- Details
- Category: การเมือง
- Published: Monday, 09 June 2014 19:54
- Hits: 6904
วันที่ 09 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8594 ข่าวสดรายวัน
ปชช.ถาม ใครจะเป็นนายกฯ ผ่านโพลถึงบิ๊กตู่ เมื่อไหร่เลือกตั้ง ทหารพรึบเข้มม็อบ รวบ 7 คน-ชู 3 นิ้ว จิตราแจง-ฝ่าฝืน
 ปิดปาก -บรรยากาศชุมนุมคัดค้านรัฐประหาร บริเวณลานน้ำพุห้างสยามพารากอน กลุ่มผู้ชุมนุมยกมือปิดปากแสดงสัญลักษณ์ ขณะที่ตลอดทั้งวันมีผู้ชู 3 นิ้วถูกจับ 7 คน โดยทั้งหมดถูกนำตัวส่งสโมสรทบ. เทเวศร์ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. |
โพลประชาชนตั้ง 10 คำถามถึง'บิ๊กตู่'ใครเป็น นายกฯและมีเลือกตั้งเมื่อไหร่ รรก.ปลัดสำนักนายกฯ 'ปนัดดา'เปิดสายด่วน 1111 รับแจ้งเบาะแสผู้มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อชาติ วอนทุกฝ่ายร่วมสร้างสามัคคี อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ พร้อมมอบรายชื่อกลุ่มอิทธิพลค้าไม้ให้คสช. เผยมีทั้งนักการเมืองท้องถิ่นและกลุ่มพ่อเลี้ยง 'วิชา' เผยผลสอบคดีจำนำข้าวคืบ เร่งตรวจสอบทรัพย์สิน 5 รมต.ที่เกี่ยวข้อง รอดูคสช.ลงพื้นที่ตรวจโกดังข้าว'ชัชวาลย์'จัดพิธีทำ บุญเตรียมเข้าทำงานในดีเอสไอหลังยุติการชุมนุม ตร.-ทหารพรึ่บตรึงกำลัง 5 จุดสำคัญทั่วกรุงแต่ไร้ม็อบ มีเพียงกลุ่มสาวชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วต้านหน้าห้างดังกลางสยาม รวบตัวส่งเข้าสโมสรทบ. ต่างจังหวัดจัดกำลังคุมเข้ม เสื้อแดงโคราชพร้อมร่วมสมานฉันท์ 'แอม เนสตี้'จี้ปล่อยตัวบ.ก.ลายจุด เลิกปราบปรามผู้ประท้วงโดยสันติ
ทหารตั้งด่านคุมบ้านจาตุรนต์
วันที่ 8 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังทหารปล่อยตัวนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว. ศึกษาธิการ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์พร้อมครอบครัวเดินทางกลับไปพักผ่อนที่บ้านพักในอ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ปรากฏว่าในช่วงเช้ามีกำลังทหารรวม 7 นาย มาตั้งด่านตรวจบริเวณปากทางเข้าบ้านพักนายจาตุรนต์ โดยทหารจะจดชื่อบุคคลรวมทั้งทะเบียนรถยนต์ที่ผ่านเข้าออกบริเวณดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงอย่างมาก จากนั้น น.ส.ฐิติมา ฉายแสง อดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯ น้องสาวนายจาตุรนต์ เดินทางมาเจรจากับทหารโดยระบุว่าการตั้งด่านของทหารส่งผลกระทบต่อประชาชนที่เดินทางผ่านเข้าออก ขณะเดียวกันก็มีประชาชนบางส่วนเดินทางเข้าเยี่ยมนายอนันต์ ฉายแสง บิดาซึ่งมีสุขภาพไม่ค่อยดีเท่านั้น จากนั้นทางทหารจึงเลิกตั้งด่านและเดินทางออกจากจุดดังกล่าว
พท.ให้โอกาสคสช.-ไม่ทิ้งปชต.
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าช่วงนี้สมาชิกพรรคเพื่อไทยต้องระวังเรื่องการสื่อสาร ไม่เช่นนั้นเกรงว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาจเข้าใจผิดได้ และเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.เป็นหัวหน้า คสช.แล้ว ก็ต้องให้เวลา ให้โอกาส คสช.ทำงานไป ส่วนพรรคเพื่อไทยจะหยุดการเคลื่อนไหวจนกว่าจะเห็นโรดแม็ปของ คสช.ที่ชัดเจน หาก คสช.เชิญไปร่วมเสวนาปรองดองสมานฉันท์ ตนก็พร้อมร่วมมือและเสนอความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาในเชิงสร้างสรรค์
รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่าในส่วนแกนนำและคณะกรรมการกิจการพรรค เพื่อไทยยังคุยกันอยู่ รักกันดี ยิ่งมีวิกฤตทาง การเมืองยิ่งรักและห่วงใยกัน เราก็ได้แต่หวังให้บ้านเมืองสงบและเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ขณะนี้สมาชิกพรรคไม่ได้เข้าพรรคแต่อย่างใด เพราะมีคำสั่ง คสช.ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ส่วนตนก็กลับบ้านพักผ่อนอยู่ที่จ.นครพนม เข้าสวน ปลูกต้นไม้ เลี้ยงปลา และติดตามข่าวสารอยู่เสมอๆ ส่วนจะมีการปรับโครง สร้างภายในพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้นยังไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่กรรมการบริหารพรรคจะต้องคุยกันเมื่อเวลาและสถาน การณ์เอื้ออำนวย แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่พรรคต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ แต่เราจะไม่ละทิ้งอุดมการณ์ประชาธิปไตยแน่นอน
ปชป.รอรธน.ใหม่ชี้สภาพพรรค
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อสงสัยกรณีการยื่นเรื่องถอดถอนบุคคลต่างๆ สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องการถอดถอนในขณะนี้ โดยเฉพาะนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธาน วุฒิสภา ที่ยังค้างอยู่ในชั้นของวุฒิสภา นั้นก็มีปัญหา จึงอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. จะให้เป็นอำนาจของใครในการถอดถอน เพราะไม่มีวุฒิสภาแล้ว จะให้เป็นอำนาจวุฒิสภาชุดใหม่ หรืออำนาจของ คสช. นอกจากนี้ยังมีหลายเรื่องที่ยังค้างคาอยู่ อาทิ การถอดถอนส.ส.และส.ว. ที่แก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว. ซึ่งค้างคาอยู่ในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และการยื่นเรื่องยุบพรรคเพื่อไทยประมาณ 3 เรื่อง ค้างอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีปัญหาเนื่องจาก คสช.ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 จึงส่งผลให้พ.ร.บ.พรรคการเมืองต้องสิ้นสภาพและทำให้พรรคการเมืองสิ้นสภาพตามรัฐธรรมนูญจึง ต้องรอดูว่ารัฐธรรมนูญใหม่จะให้เป็นพรรคการ เมืองเดิมต่อไป หรือจะให้จดทะเบียนขึ้นใหม่
นายวิรัตน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กฎหมายที่ คสช. ต้องเร่งนำมาพิจารณาและประกาศใช้ด่วนแต่ต้องปรับหลายอย่าง อาทิ กฎหมายภาษี กฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายกระจาย อำนาจ กฎหมายกองทุนน้ำมัน กฎหมายจำนวนส.ส.และส.ส.บัญชีรายชื่อ และกฎหมายการเข้าสู่การเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ
ปนัดดาเปิดสายด่วนรับแจ้งเบาะแส
ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ตนได้เขียนข้อความถึงเพื่อนข้าราชการให้ทราบแล้วว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันข้าราชการทุกภาคส่วนต้องร่วมกันประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างการนำพาความร่มเย็นเป็นสุขกลับคืนสู่ประเทศไทย ด้วยการช่วยกันเสริมสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ได้แก่ การไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น มีไมตรีจิตต่อพี่น้องประชาชน เป็นข้าราชการของแผ่นดินตามปรัชญาคำสอนพระราชทาน ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ ยึดหลักธรรมาภิบาลเป็นหัวใจในการบริหารราชการอย่างเคร่งครัด จึงใคร่ขอความร่วมมือจากพี่น้องเพื่อนข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนโปรดแจ้งข้อมูลข่าวสารและข้อเท็จจริงเบื้องต้นกรณีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทั้งในและต่างประเทศมีพฤติกรรมอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ แสดงข้อคิดเห็นและแนวทางการปฏิบัติงานในเชิงที่ไม่สร้างสรรค์ เป็นภยันตราย และไม่ก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติในการเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ ให้สำนักนายกรัฐมนตรีทราบ ทาง www.1111.go.th หรือ ตู้ป.ณ.1111 และสายด่วน 1111
วอนร่วมสร้างสามัคคีในชาติ
ม.ล.ปนัดดาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า แม้การดำเนินการตรวจสอบการทำงานของข้าราชการกระทรวงต่างๆ จะมีหน่วยงานที่ทำตรงนี้อยู่แล้ว แต่ตนอยากให้เกิดภาพที่ทุกหน่วยงานและประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ พร้อมกับสร้างความสามัคคีของคนในชาติ เพราะเราไม่ควรปล่อยให้มีใครไปพูดสิ่งที่อาจสร้างความร้าวฉานหรือทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย ดังนั้น เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมาตนจึงสั่งการสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักนายกรัฐมนตรีประสานกับทุกส่วนราชการดำเนินการดังกล่าว สำหรับข้อมูลเบาะแสของข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ซึ่งเคยมีผู้ร้องเรียนเข้ามาก่อนหน้านี้จะนำมาศึกษาพิจารณาตรวจสอบด้วย ทั้งนี้ ตนจะลงไปดำเนินการเรื่องนี้ด้วยตัวเองเพื่อให้เกิดผลมากที่สุด หลังได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐคนใดจะเร่งตรวจสอบพร้อมแจ้งไปยังผู้บังคับบัญชาของคนคนนั้นให้ตักเตือน พูดคุยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง หากยังมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอีกเรามีมาตรการทางราชการจัดการอยู่แล้ว
พร้อมส่งชื่อกลุ่มอิทธิพลค้าไม้
นายนิพนธ์ โชติบาล รองอธิบดี รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายโชติ ตราชู ปลัดทส.สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมป่าไม้ส่งรายชื่อผู้มีอิทธิพลในกระบวน การตัดไม้ เพื่อรวบรวมส่งให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อตรวจสอบและดำเนินคดีต่อไปว่า ในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติฯ มีรายชื่อกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลในกระบวนการตัดไม้และค้าสัตว์ป่าอยู่แล้วทั้งรายเล็กและรายใหญ่ โดยทั่วประเทศนั้นแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มเล็กๆ รายย่อย มีประมาณ 10 คน กลุ่มนี้มีความเกี่ยวเนื่องกันทั้งตัดไม้ ค้าไม้ และกระบวนการลักลอบล่าสัตว์ป่า และรายใหญ่มี 2 คน
มีทั้งนักการเมืองท้องถิ่น-พ่อเลี้ยง
นายนิพนธ์ กล่าวว่า กลุ่มผู้มีอิทธิพลเหล่านี้มีตั้งแต่นักการเมืองท้องถิ่นรวมไปถึงกลุ่มพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงในบางพื้นที่ แต่ไม่สามารถบอก ชื่อผ่านสื่อได้ รายชื่อจริงๆ จะส่งไปให้นายโชติเพื่อนำส่งต่อให้กองทัพต่อไป "เดิมทีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเหล่านี้ถูกพูดถึงในกลุ่มผู้ต้องหาที่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จับได้ แต่ในทางกฎหมายแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถสาวถึงผู้บงการตัวใหญ่ๆ ได้ จะจับได้ก็เฉพาะชาวบ้านในพื้นที่ที่ถูกว่าจ้างมาอีกที หรือพูดอีกอย่างคือชาวบ้านที่ถูกจับได้ส่วนใหญ่ทั้งล่าสัตว์และลักลอบตัดไม้จะเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้มีอิทธิพลซึ่งเป็นผู้ต้องหาตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้นั่นเอง" นายนิพนธ์กล่าวและว่า หลังจากส่งรายชื่อไปแล้วคสช.อาจเรียกคนเหล่านั้นมาพูดคุยเพิ่มเติม
วิชาเผยสอบคดีจำนำข้าวคืบ
เวลา 12.00 น. ที่ศูนย์พัฒนาบุคลากรทาง การลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจกรรมเยาวชน "ผิน แจ่มวิชาสอน" ย่านบางแค กรุงเทพฯ นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้าการไต่สวนโครงการรับจำนำข้าวว่า ขณะนี้ป.ป.ช.ดำเนินการควบคู่ 2 เรื่องไปพร้อมกันคือ เรื่องที่ค้างอยู่กับเรื่องที่จะเริ่มต้นใหม่ เรื่องที่ค้างคือกรณีจำนำข้าวที่ได้ไต่สวนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ กับพวก ที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตโครง การจำนำข้าวว่าทำผิดจริงหรือไม่ มีการซื้อขายระหว่างประเทศจริงหรือไม่ ขณะนี้บริษัทเอกชนทยอยให้ถ้อยคำที่เป็นประโยชน์จำนวนมาก ส่วนการไต่สวนกรณีละเลยเพิกเฉยไม่ระงับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวจนก่อให้เกิดความเสียหายของน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ขณะนี้การให้ถ้อยคำของพยานทั้ง 4 ปากเสร็จแล้ว คณะทำงานคงจะสรุปรายงานต่อที่ประชุมกรรมการป.ป.ช.เพื่อให้ดูว่าข้อเท็จจริงที่ไต่สวนมานั้นเพียงพอหรือไม่ หากยังไม่เพียงพอจะได้ดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่า คดีไต่สวนน.ส. ยิ่งลักษณ์จะแล้วเสร็จก่อนคดีไต่สวนนาย บุญทรงกับพวกใช่หรือไม่ นายวิชากล่าวว่า น่าจะเสร็จก่อน แต่เมื่อไรคาดเดาไม่ได้ ต้องรอดูข้อเท็จจริงจากคณะทำงานที่จะสรุปส่งมาให้ในสัปดาห์หน้า เนื่องจากข้อมูลอาจจะโยงใยถึงบุคคลใดๆ ดังนั้น ต้องดูให้ละเอียดถี่ถ้วน
เร่งตรวจสอบทรัพย์สิน 5 รมต.
นายวิชากล่าวอีกว่า คณะกรรมการป.ป.ช. ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของ 5 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวจะเร่งดำเนินการตรวจสอบควบคู่ไปด้วย ต้องนำผลการตรวจสอบนั้นมาประกอบผสมผสานในการไต่สวนคดีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่าการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินจะใช้เวลานานหรือไม่ นายวิชากล่าวว่า ต้องดูว่ามีทรัพย์สินใดผิดปกติหรือไม่ ซึ่งต้องทำอย่างเร็วมาก เพราะจะต้องมียึดและอายัดทรัพย์สิน โดยดูบัญชีทรัพย์สินของบุคคลใกล้ชิดและบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด
 แซนด์วิช - กลุ่มนิสิตนักศึกษา เพื่อประชาธิปไตย แห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม "ปิกนิกสนามหลวงคืนความสุขให้ คนไทย" นำแซนด์วิชไปแจกและอ่านกวีต้านรัฐ ประหาร ที่สนามหลวง หน้าม.ธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. |
รอคสช.ลงพื้นที่ตรวจสต๊อกข้าว
ต่อข้อถามถึงกรณีที่ 8 สมาคมชาวนาต้องการให้คสช.ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวต่อไปเพราะเห็นว่าได้ราคาดี นายวิชากล่าวว่า ตนยังพูดอะไรไม่ได้เพราะเป็นเรื่องระดับนโยบาย คสช.จะเป็นผู้พิจารณา แต่ป.ป.ช. บอกข้อมูลต่างๆ ทั้งหมดให้ไปแล้วว่าป.ป.ช. ตรวจสอบพบอะไรบ้าง โดยคสช.ก็ทราบดีเพราะได้เชื่อมโยงข้อมูลกันอยู่เป็นอย่างดี เมื่อถามว่าคสช.เตรียมลงพื้นที่เพื่อตรวจสต๊อกข้าว ป.ป.ช.จะตรวจสอบควบคู่ไปหรือไม่ นายวิชากล่าวว่าในสัปดาห์หน้าคงจะเห็นภาพตรงนี้ชัดเจนขึ้นว่าคสช.จะลงไปตรวจอย่างไร เพราะป.ป.ช.ก็ต้องการลงไปตรวจสต๊อกข้าวด้วยเหมือนกัน ส่วนจะเริ่มต้นอย่างไรขอหารือกันก่อน
เมื่อถามว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.ได้รับความร่วมมือเรื่องพยานหลักฐานจากหน่วยงานต่างๆ เป็นอย่างดีหรือไม่ นายวิชากล่าวว่า ได้รับความร่วมมืออย่างดีมาก ได้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เพราะแต่ละหน่วยงานเริ่มมั่นใจว่าข้อมูลทั้งหลายเหล่านั้นจะสามารถนำมาสร้างสิ่งที่มีประสิทธิภาพในการไต่สวนและนำมาเป็นหลักฐานลงโทษผู้ทุจริตได้ เชื่อว่าจะทำให้การไต่สวนคดีนี้เร็วขึ้นเพราะค้างคามานานแล้ว
กกล.รส.ตรวจโรงสีอ่างทอง
วันเดียวกัน เวลา 13.30 น. พล.ต.ต.สมศักดิ์ โอภาสเจริญกิจ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง และ พ.อ. ธีระพล ถาวรยุติธรรม สัสดีจังหวัดอ่างทอง พร้อมกำลังทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่จากกรมการค้าภายในจังหวัดอ่างทอง เดินทางไปยังโรงสีสหกรณ์การเกษตรโพธิ์ทอง เลขที่ 35 หมู่ที่ 1 ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง เพื่อเข้าตรวจโรงสีตามคำสั่งของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ซึ่งเป็นการตรวจโรงสีและโกดังที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตตามคำสั่งคสช. ผลการตรวจโรงสีทั้ง 12 แห่งในพื้นที่ได้สั่งสีแปรสภาพและส่งมอบข้าวสารเข้าโกดังกลางทั้งหมดเรียบร้อยแล้วจำนวนทั้งสิ้น 93,126,254 ตัน
ชัชวาลย์เตรียมเข้าทำงานดีเอสไอ
เช้าวันเดียวกัน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รองผบ.ตร. รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ร่วมพิธีทำบุญเลี้ยงพระ ที่อาคารดีเอสไอ หลังจากมีการทำความสะอาด ก่อนจะเปิดอาคารให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 มิ.ย. หลังการชุมนุมยุติ โดยเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำดีเอสไอ ศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ และทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์จำนวน 9 รูป
จัดกำลังคุมเข้มแยกกลางกรุง
เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 ตร. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุม ศปก.ตร.ว่า ติดตามสถานการณ์การชุมนุมและคดีอาชญากรรมสำคัญที่เกิดขึ้นในรอบ 24 ชั่วโมง ซึ่งวันเดียวกันนี้อาจมีการชุมนุมตามแยกสำคัญใจกลางกรุงเทพมหานคร ดังนั้น บก.จร. และตำรวจในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องจะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจให้พร้อมรองรับการอำนวยการจราจรในทุกจุด และเน้นการประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยงให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ทราบตามสื่อต่างๆ รวมถึงดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ชุมนุมและประชาชนบริเวณใกล้เคียง
ตร.-ทหารตรึงอนุสาวรีย์ชัยฯ
วันเดียวกัน ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พ.อ. สมบัติ ธัญญะวัน รองเสธนาธิการศูนย์การทหารม้า จ.สระบุรี ในฐานะผบ.เหตุการณ์พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เปิดเผยว่าตามที่ได้ทราบผ่านสื่อโซเชี่ยลมีเดียว่าในวันนี้ (8 มิ.ย.) เวลา 14.00-15.00 น. กลุ่มต้านรัฐประหารนัดรวมตัวกันเพื่อแสดงสัญลักษณ์ตามพื้นที่ต่างๆ ตลอดแนวเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้งหมด 9 จุดรวมทั้งที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ด้วย ทางเจ้าหน้าที่จึงเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารไว้ 3 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 กองร้อย เพื่อป้องกันเหตุ หากกลุ่มต้านรัฐประหารมาทำกิจกรรมเพื่อสร้างความขัดแย้งภายใต้กฎอัยการศึกซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เราจึงต้องจับกุมและควบคุมตัวเพื่อไปปรับทัศนคติ เจ้าหน้าที่จะตรึงกำลังจนถึงเวลา 18.00 น. นอกจากนี้ทราบว่าจะมีกลุ่มเยาวชนที่มาติดต่อขออนุญาตใช้พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยฯ แสดงกิจกรรมสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งตนก็อนุญาต เพราะเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์
กลุ่มเยาวชนร่วมกิจกรรมทหาร
จากนั้นเวลา 15.30 น. กลุ่มเด็กกิจกรรมทำเพื่อชาติ ภาคตะวันออก ประมาณ 30 คน พร้อมใจกันสวมเสื้อสีทหารปักลายธงชาติบนหน้าอก เพื่อมาแสดงกิจกรรมสนับสนุน การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร ด้วยการแสดงกิจกรรมสันทนาการร้องเพลงและเต้นรำโดยมีเจ้าหน้าที่ทหารหญิงเข้าร่วมแสดง เรียกความสนใจจากผู้สัญจรไปมา จากนั้นมีการมอบอาหาร เครื่องดื่มให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมอบเงินให้โรงพยาบาลทหารผ่านศึก เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทหารที่เจ็บป่วย ส่วนบรรยากาศโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่พบกลุ่มต้านรัฐประหารที่จะมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และยังไม่พบว่ามีการควบคุมตัวบุคคล ขณะที่การสัญจรยังเป็นไปตามปกติ ท่ามกลางการรักความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ โดยมีการนำรถทหารหุ้มเกราะมาประจำการ 2 คัน พร้อมเปิดเพลงปลุกใจ
เด็กทำรายงานส่งครูนึกว่าม็อบต้าน
เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยา กาศที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีกลุ่มต้านรัฐประหาร ขณะเดียวกันมีเยาวชน 4-5 คน อายุประมาณ 14 ปี เข้าไปใกล้บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวออกมาเนื่องจากคิดว่าเป็นกลุ่มต้านรัฐประหาร แต่จากการสอบถามพบว่ากลุ่มเยาวชนดังกล่าวเข้าไปถ่ายภาพอนุสาวรีย์ชัยฯเพื่อไปใช้ทำรายงานส่งอาจารย์ ไม่เกี่ยว ข้องกับการเมืองแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอจดชื่อและถ่ายภาพเพื่อนำไปรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน
แมคฯไร้ม็อบ-นอกเครื่องแบบพรึ่บ
เวลา 13.40 น. ที่บริเวณร้านแมคโดนัลด์ ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า บริเวณราชประสงค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์โดยรอบไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารเช่นเดียวกับภายในร้านแมคโดนัลด์ พบเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบราว 10 นาย คอยสังเกต การณ์ความเคลื่อนไหว ภายในร้านแมคโดนัลด์ ยังติดป้ายประกาศห้ามบันทึกภาพหรือทำ กิจกรรมใดๆ เพื่อแสดงความเคลื่อนไหวทางการเมือง
ส่วนการเฝ้าระวังโดยรอบมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวน 3 กองร้อย กระจายกันเฝ้าระวังและตรวจตราความเคลื่อนไหวตั้งแต่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสนามกีฬาแห่งชาติ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม สกายวอล์กสยาม บริเวณแมคโด นัลด์ ราชประสงค์ ส่วนบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลมและสกายวอล์กจากฝั่งชิดลมมายังบริเวณราชประสงค์ไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด การสัญจรปกติ
รอเปิดพื้นที่พร้อมรับความเห็น
ต่อมาเวลา 14.45 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รองผบ.ตร. เข้าตรวจตรากำลังพลบริเวณพื้นที่ราชประสงค์ พร้อมกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ทำตามหน้าที่และแผนที่วางไว้ โดยเน้นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเป็นหลัก ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารจะประจำการในที่ลับตา เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตปกติ ส่วนเป้าหมายนั้นรู้ว่าเป็นใคร กลุ่มไหน และให้เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบตามติดไว้ทั้งหมด สำหรับการปฏิบัติกับผู้มาชุมนุมจะเน้นทำตามกฎหมายจากเบาไปหาหนัก หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เพราะประเทศเราอยู่ในช่วงปรองดอง จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนที่มาชุมนุม อยากชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ใช่ศัตรู แต่เราต้องทำตามกฎหมาย
"ขอให้เห็นแก่ประเทศชาติ รอดูการ กระทำของหัวหน้าคสช.ก่อน เพราะยังไม่ทันทำงานก็ออกมาต่อต้านกัน ทำแบบนี้ไม่ถูก หากหัวหน้าคสช.ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ผมคนหนึ่งอาจจะออกมายืนข้างผู้ชุมนุมก็เป็นได้ และจะได้แนวร่วมมากกว่านี้ แต่การกระทำในตอนนี้ทำให้ประเทศชาติเสียหาย เกิดความวุ่นวายและเสียภาพลักษณ์แก่ชาวต่างชาติ" พล.ต.อ.สมยศกล่าวและว่า ไม่อยากให้ออกมาแสดงออกตามแฟชั่นหรือทำเพื่ออยากแสดง ออก เพราะไม่ถึงเวลา ถ้าทุกอย่างอยู่ในความสงบเรียบร้อย หัวหน้าคสช.จะเปิดพื้นที่ปรองดอง แต่ตอนนี้อยากให้หยุดความเคลื่อนไหว หยุดนิ่งก่อน เมื่อประเทศสงบแล้วจะได้มีโอกาสเปิดพื้นที่ให้แสดงความ คิดเห็นได้
จับหญิง-ชายชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว
เวลา 15.10 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังเพิ่มขึ้นและเข้าเฝ้าระวังพื้นที่บริเวณสกายวอล์กสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลมที่เชื่อมมายังร้านแมคโดนัลด์ หลังการข่าวแจ้งว่าผู้ชุมนุมจะเริ่มเคลื่อนไหว กระทั่ง เวลา 15.30 น. ที่ลานน้ำพุห้างสยามพารากอน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ทั้งในและนอกเครื่องแบบหลายร้อยนาย ยืนตรวจตราประจำจุดต่างๆ บริเวณด้านในและด้านนอกของห้าง ส่วนประชาชนยังคงใช้ชีวิตตามปกติ
ต่อมา มีผู้หญิงวัยกลางคนรวมตัวกันแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหารด้วยการชู 3 นิ้ว โดยมีกลุ่มผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 10 คนเข้าไปบันทึกภาพ กระทั่งเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบพยายามเข้ามาควบคุมตัวผู้แสดงสัญลักษณ์แต่ติดวงล้อมสื่อมวลชน ทำให้กลุ่มต่อต้านคล้องแขนและรีบเดินออกไปทางสถานีบีทีเอสสยาม จากนั้นตะโกนว่า อย่าทำร้ายประชาชนมือเปล่า หยุดคุกคามประชาชน โดยแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกขึ้นไปบนบีทีเอส ส่วนอีก 2 รายลงไปด้านล่างและโบกรถโดยสารแท็กซี่ ขณะที่ เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบขี่รถจักรยานยนต์ตามและเข้าควบคุมตัวพาไปยังสน.ปทุมวัน ในท้ายที่สุดจับกุมผู้หญิงได้ 6 คน ผู้ชาย 1 คน นำตัวไปที่สโมสร ทบ. เทเวศร์
สำหรับ รายชื่อผู้ชุมนุมแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านที่พารากอนซึ่งถูกจับกุมตัวไว้ในความควบคุมของฝ่ายทหาร 7 คนมีดังนี้ 1.นายสุรสิทธิ์ น่วมสิริ 2.นางพรริดา บูเทียร์ 3.นางสุมณฑา ปรีชาสุวรรณ 4.นางพิชามญช์ สุขโข 5.น.ส.ดารณี สายอุบล 6.นางอารีย์ นามเอี่ยม 7.นางพลอยดาว วงศ์วิบูลย์ชัย
ม็อบต้านแฝงตัวตลาดนัดจตุจักร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหอนาฬิกา สวนจตุจักร มีการนัดหมายเพื่อทำกิจกรรมต่อต้านการรัฐประหาร เวลาประมาณ 14.00 น. โดยมีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจราว 50 นาย พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารเข้าประจำการบริเวณดังกล่าวโดยตั้งแถวรอบหอนาฬิกา เพื่อดูแลความปลอดภัย โดยปิดบริการรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสวนจตุจักร พร้อมปิดทางเข้าออกบางจุดด้วย
เวลา 16.00 น. กลุ่มคนที่เดินทางมาทำกิจกรรมต้านรัฐประหารรวมตัวกันเงียบๆ บริเวณหอนาฬิกา แต่ไม่แสดงตัวเพื่อทำกิจ กรรมใดๆ กล่าวเพียงว่าเดินทางมาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ และได้ยืนสังเกตบริเวณดังกล่าวอยู่ระยะหนึ่งก่อนสลายตัวไป ก่อนหน้ามีการเปลี่ยนจากการชูสามนิ้วเป็นการนัดปิกนิกกินแซนด์วิชที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์ไปแล้ว ขณะเดียวกันประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติต่างสงสัยว่าเกิดเหตุการณ์อะไร ขึ้น แต่ยังคงเดินทางมาจับจ่ายสินค้าตามปกติ
น.ศ.จัดปิกนิกกินแซนด์วิช
เวลา 16.30 น. ที่สนามหลวง ฝั่งมหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาเพื่อ (ศนปท.) ประชา ธิปไตยแห่งประเทศไทย นำโดยนายสิรวิชญ เสธวัฒน์ ตัวแทน ศนปท. จัดกิจกรรม "ปิกนิกสนามหลวงคืนความสุขให้คนไทย" เชิญชวนร่วมปิกนิกกินลมชมวิวนำอาหารมาแบ่งปัน กันรับประทาน โดยมีนักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัยร่วมกับประชาชนจำนวนหนึ่งมารวมตัวกันและจัดกิจกรรมที่ด้านหน้ามหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนื่องจากพื้นที่สนามหลวงถูกปิดกั้น โดยแจกฟรีแซนด์วิชให้ร่วมกันรับประทานจำนวน 50 ชิ้น ก่อนอ่านบทกวีและเปิดกล่องรับบริจาคเพื่อเป็นทุนจัดกิจกรรมต่อไป กิจกรรมครั้งนี้ใช้เวลาเพียง 15 นาที ก่อนจะสลายตัวแยกย้ายกันกลับ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจ นครบาล 6 ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจของ กทม.ประจำการอยู่บริเวณสนามหลวงและด้านหน้ามหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ โดยปิดประตูรั้วรอบสนามหลวงกั้นไม่ให้ประชาชนเดินผ่านเข้าพื้นที่ รวมถึงเตรียมรถผู้ต้องขังจอดเตรียมไว้
สุวรรณภูมิไร้กลุ่มต้าน
สำหรับ ที่อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่ปรากฏกลุ่มต้านรัฐประหารตาม ที่มีข่าวการนัดหมายกัน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิคอยดูแลความสงบเงียบร้อย
นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่าการบริการผู้โดยสารและเที่ยวบินยังเป็นไปตามปกติ โดยกำชับเจ้าหน้าที่ประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21 รักษาพระองค์ (ป.พัน.21.รอ.) ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามบริการด้านต่างๆ ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ที่โทร.1722 ตลอด 24 ชั่วโมง
โคราชแตกตื่นตร.-ทหารพรึบ
สำหรับ ความเคลื่อนไหวในจังหวัดต่างๆ ที่จ.นครราชสีมา เวลา 08.00 น. กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 2 พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง โดยมีพ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร ผกก.สภ.เมือง นครราชสีมา ผู้ประสานงานในพื้นที่รับผิดชอบ สนธิกำลังเฝ้าระวัง รวมทั้งจัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ออกตรวจสอบตามสถานที่เป้าหมายที่เป็นเชิงสัญลักษณ์การเมือง ซึ่งมีลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ห้างสรรพสินค้าเดอะ มอลล์โคราช สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธประจำกาย ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด พร้อมตั้งด่านตรวจค้นยานพาหนะหลายแห่งในเขตชุมชน โดยกำชับห้ามแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหารอย่างเด็ดขาด
เสื้อแดงโคราชพร้อมปรองดอง
ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสมโภชน์ ประสาทไทย อดีตแกนนำคนเสื้อแดง อ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่าตนได้หารือกับเครือข่ายแกนนำคนเสื้อแดงในพื้นที่ เพื่อเตรียมประสานงานกับสมาชิกคนเสื้อแดงในชุมชนต่างๆ ในพื้นที่อ.เมือง จ.นครราชสีมา ให้มาร่วมกิจกรรมสมานฉันท์ปรองดอง สร้างความสุขอย่างยั่งยืน เดินหน้าประเทศไทย ที่สนามกีฬาเฉลิม พระเกียรติ 80 พรรษา ในวันที่ 11 มิ.ย. โดยในวันดังกล่าวจะมีกลุ่มมวลชน กปปส. และ นปช. จาก 32 อำเภอทั่วจังหวัดนคร ราชสีมา ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากเพื่อทำ ให้สถาน การณ์บ้านเมืองกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
พบทหารปลอมค้นบ้านแจ้งทันที
ที่บริเวณวัดอัมพวาวนาราม อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี รักษาการหัวหน้ากองกิจการพลเรือน มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น พร้อมทหารในสังกัด และมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ พร้อมภาคเอกชน ร่วมกันเปิดโครงการพัฒนาความรู้ พัฒนาความรักความสามัคคี เพื่อชุมชนเข้มแข็ง และโครงการร่วมใจช่วยบรรเทาภัยแล้ง ในงานมีกิจกรรมตรวจสุขภาพประชาชน ทหารนำรถบรรทุกน้ำ 12,000 ลิตร ไปแจกจ่ายผู้ประสบภัยแล้ง และร่วมกวาดลานวัดเพื่อความรักสามัคคี และสลายสีเสื้อ ซึ่งในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านเสื้อแดงมาก่อน
พ.ท.พิทักษ์พล กล่าวว่า โครงการนี้ เน้นย้ำให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกสี ยุติความขัดแย้ง เพื่อให้ประเทศชาติสงบสุข และขอชี้แจงว่าทหารไม่มีนโยบายเข้าไปตรวจค้น รื้อสิ่งของในบ้านของชาวบ้านเด็ดขาด การเข้าไปของทหารจะต้องทำงานร่วมกันกับฝ่ายตำรวจและฝ่ายปก ครอง โดยเข้าไปตรวจสอบบ้านชาวบ้านด้วยกันทั้งสามฝ่าย จะมีรถยีเอ็มซีนำไป การแต่งกายถูกระเบียบ หากมีเหตุการณ์สงสัยว่าคนแต่งตัวคล้ายทหารเข้าไปค้นบ้านขอให้แจ้งมาที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ขอนแก่น เพื่อตรวจสอบและจับกุมทันทีถ้าไม่ใช่ทหารจริง
จัดกำลังคุมเข้มห้างดังเชียงใหม่
ที่จ.เชียงใหม่ บริเวณห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทั้งแอร์พอร์ตพลาซ่า ห้างพรอมเมนาดา ห้างฮาร์เบอร์ ห้างเซ็นทรัลเฟสฯ ห้างบิ๊กซี ห้างโลตัส และห้างแม็คโครทุกสาขาในเชียงใหม่ ทหารและตำรวจจัดกำลังเฝ้าตามจุดต่างๆ เพื่อป้องกันกลุ่มต่อต้านรัฐประหารที่นัดไปแสดงสัญลักษณ์ แต่ไม่ปรากฏกลุ่มต่อต้าน
ด้านนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ที่ปรึกษากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ได้รับการปล่อยตัวจากทหารที่จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. กล่าวว่าตอนนี้ตนและกลุ่มสมาชิกเห็นด้วยกับทหารที่จะสลายสีเสื้อ เพื่อความปรองดองและพร้อมร่วมมือ สำหรับกลุ่มที่จะมาแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหารนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 แต่อย่างใด
ทร.-ตร.สนธิกำลังตรึงปากน้ำ
เวลา 13.00 น. ที่สี่แยกศรีเทพา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ทหารเรือ 10 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก ภ.จว.สมุทรปราการ 200 นาย สนธิกำลังเตรียมความพร้อมรับมือกลุ่มมวลชนต่อต้านรัฐประหาร พ.ต.อ.สมชัย อินตาพวง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เปิดเผยว่าจากหน่วยข่าวกรองรายงานว่าในวันนี้กลุ่มมวลชนจะเดินทางมาในรูปแบบของประชาชนทั่วไป ไม่มีการชูป้าย หรือพกพาสิ่งที่เคยใช้แสดงออกทางการเมือง จึงกำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังให้มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และใช้มาตรการเบาไปหาหนัก
แอมเนสตี้จี้ปล่อยตัวบ.ก.ลายจุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเลขาธิการใหญ่องค์การนิรโทษกรรมสากล หรือ แอม เนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงลอนดอน สหราช อาณาจักร ออกแถลงการณ์เรื่อง "ประเทศไทย : การปราบปรามรุนแรงพร้อมกับการจับกุมแกนนำระดับสูง และการเรียกตัวเพิ่มเติมโดยศาลทหาร" เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ระบุว่าการจับกุมแกนนำผู้ประท้วงระดับสูงและการออกหมายเรียกตัวของศาลทหาร กรณีผู้ชุมนุมประท้วงอย่างสงบเจ็ดคน เป็นปฏิบัติการล่าสุดของ กองทัพไทยในการปราบปรามสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบและขยายวงกว้างมากขึ้น โดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ นักเคลื่อนไหวทางสังคมคนสำคัญถูกจับกุมที่จ.ชลบุรี
นายริชาร์ด เบนเน็ต ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ควรได้รับการปล่อยตัวโดยทันที เว้นแต่จะมีการตั้งข้อหาอาญาตามกฎหมาย และให้มีการควบคุมตัวระหว่างรอการไต่สวนโดยศาลพลเรือนที่เป็นอิสระ นับเป็นปฏิบัติการที่สร้างปัญหาอย่างมากกรณีการจับกุมบุคคลเพียงเพราะ การแสดงความไม่เห็นด้วยต่อระบอบทหาร ปฏิบัติการของทหารมีลักษณะเป็นการปราบปรามมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เลิกปราบปรามผู้ประท้วงโดยสันติ
แถลงการณ์ระบุต่อว่า แนวโน้มที่น่ากังวลอีกประการหนึ่ง ได้แก่ ศาลทหารจังหวัดเชียงรายมีหมายเรียกตัวบุคคลเจ็ดคน ซึ่ง เข้าร่วมการประท้วงเชิงสัญลักษณ์ต่อการรัฐประหาร ในขณะที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการซึ่งถูกจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้รับการประกันตัวจากศาลทหารที่กรุงเทพฯ แต่น่าจะถูกฟ้องต่อศาลในข้อหาแสดงการต่อต้านอย่างสงบต่อการรัฐประหาร "ต้องมีการยกเลิกข้อกล่าวหาโดยทันทีต่อ ผู้ประท้วงอย่างสงบทั้งเจ็ดราย นายจาตุรนต์ ฉายแสง และบุคคลอื่นที่ถูกควบคุมตัวเพียงเพราะแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างสงบ แทนที่จะเพิ่มการปราบปราม ทางการต้องยกเลิกคำสั่งใดๆ ที่ประกาศตามกฎอัยการศึก ซึ่งนำไปสู่การจำกัดต่อสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างรุนแรง" นายริชาร์ดกล่าวและว่า การนำตัวพลเรือนขึ้นศาลทหารเป็นการแสดงความดูแคลนต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ศาลทหารละเมิดสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม และไม่เปิดให้มีการอุทธรณ์คดี
นายริชาร์ด ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาทางกองทัพเรียกตัวบุคคลกว่า 300 คนให้มารายงานตัว ส่วนใหญ่จะถูกควบคุมตัวโดยพลการเป็นเวลานานเกือบสัปดาห์ การปราบปรามของกองทัพต่อผู้ประท้วงอย่างสงบต้องยุติลงโดยทันที และต้องยุติการควบคุมตัวบุคคลโดยพลการและไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอก รวมทั้งการใช้โทษจำคุกเพื่อคุกคามผู้ประท้วงอย่างสงบ มาตรการอื่นใดที่ขัดขวางไม่ให้มีการอภิปรายและโต้เถียงทางการเมือง และการขัดขวางไม่ให้บุคคลมีส่วนร่วมในชีวิตสาธารณะ ต้องยุติลงเช่นกัน
ออกหมายจับผู้ไม่รายงานตัว10คน
พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่าพนักงานสอบสวนกองปราบปรามรวบรวมสำนวนเพื่อออกหมายจับบุคคลผู้ฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวตามคำสั่งคสช. จำนวน 10 ราย โดยมี 1.นายสำราญ สายชนะ 2.นายธนเดช เอกอภิวัชร์ 3.นายอรรถชัย อนันตเมฆ 4.นายเยี่ยมยอด ศรีมันตะ 5.นางหน่อย แดงเป้า 6.นายณรงค์ศักดิ์ พลายอร่าม 7.น.ส.จิตรา คชเดช 8.นายพิพัฒน์ พรรณสุวรรณ์ 9.นายสิรภพ กรณ์อรุษ และ 10.นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งทั้ง 10 ราย พนักงานสอบสวนได้ขอหมายจับของศาลทหาร โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หมายจับมีอายุความ 10 ปี โดยศาลได้ออกหมายจับแล้ว
จิตราส่งจ.ม.เปิดผนึกแจงบิ๊กตู่
วันเดียวกัน น.ส.จิตรา คชเดช ทำจดหมายเปิดผนึกถึงพล.อ.ประยุทธ์ จากกรุงสตอก โฮล์ม ประเทศสวีเดน เรื่อง ขอให้รับทราบว่าไม่มีเจตนาฝ่าฝืนคำสั่งประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 44 พร้อมแนบสำเนาตั๋วเครื่องบินสตอกโฮล์ม-กรุงเทพฯ ด้วย เนื้อหาจดหมายระบุว่า "ด้วยดิฉัน จิตรา คชเดช เป็นผู้ที่ถูกเรียกรายงานตัวตามประกาศฉบับที่ 44 ณ วันที่ 1 มิถุนายน พุทธศักราช 2557 ลงชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาตินั้น ดิฉันรับทราบประกาศจากสื่อออนไลน์ซึ่งการให้เข้ารายงานตัว ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 3 มิ.ย. พ.ศ.2557 เวลา 10.00-12.00 นั้น ดิฉันคงไม่สามารถไปรายงานตัวได้ตามกำหนดวันและเวลา เพราะปัจจุบันนี้ดิฉันได้มาอยู่ที่ประเทศสวีเดนด้วยวีซ่าท่องเที่ยว เดินทางมาตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 2557 ซึ่งมีกำหนดกลับตามวีซ่าและตั๋วที่มีกำหนดซื้อล่วงหน้าก่อนที่จะมีประกาศรายงานตัว และเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยไทยจะเข้ารายงานตัวทันที ซึ่งเรื่องดังกล่าวดิฉันได้แสดงเจตนารมณ์มาตั้งแต่ต้นไม่เคยคิดหลบหนีแต่อย่างใด เพราะไปแสดงตัวที่สถานทูตไทยในสวีเดนตามที่เป็นข่าวในสื่อ มติชน ข่าวสด ทั้งออนไลน์และสื่อสิ่งพิมพ์ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2557 เวลา 09.00 น. (เวลาท้องถิ่นสวีเดน) ดิฉันได้ไปรายงานตัวที่สถานทูตแต่ได้รับการปฏิเสธ และดิฉันได้พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ของ คสช. ที่หมายเลข 09-4128-6273 และ 09-4234-9312 เพื่อติดต่อสอบถามเงื่อนไขในกรณีที่อยู่ต่างประเทศแต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์"
13 มิ.ย.กลับถึงไทยรายงานตัวทันที
ในจดหมายเปิดผนึกระบุต่อว่า "วันนี้ วันที่ 8 มิถุนายน 2557 ดิฉันได้เห็นข่าวมติชนออนไลน์ เรื่องการออกหมายจับผู้หลบหนีรายงานตัวซึ่งมีชื่อดิฉัน ด้วยนั้น จึงอยากจะชี้แจงในเจตนารมณ์ของตัวเองเสมอมาว่าไม่คิดจะหลบหนี เมื่อเสร็จภารกิจตามกำหนดระยะเวลาที่มีการวางแผนล่วงหน้าก่อนที่จะมีประกาศดังกล่าว ดิฉันจะเดินทางถึงประเทศ ไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 13 มิ.ย. 2557 เวลาประมาณ 06.30 น. จึงขอแจ้งให้ท่าน ทราบว่าดิฉันยินดีจะไปรายงานตัวตามสถานที่ ที่ คสช.กำหนด เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่มีเจตนา ฝ่าฝืนคำสั่งแต่อย่างใด"
โพลชี้สเป๊กนายกฯต้องเด็ดขาด
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ มหา วิทยาลัยกรุงเทพ เผยผลสำรวจความเห็น 60 นักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 31 แห่ง เรื่อง "ประเทศไทยบนโหมดปฏิรูป" เก็บข้อมูลวันที่ 26-30 พ.ค. ผลปรากฏว่า การบริหารประเทศช่วงนี้ ร้อยละ 65.0 เห็นว่า นายกฯควรเป็นคนเด็ดขาด กล้าตัดสินใจ และให้ความสำคัญกับการปฏิรูป รองลงมาร้อยละ 10.0 ควรเป็นคนประนีประนอม เป็นที่ยอมรับทั้งฟาก กปปส. และนปช. ส่วนกรอบเวลาการบริหารประเทศที่เหมาะสมนั้น ร้อยละ 41.7 เห็นว่าไม่ควรเกิน 1 ปี รองลงมาร้อยละ 20 เห็นว่าไม่ควรเกิน 6 เดือน
ประเด็นการปฏิรูปควรมีตัวแทนจากภาคการเมืองหรือไม่ ร้อยละ 36.7 เห็นว่าควรมี ให้เหตุผลว่านักการเมืองเป็นผู้รู้ปัญหาและผู้สร้างปัญหาในภาคปฏิบัติจึงต้องเลือกคนที่เป็นกลางและมีจำนวนไม่มาก หากขาดคนกลุ่มนี้อาจเกิดการไม่ยอมรับในภายหลัง ส่วนที่เห็นว่าไม่ควรมีตัวแทนจากภาคการเมือง ให้เหตุผลว่าภาคการเมืองเป็นต้นเหตุของปัญหาจึงไม่ควรมี เพื่อความเป็นกลาง อิสระ ไม่มีการปกป้องผลประโยชน์ทางการเมือง
เชียร์ปฏิรูป-ฝันปลอดทุจริต
เรื่องที่นักเศรษฐศาสตร์ต้องการให้ปฏิรูปมากที่สุด ร้อยละ 41.5 ระบุด้านการเมือง เพื่อแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น รองลงมาร้อยละ 29.6 ด้านเศรษฐกิจ ปฏิรูประบบภาษีเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ สร้างความเจริญไปยังภูมิภาคมากขึ้น
เมื่อถามถึงจินตนาการประเทศไทยภายหลังการปฏิรูป พบว่า อันดับ 1 ประเทศไทยไม่มีคอร์รัปชั่น ไม่มีระบบอุปถัมภ์ อันดับ 2 คนไทยรักใคร่ สามัคคี ปรองดอง อันดับ 3 ไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง ไม่มีนโยบายประชานิยมสุดโต่ง นักการเมืองมีคุณภาพ โดยนักเศรษฐศาสตร์มั่นใจว่าการปฏิรูปประเทศจะสำเร็จร้อยละ 50.0 จากที่คาดหวังไว้
หนุน'บิ๊กตู่'ยึดประโยชน์ชาติ
ส่วนสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์อยากบอกกับหัวหน้า คสช. ในประเด็นการปฏิรูป มีดังนี้ อันดับ 1 เป็นกำลังใจให้ ขอให้อดทน มั่นคง แน่วแน่ กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ อันดับ 2 ต้องเข้าใจปัญหาที่จะปฏิรูป ต้องปฏิรูปอย่างจริงจัง ปูพื้นฐานเรื่องการปฏิรูปให้มั่นคงเพื่อสานต่อในอนาคต อันดับ 3 ต้องแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นให้ได้ สร้างค่านิยมรังเกียจการคอร์รัปชั่น
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจต่อจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 80 เห็นว่าเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น รองลงมาร้อยละ 6.7 เห็นว่าเศรษฐกิจน่าจะแย่ลงอีก
เผยคุมตัว'สาวตรี'ไปค่ายจักรพงษ์
รายงานข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการควบคุมตัวนางสาวสาวตรี สุขศรี หนึ่งในอาจารย์กลุ่มนิติราษฎร์ ระหว่างเดินทางกลับจากดูงานต่างประเทศ เนื่องจากคสช.มีคำสั่งเรียกรายงานตัวก่อนหน้านี้ว่า ภายหลังถูกจับกุมขณะเดินทางกลับจากต่างประเทศถึงสนามบินสุวรรณภูมิช่วงเที่ยงวันที่ 7 มิ.ย. น.ส.สาวตรีถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือตม.ควบคุมตัวไว้ตามคำสั่งของคสช. จากนั้นนำตัวไปที่กองพันทหารสารวัตรทหารอากาศ (สห.ทอ.) ถึงช่วงค่ำ ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. มีรายงานว่าน.ส.สาวตรีถูกควบคุมตัวจากสห.ทอ. ไปต่างจังหวัดโดยมีผู้หญิงดูแล 1 คน ล่าสุดเวลา 14.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. มีรายงานว่าน.ส.สาวตรีถูกควบ คุมไปที่ค่ายจักรพงษ์ จังหวัดปราจีนบุรี โดยคาดว่าจะมีการนำตัวมาที่หอประชุมกองทัพบกเทเวศร์ในวันที่ 10 มิ.ย. เพื่อพิจารณาว่าจะปล่อยตัวหรือไม่
เรียก'กี้ร์-แกนนำแดง'รายงานตัวเพิ่ม
เมื่อเวลา 21.33 น. คสช.ออกคำสั่งที่ 52/2557 เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม 3 คน ที่ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 10.00-12.00 น. ดังนี้ 1.นายพรศักดิ์ ศรีละมุล 2.นายมนัส ไทยล้วน 3.นายจิระประวัติ วสินทรงสุรเดช ต่อมา คสช.ออกคำสั่งที่ 53/2557 เรื่อง ให้บุคคล มารายงานตัวเพิ่มเติม 13 คน ดังนี้ 1.นาย อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง 2.นายธนกฤต ชะเอมน้อย 3.นายสุนัย จุลพงศธร 4.นายอารี ไกรนรา 5.นายณัฐ สัตยาภรณ์พิสุทธิ์ 6.นายธีร์ บริรักษ์ 7.นายธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล 8.นายธานัท ธนวัชรนนท์ 9.น.ส.สุดา รังกุพันธุ์ 10.นายชัยอนันต์ ไผ่สีทอง 11.นายพงศ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง 12.นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ 13.นายพฤทธ์นริทร์ ธนบริบูรณ์สุข โดยทั้งหมดให้มารายงานตัวเพิ่มเติม ที่ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 10.00-12.00 น.
ปลัดบัวแก้วเผยสหรัฐยังเชื่อมั่นไทย
ที่นครย่างกุ้ง สหภาพเมียนมาร์ นาย สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการร่วมประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสความร่วมมือเอเชีย (อีเอเอส) ซึ่งมีผู้แทนระดับสูงของประเทศสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย เข้าร่วมประชุมด้วยว่า ตนได้เล่าถึงสถานการณ์และพัฒนาการล่าสุดในประเทศไทยให้ผู้ร่วมประชุมรับทราบ แม้ประเทศเหล่านั้นมีความห่วงใยกังวลและต้องแสดงท่าที แต่เขาควรจะอยู่กับเรา มีปฏิ สัมพันธ์และติดต่อกับเราเพื่อสนับสนุนไทยในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งจะทำให้สถาน การณ์ในไทยกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ขณะที่นายแดเนียล รัสเซลส์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ฝ่ายกิจการเอเชีย-แปซิฟิก ยืนยันในที่ประชุมว่าไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญ ของสหรัฐ และสหรัฐคาดหวังว่าไทยจะกลับสู่ประชาธิปไตยได้โดยเร็ว ขณะที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ยืนยันว่าไทยเป็นมิตรประเทศของเขาเช่นเดียวกัน จึงถือว่าประเทศเหล่านี้มั่นใจต่อไทยมากขึ้นหลังจากที่ไทยประกาศโรดแม็ป 3 ขั้นไปแล้ว
อินเดียเชิญผบ.สส.เยือนมิ.ย.นี้
ปลัดกระทรวงการต่างประเทศกล่าวต่อว่า ตนได้พูดคุยกับหัวหน้าคณะของอินเดีย ซึ่งได้รับความยืนยันว่าอินเดียจะไม่มีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกัน อีกทั้งอินเดียเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องที่คนไทยจะต้องแก้ไขปัญหากันเอง ส่วนความสัมพันธ์ไทยกับอินเดียยังเป็นไปตามปกติ โดยอินเดียมีแผนที่จะเชิญพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปเยือนอินเดียในเดือนมิ.ย.นี้ ส่วนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แสดงความเข้าใจเช่นกัน ด้านอาเซียนทุกประเทศต่างออกมาสนับสนุนไทยและระบุว่าไทยเป็นประเทศที่มีความสำคัญในภูมิภาค รวมถึงมีความสำคัญกับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน
10 คำถามประชาชนถึง'บิ๊กตู่'
วันที่ 8 มิ.ย. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เผยผลสำรวจ 10 เรื่องที่ประชาชนอยากรู้จากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังจากคสช.จัดรายการ 'คืนความสุขให้กับคนในชาติ' ทุกวันศุกร์ เพื่อชี้แจงแผนปฏิบัติงานของ คสช. มีเนื้อหาเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน และแนวทางเร่งรัดแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนในเรื่องที่ประชาชนอยากรู้จาก คสช. ณ วันนี้ โดยสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,434 คน ระหว่างวันที่ 3-7 มิ.ย. สรุปผลได้ ดังนี้
อันดับ 1 จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้เข้าสู่ภาวะปกติและจะยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศเมื่อใด ร้อยละ 89.34 อันดับ 2 จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ามีจะจัดการเลือกตั้งในช่วงเวลาใด ร้อยละ 85.59 อันดับ 3 อยากรู้แนวทางการทำงานในการปฏิรูปบ้านเมือง ทิศทางของบ้านเมืองต่อจากนี้ รวมถึงวิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่มีในปัจจุบัน ร้อยละ 82.95 อันดับ 4 แนวทางการแก้ปัญหาด้านพลังงานที่มีราคาแพง เช่น แก๊ส น้ำมัน ไฟฟ้า การป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ ร้อยละ 80.33 อันดับ 5 ในคดีต่างๆ เช่น คดีทางการเมือง หมิ่นเบื้องสูง การทุจริตคอร์รัปชั่น ฯลฯ ร้อยละ 32
อันดับ 6 วิธีการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจของประเทศ การสร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นการค้าการลงทุน การเตรียมความพร้อมเข้าสู่อาเซียน ร้อยละ 78.11 อันดับ 7 แนวทางการปฏิรูปการศึกษาเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพ การกระจายโอกาสทางการศึกษาให้ทั่วถึง ร้อยละ 77.30 อันดับ 8 โดยเฉพาะเรื่องข้าว หนี้สินเกษตรกร ร้อยละ 76.28 อันดับ 9 การช่วยเหลือดูแลประชาชนในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ความปลอดภัย ปัญหาว่างงาน ยาเสพติด ฯลฯ ร้อยละ 75.27 อันดับ 10 เรื่องที่ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ลำบากใจ อึดอัดใจ จะเป็นนายกฯ หรือไม่ กิจกรรมยามว่าง ฯลฯ ร้อยละ 68.25
ญาติยังไม่รับศพในคลองผดุง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. นายปิยะรัตน์ ปราบพล ญาติของนายเกรียงไกร ปราบพล ผู้เสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมแล้วถ่วงน้ำภายในคลองผดุงกรุงเกษม ช่วงสะพานผ่านฟ้าฯ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา เดินทางมาติดต่อเรื่องศพพี่ชายต่างมารดาที่สน.นางเลิ้ง เบื้องต้นนายปิยะรัตน์ดูรูปผู้เสียชีวิตแล้วยืนยันว่าเป็นพี่ชายจริง ซึ่งเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ นานแล้ว และเพิ่งกลับไปเจอกันที่บ้านในจ.อุบลราชธานีเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา
นายปิยะรัตน์ ระบุว่า พี่ชายเคยติดเหล้าและมีอาการทางประสาท แต่ไม่ทราบว่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองหรือไม่ แต่ในวันเดียวกันนี้ยังไม่สามารถรับศพได้เนื่องจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ขอตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันอีกครั้ง ประกอบกับทางบ้านไม่มีเงินจึงยังไม่รับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ ตันติมาก ผกก.สน.นางเลิ้งเผยความคืบหน้าคดีฆ่าถ่วงน้ำในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้งซึ่งมี 2 คดีคือ คดีของนายเกรียงไกรที่สะพานผ่านฟ้าและคดีพบโครงกระดูกมนุษย์ที่เสียชีวิตมานานกว่า 1 เดือน ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า จากการสืบสวนพบว่าทั้ง 2 คดีไม่มีความเชื่อมโยงกัน แม้จะใช้เต็นท์ผ้าใบสีฟ้าเหมือนกันก็ตาม เพราะเต็นท์ผ้าใบดังกล่าวผู้ชุมนุมใช้กันหลากหลาย ประกอบกับการชุมนุมแบ่งพื้นที่กันชัดเจน จึงเป็นไปได้ว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนละกลุ่ม
จับ 3 สาวโผล่พารากอน ยังมีชู 3 นิ้ว อธิการมธ.ถกทหารวันนี้ แผนรปภ.ธรรมศาสตร์ นศ.ปิกนิกกินแซนด์วิช ศาลทหารอนุมัติจับ 10 เรียกรายงานตัว16คน ศธ.เริ่ม 2 วิชาใหม่เทอม 2
 ต้าน - ประชาชนแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหารบริเวณห้างสยามพารากอน ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ. ช่วยราชการ บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจพื้นที่ร้านแมคโดนัลด์ ย่านราชประสงค์ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน
|
ตร.-ทหารคุมเข้ม 5 จุดนัดต้าน ปว. ม็อบโผล่สยามพารากอน 5 สาวชู 3 นิ้วคล้องแขนเดินประท้วง ถูกตำรวจรวบทันควัน @ ป.ป.ช.เชียร์คสช.ลุยปรองดอง เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ศูนย์พัฒนาบุคลากรทางการลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจกรรมเยาวชน "ผิน แจ่มวิชาสอน" กรุงเทพมหานคร นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงแนวทางการปรองดองที่จะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ ว่า เห็นด้วยกับแนวทางของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีกระบวนการทำความเข้าใจกับผู้ที่ยังไม่เข้าใจให้มีความเข้าใจตรงกัน แต่ต้องแยกกันเพราะ ป.ป.ช.คงไปปรองดองกับผู้ทุจริตไม่ได้ เพราะคนที่ยังไม่เข้าใจในกระบวนการ แต่ยังเข้าใจในแนวทางการเมืองก็ต้องเข้าไปสร้างความปรองดองให้ได้ เมื่อถามว่า คสช.ทาบทามให้เข้าร่วมในสภาปฏิรูปด้วยหรือไม่ นายวิชากล่าวสั้นๆ ว่า "ยังไม่มีครับ" @ เผยคอร์รัปชั่นเมืองไทยพุ่ง ต่อมานายวิชาได้บรรยายให้ผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บังคับบัญชาลูกเสือวิสามัญช่อสะอาด หัวข้อ 'ทุจริตคอร์รัปชั่นผลกระทบต่อชาติ'ว่า จุดสำคัญที่โลกเพ่งเล็งคือ ดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น ซึ่งองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติเป็นผู้จัดอันดับ ปรากฏว่าดัชนีดังกล่าวของไทยสอบตกทุกปี ไม่เคยสอบได้ ประเมินมาสิบกว่าปีไม่เคยได้ถึงครึ่ง ไทยอยู่ในโซนที่ตกต่ำเรื่องคอร์รัปชั่นอย่างมาก นายวิชา กล่าวว่า สิ่งที่ต้องเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้คือ เรื่องการปรับปรุงกฎหมายภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการคอร์รัปชั่น (UNCC) ซึ่งทั้งโลกต้องปรับปรุงแก้ไข อนุสัญญาฯฉบับนี้กำหนดให้ทุกประเทศจะต้องไปรายงานต่อสหประชาชาติว่าได้ปรับปรุงกฎหมายอย่างไร "ประเทศไทยมีข้อที่ต้องปรับปรุงคือ ความเข้าใจเรื่องคอร์รัปชั่นที่ยังไม่ตรงกันในสังคม สังเกตเห็นได้จากคำว่าคอร์รัปชั่นถ้าเป็นความหมายของโลกหมายถึงการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ชั่วช้า ฉ้อโกง สิ่งเหล่านี้เมื่อผนวกกันถือว่ารุนแรงมาก รวมถึงการกระทำที่ขัดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือสิทธิของผู้อื่น การใช้อำนาจหน้าที่ที่ตัวเองมีอยู่เกินขอบเขตก็จัดเป็นคอร์รัปชั่นของโลก เช่น ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ระดับผู้อำนวยการไปทำการที่ขัดต่อตำแหน่งหน้าที่" นายวิชากล่าว @ แก้กม.ป้องโกงแบบถอนโคน นายวิชา กล่าวว่า สำหรับการพัฒนาสังคมเพื่อป้องกันการทุจริตนั้น ต้องดูปัญหาก่อนว่าการบังคับใช้กฎหมายเป็นอย่างไร ประเทศไทยมีกฎหมายที่ดี แต่ปรากฏว่าการบังคับกฎหมายเลว ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ รู้ว่าทำผิดแต่ไม่สามารถจับเขามาได้ ดังนั้น จำเป็นต้องปรับปรุงการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ แต่ ป.ป.ช.ดำเนินการฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องมีเครือข่ายเข้ามาช่วยดำเนินการเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ซึ่งเครือข่ายลูกเสือช่อสะอาดถือเป็นเครือข่ายที่มีกำลังและมีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ สามารถช่วยให้การทำงานของ ป.ป.ช.เกิดความสำเร็จ "การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นต้องแก้แบบถอนรากถอนโคน ไม่ใช่แค่เพียงตัดต้นหญ้า แต่ต้องถอนต้นหญ้าออกไปด้วยมันจะได้ไม่ขึ้นมาใหม่ ซึ่งคิดว่าควรเอาระบบสหรัฐอเมริกามาใช้ที่ต้องทำเรื่องกระบวนการต่อต้านระบบอุปถัมภ์ อย่าให้ระบบอุปถัมภ์เป็นวิถีชีวิตในการดำเนินชีวิต" นายวิชากล่าว @ เปิดสาย1111แจ้งโกง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ข้าราชการทุกภาคส่วนต้องร่วมกันประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างของการนำพาความร่มเย็นเป็นสุขกลับคืนสู่ประเทศไทย ด้วยการช่วยกันเสริมช่วยกันสร้างความสมัครสมานสามัคคีให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ได้แก่ การไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น มีไมตรีจิตต่อพี่น้องประชาชน เป็นข้าราชการของแผ่นดินตามปรัชญาคำสอนพระราชทาน ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต มีความเสียสละ ยึดหลักธรรมาภิบาลเป็นหัวใจในการบริหารราชการอย่างเคร่งครัด ยังให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า จึงใคร่ขอความร่วมมือจากพี่น้องเพื่อนข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พี่น้องกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพี่น้องประชาชนได้โปรดแจ้งข้อมูลข่าวสารและข้อเท็จจริงเบื้องต้นกรณีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของทางราชการผู้นั้น ทั้งที่ประจำการอยู่ในประเทศและต่างประเทศมีพฤติกรรมอันเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติกับอีกได้แสดงข้อคิดเห็นและแนวทางการปฏิบัติงานในหน้าที่ทั้งต่อชาวไทยและชาวต่างประเทศในเชิงที่ไม่สร้างสรรค์ เป็นภยันตราย และไม่ก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติในบริบทของการเสริมสร้างความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ ให้สำนักนายกรัฐมนตรีทราบด้วย โดยสามารถแจ้งมาที่ 1.www.1111.go.th 2.ตู้ ปณ.1111 และ 3.สายด่วน 1111 @ ปลัดสธ.แนะให้ปฏิรูปสื่อ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าแนวทางการสร้างความสมานฉันท์ ปรองดองของคนในชาติ ตามนโยบายของฝ่ายสังคมจิตวิทยา คสช. ว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมของบุคลากรเพื่อสร้างความสมานฉันท์ปรองดองในระดับพื้นที่ ตามการประเมินของ กอ.รมน.จังหวัด ที่ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน "กรมสุขภาพจิตได้ส่งแผนงานในการดำเนินการ โดยจะเข้าร่วมกับ กอ.รมน.จังหวัด ซึ่งทางสธ.จะส่งทีมบุคลากรสุขภาพลงไปช่วย โดยจะมีกิจกรรมต่างๆ และเครื่องมือในการสานความสัมพันธ์ ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งหมดจะเน้นการเปิดพื้นที่เพื่อให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างได้ แต่จะไม่ขัดแย้งกัน เรียกว่าเป็นการสานเสวนา มีวิทยากรลงไปสร้างความเข้าใจ เป็นต้น" นพ.ณรงค์กล่าว และว่า ในการลงพื้นที่แต่ละแห่งนั้นจะต้องไม่เปิดช่องให้นักการเมืองมาหาเสียง หรือให้คนมาใช้เวทีเพื่อหาชื่อเสียงให้กับตัวเอง แต่ควรจะเป็นการเปิดพื้นที่สำหรับคนที่มีความเห็นเป็นกลาง ไม่อยู่สีใดสีหนึ่ง นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับการสร้างความสมานฉันท์ปรองดองในระดับพื้นที่หมู่บ้านนั้น จะเห็นว่าตรงนี้เป็นชุดความคิดที่ถูกครอบงำโดยสื่อด้านเดียว ที่ผ่านมาตนได้เสนอ คสช.ว่า ควรปฏิรูปสื่อด้วย โดยสื่อต้องเป็นกลาง ต้องไม่เป็นพวกใคร สื่อต้องเปิดใจรับข้อมูล และนำเสนอข้อมูลทุกด้าน เพื่อไม่ให้สังคมถูกชี้นำโดยสื่อด้านเดียว สื่อต้องคิดถึงประเทศชาติ ทำอะไรต้องรอบด้าน @ กทม.จัดร่วมคืนความสุข วันเดียวกัน ที่วัดอินทราวาส เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร (กทม.) นายมานิต เตชอภิโชค รองปลัด กทม.พร้อมด้วย พ.อ.สุรินทร์ นิลเหลือง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 9 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 เป็นประธานเปิดโครงการ คสช.=ความสุขของคนทั้งชาติ ซึ่ง กทม.โดยสำนักงานเขตตลิ่งชัน ร่วมกับกองทัพบก สถานีตำรวจนครบาล 7 ภาครัฐ เอกชน จัดขึ้นระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ สร้างทัศนคติที่ดี และเป็นการคืนความสุขให้กับประชาชน ภายในงานมีการแสดงดนตรีจากหน่วยทหาร บริการตรวจสุขภาพจากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ การฝึกอาชีพระยะสั้น จำหน่ายสินค้า และบริการอาหารเครื่องดื่มตลอดงาน @ 'ลำปาง-เชียงราย'จัดด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.พิเศษยงยุทธ เหล่าเขตการณ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารชุดมวลชนสัมพันธ์ และตำรวจน้ำเชียงแสน ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 327 ลงพื้นที่ทำความเข้าใจและพบปะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นหมู่บ้านตั้งอยู่แนวชายแดนไทย-ลาว ซึ่งชาวบ้านขอให้ คสช.ช่วยดูแลราคาสินค้าทางภาคการเกษตรที่ตกต่ำ ทั้งราคาข้าว และข้าวโพด และเร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพที่สูง จ.แม่ฮ่องสอน นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมโครงการ "สมานฉันท์ รวมพลังสร้างอุดมการณ์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์" รุ่นที่ 2 ที่ห้องประชุมค่ายเทพสิงห์ กรมทหารพรานที่ 36 อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน มีแกนนำกลุ่มพลังมวลชน อ.ขุนยวม อ.แม่ลาน้อย อ.แม่สะเรียง และ อ.สบเมย 60 คนร่วมกิจกรรม @ เปิดวิทยุฯให้'ทหาร-กสทช.'ชี้ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย มณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง ออกประกาศ เรื่องการอนุญาตออกอากาศวิทยุชุมชนในพื้นที่ จ.ลำปาง ระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เขต 3 (ลำปาง) ได้ประชุมด้านความมั่นคงกับ พล.ต.อุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 แล้ว โดยที่ประชุมมีความเห็นว่าเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกันกับประกาศ คสช.และ กสทช. ขอให้สถานีวิทยุชุมชนที่จะได้รับการออกอากาศต้องเป็นสถานีวิทยุชุมชนที่ได้รับใบอนุญาตทดลองประกอบกิจการ จาก กสทช. เท่านั้น พล.ต.อุกฤษณ์ กล่าวว่า ทุกสถานีวิทยุชุมชนใน จ.ลำปาง ต้องปิดเครื่องทั้งหมด ห้ามออกอากาศโดยเด็ดขาด จนกว่าจะผ่านขั้นตอนที่คณะทำงานร่วมระหว่างกองทัพภาค และสำนักงาน กสทช.เขต กำหนด @ อ้างทหารบุกยึดทรัพย์ชาวบ้าน นายจักรพงษ์ นากลาง อยู่บ้านเลขที่ 11 บ้านหนองโนน้อย ต.ภูเขาทอง อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด นำนางสุบรรณ นากลาง มารดา เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์และช่วยเหลือประชาชน ว่า เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน มีกลุ่มบุคคลประมาณ 10 คน ไม่แต่งเครื่องแบบ นั่งรถตู้ อ้างว่าเป็นทหารและตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ เข้าตรวจค้นบ้านพร้อมยึดเครื่องตัดหญ้า เลื่อยยนต์ และปืนแก๊ปที่ใช้ยิงหนูไป โดยอ้างว่าเป็นสิ่งที่ส่อว่าเข้าข่ายจะนำไปกระทำความผิด ขัดต่อคำสั่ง คสช. พร้อมข่มขู่ว่าหากขัดขวางจะถูกจับกุมควบคุมตัวไปดำเนินคดี จึงยอมให้ยึดสิ่งของไป ต่อมาได้ตรวจสอบหมู่บ้านใกล้เคียงพบมี 6 หมู่บ้าน ถูกตรวจค้นและยึดสิ่งของในลักษณะต่างๆ จำนวนมาก จึงเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่เพื่อบันทึกความเสียหายไว้เป็นหลักฐาน หากไม่ใช่ทหารจริง ขอให้จับกุมดำเนินคดี พล.ต.นคร สุขประเสริฐ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด และผู้บังคับกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการในลักษณะผิดกฎหมาย เชื่อว่ามีขบวนการที่ต้องการทำสงครามข่าวสาร เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ ทำลายความไว้วางใจกับทหาร ได้ประสานงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดที่ดูแลฝ่ายปกครอง ตำรวจภูธรจังหวัด เข้าควบคุมดูแล กวดขันจับกุมผู้แอบอ้างเจ้าหน้าที่เข้าไปกระทำความผิดมาดำเนินคดี @ ชี้สลายสีเสื้อต้องไม่เอียง ที่โรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะประธานที่ปรึกษากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 แถลงข่าวหลังถูกปล่อยตัวจากการถูกควบคุมว่า เห็นด้วยกับ คสช.ที่ให้สลายสีเสื้อเพื่อสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ตามแนวทางโรดแมป เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า แต่โรดแมปต้องสร้างความเป็นธรรม เสมอภาค ไม่ลำเอียง ใช้กฎหมายเป็นหลัก ถ้าไม่เป็นธรรมคงสลายสีเสื้อยาก ดังนั้น จะเฝ้าจับตาดู คสช.เดินไปตามโรดแมปหรือไม่ "ทางกลุ่มมีสมาชิก 200,000 คน เป็นกลุ่มการเมือง 20,000-30,000 คน นอกนั้นเป็นกลุ่มด้านสาธารณประโยชน์ ซึ่งจะหยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง หันมาทำประโยชน์ช่วยเหลือสังคมและทำบุญแทน พร้อมพูดคุยทำความเข้าใจกับแกนนำและเครือข่าย 8 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อยุติเคลื่อนไหวชั่วคราว เพื่อให้ คสช.ปฏิรูป ปรับปรุงระเบียบกฎหมายที่เป็นธรรมทุกฝ่าย" นายเพชรวรรตกล่าว @ เชื่อ'แม้ว'เห็นด้วยปฏิวัติ นายเพชรวรรต กล่าวว่า การจัดกิจกรรมปรองดองเพื่อสมานฉันท์ไม่ใช่ประเด็นหลัก หากอยากสลายสีเสื้อ ควรสลายทัศนคติและอุดมการณ์มากกว่า เพราะถูกปลูกฝังมานาน ส่วนกิจกรรม อาทิ สภากาแฟ เล่นกีฬา ดนตรี และบำเพ็ญประโยชน์สังคม ยังไม่ใช่การละลายพฤติกรรมที่อยู่ในส่วนลึกความคิดและจิตใจ "ตั้งแต่ คสช.ประกาศกฎอัยการศึกและยึดอำนาจ ผมไม่ได้ติดต่อกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด ส่วนตัวคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ เพื่อแก้ปัญหาความแตกแยกคนในชาติ ไม่ให้เกิดสงครามกลางเมือง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณไม่เห็นด้วยกับการมีหลายสี หลายกลุ่ม เท่าที่รู้จักและคุ้นเคย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักพัฒนา ไม่ใช่นักการเมือง จึงอยากเห็นความปรองดองและสมานฉันท์เกิดขึ้นมากกว่า เพื่อความสงบสุขประเทศ"นายเพชรวรรต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเพชรวรรตถูก คสช.มีคำสั่งให้รายงานตัว วันที่ 23 พฤษภาคม แต่หลบหนี ต่อมาเข้ารายงานตัวกับ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ก่อนถูกส่งตัวมายังสโมสรทหารบก กรุงเทพฯ และถูกควบคุมตัวที่ค่ายอดิศร จ.สระบุรี เป็นเวลา 7 วัน ก่อนถูกปล่อยตัว @ 'แดง-กปปส.'โคราชจัดปรองดอง ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสมโภชน์ ประสาทไทย อดีตแกนนำคนเสื้อแดง เปิดเผยว่า ได้หารือกับเครือข่ายแกนนำคนเสื้อแดงในพื้นที่ เพื่อเตรียมประสานงานสมาชิกคนเสื้อแดงในชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา มาร่วมกิจกรรมสมานฉันท์ปรองดอง สร้างความสุขอย่างยิ่งยืน เดินหน้าประเทศไทย ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ในวันที่ 11 มิถุนายน เพื่อทำให้สถานการณ์บ้านเมืองกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว จะมีกลุ่มมวลชน กปปส. และ นปช.จาก 32 อำเภอทั่วจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก "สมาชิกคนเสื้อแดงอำเภอเมืองนคร ราชสีมาหลายคนยังรู้สึกสูญเสีย ทำใจไม่ได้กับการรัฐประหาร แต่ภายหลังกองทัพภาคที่ 2 เชิญแกนนำ กปปส. และ นปช.ร่วมกิจกรรมปรองดองสมานฉันท์ โดยไม่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของทั้งสองฝ่าย ทำให้เห็นความจริงใจของทหารที่จะเข้ามาแก้ปัญหาความแตกแยกในสังคมไทย อีกทั้งยังสร้างบรรยากาศความเชื่อใจของทั้งสองฝ่ายด้วย จึงพยายามชี้แจงกับกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะเดินหน้าสร้างความปรองดองสมานฉันท์" นายสมโภชน์กล่าว @ พท.รอดูโรดแมปคสช. นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า สมาชิกพรรค พท.ต้องระวังเรื่องการสื่อสาร ไม่เช่นนั้นเกรงว่า คสช.อาจเข้าใจผิดได้ และเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นหัวหน้า คสช.แล้ว ต้องให้เวลา ให้โอกาส คสช.ได้ทำงานไป พรรคเพื่อไทยจะหยุดการเคลื่อนไหว จนกว่าจะเห็นโรดแมปของ คสช.ที่ชัดเจน ทั้งนี้ หาก คสช.เชิญไปร่วมเสวนาปรองดองสมานฉันท์ พร้อมให้ความร่วมมือและเสนอความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาในเชิงสร้างสรรค์ เมื่อถามว่า คณะกรรมการกิจการบริหาร พท.ยังสามัคคีกันอยู่หรือไม่ มีการหารือหรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองบ้างหรือไม่ นายชวลิตกล่าวว่า ยังคุยกันอยู่ รักกันดี ยิ่งมีวิกฤตทางการเมืองยิ่งรักและห่วงใยกัน ได้แต่หวังให้บ้านเมืองสงบ และเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สมาชิกพรรคไม่ได้เข้าพรรคแต่อย่างไร เพราะมีคำสั่งของ คสช.ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน @ ปชป.รอรธน.ใหม่ชี้สถานะพรรค ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมาย ปชป.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยื่นเรื่องถอดถอนบุคคลต่างๆ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า การถอดถอนในขณะนี้โดยเฉพาะนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ที่ยังค้างอยู่ในชั้นของวุฒิสภานั้น ก็มีปัญหา ดังนั้น อยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์จะให้เป็นอำนาจของใครในการถอดถอน เพราะไม่มีวุฒิสภาแล้ว จะให้เป็นอำนาจของวุฒิสภาชุดใหม่ หรืออำนาจของ คสช. นอกจากนี้ยังมีหลายเรื่องที่ยังค้างคาอยู่ อาทิ การถอดถอน ส.ส.และ ส.ว. ที่แก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว. ยังค้างคาอยู่ในชั้นของ ป.ป.ช.และการยื่นเรื่องยุบพรรคเพื่อไทย ที่ยังค้างอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีปัญหาเนื่องจาก คสช.ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 จึงส่งผลให้ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ต้องสิ้นสภาพและทำให้พรรคการเมืองสิ้นสภาพตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จึงต้องรอดูว่ารัฐธรรมนูญใหม่จะให้เป็นพรรคการเมืองเดิมต่อไป หรือจะให้จดทะเบียนขึ้นใหม่ ก็ต้องอยู่ที่การเขียนรัฐธรรมนูญ @ เปิดทุกช่องทางรับปฏิรูป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะทำงานเตรียมการปฏิรูปประเทศไทย เพื่อคืนความสุขให้คนในชาติของ คสช. ที่มี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รักษาการปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน เปิดช่องทางในการรับฟังความเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ในช่วง 3 เดือนนี้ ประกอบด้วย 1.การจัดเวทีการพูดคุย ในทุกระดับ ตั้งแต่ครอบครัว หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรับฟังแนวทาง ปมประเด็นปัญหาที่ตัองมีการปฏิรูป 2.การเปิดรับฟังความเห็นผ่านทาง ไปรษณีย์ จดหมาย มาส่งที่ตู้ ปณ.99 ไปรษณีย์ สาขามหาดไทย กรุงเทพฯ 10200 (โดยไม่เสียค่าส่ง) 3.เปิดรับฟังความเห็นด้วยการติดต่อที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ภายในศาลาว่าการกลาโหม ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ10200 4.เปิดรับฟังความเห็นผ่านที่หมายเลข 0-2622-3065 (ในเวลาราชการ) รวมทั้งสามารถดูรายละเอียด จากเว็บไซต์ rfm.mod.go.th @ บิ๊กตู่เข้าทบ.จับตากลุ่มต้าน ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไม่มีการประชุม คสช.ชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ แต่ คสช.จัดเจ้าหน้าที่ไว้เพื่อติดตามงานและประเมินสถานการณ์ กรณีที่อาจจะมีกลุ่มต่อต้าน คสช. นัดหมายรวมตัวกันชุมนุมตามสถานที่ต่างๆ ใน กทม. 5 จุด ได้แก่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สยามพารากอน สนามบินสุวรรณภูมิ ร้านแมคโดนัลด์ในห้างอัมริมทร์พลาซ่า และวัดพระแก้ว โดย พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางเข้ามาทำงาน และติดตามสถานการณ์ภายใน บก.ทบ.ด้วย ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จากเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารที่ทำหน้าที่ดูแลประตูทางเข้า-ออก ด้านหน้า บก.ทบ. ห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและสื่อมวลชนเข้าไปภายใน บก.ทบ. @ ขอทุกฝ่ายช่วยให้สงบ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มมวลชนนัดหมายชุมนุม เพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านการยึดอำนาจของ คสช.ว่า ตำรวจจะเป็นส่วนกำลังหลักในการรับผิดชอบดูแลสถานการณ์รวมทั้งสนธิกำลังจากเจ้าหน้าที่ทหารเพิ่มเติม เพื่อช่วยดูแลรักษาความสงบด้วย "ขั้นตอนการดูแลสถานการณ์ทางเจ้าหน้าที่จะเน้นการทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมก่อน ซึ่งจะมีขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก หากผู้ใดไม่เชื่อฟังและยังฝ่าฝืนต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กำชับให้มีการทำความเข้าใจกับประชาชนว่าขณะนี้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 นั้นว่าอะไรสามารถดำเนินการได้และอะไรที่ไม่สามารถดำเนินการได้ในช่วงนี้โดยอยากให้ทุกคนได้เข้าใจและช่วยกันทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ" พ.อ.วินธัย กล่าว และว่า บรรยากาศทั่วไปในประเทศประชาชนและทุกภาคส่วนเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้นและให้ความร่วมมือกับ คสช. จึงอยากขอให้บางคนหรือบางฝ่ายที่ยังไม่เข้าใจได้พิจารณาทบทวนเหตุผลและนำไปสู่การให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ไม่เข้าร่วมการชุมนุมต่างๆ เพื่อสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง @ 'บิ๊กตู่'สั่งละมุนกับม็อบต้าน เวลา 12.30 น. วันเดียวกัน ที่ห้างสยามพารากอน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์กรณีชุมนุมต้านรัฐประหาร กล่าวว่า การข่าวของตำรวจและทหารรายงานว่าเวลา 14.30 น. จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการควบคุมอำนาจของ คสช. ออกมาแสดงสัญลักษณ์ที่ห้างสยามพารากอนและพื้นที่ใกล้เคียง ทางตำรวจและทหารได้วางกำลังดูแลพื้นที่ตามปกติ จะมีเพียงตำรวจดูแลพื้นที่ ส่วนทหารจะอยู่ในพื้นที่โดยรอบที่สามารถเข้าปฏิบัติงานได้ทันทีหากมีกลุ่มต่อต้าน เนื่องจากไม่ต้องการให้กระทบต่อภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว "ทั้งนี้ ได้ประสานงานกับห้างสรรพสินค้าต่างๆ หากประเมินสถานการณ์พบว่ามีความสุ่มเสี่ยงว่าจะเกิดความรุนแรงจะต้องขอความร่วมมือให้ปิดการให้บริการทันที" รอง ผบ.ตร.กล่าว และว่า หัวหน้า คสช.ได้ให้แนวทางการปฏิบัติงานว่าให้ปฏิบัติต่อกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างละมุนละม่อม วางมาตรการจากเบาไปหาหนัก เนื่องจากเป็นคนไทยด้วยกัน แต่หากมีการ กระทำผิดกฎหมายจะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอน @ ทหารถกอธิการบดีมธ.9 มิ.ย. นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวถึงกระแสข่าวการปิดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า มหาวิทยาลัยไม่ได้ถูกปิด ยังคงเปิดประตูฝั่งสนามหลวงให้รถเข้าออกได้เป็นปกติ ปิดแค่เฉพาะประตูใหญ่ท่าพระอาทิตย์และท่าพระจันทร์ โดยประตูคนเดินฝั่งท่าพระจันทร์ ยังคงเปิดเป็นปกติ "ที่ปิดประตูบางส่วนนั้นเนื่องจากทหารประสานมายังนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มธ. ว่าขอเข้าพบในวันที่ 9 มิถุนายน เพื่อปรึกษาหารือถึงแนวปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยโดยทั่วไปในพื้นที่ เนื่องจาก มธ.มีความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง" นายพรชัยกล่าว และว่า ข่าวการนัดพบระหว่างทหารและอธิการบดี มธ. คงแพร่กระจายกันออกไป จึงมีนัดกันทางเฟซบุ๊กให้มาปิกนิกกันที่ มธ. ในวันที่ 9 มิถุนายน ทางทหารจึงประสานมายังมหาวิทยาลัย ขอให้ปิดประตูและเปิดเฉพาะที่จำเป็น พร้อมกันนั้นก็เดินทางมาดูแลความเรียบร้อยที่ มธ. นายพรชัย กล่าวว่า อธิการบดี มธ.จึงสั่งให้เปิดเฉพาะประตูสนามหลวงและประตูคนเดินฝั่งท่าพระจันทร์ ส่วนประตูที่เหลือ สั่งปิดหมด อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเข้าใจว่าหากจะนัดมารวมตัวกันที่ มธ.จริง ก็คงส่วนน้อยแค่ 30-40 คนเท่านั้น @ เชื่อ 2-3 วันทหารปล่อย'สาวตรี' นายพรชัยกล่าว ถึงกรณี น.ส.สาวตรี สุขศรี อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มธ.ถูกควบคุมตัว ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และพาไปยังกองพันสารวัตรทหาร กองทัพอากาศ หลังเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา ว่ายังไม่ได้ประสานพูดคุยกับ น.ส.สาวตรีและทหาร และ น.ส.สาวตรี ยังไม่ได้ประสานมายังตนและคณะ แต่คงไม่ประสานพูดคุยกับทหาร เพราะเข้าใจว่าทหารคงใช้แนวปฏิบัติเหมือนที่ผ่านๆ มา คือเรียกตัวเพื่อคุมตัวมาปรับความเข้าใจ 2-3 วันแล้วปล่อยตัว เหมือนกรณีของนางสุดสงวน สุธีสร อาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มธ. ที่ถูกคุมตัวไปไว้ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสระบุรี เป็นเวลา 2-3 วันแล้วปล่อยตัว ตอนนั้นตนและนายเดชา สังขวรรณ คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ได้ติดต่อขอเข้าเยี่ยม แต่ทหารปฏิเสธ บอกว่าจะแค่คุมตัวเพื่อปรับความเข้าใจ 2-3 วันแล้วปล่อยตัว ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้น "ฉะนั้นกรณีของ น.ส.สาวตรี เชื่อว่าจะถูกคุมตัวเพื่อปรับความเข้าใจแค่ 2-3 วันแล้วปล่อยตัว ทางมหาวิทยาลัยจะใช้แนวปฏิบัติเดียวกันนั้น แต่หาก น.ส.สาวตรี ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไป ค่อยมาว่ากันอีกที" นายพรชัยกล่าว @ ชี้ไม่เหมือนกรณีจาตุรนต์ นายพรชัย กล่าวว่า กรณีของ น.ส.สาวตรี ไม่เหมือนนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพราะ น.ส.สาวตรี ติดต่อทางฝ่ายบุคคล คณะนิติศาสตร์ มธ. ขอให้ช่วยประสานทหารเพื่อขอเลื่อนการรายงานตัวกับ คสช. เนื่องจากติดภารกิจดูงานด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนั้นมหาวิทยาลัยตอบกลับไปว่ารับทราบ แต่ตอบไม่ได้ว่าจะไม่เป็นการขัดความร่วมมือ คสช.หรือไม่ "ก่อนเดินทางกลับ น.ส.สาวตรี ได้ประสานกับคณะนิติศาสตร์อีกครั้งเพื่อขอให้ช่วยประสานกับทหาร เพื่อขอให้ช่วยบอกว่าเมื่อเดินทางกลับมาแล้วจะขอไปรายงานตัวกับ คสช.ด้วยตัวเอง แต่ทันทีที่ถึงสนามบิน เข้าใจว่าคงเป็นแนวปฏิบัติของด่านตรวจคนเข้าเมืองที่เมื่อชื่อโผล่ คงกักตัวไว้ทันที เข้าใจว่าทางสนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ในพื้นที่ดูแลของทหารอากาศ น.ส.สาวตรีเลยถูกควบคุมตัวไปไว้ที่กองพันสารวัตรทหาร กองทัพอากาศ" นายพรชัยกล่าว @ แมคฯราชประสงค์ไร้เงาต้าน เวลา 13.40 น. ที่บริเวณร้านแมคโดนัลด์ สาขาห้างสรรพสินค้าอรุณอัมรินทร์ บริเวณราชประสงค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารแต่อย่างใด เช่นเดียวกับภายในแมคโดนัลด์ ซึ่งพบเพียงตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบราว 10 นาย นั่งสั่งอาหารและคอยสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหว และภายในร้านแมคโดนัลด์ยังมีการติดป้ายประกาศห้ามไม่ให้มีการบันทึกภาพหรือทำกิจกรรมใดๆ เพื่อแสดงความเคลื่อนไหวทางการเมือง ตามคำสั่งประกาศของ คสช.ฉบับที่ 7 และ 49 แต่ยังคงเปิดให้บริการแก่ลูกค้าตามปกติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีตำรวจจำนวน 3 กองร้อย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ กระจายกันเฝ้าระวังและตรวจตราความเคลื่อนไหวตั้งแต่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสนามกีฬาแห่งชาติ-สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม-สกายวอล์กสยาม-บริเวณแมคโดนัลด์ ราชประสงค์ ส่วนบริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีชิดลมและสกายวอล์กจากฝั่งชิดลมมายังบริเวณแมคโดนัลด์ ราชประสงค์ไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ส่วนการสัญจรของประชาชนที่มาใช้บริการห้างสรรพสินค้าในบริเวณดังกล่าวยังคงเป็นตามปกติ @ สมยศวอนรอดูการทำงานคสช. เวลา 14.45 น. ที่แมคโดนัลด์ ราชประสงค์ พล.ต.อ.สมยศเข้ามาตรวจกำลังพลในพื้นที่ พร้อมกับกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำตามหน้าที่ ตามแผนที่วางเอาไว้ เน้นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเป็นหลัก เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบเป็นกำลังรอง ส่วนทหารจะประจำการในที่ลับตา เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างปกติ ส่วนเป้าหมายนั้นรู้ว่าเป็นใคร กลุ่มไหน และให้เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบตามติดไว้ทั้งหมด พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุม เพราะประเทศไทยอยู่ในช่วงการปรองดอง "ขอชี้แจงว่าตำรวจไม่ใช่ศัตรู แต่เราต้องทำตามกฎหมาย อยากฝากบอกแก่ผู้ที่มาชุมนุมว่าขอให้เห็นแก่ประเทศชาติ ให้รอดูการกระทำของหัวหน้า คสช.ก่อน เพราะยังไม่ทันได้ทำงานก็ออกมาต่อต้านแล้ว ทำแบบนี้ไม่ถูก อยากให้ผู้ชุมนุมมองมุมกลับและให้รอดูการทำงาน หากหัวหน้า คสช.ไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ผมคนหนึ่งอาจจะออกมายืนข้างผู้ชุมนุมก็เป็นได้ และจะได้แนวร่วมมากกว่านี้" พล.ต.อ.สมยศกล่าว และว่า การกระทำในตอนนี้คือการทำให้ประเทศชาติเสียหาย ทำให้เกิดความวุ่นวาย เสียภาพลักษณ์แก่ชาวต่างชาติ ไม่อยากให้ออกมาแสดงออกตามแฟชั่น เพราะไม่ถึงเวลา ถ้าทุกอย่างอยู่ในความสงบเรียบร้อย หัวหน้า คสช.จะเปิดพื้นที่ปรองดอง แต่ตอนนี้อยากให้หยุดความเคลื่อนไหว หยุดนิ่งก่อน แล้วพอประเทศสงบแล้ว จะได้มีโอกาสที่จะเปิดพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็นจากกลุ่มต่างๆ ได้ @ 'พารากอน'ม็อบมาตามนัด เวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน บริเวณประตูทางเข้าห้างสรรพสินค้าฝั่งเชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส มีกลุ่มคนประมาณ 20 คน ยืนอออยู่โดยไม่ทราบจุดประสงค์ ไม่มีท่าทางแสดงความเกี่ยวข้องกัน ต่างคนต่างเล่นโทรศัพท์มือถือ ไม่มีการพูดคุย แต่สบตากันเป็นระยะ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัยประจำห้างสรรพสินค้า ยืนควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประจำประตูละ 5-6 นาย เหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก หลายคนหยุดดูด้วยความสงสัย จนการสัญจรเข้าห้างติดขัดชั่วขณะหนึ่ง ขณะเดียวกันด้านในห้างสรรพสินค้า บริเวณโถงทางเข้าชั้นหนึ่งหน้าบันไดเลื่อน มีคนจำนวนหนึ่งยืนกระจายตัวทั่วบริเวณ จับกลุ่ม 2-3 คน พูดคุยกัน ต่อมาเวลา 14.50 น. ตำรวจประมาณ 30 นาย ยืนเข้าแถวบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนฝั่งทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส มีการประชุมหารือท่ามกลางความสนใจของฝูงชนจำนวนมาก ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมในห้างเพิ่มมากขึ้นอีกเรื่อยๆ @ ตำรวจคุมตัว 3 สาวชู 3 นิ้ว เวลา 15.25 น. กลุ่มคนบริเวณประตูทางเข้าห้างสยามพารากอน ฝั่งเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามจำนวน 7-8 คน ยกนิ้วมือสามนิ้วปิดปากในแนวนอน ค้างไว้เป็นเวลาประมาณ 30 วินาที หันเข้ากล้องสื่อมวลชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงอย่างสงบ ขณะนั้นตำรวจ และสื่อมวลชนอีกจำนวนมาก เข้าประชิดตัวกลุ่มคนดังกล่าวโดยมีหญิงวัยกลางคน 5 คน เดินจับแขนเรียงแถวหน้ากระดานออกไปทางห้างสยามเซ็นเตอร์ ก้มหน้าหลบช่างภาพ พร้อมใส่แว่นดำ ผ้าคลุมหน้า และหมวกปกปิดใบหน้าส่วนหนึ่ง แต่ยังยกนิ้วสามนิ้วปิดปากตลอดเวลา ผู้หญิงทั้ง 5 คนเดินมุ่งหน้าไปยังประตูทางเข้าห้าง |
