WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

  วันที่ 07 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8592 ข่าวสดรายวัน


ให้ชูได้แค่ในบ้าน เข้ม '3 นิ้ว'บิ๊กตู่ออกทีวีเตือน 
ขอนศ.เลิกต้าน จาตุรนต์พ้นคุก ได้ประกันแล้ว ส่วนบก.ลายจุด จ่อขึ้นศาลทหาร


ได้อิสระ - นายจาตุรนต์ ฉายแสง ปล่อยนกพิราบขาว 9 ตัว แสดงสัญลักษณ์แห่งอิสรภาพ หลังศาลทหารมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีประชาชนมารอมอบดอกไม้ให้กำลังใจ หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.

      ศาลทหารอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว 'จาตุรนต์'ด้วยหลักทรัพย์ 4 แสนบาท พร้อมเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ ห้ามวิพากษ์วิจารณ์การเมืองทุกวิธีการ ด้านเจ้าตัวปล่อยนกพิราบ 9 ตัวประกาศสู้ต่อเพื่อประชาธิปไตยในแนวทางสันติ ก่อนจะรีบบึ่งรถไปไหว้หลวงพ่อโสธร ส่วน'วินธัย'ระบุต้องคุมตัว'บ.ก.ลายจุด-สมบัติ บุญงามอนงค์'ไว้ 7 วันเพื่อปรับทัศนคติจากนั้นจะนำตัวส่งฟ้องศาลทหาร บิ๊กคสช.ถก 7 องค์กรอิสระหลังฉีกรัฐธรรมนูญ กกต.อ้อนขออยู่ต่อช่วยปฏิรูป-เลือกตั้งท้องถิ่น 'ยิ่งลักษณ์'ชิลชิล ช็อปปิ้งห้างดัง ประชาชนรุมขอถ่ายรูปเซลฟี่

สวมกุญแจมือ-จาตุรนต์ขึ้นศาล

      เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 6 มิ.ย. ที่ศาลทหารกรุงเทพฯ ภายในกรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นำตัวนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ แกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางมาฝากขังเป็นผลัดที่ 2 ในคดีไม่ยอมมารายงานตัวตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อีกทั้งยังถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่ากล่าวปาฐกถาเนื้อหาในลักษณะปลุกปั่น ยั่วยุให้เกิดความไม่สงบสุขในราชอาณาจักรที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ซึ่งเข้าข่ายผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 

     ผู้สื่อข่าวรายงานนายจาตุรนต์ใส่ชุดนักโทษ พร้อมกุญแจมือนั่งรถควบคุมผู้ต้องขัง ยี่ห้อ โตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน ฌฟ 2841 กรุงเทพมหานคร เมื่อมาถึงศาลทหารเจ้าหน้าที่นำรถลงชั้นใต้ดินทันที นายจาตุรนต์มีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ได้แสดงท่าทีกังวล ท่ามกลางระบบการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดและสื่อมวลชนจำนวนมากปักหลักทำข่าว

     ที่บริเวณด้านหน้าศาลทหารกรุงเทพฯ มีมวลชนจากจ.ฉะเชิงทรา และกทม. ประมาณ 50 คน มาให้กำลังใจนายจาตุรนต์ พร้อมฝากดอกกุหลาบสีแดงผ่านนางฐิติมา ฉายแสง น้องสาวนายจาตุรนต์ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ให้นายจาตุรนต์สู้ๆ" ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวโดยให้รอด้านหน้าศาลทหาร เวลา 10.00 น. ทางสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย จะมายื่นขอให้พิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวนายจาตุรนต์ เนื่องจากญาติมาร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

เผยยกให้เป็น'เนลสันเมืองไทย'

      นางฐิติมา ให้สัมภาษณ์ว่า มาเยี่ยมและจะขอยื่นประกันตัว เพราะนายจาตุรนต์ไม่ได้มีความผิด ซึ่งนายจาตุรนต์มีทนายมาช่วยปรึกษาหารือและทำเรื่องขอประกันตัว วันนี้ตนยังไม่ได้เห็นหน้าพี่ชายแต่รู้อยู่แล้วว่าพี่ชายมีจิตใจเข้มแข็งมาก และทุกคนมาให้กำลังใจ หลายคนเรียกนายจาตุรนต์ว่า 'เนลสัน เมืองไทย' สิ่งเหล่านี้นายจาตุรนต์รับทราบ ได้เห็นเอกสารที่ประชาชนส่งมาให้และรู้ว่าทุกคนเป็นห่วง ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก ไม่ได้สิทธิเสรีภาพ ซึ่งเหมือนกับหลายคนเข้าไปรายงานตัวและถูกกักบริเวณ ตนถูกกักบริเวณ 7 วัน ฉะนั้นจึงมาให้กำลังใจผู้ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

     เมื่อถามว่า สิ่งที่นายจาตุรนต์ทำทุกวันนี้ถูกต้องหรือไม่ นางฐิติมากล่าวว่า ถูกต้อง เราไม่ต้องการให้คนได้รับความไม่เท่าเทียมกัน ต้องการให้ประเทศชาติเจริญและเป็นไปในทิศทางสากล แนวทางที่ไม่ใช้ความรุนแรงใดๆ ใช้การสื่อสารพูดคุยกับประชาชนให้เข้าใจ เป็นเรื่องที่โลกเขาทำกัน คิดว่าเราเดินมาในทิศทางที่ถูกต้องแล้วและคิดว่าศาลทหารคงเข้าใจ ปล่อยตัวหรือให้ประกันตัว

     "ที่ผ่านมายังไม่ได้พูดคุยกับนายจาตุรนต์มากนักในเรือนจำเพราะมีคนไปเยี่ยมมาก ได้แค่ถามสารทุกข์สุกดิบ นายจาตุรนต์มีสุขภาพร่างกายและจิตใจดี เข้มแข็ง เป็นผู้นำมาตั้งแต่เด็ก ส่วนบิดาก็เครียดเป็นปกติเพราะอายุมาก ท่านรู้ว่าลูกชายเป็นผู้นำแต่ความเป็นพ่อก็ต้องห่วงลูกธรรมดา ไม่ว่าจะอยู่ในเรือนจำหรือค่ายทหารก็ถือว่าขาดสิทธิและเสรีภาพตาม พื้นฐาน" นางฐิติมากล่าว

ศาลทหารให้ฝากขังต่ออีกผลัด 

       ต่อมาเวลา 10.30 น. องค์คณะตุลาการศาลทหารออกนั่งบัลลังก์พิจารณาในคดีที่เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนจากกองบังคับการกองปราบปรามยื่นคำร้องขอฝากขังนายจาตุรนต์ เป็นผลัดที่ 2 โดย ชี้แจงกับศาลทหารว่า ขณะนี้ยังสอบพยานบุคคลไม่เสร็จจำนวน 4 ปาก รวมถึงการตรวจสอบพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นคลิปคำแถลงของนายจาตุรนต์ ที่ให้สัมภาษณ์ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง และการตรวจสอบคดีประวัติอาชญากรรม โดยศาลทหารสอบถามพนักงานสอบสวนว่าที่ผ่านมาได้สอบสวนนายจาตุรนต์ เสร็จหรือ ไม่ พร้อมขอให้ยืนยันเหตุผลการ ขอฝากขังผลัดที่ 2 ซึ่งพนักงานสอบสวนระบุว่าได้สอบสวนเสร็จแล้ว และขอยืนยันเหตุผลการฝากขังผลัดที่ 2

     จากนั้น องค์คณะตุลาการฯ สอบถามนายจาตุรนต์ว่าจะคัดค้านการขอฝากขังผลัดที่ 2 หรือไม่ นายจาตุรนต์ชี้แจงว่า ขอคัดค้านเพราะเห็นว่าการฝากครั้งผลัดแรก 12 วัน พนักงานสอบสวนตรวจสอบพยานให้เสร็จได้ ส่วนการรอผลพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานกลางนั้น เห็นว่าทำไมเจ้าหน้าที่ไม่ตรวจสอบคลิปให้เสร็จก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหา สำหรับการตรวจสอบทะเบียนประวัติอาชญากรรมนั้น ตนมีอาชีพเป็นนักการเมืองดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหลายสมัย จึงไม่มีประวัติทางอาชญา กรรม จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องฝากขังต่อไป ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาทั้งการคัดคำสั่งคสช. ที่ให้รายงานตัวฉบับที่ 1/2557 และข้อกล่าวหาว่าการแถลงข่าวเป็นการยุยงส่งเสริม ถือเป็นข้อหาที่หนัก จึงจำเป็นต้องมีทนายความ และผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากพิจารณาต่อสู้คดีเพราะถือเป็นพลเรือนคนแรกในรอบ 10 ปีที่ขึ้นศาลทหาร ดังนั้นหากควบคุมอยู่จะทำให้เสียสิทธิต่อสู้คดี และที่ผ่านมาไม่เคยมีพฤติกรรมหลบหนี จะเห็นว่าในวันแถลงข่าวได้ยอมให้ เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัว 

      ต่อมาศาลทหาร อ่านคำสั่งให้ฝากขังนายจาตุรนต์ เป็นผลัดที่ 2 ระหว่างวันที่ 9-20 มิ.ย. เป็นเวลา 12 วัน

ภรรยา-น้อง-วีระรุดให้กำลังใจ

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพิจารณาคดีครั้งนี้ ศาลฯอนุญาตให้สื่อมวลชน 8 คน เข้าไปรับฟังการพิจารณาในห้องพิจารณาคดีครั้งนี้ด้วย แต่ไม่อนุญาตให้นำอุปกรณ์สื่อสาร เครื่องบันทึกเทป รวมถึงสมุดจดบันทึกเข้าไปในห้อง เช่นเดียวกับญาติ ทีมทนายความและผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งในห้องพิจารณาคดี มีนายวุฒิพงศ์ และนางฐิติมา น้องชายและน้องสาวของนายจาตุรนต์ รวมถึงนางจิราภรณ์ ฉายแสง ภรรยานายจาตุรนต์ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แกนนำนปช. ทั้งนี้ นายจาตุรนต์ได้สวมชุด ผู้ต้องขังสีน้ำตาล พร้อมถูกสวมกุญแจมือ มีสีหน้าเรียบเฉย และตลอดเวลาที่รับฟังศาลฯได้จดบันทึก ส่วนภรรยามีสีหน้าไม่สู้ดีระหว่างรอฟังคำสั่งศาล

      จากนั้น นายวุฒิพงศ์ ให้สัมภาษณ์หลังเข้ารับฟังการพิจารณาคดีว่า นายจาตุรนต์ ได้ฝากข้อมูลถึงทุกคนว่าขอขอบคุณที่ให้กำลังใจ เวลานี้ทุกคนควรให้กำลังใจกัน ซึ่งนายจาตุรนต์ ยืนยันจะต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด เพราะข้อหามีโทษหนักในเรื่องยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ที่มีโทษจำคุกถึง 7 ปี และข้อหาขัดคำสั่งคสช.ในเรื่องรายงานตัว โทษจำคุก 2 ปี รวมเป็น 9 ปี จำเป็นต้องมีทนายความหลายคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านคดีอาญา กฎหมายมหาชนและรัฐธรรมนูญเขตอำนาจศาลทหาร ซึ่งหลายสิบปีที่ผ่านมายังไม่มีคดีพลเรือนขึ้นศาลทหารในคดีเกี่ยวกับความเห็นต่างทางความคิด และการที่อยู่ในเรือนจำทำให้ขาดสิทธิ์ตรงนี้ไป

      "สภาพร่างกายและจิตใจของนายจาตุรนต์แข็งแรงดี และพร้อมต่อสู้ในระบอบประชา ธิปไตยโดยสันติวิธี ด้วยหลักมนุษยธรรม" นายวุฒิพงศ์กล่าวและว่าตนคิดว่าเป็นธรรมดาต้องมีคนออกมาต่อต้านรัฐประหาร ซึ่งการที่นายจาตุรนต์แถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ บอกประชาชนให้สู้ด้วยสันติวิธีก็ถือว่าชอบแล้ว เพราะการสู้ด้วยสันติวิธีไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน และไม่สร้างความวุ่นวายในสังคม ซึ่งนายจาตุรนต์ยืนยันในหลักสันติวิธี และยุติธรรมมาตลอด

ให้ประกันตัว 4 แสน-มีเงื่อนไข

       ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่ศาลทหารกรุงเทพฯ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ในฐานะทีมทนายของนายจาตุรนต์ กล่าวว่า หลังจากช่วงเช้า ศาลทหารมีคำสั่งให้ฝากขังนายจาตุรนต์ เป็นผลัดที่ 2 ทีมทนายได้ทำเรื่องขอประกันตัวทันทีหรือการปล่อยตัวชั่วคราว ให้เหตุผลว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ต้องหาจะได้รับตามหลักนิติธรรม อีกทั้งการกระทำของนายจาตุรนต์ เป็นการเรียกร้องประชาธิปไตยโดยสันติวิธี ภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน ไม่มีการหลบหนีและพร้อมต่อสู้คดี ทั้งนี้ ศาลได้มีคำสั่งให้ประกันตัว ซึ่งใช้หลักทรัพย์เงินสด 4 แสนบาท มีนางจิราภรณ์ภรรยาของนายจาตุรนต์เป็นนายประกัน พร้อมทั้งมีข้อห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่ศาลอนุญาตและห้ามชุมนุมทางการเมืองหรือก่อให้เกิดความไม่สงบด้วยวาจาหรือวิธีอื่น เช่น ทำเป็นหนังสือเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน

      นายนรินท์พงศ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางต่อสู้คดีต่อจากนี้ ทีมทนายจะหารือกันต่อไป โดยศาลฯยังไม่มีคำสั่งนัดเพิ่มเติม เชื่อมั่นว่าศาลทหารมีความยุติธรรม จากนี้ทีมทนายจะเดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเดินเรื่องการประกันตัว 

'ปู'ช็อปปิ้ง-ชาวบ้านรุมเซลฟี่

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่ 6 มิ.ย. มีการเผยแพร่เอกสาร อ้างว่าเป็นจดหมายของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ส่งถึงนายจาตุรนต์ผ่านทางโซเชี่ยลมีเดียและมีการส่งต่อกันจำนวนมาก โดยเนื้อหาเป็นการแสดงความเป็นห่วงกรณีนายจาตุรนต์ ถูกคุมขัง ซึ่งจากการสอบถามบุคคลใกล้ชิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับการยืนยันว่าไม่เป็นความจริง น.ส. ยิ่งลักษณ์ไม่ได้เขียนจดหมายดังกล่าว คาดว่าเป็นบุคคลที่ไม่หวังดี ส่วนความเคลื่อนไหวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังเข้ารายงานตัวต่อคสช.แล้วก็ใช้ชีวิตตามปกติ โดยไปรับ-ส่งด.ช. ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ ที่โรงเรียนและไม่ได้ยุ่งเกี่ยวการเมืองหรือแสดงความคิดเห็นใดๆ ซึ่งวันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้เวลาช่วงเที่ยงไปซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดยมีประชาชนให้ความสนใจขอถ่ายภาพด้วยเป็นจำนวนมาก

'อ๋อย'ได้อิสรภาพ-ปล่อยพิราบ

     เมื่อเวลา 16.50 น. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายจาตุรนต์ ซึ่งศาลทหารกรุงเทพฯ อนุญาตให้ประกันตัว ได้เดินออกจากประตูเรือนจำด้วยหน้าตายิ้มแย้ม ในชุดเสื้อเชิ้ตลายทาง กางเกงขายาวสีดำ มีนางจิราภรณ์ ภรรยานายจาตุรนต์ พร้อมด้วยน้องสาว น้องชาย และกลุ่มมวลชนเดินทางมามอบดอกกุหลาบให้ ทั้งยังได้ตะโกนให้กำลังใจนายจาตุรนต์ว่า"สู้ๆ"ด้วย จากนั้นนายจาตุรนต์ได้ปล่อย นกพิราบ จำนวน 9 ตัว เพื่อแสดงสัญลักษณ์ที่ได้รับอิสรภาพ

     นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจ และขอบคุณคณะตุลาการศาลทหารที่อนุญาตให้ประกันตัว ขณะที่หลังจากนี้เตรียมสู้คดีใน 2 ข้อหา คือ ฝ่าฝืนกฎอัยการศึก และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง พร้อมยืนยันจะดำเนินงานสร้างความปรองดองแก่บ้านเมืองด้วยสันติวิธีต่อไป

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากให้สัมภาษณ์ ได้เดินทางขึ้นรถยนต์วอลโว่ สีเทา รุ่น วี 50 ทะเบียน 2 กข 232 กรุงเทพมหานคร เพื่อเดินทางไปไหว้หลวงพ่อโสธร ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา และกลับไปพักผ่อนที่บ้านพักต่อไป 


กินแซนด์วิช - กลุ่มนิสิตนักศึกษาจำนวนหนึ่งจัดกิจกรรม กินแซนด์วิช แสดงความไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร โดยมีทหาร 300 นายกระจาย กำลังสังเกตการณ์ บริเวณหน้า ม.เกษตร ศาสตร์ บางเขน เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.

วินธัยแจงคุม'บ.ก.ลายจุด'ไว้ 7 วัน

       เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก และทีมโฆษก คสช. แถลงถึงมาตรการที่จะดำเนินการกับนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ที่ถูกคุมตัวอยู่ที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) อ.เมือง จ.ชลบุรี ว่า เจ้าหน้าที่ใช้การควบคุมตัวนายสมบัติในพื้นที่พิเศษไม่เกิน 7 วัน เพื่อทำความเข้าใจและปรับทัศนคติ โดยยังไม่มีการลงโทษ ซึ่งคล้ายกับผู้ที่ถูกเรียกรายงานตัวคนอื่นๆ ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และจะถูกนำตัวขึ้นศาลทหารพิจารณาต่อไปตามขั้นตอน หากพบการ กระทำผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งเรื่องให้อัยการเพื่อส่งฟ้อง โดยความผิดของนายสมบัติขณะนี้คือฝ่าฝืนคำสั่งคสช.และกระทำการยุยงปลุกปั่นทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กเพื่อให้เกิดความไม่สงบ ทั้งนี้ ต้องรอให้ตำรวจสอบสวนอย่างละเอียดว่ามีความผิดอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่ 

      เมื่อถามว่าคสช.จะผ่อนปรนระเบียบข้อห้ามเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนอย่างไร พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ระเบียบคสช.ไม่ได้ห้ามการให้สัมภาษณ์ของบุคคลใด แต่อยากให้การนำเสนอข่าวมีความแตกต่างจากในอดีต เพราะคำให้สัมภาษณ์ของบางคนในอดีตมีความก้าวร้าวหรือส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งนี้ มีหลายคนให้สัมภาษณ์ตามปกติ ขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระมากกว่า

รับทหารตามประกบผู้ถูกปล่อย

      สำหรับ ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวยังมีทหารติดตามพฤติกรรมและเฝ้าบ้านพักอยู่นั้น พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมที่บุคคลนั้นเคยมีบทบาทอยู่ในสังคม และที่ เจ้าหน้าที่ยังต้องติดตามอยู่ เพราะยังไม่มั่นใจว่าแม้จะปรับทัศนคติไปแล้วจะทำตามที่เคยพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ไว้หรือไม่ เราต้องการให้กระบวนการเรียบง่าย ให้เกิดความสงบและพัฒนาประเทศตามเป้าหมาย

      ต่อข้อถามว่า จะติดตามตัวผู้หลบหนีไม่มารายงานตัวอย่างไร พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เราเฝ้าระวังบุคคลเหล่านั้นและปิดกั้นการติดต่อสื่อสารทุกช่องทางที่ทำได้ คนเหล่านี้ต้องถูกออกหมายจับและสั่งการให้ระงับการทำธุรกรรมทางการเงินผู้ที่หลบหนีทั้งหมดเรียบ ร้อย ผู้สื่อข่าวถามถึงการติดตามบุคคลที่ยังหลบหนีในต่างประเทศ เช่น นายจักรภพ เพ็ญแข และนายใจ อึ๊งภากรณ์ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า นายจักรภพไม่เคยมีความทุกข์กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับประชาชน จึงมองแค่มุมของตัวเอง ส่วนคสช.มีเป้าหมายทำงานชัดเจนอยู่แล้ว การติดตามตัวต้องประสานฝ่ายกฎหมายต่างประเทศต่อไป ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศจะขอความร่วมมือแต่ละประเทศไม่ให้การสนับสนุนหรือปล่อยให้บุคคลใดกระทำการ 

      เมื่อถามว่าจะดำเนินคดีกับผู้ที่ให้การพักพิงแก่ผู้ที่หลบหนีการรายงานตัวอย่างไร พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ต้องรอผลการสอบสวนที่ถูกจับกุมก่อนว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่

คสช.ปล่อยตัว'ลุงยิ้ม ตาสว่าง'

      ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ คณะทำงานทีมโฆษก คสช. แถลงว่าที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการทั้งฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ฝ่ายกิจการพิเศษ และส่วนขึ้นตรงหัวหน้า คสช.เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ซึ่งมีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.เป็นประธานการประชุม มีหัวหน้าฝ่ายต่างๆ หัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง หัวหน้าคสช.เน้นย้ำว่าคสช.จะไม่ก้าวก่ายการปฏิบัติราชการของฝ่ายกฎหมายและกระบวน การยุติธรรม โดยเฉพาะกฎหมายที่จะมีผล กระทบในวงกว้าง 

       ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมบังคับใช้กฎหมายปกติเป็นอันดับแรก การใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกให้ทำเท่าที่จำเป็น รวมทั้งให้โอกาสทุกฝ่ายเข้าถึงกระบวน การยุติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ให้เร่งสร้างองค์กรในกระบวนการยุติธรรมให้เข้มแข็ง เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่น เรียกศักดิ์ศรีขององค์กรคืนมา

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ สถานที่เข้ารายงานตัวของบุคคลที่คสช.ออกคำสั่งให้มารายงานตัวตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นไปด้วยความเงียบเหงา เนื่องจากคสช.ไม่มีคำสั่งให้บุคคลใดเข้ารายงานตัว แต่เจ้าหน้าที่ทหารยังดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงสื่อมวลชนเข้าไปในพื้นที่หอประชุม ให้สังเกตการณ์ได้เฉพาะพื้นที่ถนนด้านหน้าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าช่วงเช้าที่ผ่านมานายพฤกษ์ พฤกษ์สุนันท์ หรือ ลุงยิ้ม ตาสว่าง แนวร่วม นปช. ที่เข้ารายงานตัวตามคำสั่งคสช.ฉบับที่ 44 และถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.ได้รับการปล่อยตัวแล้ว

"บิ๊กกุ้ย"สั่งด่วนให้ตร.สนองคสช.

       ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร. ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. มีวิทยุในราชการ ตร. ด่วนที่สุด ที่ 0001 (ศปก.ตร.)/265 ลงวันที่ 5 มิ.ย. ถึงผู้บัญชาการ และผู้บังคับการทุกหน่วย โดยอ้างหนังสือ คสช. ที่ระบุเจตนารมณ์ นโยบายหัวหน้าคณะ คสช. เพื่อให้การปฏิบัติบริหาราชการของหัวหน้า คสช. เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพในแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ 

     คำสั่งดังกล่าวได้เน้นย้ำการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างรายการตามพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 โดยยึดกรอบวินัยทางการเงินการคลัง ยึดกรอบของระเบียบและกฎเกณฑ์ที่มีความโปร่งใส ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่ผูกขาด และมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เร่งสร้างทัศนคติ และความเข้าใจถึงความสำคัญด้านความมั่นคงของประเทศ และแสวงหาความร่วมมือจากประชาชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง ดูแลความปลอดภัยด้านความมั่นคงในทุกพื้นที่ ส่งเสริมระบบคุณธรรมในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย โดยเตรียมการปรับปรุง แก้ไข กฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่ง คำชี้แจงให้ทันสมัย และมีระบบป้องกันการคัดสรรแต่งตั้งในระบบอุปถัมภ์ที่ไม่เป็นธรรม ไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือผู้ใดเข้ามาครอบงำข้าราชการหรือระบบราชการ 

"สมยศ"จัดคอนเสิร์ตคืนความสุข

       เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ บช.น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ.ช่วยราชการ บช.น. ตัวแทนเจ้าหน้าที่ทหาร ตัวแทน กทม. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันประชุมการจัดคอนเสิร์ตคืนความสุขให้กับประชาชนที่สวนลุมพินี 

       จากนั้น พล.ต.อ.สมยศกล่าวภายหลังประชุมว่า เบื้องต้นตำรวจ ทหาร และกทม. ได้ประชุมร่วมกัน ว่าจะจัดงานคืนความสุขให้กับประชาชน โดยจะจัดที่สวนลุมพินี ในวันที่ 15 มิ.ย. เวลา 15.00-19.00 น. ซึ่งวันดังกล่าวจะมีวงดนตรีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้ยังมีศิลปิน ดารา นักแสดง และนักร้องรับเชิญมาร่วมงานจำนวนมาก มีอาหารและเครื่องดื่มเลี้ยงผู้ที่มาในงาน เพื่อสร้างความสุข ความสามัคคีปรองดองให้คนในชาติ เพื่อเป็นไปตามนโยบายของหัวหน้าคณะคสช. 

       โดยจะประชุมอีกครั้งในวันที่ 9 มิ.ย. และจะแถลงการจัดงานวันที่ 12 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเน้นวัตถุประสงค์ในการสร้างความปรองดองให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาหารในวันนั้นทั้งทหาร ตำรวจ ตั้งใจร่วมกันที่จะจัดงานคืนความสุขสู่ประชาชน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องให้เกิดความสุขและความปรองดองกับคนในชาติต่อไป 

สั่งรับมือแฟลชม็อบช่วงวันหยุด

      พล.ต.อ.สมยศกล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐ ประหารว่าจะมีการประชุมประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่า กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารจะชุมนุมกันในที่ต่างๆ ต้องตรวจสอบว่าผู้ชุมนุมจะชุมนุมกันสถานที่ใด ทั้งนี้ ได้จัดกำลังพลของทหารและตำรวจเพื่อนั่งบนรถไฟฟ้า บีทีเอสตั้งแต่เช้าถึงเย็น นอกจากนี้ มีการจัดกำลังทหารตำรวจไว้ทุกสถานที่ และเตรียมกำลังสำรองตามจุดต่างๆ ใกล้เคียงกับที่มีจุดการชุมนุมดังกล่าว พร้อมทั้งตั้งด่านเป็นระยะใกล้พื้นที่การชุมนุม และคัดกรองบุคคล หากมีการจับกุม เชื่อว่าการตั้งด่านมั่นคงบริเวณตามจุดต่างๆ โดยรอบ ก็จะดำเนินการจับกุม ผู้มาร่วมชุมนุมต่อไป 

      "ส่วนสถานที่ให้ความสำคัญคือห้างสรรพสินค้า ที่เส้นทางรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน หรือเชื่อมโยงกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เพราะจากประสบ การณ์ที่ผ่านมา พล.ต.ต.อำนวยได้ประเมินสถานการณ์แล้วว่า ผู้ชุมนุมใช้รถไฟฟ้าในการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า สถานที่อื่นๆ ที่อยู่นอกเส้นทางก็มีการวางกำลังไว้เช่นกัน เราจะปฏิบัติเหมือนเช่นเคยที่ได้ปฏิบัติมาแต่มีนโยบายต่างๆ ตามเดิม"

งมเจออีกอื้อ-อาวุธม็อบคปท.

       เมื่อเวลา 09.00 น. ที่คลองเปรมประชากรข้างทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ สนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลและตำรวจท้องที่ หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา เจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด กรุงเทพ มหานคร เทศกิจ หน่วยพยาบาล รวมทั้งสิ้น 500 คน พร้อมเครื่องจักรกลหนักเพื่อขุดลอกคูคลอง รวมทั้งตรวจเก็บกู้ทำความสะอาดคลองเปรมประชากร ตั้งแต่วัดเบญจมบพิตรจนถึงสะพานอรทัย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนั้นกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ ไทย (คปท.) ใช้เป็นสถานที่ชุมนุมนานหลายเดือน ถือเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากการตรวจวัตถุต้องสงสัยในคลองผดุงกรุงเกษม เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.

      ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการที่สะพานชมัยมรุเชฐหน้าทำเนียบรัฐบาลเป็นจุดแรก ซึ่งช่วงเช้าพบเพียงลวดหนามและเศษซากแบร์ริเออร์ในคลอง แก๊สน้ำตาที่ใช้แล้ว ระเบิดขวด ประทัดยักษ์ อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก 

พท.แนะวิธีแก้ไขความขัดแย้ง

     วันเดียวกัน นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 5 มิ.ย. ตนได้รับเชิญจาก กอ.รมน.จ.นคร พนมให้ร่วมโครงการเสวนาปรองดองสมาน ฉันท์เพื่อการปฏิรูปประเทศ ที่วัดพระธาตุ พนม ซึ่งตนเสนอความเห็นไว้ว่าสถานการณ์จะสงบหรือแรง ขึ้นอยู่กับ คสช.มีโรดแม็ปที่ชัดเจนทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยมากน้อยแค่ไหนอย่างไร โดยเฉพาะคสช.ต้องทำให้เกิดความยุติธรรม การให้อภัยกัน รวมถึงการนำประเทศสู่ประชา ธิปไตยโดยเร็ว มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิป ไตยและประชาชนมีส่วนร่วม ไม่วางเครือข่ายกับดักอำนาจไว้เหมือนรัฐธรรมนูญปี 2550

      นายชวลิต กล่าวว่า คสช.ควรแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยยึดหลักการให้อภัย ซึ่ง คสช.มีอำนาจเต็มที่จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ จึงขอเสนอว่าควรมีการนิรโทษกรรมแก่ผู้เกี่ยวข้องในห้วงเวลาที่เหมาะสมและถ้าทำถวายพระเกียรติ ให้ตรงกับวันสำคัญของชาติก็ยิ่งดี แต่การนิรโทษกรรมไม่ควรยกเข่งทั้งหมด ควรยกเว้นบางคดี เช่น คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ คดีทุจริตคอร์รัปชั่น คดีอาญายกเว้นคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องกับการเมือง ที่สำคัญอย่าไปติดหล่มหรือกับดักว่าต้องค้นหาและพิสูจน์ความจริง เพราะแต่ละคดีกว่าจะหาความจริงได้ บางทีคู่กรณีตายไปแล้วยังพิสูจน์ความจริงไม่ได้ หรือตายไปแล้วหลายปีจึงพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ผิด

วิษณุโต้ข่าวยุบ 6 องค์กรอิสระ

        วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาคสช.ฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยถึงกระแสข่าวคสช.เตรียมพิจารณายุบองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญว่า ไม่เคยได้ยิน จึงไม่เชื่อว่าจะเป็นข้อเท็จจริง เพราะคสช.ออกประกาศชัดเจนแล้วว่าให้องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญและองค์กรศาลยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อ เพราะในแต่ละองค์กรยังมีคำร้องหรือคดีความที่ค้างอยู่ระหว่างการพิจารณา คสช.จึงต้องให้องค์กรเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ 


ล้างบางยา - พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการป.ป.ส. และพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. ชมนิทรรศการปราบปรามและหยุดยั้งยาเสพติด ที่สำนักงานป.ป.ส. เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.

       นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนที่คสช.ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 แล้วทำให้องค์กรอิสระมีข้อจำกัดด้านกฎหมายในการทำงานนั้น เรื่องนี้ไม่น่าเป็นปัญหาเพราะแต่ละองค์กรมีกฎหมายลูกไว้รองรับอยู่แล้ว ส่วนประเด็นใดที่เป็นปัญหาข้อกฎหมายก็ส่งให้คสช.พิจารณาเพื่อให้เกิดความชัดเจน ที่ผ่านมาเราพิจารณาไปหลายกรณีแล้ว ส่วนที่จะมีข้อขัดข้องมากที่สุดน่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ เพราะต้องวินิจฉัยกฎหมายที่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่หากมีธรรมนูญปกครองชั่วคราว ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยมากขึ้น

ป.ป.ช.เร่งยิก-คดีอาญาจำนำข้าว

       ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นาย สุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของคดีอาญาการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกและการระบายข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อคณะกรรมการป.ป.ช.

      นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีไต่สวนข้อเท็จจริงหลังจากสอบพยานบุคคลที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ขอให้สอบเพิ่มเติมรวม 4 ปากว่า จากนี้คณะกรรมการป.ป.ช. จะนำข้อมูล รายละเอียดและเอกสารพยานหลักฐานทั้งหมดมาพิจารณาว่าเพียงพอหรือไม่ เพื่อเชื่อมโยงกับข้อมูลและพยานหลักฐานในส่วนของคดีการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีกับรัฐบาลจีน ไม่มีการส่งออกข้าวจริง ส่วนคดีนาย บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ พร้อมพวกและตัวแทนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องนั้น ได้สอบพยานบุคคลไปแล้วกว่า 10 รายจากทั้งหมด 89 ราย ที่ป.ป.ช.ส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

เตรียมชงให้ป.ป.ช.ชุดใหญ่ชี้มูล

     นายวิทยา กล่าวว่า คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวยังไม่ได้สรุปตัวเลขผลการขาดทุนและปริมาณข้าวทั้งหมดในสต๊อกของรัฐบาล ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกช่วง 2 ปีที่ผ่านมาคือ ฤดูกาลผลิตปี 2554/55, ฤดูกาลผลิตปี 2555/56 และฤดูกาลผลิตปี 2556/57 เนื่องจากคณะอนุกรรมการได้สิ้นสภาพลงตามรัฐบาล ทำให้ป.ป.ช.ต้องรวบรวมเอกสารและข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปตัวเลขแท้จริงออกมา ระหว่างนี้ป.ป.ช.จะเร่งไต่สวนพยานบุคคลให้เสร็จทั้งหมด โดยเฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งคดีอาญาต้องใช้เวลานานกว่าคดีถอดถอน จากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาแล้วส่งไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป

       นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะ กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า หลังจากที่สอบพยานบุคคลทั้ง 4 ปากแล้วเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จะรวบรวมคำให้การ เอกสาร และข้อมูลต่างๆ รายงานความคืบหน้าของการทำงานให้อนุ กรรมการป.ป.ช.ทราบและพิจารณาว่าพยานหลักฐานครบถ้วนหรือไม่ในสัปดาห์หน้า ถ้าเพียงพอแล้วจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.หากยังไม่เพียงพอจะได้สอบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ต่อไป

'ไพบูลย์'เรียกหารือ 7 องค์กรอิสระ

      เมื่อเวลา 14.00 น. ที่บ้านพักรับรองเกษะโกมล พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าส่วนงานกฎหมายและกระบวน การยุติธรรม คสช. เป็นประธานประชุมร่วมกับ 7 องค์กรอิสระ ประกอบด้วย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.) องค์กรอัยการ และสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

       ต่อมาเวลา 16.00 น. พล.อ.ไพบูลย์ เปิดเผยว่า เชิญผู้แทนองค์กรต่างๆ มาหารือและรับฟังข้อขัดข้องหลังจากคสช.เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งที่ผ่านมาองค์กรเหล่านั้นไม่ทราบว่าจะประสานงานกับใคร เนื่องจากไม่มีรัฐบาลและรัฐสภาแล้ว การพบกันครั้งนี้ถือเป็นการเปิดช่องทางประสานงานระหว่างกันให้ใกล้ชิดมากขึ้น นอกจากนี้ยังหารือถึงผลกระทบจากการยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งบางองค์กรได้รับผลกระทบบางส่วน แต่ไม่ได้มีปัญหามากนัก

      พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ส่วนที่ได้รับผลกระทบและต้องหารืออีกครั้งคือ กกต. เนื่องจากต้องจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น หลังจากเลื่อนมาจัดช่วงปลายเดือนมิ.ย.นี้ จึงเกรงว่าหากครบกำหนดและยังมีประกาศบางฉบับ ก็จะกระทบต่อการจัดการเลือกตั้ง จึงหารือว่าคสช.จะออกประกาศ หรือคำสั่งอนุญาตให้หาเสียงในบางพื้นที่ หรือจะให้เลื่อนการเลือกตั้งอีกหรือไม่ ซึ่งคิดว่าจะพิจารณาตามความจำเป็น บางเรื่องหากรอได้ ก็ขอให้รอสภานิติบัญญัติแห่งชาติก่อน แต่หากมีผลกระทบจริงก็จะออกประกาศหรือคำสั่งตามความเหมาะสม 

ปปช.ระบุพ.ร.บ.ปปช.ยังมีผลอยู่

     นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะ กรรมการป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือของคสช.กับ 7 องค์กรอิสระว่า หารือในเรื่องข้อกฎหมายหลังจากประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 อาจมีผลให้องค์กรอิสระประสบปัญหาอุปสรรคหรือผลกระทบ จึงทำความเข้าใจในกรอบการใช้อำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระ ยืนยันว่าสำนักงานป.ป.ช.สามารถปฏิบัติงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและการทำงานของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจได้ตามปกติ ตามประกาศของคสช. ฉบับที่ 24 ที่ให้พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 5 ฉบับยังมีผลบังคับใช้ รวมถึงพ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2550 และฉบับที่ 2 พ.ศ.2554) ด้วย 

      นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ทราบจากนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. ที่เป็นตัวแทนกกต. ไปหารือกับคสช.ว่าแต่ละองค์กรมีปัญหาติดขัดในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เนื่องจากยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งเป็นการหารือเพื่อให้กลับมาทำความเห็น เสนอคสช. ทราบ โดยไม่มีการพูดถึงการยุบ เลิกหรือปรับเปลี่ยนองค์กรอิสระตามที่มีข่าว 

เช็กข่าววุ่นหลังเล็งโละ 3 องค์กร 

      แหล่งข่าวจากที่ประชุมคสช. เผยว่าที่ประชุมหารือถึงข้อขัดข้องจากการยกเลิกรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการออกประกาศของ คสช.แต่ละฉบับว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งให้เสนอแนวทางแก้ไขกลับไปยังคสช. ในวันที่ 7 มิ.ย. เวลา 12.00 น. พร้อมกันนี้ในที่ประชุม คสช.ยังระบุว่าให้องค์กรต่างๆ ทำหน้าที่ตามกฎหมายที่มีอำนาจอยู่ต่อไป เพื่อบริการประชาชนอย่างเท่าเทียม คาดว่ากกต.จะทำข้อเสนอไปยังคสช. ขอให้พิจารณาถึงสถานภาพการคงอยู่ของ กกต.เพราะกกต.ยังคงมีส่วนช่วยเสนอความเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปการเลือกตั้งต่อไป จึงไม่เห็นว่าการยุบ กกต.ไปจะทำให้เกิดประโยชน์กับการปฏิรูป เท่ากับการให้ กกต.ยังคงทำหน้าที่ต่อไป

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่าคสช.จะยุบองค์กรอิสระบางส่วนจึงเรียกให้ไปหารือนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่และพนักงานของ กกต.พากันสอบถามข้อเท็จจริงจากสื่อมวลชนอย่างมาก กระทั่งล่าสุด ผอ.ฝ่ายกิจการเลขาธิการกกต. แจ้งผ่านไลน์กรุ๊ปของ ผู้บริหารและพนักงาน กกต.ทั่วประเทศ มีข้อความว่า"เลขาธิการกกต. เรียนผู้บริหาร พนักงาน เจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต. ให้ทราบว่า ตามที่มีข่าวปรากฏทางสื่อว่าจะยุบองค์กรอิสระนั้นเป็นเพียงข่าวที่ไม่มีมูล ขอให้พนักงานตั้งใจปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบอย่างเต็มความสามารถ"

'บิ๊กตู่'แจงแผนปรองดอง-ปฏิรูป

      เมื่อเวลา 21.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้าคสช. กล่าวในรายการคืนความสุขให้กับคนในชาติ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจตอนหนึ่งว่า การเข้าควบคุมอำนาจของคสช.มีเหตุผลและความจำเป็น สำคัญที่สุดคือเราเคารพกระบวนการประชาธิปไตย การที่เราเข้ามาเนื่องจากการบริหารราชการใน 3 ส่วน คือส่วนบริหาร ส่วนนิติบัญญัติ และส่วนตุลาการจะถูกทำลายลง เราจำเป็นต้องรักษาประชาธิปไตยนี้ไว้ให้ได้ ซึ่งการใช้อำนาจรัฐในปัจจุบัน กฎหมายปกติและกฎอัยการศึกยังจำเป็นต้องทำควบคู่กันไป วันนี้เราใช้กฎหมายที่แรงที่สุด แต่เราจะใช้เท่าที่จำเป็น

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าการตั้งศูนย์ปรอง ดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป(ศปป.) ก็เพื่อให้ทุกคนหันหน้ามาพูดคุยกันให้ได้ก่อน โดยทหารจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกและเป็น ผู้สังเกตการณ์ เป็นผู้ให้ข้อมูลโดยเอาข้อมูลจากทุกกลุ่มในเรื่องปรองดองสมานฉันท์ ส่วนการปฏิรูปก็มีหลายคณะทำมาเช่นกัน ใครอยากมาคุยตรงนั้นก็มาคุย ทั้งการเมือง ผู้ขัดแย้ง ฉะนั้นเชิญชวนทุกฝ่ายให้มาคุยกันโดยทหารจะไม่ตัดสินว่าถูกหรือผิด ทุกอย่างจะนำไปสู่ขั้นที่ 2 ของรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นมา มีทั้งสภาปฏิรูป สภานิติบัญญัติ เรื่องทั้งหมดจะเข้าไปในสภาปฏิรูป เรื่องใดที่เข้าใจกันแล้วทำได้แล้วก็ไปสู่ฝ่ายกฎหมายคือนิติบัญญัติทำออกมาเป็นกฎหมาย

ลั่นกำกับดูแลงบทหารด้วยตัวเอง

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลายคนห่วงว่าเราใจร้อนเกินไป แต่ผมพยายามเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในขั้นที่ 2 ในการตั้งสภา ขอร้องทุกคนต้องมองไปข้างหน้า เราทำงานมาแค่ 10 กว่าวัน เราเอาความเดือดร้อน ความเร่งด่วนโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจของประชาชนมาดำเนินการต่อเนื่อง อะไรที่ทำได้ไม่เป็นภาระ ไม่มีผลกระทบระยะยาวต่อทุกระบบก็ดำเนินการได้ การทุจริตทั้งที่ผ่านมาหรือยังอยู่ในกระบวนการต้องดำเนินการ ผู้ที่มีความผิดต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย 

       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า งานด้านความมั่นคงนั้น ไม่อยากให้คิดว่าเป็นเรื่องของทหาร ตำรวจหรือราชการเท่านั้น ทุกคนมีส่วนร่วมด้านความมั่นคง ทุกคนเฝ้าระวังได้ ช่วยกันดูแล ส่วนการเสริมสร้างกำลังของกองทัพ ไม่ว่าคน อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ตนจะกำกับดูแลให้เป็นไปตามแผนพัฒนากองทัพ ไม่ให้มีกระบวนการทุจริต

       หัวหน้าคสช. กล่าวว่า เรื่องการจำนำข้าวและการระบายข้าวมีความสัมพันธ์กัน ถ้าเรารีบระบายจนเกินไปจะเสียราคาแล้วเกิดการทุจริต เราจะทำด้วยความรอบคอบ ต้องมีการพิสูจน์ทราบ ตรวจบัญชี ตรวจข้าวก่อน ซึ่งเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม หากมีผู้กระทำความผิดต้องถูกดำเนินคดี ขณะนี้เราตั้งคณะทำงานด้านงบประมาณขึ้นมาตรวจสอบ มีทหารเป็นแกนนำขับเคลื่อน จะตรวจสอบทุกกระทรวง ทุกแผนงานที่ป็นปัญหาหรือยังไม่ชัดเจน ไม่เป็นไปตามนโยบาย แล้วเสนอให้หัวหน้า คสช.ตัดสินใจอีกครั้ง จะได้ไม่ผิดพลาด

อาทิตย์หน้าเริ่มอนุมัติโครงการ

     "เราจะไม่ผลีผลามใช้จ่ายงบประมาณ ทุกขั้นตอนต้องโปร่งใส หยุดการทุจริตให้ได้ อย่าไปหลงเชื่อใครว่าผู้ใดจะสั่งการ หรือให้หัวหน้า คสช. สั่งเรื่องนี้เรื่องนั้นให้ ไม่มีทาง ผมไม่พบใครทั้งสิ้น อะไรที่ผมไม่ได้พูดเอง กรุณามาถามผมหรือถามผ่านกลไกของคสช.ว่าใช่หรือไม่ จริงหรือไม่ ผมไม่พบใครเลย ผมเพียงรับคำปรึกษามาจากหลายส่วนโดยผ่านคณะทำงานของผมทั้งสิ้น ขอให้มั่นใจการทำงานของเรา" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

     พล.อประยุทธ์ กล่าวว่า คสช.ยืนยันไม่มีผลประโยชน์ใดๆ เรามาเพื่อแก้สิ่งเหล่านั้น เราคงไม่มาทำโครงการใหม่ แต่จะตรวจสอบให้ดี จะตรวจสอบทุกเรื่อง ซึ่งการใช้อำนาจเด็ดขาดในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น เป็นอันตรายต่อระบบการเงินการคลังของประเทศในระยะยาว วันนี้หนักสุดคือเรื่องพลังงาน ภาษี ราคาสินค้า ขนส่ง ระบบนายทุน มีปัญหามากต้องแก้ไข ประชาชนต้องเข้าใจ ส่วนการอนุมัติโครงการ เราจะเร่งดำเนินการโดยเร็วเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ สัปดาห์หน้าจะประชุมเหมือนการประชุมโดยคณะรัฐมนตรี หรือนายกฯในการอนุมัติโครงการต่างๆ ที่เกินอำนาจของกระทรวงหรือรัฐมนตรี อาทิตย์หน้าเริ่มดำเนินการ 

เตรียมฟันผู้มีอิทธิพล-พนันบอล

       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าส่วนการปิดสื่อนั้น บางสื่อผิดกฎหมายหรือมีผลกระทบต่อความขัดแย้ง คงต้องหาข้อตกลงทำสัญญา ทำสัญญาให้ถูกต้องตามกฎหมายที่กสทช.ควบคุม ตนพูดถึงทุกสื่อขอให้ทำถูกต้อง และอย่ากล่าวถึงความขัดแย้งหรือมาโจมตีว่ากล่าว คสช. ซึ่งทำงานอยู่ขณะนี้ ขอร้องกัน ทั้งนี้ คสช.จะไม่ทะเลาะกับใครหรือกลุ่มใดที่มีความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ เนื่องจากทุกกลุ่มมีเหตุผลของตนเอง เแต่ต้องพูดคุย 

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กลุ่มต่างๆ ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปพูดคุยกับอาจารย์ที่อยู่ต่างประเทศก็ยินดีร่วมมือกับ คสช. เช่นเดียวกับทุกคนที่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง สัญลักษณ์ด้านประชาธิปไตย แต่ขอให้เข้าใจในสถาน การณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากคสช.แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ จะเคลื่อนไหวหรือแสดงความคิดเห็นทางการเมืองสามารถทำได้ แต่ขออย่าให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก สิ่งที่ คสช.จะดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือเรื่องผู้มีอิทธิพล เรื่องการพนันต่างๆ โดยเฉพาะการพนันฟุตบอล ขอให้หน่วยงานเร่งดำเนินการ 

      "ขอวอนนิสิตนักศึกษา กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ หากมีการประท้วงเกิดขึ้นก็จะดำเนินการตามกฎหมาย สิ่งนี้เกิดขึ้นมาทุกยุคทุกสมัย ขอให้นิสิตนักศึกษาเข้าใจ ขอให้ทุกคนช่วยกันปฏิรูปประเทศขึ้นใหม่ จากการที่ประเทศ ไทยใกล้จะพังทลายลงทุกระบบ ขอให้ร่วมมือกับคสช. วันนี้ต้องไม่มีพวกไม่มีฝ่าย" พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

เตือนชู 3 นิ้วนอกบ้าน-มีความผิด

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนการชู 3 นิ้วถือว่าเป็นหลักการของต่างประเทศ ตนไม่อยากขัดแย้ง แต่ถ้าจะชู 3 นิ้ว ขอให้ชูในบ้าน หากชูนอกบ้านก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิด ต่อประกาศ วันนี้ต้องชู 5 นิ้วกันแล้ว 2 นิ้วคือเพื่อชาติ อีก 3 นิ้วคือศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ขอร้องอย่าชู 3 นิ้วเลียนแบบต่างชาติ เลียนแบบภาพยนตร์ ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่อยากให้ภูมิใจเพราะเรายังอยู่กันได้ แม้จะทะเลาะ โกรธหรือเกลียดกัน ทั้งนี้ ขอเวลามาร่วมมือกัน ตนจะพยายามทำทุกอย่างนุ่มนวลลง ไม่อยากให้ทุกคนเกรงกลัวอำนาจรัฐโดยการใช้กฎหมายสูงสุด แต่ต้องการให้รับรู้ว่าใครทำผิดต้องยอมรับผิด ถ้าใครไม่ได้ทำผิดก็ไม่ต้องกลัว เราต้องการคืนความชอบธรรม ความเป็นธรรมให้แก่ทุกคน หากพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้กระทำผิด ดังนั้นกระบวนการยุติธรรมเป็นเกณฑ์ตัดสิน ขอความร่วมมือจากทุกคนในประเทศ ถ้าทุกคนเป็นคนไทยน่าจะเข้าใจตนวันนี้

สั่งเรียกพบอีก-ทนง"ป.เป็ด"ด้วย

      เมื่อเวลา 21.45 น. คสช.มีคำสั่งที่ 50/2557 เรียกบุคคลรายงานตัวเพิ่มเติม ที่สโมสรทหารบก เทเวศร์ วันที่ 7 มิ.ย. เวลา 10.00-12.00 น. ดังนี้ 1.นายทนง ศิริปรีชาพงษ์ 2.นายอุสมา สะแลแมง 3.นายวิจารณ์ แสนลี 4.นายจำเริญ ชีวินเฉลิมโชติ 5.นายมนตรี พฤกษาพันธ์ทวี 6.นายวสุพล จตุรคเชนทร์เดชา 7.นายหรั่ง ธุระพล 8.น.ส.นุชนาถ สุวรรณคร 9.นายฉกาจ คหบดีรัตน์ 10.พ.ต.ท.อุทัย บทมาตย์ 11.นายเจ๊ะอาแว สะมารอเม๊าะ 12.นายประสิทธิ์ ดวงเพ็ชร 

ชง6มาตรการด่วนหยุดยาเสพติด

      เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ป.ป.ส.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และพ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวร่วมกันประชุมเรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด

     พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ป.ป.ส. ออกมาตรการเร่งด่วน 6 มาตรการ ระยะเวลา 30 วัน พื้นที่เฝ้าระวัง 3,250 ชุมชน 804 อำเภอทั่วประเทศ โดย 1.สกัดกั้น ปราบปรามจับกุม และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2.จัดระเบียบและเฝ้าระวังสถานบริการและสถานประกอบการ โดยกระทรวงมหาดไทย 3.บำบัด ฟื้นฟู และสร้างภูมิคุ้มกัน โดยกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุข 4.ยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้อง โดยป.ป.ส. 5.ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยป.ป.ส. และ6.ติดตามประเมินผล โดยป.ป.ส. จากนั้นจะรายงานให้ คสช. ทราบทุก 15 วัน

       พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบทั้ง 6 มาตรการ ถือเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ทุกหน่วยจะต้องช่วยกันดำเนินการให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยความฉับไว และมีประสิทธิภาพ สามารถคืนความสุขให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง จะประเมินผลครั้งแรกใน 30 วัน และขอให้ทุกหน่วยแก้ไขปัญหาเป็นเอกภาพ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ส่วนด้านงบประมาณของทุกหน่วยจะเข้าไปดูแลแก้ปัญหา ทั้งนี้ไม่สนใจว่าตัวเลขจับกุมได้กี่ล้านเม็ด ขอให้ดูกันที่รูปธรรม

       ด้านพ.ต.อ.สุชาติกล่าวถึงกรณีที่มีภาพนักโทษหลุดจากเรือนจำคลองไผ่ว่าจากการบุกตรวจค้นจับกุม พบสิ่งของต้องห้ามเป็นโทรศัพท์มือถือ 44 เครื่อง ยาบ้ากว่า 100 เม็ด สั่งการให้ดำเนินการกับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบอย่างเด็ดขาด ขณะนี้กำลังพิจารณาความผิดทางวินัยอยู่

ศนปท.จัดกินแซนด์วิชต้านปฏิวัติ

     เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 6 มิ.ย. ที่ด้านนอกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประตูพหลโยธิน กลุ่มศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย (ศนปท.) และเครือข่าย ประมาณ 10 คน จัดกิจกรรมกินแซนด์วิช และแจกแซนด์วิชให้นักศึกษา และประชาชนที่เดินทางผ่านไปมาในบริเวณดังกล่าว เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร โดยไม่มีการอ่านแถลงการณ์ ชูป้าย หรือตะโกนข้อความต่างๆ แต่อย่างใด ขณะที่ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บริเวณรอบลาน หน้าประชุมใหญ่ ประตูพหลโยธิน ซึ่งเป็นบริเวณที่กลุ่มนักศึกษาต้องการจะใช้พื้นที่ตามกำหนดการที่ได้แจ้งสื่อมวลชนก่อนหน้า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน บก.น.2 ชุดควบคุมฝูงชนหญิง และทหาร ร.11 รอ. รวมประมาณ 300 นาย กระจายกำลังอยู่โดยรอบ พร้อมรถควบคุมผู้ต้องขัง ราว 4 คัน จอดอยู่ภายใน ส่วนที่ประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย ฝั่งถนนพหลโยธิน ไม่เปิดให้มีการเข้า-ออก โดยมีการติดป้าย ระบุว่า"ห้ามเข้า พื้นที่ควบคุม"

      ตัวแทนจากศนปท. ยังกล่าวว่า วันนี้มีหลายคนตั้งใจเดินทางมา แต่บางส่วนก็ไม่กล้าแสดงออกเมื่อพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารมากันเป็นจำนวนมาก ส่วนคนที่ออกมาพูดในวันนี้ ก็พร้อมจะยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะเพื่อนของตนที่เคยปราศรัยที่ลานโพธิ์ ม.ธรรมศาสตร์ เมื่อครั้งที่ศนปท. จัดกิจกรรมครั้งก่อนหน้า ก็ถูกค้นบ้านไปแล้ว วันนี้ ตนแค่มากินแซนด์วิช ไม่มีการพูดเรื่องการเมืองสักคำ หากตนถูกจับกุมดำเนินคดี สังคมก็ต้องพิจารณากันแล้วว่า มีคนถูกจับเพราะกินแซนด์วิชเท่านั้นเอง

     ต่อมา พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 เดินทางมาเจรจากับกลุ่มนักศึกษาขอให้นักศึกษาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ด้วยการแยกย้ายกันเดินทางกลับ แต่กลุ่มนักศึกษา เจรจาว่า ขอแจกแซนด์วิชให้หมดก่อน จึงจะแยกย้ายเดินทางกลับ โดยกลุ่มนักศึกษายังแจกแซนด์วิชให้พ.ต.อ.คมศักดิ์ แต่พ.ต.อ.คมศักดิ์ปฏิเสธ จากนั้น กลุ่มนักศึกษาช่วยกันแจกแซนด์วิชต่อ ก่อนจะแยกย้ายเดินทางกลับในเวลาประมาณ 17.15 น. ใช้เวลาในการทำกิจกรรมประมาณ 30 นาที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการทำกิจกรรมแจกแซนด์วิชของเจ้าหน้าที่ มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ไม่ทราบสังกัด คอยบันทึกภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว การทำกิจกรรมของกลุ่มนักศึกษาตลอดเวลา เมื่อนักศึกษาทยอยเดินทางออกจากพื้นที่ด้านหน้ามหาวิทยาลัย ฝั่งพหลโยธิน ก็มีการส่งเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ คอยติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาอย่างใกล้ชิด แต่ไม่พบว่ามีการควบคุมตัวนักศึกษาแต่อย่างใด

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจ "พวกเราคือ สมบัติ บุญงามอนงค์" ประกาศนัดชุมนุมเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหาร วันที่ 8 มิ.ย. เวลา 14.00 น. โดยนัดให้เตรียมพร้อมตามสถานีบีอาร์ที สถานีเอ็มอาร์ที และแอร์พอร์ตลิงก์ที่สะดวกหรือใกล้บ้าน มีเป้าหมายการไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการชู 3 นิ้ว ที่ 1.สนามบินสุวรรณภูมิ 2.ร้านแมคโดนัลด์ ราชประสงค์ 3.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 4.สยามพารากอน 5.วัดพระแก้ว และหลังพร้อมกันที่สถานีต่างๆ แล้ว จะแจ้งให้ทราบถึงการเคลื่อนไหวอีกครั้งในเวลา 15.30 น.

นิติเวชชี้ศพถ่วงน้ำ-เพศชาย

      เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ บช.น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. ดูแลงานสืบสวน เปิดเผยกรณีพบศพถ่วงน้ำที่คลองผดุงกรุงเกษม ใกล้พื้นที่การชุมนุม เมื่อบ่ายวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ศพที่พบอยู่ในสภาพค่อนข้างเน่าเปื่อยทางกายภาพ ขณะนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างแน่ชัดว่า เป็นศพผู้ชายหรือผู้หญิง อายุเท่าใด ส่วนการตรวจสอบทางลายนิ้วมือไม่สามารถทำได้ เนื่องจากศพอยู่ในสภาพเน่า แต่ยังสามารถตรวจสอบหาดีเอ็นเอของผู้ตายได้

     พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวต่อว่า ได้มีการประสานกับทางพล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ 10) อย่างใกล้ชิดในการตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคล แต่ยอมรับว่าภาพจากกล้องวงจรปิดคงหาได้ค่อนข้างยากตามสภาพ เนื่องจากเป็นพื้นที่ปิดจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ศพที่พบหากเป็นเรื่องสถานการณ์การชุมนุมจะถือว่าเป็นเคสที่ 5 แต่ก็ต้องตรวจพิสูจน์ให้ได้เสียก่อนว่าผู้ตายถูกฆ่าจากเหตุการณ์ชุมนุมหรือไม่ รวมถึงเป็นผู้ใดจึงมาเสียชีวิตในจุดดังกล่าว

     ที่สถาบันนิติเวชวิทยา (ตร.) พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.นิติเวชวิทยา เปิดเผยว่า จากการตรวจพิสูจน์ศพระบุว่าเป็นเพศชาย ส่วนสูงประมาณ 168 ซ.ม. อายุประมาณ 25-35 ปี คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วมากกว่า 1 เดือน นอกจากนี้ ยังพบหัวเทียนที่กระเป๋าหลังด้านซ้ายของกางเกงที่พบในที่เกิดเหตุ สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะประกอบอาชีพเกี่ยวกับช่าง และพบสายศีล 5 สี ที่ข้อมือด้านขวา กะโหลกศีรษะพบรอยแตกที่สันจมูก สันนิษฐานได้ว่า อาจถูกกระทบด้วยของแข็งก่อนเสียชีวิต และยังพบประวัติการทำฟัน ซึ่งผู้ตายมีลักษณะฟันด้านหน้ายื่นออกมา ส่วนฟันล่างซ้ายซี่ที่ 6 มีการอุดด้วยตะกั่ว และฟันซี่ที่ 8 ของทุกซี่เป็นฟันคุด ข้อมูลตรงนี้จะสามารถระบุกลุ่มของผู้ตายได้ ทั้งนี้ จะตรวจสอบชิ้นส่วนกระดูกต่างๆ อีกครั้ง 

      พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่า หากมีญาติพบว่ามีคนในครอบครัวหายไปนาน 1 เดือน สามารถติดต่อได้ที่สถาบันนิติเวชวิทยา ร.พ.ตำรวจ หากญาติมีภาพถ่ายของผู้สูญหายที่ยิ้มเห็นฟัน หรือถ้าไม่มีให้นำคนในครอบครัวมาตรวจสอบเปรียบเทียบดีเอ็นเอได้ และหากมีประวัติหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำฟันก็จะตรวจสอบได้เร็วขึ้น

'ประยุทธ์'ปรามชู 3 นิ้วต้าน ชู 5 นิ้วแทน ศาลทหารปล่อยตัว'อ๋อย'ร่างธรรมนูญใกล้เสร็จ เสนอ'คสช.'สัปดาห์หน้า สนช.-ปฏิรูปสภาละ 200 บิ๊กต๊อกถก7องค์กรอิสระ เรียกรายงานตัวอีก 12 คน

 

 

 

  


ได้ประกันตัว - นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ ปล่อยนกพิราบภายหลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งให้เข้ารายงานตัวของ คสช. โดยมีครอบครัวและประชาชนมาให้กำลังใจจำนวนมาก ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 
 


ปรับวิธีต้าน - กลุ่มนักศึกษาที่เคยจัดกิจกรรมคัดค้านรัฐประหารมารวมตัวกลุ่มย่อยๆ ปรับเปลี่ยนกิจกรรมการต่อต้านด้วยการนำแซนด์วิชมาแจกผู้ที่ผ่านไปมา แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าห้ามปรามให้แยกย้ายกันไป บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้านถนนพหลโยธิน เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน


เร่งปราบ -พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. ตรวจเยี่ยมสำนักงาน ป.ป.ส. และประชุมเร่งรัดการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยมี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน

     'อ๋อย'ปล่อยพิราบ 9 ตัว หลังศาลทหารให้ประกัน แต่ห้ามไปนอก-พูดยุยง ทีมโฆษก คสช.แจงคุมตัว"บ.ก.ลายจุด'ในสถานที่พิเศษ 7 วัน 'บิ๊กต๊อก"ส่อเลื่อนเลือกตั้งท้องถิ่นอีก รอ"สนช.'คลอดก่อน กกต.ชง 3 เรื่องให้ คสช.พิจารณา

ขอฝากขัง'อ๋อย'ผลัด 2 

       เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 6 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯนำตัวนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่สวมใส่ชุดนักโทษ พร้อมกุญแจมือนั่งรถควบคุมผู้ต้องขัง เดินทางไปศาลทหารกรุงเทพฯ ทั้งนี้ นายจาตุรนต์มีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ได้แสดงท่าทีกังวลท่ามกลางระบบการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด 

     ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นำตัวนายจาตุรนต์ มาขออำนาจศาลทหารฯฝากขังเป็นผลัดที่ 2 หลังครบกำหนดฝากผลัดที่ 1 เนื่องจากนายจาตุรนต์ไม่ยอมมารายงานตัวตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อีกทั้งถูกแจ้งข้อกล่าวหาปลุกปั่น ยั่วยุในเกิดความไม่สงบสุขในราชอาณาจักร 

น้องชี้อ๋อย-แมนเดลาเมืองไทย 

      นางฐิติมา ฉายแสง อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น้องสาวของนายจาตุรนต์ ซึ่งเดินทางไปที่ศาลทหาร กล่าวว่า พี่ชายมีจิตใจเข้มแข็งมาก ทุกคนที่มาเพื่อให้กำลังใจ หลายคนเรียกนายจาตุรนต์ว่า เนลสัน แมนเดลา เมืองไทย จึงต้องมาให้กำลังใจกับผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย สิ่งที่พี่ชายทำเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เราต้องการให้ประเทศชาติเป็นไปในทิศทางสากล คิดว่าศาลทหารคงเข้าใจ 

       "พี่ชายมีจิตใจเข้มแข็ง เป็นผู้นำมาตั้งแต่เด็ก ส่วนบิดาก็มีความรู้สึกเครียดเป็นปกติ เพราะอายุมาก ท่านก็รู้ว่าลูกชายเป็นผู้นำ แต่ความเป็นพ่อก็เป็นห่วงลูกธรรมดาไม่ว่าจะอยู่ในเรือนจำหรือค่ายทหารก็ถือว่าขาดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน" นางฐิติมากล่าว

       ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่บริเวณหน้าศาลทหาร มีมวลชนประมาณ 50 คนจาก จ.ฉะเชิงเทรา มาให้กำลังใจนายจาตุรนต์ พร้อมฝากดอกกุหลาบสีแดงให้นางฐิติมา ไปมอบให้นายจาตุรนต์ และให้นายจาตุรนต์สู้ๆ ขณะที่ตัวแทนสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ยื่นขอให้ศาลทหารปล่อยตัวชั่วคราวนายจาตุรนต์ 

ศาลทหารไต่สวนฝากขัง

       ต่อมา เวลา 10.30 น. ที่ศาลทหารกรุงเทพ องค์คณะตุลาการศาลทหาร ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีที่เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน จากกองบังคับการกองปราบปรามยื่นคำร้องขอฝากขังนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผลัดที่ 2 โดยพนักงานสอบสวนชี้แจงกับศาลว่า เนื่องจากขณะนี้ยังสอบพยานบุคคลไม่แล้วเสร็จจำนวน 4 ปาก รวมถึงการตรวจสอบพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นคลิปคำแถลงของนายจาตุรนต์ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง และการตรวจสอบคดีประวัติอาชญากรรม โดยศาลได้สอบถามพนักงานสอบสวนว่าช่วงที่ผ่านมาได้ดำเนินการสอบสวนนายจาตุรนต์แล้วเสร็จหรือไม่ พร้อมกับขอให้ยืนยันเหตุผลของการขอฝากขังผลัดที่ 2 ซึ่งพนักงานสอบสวนระบุว่าได้สอบสวนนายจาตุรนต์เสร็จแล้ว และขอยืนยันเหตุผลในการฝากครั้งที่ 2

'อ๋อย'แจงค้านฝากขังผลัด 2

    จากนั้นองค์คณะตุลาการศาลสอบถามนายจาตุรนต์ว่าจะคัดค้านการขอฝากขังผลัดที่ 2 หรือไม่ นายจาตุรนต์ลุกขึ้นยืนชี้แจงว่า ขอคัดค้านการฝากครั้งที่ 2 เพราะเห็นว่าการฝากครั้งผลัดแรกจำนวน 12 วัน ทางพนักงานสอบสวนสามารถตรวจสอบพยานให้แล้วเสร็จได้ ส่วนการรอผลการพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานกลางนั้น ทำไมเจ้าหน้าที่ไม่ตรวจสอบคลิปดังกล่าวให้แล้วเสร็จก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหา สำหรับการตรวจสอบทะเบียนประวัติอาชญากรรมนั้นตนมีอาชีพเป็นนักการเมืองดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาหลายสมัย จึงไม่มีประวัติทางอาชญากรรมอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่ยังต้องฝากขังต่อไป 

      นายจาตุรนต์ ชี้แจงอีกว่า ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาทั้งการขัดคำสั่ง คสช. การรายงานตัวฉบับที่ 1/2557 และข้อกล่าวหาว่าการแถลงข่าวเป็นการยุยงส่งเสริม ถือเป็นข้อหาที่หนัก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีทนายความ และผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากในการพิจารณาต่อสู้คดี เพราะถือเป็นพลเรือนคนแรกในรอบ 10 ปีที่ขึ้นศาลทหาร ดังนั้นหากมีการควบคุมอยู่จะทำให้เสียสิทธิในการต่อสู้คดี และที่ผ่านมาไม่เคยมีพฤติกรรมหลบหนี จะเห็นได้ว่าในวันแถลงข่าวยอมให้เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัว 

ให้ฝากขังผลัด 2 อีก 12 วัน

     ต่อมาศาลอ่านคำสั่งให้ฝากขังนายจาตุรนต์เป็นผลัดที่ 2 ระหว่างวันที่ 9-20 มิถุนายนนี้เป็นเวลา 12 วัน

     ผู้สื่อข่าวรายงานในการพิจารณาคดีนี้ ทางศาลอนุญาตให้สื่อมวลชนจำนวน 8 คน เข้าไปรับฟังการพิจารณาในห้องพิจารณาคดีครั้งนี้ด้วยแต่ไม่อนุญาตให้นำอุปกรณ์สื่อสาร เครื่องบันทึกเทป รวมถึงสมุดจดบันทึกเข้าไปในห้อง เช่นเดียวกับญาติ ทีมทนายความ และผู้ที่เกี่ยวข้องคนอื่นๆ ซึ่งในห้องพิจารณาคดีมีนายวุฒิพงศ์ ฉายแสง น.ส.ฐิติมา ฉายแสง น้องชายและน้องสาวของนายจาตุรนต์ รวมถึงนางจิราภรณ์ ฉายแสง ภรรยานายจาตุรนต์ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. ทั้งนี้ นายจาตุรนต์ สวมชุดผู้ต้องขังสีน้ำตาล พร้อมถูกสวมกุญแจมือ โดยมีสีหน้าเรียบเฉย และตลอดเวลา ที่รับฟังศาลได้จดบันทึก ส่วนนางจิราภรณ์นั้นมีสีหน้าไม่สู้ดี ระหว่างรอฟังคำสั่งศาล ทั้งนี้ ศาลใช้เวลาไต่สวน รวมทั้งอ่านคำสั่งเป็นเวลาประมาณ 40 นาที

ศาลให้ประกันตัว'อ๋อย'

      ต่อมาช่วงบ่าย นายนรินพงษ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ในฐานะทีมทนายความของนายจาตุรนต์กล่าวว่า หลังจากช่วงเช้าที่ศาลทหารมีคำสั่งให้ฝากขังนายจาตุรนต์ผลัดที่ 2 ทีมทนายความได้ทำเรื่องขอประกันตัวขอปล่อยตัวชั่วคราวทันที โดยให้เหตุผลว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ต้องหาจะได้รับตามหลักนิติธรรม อีกทั้งการกระทำของนายจาตุรนต์เป็นการเรียกร้องประชาธิปไตยโดยสันติวิธี ภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน โดยไม่มีการหลบหนีและพร้อมต่อสู้คดี

       "โดยศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว โดยใช้หลักทรัพย์เงินสด 4 แสนบาท โดยมีภรรยานายจาตุรนต์เป็นนายประกัน พร้อมห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่ศาลอนุญาต และห้ามชุมนุมทางการเมืองหรือก่อให้เกิดความไม่สงบด้วยวาจาหรือวิธีอื่น เช่น ทำเป็นหนังสือ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน" นายนรินพงษ์กล่าว และว่า สำหรับแนวทางการต่อสู้คดีต่อจากนี้ ทีมทนายความจะหารือกันต่อไป โดยศาลยังไม่มีคำสั่งนัดเพิ่มเติม เชื่อมั่นว่าศาลทหารมีความยุติธรรม 

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลมีคำสั่งให้ประกันตัวแล้ว เมื่อเวลา 14.50 น. นายจาตุรนต์นั่งรถควบคุมผู้ต้องขัง ออกจากศาลทหารกรุงเทพ กลับไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อทำเรื่องขอปล่อยตัวต่อไป

'อ๋อย'ปล่อยนกพิราบ9ตัว

      ต่อมาเมื่อเวลา 16.50 น. นายจาตุรนต์เดินออกจากประตูเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯหน้าตายิ้มแย้ม ในชุดเสื้อเชิ้ตลายทาง กางเกงขายาวสีดำ โดยมีนางจิราภรณ์ ฉายแสง ภรรยา เข้าไปโอบกอด พร้อมน้องสาว น้องชาย และกลุ่มมวลชนที่มามอบดอกกุหลาบให้นายจาตุรนต์ และตะโกนให้กำลังใจว่า "สู้ๆๆ" จากนั้นนายจาตุรนต์ปล่อยนกพิราบ 9 ตัวเพื่อแสดงสัญลักษณ์ของอิสรภาพ 

       นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจ และขอบคุณคณะผู้พิพากษาที่อนุญาตให้ประกันตัว หลังจากนี้เตรียมสู้คดี 2 ข้อหา คือ ฝ่าฝืนกฎอัยการศึก และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง แต่ยืนยันจะดำเนินงานสร้างความปรองดองแก่บ้านเมืองด้วยสันติวิธีต่อไป

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายจาตุรนต์เดินทางขึ้นรถยนต์วอลโว่สีเทา รุ่นวี 50 ทะเบียน 2 กข 232 กรุงเทพมหานคร ไปกราบไหว้หลวงพ่อโสธร ที่วัดโสธรวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา

      ต่อมา ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา นายจาตุรนต์ พร้อมนางจิราภรณ์ ภรรยา นายอนันต์ ฉายแสง บิดา อดีต ส.ส. และรัฐมนตรีหลายสมัย นายกลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง และนางฐิติมา ฉายแสง เดินทางไปนมัสการกราบไหว้หลวงพ่อพุทธโสธร โดยถวายผ้าไตรและปัจจัยแด่พระภิกษุ ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นไปด้วยความอบอุ่น มีผู้นำท้องถิ่น และประชาชนมามอบช่อดอกไม้จำนวนมาก 

'ปู'ปัดส่งจ.ม.ปลอบอ๋อย 

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเผยแพร่เอกสาร โดยอ้างว่าเป็นจดหมายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ส่งถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา ธิการ ผ่านทางสังคมโซเชียล โดยเนื้อหาในจดหมายแสดงความเป็นห่วงนายจาตุรนต์ที่ถูกคุมขัง แต่จากการสอบถามบุคคลใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับการยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้เขียนจดหมายฉบับดังกล่าว คาดว่าเป็นบุคคลที่ไม่หวังดี หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ารายงานตัวต่อ คสช.แล้ว ก็ใช้ชีวิตตามปกติ นอกจากจะอยู่บ้านพักในซอยโยธินพัฒนา 3 แล้ว ก็ไปรับส่ง ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชายที่โรงเรียน โดยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ โดยช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ไปซื้อสินค้าที่ห้างเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้ามาขอถ่ายรูปกันต่อเนื่อง

คุม'บ.ก.ลายจุด'ในที่พิเศษ

       ส่วนการจับกุมตัวนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี เมื่อกลางดึกวันที่ 5 มิถุนายนนั้น พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รอง ผบช.ก.ตร. รักษาการ ผบช.ภ.2 กล่าวว่า ตำรวจและทหารจับกุม บ.ก.ลายจุดจริง ขณะนี้อยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว แต่อยู่ที่ใดนั้นยังบอกไม่ได้ 

      พ.อ.วินธัย สุวารี คณะทำงานโฆษก คสช. กล่าวว่า ควบคุมตัวนายสมบัติไว้ในพื้นที่พิเศษ คล้ายๆ กับบุคคลที่เข้ามารายงานตัว เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจและปรับทัศนคติ เป็นเวลาไม่เกิน 7 วัน จากนั้นจะส่งต่อให้พนักงานสอบสวนรวบรวมสำนวนและส่งฟ้องตามขั้นตอนต่อไป ส่วนข้อหาของนายสมบัติ คือการขัดต่อประกาศ คสช. และยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ แต่ต้องรอให้เจ้าพนักงานทำการสอบสวนก่อนจึงจะทราบว่าจะตั้งข้อกล่าวหาใดบ้าง ส่วนนายสมบัติจะถูกตั้งข้อหาผิดกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ ยังเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน เป็นเรื่องของเจ้าพนักงานสอบสวน ต้องรอความชัดเจนประมาณ 1 สัปดาห์ ทั้งนี้กระบวนการจะยังเป็นเช่นเดิมคือขึ้นศาลทหาร แต่ขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมยังเป็นของตำรวจที่จะสอบสวนและยื่นฟ้อง ส่วนผู้ที่ให้ที่กบดานแก่นายสมบัติจะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่ ต้องรอผลการสอบสวนก่อน

เผย'สมบัติ'โพสต์ก่อนถูกจับ

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรีนั้น ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 5 มิถุนายน นายสมบัติได้โพสต์ข้อความว่าผ่านเฟซบุ๊ก "ความมั่นใจ เมื่อวานนักข่าวสัมภาษณ์ผมว่า มั่นใจแค่ไหนที่จะไม่โดนจับ ผมตอบกลับไปว่า มั่นใจมาก เพราะอยู่ในที่ที่มีมาม่ากินหลายเดือน วันนี้นักข่าวไปถามตำรวจที่เป็นหัวหน้าชุดติดตามในคำถามเดียวกัน ตำรวจตอบว่า มั่นใจมากที่จะจับตัวผมได้เร็วๆ นี้ ขอถามว่า ราคาต่อรองชั่วโมงนี้เป็นอย่างไรครับ" จากนั้นเวลาไล่เลี่ยกัน โพสต์ข้อความว่า "A4 ก็ไม่ได้เขียน ชู 3 นิ้วก็เปล่า แมคก็ไม่ได้ไปกิน (มีแต่ซาลาเปา) ไล่ล่าซะขนาดนี้ ถามคำเดียว กรูผิดอะไร อิๆ" ต่อมาโพสต์ข้อความอีกว่า "รณรงค์หยุดช่วยตัวเองในที่สาธารณะ ข่าวทหารไปยืนทำอนาจารที่หน้าห้องแต่งหน้าของผู้ประกาศข่าวช่อง 9 ทำให้ผมได้ข้อสรุปอย่างหนึ่งว่า อย่าคิดว่าความสุขของคุณจะสร้างความสุขให้คนอื่นเสมอไป" ต่อมาโพสต์ว่า "มีใครได้ยิน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ พูดเรื่องบ่อนที่ถูกจับเมื่อวานนี้หรือยัง?" 

     กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. นายสมบัติโพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้งว่า "พรุ่งนี้ผมนัดหมอไปผ่าเล็บขบไม่ว่าง 1 วัน ถ้าหายไปไม่อัพเดตเฟซอย่าตกใจนะครับ" หลังจากนั้นไม่ถึง 1 ชั่วโมง นายสมบัติโพสต์ข้อความซึ่งเป็นข้อความสุดท้ายว่า "ผมโดนจับแล้ว" ทำให้ผู้ที่เป็นแฟนเพจเข้ามาสอบถามเป็นจำนวนมากว่าเป็นเรื่องจริง หรือแค่ล้อกันเล่น แต่ไม่มีคำตอบใดๆ จากนายสมบัติ กระทั่งมีภาพและข่าวยืนยันว่า นายสมบัติถูกจับกุมจริง

ยูทูบเผยเสียงสุดท้ายบ.ก.ลายจุด

      ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ยูทูบเผยแพร่คลิปเสียงนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หัวข้อ "ข้อความ บ.ก.ลายจุด ถึงผู้รักประชาธิปไตย ไม่เอารัฐประหาร" ว่า "สวัสดีครับพี่น้องประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยทุกท่านครับ ผมสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุดครับ หากท่านได้ยินข้อความนี้ก็แสดงว่า ผมถูกควบคุมตัว หรือไม่สามารถหาตัวผมเจอ นะครับ ผมอยากจะสื่อสารเป็นข้อความถึงพวกเรา หนึ่ง ขอให้เราเชื่อว่า "อำนาจอธิปไตย" นั้นเป็นของปวงชน ก็คือหมายถึงว่า "อำนาจสูงสุด" นั้นเป็นของประชาชน ด้วยรากฐานในหลักการดังกล่าวนี้เป็นสิทธิอันโดยชอบธรรม ในการที่เราจะออกมาแสดงออกว่า "การทำรัฐประหาร" เป็นการทำลายหลักการดังกล่าว ไม่ใช่ประเด็นแค่ประเด็นทางการเมือง 

     แต่เป็นประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน เพราะนี่เป็น "สิทธิพื้นฐาน" ทางการเมืองของ "ประชาชน" ในการที่จะยืนยันว่าเราเป็นหุ้นส่วน เป็นส่วนหนึ่งของประเทศนี้ ในฐานะของคนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยร่วมกัน แม้ผมจะถูกเรียกให้ไปรายงานตัว และถูกประกาศในการจับตัว ควบคุมตัว ถูกข่มขู่ในรูปแบบต่างๆ ผมขอเรียนว่า ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ร้าย แต่ผมรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่า "ผมเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย" นี่คือสิ่งที่ผมถูกกล่าวหา และผมยืนอยู่บนหลักการนี้ และไม่ว่าจะเกิดอะไรกับผมก็ตามที นั่นไม่ใช่ความผิดของผม แต่การยืนยันในเรื่องสิทธิของตนเองนั้น จำเป็นที่จะต้องยืนหยัดถึงที่สุด และแม้นว่าผมจะติดคุก ถูกทำร้าย หรือใดๆ ก็ตาม นั่นไม่ใช่ "ค่าใช้จ่ายที่ผมต้องจ่าย" แต่เป็นเรื่องของการประกอบอาชญากรรมทางการเมืองกับประชาชนที่ใฝ่หาเสรีภาพ เสมอภาค ในประเทศนี้ โปรดสานต่อภารกิจทางประวัติศาสตร์ วิวัฒนาการประชาธิปไตย ให้เติบใหญ่แข็งแกร่งเรื่อยไปแม้ผมจะไม่สามารถออกมาเคลื่อนไหวได้ ด้วยเหตุใดๆ ก็ตามขอให้พี่น้องจงยึดมั่น แสวงหาแนวทางที่เป็นสันติวิธี และสร้างสรรค์เพื่อจะฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย ที่เราถูกทำลายไป ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ขึ้นมาให้จนได้ ขอขอบคุณทุกท่านครับ สวัสดี"

คสช.ปล่อย"ลุงยิ้ม ตาสว่าง"

      ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวนายพฤกษ์ พฤกษ์สุนันท์ หรือ "ลุงยิ้ม ตาสว่าง" กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หลังจากที่นายพฤกษ์เข้ารายงานตัวตามคำสั่งของ คสช. เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน และถูกควบคุมตัวไว้

      นายพฤกษ์ กล่าวว่า ได้รับการดูแลอย่างดีเกินความคาดหมาย เพราะไม่ได้อยู่ในฐานะเสมือนนักโทษ การถูกควบคุมตัวครั้งนี้ถือว่าเป็นการปรับความเข้าใจที่ฝ่ายกองทัพให้สิทธิแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ขอยืนยันว่าไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายหรือบังคับแต่อย่างใด ขอให้ผู้ที่ถูกเรียกมารายงานตัวเข้ามารายงานตัว การหาทางออกประเทศ ตนคิดว่าเป็นงานหนักของกองทัพต้องใช้เวลาและความเข้าใจในการแก้ไขปัญหา 

      "ไม่ได้รู้สึกโกรธทหาร ผมได้มารายงานตัวกับ คสช.ด้วยตัวเอง และยอมรับว่าเหตุการณ์บ้านเมืองขณะนี้ เป็นเพราะนักการเมืองทะเลาะกัน ผมอยากให้ทุกฝ่ายมีสติ ถอยคนละก้าว" นายพฤกษ์กล่าว

"บิ๊กต๊อก"ถก 7 องค์กรอิสระ

        พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าส่วนงานกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับ 7 องค์กรอิสระว่า ได้เชิญผู้แทนองค์กรต่างๆ มาหารือและรับฟังข้อขัดข้องหลังจากที่ คสช.เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ที่ผ่านมาองค์กรเหล่านั้นไม่ทราบว่าจะประสานงานกับใคร เนื่องจากไม่มีรัฐบาลและรัฐสภาแล้ว การพบกันครั้งนี้ถือเป็นการเปิดช่องทางประสานงานระหว่างกันให้ใกล้ชิดมากขึ้น นอกจากนั้นเป็นการหารือถึงผลกระทบจากการยกเลิกรัฐธรรมนูญ ซึ่งบางองค์กรได้รับผลกระทบบางส่วน แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนัก

   พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนที่ได้รับผลกระทบต้องมีการหารืออีกครั้งคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เนื่องจาก กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นในระยะเวลาอันใกล้นี้ หลังจากเลื่อนเป็นปลายเดือนมิถุนายนแล้ว หากครบกำหนดและยังมีประกาศบางฉบับ ก็จะกระทบต่อการจัดการเลือกตั้ง จึงหารือว่า คสช.จะพิจารณาออกประกาศ หรือคำสั่ง อนุญาตให้มีการหาเสียงในบางพื้นที่หรือจะให้เลื่อนการเลือกตั้งไปอีกหรือไม่ คิดว่าจะพิจารณาตามความจำเป็น บางเรื่องหากรอได้ก็ขอให้รอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก่อน แต่หากมีผลกระทบจริงก็จะออกประกาศหรือคำสั่งตามความเหมาะสม ไม่ใช่ออกมาพร่ำเพรื่อ

กกต.ชงคสช.ขอทำหน้าที่ต่อ

      แหล่งข่าวกล่าวว่า การหารือของ คสช.กับองค์กรอิสระและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ 7 องค์กรนั้นเป็นการหารือถึงข้อขัดข้อง หลังจาก คสช.ยกเลิกรัฐธรรมนูญ รวมทั้งการออกประกาศของ คสช.แต่ละฉบับว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งให้เสนอแนวทางแก้ไขกลับไปยัง คสช.ในวันที่ 7 มิถุนายน ในส่วนของ กกต.จะทำข้อเสนอไปยัง คสช. ขอให้พิจารณาถึงสถานภาพการคงอยู่ของ กกต.ว่าจะมีส่วนช่วยในการปฏิรูปอย่างน้อย 3 ส่วน คือ 1.ในส่วนของการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่น ที่แต่ละปีจะต้องเลือกตั้งใหม่อยู่ระหว่าง 1,000-3,000 องค์กร จะมีคดีการเลือกตั้งท้องถิ่นต้องเข้ามาสู่การพิจารณาของ กกต. รวมทั้งประกาศของ คสช.เองก็ให้ศาลอุทธรณ์ภาครับต่อคดีที่ส่งไปจาก กกต.

      แหล่งข่าวกล่าวว่า 2.กกต.จะเสนอให้คดีการทุจริตการเลือกตั้งที่มีโทษทั้งการเพิกถอนสิทธิทางการเมืองและคดีอาญา การยุบพรรค ที่ยังค้างอยู่จำนวนมากต้องเดินหน้าต่อไป ส่วน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการทำประชามติ ควรให้มีผลต่อไป เนื่องจากอาจต้องใช้ระหว่างกระบวนการปฏิรูปประเทศ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง อาจรอสภาร่างรัฐธรรมนูญออกแบบใหม่ แต่ขอให้คงสภาพพรรคการเมืองที่มีอยู่ตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ไว้ก่อน แต่ห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมืองชั่วคราว ส่วน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. ก็ให้คงไว้ในส่วนที่เป็นบทลงโทษในการทุจริตการเลือกตั้งต่อไป และ 3.กกต.ยังคงมีส่วนที่จะช่วยเสนอความเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปการเลือกตั้งต่อไป จึงไม่เห็นว่าการยุบ กกต.จะเป็นประโยชน์กับการปฏิรูป เท่ากับการให้ กกต.ยังคงทำหน้าที่ต่อไป

วิษณุปัดคสช.ยุบองค์กรอิสระ 

     นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา คสช. ในฐานะฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า คสช.เตรียมพิจารณายุบองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญว่า ยังไม่เคยได้ยินกระแสข่าวดังกล่าวจึงไม่เชื่อว่าจะเป็นข้อเท็จจริง เพราะ คสช.ออกประกาศชัดเจนแล้วว่าให้องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญและองค์กรศาลยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อเพราะในแต่ละองค์กรยังมีคำร้องหรือคดีความที่ค้างอยู่ระหว่างการพิจารณา คสช.จึงต้องให้องค์กรเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ 

     นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ คสช.ยกเลิกรัฐธรรมนูญ แล้วทำให้องค์กรอิสระมีข้อจำกัดด้านกฎหมายในการทำงานนั้นก็เห็นว่าเรื่องนี้ไม่น่าเป็นปัญหา เพราะแต่ละองค์กรก็มีกฎหมายลูกไว้คอยรองรับในการทำหน้าที่อยู่ ส่วนประเด็นใดที่เป็นปัญหาทางข้อกฎหมายก็ส่งมาให้ คสช.พิจารณาเพื่อให้เกิดความชัดเจน ที่ผ่านมาเรามีการพิจารณาไปหลายกรณีแล้ว ส่วนที่จะมีข้อขัดข้องมากที่สุดน่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ เพราะต้องพิจารณาวินิจฉัยกฎหมายที่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่หากมีธรรมนูญปกครองชั่วคราวทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยมากขึ้น

สภาปฏิรูปคึก-เพิ่มเป็น 200 คน

    รายงานข่าวแจ้งว่า ธรรมนูญการปกครองแผ่นดินที่จัดร่างอยู่ คาดว่าจะมีประมาณ 35-45 มาตรา อยู่ระหว่างขัดเกลาถ้อยคำจะนำส่ง คสช.สัปดาห์หน้า ส่วนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะมีจำนวน 200 คน เช่นเดียวกับสภาปฏิรูปที่เดิมคาดว่าจะมี 150 คน จะเพิ่มเป็น 200 คน เนื่องจากต้องการนำเอาตัวแทนสาขาอาชีพต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูป

คสช.ยันไม่แทรกฝ่ายกม.-ยธ.

     ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ คณะทำงานโฆษก คสช. แถลงว่า ที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการทั้งฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม, กิจการพิเศษ และส่วนขึ้นตรงหัวหน้า คสช. เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุม โดยเน้นย้ำว่า คสช.จะไม่ก้าวก่ายการปฏิบัติราชการของฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 

     ส่วนเรื่องที่กระทบต่อโครงการขนาดใหญ่ให้ดำเนินการต่อเมื่อมีการตั้งรัฐบาลใหม่ ส่วนเรื่องที่เป็นข้อขัดข้องต่อการค้าการลงทุน และผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดำเนินการเร่งด่วน

    ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมบังคับใช้กฎหมายปกติเป็นอันดับแรก การใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกให้ทำเท่าที่จำเป็น รวมทั้งให้โอกาสทุกฝ่ายเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ให้เร่งสร้างองค์กรในกระบวนการยุติธรรมให้เข้มแข็ง เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น เรียกศักดิ์ศรีขององค์กรคืนมา ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานให้มีภูมิคุ้มกันตัวเอง โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้ายให้ใช้การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายของทหารเป็นรูปแบบ ให้ทุกหน่วยในกระบวนการยุติธรรมช่วยกันตรวจสอบประกาศและคำสั่งต่างๆ ให้มีความถูกต้อง

เร่งเผยแพร่ศูนย์ศก.พอเพียง 

     ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า ในส่วนฝ่ายกิจการพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์รับทราบถึงแผนงานต่างๆ โดยเฉพาะโครงการในพระราชดำริตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยขอให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันอย่างเต็มที่ ปัจจุบันมีศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ หัวหน้า คสช.เห็นควรว่าให้สนับสนุนและขยายผลออกไปอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีโครงการพระราชดำริและโครงการตามแนวพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ สร้างประโยชน์สุขให้กับคนไทยจึงขอให้ทุกหน่วยงานขยายทุกโครงการให้สัมฤทธิผล 

     ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า ด้านการบริหารจัดการน้ำ ทั้งน้ำแล้ง น้ำท่วม พล.อ.ประยุทธ์ต้องการให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกัน พล.อ.ประยุทธ์เน้นย้ำงานให้จัดระบบการบริการประชาชนให้รวดเร็ว ขอให้หน่วยงานต่างๆ อำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างเต็มที่ ส่วนปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้นโยบายเน้นความมีเอกภาพในการทำงาน ต้องมีความชัดเจนทั้งในระดับนโยบาย ระดับยุทธศาสตร์ ระดับการปฏิบัติงาน 

    "พล.อ.ประยุทธ์ อธิบายกับหน่วยราชการเรื่องกระบวนการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยเฉพาะในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงแรก ทหารจะทำหน้าที่ในการอำนวยความสะดวก ให้กลุ่มต่างๆ มาทำกิจกรรมร่วมกัน พูดคุยและสร้างความเข้าใจอันดีเพื่อนำไปสู่บรรยากาศที่เอื้อต่อความมีไมตรีและสามัคคี" ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าว

แห่จัดกิจกรรมคืนความสุข

       พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง คณะทำงานโฆษก คสช. กล่าวว่า คสช.จัดกิจกรรม คืนความสุขให้คนในชาติ เพื่อสนับสนุนนโยบายปรองดองสมานฉันท์ ช่วงวันหยุด 6-8 มิถุนายน ในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้ 1.นครราชสีมา จัดกิจกรรม "คืนความสุขสู่ประชาชน" วันที่ 6 มิถุนายน เริ่มเวลา 16.00 น. ณ ลานนวมินทร์ บุ่งตาหลั่ว กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา 2.พิจิตร จัดงาน "จังหวัดพิจิตรเพิ่มความสุขให้กับประชาชน" ณ ตลาดนัดวันศุกร์ศาลากลาง (หลังเก่า) อ.เมือง วันที่ 6 มิถุนายน เวลา 17.00-20.00 น. 3.นครสวรรค์ จัดโดยมณฑลทหารบกที่ 31 บริเวณตลาดนัดหน้าค่าย อ.เมือง วันที่ 7 มิถุนายน ตั้งแต่ 07.30-11.30 น.

      พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า 4.น่าน จังหวัดทหารบกน่าน จัดกิจกรรม ณ ถนนคนเดิน หัวเวียงใต้ อ.เมือง วันที่ 7 มิถุนายน เวลา 18.00-21.30 น.5.ตาก จังหวัดทหารบกตาก จัดงาน "คืนความสุขให้คนตาก" บริเวณถนนคนเดิน ริมแม่น้ำปิง อ.เมือง ในวันที่ 7 มิถุนายน เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป 6.เพชรบูรณ์ กองพลทหารม้าที่ 1 ร่วมกับตำรวจภูธร, องค์การส่วนบริหารจังหวัด และเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จัดงาน "คืนความสุขให้กับประชาชนและประเทศชาติอย่างยั่งยืน" วันที่ 7 มิถุนายน ณ สวนเพชรบุระ อ.เมือง เวลา 13.00-19.00 น. 7.เชียงใหม่ จัดกิจกรรมวันที่ 6-8 มิถุนายน ที่ข่วงท่าแพ อ.เมือง เวลา 18.30-21.00 น. และ 8.กรุงเทพฯ กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ร่วมกับเขตหนองจอก จัดกิจกรรม "คืนความสุขให้กับประชาชน" ในวันที่ 7 มิถุนายน เวลา 17.00-19.00 น. ณ สวนสาธารณะหนองจอก

กรุงจัดคอนเสิร์ต 15 มิ.ย.

       ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ.ช่วยราชการ บช.น. ตัวแทนเจ้าหน้าที่ทหาร ตัวแทน กทม. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันประชุมจัดคอนเสิร์ตคืนความสุขให้กับประชาชน 

      พล.ต.อ.สมยศ กล่าวหลังการประชุมว่า ตำรวจ ทหาร และ กทม. จะจัดงานคืนความสุขให้กับประชาชน ที่สวนลุมพินี ในวันที่ 15 มิถุนายน เวลา 15.00-19.00 น. จะมีวงดนตรีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นอกจากนี้ยังมีศิลปิน ดารา นักแสดง และนักร้องรับเชิญมาร่วมงานจำนวนมาก มีอาหารและเครื่องดื่มเลี้ยงผู้ที่มางาน เพื่อสร้างความสุข ความสามัคคีปรองดองให้คนในชาติ ตามนโยบายของ คสช. 

ตร.-ทหารคุมเข้มม.เกษตร

      เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ลานหน้าหอประชุมใหญ่ ประตูพหลโยธิน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน จากกรณีที่กลุ่มศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย (ศนปท.) จัดกิจกรรม "ปิคนิคใต้ร่มนนทรี อ่านบทกวี ฉายหนังรัฐประหาร" โดยเชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมโดยนำเสื่อมานั่งรับประทานอาหาร พร้อมฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับการรัฐประหาร และการอ่านบทกวี ตั้งแต่เวลา 16.00-18.00 น.

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่กลุ่มนักศึกษาจะมารวมตัวกันตามที่นัดหมาย มีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจประมาณ 2 กองร้อย พร้อมรถควบคุมนักโทษ 4 คัน เข้ามาควบคุมพื้นที่บริเวณหน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมปิดประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยฝั่งถนนพหลโยธิน และพื้นที่ด้านในมหาวิทยาลัยฝั่งถนนพหลโยธินตลอดทั้งเส้น รวมถึงทางมหาวิทยาลัยปิดถนนภายในมหาวิทยาลัยฝั่งพหลโยธิน พร้อมติดป้ายห้ามเข้าพื้นที่ควบคุม เพื่อไม่ให้มีการชุมนุม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.2 จำนวน 250 นาย แบ่งเป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดสืบสวน และ บก.อคฝ.หญิง หรือกองร้อยน้ำหวาน 1 หมวด และเจ้าหน้าที่ทหาร 100 นาย กระจายกำลังเข้าสังเกตการณ์ควบคุมภายในพื้นที่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ทหารให้สื่อมวลชนลงทะเบียนก่อนเข้าทำข่าวด้วย

'ศนปท.'กิน-แจกแซนด์วิช

     ต่อมาเวลา 16.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักศึกษาประมาน 10 คน ออกมาจับกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน บริเวณหน้าประตูพหลโยธิน แล้วนำแซนด์วิชออกมารับประทาน พร้อมแจกจ่ายประชาชนที่สัญจรไปมาหนึ่งในตัวแทนนักศึกษากลุ่ม ศนปท.บอกว่า มารับประทานแซนด์วิชเท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์ทางการเมือง และไม่ได้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้พูดเรื่องการเมืองแต่อย่างใด

      ต่อมา พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 เข้ามาเจรจากับกลุ่มนักศึกษา โดยกลุ่มนักศึกษายืนแจกแซนด์วิชจำนวน 2 กล่อง และรับประทานจนเสร็จ จากนั้นแยกย้ายกันกลับเวลา 17.05 น.

ส่งทหารนั่งบีทีเอสทุกขบวน

       พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมของกลุ่มผู้ที่จะมาต่อต้านนั้น ต้องประเมินวันต่อวันว่าจะชุมนุมที่ไหน อย่างไร เบื้องต้นเน้นไปที่ห้างสรรพสินค้าตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมถึงห้างที่มีทางเชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอส ทุกจุด โดยจะวางกำลังตำรวจและทหารนั่งไปกับขบวนรถไฟฟ้าทุกขบวน ทุกเส้นทาง รวมถึงวางกำลังตั้งด่านตรวจด่านสกัดใกล้กับจุดที่คาดว่าจะมีการชุมนุม เพื่อคัดกรองคนเข้า-ออกในพื้นที่ และจะเป็นชุดจับกุมด้วย

"นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ถูกจับกุมแล้ว ต้องประเมินว่าจะมีกลุ่มต่อต้านเคลื่อนไหวออกมาอีกหรือไม่" รอง ผบ.ตร.กล่าว

"ฉลาด"อดต่อ-ไม่ไปนอก

      เมื่อเวลา 18.00 น. วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้ารัฐสภา ริมกำแพงสวนสัตว์ดุสิต ว่า เรืออากาศตรี ฉลาด วรฉัตร อดีต ส.ส.ตราด พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ได้รับฉายาว่า "จอมอด" ยังคงปักหลักกางเต็นท์อดอาหารต่อต้านรัฐประหารเป็นวันที่ 16 โดยมีประชาชนแวะเวียนนำน้ำผึ้งมาให้ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!