WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

7กกตว

'อมร'ติดโผ-มาแรง คุมกรธ. คสช.ปัดชื่ออานันท์ 'วิษณุ'เมิน-มีชัยก็ไม่รับ พท.จี้โชว์โรดแม็ปยูเอ็น ทหารเชิญ'พิชัย'รอบที่ 7 กักตัว 7 วัน-ปรับทัศนคติ สมช.วุ่น-กนกทิพย์ออก

       ชื่อ'อมร จันทรสมบูรณ์'มาแรง คสช.ทาบนั่งประธานกรธ. ขณะที่'วิษณุ'บอกปัดยืนยันไม่รับ ระบุรธน.ชั่วคราวไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับหน้าที่นี้ ด้าน'บิ๊กตู่'เผยสเป๊ก 21 อรหันต์รู้กฎหมาย รู้สถานการณ์ รู้ใจหัวหน้าคสช. โต้ทาบทาม'อานันท์-มีชัย-จรูญ"นั่งประธานคณะกรรมการ ด้าน'ดร.ปึ้ง' ท้า'ประยุทธ์'โชว์โรดแม็ปคืนประชาธิปไตยในเวทียูเอ็น ทหารบุกเชิญตัว'พิชัย นริพทะพันธุ์'ปรับทัศนคติหนที่ 7 คราวนี้กักไว้ในค่ายทหาร 7 วัน ข้ามห้วยสมช.วุ่น 'กนกทิพย์'ฉุนถูกข้ามหัว ยื่นลาออกรองเลขาฯ ทั้ง'บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่'ไม่สนใจ-ไม่ยับยั้ง

วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9052 ข่าวสดรายวัน

ครั้งที่ 7 - ทหารเชิญตัวนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน ไปปรับทัศนคติเป็นครั้งที่ 7 ภายในกองทัพภาคที่ 1 ก่อนจะส่งตัวไปควบคุมไว้ในค่ายทหารต่างจังหวัด ยังไม่มีกำหนดปล่อยตัว เมื่อวันที่ 9 ก.ย.

วิษณุ ยันไม่รับเป็นประธานกรธ.

      เมื่อวันทื่ 9 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการทาบทามให้เป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ว่า ไม่มีใครทาบทาม ตนเป็นรองนายกฯอยู่แล้ว อย่างไรก็เป็นไม่ได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มาตรา 8 ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะดำรงตำแหน่ง กรธ.ไม่ได้ ยกเว้นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) หรือสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ยืนยันว่าไม่มีใครทาบทามตนทั้งนั้น ถึงเป็นได้ก็ไม่มีใครให้เป็น เพราะคุณสมบัติมันเป็นไม่ได้

     เมื่อถามว่า จะลาออกจากรองนายกฯไปเป็นประธานหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าไม่ตอบแล้วกันเรื่องนี้ เมื่อถามว่าแล้วจะเป็นไปได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า "เป็นไปไม่ได้"

เผยทุกอย่างชัดเจนวันที่ 23 ก.ย.

    ต่อมานายวิษณุให้สัมภาษณ์ถึงข่าวระบุเป็นผู้เสนอชื่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ให้นายกฯพิจารณาเป็นประธานกรธ.ว่า ตนไม่เคยเสนอ และไม่เคยอยู่ในความคิดว่าจะเป็นนายมีชัย เพราะนายมีชัยเคยพูดไว้แล้วว่าไม่เอา และตนก็รู้สึกสนุกที่นั่งเดาชื่อไปพร้อมกับพวกสื่อ

    เมื่อถามว่า ชื่อนายจรูญ อินทจาร อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่เคยเสนอใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าไม่ได้อยู่ในความคิดและไม่เคยเสนอเช่นกัน ข่าวที่เอามาถามจึงไม่เป็นความจริง และตำแหน่งดังกล่าวนายกฯและหัวหน้าคสช.จะเป็นผู้คิดเอง ยืนยันว่าไม่เคยเสนอใครและไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะเสนอชื่อใคร เชื่อว่าหัวหน้าคสช.คงหารือกับคสช. เพราะตามรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของคสช.และลงนามโดยหัวหน้าคสช.

     นายวิษณุ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯพูดแล้วว่าควรชัดเจนในวันที่ 22 ก.ย.นี้ เพราะวันที่ 23 ก.ย. จะไปต่างประเทศ อีกทั้งวันที่ 22 ก.ย. มีการประชุมร่วมครม.-คสช. และเมื่อได้รายชื่อแล้วก็ประกาศให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีโดยไม่ต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ และไม่ต้องโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสมาชิกสภาขับเคลื่อนฯ

แจงวุ่นโรดแม็ปใหม่ 6-4-6-4

     นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนที่พูดถึง 6-4-6-4 มีคนไปบอกว่ายืดเวลาออกไป 20 เดือนนั้น ความจริงไม่ใช่ ความจริงยืดแค่ 6 เดือนเพราะถ้าสมมติว่าร่างรัฐธรรมนูญผ่านสปช.ก็จะใช้สูตร 4-6-4 อยู่ดี ฉะนั้นที่งอกเพิ่มมาคือ 6 ตัวแรกเท่านั้น นั่นคือสิ่งที่ยาวออกไป 6 เดือน ไม่ใช่ว่ายืดอายุคสช.ไป 20 เดือน ส่วนต่างคือ 6 เดือนเท่านั้น

     เมื่อถามว่าใน 21 คนควรคละกันระหว่างคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นอาวุโสหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าตอบไม่ถูก ให้ไปถามหัวหน้าคสช. "มีคนมาถามผมว่า มีข่าวว่าผมจะไปเป็นประธานกรธ. ก็ยิ่งหนักเข้าไปอีก ผมไม่ไป เพราะคุณสมบัติห้ามไว้ พอบอกว่าคุณสมบัติห้าม ยังถามอีกว่าจะลาออกไปเป็นหรือไม่ แสดงว่าพวกนี้ไม่เคยอ่านรามเกียรติ์ ในตอนที่ไปฆ่าทศกัณฐ์ มีคนบอกให้ทศกัณฐ์ยอมแพ้ลาออกแล้วเอาเมืองมา เพื่อจะตั้งยักษ์อีกตนไปเป็นเจ้าเมืองแทน ซึ่งยักษ์ตัวหลัง ตัวพี่นั้นก็เลยถามว่า ลงกาเป็นสองเมืองหรือ ให้น้องแล้วจะรื้อมาให้พี่ คือลงกาเป็นเมืองเดียว มีน้องครองอยู่แล้วจะยึดจากน้องมาให้พี่ครองได้หรือ ซึ่งคำพูดนี้เคยพูดถึงแล้วครั้งหนึ่งว่า เอารัฐบาลม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ออกแล้วเอารัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์กลับเข้ามา ผลัดกันเป็นสองคนพี่น้อง อย่างนี้ถ้ายึด จากอาจารย์บวรศักดิ์มาให้ผมก็เข้าลักษณะเดียวกันนั่นแหละ"

"บิ๊กป้อม"แย้มต้องเป็นคนน่าเชื่อถือ

     ที่อาคารรับรองเกษะโกมล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ในฐานะรองหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกระบวนการคัดเลือกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ชุดใหม่ 21 คน และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศว่า กรธ.เป็นอำนาจของนายกฯที่จะคัดเลือก แล้วส่งความเห็นชอบไปยังคสช. ขณะที่สภาขับเคลื่อนฯนั้น ต้องคุยกันในที่ประชุมร่วมคสช.และครม.ก่อนว่าจะคัดเลือกใครมาเป็น ซึ่งคิดว่าน่าจะมีโควตาอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง ทันภายใน 30 วันแน่นอน

เมื่อถามว่าคนที่เป็นประธานกรธ. มีการเสนอนายอานันท์และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิก คสช.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ได้คิด อย่าพูดถึงชื่อตัวบุคคล อยากให้ยึดถึงหลักเกณฑ์ก่อน ถึงจะคัดเลือกบุคคลตามหลักเกณฑ์ถึงจะถูกต้องกระบวนการ โดยหลักต้องเป็นนักกฎหมาย เป็นผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเป็นใครตนไม่รู้ ส่วนจะมีนักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือหลายๆ สำนักมาเป็นกรธ.หรือไม่ ตนยังไม่รู้ ต้องรอในที่ประชุมก่อนว่าจะคิดเห็นอย่างไร แต่ต้องอยู่ใน 21 คนแน่นอน

     "การคัดเลือกกรธ. 21 คนนั้น ผมคิดว่าต้องเป็นคนที่ประชาชนเชื่อมั่นและต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ผ่านประชามติ ตอนนี้กระบวน การร่างรัฐธรรมนูญอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของบ้านเมือง จะต้องมีบทเฉพาะกาลต่างๆ เพื่อให้บ้านเมืองสงบและเดินต่อไปได้ เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ในอนาคต อาจจะต้องมีอย่างนี้ ผมพูดว่าอาจจะ แต่ยังไม่รู้จะมีหรือเปล่า และเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม" พล.อ.ประวิตรกล่าว

มั่นใจรอบนี้-ผ่านประชามติแน่

      เมื่อถามว่า บทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรม นูญจะร่างขึ้นมาเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่าน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าตนสมมติเฉยๆ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย อาจจะไม่มีก็ได้ หรือจะมีก็ได้ เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าการร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ 2 จะผ่าน รองนายกฯประวิตรกล่าวว่าต้องมั่นใจ ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่ต้องทำ

      พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ส่วนสภาขับเคลื่อนฯนั้น เราจะตั้งคณะกรรมการคัดเลือกขึ้นมา ถ้าคนใดมีความคิดด้านการปฏิรูปก็ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคน ไม่ใช่บอกว่าจะเอา สปช.ที่โหวตไม่รับร่างมาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนฯ มันไม่ใช่ แต่จะเอาคนที่มีความรู้ ส่วนจะคัดเลือกคนที่เห็นต่างจากคสช.มาเป็นสภาขับเคลื่อนฯหรือไม่ ตนอยากถามว่าเห็นต่างกับใคร อย่าพูดอย่างนี้ คสช.ไม่เห็นต่างจากใคร เราเป็นกลาง ซึ่งการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ไม่ใช่เป็นของคสช. แต่เป็นรัฐธรรม นูญที่ร่างโดยกรธ.

      เมื่อถามย้ำว่า เริ่มทาบทามบุคคลเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนฯหรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าไม่ต้องทาบทาม เราตั้งขึ้นมาใครก็อยากเป็น เพราะอยากทำงานให้บ้านเมือง ทั้งนั้น

เชื่อคสช.ควบคุมสถานการณ์ได้

     ผู้สื่อข่าวถามถึงการถอดยศนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเป็นแรงกระเพื่อมทางการเมืองหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่างมันจบแล้ว เจ้าหน้าที่ชี้แจงกันหมดแล้ว ทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมาย สถานการณ์ด้านความมั่นคงจากนี้ไปอีก 20 เดือนเราคุมสถานการณ์ได้ ทุกคนอยากให้เกิดความสงบ เศรษฐกิจจะได้เดินได้ ถ้ามีความขัดแย้งกัน ประเทศก็เสียหายหมด อีกทั้งมั่นใจว่าประชาชนจะไม่เบื่อคสช. เพราะทุกคนทำงานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แม้แต่ผลประโยชน์ส่วนตัวเราก็ไม่ได้ เนื่องจากเราทำงานให้กับประเทศชาติ ประชาชนอย่างแท้จริง

      "ผมคิดว่า ประชาชนต้องช่วยกันดีกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงการเปลี่ยนผ่าน ถ้าประชาชนทุกคนร่วมมือกัน มันน่าจะเร็ว แค่ 10 กว่าเดือนก็คงไม่ช้า ทำนองเดียวกันต้องวางอนาคตของประเทศไทยให้มีความเชื่อมั่นว่าประเทศเราจะต้องดีเจริญทัดเทียมเท่ากับต่างประเทศ ซึ่งทุกคนมีความคิดความอ่านดี หวังดีต่อประเทศชาติทั้งหมด แต่ช่วงนี้ต้องปล่อยให้คสช.ดำเนินการ" รองนายกฯ กล่าว

     ด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีทนายความยื่นเรื่องถึงผบ.ตร.ให้ดำเนินคดีกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯกับพวกกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีถอดยศ นายทักษิณ ชินวัตร ว่าสภาทนายความเขาคงดูแลอยู่

บิ๊กโด่งยันทหารจะไม่ร่วม 21 กรธ.

     ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการคสช.กล่าวว่า การคัดเลือกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่ 21 คน เป็นไปตามขั้นตอน ทหารจะไม่เข้าไปเป็นคณะกรรมการ ฉะนั้นการคัดเลือกรายชื่อบุคคลจะเป็นไปตามห้วงระยะเวลา ส่วนรัฐบาลและตนในฐานะผบ.ทบ. อยากชี้แจงว่าทุกคนไม่มีความประสงค์อื่นใด เมื่อมติสปช.ออกมาเช่นนั้นก็ต้องเป็นเช่นนั้น เราไม่ได้ไปผลักดันอะไร อย่าไปคิดว่าจะเป็นการต่ออายุรัฐบาล ในทางกลับกันทุกคนอยากให้ดำเนินการด้วยความเรียบร้อย อย่าไปคิดว่าเป็นการนับถอยหลังเลย แต่เราควรพูดว่าต่อไปจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง โดยที่ไม่ให้ระยะเวลายืดยาวออกไป ซึ่งทุกคนหวังเช่นนั้น ตนก็คิดเช่นเดียวกัน

      ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ระบุว่ามีสนช.เข้าไปร่วมเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ด้วยว่า ตนยังไม่ทราบว่ามีการทาบทามบุคคลใดเข้าไปมาร่วมในกรธ.บ้าง เนื่องจากเป็นอำนาจของหัวหน้าคสช.ที่เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งท่านยังไม่ได้มาปรึกษาเรื่องดังกล่าวกับตน โดยส่วนตัวเห็นว่าบุคคลที่จะเข้ามาเป็นกรธ.ควรเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ด้านกฎหมายมหาชน ที่สำคัญเป็นบุคคลที่สังคมยอมรับ เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญเป็นที่ยอมรับด้วย

คสช.ทาบ'อมร จันทรสมบูรณ์'

      รายงานข่าวจากคสช.เปิดเผยว่าสำหรับบุคคลที่ได้รับการทาบทามให้มาเป็นประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญคนใหม่ ได้แก่ นายอมร จันทรสมบูรณ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ประธานคณะกรรมการร่างกฎหมาย คณะที่ 4 สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ประธานคณะกรรมการพัฒนากฎหมาย กรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยมหิดล นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติสาขานิติศาสตร์ พ.ศ. 2439 ศาสตราจารย์ภิชาน ประจําคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กรรมการสภาที่ปรึกษา สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษาพิเศษสํานักงานศาลปกครอง ด้านกฎหมาย

บิ๊กตู่ เตือนนักการเมืองอย่าปากดี

     เวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 2 ปีงบประมาณ 2558 โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า อำนาจหน้าที่ของตนที่ทุกคนกล่าวหาว่าอยากจะสืบทอด ความจริงคือการสืบทอดอำนาจของประชาชน ไม่ว่าการเลือกตั้งที่ถูกต้อง เข้าใจระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องและสนับสนุนรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ตรงนี้ถือเป็นหน้าที่ของตน ไม่ได้ต้องการจะอยู่ไปจนกระทั่งแก่ เพราะทุกวันนี้ก็แก่พออยู่แล้ว อยากพักผ่อนเต็มที แต่ในเมื่อมาแล้วและยังไปไหนไม่ได้ตอนนี้ อยากจะเตือนและฝากบอกไว้ก่อนบรรดาผู้นำที่ออกมาขอให้ระวังตัวเอาไว้

     "ปากดีทุกคนนั่นแหละ ถ้าเมื่อไรศาลตัดสินว่าผิดก็บอกว่าไม่เป็นธรรม แต่ถ้าตัดสินว่าถูกก็จะทำเฉยๆ และชื่นชม ทั้งๆ ที่เป็นศาลเดียวกัน ไม่เข้าใจว่าคนเหล่านี้สติเป็นอะไร ไม่อยากพูดอีกเดี๋ยวอารมณ์เสีย ตั้งใจจะอารมณ์ดีแต่ก็อดไม่ได้เพราะมันมากดดันผมเยอะ ใครจะว่าอะไร ผมก็ต้องทำหน้าที่ต่อไปตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดไว้เท่าไรก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นที่มันจะยืดยาว จะช้าหรือไม่ช้าไม่ได้อยู่ที่ผม อยู่ที่การทำงานจะเป็นไปตามโรดแม็ปที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ลั่นใช้มาตรา 44 -ฟ้องร้องไม่ได้

     นายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านต้องขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวกับตรวจสอบและองค์กรอิสระต่างๆ ที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ วันนี้สถานการณ์ค่อนข้างอ่อนไหว การทำงานก็ต้องระมัดระวังให้มากที่สุด เมื่อวานมีคนไปฟ้องร้องตน แต่ไม่รู้ว่าฟ้องได้หรือเปล่า ไม่รู้ว่าใครจะรับ ต้องรู้ตนอยู่ฐานะไหน ไม่ได้ใช้อำนาจในทางที่ผิด ใช้อำนาจในทางสร้างสรรค์และแก้ปัญหาที่มีผลกระทบต่อสังคมให้ได้โดยเร็ว ไม่เช่นนั้นปัญหาแก้ไม่จบ จึงจำเป็นต้องใช้มาตรา 44 ในบางเรื่องและต้องดำรงและรักษาไว้ซึ่งพระเกียรติยศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นหน้าที่ของตนที่ทำเฉพาะในสิ่งดีๆ ก็ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าตนไม่ได้เป็นศัตรูและเกลียดใครเป็นการส่วนตัวสักคน เว้นแต่เขาจะเกลียดตนก็แล้วแต่

      พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้พยายามสร้างความเข้มแข็ง ทำให้เกิดปัญหาตามมาจนถึงทุกวันนี้ในหลายๆ เรื่อง วันนี้รัฐบาลจึงทำทุกอย่างในทุกมิติ จะใช้กฎหมายมาสร้างความขัดแย้งอีกไม่ได้ ถ้าวันนี้บอกว่ากระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรมก็อยากย้อนถามว่าศาลเพิ่งตั้งขึ้นใหม่หรือเปล่า ศาลตั้งมากว่า 80 ปี ถ้ากล่าวหาเช่นนี้ก็แสดงว่าที่ผ่านมาศาลใช้ไม่ได้ ไม่เป็นธรรม อย่ามาคิดว่ามีการรังแก ไล่ล่ากันต่างๆ เพราะในความเป็นจริงเรื่องเหล่านี้ค้างคามานาน ตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมา แต่ไม่ถูกนำเข้ามาตรวจสอบ

ซัดจำนำข้าว-รถคันแรกทำเสียหาย

     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ฉะนั้นทุกคนต้องปรองดองอย่าไปถือหางคนโน้นคนนี้มาแล้วก็ทะเลาะกัน ต้องแยกแยะให้ออกว่าใครทำผิดทำถูก อย่าไปเข้าข้างใครหรือเข้าข้างตน ต้องเข้าข้างประเทศและประชาชน ไม่อยากให้ไปถือหางชอบคนนั้นคนนี้ หากจะชอบไม่ต้องชอบตัวบุคคลต้องชอบที่นโยบายและการทำงาน นั่นคือประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ชอบนโยบายพรรค ต้องเป็นนโยบายที่ไม่ทำให้ประเทศเสียหาย ทุกคนทราบดี ความเสียหายเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ความวุ่นวายก็จะเกิดขึ้นเพราะบุคคลเหล่านั้นไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตนคงยอมรับไม่ได้ในฐานะที่มีอำนาจเต็มในขณะนี้

      "คดีที่หนักที่สุดคือโครงการรับจำนำข้าว ถ้าไม่หยุดวันนี้จะเป็นหนี้อีกเท่าไหร่ ทำไป 2 ปีถ้าไม่หยุดทำจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ กระทบที่ละ 5 แสน เกิดความเสียหายมากมาย รับจำนำมาตันละ 15,000 ราคาตลาดไม่ถึงอยู่แล้ว วันนี้กลายเป็น 2 หมื่นกว่าบาทและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็น 3 หมื่น เพราะต้องมีค่าคลังเก็บรักษา ค่าเจ้าหน้าที่ดูแล ผมให้โอกาสเพราะให้เกียรติคนทำงาน เพราะไม่มีใครที่จะแก้ปัญหานี้ได้นอกจากคนที่อยู่ในกระบวน การที่รับรู้ และตนก็ไว้ใจ ไม่ต้องกลัว ทำให้ดีที่สุดทุกเรื่อง และเรื่องที่เสียหายมากอีกคือรถคันแรก เดือดร้อนไปหมด เป็นการสร้างดีมานด์เทียม บางคนซื้อยังขับรถไม่เป็น แต่จองไว้เพื่อเอาเงินแสน เสียเงินไป 8 หมื่นกว่าล้าน ธุรกิจรถยนต์เสียหายเพราะทุกอย่างบิดเบือน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เหน็บไม่ใช่นายกฯแค่อ่านตามโผ

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากบอกว่าไม่เคยนึกอยากจะอยู่แม้แต่วันเดียวและไม่เคยคิดอยากเข้ามาเลยตั้งแต่วันแรก วันก่อนถามตนเรื่องเจ็บขา ก็บอกว่าเจ็บเพราะเตะตัวเอง ทำอะไรก็ไม่พอใจจะเอาให้ได้ ทั้งที่ควรร่วมกันลงทุนเพื่อประเทศ ไม่ใช่ตนคนเดียว ทั้งชีวิตและครอบครัว ความเป็นอิสระ ความปลอดภัย ตนต้องลงทุนคนเดียวหรือทั้งที่ประเทศนี้เป็นของทุกคน ต้องยอมรับกติกาที่จะร่วมกันเดินหน้าประเทศอย่างไร อะไรที่จะทำให้เดินหน้าไปอย่างยั่งยืน จะด้วยวิธีการไหน ด้วยรัฐธรรมนูญ หรือบทเฉพาะกาล ตนไม่อยากเขียนรัฐธรรมนูญเอง ถ้าจะเขียนคงเขียนแค่ 5 มาตราพอ ถ้าบวกมาตรา 44 อีกก็จะเดือดร้อน แต่มันไม่ใช่หน้าที่ แต่เป็นเรื่องของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ

       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การร่างรัฐธรรม นูญต้องหาปัญหาและสาเหตุก่อน จำเป็นต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อการบริหารด้วยอะไรสักอย่าง หรือด้วยกฎหมายสักช่วงเวลาหนึ่ง ดีกว่าหรือไม่ หรือจะเป็นประชาธิปไตยเลยทีเดียว นี่คือเหตุผลว่าทำไมร่างรัฐธรรม นูญผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้าบอกว่าให้ทำสำเร็จเลยทีเดียวแล้วเลือกตั้งก็เอาไปเลย ถ้าคิดว่าวันนี้พร้อมแล้ว แต่ถ้าคิดว่ายังไม่พร้อมต้องช่วยกันคิดว่าจะเอาอย่างไร ไม่ใช่ว่าตนสั่ง เมื่อคิดออกแล้ว ต่อให้มันไม่ปกติอย่างไรหรือคิดว่าปกติแล้ว แต่ตนว่ายังลำบากอยู่ เพราะถ้าสถานการณ์ปกติตนคงไม่มาลำบากขนาดนี้ ไม่ต้องมีใครมาพูดโวยวายทั้งในประเทศและต่างประเทศ

      "ไม่อย่างนั้นผมเป็นนายกฯโดยไม่ต้องคิดอะไรก็ได้ นายกฯไม่ต้องมาจากไหน ใครก็ได้ ลูกน้องผมก็มานั่งเป็นนายกฯได้ มันต้องเข้าใจ ต้องคิดต้องรู้การบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ใช่ เขียนโผมาให้ แล้วก็อ่าน แล้วจบ อ่านผิดอีกต่างหาก ผมจึงไม่อ่าน เลยไม่ผิด พูดเอง เอาหัวข้อมาเท่านั้น แค่นี้ยังเยอะเลย"นายกฯ กล่าว

โต้ข่าวเลอะเทอะ-ทาบ'อานันท์'

      ต่อมาเมื่อเวลา 16.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ชุดใหม่ว่า การตั้งสปท.ตนจะพิจารณาตามสัดส่วน โดย 1.คนที่เคยเป็นสปช. ทั้งคนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยตามความเหมาะสม 2.เจ้าหน้าที่ที่จัดทำแผนให้มีความชัดเจนขึ้น เป็นรูปธรรมมากขึ้น นำแนวทางที่ศึกษาของกรรมการที่แล้วมาดู จากนั้นจึงจัดทำแผนงาน โครงการ โรดแม็ปให้เรียบร้อย เพราะแนวทางปฏิรูปจะต้องมีคนเหล่านี้เข้ามา 3.ข้าราชการกระทรวงต่างๆ ที่ต้องปฏิรูป 4.ด้านความมั่นคงจะต้องเข้ามาเพื่อดูว่าจะทำส่วนใดได้บ้าง

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวทาบทามนายอานันท์เป็นกรธ. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "เลอะเทอะ ยังไม่ได้ทาบเลย ข่าวนี้มาจากไหน คนโน้นคนนี้ ผมยังไม่ได้พูดกับใครสักคน ใครไปทาบ คนทาบน่าจะเป็นผมมากกว่า"

      เมื่อถามว่า ตอนนี้ทาบทามคนเข้ามามีความคืบหน้ากี่เปอร์เซ็นต์แล้ว พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าในสัดส่วนตนได้ทำไปแล้ว และดูอยู่ว่าควรเป็นใครบ้างในงานแต่ละด้าน ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ตนไปคิด แต่เลือกจากสัดส่วน เช่น ข้าราชการก็ต้องคัดมาให้ตนเลือก ซึ่งมีทั้งนักกฎหมาย ข้าราชการ เพราะเขารู้ว่าตนเปลี่ยนอะไรไปแล้วบ้าง อย่างสปช.เอาคนจากข้างนอกเกือบทั้งหมด เขาไม่รู้ว่าเราทำอะไรไปบ้าง มันจึงค่อนข้างกว้างเกินไป แต่จะทำให้มันดีขึ้น เอาคนที่รู้เรื่องมาทำ เหมือนร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าเอาคนที่ไม่รู้กฎหมายมามากๆ มันก็ตีกัน เพราะทุกคนก็เอาความคิดตัวเองเป็นอิสระ ตนก็ไม่ได้ห้ามความคิดเขา แต่มันต้องทำ ให้ได้

สเป๊ก 21 กรธ.-รธน.ผสมผสาน

      พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนกรธ. หลักการง่ายๆ คือ 1.มีความรู้ด้านกฎหมาย ต้องเอาคนที่รู้กฎหมายเป็นหลักเข้ามา ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ อย่าเพิ่งไปหาเพราะตนยังไม่ได้ทาบทามใคร 2.ต้องรู้สถานการณ์ในวันนี้ ทั้งอดีตและวันหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ตัวคนที่จะมาต้องเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจก็กลับไปเป็นแบบเดิม เช่น ต้องการประชามติ ต้องการประชา ธิปไตยสมบูรณ์ คิดแบบโลกสวย 3.ต้องรู้เจตนาของตน รัฐบาล และคสช. ว่าเราจะเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศอย่างไร ถ้าทำอย่างนั้นมันจะออกมาได้

      "ระหว่างที่ทำรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งมันไม่ได้ใหม่มาก ก็เอาของที่ผ่านมาบ้าง ที่ไม่ผ่านตรงนั้นตรงนี้บ้าง ในอดีตมีตั้งหลายอัน ก็เอามาดูว่าอะไรที่เคยเอาเข้ามาหรือควรตัดออก อะไรที่ควรเพิ่มเติมไป แล้วเป็นเรื่องเฉพาะห้วงเวลา เช่น 5 ปี หรือ 4 ปี อย่างที่เถียงกันเรื่องส.ว.ได้หรือไม่ได้ ผมไม่รู้แต่ถ้ามันเป็นอย่างนี้ก่อน แล้วจะลดลงทีละปี ท้ายที่สุดมันก็มีเลือกตั้งทั้งหมด" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ยังไม่คิดทาบ"บวรศักดิ์"เข้าร่วมอีก

     เมื่อถามว่าแสดงว่าจะให้มีประเด็นที่ อ่อนไหว เช่น นายกฯคนนอก คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและปรองดองแห่งชาติ(คปป.) หรือหลายมาตราในบทเฉพาะกาลก่อนหน้านี้ในรัฐธรรมนูญที่จะร่างใหม่ด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าก็ไปดู แต่ใช่ว่าจะตัดออก เพราะไม่มีความเป็นประชาธิป ไตย ต้องรู้คำถามข้อที่ 1 ของตนว่าโจทย์ของประเทศอยู่ที่ใด ให้นั่นเป็นจุดตัดสินใจว่าควรจะมีหรือไม่มี วันนี้นักการเมืองที่จะเตรียมเลือกตั้งเขามีพฤติกรรมอย่างไร ทั้งนี้ ต้องขอบคุณ เพราะบางพรรคออกมาแสดงความเข้าใจแล้ว แต่บางพรรคก็ยังไม่เข้าใจเหมือนเดิม

      ผู้สื่อข่าวถามว่าการสรรหากรธ.ถือว่าลำบากหรือไม่ เพราะสถานการณ์นี้ไม่มีใครอยากเป็น นายกฯกล่าวว่าไม่มาก็ไม่มาก็หาคนอื่น ไม่ลำบาก คนไทยมีคนเก่งตั้งเยอะ เพียงแต่เขาจะรับหรือเปล่า

      เมื่อถามว่าจะใช้บริการความสามารถนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญต่อหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่าต้องปรึกษาและคุยกันก่อน เขาเป็นศัตรูตนหรือ เมื่อถามว่ามีแนวโน้มที่นายกฯจะให้มาช่วยเป็นกรธ.หรือไม่ นายกฯกล่าวว่ายังไม่มี ยังไม่ได้คิด เมื่อวานนี้มีกระแสข่าวตั้งใครเป็นประธาน ตนเห็นชื่อแล้ว ยังไม่ได้คิดถึงเลย หรือเขี่ยลูก

ปล่อยมุขจะเป็นประธานกรธ.เอง

      เมื่อถามว่า เวลานี้นึกถึงใครที่จะให้มาเป็นประธานกรธ. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "เดี๋ยวผมเป็นเอง" ผู้สื่อข่าวถามว่าจริงหรือไม่ที่จะเป็นเอง จะได้พาดหัวข่าว นายกฯกล่าวว่ายังไม่รู้ พร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี และกล่าวว่า "ไอ้บ้า มันก็โยนกลับมาให้ฉันอีก เดี๋ยวเตะให้ ฉันก็พูดเล่นไปเรื่อย หาไม่ได้ ก็เป็นเองก็ได้ ไหนๆ ก็โดนอยู่แล้ว จะทำให้มันดีขึ้นก็แล้วกัน"

เมื่อถามว่าวันนี้ความขัดแย้งที่ยังมีอยู่นั้นอยู่ตรงไหน นายกฯกล่าวว่าอยู่ที่หัวใจของคน หัวใจสื่อ หัวใจของคนไทยทุกคน ถ้าทุกคนยังอยากมีความขัดแย้งอยู่ มันก็จะขัดแย้งไปเรื่อยๆ ฉะนั้นสื่อต้องทำหัวใจให้ใสสะอาด ถ้าเราเอาแต่ความเกลียดชังไปเรื่อยๆ มันไม่ได้ จะเป็นอยู่อย่างนี้ ไม่มีวันเลิก ต่อให้ตนใช้อำนาจร้อยอำนาจ ก็ทำไม่ได้ เพราะหัวใจพวกเราไม่ต้องการความสงบ สันติ

ปึ้งแนะบิ๊กตู่ประกาศท่าทีในยูเอ็น

      วันเดียวกัน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงพล.อ.ประยุทธ์จะไปร่วมประชุมองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ที่สหรัฐว่า ขอฝากให้พล.อ.ประยุทธ์เตรียมชี้แจงในเวทีสหประชา ชาติให้ดี ว่าเหตุใดโรดแม็ปต้องยืดออกไป เป็นเพราะการร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหน อย่างไร ถ้าต่างชาติเขาให้ความเชื่อถือในคำชี้แจงของพล.อ.ประยุทธ์ ประเทศไทยก็จะได้ประโยชน์ และครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่นายกฯได้กล่าวในเวทีโลก จะบันทึกคำพูดไว้ ดังนั้นคำพูดใดที่พูดแล้วมันยืดได้หดได้แบบไทยๆ ไม่ควรนำไปใช้บนเวทีนี้

     "ถ้าจะให้ดีนายกฯต้องประกาศบนเวทีให้ชัดเจนเลย ว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งวันไหน และหลังเลือกตั้งแล้วคสช.จะถอยออกทั้งหมด จะไม่ยุ่งเกี่ยว จะไม่สืบทอดอำนาจในรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ประกาศดังๆ ให้เป็นสัญญาประชาคมต่อหน้าทุกประเทศ ว่าจะให้อำนาจประชาธิปไตยแก่ปวงชน การไปครั้งนี้นายกฯจะกลายเป็นวีรบุรุษแน่นอน" นายสุรพงษ์กล่าว

นายสุรพงษ์กล่าวว่า ส่วนการร่างรัฐธรรม นูญใหม่นั้น ส.ว.แต่งตั้งต้องไม่มีแล้ว ต้องเลือกตั้งอย่างเดียว นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้ง มาจากส.ส. รัฐบาลต้องไม่มาจากการเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อให้พรรคการเมืองอ่อนแอจนตั้งรัฐบาลไม่ได้ คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ(คปป.)ก็ไม่เอาแล้ว ต้องไม่มีใครมาสั่งรัฐบาลต้องทำโน่นทำนี้ อะไรที่เป็นเหมือนมาตรา 44 ต้องไม่มีหมกเม็ดไว้ในรัฐธรรมนูญใหม่อีก

ชทพ.ติงยืดโรดแม็ป-ชี้กระทบศก.

     ด้านนายนิกร จำนง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนากล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ต้องเปิดเผยและเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายเข้าร่วม บุคคลที่จะเข้ามาต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญให้ได้ตามโจทย์ คือการแก้ไขความขัดแย้งในอดีต และไม่ทำเนื้อหาให้เป็นชนวนความขัดแย้งรอบใหม่ เพราะหากทำเนื้อหาให้มีความขัดแย้ง และผ่านไปกระบวนการทำประชามติจะทำให้เกิดความรุนแรงได้ อย่างไรก็ตาม ต้องรับฟังเสียงของนักการเมือง ในฐานะเป็นตัวแทนที่เชื่อมระหว่างประชาชนและฝ่ายรัฐด้วย ในเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ผ่านมติรับรองจากสปช.ก็มีข้อดี และหลายประเด็นช่วยปลดล็อกปัญหาที่เคยเป็นเดตล็อกทางการเมืองอยู่หลายประการ เช่น ความขัดแย้งและมีการชุมนุม ปัจจุบันมีกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะกำกับไว้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมีองค์กรหรือคณะบุคคลมากำกับแนวทางแก้ปัญหาตามที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดอีก

     นายนิกร กล่าวว่า ส่วนเรื่องปฏิทินเวลาดำเนินการสำหรับร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ที่มีไว้ประมาณ 20 เดือน ส่งผลให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปประมาณ 2 ปีนั้น สำหรับนักการเมืองรอได้ แต่ขอให้คำนึงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังทอดเวลาการทำงานดังกล่าวออกไปด้วย

ปชป.แนะปรับรธน.ภาคที่4

     วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงลำดับขั้นตอนและปฏิทินการร่างรัฐธรรมนูญในสูตร 6-4-6-4 ว่าตนรับได้ในสูตรนี้ และเป็นช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพราะยังเป็นไปตามโรดแม็ปที่กำหนดไว้ตั้งแต่ต้นในภาพรวมว่า หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านก็ต้องบวกเวลาออกไปอีก 6-7 เดือนอยู่แล้ว ถ้าแลกกับการได้มากับรัฐธรรมนูญที่มีความเหมาะสมกว่าและเป็นที่ยอมรับได้ของฝ่ายต่างๆ คิดว่าคุ้มค่า แต่ทั้งหมดต้องดูที่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ว่าจะเป็นอย่างไร และทำให้รัฐธรรมนูญที่ยกร่างขึ้นมาใหม่เป็นประโยชน์กับการปฏิรูปประเทศ เหมาะสม เป็นกติกาของบ้านเมืองที่จะบังคับใช้กับคนไทยทุกคน

     นายจุรินทร์ กล่าวว่าร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ผ่านสปช. ซึ่งแบ่งเป็น 4 ภาค โดยในภาค 1-3 ถือว่าภาพรวมเป็นที่ยอมรับได้ ส่วนใหญ่จะมีปัญหาที่มีข้อถกเถียงกันในภาค 4 คือการปฏิรูปและการปรองดอง ซึ่งความจริงถ้าจะถือหลักที่มีการพูดถึงกันที่บอกว่าอะไรดีก็เก็บไว้ อะไรเห็นไม่ตรงกันก็ควรปรับปรุงแก้ไขให้เป็นที่ยอมรับได้ หากกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ทำแบบนี้ก็จะได้รับการยอมรับ

นิพิฏฐ์อัดบิ๊กตู่-แนะปรับทัศนคติ

      นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงพล.อ.ประยุทธ์ระบุร่างรัฐธรรมนูญที่สปช.คว่ำเพราะนักการเมืองเสี้ยมออกสื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์มีข้อเสียคือ ด่านักการเมืองและพรรคการเมืองตลอด จากเดิมด่าเช้า ด่าเย็น ตอนนี้เพิ่มก่อนนอนอีกหนึ่งเวลา ความจริงทุกอาชีพมีทั้งคนดีและคนไม่ดี อย่าเหมารวม เช่นเดียวกับทหารที่มีทั้งดีและไม่ดี มีทั้งทหารที่ปกป้องประเทศชาติและทหารที่ค้ามนุษย์ ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ระบุพรรคเป็นสาเหตุให้ร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำนั้น ไม่เป็นความจริงและไม่มีใครเชื่อด้วยว่าสปช.ฟังนักการเมืองมากกว่าฟังคสช. หากพล.อ. ประยุทธ์ไม่ปรับทัศนคติและมองนักการเมืองเลวเหมือนกันหมด ก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อระบอบประชาธิปไตยที่พล.อ.ประยุทธ์กำลังสร้างและต้องการจะเห็น

      "ถ้านักการเมืองเลวหมดก็อย่ามีเลือกตั้งเลย เพราะระบอบประชาธิปไตยต้องอยู่คู่กับตัวแทนที่ประชาชนเลือก ไม่เช่นนั้นก็นำประเทศออกจากระบอบประชาธิปไตยเข้าสู่ระบบทหารแบบพม่า ที่ผมต้องพูดเช่นนี้ เพราะเชื่อว่าประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ เพราะมีนักการเมืองที่ดี ซื่อสัตย์สุจริตผลัดเปลี่ยนกันมาบริหารประเทศตลอดมา" รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

แคมเปญ'เติมก.ให้นาย...ทักษิณ'

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการถอดยศนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปรากฏว่าใน โซเชี่ยลมีเดียมีแคมเปญ เติม ก. ไก่ ให้นาย...ทักษิณ โดยมีการโพสต์ภาพข้อความ "เติม ก. ไก่ ให้นาย... ทักษิณ" บนพื้นหลังสีแดงลงบนอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กส่วนตัว เริ่มจากครอบครัวชินวัตร อาทิ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ นางพินทองทา คุณากรวงศ์ บุตรสาว ขณะเดียวกันบรรดาอดีตรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต่างพากันโพสต์ภาพดังกล่าวลงบนอินสตาแกรม และเฟซบุ๊กส่วนตัวจำนวนมาก เพื่อเป็นการให้เกียรตินายทักษิณ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อเติม ก. ไก่ หลังคำว่านาย...แล้วจะได้คำว่า "นายกทักษิณ"

'พิชัย'ถูกเชิญปรับทัศนคติหน 7

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพภาคที่ 1 ได้เดินทางไปเชิญตัวนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ที่บ้านพักย่านประตูน้ำ ไปปรับทัศนคติ หลังออกมาวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าจะมีปัญหามากขึ้น หากเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก โดยนายพิชัยได้นั่งรถยนต์ส่วนตัวตามรถเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารสื่อสารที่ 12 รักษาพระองค์ (ส.พัน.12 รอ.) เพื่อไปยังกองทัพภาคที่ 1

นายพิชัยกล่าวว่า การถูกเชิญตัวไปปรับทัศนคติครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 คาดว่าเป็นสาเหตุจากที่ตนให้สัมภาษณ์เรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ขอยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดนั้นเป็นเรื่องจริงที่พูดมาตลอด โดยในวันเดียวกันนี้ ตนจะนำข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับมุมมองการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไปพูดให้เจ้าหน้าที่ทหารฟังด้วย

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิชัย ซึ่งถูกเชิญตัวไปปรับทัศนคติตั้งแต่เวลา 09.30 น. ถือเป็นครั้งที่ 7 โดยครั้งนี้คาดว่านายพิชัยอาจถูกควบคุมตัว 7 วัน เพราะได้ให้สัมภาษณ์ ครั้งล่าสุดในเชิงวิจารณ์การบริหารงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าจะมีปัญหามากยิ่งขึ้น หากมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก

      รายงานข่าวนายทหารจาก คสช.เปิดเผยว่า คาดว่าเจ้าหน้าที่ กกล.รส.จะนำตัวนายพิชัยไปไว้ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในจ.สระบุรี ยืนยันว่าเมื่อครบกำหนดแล้วจะปล่อยตัวนายพิชัยกลับบ้านต่อไป

"ณัฐวุฒิ"ติงอย่าอ้างไม่ใช่การเมือง

     ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า นักการเมืองมีส่วนทำให้ร่างรัฐธรรมนูญถูกควํ่าว่า เห็นด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ที่ว่า สปช.คว่ำร่างรัฐธรรมนูญเพราะนักการเมือง แต่นักการเมืองดังกล่าวไม่ได้อยู่ในระบอบประชาธิป ไตย เป็นนักการเมืองในระบอบเผด็จการที่มีอำนาจเด็ดขาด ตั้งแม่น้ำ 5 สายมาตามใจแป๊ะ จึงสั่ง สปช.ให้ซ้ายหันขวาหันได้ตามต้องการ

     ทั้งนี้ บางทีการที่คนเราไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็เป็นเรื่องเสียหาย ยิ่งจงใจไม่รู้ยิ่งเสียหายหนักโดยเฉพาะถ้าเป็นผู้มีอำนาจ จึงต้องบอกให้ทราบว่าสิ่งที่กำลังทำกันอยู่บนเรือแป๊ะนั่นแหละการเมือง การขยายโรดแม็ปตลอดเวลา ยิ่งชัดว่าเป็นปฏิบัติการทางการเมือง ซึ่งคนจากการเลือกตั้งทำแบบนี้ไม่ได้ อยากให้ผู้มีอำนาจยอมรับความจริง ไม่ใช่เกลียดประชานิยม แต่เอานโยบายไปใช้ เกลียดนักการเมือง แต่เดินเกมการเมืองตลอดเวลา แบบนี้จะให้ประชาชนเข้าใจว่าอย่างไร

     นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายกฯ พูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า สิ่งที่ทำอยู่ดีกว่านักการเมืองทั้งหลาย ไม่มีรัฐบาลเลือกตั้งชุดไหนทำให้ประชาชนได้ขนาดนี้ อยากชี้ให้เห็นว่าที่มาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เพราะเนื้องาน แต่เพราะแต้มต่อจากการเป็นรัฐบาลยึดอำนาจ ใครเดือดร้อนเรื่องอะไรเรียกร้องมากก็ไม่ได้ ไปแถลงในสภา ก็มีแต่คนคอยปรบมือให้ จะทำอะไรก็มีอำนาจเด็ดขาดคอยจัดการ รัฐบาลแบบนี้จะอ้างว่าดีกว่าคนอื่นไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงทางการเมือง แต่ทุกอย่างใช้อำนาจกดไว้ ลองเปิดพื้นที่ให้มีสภา มีกระบวนการตรวจสอบปกติ มีความรับผิดชอบเหมือนนักการเมืองทั่วไปดูสัก 2 เดือนก่อนแล้วค่อยมาว่ากันใหม่ เชื่อภาษิตที่ว่ากลองจะดีต้องคนอื่นตีแล้วดัง พอเห็นกลองบางใบดังเองบ่อยก็ชักเป็นห่วง กลัวเสียงกลองที่ดังขึ้นเองจะทำให้ประชาชนกลัวจนไม่กล้าส่งเสียงความทุกข์ยากของตัวเอง

ย้ำกรธ.ต้องไม่มี 36 มหาปราชญ์

      ด้านนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทร ปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรธ.ที่นายกฯ จะแต่งตั้งนั้น ต้องไม่เลือก 36 คนที่เป็นกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญชุดเดิมเข้ามายกร่างอีก เพราะสปช.ลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้ถูกกระแสต่อต้านจากประชาชนและพรรค การเมือง อีกทั้งไม่ควรนำร่างรัฐธรรม นูญฉบับที่เพิ่งถูกคว่ำลง มาเป็นต้นแบบยกร่างรัฐธรรมนูญด้วย เพราะสปช.ไม่รับร่างนี้ และตอนนี้ประเทศไม่มีเวลามาทดลองอีกแล้ว คสช.จะมาขอเวลาอีกไม่ได้ จึงขอให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 และปี 2550 มาใช้เลือกตั้งไปก่อน เพื่อแก้วิกฤตขัดแย้งของประเทศและปัญหาปากท้องของประชาชน แล้วให้เป็นหน้าที่ของประชาชนและตัวแทนแต่ละจังหวัด มีสภาร่างรัฐธรรมนูญมายกร่างรัฐธรรมนูญ หรือหากนายกฯ ต้องการมีส่วนร่วม จะตั้งคนของตัวเองมาร่วมยกร่างรัฐธรรมนูญก็ได้ จึงคิดว่าวิธีนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุด

สนช.แถลงผลงาน 1 ปี-ไม่ใช่ตรายาง

     ที่อาคารรัฐสภา 1 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) จัดงานแถลงสรุปผลงานสนช.ครบ 1 ปี เพื่อรายงานผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปีตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.57 ถึงวันที่ 7 ส.ค.58 โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 และนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่ 2 พร้อมประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) สามัญประจำสนช.ทั้ง 16 คณะ

    นายพรเพชร กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน 1 ปีถือว่าน่าพอใจ มีกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสนช. 143 ฉบับ ส่วนใหญ่เป็นกฎหมายที่รัฐบาลเสนอเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายที่เป็นนโยบาย รวมถึงกฎหมายที่เป็นพันธกรณีกับต่างประเทศ ซึ่งการทำงานของสนช.ไม่ใช่เป็นตราประทับ ไม่ใช่แค่เห็นชอบกฎหมาย เรามีกมธ.วิสามัญกิจการคอยประสานกับรัฐบาล เพื่อพิจารณากฎหมายให้เป็นประโยชน์ ชอบด้วยหลักกฎหมายตามหลักนิติธรรม และรัฐบาลไม่ได้ยุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซงการพิจารณากฎหมาย

     นายพรเพชร กล่าวว่า แนวทางการทำงานในอนาคต สนช.ได้เตรียมการพร้อมแล้ว ได้แก่ การออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายลูกเพื่อกำหนดโครงสร้างการบริหารประเทศ แต่เมื่อร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) จึงต้องชะลอออกไปก่อน ส่วนการตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ชุดใหม่ 21 คน ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 บัญญัติว่าเมื่อร่างรัฐธรรมนูญแล้วให้ฟังความเห็นของสนช.ด้วย ตนได้คุยกับนายสุรชัย ว่าอาจมีสมาชิกสนช.ร่วมเป็นกรธ. 1-2 คนเพื่อให้ทุกอย่างราบรื่น และเมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สนช.ต้องพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญด้วย แต่การเสนอนี้ถือเป็นความเห็นส่วนตัว เพราะเห็นว่าสนช.มีบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่เหมาะสมในการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ได้ผูกมัด

อ้างไม่ทำเพื่อสนองนโยบายใคร

      นายพรเพชรกล่าวถึงการแต่งตั้งกรธ.ว่า ต้องมีทั้งนักกฎหมาย และไม่ใช่นักกฎหมาย และหากจะให้นักการเมืองเข้าร่วม ก็ควรวางหลักเกณฑ์ให้ชัด โดยหลักการทำกฎหมายต้องทำให้ดีขึ้นกว่าของเดิม แต่ต้องศึกษาประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะข้อดีและข้อเสียของกฎหมายมาประกอบการพิจารณา แต่ไม่ได้ลอกของเก่าทั้งหมดหรือจินตนาการเองไม่ได้ ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าจะต้องมีสนช.อย่างน้อย 1-2 คนเข้าไปเป็นกรธ. เพื่อจะได้สอดคล้องกับการทำงานของนายสุรชัย ที่ทำหน้าที่ประธานกมธ.สามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะ และรวบรวมความคิดเห็นเพื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งคสช.จะเป็นผู้คัดเลือก ตนไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ส่วนที่บอกว่าตนมีรายชื่อเป็น 1 ใน 21 กรธ.นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนเป็นประธานสนช.อยู่แล้ว จะไปทำอะไรได้อีก

เมื่อถามว่าสนช.ส่วนใหญ่เป็นทหารจนถูกมองเป็นสนช.ท็อปบู๊ท การทำงานที่ผ่านมายืนยันได้หรือไม่ว่ามีอิสระ นายพรเพชรกล่าวว่า ยืนยันว่าสนช.ตั้งใจทำงานเต็มที่ และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ไม่ได้ทำงานเพื่อสนองนโยบายใคร ไม่มีใครทำตามคำสั่ง เพราะนายทหารที่อยู่ในสนช.ส่วนใหญ่เกษียณแล้ว และการลงมติของสนช. นานๆ ครั้งถึงจะลงมติแบบลับ อีกทั้งยังมีกฎหมายหลายฉบับที่สนช.ส่งคืนรัฐบาล ขอให้สื่อจับตาดูการทำงานของสนช.ต่อไป

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 1 ปีที่ผ่านมามีกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสนช. 143 ฉบับ รับหลักการวาระที่ 1 แล้ว 132 ฉบับ ยังไม่ได้รับหลักการ 3 ฉบับ รอกมธ.พิจารณา 1 ฉบับ และตกไป 7 ฉบับ ขณะที่การถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งนั้น ดำเนินการ 6 กรณี ประกอบด้วยกรณีนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กรณีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กรณีอดีตส.ว. 38 คน กรณีอดีตส.ส. 248 คน กรณีนายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

"กนกทิพย์"ยื่นลารองเลขาสมช.

    เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคง แห่งชาติ(สมช.) กล่าวถึงข่าวนางกนกทิพย์ รชตะนันทน์ รองเลขาธิการสมช. ยื่นหนังสือลาออกจากราชการ เนื่องจากท้อแท้ในการทำงาน และไม่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นเลขาฯสมช. ทั้งที่อาวุโสสูงสุด หลังจากที่ประชุมครม.มีมติแต่งตั้งพล.อ.ทวีป เนตรนิยม ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นเลขาฯสมช.คนใหม่ว่า ตนได้รับหนังสือลาออกจากนางกนกทิพย์แล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดการลาออก ซึ่งตามกระแสข่าวที่ว่าท้อแท้ในการทำงานนั้น ตนยังระบุไม่ได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยเพื่อให้กลับมาทำหน้าที่ รองเลขาธิการสมช. ต่อ เพราะยังเหลืออายุราชการอีก 1 ปี

     ที่อาคารรับรองเกษะโกมล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนางกนกทิพย์ ยื่นใบลาออกหลังไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการ สมช. คนใหม่ว่า ถ้าจะลาออกก็เป็นความต้องการของนางกนกทิพย์ แต่อยากให้เข้าใจว่าเป็นห้วงเวลาที่เราจำเป็น เพราะต้องใช้ทหารดูแลความมั่นคงทั้งหมด แนวคิดคือเพื่อให้เกิดความมั่นใจ และไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง อยากให้เข้าใจตรงนี้ เราตั้งใจทำทุกอย่างให้ดีที่สุด

       เมื่อเวลา 16.15 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวถึงกรณีนางกนกทิพย์ ท้อใจยื่นใบลาออกที่ดึงคนนอกมาเป็นเลขาฯสมช.ว่า ไม่ใช่คนนอก ก็คนในระบบราชการ ทุกคนเป็นข้าราชการอยู่แล้ว ต้องดูว่าสถานการณ์ความมั่นคงมันมีปัญหาอย่างไร ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เก่ง แต่สถานการณ์วันนี้มันควรมีบุคลากรที่บุกป่าฝ่าฟันได้ ไม่ใช่นางกนกทิพย์ ไม่เก่ง เราพร้อมดูแลอย่างอื่น ถ้ามันทำได้ ก็ต้องอดทน เพิ่งเป็นรองเลขาฯสมช.ได้ปีหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นลูกหม้อ ก็เยอะแยะหลายกระทรวงเขาเป็นรองฯเขาไม่เห็นได้เป็นเลย ไม่เช่นนั้นก็ประท้วงกันหมด

      เมื่อถามว่า จะยับยั้งการลาออกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า จะยับยั้งได้อย่างไร เป็นความสมัครใจ ตนไม่ได้บังคับให้เขาลาออก หน้าที่ชี้แจงเป็นของผู้บังคับบัญชา เลขาธิการสมช.เสนอขึ้นมา เมื่อเขาพิจารณาแล้วไม่เหมาะสม ก็ต้องมีคนอื่นเทียบเคียง คือเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน มีตัวเลือกเข้าไป ในเมื่อตัวเลือก ตนก็เซ็นอนุมัติ แต่ความรับผิดชอบแน่นอนตนเป็นคนเซ็น ไม่ใช่ว่ามีอำนาจซ้อนอำนาจตนไม่ใช่ ทุกอย่างตั้งมาไม่ว่าใครจากไหนต้องให้เขาพิจารณาจากข้างล่าง ไม่ใช่เอาไอ้นี้เป็นโน่นเป็นไม่ได้

"ตู่"มั่นใจเอาผิดผู้สั่งการคดีข้าว

      เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 5/2558 ว่า ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์ปัจจุบัน แผนการระบายข้าว แผนการตรวจสอบและจัดหาหลักฐานต่างๆ เรื่องคดีความที่ต้องทำให้ทันกำหนดเวลา ยืนยันว่าเราพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน ส่วนความเสียหายนั้น อย่าเพิ่งสรุปเป็นตัวเลขเพราะเมื่อเวลาต่าง ราคาการซื้อขายก็ต่างออกไป เมื่อบวกกับค่าบำรุงรักษาและดอกเบี้ยต่างๆ ทุกอย่างจะมีมูลค่าขึ้นทั้งหมด ยิ่งนานวันก็ยิ่งเสียหายมากขึ้น จึงจำเป็นต้องหาทางระบายข้าวให้เร็วที่สุดในคุณภาพต่างๆ รวมทั้งข้าวเสียและข้างกองล้มที่ตรวจสอบลำบาก

     นายกฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าทุกอย่างที่ทำมีความละเอียดรอบคอบ อย่ากังวลว่าจะนำข้าวไม่ดีไปขาย ข้าวในส่วนที่ดีก็ยังดีอยู่ ส่วนที่ไม่ดีก็ต้องมีหลักฐานให้ชัดเจน ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ การดำเนินการดังกล่าวไม่ง่าย แต่สิ่งที่สูญเสียคือขวัญและกำลังใจของข้าราชการ ซึ่งประเมินค่าไม่ได้ ทั้งเหน็ดเหนื่อย เสี่ยงคุกตะราง ถึงวันนี้ก็เสี่ยงเป็นมะเร็งปอดในการไปรื้อคลังต่างๆ

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะมีระดับผู้บริหารได้รับการลงโทษ นายกฯ กล่าวว่า มีเพราะเขามีคณะกรรมการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ทั้งหมดต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนจะไม่เข้าไปยุ่ง เป็นหน้าที่ของฝ่ายตุลาการจะตัดสิน หน้าที่ของรัฐบาลคือทำรายละเอียดขึ้นไปว่าขั้นตอนต่างๆ และคุณภาพของข้าวเป็นอย่างนี้ ซึ่งมีหลายหน่วยงานตรวจสอบไว้แล้วทั้ง สตง. ป.ป.ช. อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังหารือถึงสถานการณ์ข้าวในปีหน้า ไทยยืนยันจะทำให้ปริมาณข้าวจำหน่ายออกสู่ตลาดโลกให้มากเหมือนเดิม แต่ขึ้นอยู่กับการผลิตด้วย

      ที่สำนักงานป.ป.ช. นายวิชา มหาคุณ กรรมการ และโฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) รวมถึงครม. รวม 34 ราย กรณีจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ.2548-2553) โดยไม่มีอำนาจ เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ และเพื่อช่วยเหลือพวกพ้องของตนเอง ว่า กรณีนี้อนุกรรมการได้นัดให้ผู้ถูกกล่าวหาทยอยกันมาทุกวัน เพื่อตรวจพยานหลักฐานและยื่นคำแก้ข้อกล่าวหา

      ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดว่าจะใช้เวลาในการไต่สวนนานหรือไม่ นายวิชากล่าวว่า ผู้ถูกกล่าวหามีจำนวนมาก คาดเดาไม่ถูกว่าจะเสร็จเมื่อใด ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

 

มาแรงชิงปธ.ยกร่างรธน. อมร-มีชัย 'บิ๊กตู่'เปิดสเปกอรหันต์ ไม่โลกสวย-เข้าใจคสช. เชิญพิชัยนอนค่าย 7 วัน วิจารณ์โรดแมป 20 ด. รองเลขาฯสมช.ไขก็อก น้อยใจ'คนนอก'ได้ขึ้น

 

 

มติชนออนไลน์ : ปรับทัศนคติ - เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 1 เชิญตัวนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน ที่บ้านพักย่านประตูน้ำไปปรับทัศนคติเป็นเวลา 7 วัน เนื่องจากนายพิชัยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในเชิงวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 กันยายน

 

      'บิ๊กตู่'ฮึ่มอย่าให้เขียน รธน.เองเดี๋ยวเดือดร้อน 'วิษณุ'ปัดนั่ง ปธ.กรธ. สะพัดชื่อ'อมร-มีชัย'แรง คสช.เข้มคุม'พิชัย' 7 วัน 'ปึ้ง'แนะ'บิ๊กตู่'ประกาศวันเลือกตั้งให้ชัดเวทียูเอ็น

 

@ 'บิ๊กตู่'ยันสืบทอดอำนาจปชช.

 

      เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศการบริหารจัดการด้านการเงินการคลัง ครั้งที่ 2 โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า การทุจริตเกิดจาก 4 ปัจจัย ประกอบด้วย รัฐบาล, ข้าราชการ, เอกชน และประชาชน ทั้งหมดมีส่วนร่วมทำให้ดีหรือไม่ดี หรือการกระทำความผิด หากแก้ไขไม่ได้ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อำนาจทุกอย่างของประเทศอยู่กับประชาชน "ผมก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น อำนาจหน้าที่ของผมที่ทุกคนกล่าวหาว่าอยากจะสืบทอดนั้น ความจริงแล้วคือการสืบทอดอำนาจของประชาชน ไม่ว่าการเลือกตั้งถูกต้อง เข้าใจระบอบประชาธิปไตยถูกต้อง และสนับสนุนรัฐบาลมีธรรมาภิบาล ไม่ได้ต้องการอยู่ไปจนแก่ เพราะทุกวันนี้ก็แก่พออยู่แล้ว อยากพักผ่อนเต็มที แต่ในเมื่อมาแล้ว และยังไปไหนไม่ได้ในตอนนี้ จะเห็นได้ว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีปัญหาวุ่นวายหลายประการ ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการต่างๆ มากมายไปหมด จนทุกคนลืมไปว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังอยู่ในสถานการณ์แบบไหน บริหารราชการแผ่นดินโดยใคร พอทุกอย่างจะสงบเรียบร้อยก็ตีกันขึ้นมาอีก ถ้าอยากกลับไปอยู่ในบรรยากาศก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 อีกก็เอา" นายกฯกล่าว 

 

@ เตือนพวกมีคดีอย่าวุ่นวายนัก

 

      พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ไม่ว่าอะไรอยากเตือนและฝากบอกไว้ก่อนว่าพวกบรรดาผู้นำออกมาขอให้ระวังตัวเอาไว้ ปากดีทุกคนนั่นแหละ ถ้าเมื่อไหร่ศาลตัดสินว่าผิดก็บอกว่าไม่เป็นธรรม แต่ถ้าตัดสินว่าถูกก็จะทำเฉยๆ และชื่นชม ทั้งที่เป็นศาลเดียวกันนั่นแหละ ผมไม่เข้าใจว่าคนเหล่านี้สติเป็นอะไร ผมไม่อยากพูดอีกเดี๋ยวอารมณ์เสีย ตั้งใจจะอารมณ์ดีแต่ก็อดไม่ได้เพราะมากดดันผมเยอะ ใครจะว่าอะไรผม ก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดไว้เท่าไหร่ก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นจะยืดยาว จะช้าหรือไม่ช้าไม่ได้อยู่ที่ผม อยู่ที่การทำงานจะเป็นไปตามโรดแมปหรือไม่ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคน ทุกภาคส่วนต้องวิเคราะห์และเข้าถึงปัญหา ถ้าเรายึดแบบของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเรื่องของอริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ว่าทุกวันนี้เกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง สาเหตุเกิดจากอะไร และต้องหาหนทางแก้ปัญหา ปัญหาทุกอย่างก็จะหมดสิ้นไป" 

 

@ อย่าให้เขียนรธน.เดี๋ยวเดือดร้อน

 

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หลายอย่าง ต้องชดใช้หนี้ไป ไม่อยากจะพูดว่าคดีไหน คดีที่หนักที่สุดคือโครงการรับจำนำข้าว ถ้าไม่หยุดวันนี้จะเป็นหนี้อีกเท่าไหร่ รับจำนำมาตันละ 15,000 บาท ราคาตลาดไม่ถึงอยู่แล้ว ช่วยประชาชนไม่ว่า แต่เอามาแล้วจำหน่ายได้ไหม ขายใครได้ไหม ต้นทุน 15,000 บาท วันนี้กลายเป็น 2 หมื่นกว่าบาท และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็น 3 หมื่น ต้องมีค่าคลังเก็บรักษา ค่าเจ้าหน้าที่ดูแล แต่ให้โอกาสเพราะให้เกียรติคนทำงาน เพราะไม่มีใครแก้ปัญหานี้ได้ นอกจากคนในกระบวนการรับรู้และก็ไว้ใจ ไม่ต้องกลัว ทำไปให้ดีที่สุด ทุกเรื่อง เรื่องที่เสียหายมากอีกเรื่องคือรถคันแรก เดือดร้อนไปหมด สร้างดีมานด์เทียม บางคนซื้อยังขับรถไม่เป็น แต่จองไว้เพื่อเอาเงินแสน เสียเงินไป 8 หมื่นกว่าล้าน ธุรกิจรถยนต์เสียหาย เพราะทุกอย่างบิดเบือน ตนไม่เคยนึกอยากจะอยู่แม้แต่วันเดียว และไม่เคยคิดอยากจะเข้ามาเลยตั้งแต่วันแรก ประเทศนี้เป็นของทุกคน ต้องยอมรับกติการ่วมกันเดินหน้าประเทศ ด้วยวิธีการไหน รัฐธรรมนูญหรือบทเฉพาะกาล "ผมไม่อยากเขียนรัฐธรรมนูญเอง ถ้าจะเขียนคงเขียนแค่ 5 มาตราพอ ถ้าบวกมาตรา 44 อีกก็จะเดือดร้อน แต่ไม่ใช่หน้าที่ของผม เป็นเรื่องของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

 

@ จวกสื่อโซเชียลทำบ้านเมืองวุ่น

 

    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายที่สุดคือสื่อโซเชียลมีเดีย เขียนอะไรมาบางทียังคิดว่าเขียนไปได้ยังไง บางทีนั่งเขียนอยู่บ้านมั้ง มีหน้าที่ปลุกปั่น แต่ถ้าไม่ไปอ่านไม่ฟังก็โง่ไม่ทันเขา แต่ถ้าเชื่อทั้งหมดไอ้นี่มันบ้า เพราะบางอันใช่ บางอันก็ไม่ใช่ ขอโทษถ้าใช้คำรุนแรงไปบ้าง แต่ขอให้อดทนกับตนไปอีกนิด ตอนนี้ก็มาทวงแล้ว ไหนว่าจะขอเวลาอีกไม่นาน ตอนแต่งเพลงไม่ได้เจตนาตรงนี้ แต่ตอนนี้มาทวงแล้ว ถามว่าสุขจริงหรือยัง ถ้าสุขจริงพรุ่งนี้คืนให้ได้ ถ้าคิดว่าพร้อม วันนี้ต้องขอบคุณบางพรรคการเมืองเข้าใจแล้ว บางพรรคเหมือนเดิม หัวทิ่มหัวตำอยู่อย่างเก่า ช่างมัน สู้ได้อยู่แล้ว สู้ด้วยความดี ส่วนเรื่องเก่าค่อยว่ากัน ตราบใดเรื่องไม่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ไม่ต้องมากลัวตน แต่ถ้าเรื่องใดอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้วก็ไปสู้กัน อย่าทำผิดอีก เพราะตนไม่ได้ไปทาบทับอำนาจ เพียงแค่ต้องการบริหารงานในเชิงรุก แก้ปัญหาประเทศชาติได้อย่างไรในเวลาที่มีอยู่

 

@ "บิ๊กตู่"เผยสัดส่วนสภาขับเคลื่อน

 

     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชุดใหม่ว่า การตั้งสภาขับเคลื่อนฯจะพิจารณาตามสัดส่วน โดย 1.มีคนเคยเป็น สปช. ทั้งคนรับและไม่รับร่างรัฐธรรมนูญตามความเหมาะสม 2.เจ้าหน้าที่สามารถจัดทำแผนปฏิรูปให้ชัดเจน เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยนำแนวทาง สปช.ที่แล้วมาดู จากนั้นทำแผนงาน โครงการโรดแมปให้เรียบร้อย เพราะแนวทางปฏิรูปจะต้องมีคนเหล่านี้ 3.ข้าราชการในกระทรวงต่างๆ ต้องปฏิรูป 4.ด้านความมั่นคงจะต้องเข้ามาดูว่าจะทำส่วนใดได้บ้าง

 

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวการทาบทามนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯเข้ามาเป็น กรธ. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "เลอะเทอะ ยังไม่ได้ทาบทามเลย ข่าวนี้มาจากไหน ยังไม่ได้พูดกับใคร การทาบทามคนเข้ามาในสัดส่วนทำไปแล้ว กำลังดูอยู่ว่าควรจะเป็นใครบ้างในงานแต่ละด้าน ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ผมไปคิด แต่เลือกจากสัดส่วน เช่น ข้าราชการก็ต้องคัดมาให้ผมเลือก"

 

@ วางสเปกผู้เข้ามาเป็นกรธ. 

 

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับ กรธ. หลักการง่ายๆ คือ 1.มีความรู้ด้านกฎหมาย ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่อย่าเพิ่งไปหา เพราะยังไม่ได้ทาบทามใคร 2.ต้องรู้สถานการณ์วันนี้ ทั้งอดีตและวันหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ตัวคนจะมาต้องเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจก็จะกลับไปแบบเดิม เช่น ต้องการอย่างนี้อย่างนั้น ต้องการประชามติ ต้องการประชาธิปไตยสมบูรณ์ คิดแบบโลกสวย 3.ต้องรู้เจตนาของตน รัฐบาล และ คสช.ว่าเราจะเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศอย่างไร ในระหว่างทำรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่ได้ใหม่มาก เอาของที่ผ่านมาบ้าง ที่ไม่ผ่านตรงนั้นตรงนี้บ้าง เพราะในอดีตมีตั้งหลายอันก็เอามาดู อะไรเคยจะเอาเข้ามาหรือควรตัดออก อะไรควรเพิ่ม แล้วเป็นเรื่องเฉพาะห้วงเวลาเช่น 5 ปี หรือ 4 ปี อย่างที่เขาเถียงกันเรื่อง ส.ว. ได้หรือไม่ได้ ไม่รู้ เพียงแต่ว่าถ้าเป็นอย่างนี้ แล้วลดลงทีละปี ท้ายสุดก็มีเลือกตั้ง 

 

      เมื่อถามว่า จะใช้บริการนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธาน กมธ.ยกร่างต่ออย่างไรหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ต้องปรึกษากัน เมื่อถามว่ามีแนวโน้มจะให้มาช่วยเป็น กรธ.หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ยังไม่มี ยังไม่ได้คิด 

 

      เมื่อถามว่า เวลานี้นึกถึงใครมาเป็นประธาน กรธ. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "เดี๋ยวผมเป็นเอง" ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จริงหรือไม่จะเป็นเองเพราะจะได้พาดหัวข่าวเลย นายกฯตอบทันทีว่า "ยังไม่รู้" พร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดีและกล่าวว่า พูดเล่นไปเรื่อย หาไม่ได้ก็เป็นเองก็ได้ ไหนๆ ก็โดนอยู่แล้วไง เอาละจะทำให้ดีขึ้นก็แล้วกัน

 

@ แจงตั้งเลขาฯสมช.ดูสถานการณ์

 

    พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นางกนกทิพย์ รัชตะนันท์ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ท้อใจยื่นใบลาออกโดยให้เหตุผลเนื่องจากไม่ได้รับพิจารณาขึ้นเป็นเลขาธิการ สมช. ทั้งที่มีอาวุโส แต่กลับไปพิจารณาคนนอกว่า ไม่ใช่คนนอก คนในระบบราชการ ทุกคนเป็นข้าราชการหมด ต้องมาดูว่าสถานการณ์ความมั่นคงมีปัญหาอย่างไร ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เก่ง แต่ด้วยสถานการณ์วันนี้ควรต้องมีบุคลากรที่บุกบ่าฝ่าฟันได้ทำนองนี้ ไม่ใช่นางกนกทิพย์ไม่เก่ง รัฐบาลก็พร้อมดูแลอย่างอื่น ถ้าสามารถทำได้ "ท่านต้องอดทน ท่านเพิ่งเป็นรองเลขาธิการ สมช.ได้ปีหนึ่งใช่ไหม แม้จะเป็นลูกหม้อ ก็เยอะแยะไปหลายกระทรวงหลายพื้นที่เขาเป็นรองฯเขาไม่เห็นได้เป็นเลย ไม่เช่นนั้นก็ต้องประท้วงกันหมด" นายกฯกล่าว

 

@ เลขาฯยื้อรองฯกลับมาทำงาน

 

      นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการ สมช. กล่าวถึงกรณีนางกนกทิพย์ยื่นหนังสือลาออกเพราะท้อแท้การทำงาน ไม่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นเลขาฯสมช. หลังจาก ครม.แต่งตั้ง พล.อ.ทวีป เนตรนิยม ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาเป็นเลขาฯสมช.ว่า ได้รับหนังสือลาออกจากนางกนกทิพย์แล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดการลาออก ตามกระแสข่าวว่าท้อแท้ในการทำงานนั้นยังไม่สามารถระบุได้ ขณะนี้กำลังพูดคุยเพื่อให้กลับมาทำหน้าที่รองเลขาธิการฯสมช.ต่อเพราะยังเหลืออายุราชการอีก 1 ปี 

 

       รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุผลที่นางกนกทิพย์ยื่นหนังสือลาออก เนื่องจากต้องการรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเองในฐานะเป็นลูกหม้อ สมช. ทำงานสายงานนี้มาโดยตลอดตั้งแต่เป็นผู้อำนวยการข่าวกรอง สำนักความมั่นคงกิจการชายแดนและการป้องกันประเทศ สำนักความมั่นคงกิจการภายในประเทศ สำนักความมั่นคงกิจการภายนอกประเทศ และได้รับหน้าที่สำคัญคือดูแลปราสาทพระวิหาร การแก้ไขปัญหาโรฮีนจา ปัญหาการค้ามนุษย์ และชาวอุยกูร์ ทั้งนี้ นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาฯสมช.ได้เสนอให้นางกนกทิพย์ เป็นเลขาฯสมช. แต่ได้รับการปฏิเสธจากผู้ใหญ่ในรัฐบาลและที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้ง พล.อ.ทวีป เนตรนิยม ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) ขึ้นเป็นเลขาฯสมช.คนใหม่แทน 

 

@ วิษณุปัดชง"มีชัย-จรูญ"นั่งปธ.กรธ.

 

     นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวระบุว่าเป็นผู้เสนอชื่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาเป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า ไม่เคยเสนอ และไม่เคยอยู่ในความคิดของตน ไม่คิดด้วยว่าจะเป็นนายมีชัยเพราะเคยพูดเอาไว้แล้วว่าไม่เอา แต่ก็รู้สึกสนุกได้นั่งเดาชื่อไปพร้อมๆ กับสื่อมวลชน แม้แต่ชื่อนายจรูญ อินทจาร อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้อยู่ในความคิดแต่อย่างใด ไม่เคยเสนอเช่นกัน ข่าวที่เอามาถาม ไม่เป็นความจริง และตำแหน่งดังกล่าวนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.นั้นจะเป็นผู้คิดเอง ได้พูดแล้วว่าจะชัดเจนวันที่ 22 กันยายนนี้ เพราะวันที่ 23 กันยายน นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปต่างประเทศ วันที่ 22 กันยายน จะมีการประชุมร่วม ครม. คสช. เมื่อได้รายชื่อแล้วก็ประกาศให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีโดยไม่ต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ หรือแม้แต่สมาชิกสภาขับเคลื่อนฯก็ไม่ต้องโปรดเกล้าฯ ที่พูดถึง 6-4-6-4 มีคนไปบอกว่า เป็นการยืดเวลาออกไป 20 เดือนนั้น ความจริงไม่ใช่ ความจริงยืดแค่ 6 เดือนเท่านั้น เพราะถ้าร่างรัฐธรรมนูญผ่าน สปช.เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็จะใช้สูตร 4-6-4 อยู่ดี เพราะฉะนั้นที่งอกเพิ่มมาคือ 6 ตัวแรกเท่านั้น คือสิ่งยาวออกไป 6 เดือน ไม่ใช่ว่ายืดอายุ คสช.ไป 20 เดือน ส่วนต่างคือ 6 เดือนเท่านั้น

 

@ เปรียบเมืองลงกามีเมืองเดียว

 

     มีคนมาถามผมว่า มีข่าวว่าผมจะเป็นประธาน กรธ. ยิ่งหนักเข้าไปอีก ผมไม่ไป เพราะคุณสมบัติห้ามไว้ พอบอกว่าคุณสมบัติห้ามก็ยังถามอีกว่าจะลาออกไปเป็นหรือไม่ แสดงว่าพวกนี้ไม่เคยอ่านรามเกียรติ์ในตอนไปฆ่าทศกัณฐ์ แล้วมีคนบอกให้ทศกัณฐ์ยอมแพ้ลาออกเสียแล้วเอาเมืองมา เพื่อจะตั้งยักษ์อีกตนไปเป็นเจ้าเมืองแทนทศกัณฐ์ ยักษ์ตัวหลังตัวพี่นั้นก็เลยถามว่าลงกาเป็นสองเมืองหรือ 

 

ให้น้องแล้วจะรื้อมาให้พี่ คือลงกาเป็นเมืองเดียว มีน้องครองอยู่แล้วจะยึดจากน้องมาให้พี่ครองได้หรือ คำพูดนี้เคยพูดถึงแล้วครั้งหนึ่งว่า เอารัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ (ปราโมช) ออกแล้วเอารัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์กลับเข้ามา ผลัดกันเป็นสองคนพี่น้อง อย่างนี้ถ้ายึดจากอาจารย์บวรศักดิ์มาให้ผมก็เข้าลักษณะเดียวกันนั่นแหละ" นายวิษณุกล่าว และว่า ไม่มีใครทาบทาม ตนเป็นรองนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็เป็นไม่ได้เพราะตามกฎหมายมาตรา 8 ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะดำรงตำแหน่ง กรธ.ไม่ได้ ยกเว้นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)

 

@ "บิ๊กป้อม"ชี้ปธ.กรธ.ต้องเคยร่างรธน.

 

     พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระบวนการคัดเลือก กรธ.จำนวน 21 คน และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีจะคัดเลือก แล้วก็ส่งความเห็นชอบไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขณะที่สภาขับเคลื่อนปฏิรูปฯนั้น คงต้องคุยกันในที่ประชุมร่วม คสช.และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนว่าจะคัดเลือกใครมาเป็น คิดว่าน่าจะมีโควต้าอยู่แล้ว แต่ในช่วงนี้ยังไม่ได้ประชุม จึงตอบไม่ได้ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก อย่างไรก็ทันภายใน 30 วันแน่นอน

 

      ส่วนตำแหน่งประธาน กรธ. มีการเสนอชื่ออานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ได้คิด แต่หลักๆ ต้องเป็นนักกฎหมาย และต้องเป็นผู้ใหญ่มีประสบการณ์ทางด้านการร่างรัฐธรรมนูญ จะเป็นใครตนไม่รู้ ส่วนจะมีนักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือหลายสำนักมาเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ ยังไม่รู้ คงต้องรอในที่ประชุมก่อนว่าจะคิดเห็นกันอย่างไร แต่ต้องอยู่ในคณะกรรมการ 21 คนแน่นอน เมื่อถามถึงมีการเสนอชื่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิก คสช. หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ จะไปรู้ได้อย่างไร อย่าไปพูดถึงชื่อตัวบุคคล แต่อยากให้ยึดถึงหลักเกณฑ์ดีก่อน แล้วถึงจะคัดเลือกบุคคลตามหลักเกณฑ์ ถึงจะถูกต้องกระบวนการ 

 

@ ไม่ห้ามอดีตสปช.นั่งสภา

 

     พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สำหรับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปฯ จะตั้งคณะกรรมการคัดเลือก ถ้าคนใดมีความคิดความอ่านด้านการปฏิรูปก็ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคน ไม่ใช่บอกว่าจะเอา สปช.โหวตไม่รับร่างมาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนปฏิรูปฯ แต่จะเอาคนมีความรู้ ส่วนจะคัดเลือกคนเห็นต่างจาก คสช.มาเป็นสภาขับเคลื่อนปฏิรูปฯหรือไม่ อยากถามว่าเห็นต่างกับใคร อย่าพูดอย่างนี้ คสช.ไม่เห็นต่างจากใคร เราเป็นกลาง แล้วการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ไม่ใช่เป็นของ คสช. แต่เป็นรัฐธรรมนูญร่างโดยกรรมการ

 

      เมื่อถามย้ำว่าเริ่มทาบทามบุคคลสมาชิกสภาขับเคลื่อนปฏิรูปฯหรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ไม่ต้องทาบทาม เราตั้งขึ้นมา ใครก็อยากเป็น เพราะอยากทำงานให้บ้านเมืองทั้งนั้น การเลือก 21 คนมาเป็น กรธ. ต้องเป็นคนที่ประชาชนเชื่อมั่น ต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ผ่านประชามติ ตอนนี้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านบ้านเมือง จะต้องมีบทเฉพาะกาลอะไรต่างๆ เพื่อให้บ้านเมืองสงบ เดินต่อไปได้ แล้วเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ในอนาคต อาจต้องมีอย่างนี้ ผมพูดว่าอาจจะ แต่ยังไม่รู้มีหรือเปล่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัว" พล.อ.ประวิตรกล่าว และว่า สูตรนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯบอกถึงสูตร 6-4-6-4 นั้น ที่อยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 อาจจะเร็วกว่านั้น และไม่น่ายาวไปกว่านี้แล้ว ส่วนบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญจะร่างขึ้นมาเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านหรือไม่นั้น ตนสมมุติเฉยๆ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย อาจจะไม่มีก็ได้ หรือจะมีก็ได้ การร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ 2 ต้องมั่นใจว่าจะผ่านประชามติ ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่ต้องทำ

 

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบุคคลที่คาดว่าจะรับหน้าที่ประธานกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่ คือ นายอมร จันทรสมบูรณ์ หรือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ทั้งนี้ ปัจจุบันนายอมรมีอายุครบ 85 ปี เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่สุขภาพยังคงแข็งแรง และพร้อมที่จะเดินหน้าประเทศให้เกิดการปฏิรูป

 

@ แจงจำเป็นตั้งทหารเป็นเลขาสมช.

 

      พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณีนางกนกทิพย์ รองเลขาธิการ สมช. ยื่นใบลาออกว่า ถ้าจะลาออกก็เป็นความต้องการ แต่อยากให้เข้าใจว่าเป็นห้วงเวลานี้จำเป็น เพราะต้องใช้ทหารดูแลความมั่นคงทั้งหมด แนวคิดคือ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง อยากให้เข้าใจตรงนี้ เพราะรัฐบาลก็ตั้งใจทำทุกอย่างให้ดีที่สุด 

 

@ "บิ๊กโด่ง"ยันทหารไม่นั่งกรธ.

 

       พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานเลขาธิการ คสช. กล่าวถึงการคัดเลือก กรธ.ชุดใหม่ 21 คนว่า เป็นไปตามขั้นตอน สัดส่วนของทหารเองจะไม่เข้าไปเป็นคณะกรรมการร่างฯ เพราะฉะนั้นการคัดเลือกรายชื่อบุคคลก็จะเป็นไปตามห้วงระยะเวลา ส่วนที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปดำเนินการ ทางผู้ใหญ่และนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงขั้นตอนต่างๆ ให้ประชาชนทราบอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จำเป็นต้องเดินไปตามขั้นตอนดังกล่าว ในฐานะ ผบ.ทบ. อยากชี้แจงว่าทุกคนไม่มีความประสงค์อื่นใด ในเมื่อมติ สปช.ออกมาเช่นนั้นก็ต้องเป็นเช่นนั้น ไม่ได้ไปผลักดันอะไร ในเมื่อออกมาอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดว่าจะเป็นการต่ออายุรัฐบาล คงไม่เป็นเช่นนั้น ในทางกลับกันทุกคนอยากให้ดำเนินการด้วยความเรียบร้อย เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง โดยไม่ให้ระยะเวลายืดยาวออกไป ทุกคนหวังเช่นนั้น รวมทั้งตนก็คิดเช่นเดียวกัน 

 

      เมื่อถามว่า คสช.จะกำหนดหรือไม่ว่ารัฐธรรมนูญที่จะออกมาในรูปแบบใด พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า คงเป็นเรื่องของคณะกรรมการร่างฯ ครั้งที่ผ่านมาเป็นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเป็นผู้ร่างฯ ก็ต้องดูในเนื้อหาและประเด็นปัญหาเกิดขึ้นมีจุดใดบ้าง คงต้องนำเอาข้อมูลต่างๆ มาคิด เอาของที่ทำมาแล้วบางคนบอกว่าไม่เป็นประโยชน์ แต่ตนมองว่าเป็นประโยชน์ หากปรับปรุงเอาร่างรัฐธรรมนูญเดิมมีปัญหามาแก้ไขปรับปรุงต่อไป 

 

@ "พรเพชร"ชง"สุรชัย"ช่วยร่างรธน.

 

     ที่รัฐสภา 1 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดแถลงข่าวสรุปผลงาน สนช.ครบ 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2557 ถึงวันที่ 7 สิงหาคม 2558 นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน 1 ปีถือว่าน่าพอใจ มีกฎหมายเข้าสู่การพิจารณา 143 ฉบับ การทำงานของ สนช.ไม่ใช่เป็นตราประทับ การทำงานไม่ใช่ง่าย ไม่ใช่แค่เห็นชอบกฎหมาย มีคณะ กมธ.วิสามัญกิจการคอยประสานงานรัฐบาลเพื่อให้เป็นประโยชน์ สนช.ทราบดีว่าไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่เราต้องทำกฎหมายเพื่อประโยชน์ให้กับประชาชน 

 

เมื่อถามว่าโรดแมปของ คสช. เป็น 6-4-6-4 แล้ว สนช.ต้องปรับโรดแมปตามหรือไม่ นายพรเพชรกล่าวว่า โรดแมปของ สนช.ไม่มีแบบ 6-4-6-4 สนช.ทำงานจนกว่าจะมีเลือกตั้ง แต่โรดแมป 6-4-6-4 คงจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการทำงานของ สนช.ด้วย เช่น การพิจารณากฎหมาย และการบริหารพัฒนาประเทศต่อไป ส่วนที่ตนระบุว่า สนช.ควรเข้าไปเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2 คนนั้น จะให้นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.เป็นผู้เสนอแนะการทำร่างรัฐธรรมนูญ แต่เป็นความเห็นส่วนตัว เพราะ สนช.มีบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ผูกมัด เพราะผู้มีหน้าที่แต่งตั้งคือ คสช.

 

@ โยนคสช.แก้รธน.ปมประชามติ

 

     เมื่อถามว่าการทำประชามติจะแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 57 ในมาตรา 37 หรือไม่ นายพรเพชรกล่าวว่า ตอนแก้ไขร่าง รัฐบาลและ คสช.รวมทั้งกฤษฎีกาดูภาษาแล้วคิดว่าใช้ได้ว่าหมายถึงเสียงข้างมากของผู้มาลงคะแนน แต่เมื่อประกาศใช้จริงก็เกิดปัญหา เพราะภาษาไทยดิ้นได้ ไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ดังนั้น คงจะต้องสร้างความชัดเจน สนช.ไม่สามารถเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ เป็นหน้าที่ของ คสช.และ ครม.เสนอ

 

เมื่อถามว่า สนช.ส่วนใหญ่เป็นทหาร หรือ สนช.ท็อปบู๊ต ยืนยันว่ามีความเป็นอิสระหรือไม่ นายพรเพชรกล่าวว่า สนช.ตั้งใจทำงานเต็มที่ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ไม่ได้ทำงานเพื่อสนองนโยบายใคร ไม่มีใครทำตามคำสั่ง เพราะนายทหารใน สนช.ส่วนใหญ่เกษียณแล้ว นอกจากนี้การลงมติของ สนช.ก็นานๆ ครั้งถึงจะลงมติแบบลับ ยังมีกฎหมายหลายฉบับ สนช.ส่งคืนกลับรัฐบาล ขอให้สื่อมวลชนจับตาดูการทำงานของ สนช.ต่อไป 

 

@ พท.ดักคอกรธ.ต้องไม่มีชุดเดิม

 

     นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า กรธ.จะต้องไม่เลือกคนเป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่าง

 

รัฐธรรมนูญชุดเดิม เพราะ สปช.ลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้ถูกกระแสต่อต้านจากประชาชน พรรคการเมือง ไม่ควรนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับเพิ่งถูกคว่ำลงมาเป็นต้นแบบ เพราะ สปช.ไม่รับร่างนี้ ตอนนี้ประเทศไม่มีเวลามาทดลองอีกแล้ว ทาง คสช.จะมาขอเวลาอีกไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์คัดเลือกคนมาเป็น กรธ.ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 และปี 2550 มาเลือกตั้งไปก่อนเพื่อแก้วิกฤตความขัดแย้งของประเทศและปัญหาปากท้องประชาชน แล้วให้เป็นหน้าที่ของประชาชนและตัวแทนแต่ละจังหวัดมีสภาร่างรัฐธรรมนูญมายกร่างรัฐธรรมนูญ 

 

@ "จุรินทร์"แนะปรับร่างรธน.เดิม

 

      นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงลำดับขั้นตอนและปฏิทินการร่างรัฐธรรมนูญในสูตร 6-4-6-4 ว่า รับได้ในสูตรนี้ เป็นช่วงจังหวะเวลาเหมาะสมเพราะยังเป็นไปตามโรดแมปในภาพรวมหากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านก็ต้องบวกเวลาออกไปอีก 6-7 เดือนอยู่แล้ว ถ้าแลกกับการได้รัฐธรรมนูญเหมาะสมกว่าและเป็นที่ยอมรับคิดว่าคุ้มค่า แต่ต้องดูที่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ว่าจะเป็นอย่างไร ทำให้รัฐธรรมนูญใหม่เป็นประโยชน์กับการปฏิรูปประเทศ เหมาะสม เป็นกติกาของบ้านเมือง บังคับใช้กับคนไทยทุกคน ร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่ผ่าน สปช. แบ่งเป็น 4 ภาค ภาค 1-3 ถือว่าภาพรวมยอมรับได้ ส่วนใหญ่จะมีปัญหาข้อถกเถียงกันในภาค 4 คือการปฏิรูปและการปรองดอง ความจริงถ้าจะถือหลักอะไรดีก็เก็บไว้ อะไรเห็นไม่ตรงกันควรปรับปรุง หาก กรธ.ทำแบบนี้ก็จะได้รับการยอมรับ

 

@ "นิพิฏฐ์"ให้"บิ๊กตู่"ปรับทัศนคติบ้าง

 

      นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุร่างรัฐธรรมนูญที่ สปช.คว่ำเพราะนักการเมืองเสี้ยมออกสื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์มีข้อเสียคือด่านักการเมืองและพรรคการเมืองตลอดเวลา จากเดิมด่าเช้า ด่าเที่ยง และด่าเย็น ตอนนี้เพิ่มก่อนนอนอีก 1 เวลา ความจริงทุกอาชีพมีทั้งคนดีและคนไม่ดี อย่าเหมารวม เช่นเดียวกับทหารมีทั้งดีและไม่ดี มีทั้งทหารปกป้องประเทศชาติและทหารค้ามนุษย์ ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า พรรคการเมืองเป็นสาเหตุให้ร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำนั้นไม่เป็นความจริงและไม่มีใครเชื่อด้วยว่า สปช.ฟังนักการเมืองมากกว่าฟัง คสช. หาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ปรับทัศนคติและมองนักการเมืองเลวเหมือนกันหมด ก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อระบอบประชาธิปไตยที่ พล.อ.ประยุทธ์กำลังสร้างและต้องการจะเห็น

 

@ "ปึ้ง"ยุ"บิ๊กตู่"ประกาศชัดเวทียูเอ็น

 

     นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปร่วมประชุมองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่สหรัฐว่า ขอฝากให้ พล.อ.ประยุทธ์เตรียมชี้แจงในเวทีสหประชาชาติให้ดีว่าเหตุใดโรดแมปต้องยืดออกไป เป็นเพราะการร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหนอย่างไร ถ้าต่างชาติเขาให้ความเชื่อถือในคำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ ประเทศไทยเราก็จะได้ประโยชน์ ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่นายกฯจะได้กล่าวในเวทีโลก ก็จะมีการบันทึกคำพูดของนายกฯไว้ ดังนั้น คำพูดใดพูดแล้วยืดได้หดได้แบบไทยๆ ไม่ควรนำไปใช้บนเวทีนี้ ถ้าจะให้ดีนายกฯต้องประกาศบนเวทีให้ชัดเจนเลยว่าประเทศไทยจะเลือกตั้งวันไหน หลังการเลือกตั้งแล้ว คสช.จะถอยออกทั้งหมด จะไม่ยุ่งเกี่ยว จะไม่สืบทอดอำนาจในรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ประกาศออกมาดังๆ ให้เป็นสัญญาประชาคมต่อหน้าทุกประเทศจะให้อำนาจประชาธิปไตยแก่ปวงชน การไปครั้งนี้นายกฯจะกลายเป็นวีรบุรุษแน่นอน

 

@ เชิญ"พิชัย"ปรับทัศนคติครั้งที่ 7 

 

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพภาคที่ 1 ได้เดินทางไปเชิญตัวนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่บ้านพักย่านประตูน้ำไปปรับทัศนคติหลังจากออกมาวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าจะมีปัญหามากขึ้นหากเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก โดยนายพิชัยได้นั่งรถยนต์ส่วนตัวตามรถเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารสื่อสารที่ 12 รักษาพระองค์ (ส.พัน.12 รอ.) เพื่อเดินทางไปยังกองทัพภาคที่ 1 นายพิชัยกล่าวว่า ถูกเชิญตัวไปปรับทัศนคติครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 คาดว่าสาเหตุมาจากให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในเรื่องเศรษฐกิจ ยืนยันว่าสิ่งที่พูดไปเป็นเรื่องจริง พูดมาตลอด วันที่ 9 กันยายนนี้นำข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไปพูดให้เจ้าหน้าที่ทหารฟังด้วย

 

@ โดน 7 วัน-เล็งเรียกรายอื่นเพิ่ม 

 

      รายงานข่าวจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 (กกล.รส.ทภ.1) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวนายพิชัยเพื่อปรับทัศนคติเป็นเวลา 7 วัน เนื่องจากนายพิชัยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในเชิงวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า จะมีปัญหามากยิ่งขึ้น หากมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก นอกจากนี้ กกล.รส.ทภ.1 อาจจะเชิญตัวนักการเมืองคนอื่นที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะอาจจะส่งผลกระทบต่อโรดแมปของ คสช.ด้วย

 

     แหล่งข่าวจากนายทหาร คสช. กล่าวว่า ทางกกล.รส.ได้ควบคุมตัวนายพิชัยไปไว้ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี ยืนยันว่าเมื่อครบกำหนดแล้วจะปล่อยตัวนายพิชัยกลับบ้าน

 

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!