WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 04 มกราคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8803 ข่าวสดรายวัน


บิ๊กตู่ เอาใจเด็ก เปิดให้นั่งเก้าอี้ 
สนช.แจงขั้นตอน ถอดปู-ลงมติกพ.
    'บิ๊กตู่'เอาใจคุณหนูๆ เปิดให้นั่งเก้าอี้นายกฯ ในวันเด็กเสาร์ที่ 10 ม.ค.คณะทำงานเผยช่วงปีใหม่ นายกฯ หยุดพักผ่อนกับครอบครัวที่กทม. พักฟื้นหลังป่วยก่อนสิ้นปี 'ไก่อู'ย้ำอีกไม่เลิกกฎอัยการศึก อ้างต้องยึดความสงบมากกว่าภาพลักษณ์ วิปสนช.นัด 6 ม.ค.หารือบรรจุสำนวนถอดถอน 38 ส.ว. แจงขั้นตอนถอดถอน 'ยิ่งลักษณ์' คาดใช้เวลา 30 วันหลังเปิดแถลงสำนวน 9 ม.ค. ลงมติได้ต้นเดือนก.พ. เช่นเดียวกับคดี'สมศักดิ์-นิคม'ประธานสนช.เผยป.ป.ช.เตรียมส่งเรื่องถอดถอนส.ส.-ส.ว.กว่า 200 คนเพิ่มอีก มั่นใจตัดสินเป็นกลาง 'สมบัติ ธำรงธัญวงศ์'ชี้สปช. ค้านสรรหาส.ว. 200 คนยังไม่ใช่มติ เป็นแค่ความเห็นส่วนตัว แนะที่มาต้องดูขอบเขตอำนาจ 'โอ๊ค' ตั้ง 12 ฉายา เหน็บ'บิ๊กตู่'วิสัยทัศน์ยอดเยี่ยม มาร์ค-พระเอกลิเก


'บิ๊กตู่'ป่วย-พักฟื้นเริ่มงานจันทร์นี้
       เมื่อวันที่ 3 ม.ค. พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค คณะทำงานนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ นายกฯ หยุดพักผ่อนกับครอบครัวที่บ้านพัก ในกรุงเทพฯ ไม่ได้พาครอบครัวไปเที่ยว ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ โดยนายกฯ ถือโอกาสพักฟื้นจากอาการไข้หวัดหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2557 ที่จ.นราธิวาส และพังงา เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและ เข้าทำงานได้เต็มที่ 
      พล.ต.วีรชน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล วันแรกใน วันที่ 5 ม.ค. โดยนายสมาน โอภาสวงศ์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจะนำคณะกรรมการเข้าพบเพื่อมอบของขวัญ วันเด็กประจำปี 2558 ที่ตึกไทยคู่ฟ้า และในช่วงบ่าย นายไบ๊ ชุนหลี่ ประธานสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน เข้าเยี่ยมคารวะ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า 

เด็กเฮ-ได้นั่งเก้าอี้นายกฯวันเด็ก
      พล.ต.วีรชน กล่าวว่า รัฐบาลได้เตรียม จัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2558 ที่ทำเนียบรัฐบาลตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ภายหลังจากปี 2557 ได้งดจัดงานวันเด็กเนื่องจากมีเหตุการณ์ชุมนุมรอบบริเวณทำเนียบ โดยในปีนี้รัฐบาลได้เตรียมกิจกรรมพิเศษไว้มากมายให้เด็กๆ มาร่วมสนุก โดยเฉพาะการเปิดห้องทำงานนายกฯ ให้เด็กๆ เข้ามาร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกส่วนนายกฯ จะมาร่วมงานด้วยหรือไม่นั้น ต้องติดตามดูต่อไป
     รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการเปิดห้องทำงานของนายกฯ ให้เด็กๆ เข้าเยี่ยมชมในวันเด็กนั้น จะถือปฏิบัติเหมือนที่เคยทำมาโดยเปิดโอกาสให้เด็ก ได้นั่งเก้าอี้นายกฯ ด้วย 

'ปนัดดา'หนุนตั้งสมัชชาคุณธรรม
     ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกฯ กล่าวถึงสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เตรียมจัดตั้งสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติว่า หากสปช. จะให้มีสมัชชาคุณธรรมฯ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและเป็นบรรทัดฐานในบริบทของหลักธรรมาภิบาลประเทศไทย คิดว่าเป็นเรื่องดีและสร้างสรรค์ จะช่วยพัฒนาแนวคิดทางการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยให้ก้าวเดินหน้าอย่างมีความหวังและบ้านเมืองอยู่ในครรลองคลองธรรม ขอชื่นชมแนวคิดนี้เพราะไม่มีประเทศใด จะประสบความสำเร็จได้โดยปราศจาก หลักคิดหรือยุทธศาสตร์ทางคุณธรรม อย่างจริงจังที่ผ่านมาเราละเลยเรื่องนี้อย่างมากและมองว่าการทุจริตเป็นเรื่องธรรมดา 
      ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ดังนั้น สมัชชา คุณธรรมฯ น่าจะเปรียบเหมือนกับฐาน แห่งความถูกต้อง คุณความดี และความซื่อตรงได้ในทุกบริบท ถือเป็นความคิดใหม่และควรได้รับการสนับสนุนอย่างมาก เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่คนไทย ส่วนที่ ในหลายจังหวัดมีคณะกรรมการจริยธรรม ก็ถือเป็นหน้าเป็นตาแก่จังหวัดในทุกวันนี้ คนไทยสั่งสอนลูกหลานให้ยึดมั่นความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีความแน่วแน่มั่นคงในหลักศีลธรรมจรรยาที่ทำ ให้ไทยเป็นไทยมาได้ ดังนั้น ประเทศไทยสมควรมีสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ

'ไก่อู'ย้ำยังไม่เลิกกฎอัยการศึก
      พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์ แนะให้รัฐบาลทบทวนการประกาศใช้กฎอัยการศึกว่า ถือเป็นวิสัยทัศน์ของ นายอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ต้องรับฟังจากทุกภาคส่วน ขณะเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและคสช.เคยชี้แจงหลายครั้งแล้วว่า ขณะนี้ยังมีความจำเป็น ต้องคงกฎอัยการศึกไว้ เราจึงต้องเลือกระหว่างภาพลักษณ์ที่หลายคนมองว่ามี ผลกระทบต่อการท่องเที่ยว กับความสงบ ที่เกิดขึ้นจริงในขณะนี้ เพราะหากมีความสงบ ก็จะส่งเสริมให้เกิดภาพลักษณ์ได้เอง ซึ่งนายกฯ ได้ชี้แจงในเวทีนานาประเทศ ถึงความจำเป็นนี้ และทุกประเทศก็เข้าใจเป็นอย่างดี ซึ่งเวลานี้ยังมีความจำเป็นอยู่ เราจึงต้องเลือกเรื่อง ที่เร่งด่วนและสำคัญที่สุดก่อน แต่เชื่อว่าในวันข้างหน้า นายกฯ จะหาแนวทางที่เหมาะสมและทำให้บรรยากาศดีขึ้นตอบรับกับความต้องการของทุกคน

ชี้นิรโทษขึ้นอยู่กับนายกฯ
      เมื่อถามถึงข้อเสนอการนิรโทษกรรม ที่คณะทำงานศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง ระบุหากพิจารณาเห็นว่าการนิรโทษกรรมมีความจำเป็นเร่งด่วนจะเสนอให้รัฐบาลและคสช.ใช้อำนาจตามรัฐธรรม นูญ ฉบับชั่วคราว มาตรา 44 นิรโทษกรรมได้ พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายกฯ แต่ที่ผ่านมา นายกฯ ยังไม่เคยปรารภเรื่องนี้กับที่ประชุมครม. เชื่อว่านายกฯ จะมีการปรึกษาหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย เนื่องจากเป็นประเด็นที่อ่อนไหวของสังคม ซึ่งนายกฯ ชี้แจงต่อสังคมมาตลอดว่าเวลานี้ยังไม่ใช่จุดที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เพราะยังมีรายละเอียดต่างๆ อีกมาก จึงต้องรอให้ตกผลึกก่อน

ปธ.ห่วงสนช.-งานถอดถอนเต็มมือ
     ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงการพิจารณาถอดถอนบุคคล ออกจากตำแหน่ง 4 เรื่อง คือ การถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ 38 ส.ว.ว่า สิ่งที่กังวลใจมากที่สุด คือ สนช.ต้องใช้เวลาทำงานมากขึ้น เนื่องจากมีเข้ามาใหม่อีก 1 คำร้อง คือคำร้องขอถอดถอน 38 ส.ว. ซึ่งจะรบกวนเวลา การทำงานของสมาชิก และทราบว่าจะมี อีก 1 เรื่องที่เข้ามาใหม่คือคำร้องจากป.ป.ช. กรณีถอดถอนส.ส. 268 คน
      นายพรเพชร กล่าวว่า ยอมรับว่าการถอดถอนจะกระทบต่อการปฏิรูปการเมืองแน่นอน เพราะเมื่อมีความขัดแย้ง ฟ้องร้องจนถึงขั้นที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ก็ต้องยุติลงทางใดทางหนึ่ง เหมือนที่มีความขัดแย้ง ในสังคมก็ไปยุติที่ศาล แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองต้องยุติที่สภา สิ่งที่สนช.ทำได้ดีที่สุด คือพิจารณาโดยยึดหลักความเป็นธรรม ยุติธรรม ยึดหลักกฎหมายเป็นคำตอบ
     ประธาน สนช.กล่าวว่า ถ้าประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าสิ่งที่ สนช.ทำไปนั้นมีความยุติธรรม เป็นธรรม สนช.ต้องเป็น กลาง ไม่ทำหรือไม่แสดงให้เห็นว่าจะเข้าข้างหรือ มีอคติต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตรงนี้จะเป็นเกราะป้องกันสนช. ที่สำคัญจะมีผลต่อความขัดแย้งของสังคมให้ลดน้อยลง ให้เข้าใจมากขึ้น ถ้าเราไปสร้างความรู้สึกเกลียดชัง ทำให้เขาเห็นว่า สนช.ในฐานะผู้ตัดสินไม่มีความ เป็นธรรม มันก็จบ ทำให้สิ่งที่จะตามมา ขาดความน่าเชื่อถือ

วิปแจงขั้นตอนถอดถอน'ปู'
    นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสนช. ในฐานะโฆษกกมธ.วิสามัญกิจการสนช. (วิปสนช.) กล่าวถึงกระบวนการและ ขั้นตอนการประชุมสนช.เพื่อพิจารณาถอดถอนตามที่ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กรณีละเลยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ในวันที่ 9 ม.ค.นี้ ว่า ในวันดังกล่าวที่ประชุมจะพิจารณาเพื่อฟังคำแถลงเปิดสำนวนจากป.ป.ช. ถึงข้อกล่าวหาต่างๆ และผู้ถูกกล่าวหาจะแถลงคำคัดค้าน จากนั้นที่ประชุมจะมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการซักถามขึ้นมา 1 คณะ ประกอบด้วยสมาชิก 21 คน โดย กมธ.ซักถามจะทำหน้าที่รวบรวบข้อซักถามต่างๆ และจะนัดประชุมอีกครั้งภายใน 7 วันหลังวันแถลงเปิดสำนวน เพื่อให้กมธ.ซักถามได้ซักถามคู่กรณี หลังเสร็จจากกระบวนการนี้จะประชุมใหม่ภายในไม่เกิน 7 วันอีกเช่นกัน เพื่อพิจารณารับฟังคำแถลงปิดสำนวนด้วยวาจา และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ ดังกล่าวจะต้องลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอนภายใน 3 วัน นับจากวันแถลงปิดสำนวน

คาดต้นเดือนก.พ.ลงมติทั้ง 3 คดี
      นพ.เจตน์ กล่าวว่า กระบวนการถอดถอนทั้งหมดผู้ถูกกล่าวหา คือน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะมาด้วยตัวเองหรือส่งทนายมาชี้แจงแทนก็ได้ แต่โดยปกติที่ผ่านมาผู้ถูกกล่าวหาจะมาร่วมพิจารณาและชี้แจงด้วยตัวเอง ทั้งนี้ กระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาภายใน 30 วันนับจากวันแถลงเปิดสำนวน หรือประมาณต้นเดือนก.พ.นี้ ส่วนการออกเสียงลงมติจะให้ลงคะแนนลับในคูหา โดย ให้สมาชิกกากบาทในบัตรลงคะแนนว่าถอดถอนหรือไม่ถอดถอน ซึ่งมติถอดถอนจะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกสนช.เท่าที่มีอยู่คือ 132 เสียง
      วิปสนช. กล่าวว่า ขณะที่สำนวนถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กับนายนิคม ไวยรัช พานิช อดีตประธานวุฒิสภา จากสำนวน ชี้มูลความผิดกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว.ในวันที่ 8 ม.ค. จะมีกรอบและขั้นตอนเช่นเดียวกับสำนวน การถอดถอนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสำนวนถอดถอน ส.ว. 38 คนจากกรณีร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. ได้มาถึงสนช.แล้ว และจะนำเข้าสู่ที่ประชุมวิปสนช.ในวันที่ 6 ม.ค.นี้ เพื่อจัดเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมต่อไป

ยันไม่ใช่มติสปช.ค้านสรรหาสว.
       นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปการเมือง กล่าวถึง สปช.บางคนคัดค้านข้อเสนอ ของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มาของส.ว.ทั้ง 200 คนให้มาจากการสรรหาทั้งหมดว่า เป็นการแสดงความเห็นโดยทั่วไปมากกว่า เพราะสมาชิก สปช.ยังไม่มีมติใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากตามกระบวนการทาง กมธ.ยกร่างฯ ต้องมีการอภิปรายและส่งร่างรัฐธรรมนูญกลับมา ให้สปช.พิจารณา ถ้า สปช.ไม่เห็นด้วย ก็มีความเห็นให้ กมธ.ยกร่างฯ ไปปรับ แก้ไขได้ 
    นายสมบัติ กล่าวว่า ปกติการออกแบบ ที่มาของส.ว.ที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับอำนาจที่จะให้ส.ว.ดำเนินการด้วย ยกตัวอย่างประเทศอังกฤษ ส.ว.มาจากการแต่งตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ จึงให้มีอำนาจ แค่กลั่นกรองกฎหมายเท่านั้น ส่วนฝรั่งเศสมาจากการเลือกตั้งทางอ้อมจึงกำหนดให้มีอำนาจสูงกว่าอังกฤษแต่น้อยกว่าส.ส. ขณะที่สหรัฐอเมริกาให้ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์จึงให้มีอำนาจสูงกว่า ส.ส. ฉะนั้นเรื่องการกำหนดที่มาของส.ว.จะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่ว่าจะให้มีอำนาจทำสิ่งใดด้วย

แนะที่มาต้องสอดรับกับอำนาจ
     นายสมบัติ กล่าวว่า ถ้าส.ว.มาจากการสรรหาและให้มีอำนาจน้อยกว่าส.ส.ก็ไม่เป็นไร ถือว่าไม่ขัดกับหลักสากล แต่จะให้มีอำนาจเท่ากับส.ส.หรือมีอำนาจมากกว่าส.ส. ซึ่งตามหลักสากลจะมาจากการ เลือกตั้งทั้งหมด แต่ถ้าจะให้ส.ว.มีอำนาจเสนอร่างกฎหมาย ถอดถอนนักการเมือง ได้ ถือว่ามีอำนาจมากกว่าส.ส. หลักสากล ก็จะให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด แต่รัฐธรรมนูญปี 2540 กำหนดให้ส.ว.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดแต่ให้มีอำนาจน้อย ถือว่าไม่สอดคล้องกับหลักสากล ดังนั้น การออกแบบที่มาส.ว.ให้เหมาะสมนั้น ต้องดูด้วยว่าจะให้อำนาจส.ว.ทำสิ่งใดได้บ้างโดยต้องไม่ให้ขัดกับหลักสากล

'เอกชัย'เสนอเปิดให้ประชุมพรรคได้
     พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ สมาชิกสปช. ในฐานะคณะทำงานศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สปช. เปิดเผยถึงแนวทางการสร้างความปรองดองว่า ต้องมองแนวทางเป็น 3 มิติ คือ 1.มิติป้องกันความขัดแย้ง 2.มิติการเปิดพื้นที่สาธารณะให้ภาคส่วนแสดงความเห็น และ3.การเยียวยา ตามที่ได้หารือกับนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะทำงาน มองว่าต้องมุ่งทำในมิติที่ 3 โดยเริ่มตั้งแต่การยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้ทุกภาคส่วนอยู่ร่วมกันได้ภายใต้กติกาใหม่ แต่จากการสรุปสาระและหลักการของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ผ่านมา ตนมองว่าไม่ได้สร้างให้เกิดโอกาสการอยู่ร่วมกัน ดังนั้น ส่วนที่คณะทำงานจะเดินหน้าได้คือการทำงานในมิติที่ 2 เปิดพื้นที่สาธารณะให้ภาคส่วนที่ขัดแย้งแสดงความเห็น เพราะจากการทำเวทีของตนในฐานะผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า พบว่ากลุ่มการเมืองระดับพื้นที่ ยกเว้นแกนนำระดับบน หรือแกนนำพรรค สามารถร่วมวงพูดคุยในรูปแบบปรึกษาหารือในมุมมองที่มีความเห็นร่วมกัน เช่น ระบบเลือกตั้งใหม่
    พล.อ.เอกชัย กล่าว่า ส่วนการสร้างความปรองดองในมิติที่ 1 คือ เปิดให้ประชุมพรรคเพื่อหารือในแนวทางปฏิรูปหรือ ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ได้ นอกจากนั้นในรัฐธรรมนูญใหม่ต้องกำหนดมาตรการลดการแข่งขันเพื่อเอาชนะ เช่น การให้พรรค ที่ได้รับเลือกตั้งลำดับที่ 1 และ 2 ร่วมตั้งรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาเห็นชัดว่า แม้พรรคที่เหมือนเป็นคู่ขัดแย้ง เช่น พรรคประชา ธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ยังร่วมมือตั้งรัฐบาลบริหารประเทศได้ 

'สิงห์ชัย'จวกร่างรธน.เพื่อตัวเอง
      นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง อดีตส.ว.อุทัยธานี กล่าวถึงการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า มองว่าเป็นไปในลักษณะของกลุ่มผู้มีอำนาจ ร่างเพื่อเอื้อประโยชน์กับตนเอง ถ้าคิดว่า จะทำให้เป็นอำนาจของประชาชนนั้นเลิกคิดไปได้เลย เพราะกลุ่มนี้ยังมอง ที่ปลายเหตุโดยคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังยากจน และขาดความรู้ ดังนั้น จะฝากอนาคต ของประเทศไว้กับประชาชนไม่ได้ พวกเขา ยังไม่เชื่อพลังของประชาชนในการขับเคลื่อนประเทศ จึงจะออกแบบรัฐธรรมนูญให้อำนาจยังอยู่กับพวกเขา ต่อไปอย่างเช่นหลายปีที่ผ่านมาได้ ต้องเนียนคือให้ทั่วโลกยอมรับ วันนี้ เราอย่าไปสนใจรายละเอียดของรัฐธรรมนูญ ต้องดูที่เป้าหมายของ การร่างมากกว่า 
     นายสิงห์ชัย กล่าวอีกว่า วันนี้รัฐบาลและ คสช.ควรเน้นเรื่องกายภาพ เช่น การจัดการน้ำ การบุกรุกพื้นที่ป่า เรื่องการขนส่งระบบราง และปัญหาทางสังคม ควรรีบจัดการให้เรียบร้อยในช่วงนี้ที่รัฐบาลและ คสช.ยังมีอำนาจอยู่ในมือ เพราะในสถานการณ์ ที่บ้านเมืองปกติเรื่องเหล่านี้จัดการได้ ยากมาก และไม่ค่อยจะเกิดขึ้นได้เลย อีกอย่าง ที่รัฐบาลควรเร่งรีบทำคือปัญหาปากท้องของประชาชน การจัดการ ด้านเกษตรชุมชน ให้ประชาชนยืนได้ด้วยตนเอง เพราะความมั่นคงในท้องถิ่นจะส่งต่อความมั่นคงของชาติด้วย

'โอ๊ค'โพสต์ตั้ง 12 ฉายาอิงค่านิยม
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวตั้งฉายาบุคคลทางการเมือง โดยระบุว่า ลงเรือแป๊ะ ต้องตามใจแป๊ะ ปีนี้ถือเป็น ปีแรกที่สื่อมวลชนไม่กล้าตั้งฉายาให้กับรัฐบาลด้วยเหตุผลว่าไม่ต้องการให้ใครนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เมื่อสื่อ ไม่ตั้ง ทีมเพื่อนโอ๊คขอตั้ง ยืนยันว่าทุกฉายา มีการสอบถามและทำโพลภายใน(ใจ) มาอย่างละเอียด เป็นฉายาที่ตรงกับความคิดคนส่วนใหญ่ และไม่เกิดความเสียหาย กับใคร ตรงกันข้ามหากนำมาคิดและปรับปรุงให้ดีขึ้นจะเกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม ซึ่ง 12 ฉายาตรงกับ 12 ค่านิยมของรัฐบาลพอดี 
     1.ผิวหน้าแข็งแกร่งแห่งปี - นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. คนดีศรีแผ่นดิน ขยัน ให้สัมภาษณ์รายวัน เป็นกรรมการกลาง แต่เข้าข้างพรรคหนึ่งอย่างเปิดเผย แต่งกลอนแสดงความไม่เป็นกลางอย่าง ไม่แคร์สื่อ สนใจดูงานต่างประเทศมากกว่า การจัดการเลือกตั้งให้สำเร็จ เรียกได้ว่า ขยันทำทุกเรื่องยกเว้นงานในหน้าที่ 

เหน็บหลวงลุงกำนัน-พระดีแห่งปี
    2.พระดีแห่งปี - หลวงลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส.และอดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำป่วนประเทศจนถึงทางตัน แอบอ้างความรักชาติ รักสถาบัน จนประเทศเสียหายหลายแสนล้าน หลังรัฐประหารดันยื่นใบเสร็จพันล้านโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ อ้างว่าวางแผนกับพล.อ.ประยุทธ์ โค่นล้มรัฐบาลจนต้องหนีไปบวช ปัจจุบันตั้งตนเป็นแกนนำพรรคพระพุทธเจ้า เดินสายเทศนาราวกับบวช มาหลายพรรษา แต่เทศน์เรื่องการเมือง อย่างเดียว ถือเป็นพระดีแห่งปี ที่มุ่งเน้นเอาชนะทางการเมืองโดยแอบอ้างครบทั้ง 3 สถาบัน
     3.วัตถุศักดิ์สิทธิ์แห่งปี - กรวยแห่งหลวงปู่พุทธะอิสระ จากเหตุการณ์กปปส. พุทธอิสระได้ปลุกเสกกรวย จนกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ใครบังอาจไปขยับจะมีอันเป็นไป ไม่เว้นแม้กระทั่งทหารยศพันเอก ยังโดนยิงได้เพราะไป ขยับกรวย

'อมรา-เสรี-ปนัดดา'ก็โดน
    4.คนหายแห่งปี - นางอมรา พงศาพิชญ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ผู้ออกแอ๊กชั่นดีเด่นช่วงต้นปีในการปกป้องม็อบ กปปส. แต่พอมีรัฐประหาร กลับหายเงียบ ไม่สนใจการละเมิดสิทธิมนุษยชน อีกต่อไป นักข่าวคนใดต้องการสัมภาษณ์ ลองติดต่อศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา อาจพอเจอตัว
    5.ผู้ทรงคุณธรรมแห่งปี - ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ คิ๊กออฟ ผลงานชิ้นโบดำให้กับรัฐบาล โชว์จุดยืน ด้านโปร่งใสด้วยไมค์ทำเนียบที่ราคาแพงราวกับทองคำ เป็นเจ้าของวาทกรรม 'ไม่ได้โกง แค่ส่วนต่างเยอะ' ชอบเดินสาย พูดต่อต้านคอร์รัปชั่น ไอ้นู่นทำไม่ดี ไอ้นี่โกง ข้ารู้ข้าเห็นหมดทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องไมค์แพงตัวละ 1.45 แสนบาท ป่านนี้ยังจับมือตัวเองดมไม่ได้
   6.เหยียดมนุษยชนยอดเยี่ยมแห่งปี - นายเสรี วงษ์มณฑา จากสถานการณ์ม็อบกปปส.ที่ผ่านมา นายเสรี เป็นคนสนับสนุนสุดตัวในการเหยียดเพื่อนมนุษย์ โดยระบุว่าคนในเมืองมีการศึกษา ย่อมต้องมีสิทธิ มีเสียงมากกว่าคนชนบทที่ไร้การศึกษา 

มาร์ค พระเอกลิเก-'อุ๋ย'ก๊อบเกรดเอ
    7.พระเอกลิเกแห่งปี - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปากเก่งเป็นที่ 1 ในหัวหน้าพรรคทั้งหมด สามารถเป็นนายกฯได้ ทั้งที่นำพรรค พ่ายแพ้ มาตลอด บอยคอตเลือกตั้งถึง 2 ครั้ง เพราะรู้ว่า สู้ไปก็ไม่ชนะ ล่าสุดใช้วิธีส่งลูกพรรคแยกร่างเป็นกปปส. ล้มเลือกตั้งจนสำเร็จ สร้างเงื่อนไขจนรถถังออกมา หวังจะซ้ำรอยได้เป็นนายกฯจากค่ายทหารอีกรอบ พอดูอาการทหารไม่เข้าข้าง ก็เริ่มออกมาโวยวาย 
   8.สองมาตรฐานแห่งปี - นายวิชา มหาคุณ แห่งป.ป.ช. ผู้ทรงความยุติธรรมดุจ ตาชั่งเอียง ใช้เวลารวบรวมหลักฐานและสั่งไล่บี้นโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลเพื่อไทย ในเวลาไม่ถึง 2 เดือน แต่ยื้อเวลา จนปรส.หมดอายุความและนโยบายประกันราคาข้าวของรัฐบาลประชาธิปัตย์หลายปีก่อน จะปล่อยคดีหลุดหมด ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าเอกสารหาย
   9.งานก๊อบเกรดเอแห่งปี-ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯเศรษฐกิจอ้างว่า เกลียดนโยบายประชานิยม แต่ลอกการบ้านเพื่อไทยแทบทุกเรื่อง ไม่ว่าโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนหมู่บ้าน จำนำยุ้งฉางเรียกได้ว่า 'ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ หม่อมอุ๋ยก๊อบ'

'ชาวสวนยาง'เจ็บปวดแห่งปี
     10.คนขยันแห่งปี - คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องเป็นหลักที่แข็งแกร่งทางด้านกฎหมายที่เป็นแม่บท แต่กลับสั่นคลอนอ่อนลู่ราวไม้หลักปักขี้เลน ขยันทำงานเกินหน้าที่ เคยตีความว่าการสร้างรถไฟความเร็วสูงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าประเทศยังมีถนนลูกรังอยู่ พอรัฐบาลใหม่บอกจะเปลี่ยนจากความเร็วสูงเป็นรถไฟความเร็วปานกลาง อุปสรรคจากถนนลูกรังที่ว่ากลับหายไป ในบัดดล 2 ล้านล้านที่ว่าแพง มาเจอ 3 ล้านล้านเข้าไปเงียบกริบ
   11.เจ็บปวดแห่งปี - ชาวสวนยางภาคใต้ ต้องแสดงความเห็นใจต่อชาวสวนยาง ทุกคน ถูกนักการเมืองชักใยพามาปิดถนน ประท้วงรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งประกันราคายางที่ 90 บาท ถูกเกณฑ์มาประท้วงต่อที่กรุงเทพฯจนทหารออกมาปฏิวัติ ปัจจุบันราคายาง พุ่งขึ้นเป็น 100 บาท แต่กลายเป็น 3 โล/ร้อย เจ็บปวดสุดๆ ตรงที่ส.ส.พรรคในดวงใจ ที่เลือกมาตลอด กลับหดหัวเข้ากระดองแปลงร่างเป็นนินจาหายตัวกันไปหมด 

'บิ๊กตู่'วิสัยทัศน์ยอดเยี่ยม
    12.วิสัยทัศน์ยอดเยี่ยมแห่งปี - พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ผู้มีไอเดีย แก้ปัญหาราคายางตกต่ำ 'อยากให้ยาง ราคาดี ให้ขนไปขายที่ดาวอังคาร' เป็น นักประพันธ์เจ้าของเพลงสุดฮิตแห่งปี 'คืนความสุข' แถมด้วยไอเดียค่านิยม 12 ประการ ที่ขนมาทั้งเพลง ทั้งหนัง ทั้งสติ๊กเกอร์ไลน์ อัดโปรโมตกันสุดฤทธิ์ มีวิสัยทัศน์ล้ำเลิศ คิดทำอะไรมักตรงกับทัศนคติของคนทั้งประเทศ ส่วนคนที่คิดต่าง ถูกเชิญไปปรับทัศนคติกันถ้วนหน้า ถือเป็นวิสัยทัศน์ทางการเมืองการปกครองที่ยอดเยี่ยมคลาสสิคเป็นที่สุด เข้าใจตรงกันนะ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!