WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1ประชาธปไตย

บิ๊กตู่ใช้ม.44 สางโกดังข้าว คสช.ฮึ่ม! เข้มวันนี้ แต่งแดง เชียร์'ปู'

       คสช.จับตานัดใส่เสื้อแดงให้กำลังใจ'ปู'วันนี้ 'บิ๊กตู่'ใช้มาตรา 44 สะสางข้าวในโกดัง หาคนผิดชดใช้ค่าเสียหาย สนช.-กรธ.-สปท.เดินสายยโสธรฟังปัญหาชาวบ้าน 'มาร์ค' แนะตั้งองค์คณะเฉพาะกิจพิจารณาคดีการเมืองป้องกันแทรกแซง-ข่มขู่ เน้นทำงานรวดเร็ว-โปร่งใส เพื่อไทยจวกเละระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม อัด'มีชัย'ตลกร้ายไม่ใส่ใจประชาธิปไตย เมินเสียงคนเลือกส.ส.อันดับ 1 นปช.จัดงานรำลึก 9 ปี ลุงนวมทอง ตำรวจประกบเข้ม กลุ่มพลเมืองโต้กลับเดินเท้าจากอนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ ไปทบ.จี้ปฏิรูปกองทัพ 'ไก่อู'เผยนายกฯพอใจเหตุการณ์สงบ

วันที่ 01 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9104 ข่าวสดรายวัน


9 ปีนวมทอง - กลุ่มพลเมืองโต้กลับ จัดงานรำลึกครบ 9 ปี นายนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ชนรถถัง ที่แขวนคอตายประท้วงปฏิวัติ โดยเดินเท้ามาอ่านจดหมายเจตนา รมณ์ของนายนวมทอง บริเวณหน้าบก.ทบ. เมื่อวันที่ 31 ต.ค.

คสช.เชื่อแต่งแดงมีนัยยะแฝง
      เมื่อวันที่ 31 ต.ค. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดใส่เสื้อแดงเพื่อให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สู้คดีโครงการรับจำนำข้าวในวันที่ 1 พ.ย. ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการสั่งการใดๆ ในการดำเนินการกับกรณีดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ยังคงพยายามปฏิบัติหน้าที่ดูแลเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุดในงานทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการป้องกันหลีกเลี่ยงการใดๆ ที่จะส่งผลให้เกิดประเด็นหรือเงื่อนไขใหม่ๆ จนส่งผลทำให้สังคมเกิดความไม่เรียบร้อยได้ แม้ที่ผ่านมาจะมีหลายคนออกมาแสดงความเห็นว่า การใส่เสื้อสีอะไรก็ตามสามารถให้กำลังใจได้ เพราะไม่ใช่การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของสีเสื้อ จึงเป็นไปได้สูงที่ความพยายามครั้งนี้อาจทำให้หลายๆ คนมองว่าอาจจะมีนัยยะอื่นๆ แอบแฝงผสมเข้ามาด้วยได้หรือไม่
     "คงเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในบริเวณพื้นที่นั้นๆ เพราะการแสดงออกในช่วงนี้ยังคงต้องระมัดระวัง คำนึงถึงความเหมาะสมของช่วงเวลา และผลกระทบในเชิงความรู้สึกในมุมต่างๆ ของบุคคลอื่นๆ หรือส่วนรวมด้วย ซึ่งที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนมุมมอง พร้อมทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือในการเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีต่อการเดินหน้าประเทศ ภายใต้ช่วงเวลาพิเศษนี้ ซึ่งในหลายๆ กลุ่มก็เข้าใจ และให้ความร่วมมือกับ คสช.มาเป็นอย่างดี" พ.อ.วินธัยกล่าว

สนช.-กรธ.-สปท.ลุยยโสธร
       ที่ จ.ยโสธร นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 นำคณะสนช. อาทิ นายกล้านรงค์ จันทิก นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ พล.อ.อ.ชาลี จันทร์เรือง พล.อ.องอาจ พงษ์ศักดิ์ นาง เสาวณี สุวรรณชีพ ลงพื้นที่พบประชาชน ซึ่งมีตัวแทนกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) 2 คน คือ พล.อ.นิวัติ ศรีเพ็ญ และนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ อีกทั้งยังมีนายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา ตัวแทนจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ร่วมคณะด้วย เพื่อรับฟังความเห็นประชาชนเป็นครั้งแรก ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้แม่น้ำ 5 สายทำงานไปพร้อมๆ กัน รวมทั้งรับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่
       ทั้งนี้ คณะสนช.เข้าหารือกับส่วนราชการต่างๆ ของ จ.ยโสธร ทั้งด้านทรัพยากร ธรรมชาติ คมนาคม และการเกษตร โดยมีนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม ผู้ว่าฯ ยโสธร บรรยายสรุป โดย นายพีระศักดิ์กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการลงพื้นที่เป็นองค์คณะครบถ้วนในการรับฟังปัญหาของประชาชน มีทั้ง สนช. สปท. กรธ. อดีตสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และอดีตส.ว. เพื่อฟังเสียงสะท้อนปัญหาของจังหวัด
      อย่างไรก็ตามโครงการสนช.พบประชาชนจะมีปรับรูปแบบการทำงานให้ใกล้ชิดแต่ละจังหวัดมากขึ้น โดยได้มีการหารือร่วมกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรธ. และสปท. จัดตั้งกลุ่มจังหวัด 18 กลุ่ม ประกอบด้วยสมาชิกสนช. 6 คน สมาชิก สปท.2 คน ตัวแทนจากผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวแทนจาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตาม อำนวยความสะดวก ประสานงานแต่ละกลุ่มจังหวัด รวมทั้งแนะนำการจัดทำงบประมาณให้สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรี

แบ่ง 18 กลุ่มจังหวัด-หนุนโรดแม็ป
    นายพีระศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดตั้งกลุ่มจังหวัด 18 กลุ่ม ได้มีการหารือกันระหว่าง ครม. สปท. และสนช.แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดแบ่งกลุ่มจังหวัด เพื่อช่วยรัฐบาลขับเคลื่อนนโยบาย เนื่องจากการสื่อสารยังไม่ใกล้ชิดในระดับส่วนราชการและประชาชน สนช.จึงต้องอาสาที่จะให้การแบ่งกลุ่มจังหวัดเพื่อรับผิดชอบ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้คำแนะนำแต่ละกลุ่มจังหวัดว่า จะจัดทำงบประมาณอย่างไรให้สอดคล้องกับนโยบายที่นายกฯ ได้ให้ไว้ ในการดำเนินการตามนโยบาย อย่างบูรณาการทุกกระทรวง ทบวง กรม
     ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่สนช.จะเสนอแนะให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เพื่อทำประชามติ นายพีระศักดิ์กล่าวว่า คิดว่าประธานกรธ.และประธานสนช. คงจะมีการพูดคุยกับคสช.อยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่าห้วงเวลาไหนจะเหมาะสม ซึ่งคิดว่าคงไม่ช้า และขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 มายังสนช. แต่คาดว่าจะมีการแก้ไข โดยเฉพาะประเด็นถ้าไม่ผ่านประชามติ รวมทั้งการนับเสียงประชามติจะนับจากจำนวนผู้มาใช้สิทธิหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ต้องให้มีความชัดเจนมากขึ้น
     เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 ต้องแก้ไขก่อนเดือนม.ค.2559 หรือไม่ นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกจะเสร็จเดือนม.ค.2559 ดังนั้น เดือนพ.ย.อาจจะมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ได้ ส่วนความคืบหน้าในการตั้งวิปแม่น้ำ 5 สายนั้น เป็นหน้าที่ของนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำประจำสำนักนายกฯ แต่ตนเข้าใจว่าน่าจะเป็นวิป 3 ฝ่าย คือ ครม. สนช. และสปท.

ปชช.ร่วมแสดงความเห็น
       ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช.กล่าวว่า แนวทางการปฏิรูปที่สปช.ทำไว้ 37 วาระจะไม่สูญเปล่า เพราะสปท.จะทำหน้าที่เป็นฟันเฟืองสานงานต่อ ซึ่งขณะนี้มีกฎหมายปฏิรูปที่เตรียมจะผลักดันเข้าสู่ที่ประชุม สนช.จำนวน 4 ฉบับ คือ ร่างพ.ร.บ.สมัชชาคุณธรรม พ.ร.บ.องค์กรอิสระคุ้มครอง ผู้บริโภค พ.ร.บ.ธนาคารที่ดิน และพ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
       จากนั้นเวลา 14.45 น. ที่ห้องประชุมบริษัทโตโยต้า คณะสนช. เดินทางมาพบปะประชาชนที่อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร จ.อำนาจ เจริญ และจ.มุกดาหาร ประมาณ 300 คน เพื่อรับฟังปัญหา และความคิดเห็นเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ โดยตัวแทนประชาชนได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ เสนอให้บัญญัติศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติในร่างรัฐธรรมนูญ การแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง การยุบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งจะเขียน รัฐธรรมนูญอย่างไรให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน เป็นต้น

'ชาติชาย'หนักใจปมขายเสียง
       ด้านนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรธ. กล่าวว่า ประเด็นที่จะให้บัญญัติให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาตินั้น ได้มีการปรับแก้และพิจารณาไปแล้ว ส่วนการซื้อสิทธิ์ขายเสียงกรธ.ยังคิดหนัก และยังไม่มีความชัดเจน แต่มีการประชุมแต่ยังไม่ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่าจะนับทุกคะแนนส.ส.อย่างไร รวมทั้งผู้ที่ทุจริต หรือผู้ที่กระทำผิดต่อหน้าที่ไม่มีสิทธิ์สมัครรับการเลือกตั้งได้ และต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินภาษีย้อนหลัง 3 ปีหรือไม่ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน ส่วนการยุบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นยังไม่สามารถตอบได้ เท่าที่ฟังยังไม่มีใครเสนอถึงขั้นยุบ แค่เสนอให้อบต.ที่มีขนาดเล็ก และมีงบประมาณไม่ถึง 15 ล้านบาทมารวมกัน
        อย่างไรก็ตาม ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกจะเสร็จประมาณต้นเดือนม.ค.2559 จากนั้นจะส่งให้พรรคการเมือง ประชาชนให้ความเห็น ก่อนที่จะนำมาปรับปรุงแก้ไข ก่อนที่ร่างสมบูรณ์จะเสร็จในวันที่ 1 เม.ย. 2559 จากนั้นจะส่งให้รัฐบาลเพื่อส่งต่อไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำประชามติต่อไป

         "กรธ.จะลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นประชาชนอีกครั้งในทุกภาค สำหรับภาคอีสานจะจัดที่จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 19-20 ธ.ค. รวมทั้งความเห็นจากการลงพื้นที่ร่วมกับสนช.เพื่อประมวลความเห็นทำร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อก้าวพ้นวิกฤตทางการเมืองและเดินหน้าไปให้ได้" นายชาติชายกล่าว

'มาร์ค'เตรียมชงร่างรธน.
       ที่สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมกิจกรรม วิ่งสาดสีสุดมันส์ เดอะ คัลเลอร์ รัน พรีเซนต์ บาบ เฟรเกรนท์ กรุ๊ป ประเทศไทย "ห้ากิโลเมตรที่พิเศษที่สุดในโลก" ถึงแนวคิดของกรธ.ที่ให้ความสำคัญกับคะแนนเสียงอันดับ 2 ในการเลือกตั้งว่า ในวันพุธที่ 4 พ.ย. ตนมอบหมายให้นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวแทนนำข้อเสนอใน รายละเอียดและหลักการต่างๆ ของรัฐธรรมนูญไปส่งให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ในนามส่วนตัว ซึ่งจะส่งความเห็นในเชิงหลักการในทุกๆ ด้านที่ควรบรรจุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ หลักการแต่ละด้านควรมีรายละเอียดใดบ้างก็จะเสนอไปพร้อมๆ กัน รวมถึงระบบเลือกตั้งด้วย
     นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าหลักการที่กรธ.พูดถึงระบบเลือกตั้งเป็นหลักการที่ดีพยายามคิดค้นระบบเลือกตั้งที่แก้ปัญหาในหลายๆ ด้าน เช่น พยายามไม่ทิ้งคะแนนเสียงของประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ์ ความพยายามหาวิธีการกระตุ้นให้คนออกมาใช้สิทธิ์ แต่ส่วนตัวคิดว่ายังคงมีจุดอ่อนบ้าง ซึ่งถ้าเอาหลักการเป็นตัวตั้งน่าจะปรับปรุงให้เป็นระบบที่ดีกว่านี้ได้

แนะกกต.ตั้งองค์คณะเฉพาะกิจ
       "ข้อเสนอดังกล่าวผมทำในนามส่วนตัว หลักการใหญ่คือเรื่องของตัวระบบ ซึ่งรัฐธรรมนูญในหมวดสิทธิเสรีภาพ อยากให้ยืนยันสิทธิเสรีภาพต่างๆ ไม่ให้น้อยกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปีพ.ศ.2550 รวมถึงร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน ที่มีบทบัญญัติในการเสริมความเข้มแข็งของพลเมืองก็ควรจะเติมเข้าไป ส่วนระบบสภาจะต้องเป็นระบบรัฐสภา ที่สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างตรงไปตรงมา สิ่งสำคัญที่สุดคือระบบการตรวจสอบรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งจะมีทั้งข้อเสนอแนะในการปรับปรุงรวมทั้งกลไกต่างๆ ที่จะสนับสนุนในเรื่องดังกล่าว" นายอภิสิทธิ์กล่าว
      ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเสนอในส่วนขององค์กรอิสระอย่างไรบ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีหลายส่วนหากพูดไปเดี๋ยวอาจเกิดความเข้าใจผิดเพราะไม่ได้ลงในรายละเอียด แต่ขอยกตัวอย่างในเรื่องการทำงานของกกต. มีการเสนอไปในหลายประเด็นเพื่อให้กกต.ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ มีความโปร่งใสมากขึ้น ในบางเรื่องที่เป็นคดีการเมือง เราเห็นว่าลักษณะขององค์คณะเฉพาะกิจน่าจะช่วยแก้ปัญหาการเข้าไปแทรกแซง ข่มขู่จากฝ่ายบริหารได้เป็นต้น ซึ่งหมายความว่าบางครั้งองค์คณะหรือองค์กรที่จะเข้ามาพิจารณาแทนที่จะรู้ตัวกันล่วงหน้า ควรมีระบบสรรหาเฉพาะแต่ละคดีกันไปเพื่อที่จะไม่ให้มีตัวบุคคลที่อาจอยู่ในตำแหน่งนานแล้วกลายเป็นเป้าในการแทรกแซง ข่มขู่ เป็นต้น

เน้นทำงานไว-โปร่งใส
        ต่อข้อถามถึงรูปแบบขององค์คณะเฉพาะกิจ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความจริงปัจจุบันในส่วนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมืองทำแบบนี้อยู่แล้ว โดยมีการเลือกจาก ผู้พิพากษาศาลฎีกาเป็นคดีๆ ไป อาจใช้แนวคิดแบบนี้ก็ได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเป็นข้อเสนอของทุกองค์กรอิสระ แต่องค์กรใดที่ยังมีจุดอ่อนในการแทรกแซงสามารถนำมาปรับใช้ได้ ซึ่งในต่างประเทศบางประเทศก็มีการทำในลักษณะเช่นนี้ ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวคิดกรธ.ที่จะเพิ่มจำนวนกกต.จากเดิม 5 คน เป็น 7-9 คน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราสนับสนุนให้กกต.ทำงานได้อย่างรวดเร็ว หัวใจคือการทำงานจะต้องทำให้ได้ก่อนการเลือกตั้งจะดีที่สุด ถ้าหลังการเลือกตั้งไปแล้วจะต้องทำให้ได้ก่อนที่จะมีการรับรอง
      เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายมองว่าบางครั้งกกต.ไม่กล้าใช้อำนาจ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มันมีผลสัมพันธ์กัน หากเป็นพรรคการเมืองที่ชนะมีสถานะเป็นรัฐบาลมีอำนาจรัฐขึ้นมา จะทำให้กกต.เริ่มมีปัญหา กว่าที่จะได้พยานหลักฐานข้อมูลมายืนยันการกระทำผิด แต่ถ้าทำงานได้เร็ว มีการสืบสวนสอบสวนที่ดี มีหลักเกณฑ์การพิจารณาที่โปร่งใส จะช่วยได้มาก ซึ่งได้เสนอไปยังนายมีชัยด้วย ส่วนการเพิ่มจำนวนกกต.นั้น ตนไม่ติดใจ แต่ไม่ทราบเหตุผลที่จะเพิ่มเพราะอะไร อาจเป็นไปได้ว่าทำให้การแทรกแซงเป็นไปได้ยากขึ้น

'เสี่ยอ้วน'จวกระบบเลือกตั้งใหม่
        นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การใช้คะแนนคนแพ้เลือกตั้งแบบส.ส.เขต มาคำนวณเป็นคะแนน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ หรือระบบจัดสรรปันส่วนผสม ตามแนวคิดของกรธ. นับเป็นการทำลายหลักการเสียงข้างมาก ถือเป็นความตั้งใจบิดเบือนผลการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชนอย่างน่าละอายที่สุด ประเทศเราระยะหลังๆ มักใช้หลักคิดเรื่องคนดีมาทดแทนหลักการและ ทุกสิ่งทุกอย่างกันมาก ถึงเวลาที่สังคมไทยควรทบทวนเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง ที่ประเทศ ของเรามีปัญหาวิกฤตมาจนถึงปัจจุบัน เพราะผู้ชอบแอบอ้างตัวเป็นคนดีทั้งหลาย ไม่เคารพหลักการและไม่มีน้ำใจนักกีฬา คือแพ้ไม่เป็น สโลแกนที่ว่านับทุกคะแนน เพื่อ ผู้แทนของทุกคน เป็นเพียงตลกร้ายที่สร้างขึ้นโดยพวกไม่ใส่ใจประชาธิปไตย แต่ฝักใฝ่เผด็จการ
      "ข้ออ้างที่ว่า แก้วิธีนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง เพราะเคารพเสียงประชาชน จึงเอาเสียงของคนที่ได้คะแนนรองลงมา ใส่เป็นคะแนนให้ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ถ้าทำเช่นนี้เท่ากับว่าผู้อ้างไม่เคารพเสียงการตัดสินใจของคนที่เลือกส.ส.แล้วได้คะแนนอันดับ 1 เพราะเอาคะแนนของพวกเขาไปทิ้งอย่างไร้ค่าเช่นกัน แล้วเช่นนี้จะกล่าวอ้างว่าเคารพเสียงประชาชนได้อย่างไร การร่างรัฐธรรมนูญโดยยึดหลักใครได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ โดยไม่เป็นธรรม แค่เริ่มต้นถือว่าเดินหลงทางแล้ว ระดับมือกฎหมายขั้นปรมาจารย์ ที่เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองคิดได้แค่นี้จริงๆ หรือ หรือคิดเพื่อสนองตอบความต้องการของใคร ตามสมญานามเนติบริกร" นายภูมิธรรมกล่าว

ยันต้องเข้าคูหากาบัตร 2 ใบ
       นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่ว่าคะแนนของ ผู้แพ้สูญเปล่านั้น จริงๆ มิได้สูญหายไปไหน ประชาชนเขาก็ไปลงคะแนนให้พรรคที่แพ้ในเขตเลือกตั้ง เวลามีการนับคะแนนที่ประชาชนลงให้ในระบบบัญชีรายชื่อและนำเอาคะแนนเหล่านั้นไปคำนวณจำนวนส.ส.ที่แต่ละพรรคควรจะได้ เขาก็คำนวณคะแนนทุกเม็ดที่ประชาชนตัดสินใจอยู่แล้ว คะแนนที่เลือกส.ส.ระบบเขต และคะแนนที่เลือกส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ที่ประชาชนตัดสินใจเลือกมา จึงไม่มีผลความแตกต่างของคะแนนมากนัก ปรัชญาและเจตนารมณ์ของการเลือกส.ส.ทั้ง 2 ระบบ ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมแล้ว ประชาชนเลือก ส.ส.ระบบเขต ไปดูแลทุกข์สุขของเขา และเลือกส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ไปสร้างสรรค์นโยบาย เพื่อหาทางออกใหม่ๆ ให้ประเทศและประชาชน
      "หากเรื่องง่ายๆ เช่นนี้ยังไม่เข้าใจ อย่าไปคิดร่างกรอบกติกาใหญ่ให้คนทั้งประเทศ เลย เสียเวลาเปล่าๆ โปรดอย่าพยายามสร้างวาทกรรมมาลบล้างหลักการที่งดงามของระบอบประชาธิปไตยเลย แค่นี้ประเทศก็เสียหายมามากพอแล้ว ผมขอยืนยันหลักการเดิมคือ เข้าคูหา ประชาชนกาบัตร 2 ใบ โดย ใบที่ 1 เลือกคนที่รัก เป็นส.ส.ระบบเขต ไปดูแลทุกข์สุขของตน ใบที่ 2 เลือกพรรคที่ชอบให้กลั่นกรองบุคลากร เป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อมาสรรค์สร้างและกลั่นกรองนโยบาย เพื่อแก้ปัญหาใหญ่ๆ ระดับประเทศและประชาชน" นายภูมิธรรมกล่าว

จี้ปฏิรูประบบป้องกันทุจริต
      ด้านนายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อดีของนายมีชัย คือ เป็นผู้ใหญ่ที่สุขุม สุภาพ รับฟังความเห็นของผู้อื่น ไม่เหน็บแนมผู้เห็นต่าง ส่วนข้อที่ท่านถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด คือท่านเชี่ยวชาญด้านเทคนิกกฎหมาย เป็นนักทฤษฎี ไม่ใช่นักปฏิบัติ ภาระของท่าน คือ ทำตามนโยบายของรัฏฐาธิปัตย์ ดังนั้นหากท่านติดตามรับฟังความเห็นของภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคการเมือง นักวิชาการ สื่อมวลชน ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่สนใจการเมือง จะเห็นว่าภาคส่วนต่างๆ เห็นตรงกันหมดว่าระบบการเลือกตั้งที่กรธ.เสนอให้นำคะแนนของผู้แพ้ หรือไม่ได้รับเลือกตั้งในระบบเขตมาคำนวณเป็นคะแนนของส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ไม่สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชน
       "ถ้าท่านเห็นว่า มุมมองดังกล่าวเป็นเหตุผลที่รับฟังได้ น่าจะให้เหตุผลกับผู้กุม อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ ปรับนโยบายเพื่อให้เกิดความร่วมมือกันในการพัฒนาบ้านเมือง ก็จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เพราะทุกฝ่ายต่างรักชาติบ้านเมืองเช่นกัน ระบบเลือกตั้งควรใช้ในสิ่งที่ประชาชนคุ้นเคย แต่สิ่งที่ต้องปฏิรูปเพื่อให้ได้ผู้แทนที่ตรงตามเจตนารมณ์ประชาชนอย่างบริสุทธิ์จริงๆ คือ กระบวน การป้องกันและปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้ง ผมมั่นใจว่าทุกพรรคการเมืองก็ต้องการเช่นกัน เพราะไม่มีใครอยากเสียเงินในการเลือกตั้งในจำนวนที่สูง เพียงแต่กระบวนการนั้นต้องออกแบบให้เป็นที่ยอมรับในด้านความยุติธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ" นายชวลิตกล่าว

'สมชัย'ชี้เพิ่มจำนวนได้-หลังลต.
      นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า ข้อเสนอกรธ.ที่จะเพิ่มกกต.จาก 5 คน เป็น 7-9 คน ตนไม่ติดใจ และไม่คิดว่าที่เพิ่มจำนวนเป็นเพราะการทำงานล่าช้า ถ้าจะให้มีกกต. 7-9 คน และระบบการทำงานแบบใหม่ เห็นว่าควรอยู่ในบทเฉพาะกาล ไม่ควรนำมาใช้ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2560 หรือควรให้มีขึ้นหลังกกต.ชุดปัจจุบันหมดวาระลง ไม่อย่างนั้นจะเป็นการปรับทัพกลางศึก เพราะหลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้จะต้องออกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ดังนั้นจะเหลือเวลา 4 เดือนก่อนการเลือกตั้งจริง และเวลา 4 เดือน หากต้องใช้มาสรรหากกต.ใหม่ 45 วัน จะทำให้เหลือเวลาทำงานจัดเตรียมการเลือกตั้งเพียง 2 เดือนครึ่ง ดังนั้นการปรับให้เข้าสู่ระบบใหม่ในเวลาที่จำกัดจะกลายเป็นจุดอ่อนมากกว่าผลดีต่อการเลือกตั้งของไทย
       ส่วนข้อเสนอที่ไม่อยากให้กกต.แบ่งเป็นแต่ละด้านนั้น อยากชี้แจงว่าเป็นการกำกับดูแลและสนับสนุนการทำงานของฝ่ายประจำ มีผลดีมากกว่าผลเสีย เช่น ทำให้เกิดการริเริ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน พัฒนาระบบสืบสวนสอบสวน นำเทคโนโลยีมาใช้กับการเลือกตั้ง เป็นต้น แม้ว่าจะแบ่งงานออกเป็นแต่ละด้าน ที่สุดแล้วต้องนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาขององค์คณะเพื่อออกมติและการแบ่งแต่ละด้านก็ถูกออกแบบมาตั้งแต่กกต.ชุดแรกแล้ว

นปช.รำลึก 9 ปีลุงนวมทอง
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 08.30 น. บริเวณสะพานลอยคนข้ามถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก (ฝั่งตรงข้ามการบินไทย) กลุ่มคนรักประชาธิปไตย เดินทางมาร่วมกิจกรรมรำลึกครบ 9 ปี การเสียชีวิตของลุงนวมทอง ไพรวัลย์ โชว์เฟอร์แท็กซี่ ที่ผูกคอตนเองเสียชีวิตที่บริเวณสะพานลอยดังกล่าว เพื่อประท้วงการทำรัฐประหารเมื่อปี 2549 โดยมีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นพ.เหวง นางธิดา โตจิราการ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายอารี ไกรนรา เป็นต้น มาร่วมกิจกรรม ทุกคนต่างสวมชุดดำเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับลุงนวมทอง
      สำหรับ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 ได้จัดตั้งกองอำนวยการร่วมขึ้น พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 1 กองร้อยเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ โดยได้กระจายกำลังตรวจตราทั้งบริเวณทางขึ้นลง และบนสะพานลอยคนข้าม พร้อมกันนี้ได้ติดตั้งแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ ทั้งคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 3 ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน และพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรม ได้รับทราบเป็นระยะ นอกจากนี้ยังมีทหารเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ในพื้นที่ด้วย

ตำรวจประกบแกนนำเข้ม
       จากนั้นเวลา 09.10 น. นายจตุพรเป็นตัวแทนนำช่อดอกกุหลาบสีแดงไปวางพร้อมทำความเคารพบริเวณสดมภ์อนุสรณ์นวมทอง ไพรวัลย์ โดยนายจตุพรให้สัมภาษณ์ว่า การมาร่วมไว้อาลัยในครั้งนี้ นปช.ต้องถือว่าเป็นภาระหน้าที่ในการคารวะดวงวิญญาณวีรชนลุงนวมทอง ไพรวัลย์ การต่อสู้ของ ลุงนวมทองเป็นอมตะ และจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป เป็นความนิจนิรันดร์ของนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ แม้จากไปแต่วีรกรรมอันอาจหาญ จะอยู่ในหัวใจของผู้ที่รักประชาธิปไตยตลอดไป จากนั้นนายจตุพรได้เดินทางกลับทันทีโดยไม่ให้สัมภภาษณ์ประเด็นการเมืองใด และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจพานายจตุพรเดินออกจากวงนักข่าว
      เวลา 15.00 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16 สี่แยกคอกวัว ถ.ราชดำเนิน กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ได้จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบการ เสียชีวิต 9 ปี ของลุงนวมทอง ไพรวัลย์ โดยนางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ประธานมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย กล่าวว่า วันนี้เมื่อปี 2549 ลุงนวมทองได้พิสูจน์อุดมการณ์ที่รักความเป็นประชาธิปไตยที่มีจริงจากคนรากหญ้า ซึ่งลุงนวมทองพิสูจน์โดยการขับรถพุ่งชนรถถังของคณะรัฐประหารอย่างไม่มีความหวั่นเกรง จนนำไปสู่การปลิดชีวิตตนเอง ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่เข้ามาร่วมงานร่วมยืนไว้อาลัยให้แก่ลุงนวมทองเพื่อแสดงความรำลึกและความกล้าหาญ

พลเมืองโต้กลับบุกทบ.
      ด้านนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาน.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมปี 2553 กล่าวว่า หลังเหตุการณ์ 22 พ.ค. 2557 ที่เราโดนกดขี่สิทธิจากเจ้าหน้าที่รัฐ การที่นายกฯ บอกว่าในการปฏิรูปและการสร้างความปรองดองนั้น ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตนดีใจมากที่ได้ยินเช่นนี้ เพราะที่ผ่านตนเห็นแต่ประชาชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะคนที่ยิงประชาชนบนรางรถไฟฟ้าที่ไม่ทราบว่าขณะนี้ไปอยู่ที่ใด ทั้งที่ศาลได้ชี้มูลไปแล้ว จึงอยากเห็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำตามคำพูดนายกฯ เพื่อการปฏิรูปและปรองดองด้วยการมอบตัวหรือเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดงานดังกล่าวมีประชาชนทยอยเข้ามาร่วมงานต่อเนื่อง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบ นอกจากนี้ผู้จัดกิจกรรมยังได้อ่านบทกวีของไม้หนึ่ง ก.กุนที กวีผู้ล่วงลับที่กล่าวสดุดีลุงนวมทอง และในเวลา 16.00 น. กลุ่มพลเมืองโต้กลับเดินเท้าจากอนุสรณ์สถานฯ ไปยังกองทัพบก เพื่อชี้แจงข้อเสนอการปฏิรูปกองทัพและอ่านจดหมายของลุงนวมทอง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุญาตให้กลุ่มพลเมืองโต้กลับจัดกิจกรรมและเดินเท้าไปกองทัพบกได้ แต่ห้ามใช้เสียงดังและมีการแสดงออกที่ไปพาดพิงถึงคสช.

เสนอปฏิรูปกองทัพ
        สำหรับ ข้อเสนอให้มีการปฏิรูปกองทัพ ระบุว่า อันดับแรกต้องปฏิรูปการศึกษาในกองทัพโดยอย่ายัดเยียดหลักสูตรสงครามเย็นที่มองเห็นทุกคนเป็นศัตรูตลอด อยากให้การศึกษาของกองทัพมองถึงโลกในปัจจุบัน กองทัพต้องอยู่ภายใต้การนำของพลเรือนต้องเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศ และควรจะนำกองกำลังออกจากศูนย์กลางโดยให้ไปอยู่บริเวณชายแดนของประเทศ รวมถึงการสร้างประชาธิปไตยในกองทัพเองที่ควรจะมีสวัสดิการ พลทหารต้องได้รับเกียรติเท่ากับนายพล ดังนั้น สิ่งที่ประชาชนต้องการคือความเสมอภาค เสรีภาพ และสันติภาพ กองทัพต้องทำให้ประชาชนปลอดจากความหวาดกลัว นำอาวุธปืนออกไปจากการปกครองระบอบประชาธิปไตย ขอให้มีการจัดเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อให้วิญญาณของลุงนวมทองไปสู่สุคติ และวิญญาณเผด็จการไปสู่ที่ชอบๆ
       ด้านนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือพ่อน้องเฌอ เหยื่อผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมปี 2553 ได้อ่านจดหมายลาตายของลุงนวมทองที่ลบคำสบประมาทของรองโฆษกคปค.ที่บอกว่าไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพ รวมทั้งยังได้มีการอ่านบทกวีและจุดธูปรำลึกถึงลุงนวมทอง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอนุญาตให้จัดกิจกรรมในบริเวณดังกล่าวได้เพียง 30 นาที เพื่อไม่ให้เป็นการขัดต่อพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ จากนั้นกลุ่มพลเมืองโต้กลับเดินเท้ากลับไปยังอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16 เพื่อจัดกิจกรรมในช่วงเย็นต่อไป

ปูโพสต์ยกย่องลุงนวมทอง
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 19.30 น. กลุ่มพลเมืองโต้กลับเดินทางกลับมาที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16 โดยมีกิจกรรมแสดงดนตรีสลับกับการพูดปราศรัยอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงเวลาประมาณ 24.00 น. ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ
      ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวรำลึกถึงการเสียชีวิตของลุงนวมทอง พร้อมกับนำจดหมายครั้งสุดท้ายของนายนวมทองไว้ในเฟซบุ๊ก โดยระบุเนื้อหารำลึกถึงลุงนวมทองว่า "วันนี้เมื่อ 9 ปีที่แล้วคือวันที่ 31 ต.ค.2549 ซึ่งถือเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของลุงนวมทอง ขอยกย่องในจิตใจที่ยิ่งใหญ่ของคุณลุง ที่เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อเรียกร้องหาประชาธิปไตย ก็หวังว่าดวงวิญญาณคุณลุงจะได้เห็นประชาธิปไตยของไทยกลับมาในเร็ววัน พร้อมกันนี้ขอฝากจดหมายที่คุณลุงเขียนไว้ก่อนเสียชีวิตเพื่อแสดงออกถึงความหวงแหนประชาธิปไตย"

นายกฯพอใจเหตุการณ์สงบ
       พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความพอใจต่อการร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งเจ้าหน้าที่ และ ผู้มาร่วมงานรำลึกถึงนายนวมทอง ไพรวัลย์อย่างเรียบร้อยภายใต้กฎหมาย และไม่สร้างความเดือดร้อนต่อสังคมโดยรวม
      สำหรับ กระแสข่าวว่า จะมีการรวมตัวของกลุ่มคนเพื่อทำกิจกรรมใดๆ ไม่ว่าจะเป็นในวันที่ 1 พ.ย. หรือวันไหน รัฐบาลและคสช. ยังคงยึดหลักการว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย ไม่ทำลายบรรยากาศความปรองดอง และการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการแสดงออกที่เสมือนต่อต้านกระบวนการยุติธรรม นับเป็นสิ่งที่รัฐบาล และคสช. ไม่อาจยอมรับได้ โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ที่ยังคงมีคดีติดตัว เพราะเราทุกคนทราบดีว่า ปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา ล้วนเป็นผลพวงจากการไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม ขณะที่รัฐบาลพยายามทำทุกวิถีทางให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมเสมอภาคและยุติธรรม

วอนทุกคนร่วมมือรัฐบาล
      พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โดยรวมของประเทศอยู่ในแนวทางที่วางไว้ตามโรดแม็ป และภาพลักษณ์ของประเทศไทยได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกเป็นอย่างดี เพราะทุกประเทศล้วนมีความเข้าใจความมุ่งมั่นของรัฐบาล และคสช.ที่ต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศ ยุติการใช้อาวุธ และการเผชิญหน้า ซึ่งผลจากความตั้งใจนั้น ได้ปรากฏเป็น รูปธรรมอย่างชัดเจนในปัจจุบัน
      "อยากขอทุกภาคส่วนร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อรักษาเสถียรภาพของประเทศร่วมกัน ต่อไป นอกจากนี้อยากเรียกร้องขอความ ร่วมมือจากสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวโดยขอให้มุ่งประเด็นที่ช่วยก่อให้เกิดการพัฒนาประเทศในภาพรวมมากกว่า การเสนอข่าวที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งและสับสนในสังคม" พล.ต.สรรเสริญกล่าว


'บิ๊กตู่'ใช้ม.44 หาคนผิดเรื่องข้าว
     เมื่อวันที่ 31 ต.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคําสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 39/2558 เรื่อง การคุ้มครองการบริหารจัดการข้าวคงเหลือในการดูแลรักษาของรัฐและการดำเนินการต่อ ผู้ต้องรับผิด
     ตามที่มีการดําเนินการตามโครงการรับจํานําข้าวเปลือกของรัฐบาลในอดีต ตั้งแต่ปีการผลิต 2548/2549 จนถึงปีการผลิต 2556/2557 ปรากฏว่ายังคงมีข้าวคงเหลือในการดูแลรักษาของรัฐ ที่เก็บอยู่ทั่วประเทศเป็นปริมาณมหาศาล หากการเก็บรักษาและการควบคุมดูแลหรือการระบายข้าวออกสู่ตลาด ไม่รอบคอบรัดกุมหรือไม่สุจริต ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพราะรัฐต้องจัดสรรงบประมาณเป็นจํานวนมาก เพื่อการบริหารจัดการและการเก็บรักษาข้าวที่คงเหลือไม่ให้เกิดความเสียหายแก่รัฐเพิ่มขึ้น ในขณะที่ต้องเร่งตรวจสอบปริมาณและคุณภาพ รวมทั้งวางมาตรการระบายข้าวดังกล่าว ออกสู่ตลาดให้เหมาะสม มิให้กระทบต่อราคาข้าวฤดูกาลใหม่ที่ทยอยออกมา ทั้งต้องดําเนินการต่อผู้ต้องรับผิด เพื่อให้ชดใช้ความเสียหายแก่รัฐ อันเป็นความจําเป็นเพื่อป้องกันและระงับความเสียหายต่อความมั่นคง ทางเศรษฐกิจของประเทศ
    อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคสช. โดยความเห็นชอบของคสช. จึงมีคําสั่ง ต่อไปนี้
      ข้อ 1 ให้บุคคล คณะบุคคล คณะทํางาน คณะกรรมการ หน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายหรือได้รับมอบหมายจากหัวหน้าคสช. คสช. รัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี หรือคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ให้ดําเนินการบริหารจัดการข้าวที่อยู่ในการดูแลรักษาของรัฐตามโครงการรับจํานําข้าวเปลือกของรัฐ ตั้งแต่ปีการผลิต 2548/2549 จนถึงปีการผลิต 2556/2557 ซึ่งได้ดําเนินการมาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2557 หรือภายหลังจากนั้น ยังคงมีอํานาจหน้าที่ดําเนินการดังกล่าวต่อไปเช่นเดิม
     ทั้งนี้ เพื่อระงับยับยั้งมิให้เกิดความเสียหายแก่รัฐเพิ่มขึ้น เพราะเหตุแห่งความเสื่อมสภาพของข้าว การแตกต่างระหว่างราคาข้าวที่รับจํานํากับราคาที่จําหน่ายได้ การที่รัฐต้องรับภาระค่าเช่าคลัง ค่าประกันภัย ค่าดูแลรักษาคุณภาพข้าว ค่าใช้จ่ายอื่นและดอกเบี้ย และเพื่อป้องกันมิให้การระบายข้าวเป็นการเพิ่มอุปทานในตลาดในช่วงเวลาเดียวกับที่มีผลผลิตฤดูกาลใหม่โดยไม่สมควร รวมทั้งดําเนินการเพื่อให้ทราบตัวผู้ต้องรับผิด และเรียกให้ผู้นั้นชดใช้ความเสียหายแก่รัฐตามกฎหมาย
      ในกรณีที่บุคคลตามวรรคหนึ่งดําเนินการตามอํานาจหน้าที่และได้กระทําโดยสุจริต ย่อมได้รับความคุ้มครองไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัย
      ข้อ 2 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
      สั่ง ณ วันที่ 30 ต.ค. 2558

บิ๊กตู่ใช้ม.44 ออกคำสั่ง ป้องขรก. เอาผิด'ปู'คดีจำนำข้าว ไร้โทษอาญา-แพ่ง-วินัย ตร.จับตาแต่งแดงวันนี้ คสช.พอใจงานนวมทอง พลเมืองจี้ปฏิรูปกองทัพ

        'บิ๊กตู่'พอใจงาน 9 ปี'นวมทอง'เรียบร้อย นปช.แต่งดำร่วมรำลึก 'จตุพร'ชี้นักต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ 'ปู'ยกย่องเสียสละชีวิตเรียกร้องประชาธิปไตย คสช.หวั่นใส่เสื้อแดงให้กำลังใจอดีตนายกฯมีนัยยะ ตร.สั่งจับตาแกนนำเป็นพิเศษ

  • มติชนออนไลน์ :

    รำลึก 9 ปี - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.และแกนนำ นปช. ร่วมรำลึกครบรอบ 9 ปีการเสียชีวิตของนายนวมทอง ไพรวัลย์ หรือลุงนวมทอง คนขับแท็กซี่ที่แขวนคอตายประท้วงการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่บริเวณสะพานลอยคนข้าม หน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม



    พบปชช. - นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสมาชิก สนช. เดินทางมาปฏิบัติภารกิจตามโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชน ที่ จ.ยโสธร เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม

    @ กรธ.เลื่อนถกที่มานายกฯ

  •       เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า การประชุม กรธ.ในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ที่จะหารือเรื่องโครงสร้างและที่มานายกรัฐมนตรีนั้น อาจจะมีการเลื่อนการหารือในประเด็นดังกล่าว เพราะนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.เห็นว่ายังพอมีเวลาในการตัดสินใจว่าแนวทางประเด็นดังกล่าวจะไปในทิศทางไหน โดยเบื้องต้นจะมีการหารือกรณีการศึกษาข้อมูลเรื่องระบบรัฐสภา รูปแบบผู้นำทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไร แต่ยังระบุไม่ได้ว่า จะมีการหารือประเด็นที่มานายกฯ โครงสร้างคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือประเด็นนายกฯคนนอกหรือไม่

  •        ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางการพิจารณาเรื่ององค์กรตามรัฐธรรมนูญ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เห็นควรให้บัญญัติเพิ่มจำนวน กกต.จากเดิม 5 คนเป็น 7-9 คน เพื่อรองรับภาระงานที่คาดว่า จะเพิ่มขึ้นในอนาคต นายอมรกล่าวว่า ข้อมูลเป็นไปตามที่แถลงเท่านั้น ส่วนที่ได้ยินมาจากแหล่งข้อมูลอื่นนอกเหนือการแถลงถือว่าไม่เป็นจริงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จะสรรหา กกต.ในรูปแบบเดียวกับการสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระคือ เปิดรับสมัคร ตั้งกรรมการคัดเลือก ส่งรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาคุณสมบัติและลงมติรับหรือไม่รับ ส่วนการลงมติของ กกต.นั้นยังไม่ได้ลงไปในรายละเอียดว่าต้องเป็นมติเอกฉันท์จากเดิมที่ใช้เสียงส่วนใหญ่ เพียงแต่การเพิ่ม กกต.ให้เป็น 7-9 คน เพราะต้องการให้ กกต.มีโอกาสหารือในประเด็นที่น่าจะรัดกุมมากกว่าจำนวนเท่าเดิม จึงคิดว่าจำนวน 7-9 คนน่าจะเป็นจำนวนที่เหมาะสม

    @'สมชัย'แนะเพิ่มหลังชุดเก่าพ้น

          นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงข้อเสนอของ กรธ.ที่จะเพิ่มจำนวน กกต.เป็น 7-9 คน ว่าไม่ติดใจและไม่คิดว่าที่เพิ่มจำนวนขึ้น เป็นเพราะการทำงานล่าช้า ถ้าจะให้มี กกต. 7-9 คน และระบบการทำงานแบบใหม่ เห็นว่าควรอยู่ในบทเฉพาะกาล ไม่ควรนำมาใช้ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2560 หรือควรให้มีขึ้นหลัง กกต.ชุดปัจจุบันหมดวาระลง ไม่อย่างนั้นจะเป็นการปรับทัพกลางศึก เพราะหลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้จะต้องออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ดังนั้น จะเหลือเวลา 4 เดือนก่อนการเลือกตั้งจริง 

         "เวลา 4 เดือน หากต้องใช้มาสรรหา กกต.ใหม่ภายใน 45 วัน จะทำให้เหลือเวลาทำงานจัดเตรียมการเลือกตั้งเพียง 2 เดือนครึ่ง ดังนั้น การปรับให้เข้าสู่ระบบใหม่ในเวลาที่จำกัด จะกลายเป็นจุดอ่อนมากกว่าผลดีต่อการเลือกตั้งของไทย" นายสมชัยกล่าว

    @ 'มาร์ค'ส่งข้อเสนอร่างรธน.4 พ.ย.

         นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมกิจกรรมวิ่งสาดสีสุดมันส์ เดอะคัลเลอร์รันพรีเซนต์ บายเฟรเกรนท์กรุ๊ปประเทศไทยห้ากิโลเมตรที่พิเศษที่สุดในโลก ที่สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) ถึงแนวคิดของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ให้ความสำคัญกับทุกคะแนนเสียงที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งว่า วันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ ได้มอบหมายให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้า ปชป. เป็นตัวแทนนำข้อเสนอเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ ในนามส่วนตัวไปส่งให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ซึ่งจะเป็นความเห็นเชิงหลักการทุกด้านที่ควรบรรจุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงระบบเลือกตั้งด้วย ทั้งนี้ มองว่าหลักการที่ กรธ.พูดเป็นหลักการที่ดี พยายามคิดค้นระบบเลือกตั้งที่แก้ปัญหาหลายเรื่อง โดยไม่ทิ้งเสียงของประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ ถือเป็นความพยายามในการกระตุ้นคนออกมาใช้สิทธิ แต่ยังคงมีจุดอ่อนอยู่บ้าง น่าจะปรับปรุงให้เป็นระบบที่ดีกว่านี้ได้

         หลักการใหญ่ที่ผมเสนอไปคือ เรื่องหมวดสิทธิเสรีภาพ อยากให้ยืนยันสิทธิเสรีภาพ ไม่ให้น้อยกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 รวมถึงร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ชุดนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน ที่มีบทบัญญัติในการเสริมความเข้มแข็งของพลเมือง นอกจากนี้ต้องมีระบบรัฐสภาที่สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างตรงไปตรงมา สิ่งสำคัญคือระบบการตรวจสอบรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งจะมีทั้งข้อเสนอแนะในการปรับปรุง รวมทั้งกลไกต่างๆ ที่จะสนับสนุนในเรื่องดังกล่าวด้วย" นายอภิสิทธิ์กล่าว 

    @ ชงตั้ง"องค์คณะ"คดีการเมือง

         ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอการเพิ่มจำนวนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จาก 5 คน เป็น 7-9 คน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สนับสนุนให้ กกต.ทำงานได้อย่างรวดเร็ว หัวใจคือ การทำงานให้เสร็จก่อนที่จะมีการรับรองผลการเลือกตั้ง ส่วนการเพิ่มจำนวน กกต.นั้น ไม่ติดใจ แต่ไม่ทราบเหตุผลที่จะเพิ่มเพราะอะไร อาจเป็นไปได้ว่าทำให้การแทรกแซงเป็นไปได้ยากขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญคือ อย่าพิจารณาคดีล่าช้าก็แล้วกัน 

         "กกต.ต้องทำงานได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ มีความโปร่งใสมากขึ้น ในเรื่องที่เป็นคดีการเมือง เห็นว่าลักษณะขององค์คณะเฉพาะกิจที่มีระบบสรรหาเฉพาะแต่ละคดีไป เพื่อไม่ให้มีตัวบุคคลที่อาจอยู่ในตำแหน่งนานแล้วกลายเป็นเป้าในการแทรกแซง ข่มขู่ น่าจะช่วยแก้ปัญหาในการเข้าไปแทรกแซง ข่มขู่จากฝ่ายบริหารได้ และยังเป็นการป้องกันการรู้ตัวองค์คณะที่จะเข้ามาพิจารณาล่วงหน้าอีกด้วย" นายอภิสิทธิ์กล่าว

    @ "เพื่อไทย"ขอ"มีชัย"ฟังเสียงค้าน

          นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงระบบเลือกตั้งฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ว่าข้อดีของนายมีชัยคือเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุม สุภาพ รับฟังความเห็นของผู้อื่น ไม่เหน็บแนมผู้เห็นต่าง ส่วนข้อที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดคือ นายมีชัยเป็นนักทฤษฎีไม่ใช่นักปฏิบัติ และภาระของนายมีชัยคือต้องทำตามนโยบายของรัฏฐาธิปัตย์ หากติดตามรับฟังความเห็นของภาคส่วนต่างๆ ที่เห็นตรงกันหมดว่า ระบบการเลือกตั้งที่ กรธ.เสนอให้นำคะแนนของผู้แพ้ หรือไม่ได้รับเลือกตั้งในระบบเขตมาคำนวณเป็นคะแนนของ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อนั้น ไม่สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชน ดังนั้นถ้านายมีชัยเห็นว่ามุมมองดังกล่าวเป็ นเหตุผลที่รับฟังได้ ก็น่าจะให้เหตุผลกับผู้กุมอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ปรับนโยบาย เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันในการพัฒนาบ้านเมืองก็จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม 

         นายชวลิต กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วเห็นว่าระบบเลือกตั้งควรใช้ในสิ่งที่ประชาชนคุ้นเคย แต่สิ่งที่ต้องปฏิรูปเพื่อให้ได้ผู้แทนที่ตรงตามเจตนารมณ์ประชาชนอย่างบริสุทธิ์จริงๆ คือกระบวนการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งมั่นใจว่าทุกพรรคการเมืองต้องการเช่นกัน เพราะไม่มีใครอยากเสียเงินในการเลือกตั้งในจำนวนที่สูง แต่กระบวนการนั้นต้องออกแบบให้เป็นที่ยอมรับในด้านความยุติธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ

    @ "ภูมิธรรม"เหน็บเป็นตลกร้าย

           นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการ พท. กล่าวว่า การใช้คะแนนคนแพ้เลือกตั้ง ส.ส.เขต มาคำนวณเป็นคะแนน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ นับเป็นการทำลายหลักการเสียงข้างมาก ถือเป็นความตั้งใจบิดเบือนผลการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชนอย่างน่าละอายที่สุด ทั้งนี้ ประเทศไทยระยะหลังๆ มักใช้หลักคิดเรื่องคนดีมาทดแทนหลักการและทุกสิ่งทุกอย่างกันมาก ถึงเวลาที่สังคมไทยควรทบทวนเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง ที่ประเทศมีปัญหาวิกฤตมาจนถึงปัจจุบัน เพราะผู้ชอบแอบอ้างตัวเป็นคนดีทั้งหลาย ไม่เคารพหลักการและไม่มีน้ำใจนักกีฬา คือแพ้ไม่เป็น 

           "สโลแกนที่ว่านับทุกคะแนน เพื่อผู้แทนของทุกคน เป็นเพียงตลกร้ายที่สร้างขึ้นโดยพวกไม่ใส่ใจประชาธิปไตย แต่ฝักใฝ่เผด็จการ ข้ออ้างที่ว่าแก้วิธีนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง เพราะเคารพเสียงประชาชน จึงเอาเสียงของคนที่ได้คะแนนรองลงมา ใส่เป็นคะแนนให้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ถ้าทำเช่นนี้ก็เท่ากับว่าผู้อ้างไม่เคารพเสียงการตัดสินใจของคนที่เลือก ส.ส.แล้วได้คะแนนอันดับ 1 เพราะเอาคะแนนของพวกเขาไปทิ้งอย่างไร้ค่าเช่นกัน แล้วเช่นนี้จะกล่าวอ้างว่าเคารพเสียงประชาชนได้อย่างไร" นายภูมิธรรมกล่าว

    @ ย้ำเลือกตั้งแบบเดิมเหมาะสม

         นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปรัชญาและเจตนารมณ์ของการเลือก ส.ส.ทั้ง 2 ระบบ ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมแล้ว ประชาชนเลือก ส.ส.ระบบเขต ไปดูแลทุกข์สุขของเขา และเลือก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ไปสร้างสรรค์นโยบาย เพื่อหาทางออกใหม่ๆ ให้ประเทศและประชาชน

          นายภูมิธรรมกล่าวว่า หากเรื่องง่ายๆ เช่นนี้ยังไม่เข้าใจ อย่าไปคิดร่างกรอบกติกาใหญ่ให้คนทั้งประเทศเลย เสียเวลาเปล่าๆ โปรดอย่าพยายามสร้างวาทกรรมมาลบล้างหลักการที่งดงามของระบอบประชาธิปไตยเลย แค่นี้ประเทศเสียหายมามากพอแล้ว ขอยืนยันหลักการเดิม คือเข้าคูหา ประชาชนกาบัตร 2 ใบ โดยใบที่ 1 เลือกคนที่รัก เป็น ส.ส.ระบบเขต ใบที่ 2 เลือกพรรคที่ชอบ ให้กลั่นกรองบุคลากร เป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ มาสรรค์สร้างและกลั่นกรองนโยบาย เพื่อแก้ปัญหาใหญ่ๆ ระดับประเทศและประชาชน

    @ "แม่น้ำ 3 สาย"ลงพื้นที่ยโสธร 

         ที่ จ.ยโสธร เมื่อเวลา 10.30 น. นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 นำคณะ สนช. อาทิ นายกล้านรงค์ จันทิก นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ พล.อ.อ.ชาลี จันทร์เรือง พล.อ.องอาจ พงษ์ศักดิ์ ลงพื้นที่พบประชาชน โดยมีตัวแทน กรธ. 2 คน คือ พล.อ.นิวัติ ศรีเพ็ญ และนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ และตัวแทนสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) คือ นายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา ร่วมคณะด้วย เพื่อรับฟังความเห็นประชาชน โดยมีนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมและสะท้อนปัญหา

          นพ.เจตน์ กล่าวว่า แนวทางการปฏิรูปที่ สปช.ทำไว้ 37 วาระ จะไม่สูญเปล่า เพราะ สปท.จะทำหน้าที่เป็นฟันเฟืองสานงานต่อ โดยขณะนี้มีกฎหมายปฏิรูปที่เตรียมจะผลักดันเข้าสู่ที่ประชุม สนช.จำนวน 4 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.สมัชชาคุณธรรม พ.ร.บ.องค์กรอิสระคุ้มครองผู้บริโภค พ.ร.บ.ธนาคารที่ดิน และ พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม

    @ รธน.เสร็จสมบูรณ์1เม.ย.59 

           นายชาติชายกล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นร่างของประชาชน หากรัฐธรรมนูญไม่สะท้อนเจตนารมณ์ของทุกฝ่าย และไม่เป็นที่ยอมรับก็จะไม่ผ่านประชามติ เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาก็จะมาแก้ไข ล้มล้าง จะทำให้การร่างรัฐธรรมนูญเสียเวลา ฉะนั้น ความคิดเห็นของฝ่ายต่างๆ เป็นเรื่องสำคัญมาก กรธ.ได้มีโอกาสออกมารับฟังความเห็นว่าต้องเขียนอย่างไร และจะนำความเห็นของทุกฝ่ายมาประมวลหาทางออกที่เป็นกลางให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ เพราะไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับไหนที่จะเขียนตรงใจทุกคน 

         "ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกจะเสร็จประมาณต้นเดือนมกราคม 2559 จากนั้นจะส่งให้พรรคการเมือง ประชาชนให้ความเห็น ก่อนที่จะนำมาปรับปรุงแก้ไข ก่อนที่ร่างสมบูรณ์จะเสร็จในวันที่ 1 เมษายน 2559 จากนั้นจะส่งให้รัฐบาลเพื่อส่งต่อไปยัง กกต.ทำประชามติต่อไป" นายชาติชายกล่าว

    @ หวังร่างรธน.ผ่านประชามติ

           นายพีระศักดิ์กล่าวถึงการจัดตั้งกลุ่มจังหวัด 18 กลุ่ม ว่าได้มีการหารือกันระหว่าง ครม. สปท.และ สนช.แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดแบ่งกลุ่มจังหวัด เพื่อช่วยรัฐบาลขับเคลื่อนนโยบาย เนื่องจากการสื่อสารยังไม่ใกล้ชิดในระดับส่วนราชการและประชาชน สนช.จึงต้องอาสาที่จะให้การแบ่งกลุ่มจังหวัดเพื่อรับผิดชอบ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้คำแนะนำแต่ละกลุ่มจังหวัดว่าจะจัดทำงบประมาณอย่างไรให้สอดคล้องกับนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ไว้ ในการดำเนินการตามนโยบายอย่างบูรณาการทุกกระทรวง ทบวง กรม 

         นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำงานแม่น้ำแต่ละสายต้องร่วมกันทำงานอยู่แล้ว การที่แม่น้ำ 4 สายมารวมกลุ่มกันลงพื้นที่ ไม่ใช่ที่ผ่านมามีปัญหา หรือทำงานไม่ตรงตามโรดแมป แต่ถ้าจะมีปัญหาคงอยู่ที่การทำประชามติ ที่ต้องดูว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 รองรับอย่างไร เรื่องนี้ทุกฝ่ายต้องการที่จะให้ประชามติผ่านอยู่แล้ว ดังนั้น ประชามติจะผ่านหรือไม่ผ่านต้องอยู่ที่การร่วมมือกัน โดยเฉพาะการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน 

    @ พ.ย.อาจแก้รธน.ชั่วคราวฯ

         เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ สนช.จะเสนอแนะให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 เพื่อทำประชามติ นายพีระศักดิ์กล่าวว่า คิดว่าประธาน กรธ.และประธาน สนช.คงจะมีการพูดคุยกับ คสช.อยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่าห้วงเวลาไหนจะเหมาะสม คิดว่าคงไม่ช้า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 มายัง สนช. แต่คาดว่าจะมีการแก้ไข โดยเฉพาะประเด็นถ้าไม่ผ่านประชามติ รวมทั้งการนับเสียงประชามติจะนับจากจำนวนผู้มาใช้สิทธิหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ต้องให้มีความชัดเจนมากขึ้น 

         เมื่อถามย้ำว่า ต้องแก้ไขก่อนเดือนมกราคม 2559 หรือไม่ นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกจะเสร็จเดือนมกราคม 2559 ดังนั้นเดือนพฤศจิกายนนี้อาจจะมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ได้ 

    @ นปช.รำลึก 9 ปี'นวมทอง'

          ด้านการจัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 9 ปี การเสียชีวิตของนายนวมทอง ไพรวัลย์ หรือลุงนวมทอง คนขับแท็กซี่ที่แขวนคอตายประท้วงการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่บริเวณสะพานลอยข้ามหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีนั้น มีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษา นปช. นพ.เหวง โตจิราการ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) นายอารี ไกรนรา อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเข้าร่วมกิจกรรม โดยผู้ที่มาร่วมกิจกรรมต่างสวมชุดดำเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับนายนวมทอง

          ทั้งนี้ นายจตุพรได้นำช่อดอกกุหลาบสีแดงไปวางพร้อมทำความเคารพบริเวณสดมภ์อนุสรณ์นวมทอง ไพรวัลย์ ตามด้วยบรรดาแกนนำ นปช.คนอื่นๆ พร้อมทั้งมวลชนที่มาร่วมงานทยอยวางดอกกุหลาบสีแดงเพื่อเป็นการ

    ไว้อาลัย 

    @ 'จตุพร'ยกการต่อสู้เป็นอมตะ

           นายจตุพรให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางกลับว่า การมาร่วมไว้อาลัยในครั้งนี้ นปช.ต้องถือว่าเป็นภาระหน้าที่ในการคารวะดวงวิญญาณวีรชนลุงนวมทอง การต่อสู้ของลุงนวมทองเป็นอมตะและจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป เป็นความนิจนิรันดร์ของนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ แม้จากไปแต่วีรกรรมอันอาจหาญจะอยู่ในหัวใจของผู้ที่รักประชาธิปไตยตลอดไป

         ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การรวมตัวทำกิจกรรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) จัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยกระจายกำลังตรวจตราทั้งบริเวณทางขึ้นลงและบนสะพานลอย พร้อมกันนี้ได้มีการติดตั้งแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ ทั้งคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 3/2558 ที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน และ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมได้รับทราบเป็นระยะ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

    @'ปู'โพสต์ระบุเสียสละยิ่งใหญ่

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ภาพจดหมายของนายนวมทอง ไพรวัลย์ ที่เขียนก่อนเสียชีวิต พร้อมข้อความว่า "วันนี้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว คือวันที่ 31 ตุลาคม 2549 ถือเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของลุงนวมทอง ขอยกย่องในจิตใจที่ยิ่งใหญ่ของคุณลุง ที่เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อเรียกร้องหาประชาธิปไตย ก็หวังว่าดวงวิญญาณคุณลุงจะได้เห็นประชาธิปไตยของไทยกลับมาในเร็ววันนะคะ พร้อมกันนี้ขอฝากจดหมายที่คุณลุงเขียนไว้ก่อนเสียชีวิตเพื่อแสดงออกถึงความหวงแหนประชาธิปไตยค่ะ"

    @'พลเมืองโต้กลับ'รำลึก'นวมทอง'

           ด้านกลุ่มพลเมืองโต้กลับได้จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบการเสียชีวิต 9 ปี ของนายนวมทอง ไพรวัลย์ หรือ "ลุงนวมทอง" ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16 สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน เมื่อเวลา 15.00 น. โดยมีประชาชนทยอยเข้ามาร่วมงาน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบ นอกจากนี้ผู้จัดกิจกรรมยังได้มีอ่านบทกวีของไม้หนึ่ง ก.กุนที กวีผู้ล่วงลับที่กล่าวสดุดีลุงนวมทอง ขณะที่นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ประธานมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย ได้ขอให้ผู้ที่เข้ามาร่วมงานร่วมยืนไว้อาลัยให้แก่ลุงนวมทอง เพื่อแสดงความรำลึกและความกล้าหาญ 

          เวลา 16.00 น. กลุ่มพลเมืองโต้กลับได้เดินทางมาถึงบริเวณกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เพื่อมายื่นข้อเสนอให้มีการปฏิรูปกองทัพ โดยระบุว่า อันดับแรกต้องปฏิรูปการศึกษาในกองทัพ โดยอย่ายัดเยียดหลักสูตรสงครามเย็นที่มองเห็นทุกคนเป็นศัตรู กองทัพต้องอยู่ภายใต้การนำของพลเรือน ต้องเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศ และควรจะนำกองกำลังออกจากศูนย์กลางโดยให้ไปอยู่บริเวณชายแดนของประเทศ รวมถึงการสร้างประชาธิปไตยในกองทัพเองที่ควรจะมีสวัสดิการ พลทหารต้องได้รับเกียรติเท่ากับนายพล ดังนั้นสิ่งที่ประชาชนต้องการคือความเสมอภาค เสรีภาพ และสันติภาพ กองทัพต้องทำให้ประชาชนปลอดจากความหวาดกลัว นำอาวุธออกไปจากการปกครองระบอบประชาธิปไตย ขอให้มีการจัดเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อให้วิญญาณของลุงนวมทองไปสู่สุคติ

          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอนุญาตให้จัดกิจกรรมในบริเวณดังกล่าวได้เพียง 30 นาที เพื่อไม่ให้เป็นการขัดต่อ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ จากนั้น กลุ่มพลเมืองโต้กลับได้เดินเท้ากลับไปยังอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16 เพื่อจัดกิจกรรมต่อและจะจบในเวลาประมาณ 20.00 น.

    @ 'บิ๊กตู่'พอใจงานรำลึกเรียบร้อย

          พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แสดงความพอใจต่อการร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้มาร่วมงานรำลึกถึงนายนวมทอง อย่างเรียบร้อยภายใต้กฎหมายและไม่สร้างความเดือดร้อนต่อสังคมโดยรวม

         "สำหรับกระแสข่าวว่าจะมีการรวมตัวของกลุ่มคนเพื่อทำกิจกรรมใดๆ ไม่ว่าจะเป็นในวันที่ 1 พฤศจิกายนหรือวันไหนก็ตาม รัฐบาลและ คสช.ยังคงยึดหลักการที่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย ไม่ทำลายบรรยากาศความปรองดอง และการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการแสดงออกที่เหมือนเป็นการต่อต้านกระบวนการยุติธรรม นับเป็นสิ่งที่รัฐบาลและ คสช.ไม่สามารถยอมรับได้ โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ที่ยังคงมีคดีติดตัว เพราะเราทุกคนทราบดีว่าปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศของเราล้วนเป็นผลพวงจากการไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม ขณะที่รัฐบาลพยายามทำทุกวิถีทางให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมเสมอภาคและยุติธรรม" พล.ต.สรรเสริญกล่าว และว่า ขณะนี้สถานการณ์โดยรวมของประเทศอยู่ในแนวทางที่วางไว้ตามโรดแมป จึงอยากขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อรักษาเสถียรภาพของประเทศร่วมกันต่อไป นอกจากนี้อยากเรียกร้องขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าว โดยขอให้มุ่งประเด็นที่ช่วยก่อให้เกิดการพัฒนาประเทศในภาพรวม มากกว่าการเสนอข่าวที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งและสับสนในสังคม

    @ คสช.หวั่นใส่แดงมีนัยยะอื่น

        พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีการนัดใส่เสื้อแดงเพื่อให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ว่า ในส่วนของ คสช.ยังไม่ได้มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังคงพยายามปฏิบัติดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อยมากที่สุดในงานทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการป้องกันหลีกเลี่ยงการใดๆ ที่จะส่งผลให้เกิดประเด็นเงื่อนไขใหม่ จนส่งผลทำให้สังคมเกิดความไม่เรียบร้อยได้ ทั้งนี้มีหลายคนให้ความเห็นว่าจะใส่เสื้อสีอะไรก็สามารถแสดงถึงการให้กำลังใจได้อยู่แล้ว เพราะเข้าใจว่าวัตถุประสงค์คือการแสดงออกเรื่องของการให้กำลังใจ ไม่ใช่วาระในเรื่องของการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของสีเสื้อ จึงเป็นไปได้สูงที่ความพยายามครั้งนี้อาจทำให้หลายๆ คนมองว่าอาจจะมีนัยยะอื่นๆ แฝงผสมเข้ามาด้วยหรือไม่

           "คงเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่บริเวณพื้นที่นั้นที่จะมองด้วย เพราะการแสดงออกใดๆ ช่วงนี้ยังคงต้องระมัดระวัง คำนึงถึงความเหมาะสมของช่วงเวลา และผลกระทบในเชิงความรู้สึกในแง่มุมต่างๆ ของบุคคลอื่นๆ หรือส่วนรวมด้วย" พ.อ.วินธัยกล่าว

    @ ตร.จับตากลุ่มแกนนำนปช.

           พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านความมั่นคง ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงการชักชวนกันสวมเสื้อสีแดงในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เพื่อให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า จากการข่าวขณะนี้ยังไม่พบการเคลื่อนไหวที่น่ากังวลว่าจะมีการรวมตัวแต่อย่างใด แต่มีการสั่งการให้จับตากลุ่มแกนนำเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ตร.สั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชนแล้ว ส่วนการสวมเสื้อไม่ว่าจะสีอะไรย่อมทำได้เพราะเป็นสิทธิและเสรีภาพของประชาชน หากการกระทำนั้นไม่มีนัยสำคัญ และดำเนินการตามขอบเขตของกฎหมาย 

         พล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวว่า ขอให้ใช้วิจารณญาณให้รอบคอบในการดำเนินการในเรื่องต่างๆ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้ที่ไม่หวังดีกับประเทศ อยากให้คนไทยรักกัน ปรองดอง ยิ้มแย้มเข้าหากัน มีน้ำใจต่อกัน เพื่อช่วยให้บ้านเมืองที่กำลังเดินหน้าในขณะนี้พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ประเทศกำลังดำเนินการไปตามโรดแมปสู่การพัฒนา

    @ 'ตู่'เตือนแดงอย่าตกหลุมพราง

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ได้กล่าวในรายการมองไกล ผ่านเว็บไซต์ยูทูบ ว่าสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ คนเสื้อแดงเป็นเพียงคนกลุ่มเดียวเท่านั้นที่จะมาช่วยให้ คสช.หลุดรอดจากปัญหาต่างๆ มากมายที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ดังนั้นการโหมปั่นกระแสนัดใส่เสื้อแดงจึงเป็นหลุมพราง ล่อให้คนเสื้อแดงไปติดกับดักแล้วขยายผล สร้างเหตุการณ์ต่างๆ ตามมา เพื่อจะโยนความผิดให้คนเสื้อแดงกลายเป็นจำเลยของสังคมไปทันที ถ้ายังทำแบบที่ต้องการทำอยู่คือ การฆ่าตัวตาย การประโคมโหมกระแส คือช่องว่าง จน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขานรับ สั่งปราบมาเฟีย 

        "วันนี้ไม่ใช่เรื่องใส่หรือไม่ใส่เสื้อแดง ใครจะใส่ก็ใส่ ผมไม่ได้ห้าม แต่ที่ห้ามคือ พวกปั่นกระแสเพื่อโยนปัญหาให้คนเสื้อแดง แล้วพวกผมต้องมาแก้ไขปัญหาเหมือนทุกเรื่องราว การต่อสู้ที่ผ่านมาส่วนใหญ่นั้น ทัพเล็กไปก่อเรื่อง ทัพใหญ่ไม่ได้ก่อ แล้วมาเรียกร้องให้ไปช่วย จนเกิดหายนะทุกที" นายจตุพรกล่าว และว่า การปั่นกระแสนัดใส่เสื้อแดง 1 พฤศจิกายน ขณะนี้เกิดการโหมกระแสอย่างหนัก ทหารในพื้นที่ต่างๆ มีความคึกคัก ตื่นตัวกัน ถ้าขาดความยั้งคิดผลลัพธ์มักเป็นการเดินไปหาหลุมพรางของฝ่ายตรงข้าม และสิ่งสำคัญในขณะนี้ คือ คสช. จะอยู่ในอำนาจได้นาน มีเพียงเหตุผลเดียว คือ คนเสื้อแดงช่วยต่ออายุให้ด้วยการหลงกลไปสู่กับดัก เพราะคนบางฝ่ายเป็นใครไม่รู้ จะใส่เสื้อแดงสวมรอยทันที แล้วไปสร้างเหตุการณ์ต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ขึ้น เพื่อทำให้คนเสื้อแดงถูกชิงชัง

    @ "คสช."ใช้"ม.44"ป้องกก.จำนำข้าว

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 39/2558 เรื่องการคุ้มครองการบริหารจัดการข้าวคงเหลือในการดูแลรักษาของรัฐและการดำเนินการต่อผู้ต้องรับผิด ระบุว่า ตามที่มีการดําเนินการตามโครงการรับจํานําข้าวเปลือกของรัฐบาลในอดีต ตั้งแต่ปีการผลิต 2548/2549 จนถึงปีการผลิต 2556/2557 ปรากฏว่า ยังคงมีข้าวคงเหลือในการดูแลรักษาของรัฐที่เก็บอยู่ทั่วประเทศเป็นปริมาณมหาศาล หากการเก็บรักษาและการควบคุมดูแลหรือการระบายข้าวออกสู่ตลาดไม่รอบคอบรัดกุม หรือไม่สุจริต ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพราะรัฐต้องจัดสรรงบประมาณเป็นจํานวนมากเพื่อการบริหารจัดการและการเก็บรักษาข้าวที่คงเหลือไม่ให้เกิดความเสียหายแก่รัฐเพิ่มขึ้น ในขณะที่ต้องเร่งตรวจสอบปริมาณและคุณภาพ รวมทั้งวางมาตรการระบายข้าวดังกล่าวออกสู่ตลาดให้เหมาะสม มิให้กระทบต่อราคาข้าวฤดูกาลใหม่ที่ทยอยออกมา ทั้งต้องดําเนินการต่อผู้ต้องรับผิด เพื่อให้ชดใช้ความเสียหายแก่รัฐ อันเป็นความจําเป็นเพื่อป้องกันและระงับความเสียหายต่อความมั่นคง ทางเศรษฐกิจของประเทศ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 หัวหน้า คสช. โดยความเห็นชอบของ คสช. จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้

          ข้อ 1 ให้บุคคล คณะบุคคล คณะทํางาน คณะกรรมการ หน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายหรือได้รับมอบหมายจากหัวหน้า คสช. คสช. รัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี หรือคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ให้ดําเนินการบริหารจัดการข้าวที่อยู่ในการดูแลรักษาของรัฐตามโครงการรับจํานําข้าวเปลือกของรัฐ ตั้งแต่ปีการผลิต 2548/2549 จนถึงปีการผลิต 2556/2557 ซึ่งได้ดําเนินการมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 หรือภายหลังจากนั้น ยังคงมีอํานาจหน้าที่ดําเนินการดังกล่าวต่อไปเช่นเดิม ทั้งนี้ เพื่อระงับยับยั้งมิให้เกิดความเสียหายแก่รัฐเพิ่มขึ้นเพราะเหตุแห่งความเสื่อมสภาพของข้าว การแตกต่างระหว่างราคาข้าวที่รับจํานํากับราคาที่จําหน่ายได้ การที่รัฐต้องรับภาระ ค่าเช่าคลัง ค่าประกันภัย ค่าดูแล รักษาคุณภาพข้าว ค่าใช้จ่ายอื่นและดอกเบี้ย และเพื่อป้องกันมิให้การระบายข้าวเป็นการเพิ่มอุปทาน ในตลาดในช่วงเวลาเดียวกับที่มีผลผลิตฤดูกาลใหม่โดยไม่สมควร รวมทั้งดําเนินการเพื่อให้ทราบตัวผู้ต้องรับผิด และเรียกให้ผู้นั้นชดใช้ความเสียหายแก่รัฐตามกฎหมาย

         ในกรณีที่บุคคลตามวรรคหนึ่งดําเนินการตามอํานาจหน้าที่และได้กระทําโดยสุจริต ย่อมได้รับความคุ้มครองไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญาหรือทางวินัย

          ข้อ 2 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.

    @ อภิรดีชี้คุ้มครองการระบายข้าว

          นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า คำสั่ง คสช.ที่ 39/2558 เป็นการคุ้มครองผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการระบายข้าว การระบายอาจมีความเสี่ยงในหลายด้าน เนื่องจากสต๊อกข้าวที่จะระบายจะมีราคาที่แตกต่างจากราคารับจำนำค่อนข้างมากเพราะเป็นข้าวเสื่อมสภาพ เป็นการคุ้มครองตั้งแต่ คสช.เข้ามาดูแลการบริหารจัดการข้าว สำหรับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต จะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการดำเนินคดีของผู้กระทำผิด 

           "การใช้มาตรา 44 ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งในการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาล เพราะเป็นการดูแลในทางปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้มีความคล่องตัว ไม่ลำบากใจ จึงทำให้ขาดผู้ตัดสินใจในทางปฏิบัติ ที่ผ่านมาข้าราชการค่อนข้างลำบากใจที่จะเข้ามาดูแลการบริหารจัดการข้าวในสต๊อกเพราะมีความเสี่ยงสูง ชุดปฏิบัติการระบายข้าวจะได้รับการคุ้มครอง ทั้งการดูแลการระบายข้าว และคดีความที่เกี่ยวข้องในการระบายข้าว" นางอภิรดีกล่าว และว่า การระบายข้าวเสื่อมสภาพ ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศอยู่ระหว่างการจัดทำระบบ เพื่อป้องกันปัญหาข้าวเสื่อมสภาพออกมาสู่ผู้บริโภค จะเริ่มระบายข้าวเสื่อมสภาพเข้าสูอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ในล็อตเล็กๆ ก่อน คาดว่าจะเริ่มระบายได้ในเร็วๆ นี้

    apm

     

     

    Facebook

    5 ข่าวฮอตนิวส์!