WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

4ก.ย


'ตู่'โต้ไม่มี แบ่งแยกปกครอง '
หม่อมอุ๋ย'ข้าใจผิดเอง วิษณุแจงทหารนั่งรมต. ก็แค่ข้าราชการบำนาญ กมธ.ส่งร่างให้สปช.แล้ว

      'บิ๊กตู่' แจงแบ่งแยก ชี้ 'หม่อมอุ๋ย'เข้าใจผิด เหตุถูกจับตามอง ยันให้เกียรติม.ร.ว.ปรีดิยาธรเสมอหงุดหงิดถูกถามบิ๊กทหารเต็มครม. ลั่น'ตู่ 3' ขับเคลื่อนเรื่องตปท. 'บิ๊กต๊อก'ปัดวิจารณ์'อุ๋ย'แต่สงสัยตรงไหนที่แบ่งแยกแล้วปกครอง 'บวรศักดิ์'วอนให้ดูภาพรวม'รธน.'ขู่ถ้าคว่ำ-ต้องเลื่อนเลือกตั้ง ศาลนัด 4 ก.ย. ชี้คดี'นพดล'ลงนาม

บิ๊กตู่แจงวุ่นปม'อุ๋ย'งอน

 

วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9033 ข่าวสดรายวัน

 


หยอกสื่อ- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นำงูหลามขนาดใหญ่มาคล้องคอ พร้อมหยอกล้อกับผู้สื่อข่าว ระหว่างร่วมงานวัน ครบรอบสถาปนา 65 ปี ค่ายนวมินทราชินี ร.21 รอ. ที่ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 21 ส.ค.

 

    เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์(ร.21 รอ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ออกจากรองนายกฯว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธรงอนตนก็ไม่เป็นไร ส่วนที่บอกว่าไม่ชอบการแบ่งแยกและปกครองนั้น คงมองว่าอาจจะถูกกลุ่มที่ปรึกษาจับตามองอยู่ทุกขณะ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรอาจจะไม่เข้าใจ ซึ่งตนก็ไม่ได้อธิบายเรื่องนี้ จะเห็นว่าในรัฐบาลก่อนหน้านี้ก็มี และทุกรัฐบาลก็มีกลุ่มที่ปรึกษา เพียงแต่ตนจะใช้เขาอย่างไร ไม่ว่าที่ปรึกษาคสช. หรือครม. ตนไม่ต้องเข้าไปประชุมกับเขา จะเข้าต่อเมื่อมีความจำเป็น ที่ปรึกษามีหน้าที่สรุปประเด็นส่งมาให้กับตน และเขาไม่เคยโจมตีใครเลยว่าตรงนี้ผิดหรือตรงนี้ต้องไปต่อต้านก็ไม่เคย 

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เพียงแต่ม.ร.ว. ปรีดิยาธรอาจไม่เข้าใจตรงนี้ เพราะท่านถูกรุมเยอะ จะไม่ว่าด้วยอะไร ตนก็ไม่รู้จะพูดอะไร แล้วสื่อก็ไปร่วมกับเขาด้วย การปรับครม.ครั้งนี้ไม่ใช่การปรับที่ดีที่สุด ในระยะที่ 1 ก็ทำดีอยู่แล้ว ทุกคนทำดีหมด ได้เริ่มต้นท่ามกลางความขัดแย้ง รวมถึงปัญหาที่มีความซับซ้อนในระบบการบริหารจัดการ ซึ่งมีประสิทธิภาพขึ้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธรทำเรื่องเศรษฐกิจมหภาค เรื่องต่างประเทศต่างๆ นายสมหมาย ภาษี เป็นผู้ดำเนินการเรื่องภาษีทั้งหมด นั่นคือระยะที่ 1 "และที่ผ่านมาผมให้เกียรติท่านเสมอ"

 

ไม่สนบิ๊กทหารนั่งรมต.อื้อ

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เมื่อมีครม. ชุดที่ 2 ก็จะสรุปแนวทางของชุดที่ 1 เพื่อให้ชุดที่ 2 รับทราบและเดินต่อ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง เพียงแต่เน้นเรื่องการต่างประเทศ การเปิดตลาด คือการขับเคลื่อนเกี่ยวกับ การปฏิบัติให้มากขึ้น ที่ผ่านมาอาจจะเน้นเรื่องการแก้ไขกฎหมายลดขั้นตอนเวลา วันนี้สิ่งต่างๆ เหล่านั้นเสร็จหมดแล้ว พอมาถึงจุดที่ 2 ต้องมาตามไล่บี้กันอยู่ทุกวันเพื่อให้เศรษฐกิจดีขึ้น ที่สำคัญตอนนี้คือเศรษฐกิจระดับล่างมีปัญหาเงินใช้จ่ายมีน้อย 

เมื่อถามว่าครม.ชุดนี้มีทหารเยอะ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า มีเยอะแล้วเป็นอย่างไร และที่ไม่มีทหารสักคนแล้วเป็นอย่างไร ในระยะที่ 2 ตนต้องการปรับภาพลักษณ์ ทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดีขึ้น และการที่รัฐมนตรีทหารต้องไปอยู่กระทรวงด้านเศรษฐกิจ ตนก็ปรับออกมาเท่านั้น ประกอบกับครม.ชุดที่ 3 เข้ามา ตนก็สรุปแผนงานระยะที่ 1 ให้ครม.ชุดใหม่ได้รับทราบเพื่อจะให้เกิดความต่อเนื่อง

 

ลั่น'ตู่ 3'ขับเคลื่อนเรื่องตปท.

     ที่โรมแรมดุสิต พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานนายกฯพบนักธุรกิจญี่ปุ่น ที่มีนักธุรกิจและสมาคมไทย-ญี่ปุ่น หอการค้าญี่ปุ่นเข้าร่วมฟังตอนหนึ่งว่า ตอนนี้มีครม.ชุด 3 ซึ่งครม.ชุด 1 และ 2 ทำมาดีแล้ว ในช่วงเวลา 13 เดือน รัฐบาลได้เดินหน้าหลักการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งครม.ชุดที่ 3 รอเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่น่าเกินสัปดาห์หน้า 

     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในระยะ 3 จะเน้นการขับเคลื่อนด้านการต่างประเทศ สร้างความเข้มแข็ง เน้นความเป็นเพื่อนกันในครอบครัวอาเซียน สถานการณ์ที่ผ่านมาตอนปี 2557 เศรษฐกิจของไทยชะลอตัว ต้องเห็นใจตน และตนรับราชการทหารมา 30 ปีช่วยทุกรัฐบาล เพราะวิกฤตทางการเมืองทำให้กระทบทุกอย่าง งบประมาณเบิกจ่ายไม่ได้ กลายเป็นรัฐบาลไม่มีอำนาจเต็ม ฉะนั้นวิธีเดียวของประเทศไทยคือ ต้องทำแบบที่ตนทำมา เพื่อผลักดันให้ใช้งบประมาณได้ โครงการต่างๆ ค้างการอนุมัติ คิดเป็นเงินกว่า 7 แสนล้านบาทไม่ได้รับการอนุมัติเลย ต่อไปนี้คาดโทษทั้งหมด 

 

ยันใช้อำนาจสร้างสรรค์

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาฟื้นฟูภาพลักษณ์ รวมถึงการรักษาความสงบเรียบร้อย เดินตามโรดแม็ปจนเข้าสู่ระยะที่ 3 ถ้านักลงทุนจะลงทุนควรรีบมาลงทุนปี 2558-59 จะรวดเร็ว ได้วางขั้นตอนไว้หมดแล้ว และไม่ได้ขัดแยังกับโรดแม็ป อย่าไปฟังสื่อโซเชียลมากนัก ไม่รู้ใครเขียนบ้าง ซึ่งสั่งไล่ล่าอยู่ แต่ยิ่งด่าตนยิ่งชอบ จะได้ปรับปรุงตัว แต่วันนี้จะทำให้บ้านเมืองเสียหายไม่ได้อีกแล้ว ซึ่ง 13 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลอนุมัติงบไปแล้ว 1.1 ล้านล้านบาท 

"วันนี้เรามีแผนการลงทุนที่ชัดเจนในโครงการต่างๆ และจะเร่งให้เร็วที่สุด อย่ากลัว เมื่อมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งเข้ามา ผมจะวางรากฐานและกำหนดกติกาไว้"

       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า แม้หลายประเทศอาจมองว่าการที่ตนเข้ามานั้นไม่ถูกต้อง เป็นการมองด้านเดียว ทุกประเทศมีปัญหาหมด และคนรุ่นนี้มักลืมประวัติศาสตร์ วันนี้ตนเข้ามายังไม่มีใครตายสักคน ตนไม่ได้แก้ตัว แต่ขอความเป็นธรรมบ้าง ในเมื่อตนทำทุกอย่างโดยการใช้อำนาจน้อยที่สุด เพราะได้รับการสอนว่าอำนาจยิ่งใช้มากยิ่งหมดเร็ว จึงใช้อำนาจสร้างสรรค์เพื่อประเทศ ให้เกิดกติกาใหม่ๆ ที่ดีขึ้น ใช้อำนาจด้วยความเมตตา ใครผิดว่าไปตามกฎหมาย

 

ชูธงปราบคอร์รัปชั่น

     เวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยตอนหนึ่งว่า รัฐบาลและคสช.ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งผลการดำเนินงานจนถึงปัจจุบันน่าพึงพอใจในระยะแรก จากผลการสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทย ของมหา วิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เทียบกับเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว สะท้อนว่าการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นในประเทศมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น และดีที่สุดในรอบ 6 ปี แต่ยังมีพูดให้ร้ายข้าราชการ รัฐมนตรี รัฐบาล ในสิ่งที่อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง เพราะรัฐบาลนี้ไม่เปิดโอกาสให้มีการสมยอมเกิดขึ้น ไม่มีการช่วยเหลือเป็นพิเศษใดๆ กับทุกโครงการ หากยังมีเล็ดลอดไปได้อยู่ขอให้แจ้งเบาะแสเพื่อจะได้ตรวจสอบโดยทันที

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลนี้ยังให้ความสำคัญกับการวางรากฐานเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยจะไม่แก้ปัญหาในลักษณะที่ไม่สร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนและภาคธุรกิจ สำหรับความคืบหน้าการลงทุนเพื่ออนาคตที่สำคัญ ได้แก่โครงการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมทางรถไฟ

 

'วิลาศ'ยันนายกฯ ให้เกียรติ'อุ๋ย'

      ด้านพล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีม.ร.ว.ปรีดิยาธร ระบุไม่มีใครทาบทามให้เป็นที่ปรึกษานายกฯว่า พล.อ.ประยุทธ์สั่งการให้ตนนำหนังสือขอบคุณและเรียนเชิญเป็นที่ปรึกษา ไปส่งให้กับรองนายกฯทั้ง 3 คน ประกอบด้วย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร และนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ ด้วยตัวเอง เนื่องจากนายกฯเห็นถึงความสำคัญ ให้ความเกรงใจและให้เกียรติรองนายกฯทุกคน ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็มอบให้นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการครม. เป็นผู้นำหนังสือขอบคุณที่เข้าร่วมเป็นครม. และเรียนเชิญเป็นที่ปรึกษา

        "หลังประชุมครม. ผมไปรอท่านปรีดิยาธร ที่หน้าห้องอยู่ประมาณ 10 นาที เพราะติดประชุมทีมเศรษฐกิจ ซึ่งผมก็รอได้ และได้นำหนังสือจากนายกฯ ขอบคุณที่ร่วมงานกับรัฐบาล และเรียนเชิญให้เป็นที่ปรึกษา รวมถึงชี้แจงความจำเป็นในการปรับครม. ซึ่งม.ร.ว. ปรีดิยาธรก็ไม่ได้ปฏิเสธ" พล.อ.วิลาศกล่าว

เลขาธิการนายกฯ กล่าวด้วยว่า ยืนยันว่านายกฯไม่ได้หนักใจที่ม.ร.ว.ปรีดิยาธรให้ข่าว เนื่องจากนายกฯให้ความเคารพ และให้เกียรติ รับฟังความคิดเห็นของทุกคน เพราะถือเป็นปูชนียบุคคล และทุกคนมีความหวังดี ช่วยแก้ปัญหาบ้านเมือง และการปรับครม.เป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ได้เกิดจากการบกพร่องในหน้าที่ แต่ปรับตามความเหมาะสม

 

'บิ๊กบี้'ขอบคุณตู่ให้คุมแรงงาน

       ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งครม.ชุดใหม่ บรรยากาศภายในทำเนียบรัฐบาลเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบได้เตรียมห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ไว้รองรับรองนายกฯ คนใหม่ที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ เบื้องต้นเตรียมห้องทำงานเดิมของ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ขณะที่พล.ธนะศักดิ์จะไปใช้ห้องเดิมของม.ร.ว.ปรีดิยาธร ใกล้ห้องทำงานพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ส่วนพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หรือพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย จะใช้ห้องของนายยงยุทธ 

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสายวันเดียวกัน มีข้าราชการทหาร ตัวแทนเอกชนบางแห่ง มามอบดอกไม้แสดงความยินดีและให้กำลังใจในการทำงานกับพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน คนใหม่ ที่ตึกบัญชาการ 1 โดยพล.อ.อนันตพร ทยอยเก็บเอกสารและสิ่งของต่างๆ เพื่อเตรียมย้ายไปทำงานที่กระทรวงพลังงาน 

       จากนั้นเวลา 13.30 น. พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน นำพานใส่พวงมาลัยดอกไม้มาที่ตึกไทยคู่ฟ้า คาดว่าเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อขอบคุณที่แต่งตั้งให้เป็นรมว.แรงงาน ใช้เวลา 10 นาที จึงเดินทางกลับออกจากทำเนียบ

พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ขณะนี้ครม.ชุดใหม่อยู่ระหว่างรอเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ไม่รู้สึกกดดันเพราะจะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน การตั้งความหวังในการทำงานของครม.ชุดใหม่ถือเป็นเรื่องดี เพราะความหวังคือเป้าหมายที่เราต้องทำ ส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ที่ตนรับหน้าที่ก่อนหน้านั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมเข้าใจงานเข้ามารับหน้าที่ต่อไป จากนั้นตนจะพิจารณารายชื่อบุคคลด้วยตัวเองก่อนเสนอชื่อให้นายกฯ พิจารณาต่อไป

 

'ต๊อก'งงแบ่งแยกแล้วปกครอง

      พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับครม.ว่า เชื่อว่าพล.อ. ประยุทธ์พิจารณาไตร่ตรองตามฐานข้อมูล รวมถึงรับฟังข้อมูลจากหลายด้านที่เชิญแต่ละคนมาพูดคุยดีแล้ว เพราะนายกฯรู้ว่าถ้าปรับไปแล้ว มันแย่กว่าเดิมก็เสียหาย ตนเชื่อว่าต้องดีขึ้น วันนี้ต้องให้เวลารัฐมนตรีใหม่ทำงาน ส่วนคนที่จะไป นายกฯได้บอกกันหรือเปล่า ไม่รู้จริงๆ รัฐบาลนี้เป็นของพล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะนายกฯ จึงต้องรับผิดชอบการบริหารบ้านเมือง ต้องให้มีเสรีในการปรับ 

       เมื่อถามถึงกรณีม.ร.ว.ปรีดิยาธรระบุแบ่งแยกแล้วปกครอง พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า เข้าใจคำนิยามของคำนี้ แต่ไม่เข้าใจอะไรคือพฤติกรรมที่เกิดขึ้น การปฏิบัติอย่างไรถึงใช้คำนี้ไปพูด ก็เลยไม่อยากวิจารณ์ ส่วนจะเป็นคำพูดที่ฟังดูรุนแรงหรือไม่ ตนไม่รู้เพราะไม่เข้าใจพฤติกรรมที่เจอ รู้สึกเห็นใจเรื่องเศรษฐกิจ เพราะด้วยจังหวะที่เศรษฐกิจไม่ดี ต้องเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องง่ายในการทำงาน หากให้ตนไปอยู่กระทรวงเศรษฐกิจก็ไม่แน่ใจว่าจะถูกวิจารณ์ขนาดไหน แต่คนที่อยู่ก็ต้องทำต่อไป อย่ามาบ่นว่าล้มเหลว

 

วิษณุเผยยังไม่รู้วันถวายสัตย์

      นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงการนำรัฐมนตรีใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนว่า ยังไม่ทราบว่าเป็นเมื่อไร ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ฉบับแก้ไขเพิ่มและในฉบับถาวร ก็เขียนไว้ในเช่นเดียวกันว่า การเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ อาจกระทำต่อบุคคลอื่นตามที่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ได้ แล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ลงมาว่าจะเสด็จออกเองหรือพระราชทานผู้แทนพระองค์หรือองค์พระรัชทายาท เพื่อแบ่งเบาพระราชภาระ

      เมื่อถามว่า การเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจยกชุดจะเรียกความเชื่อมั่นของรัฐบาลกลับคืนมาได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เชื่อว่าจะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้ แต่พูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ต้องให้ประชาชนมองและวิจารณ์ ส่วนการแบ่งงานให้กับรัฐมนตรีนั้น นายกฯจะเรียกนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการครม. มาพูดคุยเพื่อแบ่งงานใหม่หมด เนื่องจากมีรองนายกฯมากกว่าเดิม 

 

ชี้'บิ๊กรมต.'แค่ขรก.บำนาญ

     ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรที่มีทหารเข้าร่วมในครม.ใหม่เพิ่มขึ้น นายวิษณุกล่าวว่า ที่จริงทหารที่เข้ามาจะเกษียณในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยหลักจะมีแต่ข้าราชการบำนาญ เมื่อมียศพระราชทานเป็นทหารก็ต้องเป็นทหาร แต่ไม่ใช่ผู้ที่ดำรงตำแหน่งในกองทัพต่อไป ส่วนที่วิจารณ์ว่ารัฐบาลต้องการจะอยู่ยาวต่อไปนั้น สาเหตุมาจากเรื่องอื่น ไม่ใช่การปรับครม. และการปรับครม.ครั้งนี้เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพขึ้นและให้มีความเชื่อมั่นมากขึ้น ไม่ใช่เพื่อจะอยู่ยาวขึ้น 

      นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนการตั้งครม.ชุดเก่ามาเป็นที่ปรึกษานั้น คงไม่ใช่ตั้งลอยๆ แต่จะมอบหมายงานให้ช่วยติดตามงาน เพราะรัฐบาลมีงานที่จะขับเคลื่อนมาก ต้องแบ่งงานช่วยกันตามสายงานเดิมที่ถนัดเพื่อให้การขับเคลื่อนงานได้เร็วขึ้นและแบ่งเบาภาระของ นายกฯอีกทางหนึ่ง

 

พอใจร่างรธน.หลังแก้ไข

      นายวิษณุ กล่าวถึงการรับฟังคำชี้แจงของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ก่อนส่งมอบให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า รัฐบาลเสนอไป 100 กว่าประเด็น ทางกมธ.ยกร่างฯไปจัดกลุ่มใหม่เหลือ 70 กว่าประเด็นและแก้ไขให้แล้วเราก็พอใจ บางส่วนบอกว่าแก้ไขให้ไม่ได้เพราะ 8-9 กลุ่มที่เสนอขอแก้ไขมาตราเดียวกัน แต่ไปกันคนละเรื่อง จึงต้องเลือกที่ดีที่สุดหรือนำมาผสมกัน ทั้งนี้มีเรื่องที่ไม่ได้ขอแก้ไขแต่กมธ.ยกร่างฯไปแก้เพิ่มเติม เช่น คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและการปรองดอง ที่อยากถามแต่กมธ.ยกร่างฯไม่ชี้แจงเพราะผู้เสนอขอแก้ไขไม่ได้พูดเรื่องนี้ 

เมื่อถามถึงรายละเอียดของร่างรัฐธรรมนูญ นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่ได้ดู โดยจะได้รับร่างในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ที่จะแจกให้กับสปช. ซึ่งรัฐบาลจะได้รับมาก่อน เพราะเป็นวันสุดท้ายที่ครบกำหนดยื่นร่างให้กับสปช. หากไม่ยื่น ถือว่ากมธ.ยกร่างฯทำไม่เสร็จและจะมีบทลงโทษ ส่วนสปช.จะหมดหน้าที่ในวันที่ลงมติโหวตรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญใน วันที่ 6 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ หลังจากได้รับร่างแล้วรัฐบาลได้แต่รับฟัง ไม่มีสิทธิไปบอกว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ใครชอบใครอาจไปกระซิบกันซึ่งตนไม่รู้ ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับสปช. 249 คน จะเป็นคนพิจารณา

 

'ปื๊ด'วอนให้ดูภาพรวม'รธน.'

      นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวผ่านรายการมองรัฐสภาทางสถานีโทรทัศน์รัฐสภาถึงภาพรวมของร่างรัฐธรรมนูญ ว่าเมื่อพิจารณาอะไรต้องพิจารณาบูรณาการทั้งหมด เหมือนกับดูนางงามจักรวาลที่ต้องดูทั้งหมดจึงจะเห็นความสวย ถ้าผ่าเอาลำไส้ หัวใจ หรือหนองของนางงามจักรวาลมาดูจะสวยอย่างไร ดังนั้นคิดว่าสปช.ที่จะลงมติรับหรือไม่รับ และคนส่วนใหญ่ที่จะลงประชามติต้องดูภาพรวมทั้งร่างรธน. ว่าไปได้ในทัศนะของท่านหรือไม่ ไม่ใช่ว่าไม่พอใจ 2-3 เรื่องแล้วก็บอกว่าไม่ได้ เพราะ 65 ล้านคนมี 65 ล้านความคิด หากนำทั้งหมดมาเขียนเป็นรัฐธรรมนูญคงได้หลายเล่มสมุดไทยทีเดียว

     นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ต้องใช้วิจารณญาณดูภาพรวมว่า 1.เหมาะกับสังคมไทยหรือไม่ มีปัญหาของบ้านเมืองแล้วพยายามแก้ไขปัญหาหรือไม่ และ 2.มีสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน และบ้านเมืองหรือไม่ ซึ่งเราต้องมองอดีตและอนาคตด้วย ร่างรัฐธรรมนูญนี้มี 2 ส่วนคือ 1.การแก้ปัญหาในอดีต เช่น ความขัดแย้ง โดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ ที่ร่างรัฐธรรมนูญให้อำนาจกำกับการปฏิรูป และ 2.แลไปในอนาคต การปฏิรูปบ้านเมืองจำเป็นมากทั้งระบบราชการ การศึกษา พลังงาน การเมือง สิ่งเหล่านี้คือการสร้างอนาคตให้ลูกหลานทั้งหมด

      นายบวรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนน้อมรับคำตัดสินของประชาชนและเชื่อว่านักการเมืองที่พูดและอ้างประชาชนตลอดเวลาต้องรับคำตัดสินของประชาชนด้วยเช่นกัน เพราะผลประชามติคือคำพิพากษาที่สูงสุดสำหรับประเทศ ประชามติจะทำให้รัฐธรรมนูญสิ้นผลหรือมีชีวิต ประชามติจะทำให้รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้เป็นสัญญาประชาคมของคนไทย ขณะนี้อยู่ในระยะเปลี่ยนผ่าน 

 

ขู่ถ้าคว่ำ-ต้องเลื่อนเลือกตั้ง

      ที่รัฐสภา นายบวรศักดิ์เป็นประธานการประชุมกมธ.ยกร่างฯ เพื่อทบทวนแก้ไขถ้อยคำในร่างรัฐธรรมนูญรอบสุดท้ายก่อนส่งมอบให้สปช.ในวันที่ 22 ส.ค. 

       พล.ท.นคร สุขประเสริฐ กมธ.ยกร่างฯกล่าวว่า หลังจากกมธ.ยกร่างฯเชิญสปช. 8 กลุ่มและตัวแทนของครม.มารับฟังคำชี้แจงประเด็นการปรับแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญตามคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ มีบางประเด็นที่ทำให้กมธ.ยกร่างฯ ต้องนำบทบัญญัติในส่วนของเจตนารมณ์ของร่างรัฐธรรมนูญมาพิจารณาอีกครั้ง เพื่อให้ความหมายของเจตนารมณ์นั้นสอดคล้องและครอบคลุม กับบทบัญญัติของร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวบทบัญญัติของร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์นั้นไม่ได้นำมาพิจารณาอีก เพราะได้ส่งโรงพิมพ์ให้จัดพิมพ์เพื่อเตรียมส่งมอบให้กับสปช.ในวันที่ 22 ส.ค.แล้ว

นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ กมธ.ยกร่างฯ กล่าวถึงกลุ่มบุคคลที่คัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ รณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจในสาระของร่างรัฐธรรมนูญที่ผิดเพี้ยนว่า ขอให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวคิดและไตร่ตรองให้ดี เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปจากเดิม และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งยังไม่ทราบว่าเนื้อหาจะเป็นอย่างไร 

 

อ้าง'คปป.'ไม่ต่อท่ออำนาจ

       นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงเสียงวิจารณ์คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ(คปป.) ตามภาค 4 ว่าด้วยการปฏิรูปและการสร้างความปรองดองของร่างรัฐธรรมนูญ เป็นการสืบทอดอำนาจให้คสช.ว่า คปป.จะมีอายุตามที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ 5 ปีแรกหลังรัฐธรรมนูญบังคับใช้ และจะอยู่ต่อได้อีก 5 ปี หากประชาชนลงประชามติเห็นชอบให้อยู่ต่อตามที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนดไว้ ส่วนโครงสร้าง คปป.ที่มีผู้นำเหล่าทัพเข้าร่วมนั้น ก็มาเพื่อดูเรื่องความมั่นคงของประเทศ ยืนยันคปป.ไม่ได้สืบทอดอำนาจ 

     "กมธ.ยกร่างฯได้ออกแบบโครงสร้างคปป.ตามที่รัฐบาลตั้งโจทย์มาให้ ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้มีรัฐประหาร เพื่อฉีกรัฐธรรมนูญอีก ตรงนี้จะเป็นกลไกหนึ่งไม่ให้กองทัพทำปฏิวัติ แต่มีบางฝ่ายบอกว่าเป็นการปฏิวัติโดยรัฐธรรมนูญ" นายบัณฑูรกล่าว

นายบัณฑูรกล่าวด้วยว่า หากประชาชนจะลงประชามติไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะไม่ยอมรับกับคปป.ก็มีความเป็นไปได้ แต่ยืนยันว่าคปป.จะใช้อำนาจพิเศษได้เฉพาะถึงคราวจำเป็นเท่านั้นตามบทเฉพาะกาล แต่ถ้าประชาชนเห็นชอบกับการทำประชามติเพื่อตั้งรัฐบาลปรองดองเพื่อการปฏิรูปแล้ว รัฐบาลปรองดองก็จะมาทำหน้าที่ควบคู่กับคปป.ด้วยเช่นกัน

 

สนช.ผ่าน"พรบ.ฟอกเงิน"

      ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เป็นประธานการประชุมสนช. เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยนายกิตติ วะสีนนท์ ประธานคณะกรรมธิการวิสามัญ ได้เสนอสาระสำคัญของการแก้ไขในส่วนองค์ประกอบและหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รวมถึงกลไกการตรวจสอบ ถ่วงดุล และวาระเลขาธิการปปง. โดยให้มีคณะกรรมการ 15 คน จากเดิม 10 คน มาจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 6 คน กรรมการโดยตำแหน่ง 8 คน โดยเพิ่มที่มาจากผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ และตำแหน่งเลขานุการอีก 1 คน โดยให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมาจากการสรรหาของคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้น และผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อแต่งตั้ง โดยคณะกรรมการปปง.มีหน้าที่ระงับยับยั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับการฟอกเงินและการสนับสนุนการเงินเพื่อการก่อการร้าย รวมถึงทำหน้าที่คัดเลือกบุคคลมาเป็นเลขาธิการปปง.ซึ่งมีวาระ 6 ปี

     จากนั้น ที่ประชุมเปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปราย ในที่สุดที่ประชุมมีมติให้แก้ไขวาระดำรงตำแหน่งเลขาธิการปปง.เป็น 4 ปี จากเดิม 6 ปี และให้แก้ไขมาตรา51 เพื่อให้สอดคล้องกับตำแหน่งเลขาธิการปปง.ก่อนวันที่ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ใช้บังคับ ยังสามารถทำหน้าที่จนกว่าจะครบวาระ และเมื่อพ้นวาระแล้วสามารถไปดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาสำนักงานปปง.หรือตำแหน่งอื่นๆ เทียบเท่าได้ และมีมติให้ตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาแทนการตรวจสอบถ่วงดุลโดยครม. จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว และให้ประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายด้วยคะแนนเสียง 150 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง 

 

'ตู่'ชวนธุรกิจยุ่นลงทุนในไทย

     เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่โรงแรมดุสิตฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานนายกฯพบนักธุรกิจญี่ปุ่น ที่มีนักธุรกิจและสมาคมไทย-ญี่ปุ่น หอการค้าญี่ปุ่นเข้าร่วมฟังตอนหนึ่งว่า วันนี้รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ และตนก็รู้หลายประเทศอึดอัด ญี่ปุ่นเองก็อึดอัด นายชินโซ อาเบะ นายกฯญี่ปุ่น แรกๆ ก็ไม่ค่อยพูดกับตน ต้องขอเวลาที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ตนรื้อแผนมาดูทั้งหมดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ขับเคลื่อนประเทศไปได้ และพยายามใช้ประชาธิปไตยกับนายอาเบะ แต่ในไทยยังต้องเข้มงวด 

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการลงทุนทิศทางใหม่ เสนอมากับบีโอไอ รัฐมนตรีพร้อมคุยอยู่แล้ว ตนจะทำให้ได้ ประเทศไทยอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างฐานเศรษฐกิจจึงอยากให้ในปี"58-59 ทุกบริษัทเร่งลงทุนในไทย ขอสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกคน เรียกว่าใช้ตนเป็นตัวประกันได้ ไทยไม่ได้เป็นคู่แข่งขันแต่เราเป็นหุ้นส่วนกับทุกประเทศ ทุกคนจะต้องได้ผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน โปร่งใสเป็นธรรมไม่ทุจริต และไม่ต้องห่วง ตนเข้ามาทำงานไม่มีผลประโยชน์ที่ทับซ้อน

      "ฝากดูด้วย มีคนหนึ่งสอนอยู่มหาวิทยาลัยเกียวโต ชื่ออาจารย์ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ เขาไปอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วด่าผมทุกวัน ถ้าเป็นท่านจะยอมไหม เห็นเขาขออยู่ที่เกียวโต ผมไม่รู้ว่ามีใครไปทำอะไรเขา ตอนนั้นเขาหนีผมไป เรียกมาพบเขาไม่มา เรียกมาหลายร้อยคนพบแล้วก็ปล่อยกลับบ้าน แต่นี่ไม่มาแล้วด่าผม ผมไม่ได้ตั้งใจเอาเขาไปฆ่าแกง พูดกันดีๆ ฝากด้วยแล้วกัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานได้แจกเข็มกลัดวงกลม พื้นลายธงชาติไทยและมีข้อความ "STRONGER TOGETHER" ให้แก่นักธุรกิจที่เข้าร่วมงานด้วย

 

'บิ๊กตู่'ร่วมวันสถาปนา'ร.21 รอ.'

     เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์(ร.21รอ.) ค่ายนวมินทราชินี อ.เมือง จ.ชลบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานวันสถาปนากรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ครบรอบ 65 ปี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและผบ.ทบ. โดยมีพ.อ.วรยุทธ์ เเก้ววิบูลย์พันธ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 ต้อนรับ พร้อมนำตรวจทหารกองเกียรติยศ เเละเข้าสักการะพระพุทธชินราช ที่หอพระพุทธไตรรัตนะเฉลิมพระเกียรติฯ ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก่อนร่วมพิธีสงฆ์ 

     จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์มาสักการะศาลพ.ท.ณรงค์เดช นันทโพธิ์เดช อดีตผู้ก่อตั้งหลักสูตรทหารเสือราชินี พร้อมทักทายข้าราชการทหารบำนาญและอดีตผู้ใต้บังคับบัญชา รวมทั้งภริยาอดีตผู้ใต้บังคับบัญชา สมัยที่เป็นผู้บังคับการ ร. 21 รอ. และเข้าไปชมสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ หรือ สวนนกหลังเขา ระหว่างนั้นมีการจัดแสดงงูหลามสีทอง พล.อ.ประยุทธ์ ได้เล่นกับงูโดยเอางูมาคล้องคอ และพูดคำว่า "สวัสดีจ๊ะ เป็นไงบ้างจ๊ะ" ก่อนเอางูแหย่สื่อมวลชนที่ติดตามเข้ามาทำข่าวอย่างอารมณ์ดี หลังพล.อ.ประยุทธ์รับตำแหน่งนายกฯ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งเเรกที่เดินทางมาร.21 รอ. ซึ่งเป็นหน่วยเเรกที่เริ่มต้นรับตำเเหน่งชีวิตราชการ 

ด้านพล.อ.อุดมเดชยังเล่าถึงประสบการณ์ลงพื้นที่ปฏิบัติการภาคสนามที่เขาพนมปะ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ว่า ทหารเสือราชินีได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่สู้รบ จนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ในระหว่างนั้นมีทหารไทยจำนวนหนึ่งติดในพื้นที่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ร.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตนจึงนำกำลังไปยังพื้นที่จนเกิดการปะทะ สุดท้ายสามารถนำทหารที่ติดอยู่ในพื้นที่ออกมาได้สำเร็จ หลังจากนั้นก็ยึดเขาพนมปะได้ 

 

ศาลนัด 4 ก.ย.ชี้คดี'นพดล'ลงนาม

      เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แจ้งวัฒนะ นายประเสริฐ โอนพรัตน์วิบูล รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนคดีหมายเลขดำ อม.3/2556 พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา รวม 9 คน ไต่สวนพยานจำเลย นัดสุดท้ายในคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อปี 2551 เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ในกรณีที่ นายนพดล ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ฉบับลงวันที่ 18 มิ.ย. 2551 ที่สนับสนุนให้ประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาไทย

     นายสิทธิโชค ศรีเจริญ ทนายความของ ป.ป.ช. เปิดเผยภายหลังการไต่สวนเสร็จสิ้นว่า วันนี้นายกฤต ไกรกิตติ อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ มาเป็นพยานฝ่ายจำเลยเข้าไต่สวนเพียงปากเดียว เมื่อไต่สวนพยานครบทุกประเด็นแล้ว ศาลได้กำหนดนัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 4 ก.ย.นี้ เวลา 13.30 น. โดยให้คู่ความทั้ง 2 ฝ่าย ยื่นคำแถลงปิดคดี ภายในวันที่ 28 ส.ค.นี้ ซึ่งปลายสัปดาห์ทีมทนายความของ ป.ป.ช.จะประชุมหารือกันเพื่อร่างคำแถลงปิดคดี ส่งต่อศาลให้ทันภายในกำหนดดังกล่าว

      สำหรับ คดีนี้ ป.ป.ช. ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2556 โดยศาลฎีกาฯ มีคำสั่งให้ประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2556 ซึ่งนายนพดลให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยชั้นพิจารณา ศาลฎีกาฯให้ นายนพดล ได้ประกันตัวไปโดยตีราคาประกัน 2 ล้านบาท

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!