WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1กอดแทน

ทหาร-ตร.ลงพื้นที่เบรกใส่แดงชุมนุม ปูกอดหนังสือ'พี่แม้ว'ปชป.ยุเลิกปาร์ตี้ลิสต์

     ป.ป.ช.ชี้คดีโรงพักร้างเส้นทางการเงินซับซ้อน ต้องใช้เวลาตรวจสอบ'ตร.-ทหาร'ฮึ่ทห้ามแต่งแดงชุมนุม 1 พ.ย. 'บิ๊กตู่'ลั่นห้ามม็อบเกษตรกรกดดัน เปรยถ้าเศรษฐกิจดีอาจขึ้นแวต กรธ.ส่อเพิ่มกกต.เป็น 9 คน ปชป.ติงระบบเลือกตั้งใหม่ของกรธ. เพื่อไทยชี้กาบัตรใบเดียว จำกัดสิทธิเลือกส.ส.เขต-ปาร์ตี้ลิสต์คนละพรรค ปึ้งชี้ 'ตู่'คุยแม่น้ำ 5 สายช่วยโลกเข้าใจไทยถ่องแท้ เตือนบริหารประเทศด้วย ความรอบคอบ 'ปู' โชว์กอดหนังสือแม้ว บอกคิดถึงพี่มาก 

วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9103 ข่าวสดรายวัน


กอดแทน- น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์รูปภาพกอดหนังสือ 'ทักษิณ ชินวัตร ชีวิตและงาน' ในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมข้อความระบุว่า"ขอกอดหนังสือแทนตัวจริงคิดถึงพี่ค่ะ อย่าลืมไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านนะคะ แล้วจะรู้ว่าทำไมดิฉันถึงขอกอดหนังสือเล่มนี้ค่ะ" เมื่อวันที่ 30 ต.ค.

 

'ตู่'ลั่นห้ามเกษตรกรกดดัน 

    เมื่อวันที่ 30 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ว่าเรื่องผลิตผลทางการเกษตรทุกชนิด รัฐบาลกำลังกำหนดมาตรการช่วยเหลือโดยปรับโครงสร้างให้ชาวเกษตรกรยืนอยู่อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนด้วย ตัวเอง ขอเตือนบรรดาแกนนำกลุ่มต่างๆ อย่าได้นำเกษตรกรมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล เพราะรัฐบาลนี้จะไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องที่ไม่เกิดประโยชน์แก่ตัวเกษตรกร ทุกคณะที่มาให้หน่วยงานชี้แจงไปแล้ว ว่าถ้าฟังแนวทางของเราแล้วร่วมมือก็ดูแลได้ แต่ถ้าไม่เอาอะไรเลยแล้วดื้อดึงขัดขืนก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย มาตรการช่วยเหลือด้านภาระหนี้สินต้องใช้เวลาแล้วมีมาตรการที่เหมาะสม แก้ ทั้งระบบ 

     "หลายกลุ่มพยายามมาบีบบังคับให้รัฐบาลยกหนี้ให้ทั้งหมด เป็นไปไม่ได้และทำไม่ได้ อย่าคิดว่าถ้าทำแบบนี้แล้วจะได้ทั้งหมด ได้แบบที่ต้องการ มันไม่ได้ รัฐบาลไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น ต้องค่อยเป็นค่อยไป" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 

ย้ำอีกพร้อมรับฟังทุกกลุ่ม 

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การร่างรัฐธรรมนูญก็เดินหน้าไป ได้พบแม่น้ำ 5 สายได้ทำความเข้าใจร่วมกันว่าจะเดินหน้าประเทศอย่างไร เราต้องหารัฐธรรมนูญที่เหมาะสมกับประเทศไทยให้ได้ ขอความร่วมมือจากทั้งกรธ. สนช. สปท.คงเข้าใจกันดีแล้ว การปฏิรูปการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนจะทำได้อย่างไรต้องมีการประสานงาน บูรณาการ รับฟังความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดช่องทางรับฟังความเห็นไว้หลายช่องทาง และจะลงพื้นที่ไปสร้างความเข้าใจ ก็ขอความกรุณาให้มาร่วมกันด้วย 

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกลุ่มที่ปฏิเสธทุกอย่าง แล้วไปอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน วันนี้เปิดรับฟังทุกทาง หลายคนเขียนจดหมายมาถึงตนโดยตรงขอร่วมมือกันตรงนั้นตรงนี้ ตนก็ยินดี วันนี้ก็ให้คนไปพบปะกับทั้งอาจารย์ นิสิต นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วย ขอร้องวันนี้ประเทศชาติเป็นอย่างไรขอให้เข้าใจ วันหน้าก็ต้องกลับมาสู่การเป็นประชาธิปไตยอยู่ดี เรียกร้องกันวันนี้ก็ปฏิรูปไม่ได้ แต่ถ้าทุกคนคิดว่าไม่ต้องปฏิรูปอะไรเลยก็จนใจ

วอนน.ศ.นึกถึงประเทศชาติด้วย 

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้งานค่อนข้างยาก ยากไปเรื่อยๆ ระยะแรกงานแก้ในเชิงเดี่ยว วันนี้ขั้นที่สองทับซ้อนกันมาก ไม่ว่าจะข้ามกระทรวง ข้ามกรม เกี่ยวข้องกับพลเรือน ตำรวจ ทหาร กฎหมายที่ต้องแก้ไขหลายฉบับ ยากไปหมด แถมก็ยังมีคน ไม่เข้าใจมาต่อต้านด้วยเหตุผลประชาธิปไตยกับสิทธิมนุษยชน เคยห่วงคนที่เขาเดือดร้อนกับเรื่องเหล่านี้หรือไม่ อย่างไรก็ต้องเลือกตั้ง อะไรที่ผิดกฎหมายก็ต้องผิด หลายเรื่องปล่อยมานานเจ้าหน้าที่ด้วยต้องรับผิดชอบด้วย ตนเองก็ต้องรับด้วยอยู่ในเหตุการณ์มาตลอด วันนี้เข้ามาบริหารต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ 

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การต่อต้านต่างๆ ขอร้องอย่ามาอ้างเหตุผลเลย อย่ามาโยนความผิดให้คนอื่น โจมตีกันไปมาปรองดองไม่ได้ เรื่องของนิสิตนักศึกษาให้คนไปคุย ครูอาจารย์ต่างๆ ก็ขอร้องกัน กรุณานึกถึงประเทศชาติด้วย อย่าเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง วันหน้าเป็นประชาธิปไตยอย่างที่ทุกคนต้องการอยู่แล้ว วันนี้ต้องรู้ว่าปัญหาประเทศอยู่ตรงไหน ที่ผ่านมาทุกคนมีแรงขับเคลื่อนที่แรง มีคนมาให้ข้อมูลท่านไม่ถูกต้องก็ทำให้เคลื่อนไหวในทางที่ผิด แล้วก็เป็นอันตรายต่อตัวเอง พ่อแม่ ประเทศชาติเสียหาย

แจงแผนปราบผู้มีอิทธิพล 

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นรัฐบาลทำอย่าง ต่อเนื่อง อย่าไปฟังที่ออกมาพูดจาให้ร้ายต่างๆ วันนี้ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ให้ชัดเจนขึ้นในทุกกระบวนการ ตนและคสช.ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรเลย เพียงแต่นำสู่กระบวนการเท่านั้น แต่การพิจารณาจะเร็วจะช้าก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม อย่ากดดันมากนัก อย่าไปฟังแต่สื่อที่บิดเบือน โซเชี่ยลมีเดียที่บิดเบือน หรือบางคนที่ออกมาพูดบิดเบือน ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือถ้าไม่มีอะไรผิดกฎหมายจะมีอะไร ถ้ามีมูลก็ต้องไปสอบสวน วันนี้ยังไม่ทำอะไร แค่ตั้งเรื่องขึ้นมาไปดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนปกติ ก็แอบอ้างกันเรื่องความไม่เป็นธรรม ความไม่ยุติธรรม เร่งรัดจนเกินไป

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า นโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลสืบเนื่องจากรัฐบาลเป็นห่วงปัญหาสังคม จะเห็นว่ามีโจร มิจฉาชีพมากขึ้น มีการใช้ความรุนแรง ใช้อาวุธสงครามเข้าแก้ปัญหา ไม่หวาดกลัวกฎหมาย รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิด แสวงประโยชน์ กดขี่ ข่มเหง ผู้มีอิทธิพลดังกล่าวมักมีเครือข่ายอาชญากร ซุ้มมือปืน เป็นองค์ประกอบสำคัญด้วย นโยบายนี้ไม่ได้เป็นการไล่ล่าฆ่าฟันใคร เพียงแต่กำชับให้มีมาตรการที่เหมาะสมทางกฎหมาย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ อย่าไปปล่อยปละละเลย เราไม่จำเป็นต้องไปออกกฎหมายอะไรใหม่อีกแล้ว กฎหมายเดิมก็เพียงพออยู่แล้ว แล้ววันนี้มีมาตรา 44 อยู่แล้วด้วย ไม่อยากให้ทุกคนมาต่อสู้กันในอนาคตด้วยอาวุธสงคราม หรือใช้ความรุนแรง 

เปรย'ศก.'ดี-อาจขึ้นแวต 

      พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือการจัดหาเงินที่เป็นรายรับของรัฐบาล รายได้รัฐมาจากการเก็บภาษี ภาษีบุคคล นิติบุคคล หรือภาษีอื่นๆ ไม่ได้บอกว่าจะเก็บภาษีวันนี้ ยังทำไม่ได้ แต่อยากให้คิดว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศดีขึ้น เรามีรายจ่ายมากทั้งงบประจำ งบลงทุน งบเร่งด่วน วันหน้าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้นควรต้องเสียมากขึ้นหรือไม่ โดยที่ไม่เดือดร้อน เป็นธรรม รายได้น้อยๆ ก็ไม่ต้องเสียมาก 

     "การเรียกร้องต่างๆ 2-3 วันที่ผ่านมา มายื่นคำขาด ไม่ให้มายื่นคำขาดกับตน ยื่นไม่ได้ สถานการณ์ไม่ปกติอยู่แล้ว มาบอกแล้วจะหาทางแก้ให้ ถ้ากดดันไม่มีได้อะไรทั้งสิ้น ตนไม่ให้ เรื่องแวตหากเศรษฐกิจดีขึ้น เข้มแข็งขึ้น ยั่งยืนขึ้น อาจต้องขึ้นบ้าง ต้องเสียสละ"

ปึ้งชี้'วาทะตู่'ช่วยโลกเข้าใจไทย 

     นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรอง นายกฯ และรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า การพูดในสภาของพล.อ.ประยุทธ์ชัดเจนมาก ขอบคุณที่เผยความรู้สึกและข้อเท็จจริงต่างๆ ให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นและเข้าถึงความเป็นมาของเรื่องต่างๆ อย่างถ่องแท้ และเมื่อสังคมโลกรับรู้ถึงแนวทางและวิธีบริหารงานของรัฐบาลนี้ เขาจะได้นำไปวิเคราะห์ในแง่มุมต่างๆ เพื่อให้คนของเขามองเห็นภาพและเข้าใจถึงสถาน การณ์ของไทยในอนาคต เพื่อใช้ตัดสินใจในทุกด้านได้ง่ายขึ้น และเขาจะถือว่าเป็นคำสัญญาหรือคำพูดที่ผูกพันประเทศมากๆ

    "การพูดของนายกฯ จะถูกบันทึกทุกคำพูดไว้เป็นหลักฐาน หวังว่าพล.อ.ประยุทธ์จะแก้ปัญหาและดำเนินการตามแนวทางที่พูดและชี้แจงไว้ เพราะวันนั้นได้รับความชื่นชมและเสียงปรบมือจากแม่น้ำ 5 สายอย่างท่วมท้น ไม่มีคำถามใดๆเลย ขอให้นายกฯ ทำหน้าที่ต่อจนสัมฤทธิผล และถ้าพลาดพลั้งประการใดจะได้รับผิดชอบเอง ไม่ต้องใช้ข้ออ้างว่าเพราะรัฐบาลชุดก่อนๆ หวังว่านายกฯ จะทำเรื่องต่างๆ ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง ไม่ให้ประเทศเสียหายภายใต้การบริหารงานของนายกฯ เอง" นายสุรพงษ์กล่าว

พท.ติง'ปิดประเทศ'

      นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีพล.อ.ประยุทธ์พูดระหว่างการประชุมแม่น้ำ 5 สาย หากสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่สงบก็พร้อมจะอยู่ต่อและถึงขั้นปิดประเทศ ว่า สร้างความแตกตื่นและส่งผลกระทบในหลายวงการ เพราะคนพูดคือผู้ที่ถืออำนาจหลักในการกำหนดอนาคตประเทศ พูดกับคนฟังคือแม่น้ำ 5 สาย ซึ่งถือเป็นเครื่องมือดำเนินการตามโรดแม็ป ไม่ใช่ระดับพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ที่เคยประกาศแช่แข็งประเทศ และไม่ใช่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการมูลนิธิมวลมหาประชาชน ที่ประกาศชัตดาวน์ประเทศ แม้คำประกาศจะปิดประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นภาคต่อจากแนวคิดเดียวกับพล.อ.บุญเลิศ และกปปส.

     นายอนุสรณ์ กล่าวว่า แต่ครั้งนี้ส่งผลกระทบหนักมาก ผู้คนจึงแตกตื่น ตลาดหุ้นติดลบ 2 วันกว่า 30 จุด นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศสับสน กลัวจะกระทบกับธุรกิจของเขาที่อยู่ในไทย หากมีปัญหาจะแบกรับความเสี่ยงนี้ได้หรือไม่ จึงถือเป็นประเด็นละเอียดอ่อน กระทบต่อความเชื่อมั่นอย่างมาก

'เต้น'เมินวรงค์-ขอชนมาร์ค 

      ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยังมีอาการทุรนทุรายกับโครงการประกวดเรียงความของตน ทั้งที่เป็นกิจกรรมซึ่งจะนำความจริงจากชาวนาสู่สังคม มีการกล่าวหาถึงขั้นเรียกร้ององค์กรเกี่ยวกับเด็กเข้ามาดูแล เพราะตนจะใช้ความใสซื่อของเด็กไปบิดเบือนคดีรับจำนำข้าว แต่เชื่อว่าองค์กรเด็กคงไม่บ้าจี้ตามไปด้วย เเละอยากให้องค์กรด้านสุขภาพจิตเร่งดูแล นพ.วรงค์โดยด่วน เพราะการไล่โจมตีการประกวดเรียงความเป็นรายวัน ถือว่าอาการไม่ธรรมดา 

    นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า โครงการนี้ทำเพื่อแสวงหาความจริง ทุกขั้นตอนตรงไปตรงมา ไม่มีเลือกสี เลือกฝ่าย ลูกหลานชาวนาทุกคนส่งเรียงความเข้าประกวดได้ ทุกความจริงจะถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ ส่วนการท้าออกโทรทัศน์ไปพูดเรื่องทุจริตจำนำข้าวนั้น ขอให้สติ นพ.วรงค์ว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และอีกหลายคนเป็นผู้ถูกกล่าวหา คดีสู้กันอยู่ในศาล ไม่ใช่เวลาจะเอามาเถียงกันหน้าจอทีวี อย่างไรก็ดีเมื่อท้ามาก็ขอรับคำท้า แต่มีข้อแม้เดียวคือขอเลือกคู่ชก เพราะไม่รู้สึกสนุกกับนพ.วรงค์ ถ้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สนใจก็ขอให้บอกมา ทั้งเรื่องจำนำข้าวและการแก้ปัญหาความขัดแย้งของประเทศ ที่ไหน เมื่อไร

'ปู'โชว์กอดหนังสือแม้ว 

     วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพถ่ายถือหนังสือของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ "ทักษิณ ชินวัตร ชีวิต และงาน" พร้อมข้อความทาง อินสตาแกรมส่วนตัว ระบุว่า "ขอกอดหนังสือแทนตัวจริง คิดถึงพี่ค่ะ อย่าลืมไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านนะคะ แล้วจะรู้ว่าทำไมดิฉันถึงขอกอดหนังสือเล่มนี้ค่ะ"

ยกร่างข้อบังคับสปท.เสร็จแล้ว 

     ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างข้อบังคับการประชุม สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยกร่างข้อบังคับเสร็จแล้ว และส่งให้ประธานสปท.เพื่อบรรจุเป็นวาระการประชุมในวันที่ 2 พ.ย. นี้แล้ว ซึ่งรูปแบบข้อบังคับ มีแนวทางการปฏิรูปชัดเจนแตกต่างจากข้อบังคับของสปช. ที่เน้นเรื่องการประชุม จะมีหมวดการปฏิรูปโดยเฉพาะ โดยสปท.ต้องมีวิป ประสานงานกับตัวแทนแม่น้ำอีก 4 สาย คือ สนช. กรธ. ครม. และคสช. เพื่อให้การปฏิรูปไปในทิศทางเดียวกัน สอดรับกับคำพูดของนายกฯ

     นายเสรี กล่าวว่า ในข้อบังคับกำหนดให้มี กมธ. 11 ด้านตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 มาตรา 27 และให้มีกมธ.วิสามัญอีก 1 คณะ เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปป้องกันการประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะกมธ.ทั้ง 11 ด้าน ต้องส่งตัวแทนคณะละ 1 คน เพื่อร่วมทำงานในกมธ.วิสามัญชุดนี้ ส่วนการทำหน้าที่กมธ.ทุกคณะ ต้องมีแผนงาน วิธีการและกรอบเวลาการปฏิรูปที่ชัดเจน แต่ละเรื่องต้องเสนอประธานสปท.ภายใน 30 วัน รายงานความคืบหน้าทุก 1 เดือน ซึ่งในปี 2559 จะเป็นวาระแห่งชาติเพื่อการปฏิรูปประเทศ สปท.ต้องประสานกับรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลขอความร่วมมือหรือสั่งการทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวง ทบวง กรม ให้ความร่วมมือเรื่องการปฏิรูปในทิศทางเดียวกัน

กรธ.ส่อเพิ่มกกต.เป็น9คน 

     วันเดียวกัน นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงว่าแนวทางการพิจารณาเรื่ององค์กรตามรัฐ ธรรมนูญ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เห็นควรให้บัญญัติเพิ่มจำนวน กรรมการกกต.จากเดิม 5 คน เป็น 7-9 คน เพื่อรองรับภาระงานที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต พร้อมเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานจากเดิมเวลาที่มีมติในเรื่องสำคัญต้องใช้มติเอกฉันท์ เปลี่ยนเป็นใช้เสียงข้างมากเพื่อป้องกันนักการเมืองเข้ามาแทรกแซงการทำงานของกกต. พร้อมทั้งเห็นควรให้ยุบการทำงานของกกต.ที่แบ่งเป็น 5 ด้าน ให้เป็นองค์กรที่รับผิดชอบร่วมกัน นอกจากนี้ ยังเพิ่มคุณสมบัติของกกต.เรื่องความกล้าหาญในการใช้ดุลพินิจเพื่อปฏิบัติหน้าที่ และกกต.สามารถสั่งเลือกตั้งใหม่ได้ภายใน 1 เดือน ในกรณีที่ผู้สมัครถูกใบเหลืองแล้วจึงประกาศผล รวมทั้งกรณีที่ประกาศผลแล้วสามารถยกเลิกมติการรับรองแล้วสั่งเลือกตั้งใหม่ได้ โดยต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี ส่วนกรณีการให้ใบแดง กรธ.ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ 

     นายอมร กล่าวว่า ในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ให้พิจารณาจัดลำดับการทำงาน โดยให้ตรวจสอบคดีทางการเมืองเป็นลำดับแรก และต้องใช้เวลาไม่นาน ส่วนผู้ตรวจการแผ่นดินให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2550 ขณะที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เห็นควรให้ปรับปรุงการทำงาน โดยสตง.ต้องรายงานผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการคตง. ไม่ใช่รายงานประธานเพียงคนเดียวแบบที่ผ่านมา เพราะที่ผ่านมาคณะกรรมการคตง.ไม่ได้รับความสนใจในอำนาจหน้าที่ 

ปชป.ติงระบบเลือกตั้งใหม่ 

     นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงแนวคิดระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ของกรธ. ว่าแนวคิดนี้แปลกตรงที่ยังมีส.ส. 2 ระบบคือ ระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ ขอตั้งข้อสังเกตว่า การใช้สูตรเลือกตั้งแบบนี้อาจไม่สะท้อนความต้องการของประชาชน ตรงที่ว่าถ้ามีส.ส. 2 ระบบควรให้ประชาชนเลือกได้ 2 ระบบ เพราะการให้ประชาชนลงคะแนนด้วยบัตรเลือกตั้งเพียง 1 ใบอาจเกิดปัญหา เช่น ประชาชนเลือกส.ส.เขตที่ชื่นชอบแต่ไม่ชอบพรรค คะแนนที่เลือกก็ต้องนำไปให้พรรคที่ไม่ได้ชอบด้วย แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อน ประชาชนเลือกส.ส.เขต เพราะชอบที่ตัวบุคคลแต่ไม่ได้ชอบพรรค ก็ไปเลือกระบบบัญชีรายชื่อในพรรคอื่นได้ จึงอยากให้กรธ.ทบทวนให้ดี หากให้ใช้ระบบดังกล่าวต้องคิดว่าเหมาะสมกับประเทศไทยหรือไม่ ทั้งนี้ ตนก็ไม่ขัดข้อง แต่ขอให้คิดดูให้ดี เพราะประเทศเราไม่เคยใช้ อาจไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของผู้เลือก

     "ระบบนี้ตรงข้ามกับระบบการเลือกตั้งแบบเยอรมัน เพราะระบบเยอรมันเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อได้วิธีการคำนวณคะแนนแตกต่างไปจากเดิม แต่ระบบใหม่ส.ส.เขตเป็นตัวกำหนดพรรค ว่าพรรคไหนจะได้ที่ 1 ที่ 2 และหากจะบอกว่าระบบนี้ง่ายรวดเร็ว ผมว่าไม่ง่าย ผมกังวลว่าเปอร์เซ็นต์ซื้อเสียงจะรุนแรงสูงมาก ถ้าเทียบกับระบบเยอรมัน ถ้าจะใช้ระบบดังกล่าวก็ไม่ควรมีระบบบัญชี รายชื่อ แต่ถ้ายังคงให้มีระบบบัญชีรายชื่อก็ ควรเปลี่ยนรูปแบบ ผมไม่ปฏิเสธคนร่าง เขาเคาะจังหวะ ขึ้นจังหวะแบบไหน เราก็ต้อง เล่นตาม" นายนิพิฏฐ์กล่าว

นพดลชี้บัตรเดียวจำกัดสิทธิปชช. 

     ด้านนายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประ เทศกล่าวว่า ข้อเสนอของกรธ.ที่ให้ประชาชนกาบัตรเดียวในวันเลือกตั้งแล้วให้นำคะแนน ผู้สมัครที่แพ้ในเขตไปนับรวม เพื่อคำนวณหาผู้สมัครจากระบบบัญชีรายชื่อ แต่คะแนนของผู้สมัครที่ชนะเลือกตั้งให้ทิ้งไปเสียนั้น นับเป็นแนวคิดใหม่ ที่ผู้รู้ระบุว่าไม่ขัดแย้งกับสากลนั้นอาจจะถูกต้อง เพราะเท่าที่ทราบสากลเขาไม่ใช้กัน ทั้งสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันก็ไม่ใช้วิธีตัดคะแนนทิ้งแบบนี้ เมื่อสากลไม่ใช้จึงไม่มีอะไรขัดกัน แต่ตนเห็นว่าระบบนี้จะมีปัญหาทั้งเรื่องหลักการและวิธีปฏิบัติ ดังนี้ การให้กาบัตรเดียวอาจเป็นการจำกัดสิทธิประชาชนที่จะเลือกผู้สมัครหรือพรรคที่ตนชอบ เพราะในทางปฏิบัติประชา ชนอาจไม่ชอบผู้สมัครแต่ชอบพรรค ดังนั้นการให้กาบัตรเดียวไม่สนับสนุนระบบพรรค เพราะผู้เลือกตั้งไม่สามารถเลือกพรรคที่ตนชอบอีกบัตรหนึ่งได้เช่นที่กำหนดในรัฐธรรมนูญปี 2540

      นายนพดล กล่าวว่า การตัดคะแนนผู้สมัครที่ชนะเลือกตั้งในเขตทิ้งไป และนำเฉพาะคะแนนของผู้สมัครที่แพ้เลือกตั้งไปคำนวณจำนวนส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ เป็นการขัดเจตนารมณ์ของประชาชน เพราะประชาชนอาจจำใจเลือกส.ส.เขต ทั้งที่ไม่ชอบผู้สมัครคนนั้นแต่จำใจเลือกไปเพื่อให้พรรคที่ตนชอบหรือคนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อในลำดับแรกของพรรคนั้นได้รับเลือกหรือเป็นนายกฯ ดังนั้น ถ้าผู้สมัครของพรรคนั้นชนะเลือกตั้ง ความต้องการให้คะแนนส่งผลถึงตัวบุคคลในระบบบัญชีรายชื่อก็ไร้ผล

ซัดแนวคิดย้อนแย้งกันเอง 

     นายนพดล กล่าวว่า ที่บอกว่าระบบการเลือกตั้งที่เสนอใหม่เพื่อไม่ให้แต่ละคะแนนสูญเปล่านั้น จะเกิดผลในทางตรงข้าม เพราะคะแนนของพรรคที่ชนะเลือกตั้งในเขตไม่ถูกนำมาคำนวณเพื่อกำหนดส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ ขอตั้งคำถามว่าระบบใหม่นี้มีความย้อนแย้งในตัวเองหรือไม่ ระบบการเลือกตั้งใหม่จะทำให้มีโอกาสเกิดรัฐบาลผสมสูงขึ้น อาจทำให้การเมืองขาดเสถียรภาพจากการต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาล และกรณีเกิดรัฐบาลผสมจะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเกี่ยงความรับผิดชอบต่อประชาชน ทำให้ระบบความรับผิดชอบทางการเมืองที่จำเป็นในระบอบประชาธิปไตยในเรื่องนโยบายอ่อนแอลง

    "ผมเห็นว่าระบบเลือกตั้งที่ดีควรสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชน เปิดให้เลือกทั้งคนและพรรค หรือต้องไม่ตัดคะแนนใดๆ ที่ประชาชนมอบให้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคที่แพ้เลือกตั้งหรือที่ชนะเลือกตั้ง ดังนั้น ควรนำทุกคะแนนที่ประชาชนเลือกมาคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยทางออกที่เหมาะสม คือถ้าจะให้กาบัตรเดียวก็ควรนำทุกคะแนนของทุกพรรคมาคำนวณหรือควรให้ประชาชนกาสองบัตร บัตรแรกกาผู้สมัคร บัตรสองกาพรรคที่ชอบ ซึ่งเป็นวิธีที่คนไทยคุ้นเคยและเป็นธรรมกับทุกพรรค"นายนพดลกล่าว

สมชายห่วงระบบใหม่ทำสับสน 

    นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ กล่าวถึงระบบการเลือกตั้งของกรธ.ว่า ส่วนตัวไม่คิดจะลงสมัครรับเลือกตั้งอีก แต่เห็นว่าระบบจัดการเลือกตั้งควรเป็นที่ยอมรับของประชา ชน ต้องเป็นการเลือกโดยประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ส่วนตัวยังมีข้อกังขาในบางประเด็น โดยเฉพาะการนำคะแนนของผู้แพ้เลือกตั้งในเขตนั้นมานับรวมเป็นคะแนนระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งแตกต่างจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทำให้คิดได้ว่าการเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อไม่ได้เป็นการเลือกตั้งโดยประชา ชนโดยตรงและอาจทำให้ประชาชนสับสน

     นายสมชาย ยังกล่าวถึงข่าวนัดสวมเสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย.ผ่านทางสื่อโซเชี่ยลฯ เพื่อให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า ตนไม่ทราบ ส่วนการให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น ให้เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว หากประชาชนใส่เสื้อ สีแดงก็ขอให้ทุกคนทำตัวให้เหมาะสม ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง ให้เกิดความสงบเรียบร้อย ช่วงเวลานี้ไม่อยากวิจารณ์เพราะอยู่ในสภาวะเหมือนคนตกงาน

    เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับนายทักษิณบ้าง หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่าไม่ได้พูดคุยเรื่องการเมืองกับนายทักษิณ 

แดงโคราชลั่นอย่าโยงขัดแย้ง 

     ที่จ.นครราชสีมา นายจักรวุธ ไตรวัลลภ หรือตี่ไก่ ตลาดย่าโม อดีตผู้ประสานงานกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช เปิดเผยถึงกิจกรรมนัดใส่เสื้อแดง เพื่อให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ว่า สีแดงเป็นสีประจำวันอาทิตย์ ประชาชนส่วนใหญ่เลือกแต่งกายด้วยโทนสีแดง การใส่เสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย. ไม่มี นัยยะอย่างแน่นอน แต่เพื่อไม่ตกเป็นเป้าหมายถูกโยงเป็นชนวนความขัดแย้ง และท้าทายอำนาจรัฐ ประชาชนใส่เสื้อแดงวันนั้นได้ แต่อย่ามีข้อความเกี่ยวข้องกับการเมือง ขณะนี้พวกเราถอยและยุติบทบาทแล้ว กรุณาอย่า โยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ความปรองดองจะได้บังเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม 

ผบ.ตร.สั่งลงพื้นที่ป้องนัดใส่แดง 

     ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต. ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกตร. แถลงข่าวถึงกรณีกระแสข่าวการนัดรวมตัวใส่เสื้อสีแดงในวันที่ 1 พ.ย. เพื่อให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีบันทึกสั่งการเมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา ถึงกองบัญชาการต่างๆ ทั่วประเทศ โดยคำสั่งได้ให้ทุกกองบัญชาการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่คาดว่าจะมีการปลุกระดมเพื่อต่อต้านรัฐบาล เพื่อขอความร่วมมือจากประชาชนไม่ให้รวมตัวกันเพื่อชุมนุมหรือแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งวุ่นวายขึ้นในสังคม และสั่งการให้สืบสวนหาข่าวกรองเกี่ยวกับความเคลื่อน ไหวต่างๆ ของกลุ่มบุคคลที่จะก่อความวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ของตำรวจที่ผ่านมาพบว่าสถานการณ์ในขณะนี้ยังคงปกติไม่มีสัญญาณว่าจะมีการรวมตัวกันชุมนุมสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองแต่อย่างใด

      "การนัดรวมตัวใส่เสื้อสีแดงของประชา ชนก็ถือเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลที่สามารถกระทำได้ แต่หากใส่เสื้อแดงและมารวมตัวกันก็ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ตร.จะพิจารณาจากเจตนาว่าต้องการจะสร้างความไม่สงบเรียบร้อยต่อบ้านเมืองหรือไม่ หากใครเข้าข่ายกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการ โดยจะดูจากการกระทำของแต่ละคน" พล.ต.ต.ทรงพลกล่าว

    เมื่อถามว่า ต้องประสานให้นำมาตรา 44 มาใช้ควบคุมหรือไม่ พล.ต.ต.ทรงพลกล่าวว่าคงไม่นำมาตรา 44 มาบังคับใช้ในสถานการณ์นี้

ทหาร-ตร.คุมเข้ม-ห้ามชุมนุม 

     ที่จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรีกล่าวว่า ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกันลงพื้นที่ติดตามข่าวสาร เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีกลุ่มนปช.ในแต่ละอำเภอจะรวมตัวกัน หรือสวมใส่เสื้อแดงเพื่อแสดงสัญลักษณ์ในวันที่ 1 พ.ย. แต่ในวันดังกล่าวตรงกับวันอาทิตย์ หากประชาชนสวมใส่เสื้อแดงไปเที่ยว หรืออยู่บ้านก็คงไม่มีปัญหา เพราะไม่ใช่การรวมกลุ่มเพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และถ้าพบการรวมกลุ่มเพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เจ้าหน้าที่จะเข้าไปเจรจาให้หยุดกระทำทันที เชื่อว่าในพื้นที่กาญจนบุรีคงไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น 

     ที่จ.ขอนแก่น พ.อ.จตุรพงษ์ บกบน รองผอ.รมน.จ.ขอนแก่น ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานประชุมร่วมฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อเตรียมความพร้อมกรณีที่ จะมีการสวมเสื้อแดงในวันที่ 1 พ.ย. ว่า ไม่หนักใจ เพียงแต่เกรงว่ามือที่สามจะมาฉกฉวยโอกาสมากกว่า เพราะที่ผ่านมาเคยมีบทเรียนแล้วว่ามีคนกลุ่มหนึ่งมาสร้างสถาน การณ์แล้วโยนให้เป็นแพะรับบาป จากการประเมินสถานการณ์คิดว่าไม่น่ามีการเคลื่อน ไหวในพื้นที่ ส่วนที่กังวลจะมีคนใส่เสื้อแดงมามากๆ นั้น เท่าที่รับฟังดูคิดว่าคงไม่มีการกระทำอย่างนั้น แต่ถ้ามีต้องถามว่าใส่เสื้อแดงมามีนัยยะอะไรหรือไม่ ถ้าเป็นเสื้อของทีมงานเขาและบังเอิญมานั่งด้วยกัน ต้องมองใน ภาพบวกไว้ก่อน

ปปช.ครวญคดีโรงพักซับซ้อน 

     เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีการทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) 396 แห่ง ตามที่มีผู้ร้องเรียนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า ก่อนหน้านี้ป.ป.ช.มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมไปยัง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรรท.ผบ.ตร. โดยพล.ต.อ.ปทีปได้ขอขยายเวลาเข้าชี้แจงข้อกล่าวหา เพื่อรวบรวมเอกสารหลักฐาน เนื่องจากเกษียณมานาน ซึ่งขณะนี้คณะอนุกรรมการได้ขยายเวลาให้ และนัดวันเข้าชี้แจงต่อป.ป.ช.อีกครั้งในช่วงต้นเดือนพ.ย.นี้ 

     "ระหว่างนี้ พล.ต.อ.ปทีป สามารถส่งเอกสารคำชี้แจงมาก่อนได้ เพื่อให้อนุกรรมการไต่สวนได้พิจารณาในเบื้องต้น ส่วนจะอ้างพยานอย่างไรก็ว่ากันอีกที ต้องให้โอกาสแก่ผู้ถูกกล่าวหา"นายวิชากล่าว

     นายวิชา กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมข้อมูล และต้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน ต่อไป เพื่อดูว่าเงินไปอยู่ที่ใคร หากพบถึงความผิดปกติก็ต้องเอาผิดเรื่องการให้สินบน รวมถึงร่ำรวยผิดปกติด้วย

"คณะทำงานกำลังตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะเรื่องนี้ซับซ้อนมากกว่าเรื่องโรงพักทดแทน เส้นทางการเงินที่ตรวจสอบคือของกลุ่มบุคคลที่อ้างว่ามีการจ่ายเงินให้ จึงต้องดูความเชื่อมโยง ไม่ใช่แค่เรื่องกล่าวหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบเพียงอย่างเดียว อาจต้องขยายในเรื่อง การให้-รับสินบน จะต้องลงลึกในรายละเอียดตรงนี้ด้วย" นายวิชากล่าว

สวนยางยื่นจี้'บิ๊กตู่'แก้ราคาตก 

    เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสงขลา ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยางพารา จ.สงขลา ประมาณ 100 คน นำโดยนายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว ประธานสมาพันธ์เกษตรกร จ.สงขลา เข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ผ่านนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผวจ.สงขลา เรียกร้องให้รัฐแก้ปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง 

    นายชัยวุฒิกล่าวว่า มีข้อเรียกร้อง 8 ข้อขอให้นายกฯ และ ครม.อนุมัติงบประมาณตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความเข้มแข็งตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เพื่อแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรและแรงงานกรีดยาง กำหนดมาตรการช่วยเหลือชาวสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิภายใน 30 วัน เร่งรัดมาตรการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศภายใน 30 วัน เพื่อแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ และราคาต้องไม่ต่ำกว่า 50 บาท ออกระเบียบให้ถนนลาดยางทุกเส้นในประเทศต้องมีส่วนผสมของยางพาราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของวัตถุดิบ

    โดยนายทรงพลรับจะส่งหนังสือนำเสนอความเดือดร้อนของชาวสวนยางต่อไปถึงนายกฯ

สมชายเพิ่มพยานคดี'ม็อบ7ตค.'

     เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ และพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.เดินทางมาตามนัดศาล เพื่อตรวจพยานหลักฐานในคดีดำ อม.2/2558 ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมชาย, พล.อ.ชวลิต, พล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผบช.น.กรณีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ปิดล้อมทางเข้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 ข้อหาประพฤติมิชอบในการสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุม

      นายสมชาย เปิดเผยภายหลังว่า ได้เตรียมข้อมูล พยานหลักฐานในการต่อสู้แล้ว ซึ่งทนายและคณะทำงานเป็นผู้ดำเนินการ มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง จากการนัดวันนี้มีการยื่นเพื่อขอเพิ่มเติมพยานจำเลย ต่อสู้คดีรวมกว่า 600 ปาก ทำให้ทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยขอเลื่อนการตรวจพยานหลักฐานออกไปก่อน ศาลจึงนัดเพื่อตรวจหลักฐานและพยานอีกครั้งในวันที่ 16 ธ.ค.นี้

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!