให้สปช.ลากตั้งที่ไปนั่งเป็นกมธ. เสนอแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญแบบวางยา ไม่เป็นประชาธิป ไตยสวนทางกับชาวโลก การปฏิรูปครั้งนี้ต้องทำให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ทำให้ระบบการเมืองดีขึ้น ไม่ใช่ลดลงหรือแย่เท่ากับรัฐธรรมนูญปี 50 ที่ตัดสิทธิเสรีภาพ และอำนาจของนักการเมืองรวมทั้งประชาชน หากผิดไปจากนี้เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์จะต้องประสบกับวิกฤตครั้งใหญ่อย่างแน่นอน พล.อ. ประยุทธ์ไม่ต้องกลัวว่าใครจะออกมาชุมนุมประท้วงอีก พวกตนก็ไม่ทำแน่นอน

โหรส.ว.เตือนรัฐบาลระวังม็อบ 
      นายบุญเลิศ ไพรินทร์ อดีตส.ว. ฉะเชิงเทรา ฉายา'โหรส.ว.' ให้สัมภาษณ์ถึงดวงประเทศในปี 2558 ว่าวันที่ 1 ม.ค. เป็นวันที่ดีสำหรับดวงเมืองและดวงโลก โดยดาวพฤหัสก็ยังให้คุณสูงสุดในราศีกรกฎ แต่ก็ยังมีดาวร้ายคือเสาร์ราหูและดาวมฤตยูยังทำร้ายดวงเมืองและดวงโลกอยู่ช่วงกลางปีเป็นดับ ดังนั้นควรระวังวาตภัย อุทกภัย และภัยต่างๆ เพราะดาวเดินวิปริต และยังต้องระวังเรื่องเลือดตกยางออกได้ วิธีการแก้คือ ผู้นำต้องใช้สติปัญญาและความดีเท่านั้นในการแก้ปัญหา
     "ดวงการเมืองจะเกิดความขัดแย้งทางความคิด และประชาชนจะไม่พอใจในรัฐบาล เพราะจะมีปัญหาทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาทางการเกษตรและอุตสาห กรรม คนยากจน เกษตรกร ชาวไร่ ขาวนา ชาวสวน จะเดินขบวนเพื่อเรียกร้องความช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจะต้องใช้จ่ายงบประมาณเพื่อช่วยเหลือคนเหล่านี้อย่างมาก" โหรส.ว.กล่าว 

'หยัด'ชี้ 3 ปัจจัยการเมืองร้อน
     นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองปี 2558 ว่าคงยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ความสับสนวุ่นวายจะยังอยู่ และน่ากังวลด้วยว่าจะร้อนแรงกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่ ซึ่งมี 3 ตัวแปร คือ 1.คนตั้งความหวังไว้สูงมากกับการรัฐประหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามการทุจริตซึ่งดูจะไม่ค่อยสมหวังกันนัก กรณีที่ทำให้คนต้องคิดมากเป็นพิเศษว่าตกลงจะเอาอย่างไร คือเรื่องถอดถอนนักการเมืองที่สนช. ล่าช้า ทั้งยังโต้แย้งกันไปมาว่ารัฐธรรมนูญปี 50 ยกเลิกไปแล้วจะทำได้หรือไม่ และโครงการรับจำนำข้าวของน.ส. ยิ่งลักษณ์ ที่ใครก็รู้ว่ามันชัดเจน แต่มีการโยกโย้ระหว่างอสส.กับป.ป.ช. ค่อนข้างมั่นใจว่าพอเริ่มต้นปี2558 ถ้า 2 เรื่องนี้เป็นไปในทางลบ ความผิดหวังจะทำให้อุณหภูมิทางการเมืองร้อนขึ้นมากพอสมควร
    2.คลื่นใต้น้ำยังคงมีอยู่และเคลื่อนไหวมากขึ้น ถ้าคสช. หรือรัฐบาลใช้มาตรฐานเดียวกันระหว่างกลุ่มคลื่นใต้น้ำกับคนที่เคลื่อนไหวโดยอิสระเช่นนักวิชาการที่ต้องการจัดสัมมนา หรือประชาชนที่ต้องการแสดงความคิดเห็น ถ้าคสช.และรัฐบาลแยกสองเรื่องนี้ออกจากกันไม่ได้ตรงนี้จะยิ่งทำให้การเมืองร้อนขึ้น 3.ภาวะเศรษฐกิจของบ้านเมืองในขณะนี้ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่บอบช้ำมากที่สุดคือชาวสวนยาง 
    นายบัญญัติ กล่าวว่า หากคนมีความอึดอัดเรื่องการเมืองมากแต่เศรษฐกิจไปได้ความตึงเครียดไม่มากเท่าไร แต่ถ้าอึดอัดทางการเมืองแล้วมาเจอปัญหาเศรษฐกิจปากท้องอีกก็จะทำให้คนเกิดอารมณ์ได้ง่าย มาตรฐานการจัดการกับคลื่นใต้น้ำและการจัดการกับคนที่ต้องการให้ความเห็นทางการเมืองจริงๆ ต้องแยกให้ออก ถ้าจัดการสิ่งเหล่านี้ไม่ดีก็ร้อนแรงแน่นอน เชื่อว่าจะถึงขั้นรวมตัวกันอีกครั้ง กฎอัยการศึกจะศักดิ์สิทธิ์น้อยลง เข้าใจว่ารัฐบาลจะเร่งออกกฎหมายเรื่องการชุมนุมให้เสร็จก่อนที่จะมีการประกาศเลิกใช้กฎอัยการศึก

'บิ๊กตู่'ขอกำลังใจ
     พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวคำปราศรัยเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่ง ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการปฏิรูปประเทศ จึงอยากให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนร่วมมือร่วมใจกันทำงาน เพื่อให้ประเทศไทยขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีขึ้น อาจไม่สำเร็จทันใจในเร็ววันนี้ ซึ่งต้องใช้เวลา แต่อยากให้ทุกคนอดทนและให้กำลังใจรัฐบาลและคสช. ในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมให้มีความสงบ เป็นระเบียบ และเดินหน้าประเทศไปสู่ความเจริญได้อย่างมั่นคง
     นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้คือการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของพี่น้องคนไทยในการทำสิ่งที่ดีเพื่อประเทศไทยของเรา ต้องช่วยกัน ขอให้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานให้แก่ปวงชนชาวไทย มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ด้วยความเรียบง่าย ไม่ประมาท ไม่ฟุ่มเฟือย รักและหวงแหนชาติบ้านเมืองของเรา ในนามของรัฐบาลพร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย ประชาชนมีความปลอดภัยและมีความสุข รวมทั้งพัฒนาประเทศให้มีความก้าวหน้า มั่นคง และมีความพร้อมสำหรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอนาคต

ปปช.ขยายผลข้าว-โยงมันเส้น
     วันที่ 31 ม.ค. นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. นายวิชาเผยว่าภายหลังการไต่สวนกรณีกล่าวหาเรื่องการทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ พบหลักฐานเชื่อมโยงเช็คที่ใช้จ่ายบางบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายมันเส้น(มันสำปะหลัง) ตนจึงรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาเป็นอีกคดีหนึ่ง โดยส่วนใหญ่ผู้เกี่ยวข้องและหลักฐานเป็นกลุ่มเดียวกับคดีการทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจี โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่ในช่วงต้นเดือนม.ค.ปี 58 เพื่อเสนอให้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนคดีดังกล่าวโดยเร็ว เพราะคดีนี้เป็นมหากาพย์ กระบวนการทั้งหลายใหญ่มากต้องทยอยทำ 
    นายวิชา เผยถึงกรณีคำร้องทุจริตโครงการปลูกปาล์มในอินโดนีเซีย ของ ปตท.ที่ร้องเข้ามาให้ป.ป.ช.ไต่สวน ว่าป.ป.ช.ได้รับเรื่องดังกล่าวมาไต่สวน ขณะนี้อยู่ในความรับผิดชอบ ของพล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการป.ป.ช. ความคืบหน้าต่างๆ น่าจะออกมาในช่วงต้นปีหน้า 
    รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการลงทุนปลูกปาล์มและผลิตน้ำมันปาล์มดิบในประเทศอินโดนิเซีย ของบริษัทในเครือ ปตท.จำกัด (มหาชน) วงเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท ตั้งแต่ช่วงปี 2550 ซึ่งโครงการดังกล่าวมีผู้ร้องเรียนเข้ามายังป.ป.ช. ว่าพบการทุจริต เกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินเนื้อที่ประมาณ 5 แสนเฮกตาร์ ที่มีมูลค่าแพงเกินจริง และความไร้ประสิทธิภาพของโครงการ ซึ่งถือเป็นกรณีทุจริตข้ามชาติและใช้เงินจำนวนมหาศาลในการดำเนินการ

ทบ.ขอ 2.8 พันล้านซื้อ'ฮ.'ใหม่
     วันที่ 31 ธ.ค. พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผบ.ทอ. เผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ให้กระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพทำแผนการพัฒนาและจัดหายุทโธปกรณ์ ตามแผนพัฒนากองทัพประจำปี 2559 เสนอให้รัฐบาลพิจารณากลางม.ค.นี้ ทอ.มีโครงการต้องพัฒนาหลายโครงการ ระบบเน็ตเวิร์ก-เซนทริกที่นำมาใช้จะทำงานสมบูรณ์ทั้งระบบในเร็วๆ นี้ ตอนนี้เชื่อมต่อแล้วกับเครื่องบินขับไล่กริพเพน ส่วน เอฟ-16 และ เอฟ-5 กำลังพัฒนาให้เชื่อมโยงกัน สำหรับยุทโธปกรณ์หรือเครื่องบินเก่าที่ประจำการอยู่ เน้นซ่อมบำรุงและดูแลตามขั้นตอนให้มีความสมบูรณ์ก่อนขึ้นทำการบินเสมอ ส่วนเครื่องรุ่นใหม่แทนเครื่องบินรุ่น แอล-39 ที่จะปลดประจำการจะพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุด
      รายงานข่าวเผยว่า ทอ.ได้รับงบปี 2558 วงเงิน 3,700 บาท จัดหาเครื่องบินฝึกรุ่นใหม่แทน แอล-39 ของสาธารณรัฐเช็กที่มีปัญหาบริษัทปิดไลน์การผลิต โครงการแรกจะจัดซื้อ 4 ลำ มีบริษัทจาก 3 ประเทศที่คุณสมบัติตรงตามที่ต้องการคือ ที-50 จากเกาหลี เอ็ม-346 ของอิตาลี และเท็กซ์ตรอน แอร์แลนด์ สกอร์เปี้ยน จากสหรัฐ โดยการจัดทำแผนงบปี 2559 มุ่งเน้นที่โครงการต่อเนื่องของระบบเน็ตเวิร์ก-เซนทริก โดยเฉพาะการติดตั้งระบบแพลกติคัล ดาต้า ลิงก์ ที่เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี "56 กับสหรัฐ มูลค่าโครงการกว่า 1 หมื่นล้านบาท 
     ทร.จะเสนอโครงการการจัดหาเรือดำน้ำมือหนึ่งเข้าประจำการ 2-3 ลำ ได้พิจารณาคัดเลือกแบบเรือดำน้ำจากเกาหลีใต้ จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส เรือดำน้ำชั้น u-209 ของเกาหลีใต้ราคาต่ำสุดประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท/ลำ 
    ทบ.เตรียมเสนอรัฐบาลจัดหาเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป (ฮ.ท.) ระยะที่ 3 เพื่อทดแทน ฮ.ท.1 ยูเอช -1 เอช (ฮิวอี้) ที่จะปลดประจำการกว่า 30 ลำ วงเงินจัดหา 2.8 พันล้านบาท คาดว่าจะพิจารณาเลือกเฮลิคอปเตอร์รุ่น ยูเอช-72 (Lakota) ในระบบเอฟเอ็มเอสจากสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ทยอยจัดซื้อเข้ามาประจำการแล้ว รวมถึงโครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียง 1 ลำ วงเงิน 1,250 ล้านบาท โดยมีเครื่องบินลำเลียงแบบ Antonov- 30 จากยูเครน และ ซีเอ็น-295 ของสเปน ที่ทบ.สนใจ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!