WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8602 ข่าวสดรายวัน


ไขก๊อกอีก 2 ปธ.บอร์ด'รสก.'
เคทีซี-ไทยออยล์ คสช.-ตร.แจงวุ่น'เขมร'กลับบ้าน ออกหมาย 7 คน เมินรายงานตัว


พิษลือ - บรรยากาศชาวกัมพูชาที่มาค้าแรงงานในไทย เดินทางกลับประเทศบ้านเกิด หลังเกิดกระแสข่าวลือทางการไทยมีนโยบายกวาดล้างจับกุม ซึ่งล่าสุด คสช.ออกประกาศแถลงการณ์ปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวแล้ว เมื่อ 16 มิ.ย.

       บิ๊กตู่นั่งหัวโต๊ะถก 'คสช.'จี้สคร.ปรับลดสิทธิประ โยชน์ 56 รัฐวิสาหกิจ ให้อยู่ในกรอบตลาดหลักทรัพย์ ผู้บริหารทอท.ยินดีหั่นโบนัสตามสั่ง คลังถกคสช.จ่อปลดบอร์ด 'รสก.'ปธ.บอร์ดกรุงไทย-ไทยออยล์ลาออกแล้ว กองสลากชงออกหวยออนไลน์-เลิกพิมพ์ชุด แก้โก่งราคา เตรียมเสนอคสช.ชี้ คสช.ยันไม่ได้ไล่ล่าแรงงานต่างด้าว แนะขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง 'สมยศ'จี้คดีหมิ่น ออกหมายจับ 7 รายไม่รายงานตัวคสช. 'เอกชัย ศรีวิลาศ'แนะตั้งเวทีถกสู่ปรองดอง 

บิ๊กตู่นั่งหัวโต๊ะถก'คสช.'

      เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคสช. เพื่อติดตามสถานการณ์ประจำวัน และติดตามการทำงานในแต่ละส่วนงาน โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวแสดงความห่วงใยกำลังพล ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือนที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมย้ำให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดูแลกำลังพลให้อยู่ในระเบียบวินัย มีความพร้อมเสมอในการดูแลประชาชนทั้งจุดตรวจ และจุดประชา สัมพันธ์ ให้ปฏิบัติงานภายใต้กรอบการบังคับใช้ของกฎหมาย หากมีการจับกุมให้นำผู้ที่ถูกหมายจับหรือหมายเรียกส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมทำความเข้าใจกับกลุ่มที่เห็นต่างอย่าให้มองประชาธิปไตยด้านเดียว

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หัวหน้าคสช.สั่งการให้ฝ่ายสังคมจิตวิทยาเร่งแก้ไขเหตุที่ทำให้สังคมไทยอ่อนแอ อาทิ เรื่องพระภิกษุที่ประพฤติไม่เหมาะสม ได้เน้นย้ำให้กรมการศาสนา และสำนักพระพุทธศาสนาตั้งคณะกรรมการติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อทำให้ศาสนาบริสุทธิ์ ส่วนการบริหารแรงงานต่างด้าวนั้น ยืนยันขณะนี้เป็นการจัดระเบียบโดยผู้ประกอบการต้องจัดทำบัญชีควบคุมให้เรียบร้อยตามกฎหมาย

สั่งทบทวนสิทธิประโยชน์'รสก.'

      ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ทีมโฆษกคสช. แถลงว่า เช้าวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา หัวหน้าคสช. เป็นประธานประชุมติดตามงานประจำวัน มีหัวหน้าฝ่ายทั้ง 6 ฝ่าย และหน่วยขึ้นตรงทั้งหมด โดยหัวหน้าคสช.ได้สั่งการหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจให้พิจารณาปรับปรุงประสิทธิภาพของกรรมการรัฐวิสาหกิจและบริษัทมหาชนที่รัฐบาลถือหุ้นอยู่ โดยหัวหน้าคสช.มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ไปประเมินสถานะ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของกรรมการรัฐวิสาหกิจที่ปัจจุบันมีอยู่ 56 บอร์ด โดยให้พิจารณาเรื่องผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์ส่วนเกิน ค่าตอบแทนของกรรมการบอร์ด เบี้ยประชุม โบนัส ค่าใช้จ่ายอื่นๆ หรือสิทธิประโยชน์ส่วนเกินต่างๆ ที่กรรมการได้รับ รวมทั้งต้องมีข้อเสนอที่เหมาะสมตามหลักเกณฑ์การใช้เงิน อาทิ กรรมการในบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ต้องคำนึงถึงกฎเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดด้วย

       "หัวหน้าคสช.เน้นย้ำเรื่องการดำเนินการว่าต้องคำนึงถึงขนาดของรัฐวิสาหกิจและบริษัทมหาชนด้วยว่ามีความขนาดใหญ่หรือเล็กที่ไม่เท่ากัน สิทธิประโยชน์ต่างๆ ของแต่ละรัฐวิสาหกิจที่ไม่เท่ากันด้วย ให้สคร.ไปรวบรวมข้อมูล ขณะเดียวกันที่ให้ทำงานคู่ขนานกันคือหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจของคสช.ที่ต้องทำงานควบคู่กันด้วยเพื่อให้ได้ข้อมูลที่จะนำมาประกอบการพิจารณาทบทวน และดูแลความเหมาะสมของสิทธิประโยชน์ส่วนเกินอันจะนำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพของกรรมการรัฐวิสาหกิจและบริษัทมหาชนที่รัฐบาลถือหุ้นส่วน ที่คสช.จะดำเนินการต่อไป"น.ส.ปถมาภรณ์ กล่าว

     เมื่อถามถึงการกำหนดกรอบการทำงานที่ให้ไปปรับปรุง น.ส.ปถมาภรณ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาการทำงานในเรื่องนี้ และไม่ได้พูดถึงตัวบุคคล ให้ไปพิจารณาในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของบอร์ดเท่านั้น แต่พล.อ.ประยุทธ์มอบเป็นแนวทางปฏิบัติให้ทั้งสคร.และฝ่ายเศรษฐกิจไปดำเนินการ

'ทอท.ยินดีลดโบนัส'ตามสั่ง

      ว่าที่เรืออากาศโท จตุรงคพล สดมณี ผอ.ท่าอากาศยานดอนเมือง ทอท. กล่าวว่า การพิจารณาเงินโบนัสประจำปีเป็นของระดับนโยบายจะพิจารณาว่าจะให้เท่าไหร่ ซึ่งแล้วแต่ผลการประเมิน โดยท่าอากาศยานต่างๆ ทำหน้าที่เป็นฝ่ายปฏิบัติงานเท่านั้น หากพิจารณาให้เท่าไหร่ก็ยินดีปฏิบัติตาม

      นายดำรงค์ ไวยคณี ประธานสหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย (สร.กบท.) กล่าวว่า การตัดสิทธิประโยชน์ของพนักงานจะต้องพิจารณาในรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องสิทธิการจ้างตามกฎหมาย เช่น เรื่องตั๋วฟรีสำหรับพนักงานที่ทำงานครบตามเกณฑ์ หรือตั๋วเดินทางจ่าย 10 % รวมทั้งเงินโบนัสประจำปี ที่ผ่านมาการบินไทยเคยได้รับโบนัสสูงสุด 4.2 เดือน แต่ส่วนใหญ่เฉลี่ยที่ 1-2 เดือนต่อปี หากขาดทุนก็จ่ายโบนัสไม่ได้ แต่จะจ่ายเงินรางวัลให้กับพนักงานแทน ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60 % ของเงินเดือนเท่านั้น ดังนั้นเรื่องนี้ต้องรอดูความชัดเจนจาก คสช.ก่อน

      นายดำรงกล่าวว่า กรณีที่ คสช.จะเข้ามาจัดระเบียบ เพราะบางรัฐวิสาหกิจมีจ่ายโบนัส 11 เดือน หรือ 7 - 8 เดือนนั้น เห็นว่าควรกำหนดกรอบเพดาน เช่น อัตราเฉลี่ยไม่ควรเกิน 4 เดือน เพราะเงินรายได้ทั้งหมดสามารถที่จะคืนเป็นผลตอบแทนให้กับประชาชน หรือเข้ารัฐบาลได้

คลังถกคสช.-ปลดบอร์ด'รสก.'

      รายงานข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ข้อมูลที่คลังเตรียมชี้แจงให้ คสช. จะชี้ให้เห็นว่าการจ่ายผลตอบแทนและโบนัสของรัฐวิสาหกิจมี 2 ส่วน ในส่วนแรกรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ สามารถจ่าย ผลตอบแทนและโบนัสได้ไม่มีเพดาน ประกอบด้วย บริษัทท่าอากาศยานไทย บริษัท การบินไทย บริษัท ปตท. และบริษัท อสมท ส่วนรัฐวิสาหกิจที่ไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ การจ่ายผลตอบแทนจะมีขั้นบันไดเงินเดือนชัดเจน และการจ่ายโบนัสต้องเป็นตามการประเมินผลงาน หากได้คะแนนมากได้โบนัสมากและได้คะแนนน้อยก็ได้โบนัสน้อย ต้องแก้ไขการจ่ายโบนัส ให้รัฐวิสาหกิจที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ใช้เกณฑ์การจ่ายโบนัสเดียวกันกับรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

      รายงานข่าวระบุด้วยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างดำเนินการปลดคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจหลายแห่งออกจากตำแหน่ง เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการหารือกับคสช. ว่าจะใช้อำนาจของกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ เปลี่ยนแปลงกรรมการของรัฐวิสาหกิจ หรือจะใช้อำนาจของ คสช. ปลดกรรมการรัฐวิสาหกิจเพื่อให้การดำเนินการรวดเร็ว ทั้งนี้คสช.ได้ส่งสัญญาณให้กรรมการรัฐวิสาหกิจให้ลาออกจากตำแหน่ง ผ่านมาหลายสัปดาห์กรรมการของรัฐวิสาหกิจไม่ยังไม่ยอมลาออก มีเพียงกรรมการบริษัทท่าอากาศยานไทย บริษัท ปตท. และธนาคารกรุงไทย ลาออกจากตำแหน่งเท่านั้น จึงต้องดำเนินการขั้น เด็ดขาดต่อไป

ปธ.บอร์ดกรุงไทย-ไทยออยล์ลาออก

      รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คาดว่าจะมีคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลยื่นใบลาออกจากการเป็นกรรมการอีก 4 ราย เพื่อแสดงสปิริตให้เกิดการสรรหากรรมการใหม่ ประกอบด้วย พล.ท.รุจวินท์ กิจวิทย์, นายวีรภัทร ศรีไชยา และพล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เนื่องจากเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการแต่งตั้งจาก ครม.ในชุดของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม 

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. นายปริญญา พัฒนภักดี เลขานุการ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ได้ทำหนังสือเรียนถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อแจ้งเรื่องการลาออกจากการเป็นประธานกรรมการและกรรมการ บมจ.ธนาคารกรุงไทยว่า เนื่องด้วยธนาคารกรุงไทยได้รับหนังสือแจ้งขอลาออกจากการเป็นประธานกรรมการและกรรมการ บมจ.ธนาคารกรุงไทยของนายวรวิทย์ จำปีรัตน์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.เป็นต้นไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

      ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายวิโรจน์ มีนะพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่-ด้านกำกับกิจการองค์กร และเลขานุการ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ได้มีหนังสือแจ้งลาออกจากการดำรงตำแหน่งกรรมการ และประธานกรรมการ เนื่องจากมีภารกิจอื่น โดยการลาออกมีผล 

ชงออนไลน์-เลิกพิมพ์ชุดแก้สลากแพง

      ทญ.กุณฑีรา ตันติรังสี รอง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่ คสช.ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลหามาตรการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งเกินราคานั้น ทญ.กุณฑีรากล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เชิญผู้ค้ารายใหญ่มาพูดคุย เพื่อขอความร่วมมือให้ผู้ค้าปฏิบัติตามสัญญา รวมถึงไปกำชับกับลูกทีมของผู้ค้าแต่ละราย หากยังไม่ปฏิบัติตาม สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก็มีมาตรการลงโทษอยู่ ซึ่งมาตรการลงโทษสูงสุด คือ การยกเลิกสัญญา


เยี่ยมลายจุด - นางธิดา โตจิราการ ที่ปรึกษานปช. พร้อมด้วยนพ.เหวง โตจิราการ เดินทางไปเยี่ยมนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบ.ก.ลายจุด ซึ่งถูกกักขังในคดีฝ่าฝืนคำสั่งคสช. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.

      นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สั่งการไปยังคณะทำงานให้สรุปแนวทางแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคาให้ได้ก่อนสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อเสนอไปยังฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. ซึ่งในการแก้ปัญหามี 2 แนวทาง คือ 1.การใช้เครื่องจำหน่ายสลากออนไลน์ 2 ตัว 3 ตัว แต่การดำเนินการต้องแก้กฎหมายให้เอื้อต่อการดำเนินงาน 2.การ กระจายเลขสลาก ไม่ให้รวมเลขแล้วขายเป็นชุด แนวคิดเบื้องต้นคือพิมพ์เลขสลากเรียงเลขกันไปตั้งแต่เลข 1-72 ล้านเลข แต่คงต้องไปศึกษาก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่ ขณะนี้เรื่องเร่งด่วนของกองสลาก มี 2 เรื่องคือ หามาตรการดูแลไม่ให้สลากเกินราคาเสนอไปยัง คสช. และสรรหาผู้อำนวยการสลากคนใหม่ แทนพล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ที่ลาออกไป ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้นคงเป็นแค่ข่าวลือ ซึ่งมีออกมาเยอะมากในช่วงนี้

คตร.ลุยสอบก่อน 8 โครงการ

      ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ คณะทำงานโฆษก คสช. กล่าวถึงความคืบหน้าของการดำเนินการของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ที่มีพล.ท.อนันตพร กาญจนรัตน์ ปลัดบัญชีทหารบก เป็นประธาน ว่าคณะกรรมการฯ ได้มีมติร่วมกันที่จะส่งอนุกรรมการคณะอนุกรรมการตรวจสอบพิเศษลงไปตรวจสอบโครงการที่มีขนาดโครงการเกินกว่า 1,000 ล้านบาทของปีงบประมาณ 2557 โดยจะตรวจสอบ 8 โครงการให้เสร็จภายในเดือนมิ.ย.นี้ ส่วนที่เหลือ 20 โครงการจะตรวจสอบต่อให้เสร็จภายในเดือนก.ย.ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2557 โดย คตร.จะประชุมกันทุกวันพุธ เพื่อติดตามความคืบหน้า หากพบว่าแพงเกินไปก็อาจให้ปรับลดขนาดวงเงินลง หากมีความไม่ชัดเจนก็อาจให้ยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนโครงการอื่นที่มีประโยชน์เข้ามาแทน และหากทุจริต คตร.ไม่ได้มีอำนาจตามกฎหมายที่จะดำเนินงานลงโทษหน่วยงานเจ้าของโครงการได้แต่จะส่งเรื่องให้กับป.ป.ช.และสตง.ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

       สำหรับ 8 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการจัดหารถรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ 115 คัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 2.โครงการจัดหารถจักร 126 คัน ของ รฟท. 4.โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ปี 2554 - 2560 ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) 4.โครงการจ้างให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) 5.กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ของสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)

      6.โครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 7.โครงการสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ 8.โครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (กสทช.) 

รฟท.พร้อมให้ตรวจ

       นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า รฟท.พร้อมให้ คตร.ตรวจสอบ โดยขณะนี้เพิ่งลงนามสัญญาไปเพียงสัญญาเดียว คือ การจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา 20 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงิน 2,130 ล้านบาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งได้ลงนามกับบริษัท ป่าไม้สันติ จำกัด ไปเมื่อเดือนมิ.ย.56 ที่ผ่านมา และเริ่มทยอยรับมอบหัวรถจักรรอบแรก 1-2 หัว ในเดือนก.ค.จนถึงสิ้นปี เพื่อนำไปใช้บริการรับขนส่งสินค้า ส่วนโครงการจัดซื้อหัวรถจักรใหม่อีก 50 คัน กำลังตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประกวดอยู่ ส่วนโครงการจัดหารถรุ่นใหม่สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ 115 คัน เปิดประมูลด้วยระบบอีอ๊อกชั่นและได้ผู้ชนะแล้ว แต่ยังไม่สามารถลงนามอย่างเป็นทางการ เพราะต้องรอการตรวจสอบรายละเอียดเอกสาร และระเบียบต่างๆ อีกครั้งก่อนลงนาม 

        "ยืนยันว่าการเข้ามาตรวจสอบไม่ได้เป็นโครงการที่น่าสงสัย แต่เป็นเพราะเป็นโครงการที่มีงบประมาณสูงเกิน 1 พันล้าน ทาง คตร.จึงเข้ามาช่วยดู รวมถึงหากติดปัญหาอุปสรรคใดก็จะช่วยมาทำให้เร็วขึ้น" นาย ประภัสร์กล่าว 

ย้ำ'2.4 ล้านล.'ตัดรถไฟเร็วสูง 

       วันเดียวกันนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ได้ประชุมร่วมกับ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรมทางหลวง และหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงคมนาคม เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในปี 2558 โดยใช้เวลาการประชุมร่วมกันทีละหน่วยงานตั้งแต่ช่วงเช้า จนถึงเวลา 17.00 น.

       นายจุฬา สุขมานพ ผอ.สนข. กล่าวว่า เดิมการลงทุนทั้ง 5 ยุทธศาสตร์ มีมูลค่าโครงการทั้งหมด 3 ล้านล้านบาท แต่ขณะนี้ได้ตัดโครงการรถไฟความเร็วสูงออกไป ทำให้มูลค่าลงทุนโครงการทั้งหมดอยู่ที่ 2.4 ล้านล้านบาท สำหรับโครงการที่มีความพร้อมที่จะลงทุนในปีงบประมาณ 2558 ประกอบด้วย รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าเส้นสายสีส้ม สีชมพู และสายสีเหลือง นอกจากนี้ ยังมีโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ส่วนต่อขยายไปสนามบินดอนเมือง ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาว่าแหล่งเงินที่จะมาลงทุนโครงการดังกล่าว ส่วนไหนจะมาจากเงินงบประมาณ และส่วนไหนจะมาจากเงินกู้ ส่วนโครงการที่เหลือทั้งหมด ก็ต้องมีการพิจารณาว่าจะลงทุนปีไหน วงเงินที่ต้องใช้และแหล่งเงินทุนจะมาจากไหน ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งรายได้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นเจ้าของโครงการ จากเงินงบประมาณ ร่วมลงทุนกับเอกชน และเงินกู้ ซึ่งจะต้องหารือกับกระทรวงการคลัง

รอเสนอ'บิ๊กจิน'

      ทั้งนี้ ในวันที่ 17 มิ.ย. กระทรวงคมนาคมจะหารือร่วมกับสำนักงบฯ เพื่อพิจารณาโครงการที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2558 ที่เป็นข้อสรุปสุดท้าย ก่อนเสนอ สบน.ว่า โครงการใดต้องใช้เงินกู้หรือใช้งบฯ เพื่อให้ทันเสนอพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้า คสช. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ พิจารณาเห็นชอบโครงการทั้งหมดอีกครั้ง

       นายสุวิชญ โรจนวานิช ที่ปรึกษาด้านตราสารหนี้ สบน. เปิดเผยว่า ในปี 2558 สามารถกู้เพื่อใช้ในการลงทุนได้ 1.3 ล้านล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายที่ 2.575 ล้านล้านบาท ตามพ.ร.บ.บริหารหนี้สาธารณะ ที่เปิดให้กู้เพื่อชดเชยขาดดุลได้ 20% ของวงเงินงบประมาณรายจ่าย กู้ได้ 20% เพื่อค้ำประกันให้รัฐวิสาหกิจ และอีก 10% เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ แต่คาดว่าจะไม่ได้กู้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของโครงการที่เสนอมา ซึ่งขณะนี้มีการกู้ชดเชยขาดดุลเพียง 2.5 แสนล้านบาทเท่านั้น จากที่สามารถกู้ได้ 5 แสนล้านบาท

สั่งยกเลิกแจกแท็บเล็ตแล้ว

      ที่กองทัพเรือ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. ในฐานะรองหัวหน้า คสช. และหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา ได้เชิญ ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติราชการแทน รมว.ศึกษาธิการ ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และคณะทำงานแท็บเล็ต มาประชุมหารือเพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียนต่อไปอย่างไร

       แหล่งข่าวระดับสูงจาก ศธ. เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้ยกเลิกโครงการจัดซื้อแท็บเล็ต ประจำปีงบประมาณ 2557 พร้อมทั้งให้ยุติการจัดซื้อแท็บเล็ต ประจำปีงบประมาณ 2556 ในโซน 4 ของนักเรียนชั้น ม.1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ที่ยังค้างอยู่ด้วย เนื่องจากไม่คุ้มค่า และไม่เหมาะสม โดยให้นำงบฯ 1,170 ล้านบาท ที่ใช้จัดซื้อแท็บเล็ตโซน 4 ไปรวมกับงบฯ 5,800 ล้านบาท ที่ใช้จัดซื้อแท็บเล็ต ปี 2557 ซึ่งรวมเป็นเงิน 6,970 ล้านบาท ไปดำเนินการในโครงการอื่นที่เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาแทน ทั้งนี้ได้มอบให้ปลัด ศธ.ทำเรื่องเสนอไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงรายการ และขอกันเงินงบประมาณแบบไม่มีหนี้ด้วย 

คสช.ยันไม่ใช่เจ้าภาพ'นเรศวร'ฟรี

     ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก และทีมโฆษกคสช. กล่าวถึงการทบทวนเพิ่มรอบการฉายภาพยนตร์ "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 5 ยุทธหัตถี" หลังจากมีประชาชนจำนวนมากไม่ได้รับชมการเปิดฉายฟรีเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า คสช.ไม่ได้เป็นเจ้าภาพหลักแต่สนับสนุน จึงขึ้นอยู่บริษัทผู้สร้าง ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์และภาคเอกชน จะพิจารณาความเหมาะสม ทราบว่ามีผู้เสนอตัวขอเป็นสนับสนุนให้ฉายเพิ่ม แต่คสช.ต้องการให้ฝ่ายพลเรือนประสานและขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อไปเพราะไม่มีหน้าที่ชี้นำภาคเอกชน อีกทั้งขณะนี้มีการวิจารณ์ว่าคสช.นำงบประมาณไปใช้จึงเกรงว่าจะเป็นประชานิยม จึงอยากให้ทั้งสองฝ่ายไปหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปต่อไป

     พ.อ.วินธัยกล่าวถึงมาตรการกวาดล้างอบายมุข โดยเฉพาะการเล่นพนันฟุตบอลช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกว่า ตำรวจกวดขันเรื่องนี้อยู่แล้ว 

      เมื่อถามถึงความคืบหน้าการเรียกบุคคลเข้ารายงานตัวตามประกาศคสช. พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีเพิ่มเติม มีแต่ผู้ที่ปล่อยตัวไปแล้ว และช่วงหลังนี้มีการเรียกมารายงานตัวและปล่อยกลับในเย็นวันเดียวกัน ไม่มีการกักตัวไว้ในพื้นที่พิเศษ ส่วนการติดตามผู้ที่ยังหลบหนีในต่างประเทศ ต้องปล่อยตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งเราออกหมายจับไปแล้ว จึงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ดำเนินการก่อน 

ยันไม่ได้ไล่ล่าแรงงานต่างด้าว

       พ.อ.วินธัย กล่าวถึงแรงงานต่างด้าวแตกตื่นเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากมีกระแสข่าวทหารจะใช้มาตรการด้านกฎหมายและใช้วิธีที่รุนแรงว่า ไม่เป็นความจริง ทหารไม่มีการใช้มาตรการด้านกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อถามว่ามีการปล่อยข่าวจากฝั่งกัมพูชาเรียกแรงงานให้กลับประเทศ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ยังไม่มีข้อมูลที่เป็นทางการ เห็นจากสื่อโซเชี่ยลเท่านั้นจึงต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนที่มีบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ไล่ล่าแรงงานต่างด้าวนั้น คสช.กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าหากใครพบเห็น ให้แจ้งหน่วยงานทหารในพื้นที่เพราะบุคคลเหล่านี้อาจปลอมเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อกระทำการในรูปแบบต่างๆ ได้

       "ขณะนี้มีบางกลุ่มบางคนเคลื่อนไหวเผยแพร่ข่าวสารบิดเบือน ต่อต้านคสช.ทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณรับฟังข่าวสารต่างๆ และสอบถามข้อมูลจากทีมประชาสัมพันธ์หรือทีมโฆษกคสช.ได้ ยืนยันไม่มีทหารเข้าไปไล่ล่าแรงงาน ส่วนคณะกรรมการจัดระบบแรงงานต่างด้าวที่คสช.ตั้งขึ้นจะดูในระดับนโยบายไม่ลงไปในพื้นที่" พ.อ.วินธัยกล่าว

แนะนำขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง

      พ.อ.วินธัยกล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีข่าวสมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา ส่งทหารมารอรับแรงงานต่างด้าวที่เดินทางกลับจากไทยนั้น ไม่ใช่อย่างที่มีข่าว แรงงานบางคนอาจกลับไปดำเนินการเรื่องเอกสารก็ได้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับข่าวที่ออกมา แต่การมารอรับอาจเป็นปัจจัยอื่นแต่เชื่อว่าไม่มีอะไร ย้ำว่าคสช.ไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องแรงงานกลับ แต่เป็นห่วงว่าหากแรงงานกลับจำนวนมากจะส่งผลเสียหายต่อผู้ประกอบการได้ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

      พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า ขอให้ผู้ประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าวดำเนินกิจการตามปกติ และดูแลให้อยู่ในความเรียบร้อย การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวจะดำเนินการเป็นเหตุเป็นผล สมกับความเป็นจริง และการดำเนินชีวิตประจำวัน ที่สำคัญต้องส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและประเทศชาตินำไปสู่ความมั่นคง อย่างยั่งยืนต่อไป โดยแนวทางแก้ปัญหา ให้ดำเนินการอย่างถูกต้องเหมาะสมและเป็นธรรม ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง แรงงานต่างด้าว ต้องขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง ทำงานได้อย่างเปิดเผย ไม่ต้องหลบซ่อน รวมทั้งได้รับการดูแล รักษาพยาบาลอย่างถูกหลักสุขลักษณะ

ก.แรงงานชี้เป็นช่วงฤดูกลับบ้าน

      นายธนิช นุ่มน้อย รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงข่าวแรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศจำนวนมากว่า แรงงานที่นำเข้าถูกกฎหมาย 3 ประเทศคือพม่า ลาว กัมพูชา เมื่อทำงานครบ 4 ปีจะเดินทางกลับตามเงื่อนไข ซึ่งอาจมีญาติเพื่อนฝูงกลับไปด้วย ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนก็กลับไปช่วยครอบครัวทำนา จึงเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เห็นว่ามีแรงงานกัมพูชาเดินทางกลับประเทศจำนวนมาก ส่วนที่ข่าวว่ารัฐบาลกัมพูชาให้ชาวกัมพูชาเดินทางกลับนั้น เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศ ไม่มีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ

      นายธนิช กล่าวต่อว่า การเดินทางกลับของแรงงานกัมพูชาขณะนี้ นอกจากปัจจัยตามเงื่อนไขข้อตกลงแล้ว ส่วนหนึ่งเขาอาจเห็นว่าประเทศเราอยู่ในสภาวะไม่ปกติคนเลยแตกตื่น และมีการสร้างข่าวลือไปต่างๆ นานา ซึ่งทุกฝ่ายพยายามชี้แจงข้อเท็จจริง อย่างไรก็ดีขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบเรื่องการขาดแคลนแรงงาน ความจริงนายจ้างบางแห่งอยากเลิกจ้างด้วยซ้ำ แต่กลัวจะหากลับมาใหม่ไม่ได้

ตร.ยันไม่ได้ขับไล่แรงงาน

      ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีที่แรงงานชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศจำนวนมากว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าประเทศไทยไม่มีนโยบายในการขับไล่แรงงานชาวกัมพูชาแต่อย่างใด และตร.ก็ไม่ได้สั่งการให้กวดขัน กดดันหรือขับไล่แต่อย่างใด โดยยืนยันเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ทำร้ายแรงงานชาวกัมพูชา แต่ที่มีเหตุเกิดขึ้นก็ต้องตรวจสอบที่มาของข่าวก่อนสืบสวนสอบสวนไปตามกระบวนการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามในส่วนแรงงานไร้ฝีมือก็ยังให้อยู่ทำงานในประเทศ เป็นช่วงผ่อนผันการให้อยู่ในประเทศ ส่วนกรณีที่มีข่าวลือจนแรงงานแห่กลับประเทศนั้นจะต้องตรวจสอบสืบหาที่มาของข่าวเพื่อดำเนินการแก้ไข ระงับข่าวลือ 

      ด้านพล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ10) กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับคสช.เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีการตั้งคณะทำงานระดับนโยบายโดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. และรองคสช.เป็นประธาน ทั้งนี้ผลการประชุมมีมติให้รวมกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เดิมทีแบ่งเป็น 6 กลุ่ม ให้เป็นกลุ่มเดียวหน้าที่ของตำรวจนั้น เมื่อนโยบายชัดเจนจะมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและผลักดัน ซึ่งเน้นกลุ่มแรงงานพม่า ลาว และกัมพูชา จากนี้จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการต่างๆ ออกมา และรอฟังระดับนโยบาย

ปลัดกต.ยันต่างชาติเข้าใจไทย

      นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ขณะเดินทางไปชี้แจงสถานการณ์การเมืองของประเทศไทยที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่า ขณะนี้นานาชาติมองข้ามเหตุการณ์รัฐประหารไปแล้ว แต่สิ่งที่เป็นห่วง คือ ประเทศไทยจะกลับสู่ประชาธิปไตยเมื่อใด ซึ่งเราก็มีกรอบเวลาและแผนงานแล้ว นอกจากนั้น ก็จะมีประเด็นเกี่ยวกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และการลงทุนของภาคเอกชน

       ต่อคำถามถึงประเด็นแรงงานกัมพูชา นายสีหศักดิ์กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวหลายครั้ง โดยต้องการทำความเข้าใจกับประเทศเพื่อนบ้านว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับแรงงานต่างด้าวและมีนโยบายจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวให้เข้าสู่ระบบ ซึ่งมีจุดมุ่งหมาย คือ เพื่อให้คนเหล่านั้นสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจว่าจะไม่ถูกจับกุม และได้รับสิทธิประโยชน์ รวมถึงได้รับการดูแลอย่างดีจากนายจ้าง ส่วนข่าวที่ระบุว่ามีการกวาดล้างหรือจับกุมนั้นไม่เป็นความจริง และจะมีการนัดหมายพูดคุยกับทูตกัมพูชาต่อไป

       นายสีหศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ปัจจุบันประเทศไทยมีความร่วมมือกับทุกประเทศ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ เนื่องจากที่แรงงานต่างด้าวมีปัญหาก็เนื่องมาจากขบวนการค้ามนุษย์ 

สมยศถกเร่งคดีหมิ่นสถาบัน

      ที่ห้องประชุมกองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รรท.รอง ผบช.น เปิดเผยภายหลังการประชุมสั่งการ เร่งรัด ติดตามความคืบหน้ากรณีคดีหมิ่นเบื้องสูง 

      โดยพล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เพื่อหารือแนวทางให้การดำเนินการให้สอดคล้อง และเป็นไปในรูปแบบเดียวกัน ตามนโยบายของ คสช. โดยกำหนดแนวทางชัดเจน 3 ประการดังนี้ 1.ให้ทุกหน่วยงานติดตามคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในคดีค้างเก่าให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว 2.คดีที่เกิดขึ้นและยังไม่ได้ดำเนินการ ทั้งที่แจ้งความและยังไม่มาแจ้งความ ให้เร่งตรวจสอบหลักฐาน หากเข้าข่ายให้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีทันที และ3.ให้เฝ้าติดตามคดีที่ยังไม่เกิดขึ้น ภาพ เช่น การโพสต์ การส่ง หรือแชร์ข้อความในโซเชี่ยลมีเดีย การแสดงละครหรือภาพยนตร์ และกรณีอื่นๆ 

กำชับให้รอบคอบ-ไม่กลั่นแกล้ง

       พล.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้กองการต่างประเทศจัดตั้งคณะทำงานติดตามผู้ต้องหาที่กระทำผิดในคดีหมิ่นสถาบันฯ โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ 1.ผู้ที่ทำความผิดแล้วมีหมายจับ แต่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ 2.ผู้ที่กระทำความผิดมีหมายจับ แล้วหลบหนีออกไปอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งในส่วนนี้จะแยกออกเป็นอีกกรณีหนึ่งคือ ผู้ที่กระทำความผิดนอกประเทศ แต่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย และมีหมายจับ, ผู้ที่อยู่ต่างประเทศถือสัญชาติไทย แต่กระทำความผิดในต่างประเทศ ซึ่งเราจะต้องดำเนินการต่อไป

      พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุญาตศาล เพื่ออนุมัติออกหมายจับ น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือโรส ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นเบื้องสูงแล้ว เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลหลักฐาน เอกสาร เพื่อรายงานในที่ประชุมอีกครั้งในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ทั้งนี้ได้กำชับให้.พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รรท.ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล คณะกรรมการคดีหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ จัดให้มีการประชุมพิจารณาคดีด้วยความรอบคอบ โดยไม่กลั่นแกล้งบุคคลใด

ออกหมายจับ7รายไม่รายงานตัว

      ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ.ได้ทำหนังสือเข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.กรณีไม่เข้ารายงานตัวรวม 7 ราย ประกอบด้วย1.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ 2.นายจรัล ดิษฐาอภิชัย 3.นายสงวน พงษ์มณี 4.นายวิสา คัญทัพ 5.นางไพจิตร อักษรณรงค์ 6.พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ตามคำสั่ง คสช.ที่ 57/2557 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2557 และ 7.นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ตามคำสั่ง คสช.ที่ 65/2557 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2557

       ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลทหารกรุงเทพ เพื่อออกหมายจับทั้งหมด ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับแล้วในวันเดียวกันนี้ สำหรับความผิดฐานฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง คสช.นั้น มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ธิดาเยี่ยมลายจุด-ชี้สภาพจิตดี

      ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่เปิดให้เข้าเยี่ยมผู้ต้องขังกลุ่มการเมืองหลายกลุ่ม มีผู้เดินทางมาเยี่ยมกันอย่างคึกคัก โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกองทัพธรรม ได้เดินทางเข้าเยี่ยม ร.ต. แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม และนายพิชิต ไชยมงคล แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องขังคดีร่วมกันปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง ขณะที่นพ.เหวง และนางธิดา โตจิราการ เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังหลายรายทั้งนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบ.ก.ลายจุด จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ "เจ๋ง ดอกจิก" หรือนายยศวริศ ชูกล่อม "ทอม ดันดี" หรือนายพันทิวา ภูมิประเทศ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข โดยเรือนจำจัดห้องเยี่ยมให้ทั้งสองกลุ่ม เหลื่อมเวลากัน เพื่อลดโอกาสในการกระทบกระทั่ง อีกทั้งเพื่อความสะดวกในการเข้าเยี่ยม เนื่องจากแต่ละกลุ่มมีผู้เข้าเยี่ยมจำนวนมาก สำหรับโดยรอบเรือนจำมีตำรวจคอยเดิน ตรวจตราและสังเกตการณ์การเข้าเยี่ยม แต่ ไม่พบความผิดปกติหรือมีการรวมกลุ่มแสดงสัญลักษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น       

      นางธิดา กล่าวว่า ได้เข้าเยี่ยมกลุ่มผู้ต้องขังเหล่านี้เพื่อสอบถามถึงความเป็นอยู่ โดยเฉพาะนายสมบัติเท่าที่เห็นยังมีสุขภาพร่างกายและจิตใจดี และขณะนี้ได้ตัดผมสั้นตามระเบียบของเรือนจำแล้ว ระหว่างพูดคุยนายสมบัติระบุว่า จะใช้ชีวิตในเรือนจำให้มีคุณค่ามากที่สุด ซึ่งตนได้ฝากหนังสือธรรมะเข้าไปให้อ่านด้วย

นิคมยันแก้รธน.เป็นอำนาจส.ส.-ส.ว.

     นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กล่าวถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยืนยันจะพิจารณาไต่สวน 308 ส.ส.-ส.ว. ปมแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราให้เสร็จว่า แม้รัฐธรรมนูญจะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่พ.ร.บ. ประกอบ รัฐธรรมนูญของป.ป.ช. ยังอยู่ จึงถือเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่ป.ป.ช.ต้องทำให้เสร็จ ส่วนส.ส.และส.ว.บางคนที่โดนชี้มูลไปแล้วตามมาตรา 270 อาทิ ตน และเพื่อนส.ว.อีก 38 คน รวมทั้งนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา ต้องดูว่ากระบวนการจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 ถูกยกเลิกไปแล้ว

     นายนิคม กล่าวว่า เมื่อป.ป.ช.ชี้มูลเสร็จ กระบวนการถอดถอนอาจให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่จะตั้งขึ้นตามโรดแม็ป ระยะที่ 2 ของคสช. เป็นฝ่ายดำเนินการก็ได้ แต่เราต้องดูว่ารัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว จะให้อำนาจสนช.ถอดถอนด้วยหรือไม่ หรือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ อาจโละคดีทิ้งเลยก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตนเคารพการดำเนินงานของทุกฝ่ายที่ทำตามอำนาจหน้าที่ หากจะถูกดำเนินคดีต่อก็ไม่ใช่เรื่องน่าห่วงกังวล เพราะสิ่งเหล่านี้ชี้แจงได้อยู่แล้วว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของ ส.ส. และ ส.ว. 

พล.อ.เอกชัยแนะเปิดพื้นที่พูดคุย

        พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงมาตรการคืนความสุขให้กับประเทศไทยว่า กว่า 3 สัปดาห์ที่คสช.จัดกิจกรรมนี้ ไม่ว่าเล่นดนตรี ชมบอลโลกฟรี หรือล่าสุดให้ดูภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฟรีทั่วประเทศนั้น เป็นเพียงกิจกรรมเฉพาะหน้า จัดคนให้รู้สึกร่วมแค่ทางกาย แต่ทางจิตใจยังไม่ได้ ต้องเปิดพื้นที่และเวทีพูดคุยกัน เข้าสู่กระบวนการที่มีรัฐบาลแก้ไขปัญหา นำข้อมูลต่างๆ มาผลักดันเข้าสู่กลไกการปฏิรูปประเทศ รวมทั้งแก้ไขกฎหมายและจัดทำรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้การแก้ปัญหาระยะยาวต้องศึกษาจากกรณีความขัดแย้งในต่างประเทศด้วย 

       เมื่อถามว่าเป็นทั้งทหารและนักสันติวิธีมองการดำเนินการกับฝ่ายต่อต้านคสช.อย่างไร พล.อ.เอกชัยกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่มีคนต่อต้าน คสช. แต่หากใช้อำนาจและวิธีรุนแรงจัดการคนต่อต้านย่อมได้ผลน้อย จึงควรมีกลวิธีและรางวัลปลอบใจ รวมถึงใช้ปัญญาแก้ไขปัญหาน่าจะประสบความสำเร็จกว่า 

กกต.จ่อจัดเลือกตั้งท้องถิ่น

      เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. กล่าวภายหลังนำคณะเจ้าหน้าที่ด้านการเลือกตั้ง เข้าหารือกับพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. ว่า ได้หารือเกี่ยวกับการจัดเลือกตั้งท้องถิ่นที่กกต.ประกาศเลื่อนการเลือกตั้งผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นที่ครบวาระและแทนตำแหน่งที่ว่างในเดือนพ.ค.และมิ.ย.ออกไปเพื่อให้สอดรับกับประกาศของห้ามชุมนุมทางการเมืองของคสช. โดยหัวหน้าคสช.อยากให้การเลือกตั้งท้องถิ่นเดินหน้าต่อได้ ไม่อยากให้กระทบกับเรื่องการอนุมัติงบประมาณเนื่องจากไม่มีสภาท้องถิ่น 

      "จึงเห็นว่า สถานการณ์ขณะนี้การเลือกตั้งท้องถิ่นน่าจะจัดได้ โดยจะนำข้อมูลแต่ละพื้นที่ไปประเมินกับฝ่ายความมั่นคงอีกครั้ง รวมทั้งพิจารณาว่าจะผ่อนผันการบังคับใช้ประกาศคสช. เรื่องการห้ามชุมนุมทางการเมืองหรือกำหนดกรอบหาเสียงอย่างไร เพื่อไม่ให้ขัดต่อประกาศคสช. โดยกกต.จะไปร่วมหารือด้วย คาดว่าน่าจะเป็นช่วงสัปดาห์หน้า จากนั้นคสช.จะให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นเกิดขึ้นในอีกไม่นาน" เลขาธิการ กกต.กล่าว 

เทือกยื่นขอยืดเวลาสู้คดีบุกคลัง

      เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 มิ.ย. ที่ห้องพิจารณา 710 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขอขยายเวลายื่นคำให้การต่อสู้คดีหมายเลขดำ 4844/2556 ที่กระทรวงการคลัง เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสุเทพ เป็นจำเลยเมื่อวันที่ 26 พ.ย.56 เรื่องขับไล่ที่ พร้อมเรียกค่าเสียหายจากการละเมิดบุกเข้าในพื้นที่กระทรวงการคลัง กรมธนารักษ์ สำนักงบประมาณ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินและกรมบัญชีกลาง 536,986.30 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี และค่าเสียหายอีกเดือนละ 500,000 บาท หากพวกจำเลยไม่ออกจากพื้นที่

      โดยวันนี้ นายสุเทพ ซึ่งแขนด้านขวายังใส่เฝือกจากการผ่าตัดรักษาเส้นเอ็น เดินทางมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมทีมทนายความเพื่อเข้าไต่สวน โดยนายสุเทพตอบการซักถามของอัยการถึงเหตุผลที่ยังไม่ยื่นคำให้การว่า ระหว่างที่ฟ้องคดี จำเลยยุ่งกับการดูแลการชุมนุมกปปส. ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ มีผู้แจ้งข่าวให้ทราบเรื่องที่มีการฟ้องคดี แต่ไม่ได้แจ้งว่าฟ้องคดีตั้งแต่เมื่อใด รวมทั้งยังไม่ได้อ่านรายละเอียดที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับตีพิมพ์ข่าววันที่ 28 พ.ย.56 ที่ศาลแพ่งสั่งยกคำร้องของกระทรวงการคลังที่ขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราวคดีนี้ ส่วนที่ปรากฏชื่อจำเลยเป็นเจ้าบ้านอยู่ที่ต.ท่าสะท้อน จ.สุราษฎร์ธานีนั้น มีชื่อสมัยตั้งแต่เป็นกำนัน ปัจจุบันไม่มีผู้ใดดูแลบ้านดังกล่าว ส่วนใหญ่จำเลยจะพักอาศัยอยู่ที่ กทม. 

    ภายหลังนายสุเทพ ไต่สวนเรียบร้อยแล้ว ศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะอนุญาตให้นายสุเทพ ยื่นคำให้การคดีนี้หรือไม่ ในวันที่ 28 ก.ค.เวลา 09.00 น.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!