WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8869 ข่าวสดรายวัน


บิ๊กโด่งโต้ ป้องผบ.พล.1 คดีบึ้ม 
ไม่ได้ชี้นำผู้ต้องหา ตร.เล็งเรียกสอบ ทั้งบิ๊กตุ้ย-บิ๊กแจ๊ด สมช.รุก-สั่งจับตา แดงลี้ภัยนอกปท.


ไม่เกี่ยว - นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ(อพปช.) เข้าพบตำรวจกองปราบฯ แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่รู้จักคนร้ายที่ก่อเหตุปาระเบิดใส่ศาลอาญารัชดาฯ พร้อมยืนยันไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก ที่กองปราบปราม เมื่อวันที่ 10 มี.ค.

      ผบ.ทบ.'บิ๊กโด่ง'โต้แทนผบ.พล.1 ไม่ได้ชี้นำมือบึ้มศาลอาญา 'บิ๊กตู่'ระบุการข่าวรู้ความเชื่อมโยงถึงใครบ้าง แต่ต้องให้มีหลักฐานชัดเจนก่อน เผยให้เกียรติ 'บิ๊กตุ้ย' ไม่ขอตอบโต้ใดๆ ผบ.ตร.เผยอาจเชิญบิ๊กตุ้ย-บิ๊กแจ๊ดมาให้ข้อมูล ยันขณะนี้ยังไม่ได้กล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหา ผบช.น.โต้ลั่นไม่ใช่การสร้างสถานการณ์ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะว่าจ้างคนตั้ง 9 คนมาต้องคดีร้ายแรง 'แรมโบ้อีสาน' โร่กองปราบฯ แสดงความบริสุทธิ์ใจไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา หลังเจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหามาแถลงพร้อมผ้าพันคอกลุ่มมวลชนที่เคยเป็นประธาน ออกหมายจับเพิ่มอีก 4 เป็นกลุ่มบุคคลที่ร่วมวางแผนในร้านนมที่ขอนแก่น เมื่อรวมกับที่ทหารคุมตัวไว้แล้ว 5 ตอนนี้มีผู้ต้องหาแล้ว 9 คน

     จากกรณีเกิดเหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กทม. เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารสามารถจับกุมนายยุทธนา เย็นภิญโญ อายุ 34 ปี ชาวจ.ปทุมธานี และนายมหาหิน ขุนทอง อายุ 34 ปี ชาวยโสธร ผู้ก่อเหตุไปสอบสวน ก่อนนำตัวมาแถลงให้การอ้างคนชื่อ 'เดียร์'สั่งการทางไลน์จากประเทศออสเตรเลีย และยังระบุอีกว่า เตรียมก่อเหตุป่วนหลายจุดในวันที่ 15 มี.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่เปิดเผยชื่อ พล.อ.และพล.ต.ท.ชื่อดังเกี่ยวข้องด้วย ต่อมาตำรวจขยายผลออกหมายจับเพิ่มอีก 3 คน เป็นแฟนสาวของผู้ต้องหา 2 คน และผู้ประสานงาน กับผู้จ้างวานให้ก่อเหตุ ล่าสุดพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.ทบ. และผบ.สส. และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ รูปกระจ่าง อดีตผบช.น. เปิดแถลงยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ที่เกิด ขึ้น ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น 

'บิ๊กป้อม'ชี้คนร้ายยังจ้องก่อเหตุ

      เมื่อวันที่ 10 มี.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า ฝ่ายความมั่นคงยกระดับการดูแลประชาชนอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มกำลังทหาร เนื่องจากตำรวจทำหน้าที่ดีอยู่แล้ว อีกทั้งได้ประสานกทม.ตรวจสอบภาพวงจรปิดและไฟแสงสว่าง ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าจะมีการก่อเหตุอีก ส่วนจะเชื่อมโยงกับองค์กรเสรีไทยหรือไม่ ยังไม่มีการยืนยัน สื่อมวลชนอย่าเพิ่งคิดไปไกล ส่วนกรณีที่มีการซัดทอดถึงอดีตข้าราชการระดับสูงนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงในการสืบสวนสอบสวน ทั้งนี้ยอมรับว่าแม้มีการจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้วแต่ยังมีความพยายามในการก่อเหตุอยู่ อยากฝากไปยังกลุ่มเหล่านี้ให้ยุติการกระทำ เพราะรัฐบาลไม่ได้มาจากการเมืองแต่เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง

สมช.จับตาเสื้อแดงตปท.

      ส่วนนายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภา ความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า สั่งการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่สำคัญทุกจุด ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับประเด็นการเมืองหรือไม่นั้น ฝ่ายความมั่นคงอยู่ระหว่างการติดตาม ต้องรอเจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนว่ามีความเชื่อมโยงกับประเด็นทางการเมืองอย่างไร เมื่อถามว่าเหตุดังกล่าวเชื่อมโยงไปยังผู้สั่งการอย่างไรบ้าง นายอนุสิษฐกล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบ ต้องปล่อยเจ้าหน้าที่สอบสวนให้ชัดเจนว่าท้ายที่สุดแล้วความจริงคืออะไร ส่วนที่พาดพิงอ้างชื่อพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.สส. และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผบช.น. ซึ่งบุคคลทั้งสองได้แสดงความบริสุทธิ์ใจไปแล้ว ส่วนที่ผู้ต้องหาระบุว่า มีการสั่งการว่าจ้างมาจากต่างประเทศนั้น ยังไม่มีรายงานเรื่องนี้ จึงต้องรอผลการสอบสวนในทางลึกก่อนหากพูดไปจะไม่เกิดประโยชน์

     ผู้สื่อข่าวถามถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในขณะนี้ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ต้องการการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้บ้านเมืองสงบสันติสุขในประเทศ และเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งที่คาดหวังไว้ ทั้งนี้การเคลื่อนไหวต่อต้านการทำงานของสนช. สปช. และรัฐบาล ไม่เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองเพราะประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้บ้านเมืองปลอดภัยและสงบสุข จึงขอวิงวอนผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวหรือใช้ความรุนแรงว่าบ้านเมืองไม่ได้ประโยชน์และการกระทำดังกล่าวยังส่งผลให้ย้อนกลับไปยังอดีตที่เจ็บปวด ทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกันเฝ้ามอง เฝ้าระวัง หากพบว่ามีเหตุการณ์ที่อาจจะเสี่ยงภัยต้องประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร ตอนนี้ยังไม่มีรายงานความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่เดินทางออกนอกประเทศ

"บิ๊กโด่ง"แจง"บิ๊กตุ้ย"กรณีผบ.พล.1

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์กรณีพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.ทบ. แถลงเตรียมฟ้องเอาผิดนายทหารที่พูดชี้นำผู้ต้องหาว่าในส่วนของผบ.พล.1 รอ. ไม่ได้พูดเพื่อชี้นำ ส่วนจะฟ้องผู้หนึ่งผู้ใดก็เป็นไปตามหลักฐาน ซึ่งการปฏิบัติงานตลอดจนถึงการสอบสวนทหารทำร่วมกับตำรวจ ซึ่งทหารดำเนินการตามขอบเขตเมื่อมีเหตุการณ์รุนแรงก็จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ ก่อนให้ตำรวจดำเนินการต่อ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามอำนาจหน้าที่ที่มี ผบ.พล.1 รอ.ถือเป็นผู้ปฏิบัติงานภายใต้คำสั่งของแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผบ.กกล.รส. ซึ่งรับคำสั่งจากผบ.ทบ.อีกทอดหนึ่ง 

ผบ.ทบ.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของทหาร ไม่ว่าจะเป็นพล.ม.2 รอ. หรือนปอ. ซึ่งมีพื้นที่ที่ต้องรับผิดชอบของตัวเองอยู่ อย่างไรก็ตามพื้นที่ที่เกิดเหตุอยู่ในความรับผิดชอบของผบ.พล.1 รอ. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ตนฟังแล้วก็ไม่ได้ไปก้าวล่วงใคร แต่วันนั้นมีนายทหารพระธรรมนูญด้วย ทั้งนี้ การแถลงข่าวในวันนั้น เจ้าหน้าที่สอบถาม ผู้ต้องหาจนได้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนนำมาแถลงข่าว ถือเป็นการถามย้ำข้อมูลที่ได้มากับ ผู้ต้องหาอีกครั้งหนึ่ง เพราะเป็นข้อมูลที่อยู่ในความสนใจของเจ้าหน้าที่

"ผมยืนยันว่าเราให้ความเคารพไม่ว่าจะเป็นประชาชน ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่ในราชการ หรือเกษียณอายุราชการไปแล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็ต้องระมัดระวัง ด้วยการให้ความเคารพและความเป็นธรรม การจะทำอะไรต่างๆ ในปัจจุบันนี้ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าจะถูกจับจ้องว่าเราจะทำดำเนินการด้วยความเรียบร้อยและยุติธรรมหรือไม่ เราระมัดระวังอยู่แล้ว ผมคิดว่าไม่มีใครที่มีเจตนาเช่นนั้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาก็ต้องมีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจง เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ และเป็นเรื่องร้ายแรงมีการใช้วัตถุระเบิด จึงจำเป็นที่จะต้องพูดถึงรายละเอียด แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปก้าวล่วงท่านใด สิ่งต่างๆ เหล่านี้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่มี และคงต้องสืบสวนสอบสวนกันต่อไป เพื่อหา ผู้ที่เกี่ยวข้อง"ผบ.ทบ.กล่าว

เลี่ยงตอบ"บิ๊กตุ้ย-บิ๊กแจ๊ด-เสื้อแดง"

ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.อ.ชัยสิทธิ์ และพล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผบช.น. และกลุ่มคนเสื้อแดง มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหาอย่างไร ผบ.ทบ.กล่าวว่า ตนจะไม่ระบุว่า มีใครบ้าง เพราะมีมากหลายท่านด้วยกันในส่วนที่เป็นหลักฐานที่เกิดขึ้นต้องสอบข้อเท็จจริง เมื่อมีการเอ่ยชื่อใครขึ้นมาจะรู้ทันทีว่าชื่อของคนนั้นอยู่ในกลุ่มใด แต่ในรายชื่อที่มีอยู่ทั้งหมดไม่จำเป็นว่าทุกคนจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว แต่ต้องยอมรับว่าบางคนที่เรามีรายชื่อมีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความแน่หนาในเรื่องของความเชื่อมโยงต่างๆ

ผบ.ทบ.กล่าวว่า ต้องเอาข้อจริงออกมาให้ได้ ดังนั้นใครก็ตามที่มีความคิดก่อเหตุความรุนแรงขอให้เลิก เพราะประเทศชาติเดินมาด้วยดีแล้ว อีกไม่นานทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแม็ปที่นายกฯ กำหนดไว้ ถ้าทุกคนร่วมมือกันไม่ก่อความวุ่นวายก็จะเป็นไปตามโรดแม็ปนั้น ที่ผ่านมามีผลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนในเรื่องความสงบเรียบร้อย ซึ่งอยู่ในเกณฑ์สูง ตนก็ดีใจ และ นายกฯ กำชับมาว่าจะต้องทำให้ดีที่สุด จึงต้องขอความร่วมมือกัน และการก่อเหตุรุนแรงก็เห็นแล้วว่าเมื่อก่อเหตุจะต้องถูกจับดำเนินคดีและได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของตัวเอง

พล.อ.อุดมเดชยังกล่าวถึงข้อมูลที่ผู้ก่อเหตุระบุว่าเตรียมก่อเหตุอีก 100 จุดในเดือนมี.ค.ว่า ต้องสอบสวนถึงการโยงใยเพราะ เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือทำ จึงต้องหาคนที่เกี่ยวข้องว่าเป็นผู้ใดบ้าง ซึ่งต้องนำมาลงโทษทั้งสิ้น

"บิ๊กตู่"รู้การข่าวเกี่ยวพันใคร

ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. กล่าวว่า คดีมีความคืบหน้าแล้ว เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังสืบต่อ มันมีโยงใย เจ้าหน้าที่มีแนวทางสืบสวนสอบอยู่แล้ว ตั้งแต่เหตุการณ์ปี 2553 ปี 2556 และ ปี 2557 เนื่องจากเรามีงานข่าวอยู่แล้วว่ามีใครเกี่ยวพันอยู่ที่ไหน อย่างไร แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ ฝ่ายความมั่นคงทำงานและติดตามอยู่ ใครที่เกี่ยวข้องบ้างถ้ามีหลักฐานพอเพียงก็ถูกดำเนินคดี หากกฎหมายไม่เพียงพอก็ต้องสอบต่อไป

"ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ต้องตกใจว่าจะไปเล่นงานใคร ถ้าใครทำ ก็ต้องถูกสอบสวนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ผมไม่มีฝ่ายกับใคร ต้องการทำให้บ้านเมืองสงบ แต่อยากเตือนว่าขณะนี้บ้านเมืองกำลังมีโอกาส อยู่ในขั้นตอนการปฏิรูป คือการดำเนินการแบบเป็นกลางๆ กับคนทั้งประเทศ คนรวยพอใจ คนมีรายได้น้อยก็มีความสุข คนตรงกลางก็พร้อมเผื่อแผ่แบ่งปัน เป็นสิ่งที่เราต้องบริหารประเทศแบบนี้ ถ้าไปข้างใดข้างหนึ่ง จะเสียอีกข้างโดยไม่จำเป็น วันนี้ทุกคนต้องสร้างความเข้าใจกัน สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมีเท่ากันหมดเพราะโอกาสแต่ละคนไม่เท่ากัน วันนี้รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาแต่ละจุด"นายกฯ กล่าว

ให้เกียรติ"บิ๊กตุ้ย"มีสิทธิชี้แจง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า วันนี้สิ่งสำคัญคือความมีเสถียรภาพ ความปลอดภัยของประเทศถือว่าสำคัญที่สุดเพราะเป็นบ่อเกิดของทุกๆ อย่าง ดังนั้นใครที่ทำให้เกิดความไม่สงบ แสดงว่าไม่มีเจตนาดีกับประเทศและคนไทย ต้องไปสอบสวนหาผู้รับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ฟังการชี้แจงของพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผบ.สส.หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า "ผมก็ให้เกียรติท่านและคงไม่ตอบโต้อะไร เป็นเรื่องของท่าน มีสิทธิชี้แจง ส่วนที่พล.อ. ชัยสิทธิ์ให้กำลังใจผมนั้น ต้องขอขอบคุณ และต้องขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ"

"แรมโบ้"แสดงความบริสุทธิ์ใจ

วันเดียวกันเวลา 10.00 น. ที่กองปราบปราม นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตรองเลขาธิการนายกฯ และอดีตประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) เข้าพบพ.ต.ต.กำธร นิยม พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อขอให้ลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณีการจับกุมผู้ต้องหาระเบิดศาลอาญา ซึ่งเจ้าหน้าที่นำผ้าพันคอของ อพปช.มาเป็นหลักฐานในการแถลงข่าว เกรงว่าอาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น

นายสุภรณ์เปิดเผยว่า ที่ต้องมาขอให้ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้ ก็เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับตัวผู้ต้องหา หรือว่าคดีดังกล่าว เพราะว่าองค์กร อพปช.ได้แถลงยุบองค์กร และยุติบทบาทไปตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.2557 ส่วนตัวแล้วไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองอีก ทุกวันนี้ทำหน้าที่ดูแลครอบครัวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ขอเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมืองอีกแล้ว

นายสุภรณ์กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับผู้ต้องหา ผ้าพันคอที่เจ้าหน้าที่นำมาแถลงข่าว จำได้ว่าช่วงนั้นได้แจกให้กับสมาชิกไปทั้งหมด 1 หมื่นกว่าผืน จนถึงตอนนี้ไม่รู้ว่าไปอยู่กับใครบ้าง การกระทำของผู้ต้องหาสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงที่จะให้คนอื่นเกิดเข้าใจผิดได้ จึงขอให้ตำรวจช่วยสอบสวน หากพบความผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาด

ออกหมายจับเพิ่มอีก 4 คน

ส่วนที่บช.น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณ กุล ผบช.น. เปิดเผยว่า มีการออกหมายจับ ผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 4 ราย คาดว่าภายในวันศุกร์จะเปิดเผยรายชื่อได้ การออกหมายจับ ผู้ต้องหา 4 รายนี้มีพฤติการณ์ร่วมกันวางแผนเพื่อก่อเหตุวางระเบิดที่ศาลอาญา ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ทหารส่งตัวผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวไว้แล้ว 5 รายมาให้ตำรวจสอบสวน หากพบว่ามีความเชื่อมโยงกับบุคคลใดก็จะออกหมายจับเพิ่มทันที ส่วน 2 นายพลที่มีชื่อในบัญชีของผู้ต้องหาขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการ หรือเรียกมาสอบถามแต่อย่างใด และทั้ง 2 นายพลก็ไม่ได้ประสานขอให้ปากคำแต่อย่างใด และทางตำรวจก็ยังไม่ได้รับหลักฐานจากทางทหาร

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์ที่ศาลอาญาพบความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์บริเวณทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า ระเบิดอาร์ดีจี-5 ล็อตนัมเบอร์ 57 มีความคล้ายคลึงกับเหตุระเบิดบริเวณปากซอยรามอินทรา 26 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน พื้นที่ สน.โคกคราม เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2557 เหตุระเบิดบริเวณอาคารสำเพ็งสแควร์ ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ พื้นที่ สน.จักรวรรดิ เมื่อปี 2557 และเหตุระเบิดที่ จ.ชลบุรี ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ยังอยู่ในกระบวนการพิจาณาคดีของศาล ซึ่งจากพยานวัตถุมีการพาดพิง ส่วนพยานบุคคลและพยานเอกสารตำรวจยังไม่ได้รับจากทหาร อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถตอบได้ว่าผู้ต้องหาเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ แนวทางสืบสวนตอบได้เพียงพยานวัตถุ คือ เศษกระเดื่อง และเศษที่เหลือจากการระเบิด ว่าเป็นชนิดเดียวกันกับที่เคยมีเหตุการณ์วางระเบิดขึ้นในปี 2557

พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวอีกว่า ส่วนแนว ทางการสืบสวนขณะนี้ตำรวจเน้นสืบจากวัตถุพยาน เนื่องจากยังไม่มีพยานบุคคล รวมทั้งได้นำสถิติการก่อเหตุช่วงปี 2557 มาเปรียบเทียบด้วย ส่วนที่สามารถออกหมายจับได้ขณะนี้เป็นข้อมูลจากทางกองทัพที่ได้รวบรวมไว้ ขอยืนยันว่าเหตุระเบิดดังกล่าวไม่ใช่การสร้างสถานการณ์เพื่อให้กฎอัยการศึกยังมีผลต่อ เพราะผู้ต้องหาที่พบเบื้องต้นมีมากถึง 9 คน คงไม่มีใครรับจ้างติดคุกมากขนาดนี้

ร่วมวางแผนในร้านนมที่ขอนแก่น

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะพนักงานสอบสวนบช.น.ขออนุมัติศาลทหารกรุงเทพฯ ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 4 ราย คือ นายณเรศ อินทรโสภา อายุ 32 ปี นายสรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน อายุ 63 ปี นายชาญวิทย์ จริยานุกูล อายุ 61 ปี และนายวิชัย อยู่สุข อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ร่วมในการประชุมเพื่อเตรียมวางแผนที่ร้านนมแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ช่วงวันที่ 14-15 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นร้านของนายณเรศ ทำหน้าที่เตรียมจัดหาสถานที่ ส่วนนายมหาหิน ขุนทอง และน.ส.ณัฏฐพัชร์ อ่อนมิ่ง ภรรยาที่ถูกจับกุม ไปร่วมประชุมด้วย โดยเป็นคนนำคนมาร่วมในการก่อเหตุดังกล่าว ส่วนนายสรรเสริญ นายชาญวิทย์ นายวิชัย เป็นคนบรรยายแนวคิด รวมถึงแผนการสร้างสถานการณ์ เพื่อวางแผนการก่อเหตุปาระเบิดที่หน้าศาลอาญา

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับแผนที่กำหนด ไว้จะก่อเหตุทั้งหมดกว่า 100 จุด โดยหนึ่งในนั้นผู้ต้องหาเลือกมหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นจุดก่อเหตุด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานจากฝ่ายทหารว่าได้ควบคุมตัวนายวิชัย อยู่สุข ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามกฎอัยการศึก ไว้ที่ ร.11 รอ. ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ ที่เหลือทหารอยู่ระหว่างติดตามจับกุม 

อาจเชิญบิ๊กตุ้ย-แจ๊ดมาให้ข้อมูล

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีมีชื่อพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ถูกพาดพิงด้วยว่า จะต้องเชิญมาในลักษณะเข้ามาให้ข้อมูล แต่ก็ขึ้นกับพนักงานสอบสวน ถ้าพนักงานสอบสวนต้องการให้เป็นที่ประจักษ์หรือหมดข้อสงสัยก็อาจเชิญมา เพื่อให้ปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง 

"เมื่อวานผมได้ดูทีวี ท่านพล.อ.ชัยสิทธิ์ออกทีวี ท่านก็ยืนยันว่ารู้จักกับคุณณัฏฐพัชร์ ภรรยาของนายมหาหิน และก็เคยทานข้าวด้วยหลายครั้ง และการที่ท่านให้นามบัตรไปก็ด้วยว่ารู้จักเป็นการส่วนตัวและคุ้นเคยก็เลยให้ไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าท่านจะต้องเข้ามาเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือสนับสนุนในการกระทำความผิด อันนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับท่าน แต่ถ้าหากพนักงานสอบสวนสอบสวนแล้วมีพยานหลักฐานไปเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับใครก็แล้วแต่เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป" ผบ.ตร.กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.อ.ชัยสิทธิ์พูดว่ามีความพยายามโยงให้ตระกูลชินวัตรเข้ามาเกี่ยวข้อง พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า คงไม่จริง เพราะว่ายังไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจคนไหนพูดเลยว่าพล.อ.ชัยสิทธิ์มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนพูดเดี๋ยวนี้ไม่ได้หมายความว่าพล.อ.ชัยสิทธิ์มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือสนับสนุน จนกว่าพนักงานสอบสวนจะเป็นผู้สอบสวนหรือหาข้อมูลหลักฐานไปสู่ความเกี่ยวข้องเชื่อมโยง ตรงนั้นต่างหากที่จะบอกว่าพล.อ.ชัยสิทธิ์เกี่ยวหรือไม่เกี่ยว ในเวลานี้ยังยืนยันยังไม่มีหลักฐานหรือยังไม่มีประเด็นที่จะกล่าวอ้างว่าพล.อ.ชัยสิทธิ์เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงหรือสนับสนุน

เมื่อถามว่าการจับกุมผู้ก่อเหตุที่ศาลอาญาได้จะทำให้โอกาสจับกุมกรณีที่สยามพารากอนเป็นไปได้มากขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า จริงๆ แล้วกรณีสยามพารากอน เจ้าหน้าที่เชื่อมั่นหรือรู้ตัวผู้ต้องสงสัย เพียงแต่ว่ายังไม่มีจังหวะหรือมีโอกาสจับกุม มั่นใจว่าจะมีการจับกุม แต่ว่าเมื่อไหร่ตอบไม่ได้ และ ยังตอบสื่อมวลชนไม่ได้ว่าขณะนี้ผู้ต้องสงสัยอยู่ที่ใด เพราะเป็นเรื่องการสืบสวนสอบสวน

"อาร์จีดี 5"ทำให้รู้ความเชื่อมโยง

ต่อข้อถามว่าทำไมระเบิดอาร์จีดี 5 จึงถูกนำมาใช้ก่อเหตุเป็นประจำ ผบ.ตร.กล่าวว่า ต้องใช้เหตุผลในการตัดสินว่าระเบิดชนิดนี้ผลิตในประเทศไหน และประเทศไหนซื้อมาใช้ และคนกลุ่มไหนเคยใช้ระเบิดประเภทนี้ มันเป็นสมมติฐานที่ตั้งหรือประเมินได้ว่าน่าจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคนกลุ่มไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมายเลขที่ปรากฏบนกระเดื่อง เป็นหมายเลขที่ใกล้เคียงกับพยานหลักฐานที่สามารถยึดได้ในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง สันนิษฐานในเบื้องต้นว่าระเบิดชนิดนี้เป็นระเบิดที่กลุ่มคนหรือกลุ่มที่สงสัยนำมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นหมายเลขที่ใกล้เคียงก็น่าเชื่อว่าเป็นระเบิดที่กลุ่มคนที่คิดว่าเป็น กลุ่มคนที่สร้างสถานการณ์ ต้องการให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมือง

เมื่อถามว่าเหตุระเบิดพารากอนและศาลอาญามีความเชื่อมโยงกัน อะไรคือสิ่งที่เชื่อมโยงกัน ผบ.ตร.กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสรุปได้ว่าน่าจะเกิดจากพื้นฐานของการเมือง เพราะฉะนั้นเมื่อคนที่เห็นต่างมีความคิดต่างหรือมีความขัดแย้งทางการเมือง และมีวัตถุประสงค์เป้าหมายในการจะสร้างสถาน การณ์ สร้างความสับสนวุ่นวาย สร้างความรุนแรงที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นกลุ่มบุคคลที่มีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกันหรือเหมือนกันย่อมที่จะมีแนวทางหรือความต้องการที่จะปฏิบัติเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็ต้องเชื่อว่าหรือเชื่อได้ว่าบุคคลเหล่านี้มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งระเบิดที่ใช้ที่สยามพารากอน เหมือนหรือคล้ายคลึงกับระเบิดที่ใช้ในเขตมีนบุรีที่เคยเกิดเหตุ เพราะฉะนั้นคงหนีไม่พ้นเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน แต่แตกต่างวิธีการ ที่ตนเคยยกตัวอย่างว่าบางคนชอบใช้ปืนยาว บางคนชอบใช้ปืนสั้น บางคนชอบใช้หมัด มันเป็นเพียงแค่ความถนัดเท่านั้นเองที่เลือกใช้วิธีการที่ตนเองถนัด เพราะว่าเป็นเรื่องที่มีความคุ้นเคย

เมื่อถามว่าระเบิดที่พารากอนตำรวจสรุปแล้วว่าเป็นระเบิดการเมืองใช่หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า เป็นอีกประเด็นที่เจ้าหน้าที่ตั้งไว้ เพราะว่าไม่มีเหตุผลอื่นใด ไม่ทราบเหมือนกันว่าการที่เอาระเบิดหรือสิ่งที่สร้างความรุนแรงความเสียหายความสับสนวุ่นวาย เพื่อประโยชน์อะไรในเวลานี้ ซึ่งเวลาเช่นนี้ตนไม่คิดว่าจะมีเหตุอื่นทางเจ้าหน้าที่ก็สันนิษฐานไว้ จะบอกว่าวางระเบิดเพื่อข่มขู่ห้าง เพื่อเรียกค่าคุ้มครอง ข่มขู่รถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อเรียกค่าคุ้มครองก็ไม่มีเหตุผล

ต่อข้อถามว่าประเมินศักยภาพกลุ่มนี้ว่าสามารถระเบิดได้ 100 จุดตามที่ให้การไว้หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่ประมาทอย่างเดียวก็พอ จะระเบิดกี่จุดเราไม่ทราบ เพราะไม่รู้ว่าจะระเบิดกี่จุด นั่นเป็นแค่คำบอกเล่าของผู้ต้องหา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นไปตามนั้นหรือเปล่า ที่ผ่านมาไม่เคยตั้งอยู่บนความประมาท เพราะฉะนั้นทุกสถานที่สำคัญ ทุกสถานที่ที่คิดว่าและคาดว่าน่าจะเป็นสถานที่ที่เป็นเป้าหมายของผู้ก่อการร้าย เราให้ความสำคัญ ไม่มีการประเมินพิเศษ

เมื่อถามว่าถ้าหลังจากวันนี้ หรือวันที่ 15 มี.ค.มีระเบิดขึ้นมาอีก ผบ.ตร.กล่าวว่า มีระเบิดก็ต้องไปถามคนวางว่าระเบิดเพื่ออะไร มีความสุขไหมที่จะวางระเบิดในขณะที่บ้านเมืองกำลังเดินไป กำลังเป็นไปตามโรดแม็ปที่รัฐบาลวางไว้ ถ้ามีความสุขก็เชิญ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!