WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

จี้'ฮิวแมนไรต์ส'ขอโทษ'ไก่อู'กร้าว ถ้าจนท.ไม่ซ้อมมือบึ้ม แจงยิบวิธีสอบผู้ต้องหา สปช.เวิร์กช็อปร่างรธน. ฟื้นอีกเลือกตรงนายกฯ กมธ.ปลื้มทัวร์เยอรมัน

ฉลองวันเกิด - บรรยากาศภายในบ้านพักย่านมีนบุรี กทม. ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบ 61 ปี ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เมื่อวันที่ 21 มีนาคม (รูปเล็ก) พล.อ.ประยุทธ์ตัดเค้กวันเกิด

 


ฝากขัง - ตำรวจนำ 3 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันวางแผนปาระเบิดศาลอาญารัชดา เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อขออำนาจศาลทหารฝากขังผลัดแรก 12 วัน หลังจากครบกำหนดควบคุมตัว 7 วันตามกฎอัยการศึก พร้อมคัดค้านการขอประกันตัว ที่ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 

     สปช.เตรียมอภิปรายร่าง รธน. กมธ.ปฏิรูปยกทีมเสวนาพัทยา เล็งปมที่มานายกฯ-ครม.-ส.ส.-ส.ว. 'เสธ.อู้'ยกการเมืองเยอรมันเจ๋ง เป็นประชาธิปไตย ฟังเสียงข้างน้อย

@ เสธ.อู้ชี้เลือกตั้งเยอรมันเจ๋ง

      เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวภายหลังเดินทางไปศึกษาระบบเลือกตั้งที่ประเทศเยอรมันว่า ได้มีโอกาสไปดูและศึกษาเรื่องระบบรัฐสภา จำนวน ส.ส. และการสนับสนุนเงินให้พรรคการเมือง เป็นต้น โดยระบบรัฐสภาของเยอรมันมีสภาสูงที่มาจากตัวแทนมลรัฐ ซึ่งมี 16 มลรัฐ จัดผู้แทนมาตามสัดส่วนของประชากร มลรัฐละ 3-6 คน รวม 69 คน โดยทั้ง 69 คนเป็นบุคคลที่รัฐเลือกมา ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เป็นการเลือกมาโดยผู้บริหารรัฐ เข้ามาทำหน้าที่เป็นสภาสูง รักษาผลประโยชน์ของรัฐ เวลามีกฎหมายที่เกี่ยวกับรัฐ มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ทำหน้าที่คล้ายกับสภาสูงของประเทศไทย ส่วนสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของเยอรมันนั้น แบ่งเป็น แบบแบ่งเขต 299 คน มาตามสัดส่วนของประชากร 16 มลรัฐ แบบปาร์ตี้ลิสต์ 299 คน

       "รัฐบาลมีความเข้มแข็งมาก เพราะใช้แค่ 3 พรรคการเมืองใหญ่รวมกันเท่านั้น ทำให้มีความมั่นคงทางการเมือง การพิจารณาผ่านกฎหมายสามารถดำเนินการได้ แต่ว่าเราต้องเข้าใจว่า การเมืองของเยอรมันมีจริยธรรม มีคุณธรรม ไม่ว่าเขาจะรวมกันเกินน้อยหรือเกินมาก เขาก็ต้องทำทุกอย่างไปตามหลักประชาธิปไตย ต้องรักษากฎ กติกา ต้องมีจริยธรรม มีความเป็นประชาธิปไตยและฟังเสียงข้างน้อย" พล.อ.เลิศรัตน์กล่าว

@ 'สมบัติ'ชี้ข้อเสีย'รัฐบาลผสม'

      นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะประธาน กมธ.ปฏิรูปการเมือง สปช. กล่าวว่า ระบบการเลือกตั้งที่คนเยอรมันคิดค้นขึ้นเอง เป็นนวัตกรรมของเยอรมัน ถ้าจะถือเหตุผลเดียวกับเยอรมันก็คือ ให้ความสำคัญทั้งจาก ส.ส.ที่มาจากเขต กับสนับสนุนพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง หลักการนี้นำมาใช้ในไทยได้ไม่มีปัญหา ข้อเสียก็จะมีอีกส่วนหนึ่ง คือระบบสัดส่วนผสมจะทำให้มีโอกาสได้รัฐบาลผสมมาก ในอดีตที่ใช้มามีรัฐบาลเสียงข้างมากพรรคเดียวเพียงครั้งเดียว และเกิดการตั้งรัฐบาลพรรคใหญ่ 2 พรรค เพียง 2 ครั้ง และรัฐบาลผสมพรรคเล็กๆ 13 ครั้ง ฉะนั้นถ้าเป็นรัฐบาลผสม ในสังคมเยอรมันเองก็บอกว่า ไม่มีประสิทธิภาพเท่ารัฐบาลพรรคเดียว แต่ว่าประวัติศาสตร์ของเยอรมันไม่ต้องการให้พรรคเดียวเข้ามามีอำนาจ เลยต้องการรัฐบาลผสมเพื่อถ่วงดุลอำนาจกัน 

      "ของเยอรมัน รัฐบาลผสมของเขามาจากนักการเมืองที่ดี ไม่ได้ฮั้วกันเพื่อประโยชน์ของพรรค ยังตรวจสอบถ่วงดุลกัน แต่วัฒนธรรมแบบนี้ไม่มีกับการเมืองไทย หากมาในไทยมีรัฐบาลผสมก็จะกลายเป็นเรื่องของการฮั้วกัน ถ้าตกลงกันได้ก็น่ากลัว เพราะต่างคนต่างจะหาประโยชน์ แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ การเมืองจะไม่มีเสถียรภาพ" นายสมบัติกล่าว

@ ทบทวนยกร่างรธน.เสร็จเดือนนี้

     นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างฯ กล่าวถึงความคืบหน้าการทบทวนยกร่างรัฐธรรมนูญว่า คาดว่าจะพิจารณาเสร็จครบทุกมาตราได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ และส่วนตัวรู้สึกพอใจที่การทำงานของ กมธ.ยกร่างฯ เป็นไปตามกรอบเวลาที่ได้วางแผนไว้ โดยนับจากนี้ไปจะเป็นช่วงเวลาที่ กมธ.ยกร่างฯจะต้องนำร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกไปเผยแพร่และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามจังหวัดต่างๆ รวมทั้งรอฟังความเห็นจาก สปช. ที่จะมีการอภิปรายและแสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกในช่วงวันที่ 20-26 เมษายนนี้ 

     นายคำนูณ กล่าวว่า หลังจากนี้ทาง กมธ.ยกร่างฯคงต้องเปิดหู เปิดใจให้กว้าง เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ เพื่อนำความคิดเห็นเหล่านั้นมาพิจารณาด้วยความรอบคอบ เนื่องจากกระบวนการทำงานในช่วงครึ่งหลังโดยเฉพาะช่วง 60 วันสุดท้าย ระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม-23 กรกฎาคม จะสำคัญเป็นอย่างมาก ส่วนกรณีที่ กมธ.ปฏิรูปการเมือง สปช. เตรียมจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปร่างรัฐธรรมนูญนั้น ยืนยันว่าไม่มีความกังวล เพราะเชื่อว่า กมธ.ปฏิรูปด้านต่างๆ ของ สปช.ทุกชุด และสมาชิก สปช.ทุกคนคงจะอภิปรายและเสนอความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ โดย กมธ.ยกร่างฯ พร้อมรับฟังและพร้อมชี้แจงเหตุและผลให้รับทราบ แต่เหตุและผลของ กมธ.ยกร่างฯ ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

@ สปช.อภิปรายเหมือนซักฟอก

       นายวันชัย สอนศิริ โฆษก กมธ.วิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญของ สปช. ว่า ขณะนี้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ได้ให้คณะ กมธ.ปฏิรูปของ สปช.ทั้ง 18 คณะ ศึกษาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เกี่ยวข้องกับตัวเองให้ละเอียด โดยในการอภิปรายจะให้ กมธ.แต่ละคณะอภิปรายเรื่องของตัวเองเป็นหลัก จะได้ตรงประเด็นและให้แต่ละคณะไปตกลงกันว่าจะให้ใครเป็นผู้อภิปรายบ้าง เพื่อให้การอภิปรายไม่ยืดเยื้อจนเกินไป ส่วนตัวเชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้จะมีเนื้อหาสาระที่เข้มข้น สามารถกลั่นกรองข้อมูลได้ละเอียด เป็นประโยชน์ต่อ กมธ.ยกร่างฯ ที่จะนำไปปรับร่างรัฐธรรมนูญให้เหมาะสมได้อย่างแน่นอน เพราะการเตรียมตัวครั้งนี้คล้ายๆ กับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

    "กมธ.ปฏิรูปด้านการเมือง สปช. ได้นัดประชุมวันที่ 26-27 มีนาคม ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อสรุปประเด็นที่จะอภิปราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่มา ส.ส.และ ส.ว. นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเป็นหลัก รวมทั้งจะมีการกำหนดตัวบุคคลที่จะอภิปรายในแต่ละประเด็นด้วย แต่ในรายละเอียดต้องรอให้ตกผลึกก่อน เพื่อให้ความเห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จะออกมาสรุปข้อมูลหลังจากที่ได้ประชุมหารือกันไปเรียบร้อยแล้ว ส่วน กมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมก็จะมีการประชุมหารือกันในสัปดาห์หน้านี้ด้วยเช่นกัน" นายวันชัยกล่าว

@ ถกปมตีตกนายกฯโดยตรง

     พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ สปช.ด้านอื่นๆ ในฐานะ กมธ.ปฏิรูปด้านการเมือง กล่าวว่า การเสวนาที่เมืองพัทยานั้น จะมีการหารือและสรุปรวมประเด็นต่างๆ ที่จะนำไปอภิปรายและแปรญัตติในการประชุม สปช.ระหว่างวันที่ 20-26 เมษายนนี้ โดยภาพรวมของการเสวนาจะมีการพิจารณาว่า รัฐธรรมนูญร่างแรกที่จะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ขณะนี้มีรายละเอียดเพียงคร่าวๆ เนื่องจาก กมธ.ยกร่างฯ จะส่งร่างรัฐธรรมนูญ มาให้ สปช.ในวันที่ 17 เมษายน ถือว่าเป็นระยะเวลาที่กระชั้นชิดอย่างมาก เพราะ สปช.จะมีเวลาเตรียมตัวและศึกษารายละเอียดน้อย เนื่องจากว่าวันที่ 20 เมษายน สปช.จะต้องเริ่มกระบวนการในการอภิปรายญัตติรัฐธรรมนูญร่างแรกแล้ว ดังนั้น กมธ.การเมืองจึงต้องเสวนาเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานครั้งนี้

      "เบื้องต้น กมธ.ปฏิรูปฯ จะต้องมาดูว่าอะไรบ้างที่เราเสนอไปแล้ว และ กมธ.ยกร่างฯ นำไปใช้ อะไรบ้างที่ถูกตีตกลงไป เช่น กรณีที่มาของนายกรัฐมนตรีโดยตรง หาก กมธ. ยังมีแนวคิดที่จะผลักดันเรื่องดังกล่าว เราก็ต้องมาหารือกันว่า จะมอบหมายให้ใครเป็นผู้อภิปรายเพื่อยืนยันสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวในที่ประชุม สปช. นอกจากนี้จะมีการหารือเรื่องการปฏิรูปทั้ง 36 ประเด็น ที่เกี่ยวข้องกับ กมธ.ปฏิรูปด้านการเมือง ว่ามีอะไรที่ควรจะนำเสนอต่อ กมธ.ยกร่างฯ อีกหรือไม่" พล.อ.เอกชัยกล่าว

@ กมธ.เสียงส่วนใหญ่ยังหนุน

      นายนิรันดร์ พันธกิจ สปช.ด้านอื่นฯ ในฐานะ กมธ.ปฏิรูปด้านการเมือง กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เตรียมประเด็นในการเสวนาที่เมืองพัทยา โดยเบื้องต้นต้องพิจารณาในทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับระบบการเมือง เช่น ที่มาของ ส.ส. และ ส.ว. รวมถึงที่มานายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี รวมทั้งประเด็นที่เห็นต่างกับ กมธ.ยกร่างฯ โดยต้องดูจุดอ่อนและจุดแข็งเพื่อจะนำไปเสนอให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง นอกจากนั้นจะต้องมีการหารือถึงผู้แปรญัตติ ว่าจะมอบหมายให้ใครบ้างที่จะเป็นผู้แปรญัตติ โดยอาจจะให้มีโควต้าให้คนนอกเข้ามาร่วมแปรญัตติได้ด้วย ซึ่งหารือกันว่า จะเชิญคนนอกที่มีแนวคิดเห็นด้วยกับ กมธ.ปฏิรูปการเมืองมาร่วมอภิปรายหรือไม่ อย่างไร

@ "กมธ.เสียงส่วนใหญ่ยังพูดเรื่องการ

      เลือกตั้งนายกฯโดยตรง โดยการอภิปรายในที่ประชุม สปช.ครั้งที่แล้ว กมธ.ที่ผลักดันและสนับสนุนแนวคิดนี้ ได้อภิปรายน้อยมาก ผิดกับคนที่ไม่เห็นด้วยที่ได้พูดเป็นชั่วโมง ครั้งนี้เราจึงต้องเตรียมการในการแปรญัตติกันให้ดี ต้องให้เวลาในการพูดเพื่อชี้แจงกัน ประชาชนเขาต้องได้เห็นว่า ทำไม กมธ.ปฏิรูปการเมืองถึงเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ และมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยเพราะอะไร" นายนิรันดร์กล่าว

@ 'นิพิฏฐ์'แนะทบทวนเลือกตั้ง

       นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี กมธ.ยกร่างฯ ยืนยันจะใช้ระบบการเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสมหรือเยอรมันโมเดล ว่าคาดไว้แต่แรกแล้วว่า กมธ.ยกร่างฯจะไม่คิดเปลี่ยนไปจากนี้ เพราะความรู้สึกเหมือนต่างคนต่างสู้ตามแนวคิดของตัวเอง คือ ผู้ยกร่างฯสู้เพื่อยืนหยัดตามหลักการและแนวคิด พรรคการเมืองก็ต่อสู้เพื่อรักษาหลักการของพรรค ถ้าผู้ยกร่างฯยอมแก้ไขตามที่เรียกร้องก็จะเหมือนแพ้ จึงมีคำพูดที่สะท้อนตัวตนและความคิดออกมาว่า "ถ้าไม่ชอบ รัฐธรรมนูญนี้ก็อย่าลงเลือกตั้ง" เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจน ดังนั้นคนที่จะสามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้คือ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

     "ที่คิดว่า กมธ.ยกร่างฯไม่ทบทวนแก้ไข เพราะคนเหล่านี้ไม่เคยสัมผัสการเมืองที่แท้จริง มีบางคนแม้เคยลงเลือกตั้งแต่แพ้ บางคนเคยตั้งพรรคการเมืองแต่อยู่ไม่ยืด บางคนภาพลักษณ์ดี พรรคการเมืองเคยทาบทามให้ลงเลือกตั้งแต่ปฏิเสธ เพราะรังเกียจการเลือกตั้ง ปัจจุบันคนเหล่านี้มาเป็น สปช.จำนวนมาก หากไม่ฟังเสียงของพรรคการเมือง เราก็จะขอต่อไปคือ ขอให้ทำประชามติรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าเขาไม่ทำ เราก็จะขอต่อไปอีกว่า ถ้ารัฐธรรมนูญนี้บังคับใช้แล้ว เกิดปัญหาเหมือนที่ฝ่ายการเมืองเคยเตือน เคยบอก ขอให้ผู้ยกร่างฯรับผิดชอบในทางแพ่งได้หรือไม่ คือค่าความเสียหาย หรือค่าเสียโอกาส ขอให้บัญญัติเรื่องนี้ลงในรัฐธรรมนูญไปด้วย" นายนิพิฏฐ์กล่าว

@ 'พงศ์เทพ'จี้กมธ.ยกร่างทบทวน

    นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการยกร่างรัฐธรรมนูญว่า หลักสำคัญของรัฐธรรมนูญนั้น ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญจะต้องให้อำนาจอธิปไตยอยู่กับประชาชน เคารพเชื่อถือประชาชน และเชื่อว่าประชาชนจะสามารถตัดสินใจต่อเรื่องสำคัญอนาคตประเทศได้ แต่ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวที่ได้เห็น เชื่อว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่เชื่อถือเเละไม่เคารพประชาชน ไม่ได้ให้อำนาจอธิปไตยจากประชาชนเลย แต่กลับให้อำนาจกับคนที่ไม่ได้มาจากประชาชนเสียเยอะ เช่น ส.ว.ที่มีอำนาจมาก กลับไม่ได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน การอ้างที่มาว่า ส.ว.มาจากการสรรหา หรือใดๆ แท้จริงแล้วคือ การไม่เชื่อถือประชาชนนั่นเอง

    นายพงศ์เทพ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญดังกล่าวยังทำให้ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งและรัฐบาลมีอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะเปิดให้มีองค์กรที่ไม่ได้มาจากประชาชน มีอำนาจแทรกแซงฝ่ายบริหารมากไป โดยเฉพาะการจะทำนโยบายใดๆ ทำได้ยากมาก จึงอยากให้ กมธ.ยกร่างฯ หากยังมีจิตสำนึกดีกลับไปทบทวนแก้ไขว่า จะให้ประเทศไทยเป็นสังคมที่มีระบบการเมืองประชาธิปไตยหรือไม่ หรือต้องการนำปัญหาที่เคยเกิดขึ้นวนกลับมาใช้จนสร้างปัญหาระบบอีก เพราะประเทศไทยผ่านการพัฒนาประชาธิปไตยมานาน จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะสร้างระบบที่เอาอำนาจประชาชนไปให้องค์กรที่ไม่ได้มาจากประชาชน 

     "การกำหนดให้นายกฯไม่ต้องมาจาก ส.ส. เป็นบทเรียนทางการเมืองตั้งแต่การเมืองช่วงปี 2535 ที่ได้เคยมีการเรียกร้องนายกฯมาจากเลือกตั้ง แต่ปัจจุบันกลับพยายามเปิดให้คนนอกนั่งนายกฯ จึงรู้สึกว่าเป็นการย้อนหลังกลับ และเปิดให้ผู้มีอำนาจมืดเข้ามามีอำนาจ ยืนยันที่ไม่เห็นด้วย ไม่ใช่กังวลว่า พรรคการเมืองที่ผมสังกัดจะได้ที่นั่งน้อยลง แต่กังวลว่า ระบบที่สร้างขึ้นจะทำให้มีรัฐบาลผสมและอ่อนแอ ยิ่งกว่าการเมืองก่อนรัฐธรรมนูญ ปี 2540 เสียอีก" นายพงศ์เทพกล่าว

@ 'ไก่อู'ย้ำเปล่าซ้อมมือบึ้มศาล

       พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนร้องเรียนว่า มีการซ้อมผู้ต้องหาคดีปาระเบิดใส่บริเวณศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกว่า ระบบยุติธรรมของไทยไม่ได้มีปัญหา ไม่เคยซ้อมผู้ต้องหานี่คือสิ่งที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง ตำรวจ ทหาร ชี้แจงมาโดยตลอด ว่าไม่ได้ทำ จะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร แต่ในการสอบสวนผู้ต้องหา โลกและสังคมต้องนึกให้ดีว่าคนที่มีความโยงใยกับเรื่องที่ก่อเหตุร้ายในบ้านเมืองถ้านั่งสอบสวนแบบปกติ พูดคุยกันธรรมดา เอากระดาษมาจด อยากเล่าอะไรให้ฟังก็เล่า แล้วจะได้อะไรหรือไม่ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ต้องมีวิธีการ แต่ไม่ใช่การซ้อม ไม่ใช่การทรมาน ไม่ใช่การทำผิดเรื่องสิทธิมนุษยชน

      "วิธีการสอบ เช่น เปลี่ยนหน้าเจ้าหน้าที่สอบหลายคน จุดใดที่ให้คำตอบขัดแย้งกับตัวเอง เจ้าหน้าที่จะซักวนหลายรอบ เพื่อให้เกิดความเครียด อาจซักจนดึกทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ มีวิธีหลายรูปแบบ แต่ไม่ใช่เป็นการทรมาน ไม่ใช่การซ้อมผู้ต้องหา หรือทำผิดหลักสิทธิมนุษยชน" พล.ต.สรรเสริญกล่าว และว่า ฮิวแมนไรต์สวอตช์ จะไปฟ้องใครก็เรื่องของเขา พร้อมรับการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม หากไม่เป็นความจริง ฮิวแมนไรต์สวอตช์จะขอโทษประเทศไทยหรือไม่ ที่ทำให้สังคมตื่นตระหนกตกใจ

@ ฝากขัง 3 ผู้ต้องหาคดีบึ้มศาล

        ที่ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 10.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายวสุ เอี่ยมละออ นายสุรพล เอี่ยมสุวรรณ และนายสมชัย อภินันท์ถาวร ผู้ต้องหาคดีปาระเบิดใส่ศาลอาญา เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา มาขออำนาจศาลทหารฝากขังผลัดแรก 12 วัน ระหว่างวันที่ 21 มีนาคม-1 เมษายน ทั้งนี้ ตุลาการศาลทหารพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุผลเพียงพอจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯทันที

     ข่าวแจ้งว่าสำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้ได้มีการออกหมายจับไปแล้ว 19 ราย จับกุมแล้ว 16 ราย และยังหลบหนี 3 ราย ประกอบด้วย นายวิระศักดิ์ โตวังจร หรือใหญ่ พัทยา นายมนูญ ชัยชนะ หรือเอนก ซานฟราน และนายธนาวุฒิ อภินันท์ถาวร

@ ตร.เล็งค้นห้องนักศึกษามธ.

      ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายสิริวิชญ์ได้โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อเวลา 22.07 น. วันที่ 20 มีนาคม ว่า "เมื่อสักครู่กลับมาถึงหอพักที่ มธ.ศูนย์รังสิต สักเวลา 21.30 น. พี่ รปภ.ประจำหอก็เรียกผมไปคุย บอกว่าไปทำอะไรมา ตำรวจเขาจะมาค้นห้อง รู้ข้อมูลห้องน้องครบถ้วน แต่พี่ไม่ให้เขาเข้าค้นนะ เพราะไม่มีหมาย ถ้ารอบหน้ามาแล้วมีหมายค้นพี่ก็ขวางไม่ได้นะ จะมาใหม่วันไหนก็ไม่รู้นะครับ" ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายสิริวิชญ์ถึงกรณีดังกล่าว นายสิริวิชญ์ได้ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยครั้งหน้าคาดว่าเจ้าหน้าที่อาจจะมาพร้อมกับหมายค้น ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นเพราะคลิป "มาร์ชชนทัพบก" ที่ทางเพจพลเมืองโต้กลับได้โพสต์เมื่อเวลาประมาน 2 ทุ่ม วันที่ 20 มีนาคม เนื่องจากในคลิปมีคนที่ใส่หน้ากากใบหน้าตน

       "ส่วนตัวปลอดภัยดีและไม่ได้ถูกคุกคามมาก ช่วงนี้มีตำรวจสันติบาลเข้ามาพูดคุยอยู่ด้วยบ่อยๆ แต่ไม่ได้พูดจาข่มขู่และใช้ความรุนแรง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจอยู่บ้าง เพราะไม่รู้วัตถุประสงค์ว่าเจ้าหน้าที่จะมาค้นหรือมาทำอะไร และเนื่องด้วยสาเหตุอะไร" นายสิริวิชญ์กล่าว

@ 'วรงค์'ยก7ข้ออัด'เพื่อไทย' 

       นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เรียกร้องให้ยุติการวิพากษ์วิจารณ์โครงการรับจำนำข้าว จนกว่าการพิจารณาคดีของศาลฎีกาเสร็จสิ้นเพียงแค่วันเดียว ทีมโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ก็ออกมาวิจารณ์บทบรรณาธิการของสื่อฉบับหนึ่งบนข้อมูลที่คลาดเคลื่อน รวม 7 ข้อ จึงขอตั้งข้อสังเกตเช่นกันว่า 1.ที่พยายามอ้างว่านโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายที่หาเสียงต้องปฏิบัติ ระงับยับยั้งไม่ได้ แต่กลับไม่ระบุถึงนโยบายหาเสียงที่สร้างความเสียหายและถูกระงับไป เช่น นโยบายยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 2.ที่บอกว่านโยบายนี้เป็นการช่วยเหลือชาวนาให้ดีขึ้นนั้น คงไม่มีใครว่าถ้าจะช่วยชาวนา แต่ที่สังคมไม่ยอมคือ การเอาชาวนามาอ้างบังหน้า แต่สุดท้ายเกิดการทุจริตมหาศาล 3.การอ้างมาตรการคิวอีมาเทียบเคียงทั้งที่เป็นมาตรการทางการเงิน แต่จำนำข้าวเป็นมาตรการทางการคลัง 

       นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า 4.ที่อ้างว่าเป็นโครงการใหญ่อาจจะรั่วไหลบ้าง ต้องย้ำว่ามันไม่รั่วไหลบ้าง แต่ต้องเรียกว่ามูมมามจนประเทศจะล่มจม 5.การอ้างถึง น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. ก็เป็นการยกเมฆ เพราะผลสรุปความเสียหายที่นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันล่าสุดก็ตรงตามที่ น.ส.สุภาระบุไว้ คือ 6.8 แสนล้านบาท 6.การพาดพิงถึงตนนั้น ต้องถามนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษก พท. ว่าเกี่ยวอะไรกับกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตขึ้น และ 7.เป็นการบิดเบือนซ้ำซ้อนว่า กปปส.ขัดขวางการจ่ายเงินชาวนา ทั้งที่ข้อเท็จจริงคือปล่อยให้มีการทุจริตจนหาเงินมาจ่ายค่าข้าวให้ชาวนาไม่ได้

@ 'ทนายปู'วอนสังคมหยุดให้ร้าย

     นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทีมทนาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางทีมทนายยังไม่ได้รับสำนวนคำฟ้องจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีโครงการรับจำนำข้าว หากได้รับสำนวนคำฟ้องแล้วคงจะมีการหารือกันอีกครั้ง ส่วนที่มีคนออกมาให้ข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ควรหยุดวิจารณ์ศาลนั้น เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้วิจารณ์ศาล โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่าพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและต่อสู้คดีเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม ไม่ได้ก้าวล่วงศาล อีกทั้งศาลยังไม่ได้พิจารณาคดี ที่ระบุว่าถูกกระทำสองมาตรฐานนั้นอาจเป็นในชั้นการไต่สวนของ ป.ป.ช.หรือไม่ 

       ขณะนี้ เรื่องเข้าสู่กระบวนการศาลแล้ว บุคคลภายนอกควรหยุดพูดเป็นการให้ร้าย ชี้นำสังคม หรือพูดเพื่อซ้ำเติมคนที่ถูกฟ้องได้แล้ว หลายคนอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าสู่กระบวนการของศาล ในเมื่อศาลประทับรับฟ้องก็เข้าสู่กระบวนการแล้ว ฉะนั้นบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องในการพิจารณาคดีควรยุติการพูดแสดงความคิดเห็น และปล่อยให้เป็นเรื่องการพิจารณาของศาล" นายนรวิชญ์กล่าว 

@ 'บิ๊กป้อม'จัดเบิร์ธเดย์นายกฯ

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีวันที่ 21 มีนาคม ตรงกับวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 61 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ว่า นายกฯใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวที่บ้านพักส่วนตัวภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ถนนวิภาวดีรังสิต โดยมีผู้ส่งข้อความอวยพร พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านทางโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ใช้เวลาส่วนหนึ่งในการส่งข้อความขอบคุณตอบกลับไปด้วย และในช่วงเย็น พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารที่บ้านพัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย่านมีนบุรี ที่จัดงานเลี้ยงให้ พล.อ.ประยุทธ์ โดยจะเป็นการสังสรรค์เฉพาะในหมู่นายทหารที่สนิทเป็นการส่วนตัว ทั้งนี้ งานเลี้ยงที่ พล.อ.ประวิตรจัดขึ้นครั้งนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งปีที่ผ่านๆ มาก็เคยจัดขึ้น

      ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์จะนำเพลงค่านิยม 12 ประการมาดัดแปลงเป็นภาษาอังกฤษว่า เพื่อให้ต่างประเทศได้รับทราบถึงแนวคิดในเรื่องของค่านิยม 12 ประการของคนไทย ซึ่งต่างประเทศเองก็มีการปลูกฝังค่านิยมในประเทศของเขาเช่นกัน ไม่ได้แตกต่างกับของไทย โดยเบื้องต้นนายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปยังนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และทางนายอภินันท์จะประสานงานไปยังกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อหารือถึงแนวทางและรายละเอียดต่อไป

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!