WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8880 ข่าวสดรายวัน


มติสมาคมทนาย ร่วมค้าน ปชช.ขึ้นศาลทหาร 
พท.ยุส่ง'บิ๊กตู่'ใช้ม.44 นิรโทษกรรมสุดซอย กมธ.ชุด'สมบัติ'ฮึดอีก ดันเลือกตรงนายกฯ สปช.จ่อรื้อที่มาสส.-สว.



เบิร์ธเดย์ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมหน้าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ตัดเค้กฉลองวันเกิดครบ 61 ปี ที่บ้านพักพล.อ.ประวิตร ย่านมีนบุรี เมื่อ วันที่ 21 มี.ค.

      'ประวิตร'เปิดบ้านจัดฉลองวันเกิดให้ นายกฯ ครบ 61 ปี พรรคเพื่อไทยยุ'บิ๊กตู่'ใช้มาตรา 44 นิรโทษฯสุดซอย เชื่อบ้านเมืองสงบแน่มติสมาคมทนายความฯค้านจับกุมพลเรือนขึ้นศาลทหาร จี้ยกเลิกกฎอัยการศึก ทหารเรียกเตือนอธิการบดีมรภ.ลำปาง หลังเจอป้ายพลเรือนไม่ขึ้นศาลทหารแขวนบนสะพานลอยข้างมรภ. สั่งเก็บลายนิ้วมือ ห้าม น.ศ.เคลื่อนไหว 'จ่านิว'กลุ่มพลเมืองโต้กลับ เผยถูกจนท.ขอค้นห้องขณะไม่อยู่ ยันไม่กลัวเพราะไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย สปช.เล็งชำแหละที่มาส.ส.-ส.ว. 20-26 เม.ย.นี้ กมธ.ปฏิรูปการเมืองจัดเวิร์กช็อปที่พัทยา ลั่นยังดันต่อเลือกนายกฯ โดยตรง โฆษกกมธ.ยกร่างรธน. พร้อมทบทวนร่างแรกหลัง 25 พ.ค.นี้ อ้างรอฟังความเห็นจากทุกส่วนก่อน ย้ำเลือกส.ส.แบบโอเพ่นลิสต์มีทั้งข้อดี-ข้อด้อย ปชป.จี้กมธ.ยกร่างฯ ต้องรับผิดชอบทางแพ่งหากรธน.ใหม่ใช้แล้วมีปัญหา 

บิ๊กตู่ทำบุญวันเกิด-ปลื้มคนให้กำลังใจ
      วันที่ 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า เนื่องในวันที่ 21 มี.ค. ตรงกับวันคล้ายวันเกิด ครบรอบ 61 ปี พล.อ. ประยุทธ์ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว ที่บ้านพักส่วนตัวภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็ก รักษาพระองค์ (ร1. รอ.) ถนน วิภาวดีฯ โดยช่วงเช้าทำบุญวันคล้ายวันเกิดแบบส่วนตัวเงียบๆ 
      แหล่งข่าวคนใกล้ชิดนายกฯ เปิดเผยว่า มีบุคคลในแวดวงต่างๆ ส่งข้อความอวยพรนายกฯผ่านทางโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก โดยนายกฯใช้เวลาช่วงหนึ่งส่งตอบข้อความขอบคุณ และวันเกิดทุกปีของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีอะไรมากเพราะนายกฯไม่ต้องการอะไร แค่คำอวยพรและความรู้สึกดีๆ เป็นห่วงและให้กำลังใจกันก็พอแล้ว 

บิ๊กป้อมเปิดบ้านจัดเลี้ยงวันเกิดตู่
       ที่หมู่บ้านกฤษดานคร ซึ่งเป็นบ้านพักส่วนตัวของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ในฐานะพี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ จัดงานเลี้ยงเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 61 ปีให้กับพล.อ.ประยุทธ์ ภายในงานมีบิ๊กทหารที่เป็นทั้งคสช.และรัฐบาล รวมถึงผบ.เหล่าทัพมาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง อาทิ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติ ธรรม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและผบ.ทบ. พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.สส. พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผบ.ทร. และพล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผบ.ทอ. 
      ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์มาถึงเวลา 18.30 น. และมีพล.อ.ประวิตร พร้อมผบ.เหล่าทัพรอต้อนรับ จากนั้นทั้งหมดนั่งโต๊ะอาหารวีไอพี ร่วมกัน โดยรอบยังมีโต๊ะอาหารสำหรับผู้ใหญ่และภรรยาอีก 2 โต๊ะ บรรยากาศเป็นแบบกันเอง พูดคุยสบายๆ 
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณบ้านยังมีการประดับตกแต่งด้วยไฟมากมายทำให้บ้าน ดูสว่างไสว นำอาหารจากร้านชื่อดังต่างๆ มา บริการให้กับผู้ติดตามมาร่วมงานทั้งทหารและตำรวจ อาทิ อาหารญี่ปุ่น ผัดไทย หอยทอด ส้มตำ ไก่ย่างหนังกรอบ และหมูสะเต๊ะ พร้อมกันนี้ยังมีการแสดงดนตรีจากไวโอลิน เพื่อสร้างบรรยากาศภายในงานด้วย 
      ต่อมาเวลา 21.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้ขึ้นไปตัดเค้กวันเกิดบนเวทีพร้อมกล่าวว่า ขอขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ที่จัดงานวันนี้ ที่เราเข้ามาก็เพื่อประโยชน์ของประชาชน
     "ขอให้พวกเราคิดเพื่อคนจนเพื่อให้ประเทศเดินต่อไปข้างหน้าได้" นายกฯกล่าว

เอาจริงสั่งแปลเพลงค่านิยม
      ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายกฯระบุให้นำเพลงค่านิยม 12 ประการมาแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า แนวคิดและคำสั่งดังกล่าวมีเพื่อให้ต่างประเทศได้รับทราบถึงแนวคิดในเรื่องค่านิยม 12 ประการของคนไทย ซึ่งต่างประเทศก็มีการปลูกฝังค่านิยมในประเทศของเขาเช่นกัน ไม่ได้แตกต่างกับเรา เบื้องต้นนายกฯสั่งการไปยังนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ประสาน กระทรวงวัฒนธรรมเพื่อหารือถึงแนวทางและรายละเอียดต่อไป

พท.หนุน'ตู่'ใช้ม.44 นิรโทษ
      นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ไม่ขัดข้องหากจะนิรโทษกรรมนักโทษการ เมืองว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่พล.อ. ประยุทธ์ให้ความสำคัญกับการปรองดอง โดยเปิดช่องถึงการนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ไม่ต้องคดีอาญาและคดีมาตรา 112 แต่หากเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลนิรโทษ กรรมในลักษณะเหตุการณ์เริ่มตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา จะได้ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ใช่แค่เฉพาะรายบุคคล เหมือนอย่างที่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกฯ เคยออกคำสั่งที่ 66/23 เพื่อประโยชน์สูงสุดในการสร้างปรองดองให้เกิดขึ้นต่อไป 
     นายสมคิด กล่าวว่า การดำเนินการไม่จำเป็นต้องรอสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เป็นผู้ผลักดัน เพราะพล.อ.ประยุทธ์ริเริ่มได้ทันที โดยใช้อำนาจเต็มที่มีตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว หรือสั่งการให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสนอร่างกฎหมายพิจารณา 3 วาระรวดภายใน 1 สัปดาห์หรือ 1 เดือนเลยก็ได้ 

ลุ้นสุดซอยไม่ได้-ขอครึ่งแก้ว
      "การนิรโทษให้ทั้ง 2 ฝ่ายสิ้นสุด เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบนั้น ต้องอย่าคิดเล็กน้อย เพราะหากตัวเล็กได้ แต่ตัวใหญ่ไม่ได้ มัน ก็ไม่จบ และควรทำในลักษณะเหตุการณ์ ที่ครอบคลุมถึงคดีอาญาของผู้ชุมนุมด้วย เนื่อง จากผู้ชุมนุมที่โดนคดีอาญา มีมูลเหตุจูงใจมาจากการชุมนุมทางการเมืองเช่นกัน ซึ่งหากคสช.เดินหน้าจริง ก็ยืนยันว่า พรรค เพื่อไทยจะไม่ออกมาวิจารณ์อย่างแน่นอน เพราะอยากให้เป็นผลงานของรัฐบาลชุดนี้ แต่หากรัฐบาลยังไม่พร้อมเทน้ำเต็มแก้ว เอาครึ่งแก้วก่อนก็ไม่ว่ากัน" นายสมคิดกล่าว 

กมธ.คาดรายมาตราเสร็จมี.ค.นี้
      นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมา ธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าว ถึงความคืบหน้าการยกร่างรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาทบทวนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราและบันทึกเจตนารมณ์ คาดว่าจะพิจารณาเสร็จครบทุกมาตราได้ภายในเดือนมี.ค.
     นายคำนูณ กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกพอใจที่การทำงานของกมธ.ยกร่างฯ เป็นไปตามกรอบเวลาที่วางแผนไว้ นับจากนี้จะเป็นช่วงเวลาที่กมธ.ยกร่างฯ ต้องนำร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกไปเผยแพร่และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามจังหวัดต่างๆ รวมทั้งรอฟังความเห็นจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่จะมีการอภิปรายและแสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกในช่วงวันที่ 20-26 เม.ย.นี้ 

ไม่กังวลสปช.จ้องชำแหละ
      นายคำนูณ กล่าวว่า หลังจากนี้กมธ.ยกร่างฯ คงต้องเปิดหู เปิดใจให้กว้างเพื่อรับฟังเสียงสะท้อนและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ เพื่อนำความคิดเห็นเหล่านั้นมาพิจารณาด้วยความรอบคอบ เนื่องจากกระบวนการทำ งานในช่วงครึ่งหลังโดยเฉพาะช่วง 60 วันสุดท้าย วันที่ 25 พ.ค.-23 ก.ค. จะสำคัญมาก 
      โฆษกกมธ.ยกร่างฯ กล่าวว่า ส่วนที่กมธ.ปฏิรูปการเมืองของสปช. เตรียมจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปร่างรัฐธรรมนูญนั้น ยืนยันว่าไม่มีความกังวล เพราะเชื่อว่ากมธ.ปฏิรูปด้านต่างๆ ของสปช.ทุกชุดและสมาชิกสปช.ทุกคนจะอภิปรายและเสนอความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ ซึ่งเราพร้อมรับฟังและพร้อมชี้แจงเหตุและผลให้ทราบ แต่เหตุและผลของเรานั้นยังไม่ใช่คำตอบสุด ท้าย แต่ยืนยันว่าพร้อมนำข้อมูลและความเห็นต่างๆ ที่เสนอนั้นไปประกอบการพิจารณา ยกร่างรัฐธรรมนูญ

ย้ำโอเพ่นลิสต์มีทั้งข้อดีข้อด้อย
     พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกกมธ. ยกร่างฯ กล่าวถึงข้อทักท้วงของฝ่ายการเมืองเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เป็นแบบโอเพ่นลิสต์ จะทำให้พรรคการเมือง ทั้งพรรคเล็กและพรรคใหญ่ มีปัญหา เกิดความขัดแย้งและไม่เป็นเอกภาพว่า ในชั้นนี้ กมธ.ยกร่างฯ จะรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย เมื่อส่งร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกให้สปช.พิจารณา วันที่ 20-26 เม.ย.นี้แล้ว ยังมีเวลาอีก 1 เดือน ต้องรอให้ทุกฝ่ายคือ คสช. ครม. สปช. สนช. และฝ่ายการเมืองให้ความเห็น เสนอแนะมาอีกครั้ง คือหลังวันที่ 25 พ.ค. ไปแล้ว กมธ.ยกร่างฯ จะมาพิจารณาถึงข้อเสนอแนะ ความเห็นต่างๆ ว่ามีส่วนใดต้องทบทวนปรับแก้หรือไม่ โดยยึดประโยชน์และส่วนรวมเป็นหลัก ซึ่งในช่วงนี้จะมีเวลาอีก 60 วันในการแก้ไข ทบทวนปรับแก้ต่างๆ ให้เสร็จสิ้นตามกรอบเวลา 
     พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรารับฟังความเห็นของฝ่ายการเมืองที่ทักท้วงมา เช่น กรณีคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส. เราก็ไปปรับแก้ให้ เพราะเห็นว่าเป็นฝ่ายปฏิบัติที่ต้องมาใช้กฎหมายนี้ ส่วนกรณีโอเพ่นลิสต์จะปรับแก้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่ของ กมธ.ยกร่างฯ เพราะที่เลือกใช้แบบโอเพ่นลิสต์ มีทั้งข้อดี ข้อด้อย ข้อดีคือจะทำให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่โซนเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อสัดส่วนผสมที่ประชาชนต้องการจริงๆ คือมีผลงานเป็นที่รู้จัก จึงต้องทบทวนทั้งข้อดี ข้อด้อยมาชั่งน้ำหนักว่าอย่างไหนจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่า

สปช.เชื่อถกรธน. 20-26 เม.ย.เข้มข้น
    นายวันชัย สอนศิริ โฆษกกมธ.วิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือวิปสปช. กล่าวถึงความคืบหน้าการอภิปรายร่างรัฐ ธรรมนูญของ สปช. ในวันที่ 20-26 เม.ย.นี้ว่า ขณะนี้ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ให้กมธ.ปฏิรูปของสปช. ทั้ง 18 คณะ ศึกษาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เกี่ยวข้องกับด้านของตัวเองให้ละเอียด ซึ่งในการอภิปรายจะให้ กมธ.แต่ละคณะอภิปรายเรื่องของตัวเองเป็นหลัก เพื่อจะได้ตรงประเด็น และให้แต่ละคณะไปตกลงกันว่าจะให้ใครเป็นผู้อภิปรายบ้าง ไม่ได้ให้อภิปรายหมดทุกคน เพื่อไม่ให้ยืดเยื้อเกินไป
   นายวันชัย กล่าวว่า เชื่อว่าการอภิปรายในครั้งนี้จะมีเนื้อหาสาระที่เข้มข้น สามารถกลั่นกรองข้อมูลได้ละเอียด เป็นประโยชน์ต่อกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะนำไปปรับร่างรัฐธรรมนูญให้เหมาะสมได้อย่างแน่ นอน เพราะการเตรียมตัวครั้งนี้คล้ายกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 

เล็งสับเละที่มา'สส.-สว.-นายกฯ'
     นายวันชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกมธ.ปฏิรูปการเมือง สปช. จะนัดประชุมกันวันที่ 26-27 มี.ค. ที่พัทยา จ.ชลบุรี เพื่อสรุปประเด็นที่จะอภิปราย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่มา ส.ส. ส.ว. นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เป็นหลัก รวมถึงจะกำหนดตัวบุคคลที่จะอภิปราย ในแต่ละประเด็นด้วย ส่วนในรายละเอียดของ กมธ.ปฏิรูปด้านการเมือง จะเสนออย่างไรบ้างนั้น ต้องรอให้การประชุมตก ผลึกก่อน ขณะนี้ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด เพื่อให้ความเห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะออกมาสรุปข้อมูลหลังจากประชุมหารือกันเรียบร้อยแล้ว
     นายวันชัย กล่าวว่า ส่วน กมธ.ปฏิรูปกฎ หมายและกระบวนการยุติธรรม สปช. จะประชุมหารือกันในสัปดาห์หน้านี้เช่นกัน เพื่อวางกรอบในการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ

กมธ.นัดเวิร์กช็อปพัทยา
     พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ กมธ.ปฏิรูปการ เมือง สปช. เปิดเผยว่า การจัดเสวนาของ กมธ.ปฏิรูปการเมืองในวันที่ 26-27 มี.ค. ที่พัทยานั้น จะหารือและสรุปรวมประเด็นต่างๆ ที่จะนำไปอภิปรายและแปรญัตติในการประชุมสปช. วันที่ 20-26 เม.ย.นี้ ซึ่งนายนิรันดร์ พันธกิจ สมาชิก สปช.ด้านอื่นๆ จะเป็นผู้รับผิดชอบสรุปรายละเอียดต่างๆ ที่จะนำไปหารือในครั้งนี้ ภาพรวมจะพิจารณาว่า รัฐธรรมนูญร่างแรกหน้าตาเป็นอย่างไร ขณะนี้มีรายละเอียดเพียงคร่าวๆ เนื่องจากร่างจริงที่กมธ.ยกร่างฯ จะส่งมายัง สปช.ในวันที่ 17 เม.ย. ถือว่ากระชั้นชิดมาก เพราะสมาชิก สปช.จะมีเวลาเตรียมตัวและศึกษารายละเอียดน้อย เนื่องจากวันที่ 20 เม.ย. สปช.ต้องเริ่มกระบวนการอภิปรายและแปรญัตติรัฐธรรมนูญร่างแรกแล้ว ดังนั้น กมธ.การเมืองจึงต้องเสวนาเพื่อเตรียมความพร้อมทำงานครั้งนี้
      พล.อ.เอกชัย กล่าวอีกว่า เบื้องต้นต้องมาดูว่าอะไรบ้างที่เราเสนอไปแล้ว และกมธ. ยกร่างฯ นำไปใช้ อะไรบ้างที่ถูกตีตกลงไป เช่น ที่มาของนายกฯ โดยตรง ถ้าหากกมธ.ปฏิรูปการเมืองยังมีแนวคิดจะผลักดันเรื่องดังกล่าว เราต้องมาหารือว่า จะมอบให้ใครเป็นผู้อภิปรายเพื่อยืนยันสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวในที่ประชุมสปช. นอกจากนี้จะหารือ เรื่องการปฏิรูปทั้ง 36 ประเด็นที่เกี่ยวข้อง กับกมธ.ปฏิรูปการเมือง ว่ามีอะไรที่ควรนำเสนอต่อ กมธ.ยกร่างฯ บ้างอีก หรือไม่

ยังหนุนเลือกนายกฯโดยตรง
     นายนิรันดร์ พันธกิจ สมาชิก สปช.ด้านอื่นๆ กล่าวว่า ตนได้รับมอบให้เป็นผู้เตรียมประเด็นเสวนาของกมธ.ปฏิรูปการเมือง ต้องพิจารณาในทุกประเด็นที่เกี่ยวกับระบบการเมือง เช่น ที่มาของส.ส.และส.ว. รวมถึงที่มานายกฯ และคณะรัฐมนตรี และประเด็นที่เห็นต่างกับกมธ.ยกร่างฯ ซึ่งเราต้องมาระดมจุดอ่อนและจุดแข็ง เพื่อนำเสนอให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และจะหารือถึงผู้แปรญัตติว่าให้ใครบ้าง ทั้งนี้ ประเด็นที่เราเคยเสนอในเรื่องที่มานายกฯ โดยตรงนั้น เห็นว่ากมธ.เสียงส่วนมากยังเห็นด้วยอยู่ อาจให้มีโควตาให้คนนอกร่วมแปรญัตติด้วย ตรงนี้ต้องมาหารือกันว่าจะเชิญคนนอกที่มีแนวคิดเห็นด้วยกับกมธ.ปฏิรูปการเมืองมาร่วมอภิปรายหรือไม่ อย่างไร


ไม่ให้ติด - สหภาพแรงงานย่านรังสิตจัดกิจกรรมแรลลี่ระหว่างเดินทางไปประชุมสัมมนา ใกล้ห้างโลตัส รังสิต ระหว่างจัดกิจกรรมมีตำรวจและทหารติดตามเฝ้าสังเกตการณ์ และขอร้องไม่ไห้ติดสติ๊กเกอร์คำว่า "เลือกตั้ง" ในรถ เมื่อวันที่ 21 มี.ค.

      นายนิรันดร์ กล่าวว่า กมธ.เสียงส่วนใหญ่ยังพูดเรื่องนายกฯ โดยตรง ซึ่งการอภิปรายในที่ประชุมสปช.ครั้งที่แล้ว กมธ.ปฏิรูปการเมืองที่ผลักดันและสนับสนุนแนวคิดนี้ได้อภิปรายน้อยมาก ผิดกับคนที่ไม่เห็นด้วยที่ได้พูดเป็นชั่วโมง ครั้งนี้เราจึงต้องเตรียมการแปรญัตติกันให้ดี หวังว่าคนที่เห็นต่างหรือไม่ อย่างไร เราต้องให้เวลาพูดเพื่อชี้แจงกัน ประชาชนต้องได้เห็นว่าทำไม กมธ.ปฏิรูปการเมืองถึงเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ และมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยเพราะอะไร ส่วนประเด็นต่างๆ รวมถึงที่นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานกมธ.ปฏิรูปการเมือง ไปดูงานที่เยอรมนีมานั้น เราต้องหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปในการเสวนาครั้งนี้ด้วย

ชี้ปฏิรูปการศึกษาต้องพัฒนาคน
      เวลา 13.00 น. ที่โรงแรมเดอะสุโกศล กมธ.ปฏิรูปการเมือง สปช. ร่วมกับสถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) จัดสัมมนาและรับฟังความเห็น "10 ประเด็นเด่นนวัตกรรมการเมืองไทย" ประเด็นการปฏิรูปการศึกษา โดยมีนางประภาภัทร นิยม เลขานุการกมธ.ปฏิรูปการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สปช. นายวิทยากร เชียงกูล คณบดีกิตติคุณ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหา วิทยาลัยรังสิต และนายศรีราชา วงศารยางค์กูร ผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมงานเสวนา 
     นางประภาภัทร อภิปรายว่า การปฏิรูปจะต้องมีคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาคอยกำกับนโยบายให้ต่อเนื่อง ไม่ให้ถูกเบรกโดยนโยบายของรัฐบาล จะช่วยยืนระยะการปฏิรูปได้ ซึ่งมีการบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญส่วนของการปฏิรูปการศึกษาแล้ว โดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯ ได้ประสานงานมาให้ประมวลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ซึ่งพบว่ากฎหมายมีการรวมศูนย์อำนาจเอาไว้ เปิดโอกาสให้แต่การศึกษาขั้นพื้นฐานในระบบเท่านั้น นี่คือความล้มเหลวมากที่สุด 
      "การกระจายเรื่องเงินก็ต้องมีการเปลี่ยน แปลง แทนที่จะไปกระจุกที่กระทรวง ก็ให้กระจายไปที่ตัวเด็ก ทำให้เลือกการศึกษาที่คุณภาพตามต้องการได้ ภาพรวมของการศึกษาทั้งหมดจะปฏิรูปเพียงในระบบเฉพาะผู้เรียนแค่ 9 ล้านคน ไม่พอ แต่ต้องยกระดับคนนอกระบบทั้งหมดให้มีคุณภาพด้วย เช่นกัน" นางประภาภัทรกล่าว

ศรีราชาเชื่อร่างรธน.ไม่สำเร็จ
     ด้านนายวิทยากรกล่าวว่า ที่เศรษฐกิจและการเมืองมีปัญหา ส่วนหนึ่งเกิดจากการศึกษาของประชาชน นักการเมืองและผู้นำประเทศ ความเหลื่อมล้ำระหว่างความรวยความจนคือปัจจัยสำคัญ เราปฏิรูปการศึกษาเฉพาะเพื่อตอบสนองต่อระบอบทุนนิยม หากเราปฏิรูปไม่ได้ก็จะนำไปสู่ความตกต่ำ ต้องทำให้คนรู้ว่าการโกงไม่ดี การปฏิรูปต้องผลักดันจากล่างขึ้นบน ถ้าประชาชนฉลาดก็จะทำให้นักการเมืองฉลาดด้วย แต่ก็ยังเป็นไปได้ยาก 
   ด้านนายศรีราชา กล่าวว่า นักวิชาการบ้านเราไม่เป็นตัวเอง ทำได้แค่ลอกเลียนตามที่เคยศึกษาในต่างประเทศ ประชาธิปไตยกว่า 80 ปีที่ผ่านมา ยังคงหาแก่นสารอะไรไม่ได้ ส่วนการร่างรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าจะไม่ประสบ ความสำเร็จ เพราะมันไม่ได้อยู่ที่ตัวหนังสือแต่เป็นเรื่องของคน 

เหน็บอย่ายึดต่างชาติมากเกินไป
     นายศรีราชากล่าวว่า ประเทศไทยจะอยู่รอดได้คือ คน ที่ต้องพัฒนาและปฏิรูปทรัพยากรมนุษย์ โดยการศึกษาเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ต้องดูว่าซูเปอร์บอร์ดการศึกษา จะนำพาประเทศไปได้แค่ไหน ปัญหาการศึกษาของเราถูกตั้งมาเพื่อรองรับเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยรัฐบาล การจัดการศึกษาเพื่อไปหาเครือข่าย อย่าง วปอ.เมื่อก่อนดี แต่ตอนนี้เละเทะไปหมด ตรงนี้ต้องยกเลิกให้หมด คนชราก็ต้องห้ามทิ้ง
    นายศรีราชา กล่าวอีกว่า นักการเมืองทำ ให้ระบบการศึกษาเสีย ซูเปอร์บอร์ดต้องไม่มีชื่อนักการเมือง ส่วนกลางต้องมีบทบาทน้อยลง และกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นมากขึ้น แต่ต้องปรับโครงสร้างภาษีให้ท้องถิ่นจัดเก็บรายได้ก่อน ในทุกรูปแบบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น ต้องปรับปรุงครูให้เก่งและ ดี มีพื้นฐานศีลธรรม ไม่ด่างพร้อย ให้สื่อทำหน้าที่ทดแทนพวกโรงเรียนกวดวิชาและครูที่ขาดแคลน ทั้งนี้ ต้องอย่าเทิดทูนฝรั่งที่ไปศึกษามาจนเกินควร ถ้าเก่งจริงต้องอย่าไปเชื่อเขา เชื่อพระพุทธเจ้าดีกว่า เพราะแม้แต่การร่างรัฐธรรมนูญยังเชื่อต่างประเทศเลย 

จี้กมธ.รับผิดชอบหากรธน.มีปัญหา
       นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกมธ.ยกร่างฯยืนยันจะใช้ระบบการเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสมหรือเยอรมนีโมเดลว่า คาดไว้แต่แรกแล้วว่า กมธ.ยกร่างฯจะไม่คิดเปลี่ยนไปจากนี้ เพราะต่างคนต่างสู้ตามแนวคิดของตัวเอง ถ้าผู้ยกร่างฯยอมแก้ไขตามที่พรรคการเมืองเรียก ร้อง เขาก็จะเหมือนแพ้ จึงมีคำพูดสะท้อนตัวตนและความคิดออกมาว่าถ้าไม่ชอบรัฐ ธรรมนูญนี้ก็อย่าลงเลือกตั้ง ดังนั้นตนคิดว่า คนที่จะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้คือคสช.
      นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า การที่กมธ.ยกร่างฯไม่ทบทวนแก้ไขเพราะคนเหล่านี้ไม่เคยสัมผัสการเมืองที่แท้จริง มีบางคนเคยลงเลือกตั้งแต่แพ้ บางคนเคยตั้งพรรคแต่อยู่ไม่ยืด บางคนภาพลักษณ์ดี พรรคเคยทาบทามให้ลงเลือกตั้งแต่ปฏิเสธ เพราะรังเกียจการเลือกตั้ง ปัจจุบันคนเหล่านี้มาเป็นสมาชิก สปช.จำนวนมาก หากเขาไม่ฟังเสียงของพรรค เราก็จะขอต่อไปคือให้ทำประชามติรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าเขาไม่ทำ เราจะขอต่อไปอีกว่า ถ้ารัฐธรรมนูญนี้บังคับใช้แล้ว เกิดปัญหาเหมือนที่ฝ่ายการเมืองเคยเตือน ขอให้ผู้ยกร่างฯรับผิดชอบในทางแพ่งได้หรือไม่ คือค่าความเสียหาย หรือค่าเสียโอกาส ขอให้บัญญัติเรื่องนี้ลงในรัฐธรรมนูญไปด้วย 
       "หลักสากลในการทำงานคือ การทำตามหน้าที่ ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่มาทำหน้าที่ร่างกฎหมายให้คนทำตามแล้ว เมื่อเกิดผลเสียหายตามมาแต่ไม่ต้องรับผิดชอบเลย เพราะที่สุดเมื่อเกิดปัญหาจะมาโทษนักการเมืองอีก ทำให้ประชาชนเข้าใจว่านัก การเมืองทำให้เกิดปัญหา ทั้งที่เกิดจากกติกาใหม่ที่มีปัญหา และหลายฝ่ายท้วงติงแล้วว่าร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไม่สอดคล้องกับวัฒน ธรรม บริบทของสังคมไทยที่ทำให้พรรคอ่อนแอลง เกิดความแตกแยกมากขึ้น ความขัดแย้งสูงยิ่งกว่าเดิม" นายนิพิฏฐ์กล่าว

ทนายค้านพลเรือนขึ้นศาลทหาร
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมทนายความแห่งประเทศไทยมีการประชุมใหญ่ โดยมีสมาชิกเข้าร่วมกว่า 600 คน มีการหารือในประเด็นทางกฎหมายที่ขณะนี้มีพลเรือนบางส่วนที่แสดงความเห็นทางการเมืองแล้วถูกฟ้องร้องต่อศาลทหาร
      โดยนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเด็นปัญหาสำคัญในบ้านเมืองขณะนี้คือ สมาคมไม่เห็นด้วยที่บุคคลแสดงความเห็นในระบอบประชาธิปไตย แต่กลับต้องถูกขึ้นศาลทหาร ทั้งนี้ ศาลทหารควรเป็น กระบวนการยุติธรรมของทหาร ต้องไม่ดำเนินการกับพลเรือน 

ไม่หวั่นถูกเรียกปรับทัศนคติ
    นายนรินท์พงศ์ กล่าวว่า สมาคมทนาย ความเห็นว่าการขึ้นศาลเดียว จะทำพลเรือนเสียสิทธิในกระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่าสมาคมทนายความไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ และเห็นว่าควรมีการยกเลิกกฎอัยการศึกและใช้กฎหมายปกติได้แล้ว หากรัฐบาลหวังดีกับประเทศ ยืนยันส่วนตัวกล้าพูดและไม่เกรงกลัวถูกเรียกไปปรับทัศนคติ เพราะทนายความที่ดี ต้องพูดความจริง กล้าโต้แย้งกับการบังคับใช้กฎหมายที่ผิดพลาด และรับใช้ประชาชน
     นายนรินท์พงศ์ กล่าวว่า สมาคมทนาย ความเห็นว่า การใช้กฎอัยการศึก ไม่เป็นธรรม หากรัฐบาลบริหารงานไม่ได้ภายใต้กฎอัยการ ศึกก็ควรยกเลิก และเปิดให้ประชาชนเเสดงความเห็น โดยควรเอาความเห็นที่เป็นประ โยชน์มาใช้ปรับปรุงและบริหารงานแผ่นดินจะดีกว่า สมาคมทนายความ จึงมีมติเห็นว่า พลเรือนไม่ควรขึ้นศาลทหาร 

ทหารเรียกเตือนอธิการบดีมรภ.ลำปาง
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 32 (มทบ.32) ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง ได้เข้าพบ นายเล็ก แสงมีอานุภาพ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง และนายภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์ อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ที่อาคารโอฬาร โรจน์หิรัญ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจ หลังจากเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา บริเวณสะพานลอยหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง มีคนเอาป้ายผ้าไปแขวน มีข้อความ "พล เรือนต้องไม่ขึ้นศาลทหาร" ก่อนจะถูกทหารปลดป้ายออก 

ห้ามติดป้าย-เคลื่อนไหวการเมือง
     นายภิญญพันธุ์ เปิดเผยว่า มีโทรศัพท์ จากหน้าห้องอธิการบดี แจ้งมาว่า รองผบ. มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง เชิญให้ตนพร้อมอธิการบดีไปพบในช่วงเช้าวันที่ 20 มี.ค. โดยนัดที่อาคารโอฬาร โรจน์หิรัญ จากการพูดคุยทางเจ้าหน้าที่แสดงความกังวลถึงการเคลื่อนไหวและติดป้ายผ้าบริเวณ สะพานลอยหน้ามหาวิทยาลัย พร้อมเตือนห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ในมหา วิทยาลัย โดยเจ้าหน้าที่ทหารกล่าวด้วยว่า ได้เก็บรอยนิ้วมือจากป้าย และหากพบว่านักศึกษาคนใดเป็นผู้ติดป้าย จะเรียกตัวไปปรับทัศนคติต่อไป 
    นายภิญญพันธุ์ กล่าวว่า การพูดคุยเป็นไปด้วยดี ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในตอน ท้ายตนได้สอบถามเจ้าหน้าที่ทหารว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตนอย่างไรถึงได้เรียกมาพบ เจ้าหน้าที่ทหารบอกว่ามีการประสานงาน ผิดพลาด เพราะตอนแรกตั้งใจจะพูดคุยกับอธิการบดี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการนักศึกษา

'จ่านิว'เผยถูกทหารขอค้นห้อง
       นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. กล่าวถึงกรณี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาขอเข้าค้นห้อง ในหอพักที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า รปภ.ประจำหอเรียกไปคุยแล้วบอกว่าตำรวจจะมาค้นห้อง แต่รปภ.ไม่ให้เข้าไปเพราะไม่มีหมายค้น ซึ่งช่วงที่เข้ามาขอค้นนั้น ตนไม่ได้อยู่ที่ห้อง แต่เชื่อว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และไม่มีอะไรผิดกฎหมายอยู่ในห้อง ถ้าหากมีหมายค้นมาก็ยินดีให้ค้น ทั้งนี้ ตนไม่รู้ว่ามีสาเหตุใดที่เข้ามาค้นห้อง อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ยังใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้เกรงกลัว หรือหลบซ่อนอะไร 

สนช.หวั่นถูกฟ้อง-ตีกลับ 4 กสทช. 
     เมื่อวันที่ 21 มี.ค. นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงที่ประชุมสนช.มีมติไม่รับพิจารณารายชื่อตามบัญชีที่คณะกรรมการสรรหาบุคคลที่สมควรเป็นกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประเภทผู้ที่มีผลงานหรือมีความรู้ และความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ด้านกฎหมายว่า ต้องรอการยืนยันมติอย่างเป็นทางการก่อน ที่ผ่านมาไม่เคยมีทำนองนี้มาก่อน คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสนช.มีมติไม่รับพิจารณาบัญชีรายชื่อ อ้างคุณสมบัติไม่เหมาะสมโดยใช้ช่องทางรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 5 ที่ระบุว่า เมื่อไม่มีบทบัญญัติใด ให้วินิจฉัยไปตามประเพณีการปกครองประเทศในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และให้ดำเนินการตามขั้นตอนธุรการนั้นปรากฏว่า เกิดกระแสวิจารณ์ในหมู่สมาชิกสนช. เกรงว่าอาจถูกบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อฟ้องร้องได้ 
     สมาชิกบางคนยังเห็นว่า สนช.ควรใช้มาตรา 6 ที่บัญญัติว่า สนช.ทำหน้าที่ ส.ส.และส.ว. หากใช้มาตรานี้จะมีช่องทางดำเนินการต่อได้ เพราะตามกฎหมายกสทช. มาตรา 17 ระบุว่า หากไม่สามารถเลือกบุคคลเป็นกรรมการกสทช.ได้ภายใน 60 วันนับแต่วันที่กรรมการสรรหาส่งบัญชีรายชื่อมา ให้วุฒิสภาส่งบัญชีรายชื่อดังกล่าวไปยังนายกฯ พิจารณาเลือกภายใน 30 วัน หากไม่สามารถเลือกได้ ให้เริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ แต่เหตุใดจึงใช้มาตรา 5 จึงทำให้ขณะนี้ไม่มีข้อยุติ จึงต้องรอให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.เป็นผู้ชี้ขาดว่าจะดำเนินการอย่างไร 
      สำหรับ รายชื่อผู้ที่สมควรได้รับเลือกเป็นกสทช. 4 คน ประกอบด้วยนายทวีเดช เส้งแก้ว ทนายความ สำนักงานกฎหมายนิติธาดา นายธนกรณ์ พูนภิญโญศักดิ์ ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย นายนิพันธ์ จิตะสมบัติ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และพล.ต.สุพิชาติ เสนานุรักษ์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เพื่อให้ที่ประชุมให้ความเห็นชอบเพียงคนเดียว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!