WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

2ป


สปช.แตกคอปฏิรูป 2 ปี 
มาร์คร่วมขวาง ชูโรดแม็ปเดิม

       กมธ.ยันยกร่างรธน.เสร็จภายใน 14 ส.ค. สปช.เสียงแตกปมปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เตือนเรื่องละเอียดอ่อน ต้องรอบคอบ 'ดิเรก'ย้ำไม่เห็นด้วยปฏิรูปก่อน หวั่นไม่ยึดโรดแม็ปจะบานปลาย สปช.ไพบูลย์เชื่อปฏิรูปเสร็จใน 2 ปี เพื่อไทยจี้ 'บิ๊กตู่'รักษาคำพูด ยึดโรดแม็ป เย้ย'เทพเทือก'ลากยาวปฏิรูป กลัวแพ้เลือกตั้ง'มาร์ค'ชูโรด แม็ปเดิม คสช.จี้'ณัฐวุฒิ'ขออนุญาตก่อนแถลงเรื่องนกกรงหัวจุก

 

วันที่ 02 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9013 ข่าวสดรายวัน

 

 

กมธ.ชี้ร่างรธน.เสร็จใน 14 ส.ค.

       วันที่ 1 ส.ค. นายสุจิต บุญบงการ รองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่ 3 กล่าวถึงความคืบหน้า การยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้การร่างรัฐธรรมนูญสามารถพูดได้ว่าเนื้อหาสาระส่วนใหญ่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียง 1-2 ประเด็นเท่านั้นที่อาจต้องตัดสินใจกันให้เสร็จภายในวันที่ 14 ส.ค.นี้ ส่วนบันทึกเจตนารมณ์รายมาตรานั้นเข้าใจว่าจะสามารถดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยครบทุกมาตราภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ 

        นายสุจิต กล่าวว่า ยืนยันว่ากมธ.ยกร่างฯสามารถยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จทันตาม กรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดไว้ได้แน่นอน และตลอดระยะเวลาที่ได้ยกร่างรัฐธรรมนูญมานั้น ส่วนตัวรู้สึกพอใจกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แม้จะไม่ตรงกับใจตัวเองทั้งหมด แต่ก็ถือว่ารับได้ เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นแนวความคิดที่เราได้รับข้อเสนอมาจากหลายกลุ่มหลายฝ่าย อาทิ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคการเมืองและประชาชน ที่ได้ช่วยกันเสนอเข้ามา

 

5 ส.ค.ถกกรอบแจง 9 กลุ่มยื่นแก้ 

       นายสุจิตกล่าวว่า ช่วงระหว่างวันที่ 17-19 ส.ค.ที่กมธ.ยกร่างฯเตรียมเชิญผู้ยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมทั้ง 9 กลุ่ม มารับฟังหลักการและเหตุผลที่กมธ.ยกร่างฯได้ปรับแก้ไขนั้น เข้าใจว่าการประชุมกมธ.ยกร่างฯครั้งต่อไปตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.เป็นต้นไป ทางกมธ.ยกร่างฯก็คงจะมีการหารือและวางแผนงานว่าจะกำหนดให้ผู้ใดเป็นผู้ทำหน้าที่ชี้แจงและชี้แจงในประเด็นใดบ้าง ขั้นตอนนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่าหนักใจเพราะประเด็นต่างๆ ก็ตก ผลึกพอสมควรแล้ว อีกทั้งการนัดหมายครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการอภิปรายโต้เถียงกัน เป็นเพียงการชี้แจงเพื่อให้สปช.และครม.ได้เข้าใจหลักการและเจตนารมณ์ของกมธ.ยกร่างฯในการปรับหรือไม่ปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น

      เมื่อถามว่า ขณะนี้มีข้อเสนอให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง มองว่าจะกระทบต่อกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสุจิตกล่าวว่า ประเด็นนี้ได้มีการพูดกันอย่างไม่เป็นทางการมาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่เห็นสิ่งใดที่เป็นรูปธรรม ตนจึงไม่อยากแสดงความเห็นใดๆ คงต้องรอให้กลุ่มที่เคลื่อนไหวได้แสดงทัศนะให้ชัดเจนเสียก่อน

ดิเรกยันโหวตรธน.ครอบงำไม่ได้ 

     นายดิเรก ถึงฝั่ง สมาชิก สปช. กล่าวกรณีนายวันชัย สอนศิริ สปช.เสนอคว่ำร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำเนินการปฏิรูป ว่า การตัดสินใจโหวตรับหรือไม่รับต้องดูเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญเป็นหลัก ขอยืนยันเรื่องนี้เราคงไม่ให้ใครมาครอบงำการตัดสินใจของเราได้ เพราะประเด็นนี้ตนได้พูดมาตั้งแต่เริ่มต้นยกร่างรัฐธรรมนูญแล้วว่าเรายึดเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญเป็นหลัก และตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ได้มีการเสนอความคิดเห็นต่างๆ ต่อกมธ.ยกร่างฯไปแล้ว ดังนั้นการตัดสินโหวตรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะไม่มีใครมาครอบงำได้โดยเด็ดขาด เพราะตนอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุขสามารถเดินไปข้างหน้าด้วยความถูกต้อง หากรัฐธรรมนูญออกมาดีเราก็พร้อมจะโหวตรับ แต่หากรัฐธรรมนูญออกมาไม่ดี เราก็คงจะไม่โหวตรับ 

 

ย้ำชัดค้านปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง 

       นายดิเรก กล่าวว่า ส่วนกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน สปช.และกมธ.ยกร่างฯ เสนอให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งนั้น ตนขอย้ำว่าไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ เพราะควรยึดตามโรดแม็ป ของคสช. หากไม่ยึดตามโรดแม็ปเกรงว่าปัญหาอื่นๆ จะตามมาอีกมากมาย ดังนั้นการตัดสินใจใดๆ ต้องมีสติและต้องยึดรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของบ้านเมือง

นายไพบูลย์ นิติตะวัน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการยื่นข้อเสนอปฏิรูปประเทศ 2 ปี ก่อนการเลือกตั้ง ว่า ตนคงทำเป็นหนังสือคล้ายการเสนอญัตติเพื่อให้เพิ่มคำถามในส่วนที่จะทำประชามติว่าให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง 2 ปี โดยต้องเสนอคำถามไปให้ สปช. พิจารณาในวันเดียวกับที่ สปช.จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ หากสปช.เห็นด้วยก็จะเป็นอีกคำถามในการทำประชามติ ทั้งนี้ หากประชาชนเสียงข้างมากเห็นด้วยให้ทำการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ก็จะมีผลต้องปรับร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อ ให้สอดคล้องกับการทำประชามติ ตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวบัญญัติไว้

 

ไพบูลย์เชื่อปฏิรูปเสร็จใน 2 ปี 

       นายไพบูลย์กล่าวว่า การทำประชามติแล้วใส่คำถามนี้ลงไป เพื่อแก้ไขความขัดแย้ง ที่ยังคงอยู่ในสังคมไทยตั้งแต่ก่อนวันที่ 22 พ.ค. 2557 ประชาชนจำนวนมากต้องการการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง หากเราดำเนินการทำประชามติ โดยไม่มีประเด็นนี้ความขัดแย้งก็จะดำรงอยู่ ดังนั้น หากมีโอกาสทำประชามติเรื่องการเห็นชอบไม่เห็น ชอบร่างรัฐธรรมนูญที่ต้องเสียงบประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท อยู่แล้วก็ควรนำคำถามนี้ไปใส่ด้วย จะได้ลดความขัดแย้ง ทำให้ประเทศเดินหน้าในทางที่ถูกต้องไม่ว่าเสียงที่ออกมาของประชาชนจะให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งหรือจะให้เลือกตั้งก่อนการปฏิรูป ทุกฝ่ายจะได้ข้อยุติ 

นายไพบูลย์กล่าวว่า ตนจะตั้งคำถามนี้โดยรวบรวมเสียงของสมาชิก สปช. คาดว่าจะมีหลายเสียงเห็นด้วยสนใจเสนอเรื่องนี้ โดยตนจะรวบรวมรายชื่อในวันที่ 3 ส.ค. และคาดว่าจะเสร็จในวันที่ 5 ส.ค. จากนั้นจะยื่นให้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.ได้ในวันที่ 6 ส.ค.

      เมื่อถามว่าหากการปฏิรูปไม่เสร็จภายใน 2 ปี จะทำอย่างไร นายไพบูลย์กล่าวว่า ตนเชื่อว่าการทำงานน่าจะแล้วเสร็จใน 2 ปี สำหรับการปฏิรูปในเรื่องหลัก เช่น การออกกฎหมายการปฏิรูปประเทศ การบริหารราชการแผ่นดิน เศรษฐกิจและสังคม แต่คงไม่เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด คงจะเสร็จเฉพาะเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อประเทศ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งอาจส่งผลดีกว่าเร่งรัดเลือกตั้ง เพราะความขัดแย้งยังอยู่ แต่ผลจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการทำประชามติ สังคมไทยคงได้ข้อยุติ เพราะเป็นการทำประชามติครั้งแรกในประเด็นสำคัญที่มีความขัดแย้ง ก่อนหน้านี้มีแต่เรื่องรับไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่เรื่องนี้จะมีผลเกี่ยวข้องกับการกำหนดความสำคัญของประชาชนทั้งประเทศซึ่งต้องออกมาตัดสิน 

 

สปช.เตือนเรื่องละเอียดอ่อน 

      นายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์ สมาชิก สปช.ด้านบริหารราชการแผ่นดิน กล่าวกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เตรียมเสนอตั้งคำถามทำประชามติให้ปฏิรูปประเทศก่อนจัดการเลือกตั้ง ว่า เป็นความเห็นส่วนตัวของนายไพบูลย์ แต่เข้าใจว่าเป็นประเด็นที่สปช.หลายคนและประชาชนจำนวนหนึ่งมีความคิดเห็นเช่นเดียวกันที่ต้องการให้ปฏิรูปประเทศให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยดำเนินการจัดการเลือกตั้ง หากถามตนเกี่ยวกับประเด็นนี้ต้องบอกว่าไม่รู้สึกบวกหรือลบต่อประเด็นนี้ เพราะส่วนตัวเห็นใจเนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ยังไม่เรียบร้อย หากเลือกตั้งเร็วเกินไปก็ไม่แน่ใจว่าทุกอย่างจะไม่กลับไปเหมือนเดิมอีก ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ต้องระมัดระวังและคิดให้รอบคอบ 

      นายธีรยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญในช่วงเวลานี้คือหน่วยงานแต่ละส่วนต้องดำเนินการและจัดทำภารกิจตามที่คสช.วางแนวทางไว้ โดยสปช.ต้องรีบดำเนินการในเรื่องของการศึกษา วิเคราะห์ เสนอแนะ เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศให้สำเร็จโดยเร็วเนื่องจากเวลานี้ภารกิจของสปช.ใกล้จะจบแล้ว กมธ.ยกร่างฯก็ต้องทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญให้ออกมาดีที่สุด ขณะที่ สนช.ต้องดูแลเรื่องการออกกฎหมายให้เร็วและดีที่สุดเช่นกัน ส่วนอนาคตหลังจากนี้ไปเกี่ยวกับการวางแนวทางการขับเคลื่อนการปฏิรูป เพื่อการรองรับการเลือกตั้ง และรัฐบาลใหม่นั้นทางรัฐบาลและคสช.ต้องคิดให้รอบคอบเพื่อให้มีหลักประกันว่าอนาคตของประเทศจะออกมาในทางที่ดี 

 

ชี้รธน.ขาดเอกลักษณ์ฉบับปฏิรูป 

     นายธีรยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีกมธ.ยกร่างฯ เตรียมเชิญผู้ยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 9 กลุ่มมารับฟังเหตุผลในการปรับแก้ไข ว่า ขณะนี้ทางกลุ่มของตนยังไม่ได้กำหนดว่าจะให้ใครเป็นผู้ไปรับฟังเหตุผลของ กมธ.ยกร่างฯในครั้งนี้ แต่หากวันดังกล่าวตนไม่ติดภารกิจใดก็คงจะไปฟังเหตุผลต่างๆ ด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม เท่าที่ได้รับทราบเนื้อหาสาระร่างรัฐธรรมนูญบางส่วนตามสื่อมวลชนเห็นว่ากมธ.ยกร่างฯได้พยายามแก้ไขตามข้อเสนอของทุกฝ่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่น่าเสียดายที่ในหมวดการปฏิรูปและการสร้างความปรองดอง เนื้อหาสาระสำคัญกว่า 15 มาตรา ถูกตัดทิ้งออกไปจากร่างรัฐธรรมนูญแต่นำไปใส่ไว้ในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปฏิรูปประเทศแทน คงเหลือไว้เพียงหลักการกว้างๆ แค่ 4 มาตราเท่านั้น จึงทำให้รัฐธรรมนูญขาดเอกลักษณ์ของการเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปไปบ้างเล็กน้อย

 

ต่ออายุรบ.-เหตุผลไม่พอคว่ำ รธน. 

      นายมนูญ ศิริวรรณ สมาชิกสปช.ด้านพลังงาน กล่าวถึงข้อเสนอให้มีการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ว่า ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มของตนได้ เคยเสนอต่อกมธ.ยกร่างฯว่าหากมีการทำประชามติก็ควรถามความคิดเห็นของประชาชนไปด้วยว่าเห็นด้วยกับการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งหรือไม่ ดังนั้นหากมีการเสนอประเด็นนี้ต่อที่ประชุมสปช.เราก็คงจะยืนยันหลักการเดิม ส่วนที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เตรียมล่ารายชื่อสมาชิกสปช.เพื่อสนับสนุนแนวทางดังกล่าวนั้น เบื้องต้นได้คุยกันในหลักการว่าจะร่วมมือเสนอแนวทางการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งเท่านั้น แต่ยังไม่ได้คุยในรายละเอียดว่าจะดำเนินการกันอย่างไร       

       ส่วนที่นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสปช. เสนอให้สปช.คว่ำร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้รัฐบาลและคสช.ได้ดำเนินการปฏิรูปนั้น นายมนูญกล่าวว่า คิดว่าการจะคว่ำหรือไม่คว่ำนั้นต้องดูที่เนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญก่อน การไปบอกว่าจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้รัฐบาลอยู่ต่อไปหรือจะคว่ำเพื่อไม่ให้มีการทำประชามตินั้น คงไม่เป็นเหตุผลที่เพียงพอ อีกทั้งขณะนี้เนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญยังไม่ได้มีการนำเสนอต่อสปช.และในช่วงกลางเดือนส.ค.ทางกมธ. ยกร่างฯก็จะเชิญผู้ยื่นคำขอแก้ไขทั้ง 9 กลุ่มมารับฟังเหตุผลในการปรับแก้ไข ดังนั้น สมาชิกสปช.จำเป็นต้องรอฟังเหตุผลก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้

 

พท.เย้ย'เทือก'กลัวแพ้

    นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอให้ทำการปฏิรูปโดยไม่จำกัดเวลาของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ว่าต้องถามกลับว่าถ้ายกตัวอย่างใช้เวลาถึง 15 ปี เพื่อทำการปฏิรูปจะทำอย่างไร จึงขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ยึดคำพูดที่ยืนยันมาตลอดว่าจะอยู่บริหารตามโรดแม็ปที่กำหนดไว้ อย่าเชื่อคำพูดของนายสุเทพ ส่วนที่อ้างว่าเพื่อไม่ให้มีนักการเมืองหน้าเก่าๆ กลับมาอีกนั้นควรกลับไปมองคนที่อยู่รอบตัวนายสุเทพ ก็ล้วนเป็นนักการเมืองหน้าเก่า ความคิดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ากลัวที่จะแพ้การเลือกตั้งจึงออกมาตีปลาหน้าไซก่อนหรือไม่ เพราะในระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะหน้าเก่าหรือใหม่ ในเมื่อประชาชนเขาเลือกเข้ามาแล้วก็ต้องยอมรับ

       นายสมคิดกล่าวว่า สมาชิก สปช.บางคนที่ออกมาสนับสนุนแนวคิดของนายสุเทพ หรือแม้แต่สนับสนุนให้สปช.โหวตคว่ำร่างเพื่อปฏิรูปนั้น น่าจะเคยชินกับการที่ได้รับสรรหามาตลอดจึงกลัวที่จะมีการเลือกตั้ง 

จี้บิ๊กตู่ยึดคำพูดเดินตามโรดแม็ป 

       "พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเดินหน้าตามที่ระบุ อย่าให้คนเพียงคนเดียวหรือกลุ่มเดียวมากดดันสั่งการหรือควบคุมการทำงานเพราะมิเช่นนั้นประเทศคงไม่ไปไหนแล้ว" นายสมคิดกล่าว

     นายสมคิด กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเงียบมาตลอดและรอดูรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะออกมาและเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง พร้อมกับติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างสงบ เพราะยังเชื่อว่ารัฐบาลจะทำตามโรดแม็ป ล่าสุด บรรดานายทหารต่างย้ำหนักแน่นว่ายังคงทำตามที่พูดไว้ ดังนั้นหากมีสิ่งใดเปลี่ยน แปลงไปจากนี้เราคงรับไม่ได้เช่นกัน

 

เตือนคสช.อยู่ห่างๆ กปปส. 

       นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของ กปปส.ในรูปแบบมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยว่าผู้มีอำนาจระบุว่าการเคลื่อนไหวของ กปปส.ครั้งนี้สามารถดำเนินการได้ และต่อจากนี้จะมีมูลนิธิต่างๆ เกิดขึ้นตามอีก มีการขอตั้งโต๊ะแถลงข่าวทุกวัน พรรคการเมือง สถาบันการเมือง จะหมดความหมายเพราะขยับอะไรไม่ได้ แต่มูลนิธิทำได้ ทั้งที่พูดเรื่องการเมืองชัดเจน แต่ผู้มีอำนาจกลับมองไม่เห็นว่าเป็นการเมือง หากกรรมการเป็นแบบนี้เชื่อว่าเกมจะรุนแรงขึ้น เพราะคนดูจะเห็นเองว่าฝ่ายหนึ่งทำอะไรก็ผิด ตรงกันข้ามกับอีกฝ่ายหนึ่งทำอะไรก็ไม่ผิด ขอให้ฝ่ายความมั่นคงย้อนกลับไปดูกรณีที่พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สปช.ระบุว่ามีสองพรรคการเมืองภาคใต้ลงขันล้มรัฐบาลและจะเคลื่อน ไหวรุนแรงขึ้นว่าหมายถึงพรรคและกลุ่มไหน หรือเจตนาจะสื่อสารถึงกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ 

นายอนุสรณ์กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของ กปปส.ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ที่วางแผนร่วมกันมาเป็นขั้นเป็นตอนกับผู้มีอำนาจชุดปัจจุบันเพื่อจะต่อเวลาอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด ถือว่าเป็นขบวนการรวมหัวกันต้มบันลือโลก แต่หากกปปส.เคลื่อนไหวเองเพื่อหวังจะวางบิลทวงบุญคุณที่ได้ทำให้ผู้มีอำนาจชุดปัจจุบันเข้าสู่ตำแหน่ง เชื่อว่าจะมีมหกรรมวางบิลกันอย่างมโหฬาร ทางที่ดี คสช.ควรแสดงจุดยืนและระยะห่าง กับกปปส.ให้ชัดเพราะงานนี้มีแต่เสียกับเสีย

 

ปฏิรูปก่อนลต.กระทบเศรษฐกิจ 

     นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน กล่าวว่าธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ ยอมรับว่าเศรษฐกิจตลอดทั้งปีจะโตไม่ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังมีกลุ่มบุคคลที่ปิดกรุงเทพฯสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ แก่ประเทศอย่างใหญ่หลวง เมื่อสึกออกมา แถมได้ประกาศเรียกร้องจะให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เพื่อต้องการให้รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากระบอบประชาธิปไตยอยู่ต่อไปนานๆ ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะทำลายความน่าเชื่อถือของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนอาจนำไปสู่การกีดกันทางการค้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากโดนไปหลายด้านแล้ว และจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจทรุดลงอีก อย่างไรก็ตามถ้ามวลมหาประชาชนยังหน้ามืดตามัวจนมองไม่ออกและยังหลงเชื่อคนกลุ่มนี้ ประเทศนี้ก็คงจะถูกลงโทษต่อไปและประชาชนจะลำบากยิ่งขึ้น และเป็นตรรกะวิบัติอย่างแท้จริง หากประชาชนคิดกันได้ จะต้องไม่สนับสนุนและต้องลงโทษคนทำร้ายชาติกลุ่มนี้ เพื่อ สร้างตรรกะและบรรทัดฐานที่ถูกต้องให้กับประเทศ

 

มาร์ค ยันต้องยึดโรดแม็ป 

      ที่สนามฟุตบอลซุปเปอร์คิก ลาดพร้าว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง และสปช.เตรียมเสนอให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญเพื่อยืดระยะเวลาการปฏิรูปประเทศและการทำงานของรัฐบาลที่วางไว้ตามโรดแม็ปออกไป ว่า รัฐบาลควรจัดอันดับความสำคัญของการปฏิรูปที่เป็นรูปธรรมให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้งมากกว่า เช่น จะทำอย่างไรให้มีการเลือกตั้งโดยสุจริตเที่ยงธรรม ไม่ใช่ให้ปฏิรูปเกือบทุกเรื่อง เพราะการปฏิรูปต้องอาศัยระยะเวลาและเชื่อว่าสังคมจะกดดันให้นักการเมืองสานต่องานปฏิรูป ดังนั้น คสช.ควรยึดการดำเนินการตามโรดแม็ปที่วางไว้ ก่อนคืนอำนาจให้ประชาชน และเชื่อว่าสังคมจะเห็นด้วย เพราะขณะนี้เกิดความสับสนในเรื่องปฏิรูปที่ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นความขัดแย้ง

 

ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ 

       เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยตอบโต้การเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องความเห็นที่แตกต่างกันซึ่งทำให้เรามาอยู่จุดนี้ ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. ไม่เกี่ยวกับพรรคประชา ธิปัตย์ แต่มีจุดยืนเรื่องการปฏิรูปที่เหมือนกัน เช่น การปฏิรูปเรื่องการศึกษา ซึ่งหากทำได้ก็จะเป็นผลดีกับบ้านเมือง

เมื่อถามว่าสมาชิก กปปส.จะกลับเข้าสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ หากมีการเลือกตั้งแล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สมาชิก กปปส.ที่เคยเป็นนักการเมืองมาก่อนสามารถทำได้ เพราะมีเพียงนายสุเทพคนเดียวเท่านั้นที่ประกาศไว้ชัดเจนแล้วว่าจะไม่กลับมาเล่นการเมืองอีก แต่จะไปเดินหน้าทำงานภาคประชาสังคมแทน

      หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้น เพราะจะเป็นการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งตามมาอีก ซึ่งขณะนี้ก็มีรัฐบาลคสช.บริหารประเทศและดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติแต่อย่างใด

 

แถลงนกหัวจุก-คสช.ให้ขออนุญาต

      พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ให้สัมภาษณ์ กรณีที่นายสุเทพ เปิดตัวมูลนิธิมวลมหา ประชาชนฯ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่า การจะจัดกิจกรรมต้องระวังไม่พูดในลักษณะ สร้างเงื่อนไข จึงมีการกำหนดหลักการว่าจะทำกิจกรรมอะไรต้องขออนุญาต คสช.ก่อน หากพิจารณาแล้วไม่เป็นการแสดงออกที่ขัดกับความสงบ สามารถดำเนินการได้เหมือนที่ผ่านมาโดยจะมีเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์ กรณีของนายสุเทพนั้นมีการขออนุญาตมาก่อนแล้ว แต่ในหลายกรณีก็มีการแสดงออกโดยไม่ขออนุญาต ส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง ถ้าเป็นการแสดงออกที่สร้างสรรค์ คสช.ก็จะไม่ดำเนินการอะไร แต่ถ้าขัดกับหลักการรักษาความสงบก็อาจจะมีการสื่อสารกับบุคคลนั้นๆ และกรณีของนายสุเทพก็เป็นการแสดงออกในทัศนคติเดิมอยากให้มองที่เนื้อหาไม่ใช่กังวลที่ตัวบุคคล หากใครเห็นว่าการกระทำดังกล่าวขัดกับแนวทางของ คสช.ก็สามารถร้องเข้ามาได้

      เมื่อถามถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ระบุสัปดาห์หน้าจะชวนแกนนำ นปช.เปิดแถลงข่าวเรื่องสถานการณ์นกกรงหัวจุกในประเทศไทยบ้าง พ.อ.วินธัยกล่าวว่า หากจะจัดกิจกรรมให้ขออนุญาตมา คสช.จะพิจารณาดูในรายระเอียดต่อไป ขณะนี้ยังไม่เห็นหนังสือขออนุญาตแต่อย่างใด ที่ผ่านมามีบางคนจัดงานไม่ตรงกับแนวทางที่ขออนุญาตจะมีว่ากล่าวตักเตือนบ้าง 

 

มูลนิธิเทือก จับตาพิมพ์เขียวปฏิรูป 

     นายถาวร เสนเนียม รองประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ กล่าวกรณีพรรคเพื่อไทย ออกมาโจมตีข้อเสนอให้ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งของมูลนิธิฯ จะกระทบกับโรดเเม็ป รัฐบาล ว่า เป็นข้อกล่าวหา ที่ไร้เหตุผล ข้อเสนอนี้เป็นสัญญาประชาคมที่เคยประกาศไว้ โดยไม่ใช่ข้อบังคับที่ใครต้องปฏิบัติตาม ดังนั้นบรรดาคนที่มีความคิดเชื่อมโยงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือใครต่อใครที่ออกมาพูด ขอให้หยุดออกมาให้ร้ายได้แล้ว

     นายถาวร กล่าวว่า จากนี้ไปจะติดตามเฝ้ามองอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศ ที่ สปช.จะทำแล้วเสร็จในวันที่ 13 ส.ค. โดยจะมองห่างๆ ไม่ไปกดดันหรือให้ความคิดเห็นใดๆ ส่วนเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีสปช.บางส่วนวิจารณ์ถึงที่มานายกฯ ที่กำหนดให้มาจากคนนอกได้นั้น ก็เป็นปกติที่มีความเห็นต่าง แต่เห็นว่าการที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้นายกฯ คนนอก ต้องมาจากเสียง 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนราษฎรนั้นไม่ได้มาง่ายๆ คนที่ผ่านเสียงโหวตคนนั้นต้องไม่ธรรมดาจริงๆ คือได้รับการยอมรับอย่างมาก เราจึงไม่ติดใจที่มานายกฯ 

 

สวนโอ๊ค กล่าวหาทวงบุญคุณ

    นายถาวร กล่าวกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุหัวโจกป่วนเมืองผิดคิว ตลกบริโภค ทวงบุญคุณทหาร ส่งใบเสร็จค่าป่วนเมือง 1,000 ล้าน หลังทหารยึดอำนาจเสร็จว่า คนอย่างนายพานทองแท้ เป็นโมฆบุรุษ ไม่อยากตอบโต้หรือให้ราคา สังคมจะตัดสินเองว่าสิ่งที่นายพานทองแท้พูดเป็นพยายามเล่นเกมผ่านสื่อแก้แค้นให้พ่อหรือไม่ หรือเพียงพยายามเบี่ยงประเด็น เพราะคดีของอาสาว ก็กำลังอยู่ในกระบวนการของศาลอีกคดีหนึ่ง

ชมรมสปช.เล็งประชุมใหญ่เลือกปธ.

     นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิก สปช. ในฐานะเลขานุการกมธ.วิสามัญกิจการ สปช. หรือ วิปสปช. กล่าวถึงการจัดตั้งคณะทำงานชมรมสปช. ว่า ขณะนี้ตนทำหน้าที่เป็นประธานชมรม โดยมีนายวันชัย สอนศิริ นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสปช. ร่วมเป็นคณะทำงานชั่วคราว หลังจากที่สปช.ลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญแล้ว จะมีการประชุมใหญ่ครั้งแรกเพื่อเลือกประธาน และเลือกคณะกรรมการชมรมอย่างเป็นทางการ ไม่เกิน 15 คน ทั้งนี้ เราได้มีการประชุม เพื่อจัดทำร่างข้อบังคับเสร็จสิ้นแล้ว และจะมีการรายงานให้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช.รับทราบในวันที่ 6 ส.ค.นี้

เมื่อถามถึงเงินงบประมาณที่จะนำมาใช้เพื่อทำกิจกรรมของชมรม นายอลงกรณ์ กล่าวว่า เราไม่สามารถนำเงินงบประมาณแผ่นดินมาใช้ได้ เพราะสปช.จะหมดวาระหลังโหวตร่างรัฐธรรมนูญ แต่เราจะเสนอให้ทุกคนร่วมกันจ่ายค่าสมาชิกชมรม เพื่อนำเงินมาทำกิจกรรม

 

ค้านปฏิรูปสูตร'สุเทพ'มาร์ค'แย้ง หนุน'บิ๊กตู่'ยึดโรดแมป ยัน'เทือก'ไม่เกี่ยวปชป. 'ไพบูลย์'ลุยล่าชื่อสปช. ดันรัฐบาลอยู่ต่ออีก 2 ปี เสธทบ.ชี้'เต้น'ครึกครื้น ขอแถลง'นกกรงหัวจุก'

     กปปส.ปัดกดดัน'บิ๊กตู่' ให้ตัดสินใจเองปมปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง สปช.เสียงแตก มีทั้งหนุนและให้ยึดโรดแมป โฆษก คสช.ยัน'สุเทพ'ขออนุญาตแถลงข่าว ใครมองว่าผิดให้ร้องได้ ไม่ขัด'เต้น'แถลงนกกรงหัวจุก แนะทำหนังสือขออนุมัติ


มติชนออนไลน์ :


@ 'สุจิต'พอใจยกร่างรธน.ใหม่

    เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม นายสุจิต บุญบงการ รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่ 3 กล่าวถึงความคืบหน้าการยกร่างรัฐธรรมนูญ ว่าขณะนี้เนื้อหาสาระส่วนใหญ่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียง 1-2 ประเด็นเท่านั้นที่อาจจะต้องตัดสินใจกันให้เสร็จภายในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ส่วนบันทึกเจตนารมณ์รายมาตรานั้นเข้าใจว่าจะเสร็จเรียบร้อยครบทุกมาตราภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ดังนั้นขอยืนยันว่า กมธ.ยกร่างฯสามารถยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จทันตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดไว้ได้แน่นอน 

      นายสุจิต กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกพอใจกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แม้จะไม่ตรงกับใจตัวเองทั้งหมด แต่ถือว่ารับได้ เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นแนวความคิดที่ได้รับข้อเสนอมาจากหลายกลุ่ม หลายฝ่าย อาทิ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคการเมือง และประชาชนที่ได้ช่วยกันเสนอเข้ามา

 

@ 'บิ๊กบัง'หนุนคสช.ทำงานให้เสร็จ

        พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิและอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์พิเศษ "มติชน" ถึงการดำเนินงานตามโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าจากสาเหตุที่กระทำรัฐประหารแล้วยกปัญหาต่างๆ ขึ้นมา อาทิ สังคมแตกแยก การสร้างสังคมปรองดอง ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ความยากจน เศรษฐกิจ และอะไรต่อมิอะไร อยากถามว่า คสช.ได้ทำอะไรลงไปแล้วบ้างหรือยัง ขอให้รีบทำในสิ่งที่ได้เคยกล่าวไว้ อย่าทำแค่ 1 ปี แบบการรัฐประหารครั้งก่อน 

      "อยากให้ คสช.ต้องทำงานให้เสร็จ คิดว่าคงจะต้องวางเป็นกรอบโรดแมป อันเป็นกรอบในอนาคตไว้เลยว่าปัญหาคอร์รัปชั่น การซื้อสิทธิขายเสียง ความยากจน จะต้องไม่เกิดขึ้นในสังคมไทย อยากให้คิดตรงนี้ไว้ด้วย การบริหารประเทศเกินโรดแมปจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถ้าอยู่ยาว คสช.ทำอะไรให้ประเทศเกิดความสำเร็จบ้าง ถ้าอยู่สั้นแล้วทำอะไรไม่สำเร็จ จะรัฐประหารเข้ามาทำไม คิดว่า คสช.ต้องทำงานให้เสร็จ ไม่ได้บอกว่าให้อยู่หลายปี เป็นสิบๆ ปี แต่บอกว่าขอให้อยู่ต่อและทำงานให้เสร็จ" พล.อ.สนธิกล่าว

 

@'วันชัย'คว่ำรธน.-เมินเสียงต้าน

      นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) กล่าวถึงการออกมาประกาศคว่ำร่างรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้เท่าที่ดู สปช.แต่ละคนยังสงวนท่าทีอยู่ ไม่แสดงออกชัดเจน เพราะแต่ละคนบอกจะรอดูร่างรัฐธรรมนูญก่อน หลังวันที่ 21-22 สิงหาคมนี้ คงจะเกิดความชัดเจนขึ้น แต่ขณะนี้มีแลกเปลี่ยนพูดคุยกันหลากหลายกลุ่มอยู่ แต่ที่จะตัดสินใจชัดเจนเหมือนตนนั้นยังไม่ได้ปรากฏตัว แม้ว่าจะมีอย่างน้อย 2 กลุ่มนี้ค่อนข้างชัดเจน คือกลุ่มปฏิรูปการเมืองและกลุ่มปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

       ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นจริง กังวลว่าจะเกิดแรงต้านจากสังคมหรือไม่ นายวันชัยกล่าวว่า ไม่กลัว เพราะว่าข้อเท็จจริงนั้น เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีข้อบกพร่อง ฉะนั้นจะยอมให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านไปโดยมีข้อบกพร่องไม่ได้ ไม่ว่าจะที่มาของนายกรัฐมนตรี ส.ส.หรือ ส.ว. ซึ่งถือเป็นหัวใจหลัก ฉะนั้นในฐานะที่เป็น สปช. จะต้องทำภารกิจให้ร่างรัฐธรรมนูญออกมาดีที่สุด 

 

@'ธีรยุทธ์'ห่วงปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

       นายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์ ประธาน กมธ. ปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน สปช. กล่าวกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน สปช.และ กมธ.ยกร่างฯ เตรียมเสนอตั้งคำถามทำประชามติให้ปฏิรูปประเทศก่อนจัดการเลือกตั้งว่า เป็นความเห็นส่วนตัวของนายไพบูลย์ แต่หากถามตนเกี่ยวกับประเด็นนี้ ต้องบอกว่าไม่รู้สึกบวกหรือลบ เพราะส่วนตัวเห็นใจ เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ยังไม่เรียบร้อย หากเลือกตั้งเร็วเกินไปก็ไม่แน่ใจว่าทุกอย่างจะไม่กลับไปเหมือนเดิมอีก ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ต้องระมัดระวังและคิดให้รอบคอบ

นายธีรยุทธ์กล่าวว่า สิ่งสำคัญในช่วงเวลานี้คือ หน่วยงานแต่ละส่วนต้องดำเนินการและจัดทำภารกิจตามที่ คสช.ได้วางแนวทางไว้ โดย สปช.ต้องรีบดำเนินการในเรื่องของการศึกษา วิเคราะห์ เสนอแนะ เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศให้สำเร็จโดยเร็ว ส่วน กมธ.ยกร่างฯ ต้องทำหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญให้ออกมาดีที่สุด ขณะที่ สนช.ต้องดูแลเรื่องการออกกฎหมายให้เร็วและดีที่สุดเช่นกัน ส่วนอนาคตหลังจากนี้ไปเกี่ยวกับการวางแนวทางการขับเคลื่อนการปฏิรูป เพื่อการรองรับการเลือกตั้งและรัฐบาลใหม่นั้น ทางรัฐบาลและ คสช.ต้องคิดให้รอบคอบ เพื่อให้มีหลักประกันว่าอนาคตของประเทศจะออกมาในทางที่ดี 

@ "ไพบูลย์"ล่าชื่อให้ปฏิรูปก่อน

       นายไพบูลย์ นิติตะวัน กมธ.ยกร่างฯ กล่าวถึงกรณีการยื่นข้อเสนอปฏิรูปประเทศ 2 ปี ก่อนการเลือกตั้งว่า คงทำเป็นหนังสือคล้ายการเสนอญัตติเพื่อให้เพิ่มคำถามในส่วนที่จะทำประชามติว่า ให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง 2 ปี โดยต้องเสนอคำถามไปให้ สปช.พิจารณาในวันเดียวกับที่ สปช.จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ หาก สปช.เห็นด้วยก็จะเป็นอีกคำถามในการทำประชามติ ทั้งนี้ หากประชาชนเสียงข้างมากเห็นด้วยให้ทำการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ก็จะมีผลต้องปรับร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการทำประชามติ

       "ผมจะตั้งคำถามนี้ โดยรวบรวมเสียงของสมาชิก สปช. คาดว่าจะมีหลายเสียงเห็นด้วย จากนั้นจะรวบรวมรายชื่อในวันที่ 3 สิงหาคม และคาดว่าจะเสร็จในวันที่ 5 สิงหาคม และยื่นให้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.ได้ในวันที่ 6 สิงหาคม" นายไพบูลย์กล่าว และว่า เชื่อว่าการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งอาจส่งผลดีกว่าเร่งรัดให้มีการเลือกตั้งเพราะความขัดแย้งยังอยู่ แต่ผลจะออกมาเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับการทำประชามติ

 

@ "ดิเรก"แนะยึดตามโรดแมป

       นายดิเรก ถึงฝั่ง รองประธาน กมธ.ปฏิรูปการเมือง สปช. กล่าวกรณีมีข้อเสนอคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้รัฐบาลและ คสช.ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ว่าการตัดสินใจโหวตรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ต้องดูเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญเป็นหลัก ขอยืนยันว่าเรื่องนี้คงไม่ให้ใครมาครอบงำการตัดสินใจได้ เพราะประเด็นนี้ได้พูดมาตั้งแต่เริ่มต้นการยกร่างรัฐธรรมนูญแล้วว่ายึดเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญเป็นหลัก โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาได้มีการเสนอความคิดเห็นต่างๆ ต่อ กมธ.ยกร่างฯไป ดังนั้น การตัดสินโหวตรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะไม่มีใครมาครอบงำได้โดยเด็ดขาด หากร่างรัฐธรรมนูญออกมาดีก็พร้อมจะโหวตรับ แต่หากออกมาไม่ดีก็คงจะไม่โหวตรับ 

       นายดิเรก กล่าวว่า กรณีมีการเสนอให้มีการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งนั้น ย้ำว่าไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ เพราะควรจะยึดตามโรดแมปของ คสช. หากไม่ยึดตามโรดแมปเกรงว่าปัญหาอื่นๆ จะตามมาอีกมากมาย การตัดสินใจใดๆ ต้องมีสติและต้องยึดรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของบ้านเมือง

 

@ "มนูญ"หนุนปฏิรูปก่อนลต. 

         นายมนูญ ศิริวรรณ สปช.ด้านพลังงาน กล่าวถึงข้อเสนอให้มีการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ว่าก่อนหน้านี้ทางกลุ่มของตนได้เคยเสนอต่อ กมธ.ยกร่างฯว่าหากมีการทำประชามติก็ควรถามความคิดเห็นของประชาชนไปด้วยว่า เห็นด้วยกับการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งหรือไม่ ดังนั้น ถ้าหากมีการเสนอประเด็นนี้ต่อที่ประชุม สปช. ก็คงจะยืนยันหลักการในการเสนอแนวทางดังกล่าวเช่นเดิม ส่วนกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน สปช.ด้านการเมือง เตรียมล่ารายชื่อ สปช.เพื่อสนับสนุนแนวทางดังกล่าวนั้น เบื้องต้นได้มีการคุยกันในหลักการว่าจะร่วมมือเสนอแนวทางการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งเท่านั้น แต่ยังไม่ได้คุยในรายละเอียดว่าจะดำเนินการกันอย่างไร 

       เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่มีการเสนอให้ สปช.คว่ำร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้รัฐบาลและ คสช.ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง นายมนูญกล่าวว่า คิดว่าการจะคว่ำหรือไม่คว่ำนั้นต้องดูที่เนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญก่อน การไปบอกว่าจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้รัฐบาลอยู่ต่อไปหรือจะคว่ำเพื่อไม่ให้มีการทำประชามตินั้น คงไม่เป็นเหตุผลที่เพียงพอ

 

@ "พิชัย"ชี้ปฏิรูปก่อนทำศก.ทรุด 

      นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน การส่งออกลดลงมาก ตัวเลขการลงทุนล่าสุดก็ลดลงอีก ขนาดแบงก์ชาติยังออกมายอมรับว่าเศรษฐกิจทั้งปีจะโตไม่ถึง 3% ตามที่ได้เตือนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่กลุ่มบุคคลที่ปิดกรุงเทพฯ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจแก่ประเทศอย่างใหญ่หลวง แถมยังมาประกาศแบบไม่สำนึกอีกที่จะออกมาทำร้ายประเทศต่อไป โดยเรียกร้องให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เป็นแนวคิดเพียงเพื่อต้องการให้รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากระบอบประชาธิปไตยอยู่ต่อไปนานๆ จะทำลายความน่าเชื่อถือของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และอาจนำไปสู่การกีดกันทางการค้าจากต่างประเทศเพิ่มเติม หลังจากโดนไปหลายด้านแล้ว และจะทำให้เศรษฐกิจทรุดตัวลงอีก 

        "จะทำอย่างไรให้คนเหล่านี้สำนึกได้ ถ้ามวลมหาประชาชนยังจะหน้ามืดตามัวจนมองไม่ออกและยังหลงเชื่อคนกลุ่มนี้ ประเทศนี้คงจะถูกลงโทษต่อไปและประชาชนจะลำบากยิ่งขึ้น นับเป็นตรรกะวิบัติอย่างแท้จริง ถ้าประชาชนคิดกันได้ นอกจากจะต้องไม่สนับสนุนแล้ว ยังควรจะต้องลงโทษคนกลุ่มนี้ เพื่อสร้างตรรกะและบรรทัดฐานที่ถูกต้องให้กับประเทศ" นายพิชัยกล่าว

 

@ พท.ยันปล่อยเคลื่อนเกมแรงขึ้น 

        นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ในรูปแบบมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ว่าการออกมาเคลื่อนไหวของ กปปส.ครั้งนี้ ผู้มีอำนาจชี้ว่าสามารถดำเนินการได้ ต่อจากนี้จะมีมูลนิธิต่างๆ เกิดขึ้น และจะเดินตามรอยนี้ ขอตั้งโต๊ะแถลงข่าวทุกวัน พรรคการเมือง สถาบันการเมือง จะหมดความหมาย เพราะขยับอะไรไม่ได้ แต่มูลนิธิทำได้ ทั้งๆ ที่พูดเรื่องการเมืองชัดเจน ผู้มีอำนาจกลับมองไม่เห็นว่าเป็นการเมือง ตราบใดที่กรรมการยังเป็นแบบนี้ เชื่อว่าเกมจะรุนแรงขึ้น เพราะคนดูจะเห็นเองว่าฝ่ายหนึ่งทำอะไรก็ผิด ตรงกันข้ามกับอีกฝ่ายหนึ่งทำอะไรก็ไม่ผิด 

      นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงลองไปย้อนดูกรณี พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สปช. ระบุมีสองพรรคการเมืองลงขันล้มรัฐบาล และจะเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้น หมายถึงพรรคไหน กลุ่มไหน หรือเจตนาจะสื่อสารถึงกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ ถ้าการเคลื่อนไหวของ กปปส.ครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ที่วางแผนร่วมกันมาเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อจะต่อเวลาอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด ก็ถือว่าเป็นขบวนการรวมหัวกันต้มบันลือโลก แต่หาก กปปส.เคลื่อนไหวเองเพื่อหวังจะวางบิลทวงบุญคุณ ที่ทำให้ผู้มีอำนาจชุดปัจจุบันเข้าสู่ตำแหน่ง เชื่อว่าจะมีมหกรรมวางบิลกันอย่างมโหฬาร ทางที่ดี คสช.ควรเคลียร์จุดยืนและระยะห่างกับ กปปส.ให้ชัด เพราะงานนี้มีแต่เสียกับเสีย

 

@ "สมคิด"ซัดกลัวแพ้เลือกตั้ง

      นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พท. ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอของนายสุเทพ ที่ให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้งโดยไม่จำกัดเวลาว่า ถ้าใช้เวลาถึง 15 ปี เพื่อทำการปฏิรูปจะทำอย่างไร จึงขอให้นายกรัฐมนตรียึดคำพูดตามโรดแมป อย่าให้คนเพียงคนเดียวหรือกลุ่มเดียวมากดดันสั่งการหรือควบคุมการทำงาน มิฉะนั้นประเทศคงไม่ไปไหน ส่วนที่อ้างว่าเพื่อไม่ให้มีนักการเมืองหน้าเก่ากลับมานั้น ควรมองคนรอบตัวนายสุเทพที่ล้วนเป็นนักการเมืองหน้าเก่า ความคิดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ากลัวที่จะแพ้การเลือกตั้ง จึงออกมาตีปลาหน้าไซก่อนใช่หรือไม่ เพราะในระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะหน้าเก่าหรือใหม่ เมื่อประชาชนเลือกเข้ามาแล้วต้องยอมรับ 

       นายสมคิด กล่าวต่อว่า สำหรับ สปช.บางคนที่ออกมาสนับสนุนแนวคิดของนายสุเทพ หรือสนับสนุนให้ สปช.ลงมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนนั้น น่าจะเคยชินกับการที่ได้รับสรรหามาตลอด จึงกลัวที่จะมีการเลือกตั้ง ที่ผ่านมา พท.เงียบมาตลอด รอดูรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะออกมาและเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง พร้อมกับติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างสงบ เพราะยังเชื่อว่ารัฐบาลจะทำตามโรดแมป

 

@ "เอกนัฏ"ปฏิเสธกดดัน"บิ๊กตู่"

     นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขานุการมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ตามคาด เหล่าบรรดาสมุน ทั้งลูกพรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. เต้นเป็นจังหวะเดียวกันเหมือนเงาตามตัว กลัวจนร้องเสียงหลง ปล่อยไก่ไปตามๆ กัน แต่ต้องขอบคุณที่ช่วยพิสูจน์ให้สังคมได้เห็นถึงความสำคัญของมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ จนต้องเรียงตัวกันออกมาสกัดกั้นขนาดนี้ เห็นทีดีกรีต้องไม่ธรรมดา โฆษณาให้ฟรีๆ จริงๆ เรื่อง "ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง" พวกเราพูดกันมานาน เพราะเชื่อว่าถ้าต้องการปฏิรูปอย่างแท้จริง ไปหวังพึ่งนักการเมืองที่เห็นแก่ตัวคงไม่ได้ แล้วจะเกิดแต่ปัญหาเดิมๆ 

"แต่ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ไม่ใช่เลื่อนการเลือกตั้ง หรือปรับโรดแมป ไม่ใช่อำนาจของเราด้วย เป็นดุลพินิจของ คสช. เหมือนถ้าอาจารย์บอกว่า ทำการบ้านให้เสร็จก่อนส่ง มันก็หมายถึงต้องทำการบ้านให้เสร็จแล้วส่งให้ตรงเวลา ไม่ได้หมายถึงให้เลื่อนกำหนดส่งการบ้าน ยกตัวอย่างแบบนี้คงชัดเจน เราอยากเห็นความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมก่อนการเลือกตั้งที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ซึ่ง คสช.ก็พยายามที่จะขับเคลื่อนทุกอย่างให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งอยู่แล้ว" นายเอกนัฏระบุ

 

@ "ถาวร"ไม่ติดใจนายกฯคนนอก

       นายถาวร เสนเนียม รองประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ กล่าวว่า จากนี้ไปจะติดตามเฝ้ามองอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศ ที่ทาง สปช.จะทำแล้วเสร็จในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ โดยจะมองห่างๆ ไม่ไปกดดันหรือให้ความคิดเห็นใดๆ ส่วนเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ ที่มี สปช.บางส่วนวิจารณ์ถึงที่มานายกฯ ที่กำหนดให้มาจากคนนอกได้นั้น ก็เป็นปกติที่มีความเห็นต่าง แต่เห็นว่าการที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้นายกฯ คนนอก ต้องมาจากเสียง 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนราษฎรนั้นไม่ได้มาง่ายๆ คนที่ผ่านเสียงโหวตคนนั้นต้องไม่ธรรมดาจริงๆ คือได้รับการยอมรับอย่างมาก 

"เราไม่ติดใจที่มานายกฯ เพราะตัวอย่างมีให้เห็นว่า นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาโกง ทุจริตจำนำข้าวก็มี นักการเมืองที่เป็นตัวอย่างที่ดี แต่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็มี ทั้ง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หรือนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ" นายถาวรกล่าว

 

@ 'มาร์ค'จี้คสช.ยึดโรดแมป 

      นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ที่สนามฟุตบอลซุปเปอร์คิก ลาดพร้าว กรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมืองให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง ว่ารัฐบาลควรจัดอันดับความสำคัญของการปฏิรูปที่เป็นรูปธรรมให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้งมากกว่า เช่น จะทำอย่างไรให้มีการเลือกตั้งโดยสุจริตเที่ยงธรรม ไม่ใช่ให้ปฏิรูปเกือบทุกเรื่อง เพราะการปฏิรูปต้องอาศัยระยะเวลา และเชื่อว่าสังคมจะกดดันให้นักการเมืองสานต่องานปฏิรูป ดังนั้น คสช.ควรยึดการดำเนินการตามโรดแมปที่วางไว้ และเชื่อว่าสังคมจะเห็นด้วย เพราะขณะนี้เกิดความสับสนในเรื่องปฏิรูปที่ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นความขัดแย้ง

      "ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส.ไม่เกี่ยวกับ ปชป. แต่มีจุดยืนเรื่องการปฎิรูปที่เหมือนกัน เช่น การปฏิรูปเรื่องการศึกษา หากทำได้จะเป็นผลดีกับบ้านเมือง" นายอภิสิทธิ์กล่าว

       ผู้สื่อข่าวถามว่า สมาชิก กปปส.จะกลับเข้าสังกัด ปชป.ได้หรือไม่ หากมีการเลือกตั้งแล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สมาชิก กปปส.ที่เคยเป็นนักการเมืองมาก่อน สามารถทำได้ เพราะมีเพียงนายสุเทพคนเดียวเท่านั้นที่ได้ประกาศไว้ชัดเจนแล้วว่าจะไม่กลับมาเล่นการเมืองอีก

 

@ คสช.แจง'สุเทพ'ขออนุญาต

       พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ให้สัมภาษณ์กรณีนายสุเทพ แถลงข่าวเปิดตัวมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ว่าการจะจัดกิจกรรมใดๆ ต้องระมัดระวังไม่พูดในลักษณะสร้างเงื่อนไข ดังนั้นจึงมีการกำหนดหลักการว่า จะทำกิจกรรมอะไรต้องขออนุญาต คสช.มาก่อน หากพิจารณาแล้วไม่เป็นการแสดงออกที่ขัดกับความสงบก็สามารถดำเนินการได้เหมือนที่ผ่านมา แต่จะมีเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์ 

      "กรณีของนายสุเทพ มีการขออนุญาตมาก่อนแล้ว แต่ในหลายกรณีก็มีการแสดงออกโดยไม่ขออนุญาต ส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง ถ้าเป็นการแสดงออกที่สร้างสรรค์ คสช.จะไม่ดำเนินการอะไร แต่ถ้าขัดกับหลักการรักษาความสงบก็อาจจะมีการสื่อสารกับบุคคลนั้นๆ และกรณีของนายสุเทพ เป็นการแสดงออกในทัศนคติเดิม อยากให้มองที่เนื้อหา ไม่ใช่กังวลที่ตัวบุคคล หากใครเห็นว่า การกระทำดังกล่าวขัดกับแนวทางของ คสช.ก็สามารถร้องเข้ามาได้" พ.อ.วินธัยกล่าว

 

@ รอ"เต้น"ยื่นหนังสือขอแถลงข่าว

         ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่าในสัปดาห์หน้าจะชวนแกนนำ นปช.เปิดแถลงข่าวเรื่องสถานการณ์นกกรงหัวจุกในประเทศไทยบ้าง พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นหนังสือขออนุญาต ถ้าจะจัดกิจกรรมก็ให้ขออนุญาตเข้ามา ปกติมีขออนุญาตมาเรื่อยๆ ทาง คสช.ต้องให้ผู้รับผิดชอบโดยตรงเป็นผู้พิจารณาต่อไป ที่ผ่านมามีบางคนจัดงานไม่ตรงกับแนวทางที่ขออนุญาต ก็มีว่ากล่าวตักเตือนบ้าง แต่ในระยะหลังหากรู้ก่อนว่าในกิจกรรมที่จะจัดนั้นจะต้องแจ้งมาให้เจ้าหน้าที่ร่วมพิจารณาเนื้อหาด้วย

ด้าน พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) และเลขาธิการ คสช. กล่าวถึงกรณีของนายณัฐวุฒิ จะจัดแถลงสถานการณ์นกกรงหัวจุกว่า ขอเห็นหนังสือขออนุญาตก่อน คงไม่มีอะไร อาจเป็นการแหย่กันเล่นมากกว่า ครึกครื้นดี แต่คิดว่าคงไม่ส่งขออนุญาตมา

 

@ "ธิดา"ชี้"ณัฐวุฒิ"แค่เตือนคสช.

       นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษา นปช. กล่าวว่า นายณัฐวุฒิพูดประชด เบี่ยงเบนประเด็นการเมืองให้เป็นเรื่องขบขัน ใครจะมาพูดเรื่องนกกรงหัวจุก เพราะปกติอำกันตลอดเวลา การกล่าวแบบนี้เพื่อสื่อว่า คสช.มีมาตรฐานเดียวในการห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือเปล่า นายณัฐวุฒิจึงชวนแกนนำเสื้อแดงออกมาแถลงเรื่องอะไรก็ได้ที่อ้างว่าไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นการใช้ท่วงทำนองที่ขบขัน ล้อเลียน เพื่อเตือนให้รู้ว่า คสช.ใช้มาตรฐานเดียวกันหรือเปล่าระหว่างคนต่างกลุ่ม

"ความจริงคือ เราไม่ต้องการทำให้บรรยากาศเคร่งเครียด แต่ต้องการเตือนสติให้รู้ว่า มีคนมองดูอยู่ ในขณะที่ทุกคนรู้ว่าคุณพูดเรื่องการเมือง แต่ทำไมยังบอกว่าไม่เกี่ยว ต้องเข้าใจว่า นี่เป็นการเล่นละคร จะให้คนดูเข้าใจไปตามนั้น เป็นไปไม่ได้ นายณัฐวุฒิจึงพูดเรื่องนกกรงหัวจุกไป" นางธิดากล่าว

 

@ ให้ทุกฝ่ายจับตา"สุเทพ"เคลื่อน

      นางธิดากล่าวถึงกรณีการลาสิกขาบทของนายสุเทพ ตามด้วยการแถลงข่าวมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ ว่าเคยเขียนบทวิเคราะห์ในเฟซบุ๊กก่อนที่นายสุเทพจะสึกและแถลงข่าวแล้ว โดยนายสุเทพพูดเหมือนอย่างที่วิเคราะห์ไว้ หมายความว่า รู้ว่านายสุเทพจะทำอะไร แต่นายสุเทพกลัวคนไม่รู้จึงรีบออกมาแสดงตัวทันทีว่าจะมีบทบาทอย่างไร 

นั่นคือ "ลุงกำนันมาแล้ว" สลัดผ้าเหลืองออกแล้วใส่เครื่องแบบทันที แสดงความยิ่งใหญ่ ซึ่งมีสองมุมคือ เขายิ่งใหญ่หรือเราคิดไปเอง ต้องให้สังคมดู คสช.ดู คนที่เคยเป็น กปปส. และประชาชนทั่วไปดูเอง แม้ทหารเองอาจปฏิเสธว่าไม่ใช่พวกเดียวกับ กปปส. แต่ กปปส.เองบอกตลอดเวลาเป็นพวกเดียวกับทหาร 

"ดูท่าทีของพวก สปช.คงให้ความสำคัญกับการแถลงของนายสุเทพ เด้งรับเป็นแถว อาจจะเห็นด้วยและอยู่อย่างนี้นานๆ จัดการเลือกตั้งเมื่อเห็นว่าฝั่งตัวเองชนะแน่นอน จะแก้รัฐธรรมนูญจนกว่าจะแน่ใจว่าฝั่งของตัวเองชนะ หรืออีกฝั่งตายไปหมด ทั้งติดคุกหรือถูกปรับเป็นแสนล้าน ซึ่งเรารู้ตั้งแต่ต้นว่ารัฏฐาธิปัตย์ แล้วเรียกให้ข้าราชการมารายงานตัวยังทำได้เลย ส่วนตอนนี้เกินเลยหรือไม่ต้องให้ประชาชนตัดสิน" นางธิดากล่าว

 

@ "ตู่"จวก"สุเทพ"ทำ"บิ๊กตู่"เสีย

      นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า เจตนาของนายณัฐวุฒิที่พูดนั้นเพื่อให้ คสช.ได้คิดว่า อะไรก็ตามที่จะมาสร้างเหตุให้กระทบกระเทือนความรู้สึกว่าสองมาตรฐาน ไม่มีประโยชน์อะไร ที่ผ่านมาแต่ละฝ่ายต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเพื่อให้ประเทศพ้นวิกฤตไปได้ แต่การให้โอกาสกับพวกที่แสดงตนมาตลอดว่าเป็นพวกของ คสช. และพยายามจะพูดว่าห้ามสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่ในทางปฏิบัติกลับไม่มีเลย พูดมาตั้งแต่แรกว่า อย่าไปห้าม ควรให้นายสุเทพพูดเรื่องการเมืองได้เต็มที่ เพราะแม้ห้ามนายสุเทพก็พูดอยู่ดี แต่ฝ่ายที่เสียคือ คสช. เพราะห้ามไม่ได้ 

"ยิ่งนายสุเทพพูดเป็นคำสั่งให้ปฏิบัติคือ ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง อยู่ในอำนาจอย่างไม่จำกัดตลอดเวลา ความกระอักกระอ่วนจึงตกไปอยู่ที่นายกฯและหัวหน้า คสช.ที่เป็นรัฏฐาธิปัตย์ มีอำนาจแท้จริง การพูดของนายสุเทพจึงทำให้สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์สูญเสียไป โดยนายสุเทพเคยประกาศเป็นรัฏฐาธิปัตย์ก่อนหน้านี้ ปัญหาคือ พล.อ.ประยุทธ์อยู่หัวแถวตลอด เมื่อนายสุเทพมา พล.อ.ประยุทธ์จะไปอยู่ตรงไหน" นายจตุพรกล่าว 

 

@ ยัน"นปช."ยังไม่เคลื่อนไหว

       นายจตุพรกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ คสช.ต้องชี้แจง สถานการณ์ปัจจุบันก็ยากลำบากอยู่แล้ว สิ่งที่นายสุเทพแสดงความเห็นมีวัตถุประสงค์อย่างไร คสช.น่าจะรู้สึกได้ อยู่ที่ว่า คสช.จะมองปัญหานี้อย่างไร ไม่ใช่แค่การให้ความคิดเห็น ที่ผ่านมาบุคคลอื่นๆ ให้ความร่วมมือทุกครั้งเวลาถูกเรียกปรับทัศนคติ สภาพ คสช.จึงเหมือนจะหัวเราะก็ไม่ใช่ ร้องไห้ก็ไม่เชิง ทั้งนี้ ไม่แปลกใจว่าเหตุใด คสช.ต้องออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ

นายจตุพรกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศล้มเหลวขนาดนั้นเลยหรือ จึงต้องให้คนมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯไปทำหน้าที่แทน แต่ละประเทศจะมองรัฐบาลอย่างไรว่าประเทศนี้อยู่ใต้คำสั่งมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ ไม่มีที่ใดในโลก น่าจะมีประเทศไทยประเทศเดียว อย่างไรก็ตาม นปช.จะอยู่ในที่ตั้งเหมือนเดิม ใจเย็นๆ สบายๆ ความกดดันทั้งปวงอยู่ที่คนที่นำจนทำให้ประเทศเป็นแบบนี้ ไม่ได้อยู่ที่ นปช.

 

@ "จ้อน"นั่งประธานชมรมสปช.

       นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิก สปช. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) กล่าวถึงการจัดตั้งชมรม สปช.ว่า ขณะนี้ทำหน้าที่เป็นประธานชมรม มีนายวันชัย สอนศิริ นายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิก สปช. ร่วมเป็นคณะทำงานชั่วคราว โดยหลังจากที่ สปช.ลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญแล้ว จะมีการประชุมใหญ่ครั้งแรกเพื่อเลือกประธานและเลือกคณะกรรมการชมรมฯอย่างเป็นทางการ ไม่เกิน 15 คน ทั้งนี้ ได้มีการประชุมเพื่อจัดทำร่างข้อบังคับเสร็จสิ้นแล้ว และจะมีการรายงานให้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. รับทราบในวันที่ 6 สิงหาคมนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เงินงบประมาณที่จะนำมาใช้เพื่อทำกิจกรรมของชมรมฯมาจากไหน นายอลงกรณ์กล่าวว่า ไม่สามารถนำเงินงบประมาณแผ่นดินมาใช้ได้ เพราะ สปช.จะหมดวาระหลังโหวตร่างรัฐธรรมนูญ แต่จะเสนอให้ทุกคนร่วมกันจ่ายค่าสมาชิกชมรมเพื่อนำเงินมาทำกิจกรรม

 

@ "คุณหญิงหน่อย"ปัดร่วมครม.

     คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ที่วัดมหาธาตุราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ ถึงกระแสข่าวถูกทาบทามให้เข้าร่วมรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าข่าวนี้ไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ ไม่ทราบว่าใครไปพูดอะไรไว้ ยืนยันว่าไม่เคยเข้าร่วมประชุม 5 ส. 4 ส. และไม่เคยไปประชุมที่เขาใหญ่ตามที่ข่าวออกมา หรือแม้ข่าวที่ระบุว่าไปพบคนแดนไกลที่สิบสองปันนาก็ไม่เป็นความจริง ขณะนี้อยู่อย่างสงบ เจียมเนื้อเจียมตัว และขอย้ำว่า ถ้าจะหยุดหรือจะเดินต่อทางการเมือง ขอให้เป็นไปตามแนวทางประชาธิปไตย 

        คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวชื่นชมการทำงานของตนในงานแต่งงานของลูกชายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา คสช.นั้น เชื่อว่า นายกฯทักทายในฐานะคนรู้จัก ไม่มีนัยยะทางการเมือง ขณะที่กระแสข่าวที่ว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) จะสนับสนุนให้เป็นผู้นำพรรคคนต่อไปนั้น ยืนยันว่าไม่มี 

       ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้า พท.จะให้ขึ้นเป็นผู้นำพรรคอย่างเป็นทางการ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า "ยังไม่มีอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ยังไม่ได้ไปพูดกับใคร ฝั่งหนึ่งว่า พท.ดัน ฝั่งหนึ่งว่าทหารดัน ยังงงๆ ตัวเองว่าตกลงเป็นอย่างไร ยังไม่รู้ว่าจะดันตัวเองไปทางไหน ยังไม่มีใครมาคุยด้วยสักคน วันนี้เท่ากับว่ามีแต่ข่าวลือทั้งนั้น ลอยมาตามลม ขอให้เราตั้งสติดีๆ เอาบ้านเมืองให้รอดก่อน"

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!