WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

14Too-

 

กุข่าว'บิ๊กตู่'โอนหมื่นล. จับมือโพสต์ '14 นศ.'พ้นคุกลั่นลุยต่อ กอดคอร้องเพลงคึกคัก อจ.แถลงให้ยุติคุกคาม บิ๊กต๊อกปราม-หยุดต้าน ตร.ยันสันติบาลไม่ตาม คสช.ดึงปู-มาร์คออกจอ

       14 น.ศ.ได้ปล่อยตัวแล้ว ยันเคลื่อนไหวต่อ อจ.อ่านแถลงการณ์ขอให้ยุติคุกคามนักกิจกรรม ผบ.ตร.ยันไม่ส่งสันติบาลประกบ เตือน น.ศ.แสดงออกอย่าผิด กม. 'บิ๊กตู่'ขอให้เด็กไทยในมะกันช่วยชี้แจงต่างชาติ ขอโทษทำประชาธิปไตยชะงัก

มติชนออนไลน์ : ปล่อยตัว - นักศึกษาทั้ง 14 คน ที่ถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ได้รับการปล่อยตัวก่อนร่วมกันร้องเพลง ท่ามกลางผู้มาให้กำลังใจจำนวนมาก ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 

 

@ 'บิ๊กตู่'ขอเด็กในมะกันชี้แจงตปท.

      เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้การต้อนรับคณะโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาเยือนแผ่นดินแม่ ครั้งที่ 10 โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อร่วมถวายพระพรและร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งร่วมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา

      "ผมเคยถวายรายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดว่ารัฐบาลทำอะไรบ้าง มีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง พระองค์ท่านรับสั่งมาเยอะมาก ผมก็นำแนวทางของพระองค์ท่านไปทำ ขอยืนยันว่าพระองค์ท่านไม่ได้สั่งให้ผมทำอะไร บางเรื่องพระองค์ท่านสั่งเป็นตัวอย่างให้กับพวกเรา แนวพระราชดำรัสของพระองค์ท่านไม่เคยสั่งให้ใครทำอะไร ขณะที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงสอนผมมาสมัยที่ผมตามเสด็จฯ พระองค์ท่านทรงนำเงินบริจาค นำกลับมาช่วยประชาชน พระองค์รับสั่งว่าเขาให้เรามาก็ไปช่วยประชาชน พระองค์ท่านไม่เคยซื้อของให้ตัวเอง มีแต่ซื้อให้ประชาชน เวลาไปเยี่ยมประชาชน พระองค์ท่านจะซื้อของที่นำมาถวายในราคาที่สูงมาก ทรงรับสั่งว่า ขาดทุนของราชินี คือกำไรของ ประชาชน ซึ่งวันนี้ก็ทรงแข็งแรงขึ้นมาก ขณะที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงดูแลเรื่องดิน การอนุรักษ์ ที่พระองค์ท่านทรงให้คำแนะนำเรามาตลอด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ท่านก็จะเกษียณแล้ว ทรงเป็นพระอาจารย์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) แต่ไม่ใช่จะทรงพัก เพราะพระองค์ทรงรับสั่งว่า ทรงงานแทนในหลวง เสด็จฯไปต่างประเทศสร้างสัมพันธ์ ส่วนสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระองค์ท่านทรงดูแลด้านวิทยาศาสตร์ สาธารณสุข ทุกพระองค์ทรงงาน แล้วที่คนรู้จักประเทศไทยก็เพราะสถาบัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เยาวชนถือเป็นทูตพิเศษจะทำให้ต่างชาติรู้สึกและเข้าใจสิ่งดีของประเทศไทย อยากให้ช่วยรัฐบาลทำความเข้าใจกับต่างชาติว่าเรากำลังพยายามสร้างประเทศให้มีความเข้มแข็ง เพราะที่ผ่านมามีหลายด้านต้องหยุดชะงัก บ้านเมืองเดินต่อไม่ได้ รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลชั่วคราว ไม่ได้ทำอะไรเกิดความเสียหาย แต่มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ

 

@ ขอโทษทำประชาธิปไตยชะงัก 

      พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ประเทศต้องเดินหน้าเพราะหยุดชะงักมานาน หากไม่ทำอะไรเลยก็คงไม่ได้ รัฐบาลเข้ามาปกครองตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว แม้ในมุมของเมืองนอกอาจคิดว่าวิธีการนี้จะดูไม่สมควร แต่ได้ทำตามกฎหมายทุกอย่าง แก้ปัญหาเรื่องของความโปร่งใส ความขัดแย้ง ยอมรับว่าบนโลกนี้ต้องมีความขัดแย้ง แต่ถ้าขัดแย้งเกินไปสังคมก็อยู่ร่วมกันไม่ได้ ก่อนหน้านี้ประเทศเสียโอกาสไปมาก แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีผลประโยชน์ ไม่มีการเมือง ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อส่วนรวม โดยมุ่งหวังลดความเหลื่อมล้ำ 

    "ประชาธิปไตยอาจเป็นระบอบที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ดีทั้งหมด มีหลายอย่างต่างชาติยอมรับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีทั้งหมด มันดีตรงที่ประชาชนมีส่วนร่วม หน้าที่สามประการคือ เลือกตั้ง ลงประชามติ และให้ผู้แทนแก้ปัญหา ผมก็เป็นหนึ่งส่วนและผมก็เลือกตั้งไม่รู้กี่ครั้ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วไม่ได้รับการแก้ไข และหนักขึ้นเรื่อยๆ ต้องหยุดสักระยะหนึ่งก่อน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เข้มแข็งก่อนเดินหน้าต่อไป ให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทำให้เรียบร้อย ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องอย่างนี้ และต้องขอโทษน้องๆ หลานๆ ด้วย แต่มันเป็นเหตุจำเป็น"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

 

@ ฝากเยาวชนปกป้องสถาบัน

      พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอให้เยาวชนนึกถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนทั้งชาติมายาวนาน ไม่เหมือนประเทศอื่น ก่อนหน้านี้ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟ การประปา และอื่นๆ จากนั้นจึงมีรัฐบาลมาทำต่อ แต่สิ่งที่สำคัญคือหลายคนหลายพวกพยายามจะนำสถาบันของประเทศไปเปรียบเทียบกับที่อื่น คงไม่ได้ เพราะมีประวัติศาสตร์ยาวนานเก่าแก่ เปรียบเหมือนสมมุติเทพ พระมหากษัตริย์ไม่เกี่ยวข้องกับใคร อยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง เมื่อมีคนเข้าไปก้าวล่วง จึงต้องมีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 คล้ายกับกฎหมายหมิ่นประมาท "เพราะเมื่อใครมาหมิ่นเรา เราสามารถฟ้องร้องได้ แต่ถ้าเป็นสถาบันจะไม่สามารถฟ้องร้องได้ เพราะพระองค์ท่านไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร และอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ กฎหมายดังกล่าวทุกรัฐบาลสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องพระองค์ แต่คนกลับมองในเรื่องของสิทธิมนุษยชน

"ถามว่าถ้ามีใครมาว่าพ่อของคุณ คุณยอมไหม เราก็ไม่ยอมเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นพ่อแม่เรา เราฟ้องได้ แต่พระมหากษัตริย์ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวจึงฟ้องไม่ได้ แล้วใครจะดูแลท่าน ก็ต้องเป็นคนไทย ใครไม่เข้าใจเรื่องนี้ ผมว่าไม่ใช่คนไทย แย่ เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จึงฝากชี้แจงด้วยว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย ไม่เหมือนที่อื่น" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 

 

@ ปัดตอบ 14 น.ศ.โยน"บิ๊กต๊อก"แจง

      "เหมือนประชาธิปไตยเราได้มายากหน่อย จะได้ไม่ลืมจะให้ง่ายเกินไปมันไม่ได้ จะไม่รู้ว่าอะไรคือกฎหมายมันไม่ได้ ถามว่าจะเป็นแบบอเมริกามันไม่ใช่ ลองย้อนกลับไปดูอเมริกาบ้าง ผมไม่ได้ว่าเขานะ เขาเกิดมาก่อนเราปฏิรูปมาก่อนเรา เลิกทาสมากี่ปี ผมยังไม่เคยว่าอะไรเขาเลย เพราะผมถือว่าประเทศเราก็คือประเทศเรา ต้องเคารพซึ่งกันและกัน วันนี้เขาก็ไม่ได้แตะต้องอะไรผมมาก เพียงแต่เขาอยากให้ไปสู่การเลือกตั้ง ผมแจงไปแล้วว่าการเลือกตั้งทุกอย่างเดินไปตามโรดแมป รัฐธรรมนูญเขียนไว้แล้ว อยากได้หรือแก้อะไรผมก็ทำให้ อยากทำประชามติก็ทำให้ การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้รัฐธรรมนูญต้องผ่าน สปช.ก่อนจากนั้นก็มีการทำประชามติ เวลาต้องยืดออกไปอีกประมาณ 2 เดือน แล้วยังต้องทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญด้วย เป็นไปตามขั้นตอนตามปกติ ก็มากล่าวหาว่าผมอยากจะอยู่ต่อ ถามว่ามันอยู่ได้หรือไม่ กฎหมาย กติกาว่าอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น ไม่รู้ว่าที่กลัวผมนั้น กลัวผมอยู่หรือกลัวผมไม่อยู่ หรือกลัวผมอยู่นานแล้วเขาจะทำอะไรในวันข้างหน้าไม่ได้ก็ไม่รู้ เพราะผมออกกฎหมายไว้มาก เป็นกฎหมายเพื่อประชาชนไม่ใช่เพื่อใคร ผมให้นโยบายว่าการออกกฎหมายทุกฉบับต้องตอบให้ได้ว่ากฎหมายนี้มีประโยชน์กับประชาชนอย่างไร ไม่ใช่ออกมาเพื่อห้ามโน่นนี่นั่น ที่ผ่านมามักทำอะไรไม่ได้เพราะการเมืองเข้าไปยุ่งเกือบทุกเรื่อง ผมไม่อยากพูดมากขี้เกียจเปิดศึกหลายด้าน ให้เขาไปรบกับกฎหมายเอาเอง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

      นายกฯกล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่านักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ขบวนการที่ได้รับการปล่อยตัวออกมาเตรียมจะเคลื่อนไหว ว่า "พอแล้วๆๆ ขี้เกียจพูดแล้ว พอแล้ว คุณก็จะไปพูดถึงเขาทำไม ก็เขาเมตตาแล้วก็ยังพูดยังขุดกันอยู่นั่น ไม่รู้จะขุดกันไปทำอะไรไม่รู้ สื่อก็ไปเรียกเขาออกมาซิ สื่อไปชวนเขามาเลย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพูดว่าอย่างไรก็ตามนั้น เป็นเรื่องของกฎหมาย"

 

@ แห่รับปล่อยตัวน.ศ.ตั้งแต่เช้ามืด 

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นเมื่อเวลา 05.40 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มีรถตู้ขับออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯอย่างรวดเร็ว ทำให้บรรดาญาติ กลุ่มนักศึกษา และประชาชนประมาณ 70 คน ที่มารอรับการปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 14 คน ได้แก่ 1.นายรังสิมันต์ โรม 2.นายวสันต์ เสดสิทธิ 3.นายทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์ 4.นายพายุ บุญโสพน 5.นายอภิวัฒน์ สุนทรารักษ์ 6.นายรัฐพล ศุภโสภณ 7.นายศุภชัย ภูคลองพลอย 8.นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ 9.นายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ 10.นายสุวิชา พิทังกร 11.นายปกรณ์ อารีกุล 12.นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา 13.นายพรชัย ยวนยี และ 14.น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ต่างวิ่งตามรถตู้จนถึงหน้าประตูทางออกของเรือนจำ จากนั้นรถตู้จอดให้นักศึกษาชาย 13 คนลงจากรถ ทันทีที่ได้รับอิสรภาพนักศึกษาได้ร่วมกันกอดคอร้องเพลงบทเพลงของสามัญชน หลังจากนั้นได้ตะโกนคำว่า ประชาธิปไตย สิทธิมวลชน ความยุติธรรม การมีส่วนร่วม สันติวิธี เราจะสู้ และร่วมกันร้องเพลง เธอผู้เสียสละ บริเวณหน้าป้ายเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

นายรังสิมันต์ หรือโรม หนึ่งในนักศึกษาที่ถูกคุมขัง กล่าวว่า ตั้งแต่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ถูกนำตัวส่งมาที่เรือนจำ โดยไม่มีการไต่สวนใดๆ ทั้งสิ้น เหตุผลที่ไม่ประกันตัวเพราะไม่ผิด การมายืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้สิ้นสุดการต่อสู้ นี่คือก้าวใหม่ ส่วนแนวทางหลังจากนี้ต้องคุยกันอีกที เพราะโดนแยกแดนขัง วันนี้ทุกคนกำลังใจดีและจะสู้ต่อไป จะต่อต้านกฎหมายของ คสช.ทุกฉบับ เพราะ คสช.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เป็นการทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทหารใช้จิตวิทยาเพื่อทำลายนักศึกษา ทำลายประชาชน ทำกันมาโดยตลอด "เราสูญเสียความเป็นส่วนตัว มีทหารติดตามไปถึงบ้าน ไม่ได้เป็นห่วงแค่ตัวเราและครอบครัว ยังเป็นห่วงประชาชนที่ออกมาต่อสู้กับรัฐบาลด้วย" นายรังสิมันต์กล่าว

 

@ นักศึกษาเตรียมเคลื่อนไหวต่อ

     ต่อมาเวลา 06.30 น. น.ส.ชลธิชาได้เดินทางมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังจากถูกนำไปส่งที่ย่านสะพานใหม่ กลุ่มญาติและมวลชนต่างแสดงความดีใจมอบดอกไม้ให้ น.ส.ชลธิชากล่าวว่า คนที่กล่าวว่านักศึกษามีคนอยู่เบื้องหลัง รู้สึกว่ามีจิตใจคับแคบและมืดมิด ในทางกลับกันรู้สึกศรัทธาความเป็นคนของตัวเอง เพราะรู้ว่ามีสิทธิและเสรีภาพอย่างไร จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่วันหนึ่งจะลุกออกมาต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพที่หายไป ช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะปล่อยตัว มีเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งพาขึ้นรถเพื่อจะไปส่งที่บ้าน สับสนว่าแม่และญาติมารอรับหน้าเรือนจำ แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงยืนยันว่าจะไปส่งที่บ้าน จึงได้โทรศัพท์หาเพื่อนชายให้มารับที่ย่านสะพานใหม่ เพื่อจะกลับมาที่เรือนจำ ส่วนอาการบาดเจ็บได้ทรุดลงตั้งแต่ถูกนำตัวเข้าเรือนจำ เนื่องจากไม่ได้กินยาตามที่แพทย์สั่ง เจ้าหน้าที่ในเรือนจำได้ส่งตัวไปโรงพยาบาลราชทัณฑ์แม้สุขภาพจะเป็นเช่นนี้ แต่ก็พร้อมจะเคลื่อนไหวต่อไป หลังจากนี้จะไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลราชวิถี

นายจตุภัทร์ หรือไผ่ ดาวดิน กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน การต่อสู้ต้องเรียนรู้จากความเจ็บปวด สิ่งที่เผด็จการทำได้แค่กักขังทางความคิดเท่านั้น หลังจากนี้กลุ่มดาวดินจะคุยกันอีกที

 

@ อจ.อ่านแถลงขอให้ยุติคุกคาม

      ขณะที่นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำเครือข่ายคณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ที่ถูกคุมขัง อ่านแถลงการณ์มีเนื้อหาว่า พนักงานสอบสวนยังคงไว้ซึ่งข้อกล่าวหาต่างๆ ทั้งในคดีนี้และคดีอื่นก่อนหน้า จึงยังมีความเป็นไปได้จะนำเอาคดีการเมืองเหล่านี้ขึ้นมาดำเนินการกับนักศึกษาทั้ง 14 คนเมื่อใดก็ได้ อีกทั้งยังอาจมีการคุกคามสวัสดิภาพของนักศึกษาด้วยวิธีการอื่นๆ อีก คณาจารย์จะยังคงรวมตัวกันในเครือข่ายเพื่อเฝ้าติดตามสวัสดิภาพของนักศึกษาต่อไป ขอเรียกร้องให้ยุติการคุกคามนักกิจกรรมและเครือข่าย โดยเฉพาะการออกหมายเรียกตัวนายบารมี ชัยรัตน์ และผู้จัดการสวนเงินมีมา ในข้อหากระทำการขัดต่อความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ เป็นการกล่าวหาเกินจริงและเป็นการคุกคามในลักษณะหนึ่ง นอกจากนั้นจนถึงบัดนี้ยังมีการคุกคามคณาจารย์ในต่างจังหวัดในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์ เข้าพบสอบถาม หรือกระทั่งขอนัดประชุมกับคณาจารย์ที่ร่วมลงชื่อและรณรงค์กับพวกเรา เครือข่ายคณาจารย์จึงขอย้ำว่าให้ฝ่ายทหารและเจ้าหน้าที่อื่นๆ ยุติการกระทำดังกล่าวโดยทันที คณาจารย์ขอยืนยันว่าเราเป็นเพียงอาจารย์ที่รวมตัวกันด้วยความห่วงใยอย่างจริงใจในศิษย์ที่เคลื่อนไหวโดยเปิดเผย บริสุทธิ์ใจ และชอบธรรม ตามสิทธิเสรีภาพอันพึงมี เรายินดีจะสื่อสารแลกเปลี่ยนเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องระหว่างกันในเงื่อนไขที่เปิดเผย รับฟัง จริงใจ ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิ เสรีภาพ และเสมอภาค" แถลงการณ์ระบุ

 

@ เดินหน้าจัดห้องเรียนสาธารณะ

       นายอนุสรณ์กล่าวว่า หลังจากการปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 14 คน ทางคณาจารย์จะทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ เป็นการสะเดาะเคราะห์ จะจัดขึ้นที่ลานประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยเอาดุลพินิจของนักศึกษาเป็นหลัก และยังคงดำเนินกิจกรรมห้องเรียนสาธารณะ เพื่อให้สังคมได้ศึกษาและเรียนรู้ โดยวันที่ 10 กรกฎาคม จัดโดยประชาคมเกษตรศาสตร์เพื่อประชาชน ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะมีการเสวนาเกี่ยวกับสิทธิของชุมชน เน้นในเรื่องของสิทธิการเข้าถึงทรัพยากร จะเชื่อมโยงกับประเด็นที่กลุ่มดาวดินได้ใช้เคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ โดยมีวิทยากร องค์กรเอกชน และนักวิชาการเข้าร่วม 

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ กล่าวว่า ในวันที่ 18 กรกฎาคม จะเข้าให้การเพิ่มเติมและนำเอกสารไปให้พนักงานสอบสวนเพื่อสู้คดี ส่วนคดีการชุมนุมของนักศึกษาที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพและของกลุ่มดาวดิน

      ที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นเพียงแค่การขัดคำสั่งของ คสช.เท่านั้น ต้องคุยกับพนักงานสอบสวนอีกครั้งว่าจะมีการดำเนินการต่อไปอย่างไร การปล่อยตัวกลุ่มนักศึกษาในครั้งนี้เพราะพวกเขามีสิทธิจะเป็นอิสระอยู่แล้ว พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ได้คุมขังไว้ด้วยคำสั่งศาลมีสิทธิคุมขังได้แค่ 12 วันเท่านั้น หลังจากนั้นกลุ่มนักศึกษาจะเป็นพลเมืองปกติ การเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาเป็นสิทธิเสรีภาพของชนชาวไทยอยู่แล้ว ตนมีหน้าที่เพียงว่าความในคดีที่ถูกกล่าวหาจากรัฐเท่านั้น เชื่อว่านักศึกษากลุ่มนี้เป็นพลังบริสุทธิ์ไม่มีเบื้องหลังตามที่มีบุคคลในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.กล่าวอ้าง การกล่าวหาว่านักศึกษามีเบื้องหลังหรือไม่ ควรดูในประเด็นที่ว่าเขาทำสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่

 

@ ทนายเตือนความปลอดภัยน.ศ.

นายกฤษฎางค์กล่าวว่า นักศึกษาทั้ง 14 คน จะกลับไปหาครอบครัว จึงได้กำชับให้ระวังเรื่องความปลอดภัย เพราะในระหว่างที่นักศึกษาถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำมีทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบไปหาผู้ปกครองที่บ้าน มีท่าทีที่ทำให้เกิดความหวั่นเกรง โดยตั้งคำถามว่าเลี้ยงลูกอย่างไรให้ต่อต้าน คสช. ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรคงต้องถามพ่อแม่เด็ก ส่วนตัวได้แถลงต่อศาลไปแล้วเพื่อให้เรียกทหารที่กระทำการเหล่านั้นมาไต่สวนข้อเท็จจริง ศาลทหารได้รับฟัง เพราะการกระทำเช่นนี้ในศาลพลเรือนถือว่าเป็นการหมิ่นอำนาจศาล เพราะคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล หากไปยุ่งกับพยานหลักฐานจะทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมต่อตัวนักศึกษา กรณีของ น.ส.ชลธิชา ที่ทางเรือนจำนำตัวไปส่งบ้านที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แต่ น.ส.ชลธิชาไม่ยอมไป จึงได้โทรศัพท์คุยกับเจ้าหน้าที่เรือนจำเพื่อให้มาส่งที่หน้าเรือนจำเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นถือว่า น.ส.ชลธิชาอยู่ในการควบคุมของเรือนจำจนถึงเวลา 07.00 น. ถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของความไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง หลังจากนี้ขอคุยกับเรือนจำเพราะไม่ได้รับแจ้งจากทางเรือนจำว่าจะมีการปล่อยตัวนักศึกษาในวันนี้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการปล่อยตัวเป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยมีเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) จำนวน 1 กองร้อย (150 นาย) ทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยรักษาความสงบเรียบร้อย จากนั้นนักศึกษาทั้ง 14 คน ได้ฝากข้อความไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า "12 วันที่ถูกคุมขัง ไม่ทำให้เราท้อแท้ใจ เรายังยิ้มได้ เราไม่มีวันกลัว" พร้อมทั้งมีการร้องและเต้นเพลง nocoup

 

@ "บิ๊กต๊อก"ขอร้องหยุดเคลื่อน 

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนักศึกษาว่า การเคลื่อนไหวหลังจากนี้รัฐบาลเปิดพื้นที่ให้อยู่แล้ว มีกรอบของกฎหมายอยู่ ที่จริงแล้วรัฐบาลก็นำเอาหลักรัฐศาสตร์เข้ามาใช้ ผิดนิดผิดหน่อยก็ปล่อยไปบ้าง แต่ถ้าเกิดแรงขึ้นก็ต้องเรียกมาพูดคุยบ้าง อย่างการจุดเทียนหน้าเรือนจำหรือที่อื่นๆ เป็นการชุมนุมเกิน 5 คน หากเอาเข้าจริงก็ผิดกฎหมาย เพราะเกิน 5 คน ที่ผ่านมาก็เอารัฐศาสตร์เข้ามาใช้ ถ้าไปจับแล้วก็จะทำให้เกิดความตึงจนเกินไป รัฐบาลก็ไม่ใช่ขนาดนั้น นักศึกษาที่มีอุดมการณ์ความคิดแบบนี้เป็นเรื่องถูกต้อง ในอนาคตสามารถเป็นนายกรัฐมนตรี และเชื่อว่าอีกไม่นานคนรุ่นตนอาจจะได้เห็นก็ได้ เพราะในต่างประเทศอายุ 40 กว่าๆ ก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ระหว่างนี้ต้องวางรากฐาน ปฏิรูปประเทศให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ขอร้องเลยละกัน 

"อุดมการณ์ความคิดต่อต้านการโกง รัฐบาลต้องมีหลักธรรมาภิบาล ต่อต้านการคอร์รัปชั่น สนับสนุนสิทธิชุมนุมเป็นเรื่องที่ดี ที่ออกมาเคลื่อนไหว ในอนาคตอย่าให้ถูกซื้อและให้ยึดอุดมการณ์แบบนี้ไว้ อย่าให้ใครมาโกงบ้านโกงเมือง ควรช่วยสอดส่องดูแล ให้บอกมาว่ารัฐบาลนี้ หน่วยไหนกระทรวงใดโกง รัฐบาลไม่ดีให้ออกมาเดินไล่เลย แต่ตอนนี้ขอเวลาพิเศษบ้าง ทุกวันนี้ก็ต้องยอมรับว่าบางอย่างเคลือบแคลงว่าเป็นพลังบริสุทธิ์จริงหรือไม่ มีผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังหรือไม่" พล.อ.ไพบูลย์กล่าว และว่า ช่วงก่อนหน้านี้หลังทำรัฐประหารได้เข้าไปพูดคุยกับนักศึกษาที่เคลื่อนไหว ได้พูดคุยว่าตอนนี้บ้านเมืองเกิดปัญหา อะไรที่ผ่านมาไม่มีใครผิดใครถูก ที่เข้ามาแค่ต้องการปลดล็อกและแก้ปัญหา กลุ่มนักศึกษาก็เข้าใจ ยังบอกว่าอยากให้ยึดอุดมการณ์ อย่าให้ใครซื้อ เพราะถ้าวันนี้ถูกซื้อ ในอนาคตต่อไปเป็นนักการเมืองก็จะถูกซื้อ ไม่อยากให้เสพติดกับผลประโยชน์ 

 

@ ผบ.ตร.ยันไม่ส่งสันติบาลประกบ

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีกลุ่ม 14 นักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้รับการปล่อยตัว และยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า ทราบดีและคิดว่าทั้งนักศึกษาและประชาชนทุกคนล้วนทราบดีว่ากฎหมายเป็นอย่างไร การกระทำใดผิดกฎหมายจำเป็นที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องดำเนินการตามกฎหมายวิธีการจะปฏิบัติและการบังคับใช้กฎหมายกับนักศึกษาหรือผู้กระทำความผิดนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังยึดนโยบายของรัฐบาลว่าปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก และปฏิบัติกับประชาชนด้วยความสุภาพอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการใช้กำลังกระทบกระทั่ง ส่งผลให้เกิดปัญหาบานปลาย ตร.สนองนโยบายรัฐบาลตลอด อย่างไรก็ตาม คงไม่ต้องถึงขนาดส่งกำลังตำรวจสันติบาลตามประกบ เชื่อว่านักศึกษาเข้าใจ แต่ด้วยความคิด ความคึกคะนองถูกยุแหย่ ปลุกปั่นจึงหลงผิด คิดว่าจะพูดคุยทำความเข้าใจ มีหน่วยงานรัฐเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจแล้ว คนไทยพูดคุยกันได้ ที่สำคัญคือนักศึกษาจำนวนเท่านี้มีความเห็นแตกต่างจากคนไทยกว่า 70 ล้านคน ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่คิดกัน ถือว่าการพิจารณาหรือดำเนินการใดๆ ต้องฟังเสียงคนส่วนใหญ่ 

 

@ เตือนน.ศ.แสดงออกอย่าผิดกม.

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีผู้อยู่เบื้องหลังนักศึกษากลุ่มนี้หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่อยากให้ร้ายปรามาสความคิดของน้องๆ นักศึกษา เขาอาจมีความคิดเป็นของตัวเองส่วนหนึ่ง แต่บางส่วน บางกลุ่มถูกปลุกปั่น ยุยงให้กระทำในสิ่งไม่ถูกต้อง แต่บุคคลที่อยู่ข้างหลังใช้กุศโลบายยุยงทำให้น้องๆ นักศึกษาทำในสิ่งที่เป็นความผิด เมื่อผิดกฎหมายมีประวัติติดตัว ต่อไปทำงานก็ลำบาก แต่คนที่อยู่เบื้องหลังไม่มีส่วนรับผิดชอบอะไรเลย เขาแค่สะใจ ใช้น้องๆ นิสิตนักศึกษาเป็นเครื่องมือ วันข้างหน้า คงไม่มาเหลียวแล พอใช้สมประโยชน์แล้วก็ไม่กลับมาเหลียวแลอีก น้องๆ ต้องห่วงตัวเองบ้าง ห่วงครอบครัวพ่อแม่ เพราะวันข้างหน้าต้องดำเนินชีวิตต่อ จะอยู่อย่างไรเมื่อมีประวัติติดตัวเช่นนี้ ฝากวิงวอนไปยังน้องๆ นักศึกษาให้ใคร่ครวญ ไตร่ตรองดีๆ ว่าจะทำอะไร ถ้าเป็นเรื่องการแสดงความคิด ให้แสดงออกอย่างไรก็ได้อย่าให้ผิดกฎหมาย ไปศึกษากฎหมายดีๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อมูลของตำรวจสอดคล้องกับที่มี สปช.ออกมาระบุว่ามีองค์กรต่างประเทศอยู่เบื้องหลัง สนับสนุนให้ข้อมูลที่ผิดแก่กลุ่มนักศึกษาหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีองค์กรต่างประเทศสนับสนุนหรือไม่ แต่การเคลื่อนไหวขององค์กรต่างๆ ที่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ คิดว่าองค์กรเหล่านั้นไม่เข้าใจวิถีชีวิตคนไทย 

"เป็นฝรั่งมังค่าไม่รู้จักนิสัยใจคอคนไทย คนไทยเราทะเลาะกันให้ตายอย่างไรก็ไม่ฆ่าแกงกัน ถ้า คสช.ไม่เข้ามา ไม่อาจเดาว่าไทยจะเป็นเหมือนอิรัก ซีเรีย หรือประเทศที่รบราฆ่าฟันกันหรือไม่ แต่เราทำแบบไทยๆ กับทำตามความรู้สึกนึกคิดฝรั่งแล้วเราทะเลาะกันจะเอาแบบไหน คนไทยคิดเป็น ฝรั่งไม่ต้องมาชี้นำคนไทย เพราะคุณไม่ใช่คนไทย หากการชี้นำทำในขอบข่ายของคุณ ไม่ต้องมาชี้ว่าคนไทยต้องทำอย่างไร เราไม่ใช่ทาสฝรั่ง" พล.ต.อ.สมยศกล่าว 

 

@ กสม.ถกคสช.-สภาทนายคดีน.ศ.

ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กสม. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมือง ได้นัดประชุมกรณีการจับกุมนักศึกษากลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ 14 คน ข้อหาทำผิดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 116 และขัดคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 3/2558 โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการชี้แจง อาทิ พ.อ.นุรัช กองแก้ว รอง ผอ.สำนักงานพระธรรมนูญ ในฐานะตัวแทน คสช. นายสมพร มูสิกะ กรรมการสิทธิมนุษยชนสภาทนายความ นายแสงชัย รัตนเสรีวงษ์ อนุกรรมการด้านสิทธิชุมชน และนายกิตติศักดิ์ ปรกติ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะฝ่ายพยานผู้เชี่ยวชาญอนุกรรมการและพยานผู้เชี่ยวชาญได้ซักถามตัวแทน คสช.ว่า ทหารมีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่ในพื้นที่ขณะที่มีการจับกุมนักศึกษาหรือไม่ คสช.ได้พิจารณาหรือไม่ว่าความผิดในเชิงสิทธิเสรีภาพไม่จำเป็นต้องขึ้นศาลทหาร รวมทั้งกรณีกล่าวอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบไปพบผู้ปกครองของนักศึกษาในลักษณะข่มขู่คุกคาม และกรณีพยายามตรวจค้นรถทนายความของนักศึกษากลุ่มดังกล่าว หลังจากนี้หากมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองเกิดขึ้นอีก คสช.จะมีนโยบายในการจัดการเรื่องดังกล่าวอย่างไร 

พ.อ.นุรัชกล่าวว่า ขั้นตอนการจับกุมมีแต่เจ้าหน้าตำรวจปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น เจ้าหน้าที่ทหารไม่ส่วนเกี่ยวข้องคงไม่ต้องชี้แจงขั้นตอน ยืนยันว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้จับกุม ส่วนความผิดในเชิงสิทธิเสรีภาพนั้นจะต้องขึ้นศาลทหารหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของนโยบายไม่สามารถตอบได้ คสช.ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย การที่นักศึกษาอ้างว่ามีคนแต่งกายคล้ายทหารหรือมีทหารนอกเครื่องแบบ เข้ามาในลักษณะคุกคาม สะกดรอยตาม ก่อนจะถูกจับนั้นยืนยันว่าไม่มีและยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ส่วนนโยบาย คสช.จะเป็นอย่างไรนั้นขอให้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรสอบถาม คสช.โดยตรง ส่วนตัวเห็นว่าเมื่อกฎหมายมีอย่างไรก็ให้ปฏิบัติไปตามกฎหมาย

 

@ อาจารย์จี้บังคับใช้กม.ให้ชัด 

นายกิตติศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้เห็นในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย กำลังเป็นปัญหาในแนวทางปฏิบัติ หากจะกล่าวหาว่านักศึกษากระทำการขัดต่อคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 3/2558 นั้น ประกาศดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 มาตรา 44 ประกาศนี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ศาลทหาร แต่ควรเป็นศาลยุติธรรมในการพิจารณาคดี ก่อนหน้านั้นคดีอื่นที่มีการขึ้นศาลทหาร เนื่องจากในช่วงนั้นยังมีกฎอัยการศึกและยังมีประกาศ คสช. ฉบับที่ 37/2557 จึงเห็นว่าการนำตัวนักศึกษามาขึ้นศาลทหารนี้จะทำให้การใช้กฎหมายขัดแย้งกันเอง อยากทราบว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการศึกษาบ้างหรือไม่ว่าถ้าใช้กฎหมายสับสนจะทำให้เกิดปัญหาอย่างไร ส่วนประเด็นข้อกล่าวหาเรื่องมีความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 116 ตนได้คุยกับผู้ใหญ่ด้านความมั่นคงถึงกรณีนี้ เขายืนยันว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนักศึกษาหวังจะก่อให้เกิดความรุนแรง รัฐบาลก็ยืนยันในเรื่องดังกล่าว หากเป็นเช่นนั้น คสช.ควรดำเนินคดี ถ้ามีหลักฐานมัดตัวผู้จงใจก่อเหตุร้าย แต่ในกรณีของนักศึกษากลุ่มนี้ต้องแยกให้ดีว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือหรือแสดงความเห็นโดยสุจริต ถ้าเป็นสุจริตชนก็ไม่ควรควบคุมตัว เข้าใจว่าเป็นไปตามแนวทางนี้ เพราะศาลทหารก็พิจารณาไม่ฝากขังต่อเพราะยังไม่ปรากฏหลักฐานตามข้อกล่าวหาที่ทางราชการได้ยืนยัน การไปกล่าวหาลอยๆ อาจไปกระทบกับเรื่องความมั่นคง เนื่องจากอาจถูกมองว่าแค่มีความสงสัยหรือแค่กล่าวอ้าง แต่ไม่มีหลักฐานก็สามารถจับกุมตัวได้ 

@ กสม.เล็งเรียก"คสช.-ตร."แจงอีก

นพ.นิรันดร์กล่าวว่า กสม.ไม่ได้ตรวจสอบเพื่อจับผิด หากแต่เป็นการสร้างความชอบธรรมให้หน่วยงานรัฐที่ต้องใช้หลักนิติรัฐนิติธรรม ความสำคัญของ คสช.คือต้องเข้าใจเรื่องสิทธิเสรีภาพและความเห็นต่างทางการเมือง เป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน แม้แต่รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ก็ให้การรับรองเรื่องดังกล่าวไว้ แม้คำสั่งหรือประกาศ คสช. รวมทั้งกฎอัยการศึกจะเคยใช้แก้ปัญหาความรุนแรงที่มีอยู่จริงในช่วงแรก แต่จากวันนี้ความเห็นต่างนั้นอยู่ขอบเขตของสันติวิธี ดังนั้น จึงไม่ควรใช้อำนาจเด็ดขาด แต่ควรใช้วิธีทางการเมืองด้วยการพูดคุยและหลักสิทธิมนุษยชน อีกทั้งสิทธิในกระบวนการยุติธรรม เช่น กรณีการอ้างมาตรา 116 ของกฎหมายอาญา การกล่าวอ้างเช่นนี้ต้องมีกระบวนการรับฟังข้อเท็จจริงก่อน ไม่ใช่สร้างเรื่องขึ้นมาเองเฉยๆ รวมทั้งการกระทำที่อาจไปก้าวล่วงวิชาชีพทนาย ประเด็นทั้งหมดนี้ กสม.จะทำหนังสือไปยัง คสช. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาเรื่องดังกล่าว

 

@ ฝ่ายกม.พท.ชี้คดี14นศ.ยังไม่ยุติ

นายพนัส ทัศนียานนท์ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีการปล่อยตัว 14 นักศึกษาว่า เขาอ้างว่าศาลยกคำร้องที่ขอฝากขังต่อ เป็นการกระทำที่ทำให้มองเห็นว่าไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาลถอย แต่เป็นศาลยกคำร้อง มีหลายคนเตือนไว้แล้วว่า การปล่อยตัวแค่นี้ไม่ได้ทำให้คดีสิ้นสุด ถ้าเขาเห็นว่ามีหลักฐานสามารถฟ้องศาลได้ ก็สามารถมาเอาตัวเด็กเหล่านี้ไปได้อีก เชื่อว่าขณะนี้ยังทำคดีไม่เสร็จ ส่วนตัวคิดว่าการยกคำร้องก็เพื่อไม่ให้รัฐบาลเสียหน้า กลัวว่าปัญหาจะลุกลามซ้ำรอยเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เนื้อแท้ของการปล่อยตัวคือเขาพยายามจะตัดปัญหาไม่ให้ลุกลามบานปลายต่อไป

เมื่อถามว่าจากนี้นักศึกษาจะสามารถทำอะไรได้บ้างในทางคดี นายพนัสกล่าวว่า ตราบใดที่เขายังไม่สั่งยุติคดี ก็ต้องรอต่อไปว่าเขาจะสั่งฟ้องหรือไม่ และถ้าเขาฟ้องต่อก็ต้องสู้คดีกัน ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ทางการเมืองด้วย รัฐบาลจะต้องประเมินว่าจะฟ้องหรือไม่ ถ้าฟ้องแล้วอาจจะกลายเป็นการจุดชนวนอีกหรือไม่ ตอนนี้เขาสกัดการลุกลามและการลุกฮือของประชาชน ถ้าเขาจะไม่ฟ้องเขาก็สามารถทำได้อยู่แล้ว ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรแล้ว ไม่มีชุมนุม ไม่มีการเคลื่อนไหวเชื่อว่าเขาจะไม่สั่งดำเนินการกับเด็กๆ เหล่านี้ เมื่อนักศึกษาไม่ได้ทำผิดอะไรก็อยากให้ผู้ใหญ่หยุดดำเนินการกับนักศึกษาเหล่านี้ เพราะตามหลักแล้ว ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็น

 

@ จับแล้วมือโพสต์"บิ๊กตู่"โอนหมื่นล.

ส่วนอีกเรื่องนั้น กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุมีคนปล่อยข่าวในโซเชียลมีเดีย กล่าวหาโอนเงิน 1 หมื่นล้านบาทไปฝากประเทศสิงคโปร์ โดย พล.อ.ประยุทธ์บอกรู้ตัวคนปล่อยข่าวแล้ว มาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ล่าสุดมีรายงานว่าตำรวจได้ควบคุมตัวผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 45 ปี เป็นแนวร่วม นปช. ย่าน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ไว้แล้ว เป็นผู้โพสต์ข้อความกล่าวหาดังกล่าว ทั้งนี้จะมีการแถลงข่าวถึงการจับกุมอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!