Details

Category: การเมือง

Published: Sunday, 25 January 2015 20:28

Hits: 4103

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8824 ข่าวสดรายวัน

ไก่อูโต้แทน'บิ๊กตู่' ไม่ได้สั่ง! มะกันกังวลถอด ปู ส่งตัวแทนคุยรัฐบาลไทย นปช.ให้เสื้อแดงอดทน อจ.หวั่นปรองดองสะดุด

     สื่อนอกตีข่าวสหรัฐเตรียมส่งตัวแทนเข้าพูดคุยรัฐบาลไทยวันจันทร์นี้ เป็นห่วงสถานการณ์หลังถอดถอน "ยิ่งลักษณ์" ด้านรัฐบาลยืนยันพอใจ ไม่เกิดเรื่องวุ่นวายหลังการลงมติของสนช. คสช.ปัด ไม่มีคำสั่งห้ามอดีตนายกฯ ออกนอกประเทศ แกนนำนปช.ยันไม่เคลื่อนไหว ให้อดทน'ธิดา'ชี้ต้องนึกถึงผลกระทบส่วนรวม 'ณัฐวุฒิ'ขออยู่สงบๆ ดูคนกลุ่มหนึ่งทำลาย ตัวเอง นักวิชาการห่วงปรองดองสะดุด 'พีระศักดิ์'ท้าฟ้อง ถ้าคิดว่าถูกกลั่นแกล้ง ป.ป.ช.ชี้เอาผิดอาญา'ขุนค้อน'ไม่ได้ หลังไม่โดนสอย 

รบ.พอใจสถานการณ์หลังถอด'ปู'

       วันที่ 24 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในภาพรวมรัฐบาลพอใจที่สถานการณ์ภายหลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว เป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อยและไม่เกิดความวุ่นวายใดๆ แสดงให้เห็นว่าประชาชนเข้าใจการทำงานของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาล และสนช. ที่ต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมายไม่ต้องการไล่ล่าใคร 

    เมื่อถามว่ารัฐบาลต้องจับตาการเคลื่อน ไหวเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า คสช.ดูแลเรื่องความมั่นคงอยู่แล้ว และในการประชุมร่วม คสช.กับครม. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รายงานว่าสถานการณ์ทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ดังนั้นไม่จำเป็นต้องจับตากลุ่มไหนเป็นพิเศษ 

    เมื่อถามถึงสาเหตุที่ต้องประสานให้น.ส. ยิ่งลักษณ์ งดแถลงข่าวหลังสนช.ลงมติ พล.ต. สรรเสริญกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ระหว่างการประกาศใช้กฎอัยการศึก หลังจากเกิด ความขัดแย้งเป็นอย่างมากเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ดังนั้นเรื่องใดที่เปราะบางหรือสุ่มเสี่ยงในการสร้งความขัดแย้งแตกแยกขึ้นอีกไม่ว่าจะเป็นลักษณะการชุมนุมหรือการให้ข้อคิดทางการเมืองก็ไม่ควรกระทำ หากจะดำเนินการอะไรก็ต้องขออนุญาต คสช.ก่อน ทั้งนี้ก่อนที่สนช.จะลงมติ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงทำความเข้าใจต่อสังคมในมุมมองของตัวเองแล้ว รัฐบาล ไม่จำเป็นต้องชี้แจงเพิ่มเติม หากกิจกรรมใดที่สุ่มเสี่ยงให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีกทางคสช.จะประสานขอความร่วมมือฝ่ายการเมืองให้เข้าใจ และที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้รัฐบาลก็สบายใจที่ทุกฝ่ายเข้าใจ

โต้'บิ๊กตู่'สั่งลงมติ

      พล.ต.สรรเสริญกล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งการให้สนช.ลงมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าไม่เป็นความจริง เป็นความพยายามของกลุ่มการเมืองที่ไม่หวังดี ปล่อยข่าว ทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาล ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และพยายามสร้างความขัดแย้ง 

คสช.ยังไม่มีคำสั่งห้ามบินนอก 

     พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. และโฆษกกองทัพบก เผยว่า ขณะนี้ คสช. ยังไม่ได้มีคำสั่ง ระงับให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกนอกประเทศ แต่ไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือนักการเมืองที่จะไปทำภารกิจที่ต่างประเทศ ก็ต้องทำเรื่องมายัง คสช.เพื่อขออนุญาตเป็นรายๆ ไปตามขั้นตอนที่เคยปฏิบัติเหมือนในช่วงที่ผ่าน

      เมื่อถามว่า หากน.ส.ยิ่งลักษณ์จะขออนุญาต ช่วงนี้สามารถทำได้หรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการขออนุญาต แต่หากทำเรื่องขอมาก็ต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อถามย้ำว่าคสช.จะมีคำสั่งห้ามไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศเพราะเกรงจะหลบนี้ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีคำสั่งใดๆ ทั้งสิ้น

      รายงานข่าวจากคสช. เผยถึงกระแสข่าว คสช.ห้ามน.ส.ยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศว่า ไม่มีคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากใครที่ถูกเรียกรายงานตัวกับคสช. ก่อนหน้านี้ จะมีข้อกำหนดในการเดินทางออกนอกประเทศต้องขออนุญาตจาก คสช.ก่อนเดินทางอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งเพิ่มเติม ทุกคนที่มารายงานตัวก็ทราบดี

ยิ่งลักษณ์ พักผ่อนอยู่บ้าน 

     ส่วนความเคลื่อนไหวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังถูกสนช.ถอดถอน ได้พักผ่อนอยู่ภายในบ้านพักซอยโยธินพัฒนา 3 พร้อมด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ ลูกชาย และคนสนิท 

     นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมต่อสู้ในคดีอาญา หลังอัยการสูงสุด (อสส.) มีมติสั่งฟ้องคดีอาญาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมือง ฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในโครงการรับจำนำข้าว ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้อัยการดำเนินการพิจารณาไปตามขั้นตอนกฎหมายและตามข้อเท็จจริงและกำหนดวันยื่นฟ้อง ทีมทนายยังคงทำหน้าที่เตรียมข้อมูล พยานหลักฐานต่างๆ ที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจและหักล้างข้อกล่าวหาต่างๆ ให้พร้อมต่อไป แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดที่เตรียมไว้ชี้แจงในศาล เพราะไม่รู้ว่าอัยการจะยื่นฟ้องเมื่อไร มีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการในเร็วๆ นี้หรืออาจหรือ เป็นเดือนหน้า ปีหน้า ก็เป็นได้หากรวบรวมหลักฐานพร้อม หากไปพูดหรือแสดงความเห็นใดๆ ไปก่อนอาจไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสม 

    นายนรวิชญ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าที่ผ่านมาเราได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพราะเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของอดีตนายกฯ ที่ไม่มีเจตนาจะกระทำ การตามที่ถูกกล่าวหา และเห็นว่าการดำเนินนโยบายจำนำข้าวมีจุดประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนาให้อยู่ดีกินดีถือเป็นเจตนาที่ดีและไม่มีเจตนาที่จะทำให้ประเทศเสียหาย ดังนั้นการฟ้องคดีอาญาว่าละเว้นนั้นคงต้องดูที่เจตนาของผู้ถูกกล่าวหาด้วย

'ณัฐวุฒิ'ไม่เคลื่อนไหว

     นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรมช.พาณิชย์ โพสต์เฟซบุ๊กกรณีสนช.ถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า การถอดถอนที่เกิดขึ้นไม่ใช่ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ของใคร เพราะผลแพ้ชนะต้องเกิดขึ้นภายใต้กติกาที่เป็นธรรมและกระบวน การที่ชอบธรรมเป็นที่ยอมรับ ดังนั้น จึงเรียกว่าการไล่ล่าทำลายล้างทางการเมืองต่อฝ่ายตรงข้าม หลายเดือนที่ผ่านมาผู้มีอำนาจทั้งหลายคงมีภารกิจมากจึงไม่แน่ใจว่าจะมีเวลามองเห็นทุกภาพที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองหรือไม่ จึงขอเสนอบางภาพที่มองเห็นจากการถอด ถอนเพื่อพิจารณา การนำคนไปปรับทัศนคตินับพันคนแต่ไม่มีการปรับทัศนคติคนที่เลือกไปทำงานในเรือแป๊ะ เพราะทุกคนทุกอย่างยังเหมือนก่อนรัฐประหาร การประกาศสลายทุกสีเสื้อไม่ให้มีความขัดแย้ง แต่ไม่เห็นการสลายนกหวีดจากใจคนจำนวนมากในแม่น้ำ 5 สาย การออกคำสั่งห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมแม้แต่การประชุม ห้ามกลุ่มการเมืองต่างๆ เคลื่อนไหว แต่มีคนใช้สภาเป็นที่สมคบคิด ล็อบบี้และกระทำต่อฝ่ายตรงข้ามอย่างเปิดเผย

       "หลายคนคงอึดอัดอยากแสดงออก แต่ผมยืนยันว่าจะนิ่ง ไม่เคลื่อนไหว เพราะบางทีการอยู่ในอาการสงบเพื่อดูคนกลุ่มหนึ่งทำลายตัวเขาเองก็ถือเป็นการตอบโต้ที่เจ็บปวด" นายณัฐวุฒิกล่าว และว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ บางคนที่ออกอาการดีใจหรือลงมือซ้ำเติมอยู่เวลานี้ ขอให้ตระหนักว่าการถอดถอนตัดสิทธิ์คุณยิ่งลักษณ์จากการเมือง 5 ปีนั้น ได้ตัดพรรคประชาธิปัตย์ออกจากหัวใจคนหลายล้านคนไปตลอดกาล

'ธิดา'ลั่นนปช.ยังไม่เคลื่อนไหว 

       นางธิดา โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า กลุ่มนปช.ไม่เห็นด้วยกับมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะเห็นว่าสนช.ไม่มีอำนาจถอดถอน แต่เขาสมมติขึ้นเองว่าเป็นการสืบ ทอดอำนาจมาจากวุฒิสภา อีกทั้งรัฐธรรมนูญ 50 ก็ถูกฉีกไปแล้ว สนช.จึงไม่มีความชอบธรรมในการดำเนินการถอดถอน รวมถึงไม่มีความชอบธรรมในหลักกฎหมาย กรณีดังกล่าว จึงเป็นบรรทัดฐานที่แย่มากในสังคม และแย่ต่อการเรียน การสอน กฎหมายในอนาคตด้วย 

      นางธิดา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม นปช.จะยังไม่เคลื่อนไหว เพราะเราไม่เคลื่อนไหวเรื่องเฉพาะบุคคลอยู่แล้ว แม้ว่ากรณีของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ จะเกี่ยวโยงกับหลักการประชาธิปไตย แต่เราก็ให้ประชาชนพิจารณาเรื่องนี้ด้วยความเข้าใจ เป็นการยกระดับความเข้าใจทางการเมือง อีกทั้งกรณีดังกล่าวยังเป็นโรงเรียนการเมืองชั้นดี

      "ใครจะมองว่า เรายอมก็เป็นเรื่องของเขา แล้วแต่คนจะมอง ต้องไม่ลืมว่า ตอนนี้มีกฎอัยการศึก ดังนั้น ต้องอดทนจะทำอะไรโดยที่ไม่รับผิดชอบต่อประชาชนไม่ได้ การ กระทำครั้งนี้ ของสนช.เท่ากับเป็นการสร้างวีรกรรมให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนกลายเป็นวีรสตรีที่โลกไม่ลืม ประชาชนจะจดจำว่าในประวัติ ศาสตร์การเมืองไทย เราเคยมีนายกฯที่เป็นผู้หญิงถูกทำรัฐประหาร และถูกตัดสิทธิทาง การเมือง ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์มีลักษณะพิเศษ ที่ทำให้คนเสื้อแดงรักมาก แม้จะไม่เก่งเท่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่เรื่อง ที่เกิดขึ้นก็มีผลต่อหัวใจของคนเสื้อแดง"นางธิดากล่าว 

       เมื่อถามว่า การถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะทำให้แนวทางสร้างความปรองดองเกิดขึ้นได้ยากหรือไม่ นางธิดากล่าวว่า ต้องถามกลับว่าใครปรองดอง เขาไม่ได้คิดปรองดองเลย ถ้าคิดจะทำแบบนี้หรือ ฝ่ายถูกกระทำอาจอยากคิดปรองดอง แต่ฝ่ายผู้กระทำคงคิดแต่อยากจะทำลายให้สิ้นซาก

      เมื่อถามว่าหากผู้แทนจากประเทศสหรัฐอเมริกาจะมาพูดคุยกับกลุ่มการเมืองในประเทศไทย นปช.พร้อมให้ความร่วมมือหรือไม่ นางธิดากล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ที่ผ่านมาเขาคุยกับเราอยู่แล้ว และหลายประเทศก็มีการพูดคุยสอบถามกับนปช.อยู่ตลอด

แดงประสานเสียงอดทน 

     นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำนปช.และอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า แกนนำไม่ได้ประชุมหารือใดๆ และจะไม่เคลื่อนไหวใดๆ ในช่วงเวลานี้เพราะไม่มีประโยชน์ หากเคลื่อนไหวจะยิ่งทำให้สถาน การณ์คุกรุ่นและซ้ำเติมประเทศที่กำลังมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจให้แย่ลงไปอีก จึงขอเตือนไปถึงผู้มีอำนาจอย่ามุ่งแต่ทำลายล้างเพียงฝ่ายเดียวเพราะจะยิ่งทำให้รัฐบาลต้องปวดหัวกับการแก้ปัญหาทั้งเรื่องมั่นคง เศรษฐกิจให้ยากขึ้นไปอีก

       นายขวัญชัย สาระคำ(ไพรพนา)ประธานชมรมคนรักอุดร กล่าวว่า ชาวอีสานเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ และยืนยันว่าพวกเราอยู่ด้วยความสงบและจะอดทนให้ถึงที่สุด ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ชาวบ้านเขากลัวเพราะยังมีกฎอัยการศึก มีการติดตามกลุ่มชาวบ้าน จึงไม่มีใครกล้าออกมาเคลื่อนไหว หรือพบปะพูดคุยกันตามปกติเหมือนที่ผ่านมา ต่างคนต่างอยู่ ฉะนั้นอย่ามากังวลกับพวกเรา บางคนอึดอัดกับสิ่งที่เกิดขึ้นถึงกับร้องไห้ระบายให้ฟังว่าไม่น่ารังแกกันขนาดนี้ แล้วจะปรองดองกันอย่างไร

     นายวรชัย เหมะ แกนนำนปช.และอดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แกนนำไม่ได้พูดคุยหรือมีท่าทีอะไรหลังสนช.ลงมติ เพราะจะดูสถานการณ์และความรู้สึกของประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้ และรอดูว่าฝ่ายที่กดปุ่มอยู่เบื้องหลังเรื่องต่างๆ เหล่านี้จะทำอย่างไรกับเราต่อ การห้ามไม่ให้เคลื่อนไหวยิ่งทำให้กดดัน สุดท้ายเมื่อสถานการณ์ถูกจุดและบีบให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ติดคุก เมื่อไปรวมกับการร่างรัฐธรรมนูญ การกระทำที่สองมาตรฐาน จนคนรู้สึกทนไม่ได้ก็จะห้ามไม่ได้เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในต่างประเทศ

พีระศักดิ์ แนะอดีตนายกฯฟ้อง

     นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.คนที่ 2 กล่าวถึงมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า การทำหน้าที่ของสนช.สิ้นสุดแล้ว และยืนยันว่าสมาชิกทุกคนใช้ดุลยพินิจในการลงมติ โดยไม่มีการล็อบบี้กัน กระบวนการถอดถอนเป็นการดำเนินการตามข้อบังคับการประชุมทุกประการ ที่สำคัญปัญหาโครงการรับจำนำข้าว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนจะมีสนช. เมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งเรื่องมาสนช.ก็ต้องทำ เพราะทุกเรื่องต้องมีจุดจบ 

     นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์รู้สึกว่าผลที่ออกมาไม่เป็นธรรมหรือถูกกลั่นแกล้ง ก็สามารถไปดำเนินการฟ้องร้องได้ว่าสนช.ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบตรงส่วนไหน ส่วนการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นความบังเอิญหรือไม่ที่ อสส.มีมติสั่งฟ้องคดีอาญา ก่อนที่สนช.จะลงมติถอดถอนไม่กี่ชั่วโมงนั้น ตนมองว่าถ้าเป็นในแง่ของกฎหมายเป็นคนละส่วนกัน ในส่วนของสนช.ได้กำหนดวันลงมติไว้แล้ว ส่วนการลงมติอย่างใดอย่างหนึ่งก็เชื่อว่าสนช.มีการตัดสินใจไว้ล่วงหน้า ตั้งแต่ได้รับฟังคำแถลงเปิด-ปิดคดี รวมถึงการตอบข้อซักถามแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน 

พูดเป็นนัย-มีนิรโทษตามมา

      เมื่อถามว่า การถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะทำให้การสร้างความปรองดองทำได้ยากขึ้นหรือไม่ นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ตนกลับมองว่าถ้าทุกเรื่องยุติได้ในช่วงต้นก็จะเข้าสู่กระบวนปรองดอง การนิรโทษกรรมอาจจะตามมาก็ได้ เพราะเราต้องรู้ว่าใครผิดใครถูกก่อน จึงจะนิรโทษกรรมได้สมเหตุสมผล ซึ่งกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะเป็นประตูที่เปิดสู่การปรองดอง 

นักวิชาการห่วงปรองดองสะดุด 

     นายสุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี ม.ราม คำแหง กล่าวถึงมติถอดถอนว่า คะแนนถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์สูงถึง 190 คะแนน ฝ่ายที่อยู่ในกระบวนการถอดถอนคงเห็นว่ารัฐบาลเอาจริง เห็นได้จากการที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เข้าแจ้งความเอาผิดคู่สัญญาจำนำข้าว รวมถึงช่วงเช้าก่อน สนช.จะลงมติ อัยการสูงสุดได้แถลงข่าวว่าจะส่งฟ้องดำเนินคดีอาญาน.ส. ยิ่งลักษณ์ การแถลงของอัยการสูงสุดมีผลมากต่อการตัดสินใจลงมติถอดถอนของสนช.เพราะ เปรียบได้ว่ากระบวนการพิจารณาเป็นการเอาจริงเอาจัง จากที่ก่อนหน้านี้ สนช.ไม่มั่นใจ ก็มั่นใจมากขึ้น ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องความปรองดองทางการเมืองอยู่แล้ว เพราะความ ขัดแย้งกับการเมืองเป็นของคู่กัน แต่เมื่อความปรองดองเกิดขึ้นไม่ได้จะทำอย่างไรไม่ให้ความ ขัดแย้งรุนแรง จึงต้องควบคุมด้วยกฎหมาย 

       นายเอกพันธุ์ ปิณฑวณิช นักสันติวิธี ม.มหิดล กล่าวว่า การถอดถอนด้วยกรอบความคิดทางการเมืองไม่ใช่กฎหมาย จะส่งผลกระทบต่อชาติโดยรวม และหากที่สุด คำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองที่จะชี้คดีอาญาน.ส.ยิ่งลักษณ์กับมติ สนช.สวนทางกัน ประชาชนจะมีความรู้สึกอย่างแน่นอนว่าเป็นอีกครั้งที่ประเทศไทยมี 2 มาตรฐาน รัฐบาลก็ไม่ควรปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นที่เป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน ควรเปิดพื้นที่ให้มีการแสดงออกได้บ้าง หากปิดมิดไม่เจาะรูเหมือนที่ผ่านมาอาจจะยิ่ง กดทับความรู้สึกจนสะสมทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้นได้ 

     นายธเนศ อาภรณ์สุวรรณ วิทยาลัยนานาชาติปรีดีพนมยงค์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ผลที่ออกมานี้ย่อมกระทบลึกๆ ไปถึงความปรองดอง ตอกย้ำความขัดแย้งที่มีมาตลอด 10 ปีนี้ในแง่ความรู้สึก เพราะช่วงระยะหลังการดำเนินการเอาผิดจะเฉพาะกับฝ่ายที่ไม่มีศักยภาพในการต่อต้าน อย่างไรก็ตาม มองว่าคงไม่ถึงขั้นจะมีการเคลื่อนไหวในช่วงนี้ แต่ก็ต้องระวังว่าอาจเป็นการสะสมเชื้อเพลิงที่ส่งผลต่ออนาคต (อ่านรายละเอียด น.3)

ปปช.ย้ำตัดสิทธิ์ 5 ปี 

      นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงข้อสังเกต น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกถอดถอนได้หรือไม่ เพราะพ้นจากตำแหน่งนายกฯ แล้วหลังการยุบสภา ว่า ความเข้าใจของอดีตนายกฯ เป็นข้ออ้าง เพื่อมองเป็นคนละเรื่องกับการถอดถอนตามกฎหมาย ป.ป.ช. ซึ่งกระบวนการถอดถอนได้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ สนช.ได้พิจารณาแล้วว่า สามารถดำเนินการได้ หลักการของกฎหมายในเรื่องการถอดถอนบุคคลจากตำแหน่งทาง การเมือง นอกจากให้พ้นจากตำแหน่งแล้ว ยังให้ถูกตัดสินทางการเมืองไม่ให้เข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เป็นหลักการของกระบวนการให้ถอดถอน ไม่ใช่เพียงแค่พ้นจากตำแหน่งอย่างเดียวเหมือนที่อ้างว่าถูกถอดถอนแล้วถึง 3 ครั้ง ตัวกฎหมายของ ป.ป.ช.นั้นมีผลในเรื่องการรับผิดชอบทางการเมือง 

เอาผิดอาญา"ขุนค้อน"ไม่ได้ 

      นายสรรเสริญเผยถึงการไต่สวนสำนวนคดีอาญากรณีอดีต ส.ส.เสียบบัตรแทนกันในการประชุมรัฐสภา ในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาของ ส.ว. โดยมิชอบ ว่า ได้สอบพยานเพิ่มเติมเพื่อยืนยันบุคคลที่ปรากฏในคลิปการเสียบบัตรแทนกันครบหมดแล้ว ต่อไปจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนในสัปดาห์หน้า เพื่อให้เชิญบุคคลที่เชื่อว่ามีพฤติกรรมการเสียบบัตรแทนกัน ซึ่งปรากฏในคลิปวิดีโอเข้ามาให้ปากคำ อาจเอาผิดได้ ไม่มากเพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัด จึงเอาผิดได้แค่บุคคลที่เชื่อว่ามีพฤติกรรมเสียบบัตรแทนกันที่ปรากฏในคลิปวิดีโอเท่านั้น แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่านำบัตรของใครไปเสียบบ้าง เพราะระบบของรัฐสภายังไม่เอื้ออำนวยเรื่องนี้ 

      ส่วนกรณีการไต่สวนคดีอาญานายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กรณีเปลี่ยน ร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว. นายสรรเสริญ กล่าวว่า เป็นเรื่องเดียวกันกับ คดีถอดถอน ซึ่งที่ประชุมสนช.มีมติแล้วว่า ไม่ถอดถอน เนื่องจากมีพฤติการณ์แค่ส่อว่าเท่านั้น แม้ว่าฝ่าย ป.ป.ช.จะมีพยานหลักฐาน แต่ สนช.ก็เชื่อว่าทำไปโดยปกติ ดังนั้นก็คงไม่สามารถดำเนินคดีนี้ในส่วนของอาญาได้

รบ.สหรัฐส่งตัวแทนคุยไทย

     วันเดียวกัน เอพีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐ อเมริกาจะส่งนายแดเนียล รัสเซล ผู้แทนรัฐบาลสหรัฐประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกมาเยือนไทยและพบปะผู้นำทางการเมืองทุกกลุ่ม และพูดคุยกับรัฐบาลไทยถึงข้อวิตกกังวลของรัฐบาลสหรัฐในวันจันทร์ที่ 26 ม.ค.นี้ อันเป็นช่วงไม่กี่วันหลังสนช. ที่ทหารตั้งขึ้น ลงมติถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ทั้งยังถูกอัยการสูงสุด (อสส.) สั่งฟ้องคดีอาญาจากโครงการรับจำนำข้าวที่มีบทลงโทษจำคุก 10 ปี โดยนายรัสเซลเป็นเจ้าหน้าที่ทางการทูตระดับสูงสุดของรัฐบาลสหรัฐที่มาเยือนไทยนับจากเกิดเหตุรัฐประหารในปี 2557 แม้ว่าการหวนคืนประชาธิปไตยของไทยยังคงห่างไกลจากที่คาดหวังไว้

       ก่อนหน้านี้ น.ส.เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ตอบคำถามถึงกรณีอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองและถูกฟ้องคดีอาญาว่า เป็นเรื่องของ คนไทยเองที่จะกำหนดความชอบธรรมทางกฎหมายในกระบวนการทางการเมืองและการพิจารณาคดี แต่รัฐบาลสหรัฐเชื่อว่า การมีคณะจัดการความยุติธรรมและนิติธรรมที่เป็นกลางนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับวิธีการปกครองที่ยุติธรรมและสังคมที่เที่ยงธรรม

ยังมีฝึกร่วมคอบร้าโกลด์

      สำนักข่าวเอพีระบุว่า ข้อกล่าวหาต่อน.ส. ยิ่งลักษณ์ ใช้อำนาจโดยมิชอบและความประมาทอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ นั้นมาจากโครงการจำนำข้าวที่รัฐบาลจากการเลือกตั้งหาเสียงไว้ และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นความพยายามที่จะทำลายกลไกทางการเมืองที่พ.ต.ท.ทักษิณก่อตั้งไว้เพื่อไม่ให้ทั้งสองกลับมามีอำนาจอีก ซึ่งการรัฐประหารในเดือนพ.ค.2557 นั้นทำให้รัฐบาลสหรัฐระงับเงินช่วยเหลือทางทหารต่อไทย 4.7 ล้านดอลลาร์ไว้ และเรียกร้องให้ไทยรีบจัดการเลือกตั้งเพื่อคืนอำนาจให้พลเรือน แต่การร่างรัฐธรรมนูญนั้นทำให้นักวิเคราะห์ต่างมองว่า การเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้นก่อนปี 2559

       เอพีวิเคราะห์ด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐพยายามใช้คำอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับประเทศไทยที่มีมายาวนาน 182 ปี และโดยประเพณีแล้วนับเป็นศูนย์กลางที่รัฐบาลสหรัฐใช้ผูกมิตรกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นรัฐบาลสหรัฐจึงไม่ต้องการทำให้ ความสัมพันธ์กับรัฐบาลไทยตึงเครียด เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงในภูมิภาค หรือขัดแย้งกับกองทัพไทย ซึ่งรัฐบาลสหรัฐเตรียมจะจัดฝึกร่วมและผสมทางการทหารระดับพหุภาคีประจำปี หรือ คอบร้าโกลด์ ที่ประเทศไทยในเดือนหน้า

พบบิ๊กเจี๊ยบ-ไม่ได้พบบิ๊กตู่

       รายงานจากทำเนียบรัฐบาลเผยว่า การเดินทางมาของนายรัสเซล เป็นกำหนดการเดินทางเพื่อพบปะพูดคุยกับระดับผู้นำ 3 ประเทศ ซึ่งไทยเป็น 1 ใน 3 ประเทศดังกล่าว โดยเป็นการวางแผนและประสานงานกันมาล่วงหน้าระยะหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่มีกำหนดพบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ 

      เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเผยว่า การเข้าพบตัวแทนรัฐบาลไทยของนายรัสเซล มีกำหนดพบพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รมว.ต่างประเทศที่กระทรวงการต่างประเทศในเวลา 11.30 น.

บีบีซี ชี้ไม่ประนีประนอมกันแล้ว 

      ด้านนายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซี สำนักข่าวยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ รายงานวิเคราะห์ว่า การถอดถอนและการสั่งฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ในวันเดียวกันเป็นสัญญาณแรงชัดว่าจะไม่มีการประนีประนอมใดๆ และตระกูล ชินวัตรจะต้องออกจากการเมือง ในช่วงที่สนช. เตรียมตัวสำหรับการโหวต กลุ่มผู้เสนอถอด ถอนยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองหรือการปรองดอง ต้องมองว่าเป็นเรื่องคอร์รัปชั่นในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และยังระบุว่าการคอร์รัปชั่นนี้ปฏิเสธไม่ได้เพราะมีหลักฐานจำนวนมาก การใช้เงินอุดหนุนโครงการยังไม่ยั่งยืน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มี ผู้ใดถูกไต่สวนหรือตัดสินผิด แม้กระทั่งฝ่ายตรงข้ามน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังอธิบายไม่ได้ว่า การถอดถอนนักการเมืองที่พ้นจากตำแหน่งไปแล้วนั้นเป็นไปได้อย่างไร และทำโดยสภาที่มาจากการแต่งตั้งของกองทัพได้อย่างไร

       "ดังนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องคอร์รัปชั่นหรือนิติธรรมอะไร แต่เป็นการมาถึงจุดสูงสุดของช่วง 8 เดือนที่มีการล็อบบี้จากกลุ่มที่ไม่ประนีประนอมในการต่อต้านตระกูลชินวัตร กลุ่มที่ต้องการให้ตระกูลนี้พ้นไปจากการเมือง หลังจาก 8 เดือนที่ผ่านมา ผู้ปกครองทหารลังเลอยู่ จนเป็นความหวังว่าคณะทหารเหล่านี้อาจเป็นผู้ช่วยเหลือนำพาประเทศให้พ้นจากความวุ่นวายทางการเมือง แต่การประเมินดังกล่าวนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างเด็ดขาดแล้วในตอนนี้ การตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี และข้อหาคดีอาญาทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์เผชิญชะตากรรมเดียวกับพี่ชาย คือไม่ติดคุกก็ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ" โจนาธาน เฮด ระบุ

พท.ขอรอดูกติกา 

        นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเตรียมส่งผู้แทนรัฐบาลมาเยือนไทย เพื่อพูดคุยกับตัวแทนรัฐบาลถึงข้อวิตกกังวลของรัฐบาลสหรัฐที่มีต่อไทย และใช้โอกาสดังกล่าวพบปะ ผู้นำทางการเมืองทุกกลุ่มว่า ทราบจากข่าว เช่นเดียวกัน พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้รับการประสานงานหรือมีการติดต่อจากใครที่จะมาพบและพูดคุย เมื่อถามว่าท่ามกลางสถานการณ์ การเมืองขณะนี้พร้อมจะพูดคุยหรือไม่หาก มีการติดต่อเข้ามา นายภูมิธรรมกล่าวว่า พูดอะไรไปก่อนไม่ได้เพราะยังไม่รู้รายละเอียดเลยว่าเขาจะคุยอะไร คุยกับใคร และหากมีการประสานติดต่อมาคงต้องสอบถามกลับไปว่าจะขอพูดคุยกับใครและคุยในเรื่องอะไรบ้าง

       เมื่อถามถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทยหลัง สนช. ลงมติถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เร็วเกินไปที่จะพูดอะไร เพราะขณะนี้ เป็นเวลาที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องแสวงหาความยุติธรรมโดยการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ขณะที่พรรคเพื่อไทยเองต้องรอดูกติกาต่างๆ ที่ผู้เกี่ยวข้องจะเสนอออกมาว่าเป็นอย่างไรและยังต้องดูกับสถานการณ์การเมืองในช่วงเวลานั้นด้วย 

คิดไว้แล้ว'ปู'โดนอีกหลายคดี 

     เมื่อถามว่า หลังการถอดถอนแล้วยังมีอีกหลายคดีที่เตรียมจะหยิบยกขึ้นมาดำเนินการ กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ อาทิ เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณประชาสัมพันธ์โครงสร้างพื้นฐานประเทศ 2.2 ล้านล้านบาท รวมถึงการใช้งบประมาณจัดทัวร์นกขมิ้น จนอาจเชื่อมโยงไปถึงขั้นของการยุบพรรคเพื่อไทยได้ในอนาคต เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่สบายใจตั้งแต่มีการรัฐประหารเกิดขึ้นแล้วว่าจะมีการใช้อำนาจและทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ ส่วนเรื่องยุบหรือไม่ยุบพรรคยังถือว่าไกลเกินไปที่จะพูดถึงในตอนนี้ 

      เมื่อถามข้อสังเกตจากหลายฝ่ายว่าการ ดำเนินคดีน.ส.ยิ่งลักษณ์ครั้งนี้ จะซ้ำรอยเหมือน ครั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ท้ายสุดต้องหนีออกนอกประเทศหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ข้อสังเกต ต่างๆ นั้นก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่คิดกันไปต่างๆ ส่วนสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต้องรอดูต่อไป ตอนนี้จะให้พูดอะไรนอกจากรอ

'มาร์ค'ชี้ถูกถอดไม่ไปตอบกมธ.

      ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วย น้ำไท นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงมติถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ไม่ถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ กับ นายนิคม ไวยรัชพานิช ว่า ทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการ ตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ผลคะแนนถอดถอนไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกันก็แสดงว่า สนช.มีการแยกแยะและมีดุลพินิจในการลงคะแนนที่แตกต่างกันเพราะแต่ละคดีก็มีความแตกต่างกันอยู่แล้ว ในส่วนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้ตัดสินต้องออกมาอธิบายต่อสังคมถึงเหตุผลการถอดถอน เชื่อว่าปัญหาเกิดจากการไม่ไปตอบข้อซักถามต่อสนช.ด้วยตนเอง แต่กรณีของนายนิคมและนายสมศักดิ์นั้นอาจเป็นเพราะรัฐธรรมนูญ 2550 ได้สิ้นสุดลงแล้ว จึงไม่มีกฎหมายมารองรับ

     นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คำแถลงการณ์ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์เฟซบุ๊กระบุไม่ได้รับความ เป็นธรรม เป็นสำนวนเดิมๆ ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยมักใช้เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ผลถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ของสนช.ครั้งนี้คงไม่สามารถบ่งบอกอะไรได้ เพราะขณะนี้ยังอยู่ในช่วงที่มีสถานการณ์พิเศษ อยากขอให้ความสำคัญไปที่การวางระบบในวันข้าง หน้าจะดีกว่า ว่าทำอย่างไรจะมีกระบวนการที่สามารถจัดการเรื่องของความรับผิดชอบทางการเมืองและทางกฎหมายของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างเป็นรูปธรรม และให้ผู้ที่มีอำนาจต้องรับผิดชอบต่อทุกการกระทำ ของตัวเอง ซึ่งเป็นความท้าทายของทาง คสช.และองค์กรที่เกี่ยวข้อง จะเข้าไปดำเนินการ 

      เมื่อถามว่าที่ คสช.ขอความร่วมมือไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกมาเคลื่อนไหว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ควรปิดกั้นในด้านการแสดงออก แต่ต้องไม่อยู่ในลักษณะของการปลุกระดมและก่อให้เกิดความวุ่นวาย

ชี้จุดเสี่ยงเลือกตั้งเยอรมัน 

     เวลา 13.00 น. ที่โรงแรม เดอะสุโกศล กรุงเทพ คณะกรรมาธิการ(กมธ.) ปฏิรูปการเมือง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ร่วมกับสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) จัดสัมมนาและรับฟังความคิดเห็น "10 ประเด็นนวัตกรรมการเมืองไทย" มี นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานกมธ.ปฏิรปการเมือง นายยุทธพร อิสรชัย คณบดีรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ร่วมงาน 

      นายสมบัติ กล่าวว่า จุดเสี่ยงการเลือกตั้งสัดส่วนผสมแบบเยอรมันที่กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ นำมาใช้โดยมี ส.ส.450 คน เป็น ส.ส.เขต 250 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 200 คน โดยให้เหตุว่าจะทำให้รัฐบาลไม่เข้มแข็งเกินไป ระบบนี้โอกาสจะได้พรรคการเมืองพรรคเดียวที่ได้เสียงข้างมากเด็ดขาดน้อยมาก จึงมีโอกาสที่พรรคการเมือง 2-3 พรรคจะร่วมกันตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อการพัฒนาประเทศจะยาก ขณะเดียวกันจะเกิดการต่อรองผลประโยชน์ระหว่างพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วม ซึ่งพรรคร่วมจะมีโอกาสต่อรองตำแหน่งในกระทรวงสำคัญ โดยที่นายกฯจะไม่มีโอกาสกำกับดูแลกระทรวงใหญ่ ทำได้เพียงแค่การขอความร่วมมือเท่านั้น คล้ายกับสภาพของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 

ชี้โจทย์ต้องแก้ 

      นายสมบัติ กล่าวว่า ขณะเดียวกันสิ่งที่ น่ากังวลมาก ถ้าพรรคการเมืองขนาดใหญ่ส่งอดีต ส.ส.ที่มีชื่อเสียงลงในนามอิสระ ตามที่แนวทางของ กมธ.ยกร่างฯนั้น วิธีนี้พรรค การเมืองจะให้หัวคะแนนควบคุมประชาชนเลือกพรรคแล้วเลือก ส.ส.อิสระที่พรรคสนับสนุน จะทำให้มีโอกาสได้เสียงสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาลเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ กมธ.ยกร่างฯควรไตร่ตรองให้ดี ดังนั้นคิดว่าระบบการเมืองจะดีได้ต้องส่งเสริมให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ตรวจสอบและถูกถอดถอนได้หากรัฐบาลนั้นใช้อำนาจโดยมิชอบ 

      นายสมบัติ กล่าวว่า การถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่สภาสามารถถอดถอนนักการเมืองออกจากตำแหน่งโดยใช้เสียง 3 ใน 5 ของสมาชิกทั้งหมด มีบางคนบอกว่าให้เลือกใช้หรือไม่กับการถอดถอนลักษณะดังกล่าว เพราะเป็น การให้นักการเมืองถอดถอนนักการเมืองด้วยกันเอง ทั้งนี้ระบบถอดถอนไม่ได้เป็นไปตามระบบรัฐสภาในอังกฤษ แต่เราหยิบจากสหรัฐมาประยุกต์ การถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งตามข้อเสนอของกมธ.ยกร่างฯที่กำหนดให้ ส.ส.และส.ว.650 คนเป็นผู้ตัดสินโดยใช้เสียงข้างมาก ถ้าพรรคแกนนำรัฐบาลผสมจัดตั้งพรรคโดยมีส.ส.สนับสนุนเกินครึ่ง คือ 330 เสียง เชื่อว่าการถอดถอนก็จะไม่มีโอกาสสำเร็จ เพราะพรรคที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลต่อไปก็จะต้องทำให้ตนเองมีเสียงมาก กว่า 330 เสียง เพื่อป้องกันการถอดถอนตนเอง เช่นในปี 2540 รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ มีเสียงมากกว่า 300 เสียง และถ้าถอดถอนไม่สำเร็จก็จะทำให้การทุจริตคอร์รัปชั่นแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้น

ตรวจสอบโดยภาคประชาสังคม

     ด้านนายยุทธพร กล่าวว่า ข้อดีของระบบการเลือตั้งเยอรมันจะทำให้ทุกคะแนนเสียง ไม่เสียเปล่า ระบบนี้จะทำให้พรรคการเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กโต แต่ปัญหาอยู่ที่ถ้าพรรคการเมืองเหล่านี้มีฐานคะแนนเสียงที่มาจากประชาชนในท้องถิ่นก็จะดี แต่ถ้าเป็นพรรคที่มีบุคคลที่มีชื่อเสียงไม่กี่คนก็คงไม่เหมาะ การที่จะทำให้พรรคขนาดกลางโตจากฐานของมวลชนนั้น เราจะต้องสร้างความเข้มแข็งของพลเมืองควบคู่ไปด้วย โดยมี 3 องค์ประกอบ คือ พรรคการเมือง สื่อท้องถิ่น และกระบวนการภาคประชาสังคม 

      นายยุทธพร กล่าวว่า ระบบเยอรมัน อาจจะเหมาะสมกับประเทศที่การกระจายอำนาจสมบูรณ์แล้ว แต่ประเทศไทยการกระจาย อำนาจยังไม่สมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้นักการเมืองในท้องถิ่นจึงมีบทบาทสูง เพราะมีความสัมพันธ์ เชื่อมโยงต่างตอบแทนกัน เป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนในพื้นที่ เรียงร้องผลประโยชน์ในท้องถิ่นได้ อย่างไรตาม ที่ผ่านมาการถอดถอนมีปัญหามากเพราะเรามีอำนาจแฝงอยู่ใน 3 อำนาจหลัก ซึ่งการมีระบบการตรวจสอบมากเกินไปก็ทำให้การถ่วงดุลระหว่าง 3 ฝ่าย ไม่สอดคล้องกัน ตนเสนอให้มีระบบตรววจสอบโดยภาคประชาสังคม ซึ่งประเทศไทยไม่เคยมีเลย อาจจะเข้ามาเสริมพลังในการตรวจสอบได้ โดยมีวาระเพียง 3 เดือน -1 ปี ทำหน้าที่ในการตรวจสอบการใช้งบประมาณ รวมถึงการออกกฎหมาย หรือรับรองผลการแต่งตั้งต่างๆ ของสภา เป็นต้น

บวรศักดิ์เปรยผิดข้อตกลง 

     เวลา 10.00 น. คณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สนช.ร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการด้านการศาสนา จัดสัมมนาเรื่อง 'อานิสงส์ของการสวดมนต์' นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองประธาน สปช. คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญกล่าวในระหว่างบรรยายตอนหนึ่งว่า การสวดมนต์ เป็นการทำบุญแบบง่ายๆ ทันที 6 ประการ อาทิ กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต และเป็นการให้ทาน มนต์ที่จะช่วยทำให้บ้านเมืองสงบ อยู่ในมงคลสูตรหากทุกคนยึดถือและปฏิบัติก็จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้ ตนอยู่ในวงการปราชญ์ ซึ่งมีการตกลงกติกากันไว้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับไปทำอีกอย่างหนึ่ง คนส่วนใหญ่ก็เอาด้วยและลงมติไปตามนั้น ดังนั้นสัจจะจึงเป็นสิ่งสำคัญมากทั้งต่อตนเองและผู้อื่น 

      นายบวรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ก็จะรับไว้พิจารณา เรื่องนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีกระแสพระราชดำรัสว่าทุกคนมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา มีเพียงพระองค์ที่ถูกรัฐธรรมนูญและกฎมณเฑียรบาลกำหนดให้ทรงเป็นพุทธมามกะ ต้องไปคิดกันดูว่าหมายถึงอะไร การไม่บรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญคงมีเหตุผล ต้องเข้าใจทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนว่ามีเหตุผลอะไร ส่วนตัวคิดว่าต้องมีกฎหมายในการส่งเสริมพระพุทธศาสนา และเห็นว่าควรมีวิทยุ และโทรทัศน์ ที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาได้ และนำหลักธรรมเข้าไปสอนในโรงเรียน