WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Taksin


'สมคิด'โอเคแล้ว คุมทีมศก. 'หน่อย'เบอร์ 1 พท. 
สัญญาณ'บิ๊กตู่'จัดปาร์ตี้ลิสต์ 'ปู'เบิร์ธเดย์'พี่แม้ว'ครบ 66 ปี พระสุเทพได้ฤกษ์สก 28 กค.
        กระหึ่ม'สมคิด' ตอบรับร่วมครม. นั่งรองนายกฯหัวหน้าทีมเศรษฐกิจจับสัญญาณ "บิ๊กตู่"สื่อสารถึงพรรคเพื่อไทย ดัน'คุณหญิงหน่อย' ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 'ภูมิธรรม'ชี้คุณหญิงหน่อยมีคุณสมบัติเหมาะสม แต่เร็วไปที่จะพูดตอนนี้ 'สรณ'ยันยังไม่มีใครทาบเป็นรมต.สาธารณสุข ระบุยังสนใจทำงานสนช. 'วิษณุ'ย้ำอย่าเดาโผ ครม. ทำให้เกิดแรงกระเพื่อม'ปึ้ง-อ๋อย'ชี้ปรับครม.ไม่แก้ปัญหาประเทศ ทางออกคือคืนประชาธิปไตยโดยเร็ว โพลหนุนนายกฯรื้อใหญ่ครม. 'ฉัตรชัย-อภิรดี-ปีติพงศ์-อำนวย-สมหมาย-วิสุทธิ์'ติดชาร์ตที่ประชาชนอยากให้ปรับออก'ปู'โพสต์อวยพรวันเกิด'พี่แม้ว'ครบรอบ 66 ปี สปช.เตรียมผนึกกำลังจับตาร่างรธน. เน้นที่มานายกฯ-ส.ว. ชี้จุดเด่นจุดด้อยให้ประชาชนวิจารณ์ ก่อนนำมาพิจารณาโหวตลงมติ 'พระ สุเทพ'ได้ฤกษ์สึก 28 ก.ค.

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9007 ข่าวสดรายวัน


'สมคิด'ยอมนั่งหน.ศก.
      เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปร่วมในพิธีฉลองมงคลสมรสบุตรชายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในงานมีทั้งนักธุรกิจ นักการเมือง ทหาร และที่ปรึกษาคสช. มาร่วมงานจำนวนมาก 
      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวบนเวทีว่า อยากให้ทุกฝ่ายที่ขัดแย้งกันเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาท เลิกขัดแย้ง และเดินหน้าประเทศไทย ต่อไปอย่าทะเลาะกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศ รวมถึงต้องจับมือกัน ลืมความบาดหมางเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น และ ขอฝากนักการเมืองที่มาร่วมงานคืนนี้ว่า เวลาจะทำอะไรขอให้คิดถึงคนรุ่นหลัง เพราะเราจะย่ำอยู่กับที่ไม่ได้ อย่างไรก็ตามนายสมคิด เป็น ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจให้กับครม.และตนโดยตรง ที่ผ่านมาร่วมมือกันมาตลอดทำให้ตนทำงานได้ เช่นเดียวกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่มาร่วมงานในวันนี้ด้วย ซึ่งตนก็รู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยที่ปฏิบัติงานในชั้นยศพันตรี
      ล่าสุด นายสมคิด ได้ตัดสินใจที่จะเข้ามาเป็นรองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ในครม.แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ปฏิเสธมาตลอด แต่หลังจากนายกฯพูดเหมือนเป็นการทาบ ทามอีกครั้งกลางงานแต่งงานดังกล่าว ทำให้นายสมคิดตกลงใจมาร่วมครม. 

'บิ๊กตู่'ส่งสัญญาณ'เจ๊หน่อย'ผู้นำพท.
      ส่วนกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ คงไม่ได้เข้าร่วมครม. แต่นายกฯได้ส่งสัญญาณไปถึงแกนนำพรรคเพื่อไทย เพราะต้องการผลักดัน คุณหญิงสุดารัตน์ลงสมัครส.ส.ปารตี้ลิสต์ เบอร์ 1 พรรคเพื่อไทย เพื่อลดความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ
      นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเร็วเกินไปมากที่จะมาพูดกันในเวลานี้ เพราะ คสช.ยังมีคำสั่งห้ามพรรคการเมืองเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมทางการเมืองใดๆ เวลานี้ก็ยังไม่สามารถจัดประชุมพรรคได้เลย ดังนั้นการจะมาพูดถึงว่าใครหรือคุณหญิงสุดารัตน์ จะมาดำรงตำแหน่งใดนั้น ยังไม่ถึงเวลา 
      "คุณหญิงสุดารัตน์ ถือเป็นบุคลากรคนหนึ่งของพรรคที่มีความรู้ ความสามารถ มีอาวุโส มีศักยภาพ เพราะเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง มีชื่อชั้นทางการเมืองที่สามารถดำรงตำแหน่งสำคัญได้เช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด เรารอให้การร่างรัฐรรมนูญซึ่งเป็นกติกาของประเทศมีความเป็นประชาธิปไตย และเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ที่สำคัญเพื่อให้ทั่วโลกยอมรับและนำไปสู่โอกาสในการแก้ไขปัญหาของประเทศโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจซึ่งกำลังซบเซา ประชาชนเดือดร้อนกันอย่างมาก" นายภูมิธรรมกล่าว

'สรณ'ไม่รู้ติดโผรัฐมนตรีสธ.
      นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวมีชื่อเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข (สธ.)ในการปรับครม.ว่า เพิ่งเห็นข่าวจากสื่อมวลชน ที่ผ่านมาไม่เคยคิดที่จะเป็นรัฐมนตรี และยังไม่มีคนในรัฐบาลมาทาบทาม ขณะนี้ยังสนใจทำงานเป็นสนช.อยู่ แต่หากหลังจากนี้มีการติดต่อทาบทามให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นหรือไม่ 
      ด้านนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สนช.กล่าวว่า นพ.สรณ ทำงานเป็นกรรมาธิการสาธารณสุขมา 1 ปี เป็นคนขยัน ฉลาด เก่ง และเรียนรู้เร็ว ตนรู้ข่าวดังกล่าวมาจากสื่อ แต่ไม่รู้ว่าเป็นข่าวจริงหรือไม่ ถ้าเป็นจริงก็เหมาะสม เพราะนพ.สรณ เข้าได้กับทั้ง 2 ขั้วในกระทรวงสาธารณสุข ทั้งกลุ่มแพทย์ชนบทและกลุ่มในกระทรวง อย่างไรก็ตามการปรับครม.เป็นดุลพินิจของพล.อ.ประยุทธ์ ถ้าเห็นว่าเหมาะสม หรือถึงเวลาก็ปรับ

'วิษณุ'ให้รอนายกฯตัดสินใจ
      นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐมนตรีทุกคนเห็นตรงกันว่าเรื่องการปรับครม.ขึ้นอยู่กับนายกฯ เพียงผู้เดียว และไม่เห็นประโยชน์ที่ต้องถามเรื่องนี้กับบุคคลต่างๆ เพราะคำตอบที่ได้มาล้วนแต่เป็นการคาดเดาและไม่ตรงกับความเป็นจริง วันนี้กระแสข่าวมา 2 ละรอก ซึ่งจะปรับจริงหรือไม่ ไม่มีใครทราบ จนขณะนี้กระแสข่าวมาถึงการวิเคราะห์ว่าใครจะไป หรือจะเข้ามา มีชื่อแต่ละบุคคลเข้ามาแทนแต่ละกระทรวง มองว่าเป็นเรื่องที่เกินเลยไป และทำให้เกิดความกระเพื่อมในทางการเมือง มองว่าไม่มีประโยชน์และไม่ตรงกับความเป็นจริง 
     "ชื่อที่โผล่ออกมากันขณะนี้รวมแล้ว ตั้งรัฐบาลใหม่ได้ 1 ชุด มากเกินกว่าโควตาที่จะมีได้เสียอีก เอาเป็นว่าขอให้รอนายกฯ เป็น ผู้ตัดสินใจ และให้นายกฯ เป็นคนพูดดีกว่า คนอื่นพูดไปมีแต่เดาทั้งนั้น สำหรับผมเรื่องการปรับครม.ยังไม่มีความชัดเจน แต่สำหรับคนที่มีอำนาจอาจจะมีความชัดเจนได้ ซึ่งคือนายกฯ เรื่องใดที่นายกฯ ยังไม่พูดแสดงว่าเรื่องนั้นนายกฯ ยังไม่ได้ตัดสินใจ"นายวิษณุกล่าว
      นายวิษณุ ยังกล่าวถึงข้อเสนอของคณะกรรมการปรองดองของสภาปฏิรูปแห่งชาติที่เสนอว่าหากมีการปรับครม.ขอให้นำภาคเอกชนและพรรคการเมืองสองพรรคใหญ่เข้ามาร่วมด้วยว่า คณะกรรมการปรองดองเสนอมาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องอภัยโทษ นิรโทษ จนกระทั่งตั้งรัฐบาลแห่งชาติ มองว่าข้อเสนอเหล่านี้ไม่ผิดอะไร แต่เชื่อว่านายกฯ คงได้ยินและทราบแล้ว ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรก็แล้วแต่นายกฯ ตนเป็น 1 ใน 36 รัฐมนตรีที่ทราบว่าอะไรควรพูด หรืออะไรไม่ควรวิจารณ์อะไร

'ปึ้ง'แนะวิธีฝ่าวิกฤต
     นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิ ปัตย์ พยายามเสนอชื่ออดีตรัฐมนตรีสมัยวิกฤตต้มยำกุ้งเช่น นายศุภชัย พานิชภักดิ์ และนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ขึ้นมาช่วยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ว่า สถานการณ์ของประเทศในขณะนี้แตกต่างจากในอดีตเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ตอนนี้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ และคู่แข่งขันในตลาดโลกเปลี่ยนไป สถานภาพของไทยในสังคมประชาธิปไตยก็เปลี่ยนไป การทำอะไรของรัฐบาลก็อยู่ในสายตาชาวโลก ฉะนั้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาติในขณะนี้คือสร้างความเชื่อมั่นในตัวผู้นำเท่านั้น ที่จะสามารถทำให้ฟันฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ได้
     "อยากจะเสนอแนะนายกฯว่า หากท่านดูตัวอย่างประเทศอื่นๆ จะเห็นว่าบางประเทศแค่เอยชื่อผู้นำแค่นั้นเศรษฐกิจเขาก็ดีขึ้น ดังนั้น ปรับครม.ในครั้งนี้คงไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นได้ในมุมมองของผม สงสารก็แต่คนไทยที่จะต้องประสบปัญหาข้าวยากหมากแพงเพราะการบริหารงานผิดพลาดของรัฐบาล และพระเอกตัวจริงที่จะแก้วิกฤตต้มยำกุ้งภาค 2 จะเป็นใคร ก็ต้องช่วยกันคิดให้รอบคอบก่อนจะพัง"นายสุรพงษ์กล่าว

'อ๋อย'ชี้ปรับครม.ไม่ใช่ทางออก
     นายจาตุรนต์ ฉายแสง โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่องปรับครม.ไม่แก้ปัญหา โดยระบุว่า การปรับครม.ครั้งนี้ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้รัฐบาลแก้ปัญหาของประเทศได้ รัฐบาลนี้มีปัญหาอยู่ 2 ด้าน ด้านหนึ่งคือปัญหาตัวบุคคลและอีกด้านหนึ่งคือปัญหาระบบ ส่วนใหญ่ของครม.ประกอบด้วยบุคคลที่ไม่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการบริหารประเทศ และไม่สนใจที่จะรับฟังความเห็นของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อครม. ชุดนี้อยู่ภายใต้การนำอันเบ็ดเสร็จของพล.อ. ประยุทธ์ ซึ่งมีบุคลิกไม่ฟังใคร 
      ปัญหาตัวบุคคลนี้ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับปัญหาระบบ การที่ครม.ชุดนี้และพล.อ. ประยุทธ์ มาเป็นครม.กันได้เพราะระบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย การจะไปหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถและเป็นที่ยอมรับของสังคมมาร่วมงานก็ย่อมทำได้ยากไปด้วยเพราะเป็นระบบที่ขาดความชอบธรรม ปัญหาที่ไม่มีทางแก้ตกอีกเรื่องหนึ่งคือ การที่รัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากประชาชนและยังปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของประชาชน ละเมิดหลักนิติธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งไม่ฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยไปให้สัญญากับเขาไว้ รัฐบาลนี้จึงไม่เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ 

      เมื่อเศรษฐกิจของไทยเชื่อมโยงและต้องพึ่งพาต่างประเทศอยู่มากและยิ่งกำลังมีกรณีปัญหาต่างๆ ที่ต้องอาศัยการเจรจากับต่างประเทศในหลายๆ เรื่องด้วยแล้ว ไม่ว่าจะปรับครม.อย่างไร รัฐบาลก็ไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศได้ ทางออกของประเทศในวันนี้จึงไม่ใช่การปรับครม. แต่ต้องรีบคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน 

ปชช.จี้รื้อครม.'ฉัตรชัย'เบอร์ 1
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์สำรวจความคิดเห็น 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทุกภาค จำนวน 1,251 คน ระหว่างวันที่ 22-23 ก.ค. 2558 เรื่อง 'ได้เวลาปรับครม.ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์หรือยัง' พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 47.72 ระบุว่าควรปรับครม.ในขณะนี้ ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือร้อยละ 17.35 ระบุว่าควรปรับเฉพาะรัฐมนตรีสายเศรษฐกิจ เพราะเศรษฐกิจตกต่ำมาก ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ร้อยละ 16.55 ระบุว่าควรปรับเฉพาะรัฐมนตรีที่ไม่มีผลงานอย่างเป็นรูปธรรม ร้อยละ 13.83 ควรปรับรัฐมนตรีทั้งคณะ เพราะการแก้ไขปัญหาต่างๆ ยังไม่มีอะไรดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่ร้อยละ 41.81 ระบุว่าไม่ควรปรับครม.ตอนนี้เพราะควรให้โอกาสและเวลาแก่รัฐบาลเพื่อพิสูจน์ในการทำงาน 
      ส่วนรัฐมนตรีที่ควรถูกปรับออกจากตำแหน่งมากที่สุด ร้อยละ 71.52 ระบุว่าเป็นพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ร้อยละ 68.68 ระบุว่านางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ ร้อยละ 61.31 ระบุว่า นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ร้อยละ 61.31 ระบุว่า นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ ร้อยละ 41.54 ระบุว่า นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ร้อยละ 41.21 ระบุว่า นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง 
     เมื่อถามถึงข่าวที่จะมีอดีตนักการเมืองดำรงตำแหน่งในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ร้อยละ 47.74 เห็นด้วยเพราะถือว่ามีประสบการณ์ในการทำงาน ร้อยละ 36.68 ไม่เห็นด้วย เพราะกังวลว่าจะมีความล่าช้าในการพิจารณาและเกิดปัญหาเดิมๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทุจริตคอร์รัปชั่น จึงควรเปิดโอกาสให้คนใหม่ๆ เข้ามาทำงาน

โละ'คลัง-พาณิชย์-เกษตร'
     ขณะเดียวกัน สวนดุสิตโพลแห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,383 คน ระหว่างวันที่ 20-25 ก.ค. 2558 หัวข้อ "ประชาชนคิดอย่างไรกับข่าวการปรับครม.ประยุทธ์ 2" พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 72.02 คิดว่าการปรับครม.จะทำให้บ้านเมืองเดินหน้า พัฒนามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเศรษฐกิจของประเทศ ร้อยละ 68.6 เห็นว่าเป็นเรื่องปกติทางการเมือง ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ ร้อยละ 65.29 ระบุว่าเป็นการปรับเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักลงทุนต่างชาติ
     เมื่อถามว่า ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ที่จะปรับครม. ร้อยละ 68.11 เห็นด้วยเพราะบางกระทรวงมีผลงานไม่โดดเด่น ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ดีขึ้น ช่วยลดความกดดันภายในรัฐบาล ร้อยละ 24.51 ไม่แน่ใจ เพราะไม่รู้ว่าปรับแล้วจะดีขึ้นหรือแย่ลง สถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงตลอด ร้อยละ 7.38 ไม่เห็นด้วย เพราะการทำงานจะหยุดชะงัก บางเรื่องแก้ไขยากเนื่องจากปัญหาสะสมมานาน ควรให้เวลามากกว่านี้ ส่วนกระทรวง 3 อันดับแรกที่ประชาชนคิดว่าควรมีการปรับรัฐมนตรีนั้น พบว่า อันดับ 1 กระทรวงการคลัง อันดับ 2 กระทรวงพาณิชย์ อันดับ 3 กระทรวงเกษตรฯ ขณะที่ร้อยละ 70.93 เพราะยังไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยแล้ง เป็นเพียงการแก้ในระยะสั้นเท่านั้น 

'ปู'อวยพรวันเกิด'พี่แม้ว'
      วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพคู่กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในอิริยาบถต่างๆ ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่ออวยพรวันคล้ายวันเกิดครบ 66 ปีของพ.ต.ท.ทักษิณว่า "วันเกิดครบรอบปีที่ 66 ของพี่ในวันนี้ ขอให้พี่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีกำลังใจดี เป็นที่รักของทุกคนตลอดไป อยากมีโอกาสกอดพี่ตอนวันเกิดทุกปีนะคะ รักพี่มากค่ะ"
      ขณะที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ซึ่งเดินทางไปอวยพรพ.ต.ท.ทักษิณที่ประเทศดูไบ ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพคู่กับพ.ต.ท.ทักษิณผ่านอินสตาแกรม ว่า "Happy Birthday to my one and only daddy kaa @thaksinlive มีหลายคนเคยพูดว่าลูกเข้มแข็งที่ผ่านเรื่องราวต่างๆ มาได้ ในใจลูกคิดเสมอว่าเบื้องหลังความเข้มแข็งคือครอบครัวที่แข็งแรง พ่อซึ่งเจออะไรมากกว่าลูกหลายเท่าวันนี้ยังมองโลกในแง่ดีเสมอ ให้อภัยคนที่ทำร้ายได้ทุกเมื่อ ลูกหวังว่าวันนึงจะเป็นได้ครึ่งนึงของพ่อเท่านั้นค่ะ ดีใจที่ได้มาอยู่กับพ่อทุกๆ ปี จะรอวันที่พ่อกลับไปเป่าเค้กวันเกิดพร้อมหน้ากันค่ะ รักพ่อเสมอ ทั้งวันที่คนห้อมล้อมและวันที่ไม่มีใครรอบตัว #เกิดอีกกี่ทีก็ขอเป็นลูกพ่อคนนี้คนเดียว# รักพ่อสุดหัวใจ"
      นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ได้โพสต์ภาพขณะพ.ต.ท.ทักษิณเฟซไทม์คุยกับ 'เอมิ-นานิ' หลานสาวฝาแฝด พร้อมข้อความ 'Happy Birthday คุณตาทักษิณ'ด้วย 

ปลดป้ายเบิร์ธเดย์ที่แพร่
     เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว ผกก.สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งจากสายตรวจตำบลป่าแมตว่า มีคนนำป้ายผ้าไวนิลมีข้อความอวยพรวันเกิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ไปติดไว้ที่ต้นสัก ถนนสายแพร่-ลอง หลังรับแจ้งจึงใด้ประสานงานกับพ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ. ม.พัน.12 ค่ายพระยาไชยบูรณ์ อ.เด่นชัย ฝ่ายความมั่นคงจังหวัดแพร่ ตำรวจและทหารเข้าตรวจสอบตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง
     จากการตรวจสอบไปบนถนนสาย 1023 ถนนสายลอง-แพร่ หลักก.ม.ที่ 5-6 ต.ป่าแมต อ.เมือง จ.แพร่ พบมีป้ายผ้าไวนิล ขนาด 1 เมตร คูณ 80 เซนติเมตร แขวนกับต้นสักข้างทาง มีข้อความว่า 26 ก.ค.นี้ ขอให้นายกทักษิณ ชินวัตร อายุยืนนานหมื่นๆ ปี ทาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารและตำรวจจึงได้ปลดลงมาเก็บไว้และไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็น หลักฐาน 
       สำหรับ ป้ายดังกล่าวทางฝ่ายทหารตำรวจยังไม่ได้ระบุว่าเป็นใครนำมาติด เพียงแต่จุดที่ติดป้ายห่างจากบ้านแกนนำเสื้อแดงคนหนึ่งไม่ถึง 500 เมตร

สปช.ตั้งทีมศึกษาร่างรธน.
      นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)กล่าวถึงแนวทางการทำงานของ สปช.ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่หลังจากนี้ว่า ขณะนี้งานปฏิรูปประเทศของคณะกรรมาธิ การชุดต่างๆ ในสปช.เริ่มงวดเข้ามาทุกทีคงเสร็จสิ้นไม่เกินวันที่ 10 ส.ค. หลังจากนั้น สปช.จะเตรียมติดตามศึกษาเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ จะส่งให้สปช.ในวันที่ 22 ส.ค. เรียกได้ว่าสถานการณ์ขณะนี้อยู่ในขั้นเตรียมการศึกษาประสานแนวร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของแต่ละกลุ่มแต่ละคณะ 
      "เท่าที่ติดตามและมีการหารือร่วมกัน โดยเฉพาะสปช.กลุ่มปฏิรูปการเมือง และกลุ่มปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้เตรียมเป็นหัวหอกศึกษาประเด็นต่างๆ ในรัฐธรรมนูญอย่างใกล้ชิด จะเป็นกลุ่มแกนนำประมวล และประเมินรัฐธรรมนูญทั้งหมด เพื่อชี้ให้เห็นถึงจุดเด่นจุดด้อย จุดใดรับได้หรือรับไม่ได้ จากนั้นจะนำข้อพิจารณาทั้งหมดแถลงให้ประชาชนทราบ เพื่อให้วิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญอย่างกว้างขวาง จะได้นำมาประกอบพิจารณาการโหวตลงมติของสปช. โดยคำนึงถึงเสียงสะท้อนของประชาชน" นายวันชัยกล่าว

เน้นที่มานายกฯ-ส.ว.
    นายวันชัย กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มปฏิรูปการเมืองและกลุ่มปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมได้ประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสปช.เป็นรายกลุ่มและรายบุคคลตลอดเวลา เช่น กลุ่มสปช.จังหวัด สายอดีตข้าราชการ สายนักวิชาการ เอ็นจีโอ ให้เคลื่อนไหวในแนวทางเดียวกันที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และประชาชน หลังเสร็จภารกิจการแถลงปฏิรูปประเทศของ สปช.ในวันที่ 13 ส.ค.แล้ว จะมีการเคลื่อนไหวถกแถลงเรื่องรัฐธรรมนูญแรงขึ้นว่า จะให้รัฐธรรมนูญผ่านหรือไม่ผ่าน 
   นายวันชัย กล่าวว่า เท่าที่หารือกันเบื้องต้น เกือบทุกกลุ่มเห็นพ้องกันว่า หมวดว่าด้วยเรื่องการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าการเมือง นักการเมืองดี ทุกสิ่งตามร่างรัฐธรรมนูญจะดีไปหมด แต่ถ้านักการเมืองไม่ได้เรื่อง ทุกสิ่งจะบิดเบี้ยวไปหมด จึงต้องพิจารณาประเด็นนี้อย่างรอบคอบ ถี่ยิบ เปรียบเทียบกันแบบขึงพืด โดยเฉพาะประเด็นที่มาของนายกฯ การเลือกตั้งส.ส.แบบสัดส่วนผสม และที่มาส.ว. ซึ่งมีผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างมากมาย แต่ส่วนใหญ่เห็นว่า เนื้อหาที่แก้ไขไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากร่างเดิมเลย และไม่มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาของประเทศได้ เฉพาะ 2-3 เรื่องนี้ก็น่าคิดแล้ว ถ้าวิเคราะห์เจาะลึกในทุกมาตรา ก็ยิ่งไปกันใหญ่ และอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือ การปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ซึ่ง กลุ่มต่างๆ จะนำมาพิจารณาประกอบการ ตัดสินใจควบคู่ไปกับการโหวตรับหรือไม่รับรัฐธรรมนูญ 

คสช.แจงห้ามเลือกกก.หมู่บ้าน
       พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก ในฐานะรองเลขาธิการคสช.กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่เอกสารราชการ ที่ทำการชุดประสานงานประจำพื้นที่กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 12 รักษาพระองค์ (ป.พัน.12 รอ.) เขตลาดกระบัง กทม. ลงวันที่ 19 ก.ค. 2558 เรื่องไม่อนุญาตให้มีการจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการหมู่บ้าน โดยระบุถึงคณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านพูนสินธานี 1 ว่า ประเด็นดังกล่าวต้องสอบถามพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม คสช. เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ซึ่งตนเข้าใจว่ามีประกาศ คสช.เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวกำกับอยู่แล้ว ประกอบกับส่วนตัวคิดว่าถ้ามีประกาศคสช.เราก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น ถ้าไม่ใช่นั้นก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร เพราะบ้านเมืองจะมีกฎหมายและกติกาคอยกำกับ 
     พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าวว่า ถ้าถามว่าการเลือกตั้งดังกล่าวถือเป็นกิจกรรมทางการเมือง หรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจ ต้องไปตรวจสอบดูว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่คิดว่ามีบางอย่างพอให้ได้ เราก็ให้ แต่บางอย่างให้ไม่ได้ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามตนจะไปดูรายละเอียดให้ว่าการเลือกตั้งกรรมการหมู่บ้าน ในสถานะนิติบุคคลกระทำได้หรือไม่ 

 

เล็งขออภัยโทษเด็จพี่-เกียรติอุดม
       รายงานข่าวจากคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงขั้นตอนในการขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทยหลังถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญาในข้อหาหมิ่นประมาทอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญว่า อันดับแรกต้องไปคัดคำพิพากษาก่อน ซึ่งขณะนี้ทีมกฎหมายของพรรคได้ไปคัดคำพิพากษาแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือ เราต้องบอกเหตุแห่งความทุกข์ของผู้ถูกคุมขัง บอกถึงภาระหน้าที่ที่ต้องทำ เช่น ต้องดูแลอาการป่วย ดูแลสุขภาพ เป็นต้น และบอกถึงคุณงามความดีที่ทั้งคู่เคยได้ทำมา จากนั้นนำเอกสารทั้งหมดไปยื่นเรื่องที่กรมราชทัณฑ์ โดยกรมจะส่งให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณา ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวขึ้นอยู่ว่า พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม จะหยิบคำขอขึ้นมาพิจารณาหรือไม่ ซึ่งคิดว่าไม่ง่ายเลย

พระสุเทพได้ฤกษ์สึก 28 ก.ค.
      พระเชน อาภาธโร พระน้องชายพระสุเทพ ปภากโร กล่าวว่า อาตมาพร้อมด้วยพระสุเทพ และพระชินวรณ์ จันทสาโรมีกำหนดลาสิกขาในเช้าวันที่ 28 ก.ค.นี้ ที่วัดธารน้ำไหล หรือสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี โดยพระธรรมวิมลโมฬี เจ้าคณะภาค 16 วัดไตรธรรมาราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากนั้นจะร่วมกันถวายเพลพระ ที่วัดท่าไทร อ.กาญจนดิษฐ์ และพระสุเทพจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการดำเนินการกิจกรรมของมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปแห่งประเทศไทย ซึ่งท่านจะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิหลังลาสิกขา โดยกิจกรรมแรกที่จะดำเนินการคือจัดตั้งวิทยาลัยอาชีวะ เพื่อเปิดสอนในระดับ ปวช.ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย นอกจากนี้ยังมีโครงการจัดสร้างหมู่บ้านผู้สูงอายุในอีกหลายพื้นที่อีกด้วย โดยทั้ง 2 โครงการจะดำเนินการภายใต้มูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปแห่งประเทศไทย 
      ด้านพระชินวรณ์ จันทสาโร กล่าวว่า โครงการจัดตั้งวิทยาลัยอาชีวะของมูลนิธิ เป็นแนวคิดของพระภาวนาโพธิคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดธารน้ำไหล(สวนโมกขพลาราม) ประธานมูลนิธิทีปภาวัน อ.เกาะสมุย ที่จะเปิดสอนเยาวชนในระดับ ปวช. ในลักษณะโรงเรียนวิถีพุทธมุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่เข้าถึงหลักธรรมและแนวความคิดทางศาสนาพุทธและนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันควบคู่ไปกับการประกอบอาชีพ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตจัดตั้งสถานศึกษาต่อกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้ชื่อวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ ส่วนสถานที่ตั้งคาดว่าจะใช้พื้นที่ของสำนักปฏิบัติธรรมเวียงธรรม ต.หน้าเมือง อ.เกาะสมุยและมีกำหนดจะรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2559 นี้

รอสนช.กรองสเป๊กว่าที่กสม.
      นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวถึงกรณีฮิวแมนไรต์วอตช์ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สนช. ปฏิเสธการแต่งตั้ง กสม.ชุดใหม่ โดยอ้างว่ากระบวนการสรรหาไม่ได้มาตรฐานระดับนานาชาติและขาดความมีส่วนร่วมของสาธารณะว่า กระบวนการในการสรรหา กสม.ชุดใหม่ยังถือว่าไม่แล้วเสร็จ เพราะยังมีขั้นตอนที่ สนช.พิจารณาตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม ซึ่งต้องรอให้สนช.พิจารณาว่าการสรรหาในครั้งนี้เป็นไปตามที่ฮิวแมนไรต์วอตช์ระบุหรือไม่ 
     อย่างไรก็ตาม หลักการสรรหาที่คณะกรรมการประสานงานระหว่างประเทศว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ไอซีซี) กำหนดจะต้องเป็นไปตามหลักการปารีส ซึ่งเรื่องนี้ ไอซีซี เคยเตือน กสม.มาก่อนแล้วว่าหาก กสม.ชุดใหม่ยังมีโครงสร้างตามรัฐธรรมนูญ 2550 จะไม่เป็นไปตามหลักการปารีส และจะถูกลดเกรดความเชื่อถือของสถาบันสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศจะลดจากเกรดเอเหลือเกรดบีซึ่งจะทำให้ได้รับการเชื่อถือน้อยลง
       ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกสม.ถูกลดเกรดจะทำให้การทำงานของ กสม.ชุดใหม่ยากขึ้นและไม่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศหรือไม่ นพ.นิรันดร์กล่าวว่า หากถูกลดเกรดจะกระทบกับความเชื่อถือ แต่จะไม่กระทบกับการทำงานของ กสม.ชุดใหม่ ที่สำคัญ กสม.ชุดใหม่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักการปารีส ดังนั้น กสม.ชุดใหม่จึงจะต้องมีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการทำงาน

 

สะพัดร่วมครม.'บิ๊กตู่2' สมคิดยอม พท.ชูเจ๊หน่อยระดับหน. ชี้มากความสามารถ หมอสรณปัดนั่งรมว. วิษณุยันรมต.รอเคาะ เพ้งทำบุญปากน้ำโพ 28 กค.'พระสุเทพ'สึก

     'สมคิด'ส่อใจอ่อนรับนั่งรัฐมนตรี'ครม.บิ๊กตู่'ช่วยแก้ ศก. 'หมอสรณ'ปัดถูกทาบนั่ง รมว.สธ. 'วิษณุ'ชี้ปรับ ครม.อำนาจอยู่ที่'บิ๊กตู่'เพียงคนเดียว 'ปึ้ง'เย้ยเปลี่ยน รมต.ไร้ประโยนช์ แนะต้องสร้างความเชื่อมั่นในตัวผู้นำฝ่าวิกฤต ศก.ได้

มติชนออนไลน์ :

เบิร์ธเดย์      - น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) ได้โพสต์อินสตาแกรมรูปร่วมรับประทานอาหารกับโอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม

 

@ วิษณุย้ำปรับครม.อำนาจบิ๊กตู่

       นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพียงคนเดียว โดยให้สัมภาษณ์หลังเปิดงานความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติเยาวราช กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ถึงกระแสปรับ ครม.ว่า รัฐมนตรีทุกคนเห็นตรงกันว่าการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณาเพียงผู้เดียว และไม่เห็นประโยชน์ที่ต้องถามเรื่องนี้กับบุคคลต่างๆ เพราะคำตอบที่ได้มาล้วนแต่เป็นการคาดเดาและไม่ตรงกับความเป็นจริง 


     "มีกระแสข่าวมา 2 กระแส จะปรับจริงหรือไม่ ไม่มีใครทราบ จนขณะนี้กระแสข่าวมาถึงการวิเคราะห์ว่าใครจะไป หรือจะเข้ามา จนมีชื่อแต่ละบุคคลเข้ามาแทนแต่ละกระทรวง มองว่าเป็นเรื่องที่เกินเลยไป ทำให้เกิดความกระเพื่อมในทางการเมือง ไม่มีประโยชน์และไม่ตรงกับความเป็นจริง" นายวิษณุกล่าวและว่าชื่อที่โผล่ออกมากันขณะนี้รวมแล้วตั้งรัฐบาลใหม่ได้ 1 ชุด มากเกินกว่าโควต้าที่จะมีได้เสียอีก เอาเป็นว่าขอให้รอนายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ และพูดเองดีกว่า คนอื่นพูดไปมีแต่เดาทั้งนั้น สำหรับตนการปรับ ครม.ยังไม่มีความชัดเจน แต่สำหรับคนที่มีอำนาจอาจจะมีความชัดเจนได้ ซึ่งก็คือนายกฯ เรื่องใดที่นายกฯยังไม่พูดแสดงว่าเรื่องนั้นนายกฯ ยังไม่ได้ตัดสินใจ

      นายวิษณุยังกล่าวถึงข้อเสนอของคณะกรรมการปรองดองของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่เสนอว่า หากปรับ ครม.ขอให้นำภาคเอกชนและพรรคการเมืองสองพรรคใหญ่เข้ามาร่วมด้วยว่า คณะกรรมการปรองดองเสนอมาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องอภัยโทษ นิรโทษฯ กระทั่งตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ข้อเสนอเหล่านี้ไม่ผิดอะไร แต่เชื่อว่านายกฯคงได้ยินและทราบแล้ว ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรก็แล้วแต่นายกฯ ตนเป็น 1 ใน 36 รัฐมนตรีที่ทราบว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรวิจารณ์

@ สนช.เชียร์'หมอสรณ'คุมสธ.

      นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกระแสข่าวมีชื่อเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขว่า เพิ่งเห็นข่าวจากสื่อมวลชน ไม่ทราบเรื่องมาก่อน และไม่เคยคิดที่จะเป็นรัฐมนตรี ยังไม่มีคนในรัฐบาลมาทาบทามให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้ยังสนใจทำงานเป็น สนช.อยู่ หลังจากนี้มีการติดต่อทาบทามให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ก็ยังตอบไม่ได้ว่า จะเป็นหรือไม่

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สนช. กล่าวว่า นพ.สรณทำงานเป็นกรรมาธิการสาธารณสุขมา 1 ปี เป็นคนขยัน ฉลาด เก่ง และเรียนรู้เร็ว ตนรู้ข่าวจากสื่อ แต่ไม่รู้ว่าเป็นข่าวจริงหรือไม่ ถ้าเป็นจริงก็เหมาะสม เพราะ นพ.สรณเข้าได้กับทั้ง 2 ขั้วในกระทรวงสาธารณสุข ทั้งกลุ่มแพทย์ชนบทและกลุ่มในกระทรวง 

@ ปึ้งเย้ยปรับครม.ไม่ช่วยให้ดีขึ้น

      นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พยายามเสนอชื่ออดีตรัฐมนตรี อาทิ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก และนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน เข้าร่วมรัฐบาลว่า สถานการณ์ของประเทศในขณะนี้แตกต่างจากในอดีตเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ตอนนี้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ และคู่แข่งขันในตลาดโลกเปลี่ยนไป สถานภาพของไทยในสังคมประชาธิปไตยก็เปลี่ยนไป การทำอะไรของรัฐบาลอยู่ในสายตาชาวโลก เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาติในขณะนี้คือสร้างความเชื่อมั่นในตัวผู้นำเท่านั้น ที่จะสามารถทำให้ฟันฝ่าวิกฤตได้ 

      "อยากจะเสนอแนะนายกฯว่า หากท่านดูตัวอย่างประเทศอื่นๆ จะเห็นว่าบางประเทศแค่เอ่ยชื่อผู้นำแค่นั้นเศรษฐกิจเขาก็ดีขึ้น ดังนั้น ปรับ ครม.ครั้งนี้คงไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นได้ในมุมมองของผม สงสารแต่คนไทยที่จะต้องประสบปัญหาข้าวยากหมากแพงเพราะการบริหารงานผิดพลาดของรัฐบาล และพระเอกตัวจริงที่จะแก้วิกฤตต้มยำกุ้งภาค 2 จะเป็นใคร ต้องช่วยกันคิดให้รอบคอบก่อนจะพัง" นายสุรพงษ์กล่าว

@ 'อ๋อย'แนะรีบคืนประชาธิปไตย

        นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า การปรับ ครม.ทำอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้รัฐบาลแก้ปัญหาของประเทศได้ เพราะส่วนใหญ่ของ ครม.ประกอบด้วยบุคคลที่ไม่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการบริหารประเทศ ไม่มีจิตสำนึกของการมีหน้าที่แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและไม่สนใจที่จะรับฟังความเห็นของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ ครม.ชุดนี้อยู่ภายใต้การนำอันเบ็ดเสร็จของ พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งขาดความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในการบริหารงานนโยบายและยังมีบุคลิกไม่ฟังใคร โดยเฉพาะเป็นผู้ที่ทนฟังความเห็นต่างไม่ได้ด้วยแล้ว พล.อ.ประยุทธ์จึงไม่ได้รับข้อมูลความเห็นที่เป็นประโยชน์ การทำงานของ ครม.จึงไร้ทิศทาง ยิ่งนายกฯพูดให้ความเห็นไปเสียทุกเรื่อง รัฐมนตรีย่อมไม่กล้าพูดหรือทำอะไรที่แตกต่างไปจากที่นายกฯพูดไว้ แต่ปัญหาตัวบุคคลยังไม่สำคัญเท่ากับปัญหาระบบ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เป็นแค่นายกฯ แต่เป็นหัวหน้า คสช.ซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหนืออำนาจอธิปไตยทุกฝ่ายซึ่งซ้ำเติมปัญหาบุคลิกของ พล.อ.ประยุทธ์ให้หนักหนายิ่งขึ้นไปอีก

"ว่าไปแล้วการที่ ครม.ชุดนี้รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ที่ขาดคุณสมบัติคือความรู้ความสามารถและประสบการณ์ แต่มาเป็น ครม.กันได้ก็เพราะระบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เมื่ออยู่ในระบบนี้จึงมีปัญหาการไม่มีจิตสำนึกรับใช้ประชาชนและการไม่สนใจฟังความเห็นใครๆ ตามมาด้วย นอกจากนี้ การจะไปหาผู้ที่มีความรู้ความสามารถและเป็นที่ยอมรับของสังคมมาร่วมงานก็ย่อมทำได้ยากไปด้วยเพราะเป็นระบบที่ขาดความชอบธรรม ซึ่งทางออกของประเทศจึงไม่ใช่การปรับ ครม. แต่ต้องรีบคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน" นายจาตุรนต์ระบุ

@ พท.ชูเจ๊หน่อยมากความสามารถ 

      นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะผลักดันคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับทาง คสช.ว่า เร็วเกินไปมากที่จะมาพูดกันในเวลานี้ เพราะ คสช.ยังมีคำสั่งห้ามพรรคการเมืองเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมทางการเมืองใดๆ ยังไม่สามารถจัดประชุมพรรคได้เลย ดังนั้นการจะมาพูดถึงว่าใครหรือคุณหญิงสุดารัตน์ที่จะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ยังไม่ถึงเวลา 

"ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ถือเป็นบุคลากรคนหนึ่งของพรรคที่มีความรู้ ความสามารถ มีอาวุโส มีศักยภาพ เพราะเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง มีชื่อชั้นทางการเมืองที่สามารถดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้เช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด" นายภูมิธรรมกล่าว และว่า สถานการณ์ขณะนี้ พท.รอให้การร่างรัฐรรมนูญซึ่งเป็นกติกาของประเทศมีความเป็นประชาธิปไตย และเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ที่สำคัญเพื่อให้ทั่วโลกยอมรับและนำไปสู่โอกาสในการแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจซึ่งกำลังซบเซา ประชาชนเดือดร้อนกันอย่างมาก

@ 'สมคิด'ยอมร่วมครม.-เจ๊หน่อยเงียบ

     รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการปรับ ครม.ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม ล่าสุดนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ซึ่งแต่เดิมยืนยันว่าจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ใน ครม. เริ่มมีท่าทีตอบรับ เนื่องจากสถานการณ์ของรัฐบาลในขณะนี้มีความจำเป็นต้องหาบุคคลที่สังคมให้ความเชื่อถือลงไปบริหารงานในเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งระยะหลังมีเสียงเรียกร้องให้นายสมคิดเข้าไปบริหารแบบเต็มตัว แทนที่จะแค่เสนอความคิดเห็น ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำเพื่อไทย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในงานแต่งงานของลูกนายสมคิดเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ยังไม่ปรากฏว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะแสดงท่าทีอะไร อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้คุณหญิงสุดารัตน์เคยออกมาปฏิเสธข่าวการหารือที่เขาใหญ่ โดยระบุว่าจะเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองโดยการเลือกตั้งเท่านั้น 

@ วันชัยคาดร่างรธน.เสร็จ 10 ส.ค.

      นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะโฆษก สปช. กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของ สปช.ต่อร่างรัฐธรรมนูญว่า การทำงานของกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญคงจะเสร็จสิ้นไม่เกินวันที่ 10 สิงหาคม เพราะ กมธ.ยกร่างฯบางคณะก็เสนองานปฏิรูปต่อ สปช.เสร็จไปแล้ว จึงเหลือในส่วนของคณะอื่นๆ ไม่มากนัก 

       "ดังนั้น สปช.ในหลาย กมธ.จึงเตรียมมาติดตามศึกษาเนื้อหาของรัฐธรรมนูญที่จะเสนอต่อสภาปฏิรูปแห่งชาติในวันที่ 22 สิงหาคม เรียกได้ว่าสถานการณ์ในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมการศึกษาประสานแนวร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันแต่ละกลุ่มแต่ละคณะ เท่าที่ติดตามดูและมีการปรึกษาหารือร่วมกันโดยเฉพาะกลุ่มปฏิรูปทางการเมืองและกลุ่มปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้มีการเตรียมการวางแผนเป็นหัวหอกในการศึกษาและพิจารณาประเด็นต่างๆ ในรัฐธรรมนูญอย่างใกล้ชิด มีการติดตามแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญมาอย่างต่อเนื่อง จะเป็นกลุ่มแกนนำในการประมวลและประเมินรัฐธรรมนูญทั้งหมด จะชี้ให้เห็นถึงจุดใดที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร จุดดีจุดเด่น จุดด้อยจุดบกพร่อง จุดใดรับได้ จุดใดรับไม่ได้" นายวันชัยกล่าว

@ เชื่อร่างรธน.เสร็จถกกันแรงขึ้น

      นายวันชัยกล่าวว่า จากนั้นจะนำข้อพิจารณาทั้งหมดแถลงให้ประชาชนได้รับทราบ จะได้มีส่วนอย่างสำคัญให้เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญอย่างกว้างขวาง ทั้งจะเป็นข้อประกอบการพิจารณาของ สปช.ว่าประชาชนเขามีความคิดเห็นต่อรัฐธรรมนูญอย่างไร และเขาต้องการอย่างไร อันจะมีส่วนอย่างสำคัญที่จะให้ สปช.พิจารณาในการโหวตรัฐธรรมนูญคำนึงถึงความต้องการของประชาชนและเสียงสะท้อนของประชาชน 

       "ขณะนี้ สปช.ด้านปฏิรูปการเมืองและ สปช.ด้านปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้ประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ สปช.กลุ่มต่างๆ ทั้งรายกลุ่มและรายบุคคลอยู่ตลอดเวลา เช่น กลุ่ม สปช.จังหวัด กลุ่ม สปช.สายอดีตข้าราชการทั้งพลเรือน ทหาร กลุ่ม สปช.สายนักวิชาการเอ็นจีโอ และกลุ่ม สปช.ที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองมาก่อน ได้ปรึกษาหารือผ่านแกนแต่ละกลุ่มอยู่อย่างต่อเนื่อง พร้อมที่จะเคลื่อนไหวไปในแนวทางเดียวกันที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน" นายวันชัยกล่าว และว่า หลังเสร็จภารกิจเรื่องงานปฏิรูปประเทศและแถลงการปฏิรูปประเทศต่อประชาชนของสภาปฏิรูปฯในวันที่ 13 สิงหาคมแล้ว คงจะเคลื่อนไหวในเรื่องรัฐธรรมนูญด้วยการถกแถลงกันแรงขึ้น อันจะทำให้หาแนวทางร่วมกันว่าเห็นควรจะให้รัฐธรรมนูญผ่านหรือไม่ผ่าน โดยจะต้องมีคำตอบอย่างชัดเจนให้กับประชาชนว่าที่ให้ผ่านนั้นด้วยเหตุผลใด และที่ไม่ให้ผ่านนั้นก็ด้วยเหตุผลใดเช่นกัน 

@ ย้ำต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

       นายวันชัยกล่าวว่า การปฏิรูปก่อนเลือกตั้งเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่น่าจะต้องพิจารณา เพราะเป็นข้อเรียกร้องของประชาชนจนนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และในวันนี้จนกระทั่งที่จะมีการโหวตให้รัฐธรรมนูญผ่านนำไปสู่การเลือกตั้งได้มีการปฏิรูปประเทศเสร็จสิ้นแล้วหรือยัง หรือจะปล่อยให้เลือกตั้งแล้วค่อยไปปฏิรูป ประเด็นนี้คงจะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่กลุ่มแกนต่างๆ จะนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจของสมาชิก ควบคู่ไปกับการโหวตรับหรือไม่รับรัฐธรรมนูญ

       "เท่าที่หารือกันในเบื้องต้นเกือบจะทุกกลุ่มทุกฝ่ายมีความเห็นพ้องต้องกันว่าหมวดที่ว่าด้วยเรื่องการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าตัวการเมือง นักการเมืองดีเสียแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างตามร่างรัฐธรรมนูญคงจะดีไปหมด ถ้านักการเมืองไม่ได้เรื่อง ไม่ดี ทุกสิ่งทุกอย่างก็คงจะบิดเบี้ยวไปหมด จึงต้องพิจารณาประเด็นนี้กันอย่างละเอียดรอบคอบ" นายวันชัยกล่าว และว่า ขณะนี้เฉพาะประเด็นที่มาของนายกฯมาจากการเลือกตั้ง ส.ส.แบบสัดส่วนผสม และที่มา ส.ว.ก็วิพากษ์วิจารณ์กันชนิดที่ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านอยู่ตรงประเด็นนี้แหละ มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกันอย่างมากมาย แต่ส่วนใหญ่ก็เห็นว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากร่างเดิมเลย และไม่มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาของประเทศได้ เฉพาะ 2-3 เรื่องนี้ก็น่าคิดแล้ว ถ้าวิเคราะห์เจาะลึกเข้าไปละเอียดทุกมาตราผสมกับเรื่องที่ว่านี้แล้วก็ยิ่งจะไปกันใหญ่ ยิ่งใกล้วันส่งรัฐธรรมนูญและใกล้วันโหวต ตนก็พลอยวิตกกังวลไปกับ กมธ.ยกร่างฯด้วยเหมือนกัน

@ พท.อัดบางพรรคตรรกะวิบัติ

       นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงที่สมาชิกพรรคการเมืองบางพรรคออกมาวิพากษ์วิจารณ์เศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่ ตามแนวของคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และยังออกมาตำหนิถึงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า อยากให้มองย้อนกลับไปตอนที่สมาชิกพรรคพร้อมแกนนำในพรรค พร้อมใจกันออกมาเดินประท้วง เป่านกหวีด ว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันใช่หรือไม่ จึงอยากให้พรรคการเมืองบางพรรคได้เลิก ตรรกะวิบัติ เพราะได้สร้างปัญหา ให้กับประเทศนี้ไว้อย่างมหาศาล ตั้งแต่ที่เคยบอกว่าเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา แต่ต่อมากลับมาสนับสนุนการปฏิวัติรัฐประหาร และสืบสายพันธุ์ ตรรกะวิบัติ มาถึงการเรียกร้องนายกฯ มาตรา 7 จนมาถึงการแซงก์ชั่นไม่ยอมลงเลือกตั้งถึง 2 ครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุของการปฏิวัติทั้งสองครั้ง 

"จึงอยากขอให้พรรคการเมืองบางพรรคปฏิรูปตัวเอง และเลิก ตรรกะวิบัติ เพื่อประคองตัวไปวันๆ เพราะจะไม่มีวันชนะใจประชาชนในการเลือกตั้ง และต้องออกมาป่วน ทำประเทศชาติเสียหายอีก และขอให้ประชาชนช่วยกันจับวิบัติของพรรคการเมืองพรรคดังกล่าว" นายอนุสรณ์กล่าว

@ ชี้ชง'บิ๊กต๊อก'เสนออภัยโทษไม่ง่าย 

     แหล่งข่าวคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงขั้นตอนหากจะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทยที่ ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ว่า อันดับแรกต้องไปคัดคำพิพากษาก่อน ซึ่งขณะนี้ให้ทีมกฎหมายไปคัดคำพิพากษาแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือ ต้องบอกเหตุแห่งความทุกข์ของผู้ถูกคุมขัง บอกถึงภาระหน้าที่ที่ต้องทำ ต้องดูแล อาการป่วย ฯลฯ และบอกถึงคุณงามความดีที่เคยได้ทำมา จากนั้นก็นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นเรื่องที่กรมราชทัณฑ์ โดยกรมจะส่งให้กระทรวงพิจารณา ซึ่งขั้นตอนนี้ด่านแรกคือ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะหยิบคำขอขึ้นมาพิจารณาหรือไม่ ซึ่งคิดว่าไม่ง่ายเลย

@ กสม.ไม่กลางสนช.มีสิทธิโหวตไม่รับ

     นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช. กล่าวถึงการพิจารณาคุณสมบัติผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ทั้ง 7 คน ว่า ขั้นตอนอยู่ที่คณะกรรมาธิการตรวจสอบคุณสมบัติของทั้ง 7 รายชื่อที่ถูกเสนอมา ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่หลายฝ่ายบอกว่ารายชื่อบางคนเคยเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น คิดว่าต้องว่ากันไปตามข้อมูลที่หากมีข้อกังขาจริงขอให้ส่งเข้ามาให้คณะกรรมการตรวจสอบ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าหากตรวจสอบแล้วบางรายชื่อเคยเคลื่อนไหวทางการเมืองจนส่งผลกระทบต่อการทำงาน กสม. นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ถ้าตรวจสอบแล้วเป็นความจริงหรือยังไม่มีความเป็นกลางมากพอในการปฏิบัติหน้าที่เราก็มีสิทธิที่จะไม่เห็นชอบให้รายชื่อนั้นผ่านไป สนช. ต้องดูเป็นรายบุคคลไปและ สนช.คงไม่ให้เกิดเป็นข้อกังขาในอนาคตได้ 

@ 'เจตน์'ชี้โหวตกสม.ไม่ใช่รายบุคคล 

       นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สนช. (วิป สนช.) กล่าวถึงการพิจารณาคุณสมบัติผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าเป็น กสม. ทั้ง 7 คน ว่า ได้ตั้งกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบประวัติความประพฤติและพฤติกรรมของผู้ถูกเสนอชื่อ ซึ่งจะใช้เวลา 30 วันในการพิจารณา แต่ถ้าหากมีประชาชนหรือภาคส่วนใดส่งข้อมูลคัดค้านที่เห็นว่าน่าสงสัยหรือติดใจว่าอาจมีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่มาให้กรรมาธิการจะรับและอาจขยายเวลาเพิ่มเติมในการพิจารณาออกไปอีก 30 วัน หลังจากนั้นจะส่งเข้าสภา พิจารณา ทั้งนี้ สนช.เป็นเพียงผู้โหวตว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบเท่านั้น ไม่ได้โหวตเลือกเป็นรายบุคคลแต่อย่างใด ดังนั้นหากไม่มีประเด็นที่น่าติดใจสำคัญๆ เช่นผู้ที่ได้รับคัดเลือกมีคดีความในขั้นศาล มีการร้องเรียน สนช.จะดำเนินการไปตามปกติ

      ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการวิพากษ์วิจารณ์รายชื่อว่าที่ กสม.บางคนที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองมาก่อนจะกระทบการทำงานในอนาคตหรือไม่หากได้รับคัดเลือกเป็น กสม. นพ.เจตน์กล่าวว่า ใครที่มีข้อมูลตามที่สงสัยขอให้ส่งมาที่คณะกรรมาธิการตรวจสอบหรือสภาได้ทันที จะร้องเรียนใครจำเป็นต้องมีหลักฐานประกอบการร้องเรียนที่กล่าวหาเขา ไม่สามารถที่จะกล่าวหาโดยลอยๆ ได้เพราะ สนช.ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายด้วย

@ ชี้ใครมีปัญหาเลือกคนใหม่แทน

       "หากมีข้อมูลเพียงพอว่ารายชื่อบางคนเกิดข้อกังขาและคณะกรรมาธิการตรวจสอบแล้วว่าเป็นไปตามนั้นจริง และพิจารณาแล้วว่าอาจกระทบต่อการทำงาน ทาง กสม.อาจจะต้องพิจารณารายชื่อรายบุคคลขึ้นมาให้คณะกรรมาธิการตรวจสอบพิจารณาใหม่ ผมมองว่าไม่น่าจะมีปัญหาทั้ง 7 คนแน่นอน ยืนยันว่าจะพิจารณาด้วยความเป็นธรรมไม่ให้เกิดข้อกังขา หรือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในอนาคต" นพ.เจตน์กล่าว

นพ.เจตน์กล่าวว่า ความจริง กสม.ถูกจับตาโดยข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) มาโดยตลอดเรื่องการดูแลสิทธิมนุษยชนในประเทศ แต่นายกรัฐมนตรีเคยบอกว่าในกรณีของ กสม.ต้องคำนึงถึงภาพรวมของประเทศเป็นหลัก ไม่ใช่ยึดติดประเด็นสิทธิมนุษยชนจนทำให้ประเทศชาติเสียหาย ดังนั้น หน้าที่ของ กสม.คือคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก และอย่าให้ประชาชนถูกละเมิดสิทธิแต่ไม่ใช่ว่าแตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลย ก็ไม่ใช่จะไปเต้นตามยูเอ็นเอชซีอาร์ทั้งหมดก็ไม่เห็นด้วย

@ จัดเบิร์ธเดย์'ทักษิณ'ครบ 66 ปี

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่ออวยพรวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 66 ปี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชาย ว่า "วันเกิดครบรอบปีที่ 66 ของพี่ในวันนี้ ขอให้พี่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีกำลังใจดีเป็นที่รักของทุกคนตลอดไป อยากมีโอกาสกอดพี่ตอนวันเกิดทุกปีนะคะ รักพี่มากค่ะ"

      ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ โพสต์ภาพคู่กับพ่อและข้อความผ่านอินสตาแกรม ว่า "Happy Birthday to my one and only daddy kaa @thaksinlive มีหลายคนเคยพูดว่าลูกเข้มแข็งที่ผ่านเรื่องราวต่างๆ มาได้ ในใจลูกคิดเสมอว่าเบื้องหลังความเข้มแข็งคือครอบครัวที่แข็งแรง พ่อซึ่งเจออะไรมากกว่าลูกหลายเท่าวันนี้ยังมองโลกในแง่ดีเสมอ ให้อภัยคนที่ทำร้ายได้ทุกเมื่อ ลูกหวังว่าวันหนึ่งจะเป็นได้ครึ่งหนึ่งของพ่อเท่านั้นค่ะ ดีใจที่ได้มาอยู่กับพ่อทุกๆ ปี จะรอวันที่พ่อกลับไปเป่าเค้กวันเกิดพร้อมหน้ากันค่ะ รักพ่อเสมอ ทั้งวันที่คนห้อมล้อมและวันที่ไม่มีใครรอบตัว #เกิดอีกกี่ทีก็ขอเป็นลูกพ่อคนนี้คนเดียว #รักพ่อสุดหัวใจ"

      นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ โพสต์ภาพขณะ พ.ต.ท.ทักษิณ เฟซไทม์คุยกับหลานสาวฝาแฝด "เอมิ-นานิ" พร้อมข้อความ "Happy Birthday คุณตาทักษิณ"

@ 'แม้ว'จัดเรียบๆ-เงียบๆที่ดูไบ

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงานวันคล้ายวันเกิด 66 ปี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ จัดงานเลี้ยงฉลองเล็กๆ ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เฉพาะในครอบครัว และคนสนิทเท่านั้น รวมถึงอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) บางส่วนที่ไม่ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศร่วมงาน ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร และนายพานทองแท้ที่ไปร่วมงาน คาดว่าจะรับประทานอาหารเย็นที่บ้านของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ ในเวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือเวลาประมาณ 22.00 น. ในไทย 

สำหรับแกนนำพรรค พท. และคนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้ส่งคำอวยพรผ่านไลน์ อีเมล์ และเอสเอ็มเอสเท่านั้น

@ ทหารสังเกตการณ์จัดวันเกิดแม้ว

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว กลุ่มคนเสื้อแดงมีการจัดกิจกรรมฉลองวันเกิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงทยอยเข้ารวมงานนับร้อยคน ทั้งนี้ การจัดงานเป็นไปอย่างสงบ มีการร้องเพลงอวยพรวันเกิด กิจกรรมสภากาแฟ และมีการร่วมแสดงความยินดีที่สถานีโทรทัศน์พีซทีวีกลับมาออกอากาศได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในระหว่างจัดกิจกรรมมีทหารในเครื่องแบบคอยสังเกตการณ์และถ่ายรูปการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ถูกจัดขึ้น

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!