WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

 1ผดท3

พท.รุกคดีราชภักดิ์ ยันผิดชัด บิ๊กหมูตั้งพล.อ.ลุย อาจเป็นโจทก์ฟ้องเอง ฟันทั้งคนใน-คนนอก ฝากขัง'อาท'ยังปกติดี รองผกก.ออกอีกราย

     'เพื่อไทย'จี้กองทัพ-รัฐบาล สอบทุจริต'อุทยานราชภักดิ์ชี้ชัดเจนแล้ว มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ผู้เกี่ยวข้องก็ยอมรับเอง มีผู้เรียกรับผลประโยชน์ เสนอ 'วิษณุ-ป.ป.ช.' จัดการด่วน 'บิ๊กหมู' ผบ.ทบ. ตั้ง 'พล.อ.วีรัณ'ปธ.ลุยสอบตั้งแต่คัดเลือกโรงหล่อ เงินบริจาค ปรับภูมิทัศน์ รวมทั้งบัตรโต๊ะจีนราคาสูงด้วย ฮึ่มเอาผิดทั้งคนใน คนนอก หากมูลนิธิไม่ฟ้อง ทบ.จะเป็นโจทก์ฟ้องเอง คุมตัว 'อาท'เลขาฯ หยอง ฝากขังผัด 3 สภาพปกติ แข็งแรง พร้อมนำใบมรณบัตรหยอง ยื่นแสดงต่อศาลถึงสาเหตุการตาย ด้านรอง ผกก.2 ป. ที่โดนเด้ง ลาออกอีกราย ตามหลัง รอง ผบก. กับ ผกก.2 ป.

วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9117 ข่าวสดรายวัน


ผัดที่ 3- เจ้าหน้าที่คุมตัวนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท เลขาฯ คนสนิทหมอหยอง ผู้ต้องหาคดีแอบอ้างเบื้องสูง มาฝากขังต่อศาลทหารเป็นผัดที่ 3 ก่อนคุมตัวกลับไปคุมขังต่อ ที่เรือนจำ มทบ.11 เมื่อวันที่ 13 พ.ย.


คุมตัว'อาท'ฝากขังศาลทหาร

      เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ศาลทหารกรุงเทพ พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.6 ในฐานะคณะพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง และ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ สังกัดกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ควบคุมตัวนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท เลขานุการส่วนตัวของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ผู้ต้องหาคดีร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาขออำนาจศาลทหาร ฝากขัง ผัดที่ 3 วันที่ 13-24 พ.ย.
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนรถควบคุมตัวนายจิรวงศ์นั้น มีรถฮัมวีทหารปิดท้ายขบวนรถเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ที่นายจิรวงศ์นั่งมา ขณะที่บนรถมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหารคุ้มกันตัวผู้ต้องหาอย่างแน่นหนา โดยนาย จิรวงศ์ เมื่อลงมาจากรถควบคุมตัว มีสีหน้าเรียบเฉย และได้แต่เดินก้มหน้า จากการสังเกตจากภายนอกพบว่าร่างกายยังแข็งแรงปกติ

ชี้แจงศาล-เหตุ'หยอง'ตาย
    ภายหลังการคุมตัวนายจิรวงศ์มาขออำนาจศาลทหารฝากขังผัดที่ 3 เสร็จสิ้น โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัว นายจิรวงศ์ ไปควบคุมต่อในเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี ตั้งอยู่ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) โดยนายจิรวงศ์ดูมีลักษณะอาการที่ผ่อนคลายมากกว่าช่วงที่เดินทางมาถึงศาล และยังส่งยิ้มทักทายเจ้าหน้าที่ทหารที่มาควบคุมตัวด้วย
    พ.ต.อ.ชยุต หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง กล่าวว่านำเอกสารมาขออำนาจฝากครั้งนายจิรวงศ์ เป็นผัดที่ 3 พร้อมทั้งนำใบมรณบัตรของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง หนึ่งในผู้ต้องหาที่เสียชีวิต มายื่นต่อศาลว่านายสุริยันเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด ทั้งนี้ ในส่วนนายจิรวงศ์มีสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตแข็งแรง สำหรับผัดต่อไปจะนำตัวมาฝากขังในวันที่ 25 พ.ย.

รองผกก.2 ป.ลาออกอีกคน
     ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นเบื้องสูง อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนคดีที่เหลืออีก 15 คดี ส่วนสำนวนที่ส่งไปแล้วอยู่ระหว่างการตรวจสอบของกองคดี เป็นสำนวนของเลขคดีที่ 96/2558 วันที่ 16 ต.ค.2558 ผู้กล่าวหาคือ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผู้ต้องหา คือนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือเอี๊ยด นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท
     รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนกรณี พ.ต.อ. ศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช รอง ผบก.ป. และ พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 ป. เป็น 2 ใน 8 นายตำรวจที่ถูกย้ายไปช่วยราชการที่ ศปก.บช.ก. ต่อมา พ.ต.อ.ศิวพงษ์ และพ.ต.อ. ไพโรจน์ ยื่นหนังสือลาออกจากราชการ ล่าสุด พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.2 ป. ได้ยื่นลาออกอีกนาย การลาออกของตำรวจ ทั้ง 3 นายอยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอเรื่องต่อผู้บังคับบัญชานั้นตามลำดับชั้น ก่อนเสนอ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พิจารณาอนุมัติภายใน 1-2 วันนี้ แต่จนถึงชั้นนี้ยังไม่พบว่าตำรวจทั้ง 8 นาย กระทำความผิดในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง

ตั้ง'พล.อ.วีรัณ'สอบ'ราชภักดิ์'
     สำหรับ ความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์นั้น มีรายงานข่าวจากกองทัพบกเปิดเผยว่า พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. มอบหมายให้ พล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ โดยมี พล.ท.สรรชัย อจลานนท์ เจ้ากรมกำลังพลกองทัพบก เป็นเลขานุการ และมีกรมฝ่ายเสธ.กองทัพบกทั้งหมดเป็นกรรมการตรวจสอบ โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการจัดสร้าง อาทิ การคัดเลือกโรงหล่อ เงินบริจาค การปรับภูมิทัศน์ การจัดงานไบค์ ฟอร์ ราชภักดิ์ แอนด์ คอนเสิร์ต เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมาด้วย โดยเฉพาะเรื่องจำหน่ายบัตรโต๊ะจีนที่มีราคาสูงมาก รวมถึงกิจกรรมปลูกต้นไม้ในบริเวณอุทยานฯ
     รายงานข่าวแจ้งว่า การตรวจสอบไม่ใช่เป็นการจับผิด แต่เป็นการดำเนินการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ป้องกันข้อกังขาจากสังคม ก่อนจะรับมอบมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพบก เพื่อมาดำเนินการต่อในส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่ยังไม่แล้วเสร็จ การตรวจสอบต้องให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ตรวจสอบทั้งเงินบริจาคว่าใครบริจาคบ้าง และเท่าไหร่ นำไปลดหย่อนภาษีจริงหรือไม่ จ่ายเงินไปเท่าไหร่ และนำเงินเข้ามูลนิธิจริงเท่าไหร่ ก่อนรายงานผลการตรวจสอบให้ พล.อ.ธีรชัย ในวันศุกร์ที่ 20 พ.ย.นี้

'บิ๊กหมู'ลั่นต้องจบสิ้นพ.ย.นี้
    "ผบ.ทบ.เน้นย้ำว่าต้องดำเนินการตรงไปตรงมาให้เกิดความโปร่งใส เพื่อปกป้องสถาบันและกองทัพ หากพบใครทำผิดจริง จะไม่ช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น และการดำเนินการทั้งในเรื่องเรื่องอุทยานราชภักดิ์ จะต้องเคลียร์และให้เสร็จสิ้นภายในเดือนพ.ย.นี้ เนื่องจากเดือนธ.ค. เป็นเดือนมหามงคล หากมีการนำเสนอประเด็นดังกล่าว จะส่งผลให้คนทั้งประเทศไม่สบายใจ" แหล่งข่าวในกองทัพบกระบุ
   รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ส่วนกรณีกำลังพลของกองทัพบกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดสร้างอุทยานฯ นั้น ถือเป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งขึ้นมา ก็ทำงานตามหน้าที่ เชื่อว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว แม้แต่กรมการเงิน กองทัพบก เองก็ตาม ที่มีหน้าที่บันทึกรายรับรายจ่าย รวมถึงเงินบริจาค ว่ามีเงินเข้าเท่าไหร่ ก็บันทึกไปตามนั้น เพียงแต่ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่เงินจะเข้ามาสู่ระบบของกองทัพ ขณะนี้จึงไม่ทราบว่ามีเงินบริจาคจริงๆ เท่าไหร่ และเงินหายไปจริงเท่าไหร่ ดั้งนั้น คณะกรรมการจะไปตรวจสอบผู้บริจาคเงินทั้งหมด ว่าแต่ละคนบริจาคจริงเท่าไหร่ มียอดเงินตรงกับที่กรมการเงินกองทัพบกบันทึกไว้หรือไม่

ทบ.ลุยฟ้องเองทั้งคนใน-นอก
      แหล่งข่าวในกองทัพบกระบุต่อว่า การจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ กองทัพบกทำงานร่วมกับหลายฝ่าย รวมถึงภาคเอกชน ดังนั้นหลายๆ ขั้นตอนอยู่นอกเหนือการควบคุมของกองทัพบก แต่ ผบ.ทบ. เน้นย้ำว่าสิ่งใดก็ตามที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเกิดจากคนในหรือนอก กองทัพต้องลุยเต็มที่ เพื่อเอาผิดให้ได้ เพราะทำงานถวายสถาบัน แต่มีคนมาแสวงหาผลประโยชน์ จนทำให้สถาบันและกองทัพเสื่อมเสีย
     นอกจากนี้ พล.อ.ธีรชัย ผบ.ทบ. ระบุยืนยันว่าจะต้องฟ้องร้อง โดยให้กองทัพบกเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคน 2 กลุ่ม คือ 1.ข้าราชการ โดยเฉพาะทหาร หากพบว่าผิดจริง ต้องปลดจากราชการ ฟ้องร้องทางแพ่งเรียกร้องค่าเสียหาย แจ้งข้อหากระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เอาผิดทุกเรื่อง ทุกข้อหา 2.คนนอก โดยจะดำเนินการทางกฎหมายทุกรูปแบบ อีกทั้ง ผบ.ทบ.ยังสั่งการให้เอาผิดกับเซียนพระชื่อย่อ อ. กรณีไล่เก็บหักหัวคิวจากโรงหล่อ ภายหลังที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม อดีตผบ.ทบ ระบุ เพราะทำให้กองทัพบกเสียหาย หากมูลนิธิไม่ฟ้อง กองทัพบกจะฟ้องเอง เพราะมีหลักฐานว่าทำผิดจริง

พท.หนุนสอบทุจริตจัดสร้าง
     ขณะเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค และนายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ร่วมออกแถลงการณ์พรรคเพื่อไทย กรณีโครงการอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
     โดยแถลงการณ์ระบุโดยสรุปว่า อุทยาน ราชภักดิ์เป็นโครงการที่มีความสำคัญยิ่งต่อความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศ ในการดำเนินโครงการจนแล้วเสร็จ ได้ปรากฏข้อเท็จจริงเปิดเผยต่อสาธารณชนว่า มีการทุจริตและแสวงหาประโยชน์ในหลายขั้นตอนของการดำเนินโครงการ การเกิดการทุจริตนอกจากจะกระทบต่อความรู้สึกของคนไทย ยังกระทบความเชื่อมั่นในนโยบายปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลอีกด้วย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในเรื่องดังกล่าว พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับท่าทีของกองทัพบก ตามคำแถลงของโฆษกกองทัพบกที่แจ้งว่า กองทัพสั่งการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและหาข้อเท็จจริง โดยกำหนดระยะเวลา 7 วัน

ชี้กระทำผิดเกิดขึ้นแล้วชัดเจน
       แถลงการณ์ระบุว่า เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ข้อมูลทั้งหมดของโครงการ เพราะเงินงบประมาณที่ใช้ มาจากภาษีอากรและจากการบริจาคของประชาชนชาวไทย พรรคเพื่อไทยจึงขอเรียนเสนอข้อคิดเห็นและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลดังต่อไปนี้ 1.รัฐบาลจะต้องแถลงรายละเอียดของโครงการตั้งแต่ต้น ผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอนของโครงการ ลำดับขั้นตอนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด งบประมาณในการดำเนินโครงการทั้งหมด ทั้งในส่วนที่เป็นเงินงบประมาณแผ่นดินและเงินบริจาค 2.เนื่องจากผู้รับผิดชอบโครงการแถลงต่อสื่อมวลชน ยอมรับว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ แต่อ้างว่านำเงินไปบริจาคแล้ว จึงมีความชัดเจนว่าได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้ว
     3.เนื่องจากได้ปรากฏเป็นข่าวต่อเนื่องมาโดยตลอดว่า มีข้าราชการและเอกชนเรียกรับผลประโยชน์ และรัฐบาลประกาศนโยบายสำคัญ 2 ด้าน คือ ปกป้องสถาบันและปราบปรามการทุจริต รัฐบาลจึงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบและผู้กระทำผิดโดยด่วน หากเป็นการกระทำของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ย่อมถือว่าเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดย มิชอบ ข่มขืนใจ หรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง หรือผู้อื่น หรือเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และ 149 การนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปบริจาคเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 รัฐบาลจึงต้องร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยทันที

จัดการอย่างเปิดเผย-โปร่งใส
      4.การกระทำความผิดดังกล่าว เกิดขึ้นในขณะที่ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ ดำรงตำแหน่ง รมช.กลาโหม ผบ.ทบ. และเลขาธิการ คสช. และขณะนี้ยังดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติอีกด้วย จึงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้รับผิดชอบโดยตรง รวมทั้งผู้บังคับบัญชาในลำดับชั้นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องแสดงความชัดเจน และแถลงให้สาธารณชนได้รับทราบว่า คณะบุคคลดังกล่าวทั้งหมดจะมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร
     แถลงการณ์ระบุต่อว่า นอกเหนือจากกรณีที่กล่าวมาตามข้อ 1-4 แล้ว ปรากฏว่ามีผู้ที่เป็นข้าราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้องเดินทางหลบออกนอกประเทศ ทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์และข้อระแวงสงสัยต่างๆ ต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ จึงชอบที่รัฐบาลในฐานะผู้ที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวโดยตรง ควรเร่งแถลงรายละเอียดและมาตรการการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อสาธารณะโดยเร่งด่วน ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงเรียกร้องมายังนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเปิดเผย โปร่งใส และประกาศให้สาธารณะได้ทราบโดยด่วน

เสนอ'วิษณุ-ป.ป.ช.'สอบทุจริต
     นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า ปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่อยู่ในขณะนี้ แต่กลับไม่มีใครร้องทุกข์กล่าวโทษ เกรงว่าเรื่องอาจเงียบหายไป พรรคเพื่อไทยเห็นเป็นเรื่องสำคัญ เกี่ยวข้องกับความรู้สึกของประชาชนที่รักสถาบัน ที่สำคัญเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่น ที่เกี่ยวข้องทั้งคดีอาญา ดังนั้นรัฐบาลต้องเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ต้องให้ความสำคัญ และทำให้เกิดความโปร่งใสตามนโยบายแก้ปัญหาทุจริต
     ผู้สื่อข่าวถามว่าหากไม่รัฐบาลร้องทุกข์กล่าวโทษ จะถือว่าเข้าข่ายผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าเป็นเรื่องทางกฎหมาย ต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง และเห็นว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ควรเข้ามาดูแลเรื่องนี้ทันที เมื่อถามต่อว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เข้ามาตรวจสอบหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ หาก ป.ป.ช.นิ่งเฉย ก็อาจจะตรงกับที่ ป.ป.ช.เคยถูกข้อครหาว่าเลือกตรวจสอบเฉพาะบางเรื่องเท่านั้น

'ไก่อู'โบ้ย-ยันรัฐบาลไม่เกี่ยว
     ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวกรณีพรรคเพื่อไทยแถลงเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบและชี้แจงรายละเอียด และมาตรการดำเนินการกับผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการโครงการอุทยานราชภักดิ์ ว่าเรื่องนี้ไม่ได้ดำเนินการโดยรัฐบาล หากไปตอบแทนจะ ดูไม่เห็นภาพ
    ผู้สื่อข่าวถามว่า บุคคลที่ดำเนินการเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ ควรจะออกมาชี้แจงให้ชัดเจนหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่าเราจะชี้แจงในส่วนที่รัฐบาลดำเนินการ ในเมื่อไม่ใช่ก็ต้องถามจากส่วนที่ดำเนินการ คิดว่ายิ่งฟังข่าวลือที่ออกมา ยิ่งทำให้สังคมเกิดความสับสน รอฟังข้อกฎหมายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงจะดีกว่า ส่วนกองทัพได้อธิบายในส่วนที่รับผิดชอบ หากถาม รมช.กลาโหม ก็คงตอบในส่วนที่รับผิดชอบ ส่วนจะตอบหรือไม่นั้นเป็นอีกส่วน

เผยรายชื่อกก.มูลนิธิราชภักดิ์
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 12 พ.ย. เรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง "มูลนิธิราชภักดิ์" ระบุว่า พ.อ. ศักดิ์ศิริ เกาะสูงเนิน ผู้รับมอบอำนาจ ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิราชภักดิ์ ต่อนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เพื่อเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้จัดกิจกรรมรณรงค์ สร้างความเข้าใจและปลูกจิตสำนึกแก่เยาวชนและประชาชน และเป็นศูนย์กลางร่วมสมทบทุนก่อสร้างถาวรวัตถุ อาคาร สิ่งปลูกสร้าง ดูแลและบำรุงรักษาอุทยานราชภักดิ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง มีทรัพย์สินของมูลนิธิ ทุนแรกเริ่มคือเงินสด 200,000 บาท และมีสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 326/2 ถนนอำนวยสงคราม แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ
    คณะกรรมการดำเนินงาน ได้แก่ 1.พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม เป็นประธาน 2.พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นรองประธาน 3.พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร เป็นกรรมการ 4.พล.ท.สุทัศน์ จารุมณี กรรมการ 5.พ.อ.ชูชาติ สุกใส กรรมการ และเหรัญญิก และ 6.พ.อ.สุชาติ พรมใหม่ กรรมการ และเลขานุการ โดยนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพฯ มีคำสั่งรับจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิรายนี้แล้ว เลขทะเบียน ลำดับที่ กท 2585 ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.2558

แจ้งเอาผิดคดี'ราชภักดิ์'พท.จี้'รบ.''บิ๊กหมู'ตั้ง'บิ๊กตุ่ย'ปธ.สอบ ลั่นพบผิดลงโทษไม่ไว้หน้า ทั้งวินัย-แพ่ง-อาญาม.112 ศาลอนุมัติฝากขัง'อาท'ต่อ'รองผกก.ป.'ยื่นไขก๊อกอีก เช็กยิบทำ'หรียญที่ระลึก'

  • มติชนออนไลน์ :

ขังผลัด3 - เจ้าหน้าที่ทหารนำตัวนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท ผู้ต้องหาคดี ม.112 คนสนิทนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง มาขออำนาจศาลฝากขังเป็นผลัดที่ 3 โดยควบคุมตัวที่เรือนจำชั่วคราว มณฑลทหารบกที่ 11 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน

'บิ๊กหมู'ตั้ง'บิ๊กตุ่ย'ปธ.สอบสร้าง'อุทยานราชภักดิ์' ไฟเขียวเอาผิดทหาร-คนนอก

ฝากขัง'อาท'ผลัด 3-แข็งแรง

พล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล

   ความคืบหน้าจับกุมนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ'หมอหยอง'นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท เลขาหมอหยอง และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด ผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดย พ.ต.ต.ปรากรมและนายสุริยันเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ศาลทหารออกหมายจับ พ.อ.คชาชาต บุญดี หรือ เสธ.โจ้ นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีนายทหารระดับ พล.ต.เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น

      เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ศาลทหารกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ พร้อมตำรวจและทหาร คุมตัวนายจิรวงศ์จากเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) มายังศาลทหารกรุงเทพฯ เพื่อขออำนาจศาลทหารฝากขังผลัดที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน ผู้ต้องหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เรียกรับผลประโยชน์จากบริษัทเอกชน รวม 13 คดี กระทั่งถูกออกหมายจับเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา

      พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 กล่าวว่า วันนี้ได้นำตัวนายจิรวงศ์มาขออำนาจศาลฝากขังเป็นผลัดที่ 3 โดยนายจิรวงศ์สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี นอกจากนี้ได้นำเอกสารใบมรณบัตรของนายสุริยันต์มายื่นต่อศาลเพื่อยืนยันว่านายสุริยันเสียชีวิตแล้ว

ตร.ตั้งกก.ชุดใหญ่ตรวจคดี112

      ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา (สบ 10) โฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับขบวนการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงหาผลประโยชน์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี และจากนี้ ตร.จะได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ทางด้านกฎหมายขึ้นมาตรวจสอบสำนวนคดีดังกล่าวเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ โดยคณะกรรมการฯชุดนี้จะประกอบไปด้วย ผู้บังคับบัญชาระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมทีมงาน เข้ามาร่วมกันตรวจสอบเพื่อคัดกรองและมีความเห็นเสนอ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้พิจารณาต่อไป ส่วนนายตำรวจ บช.ก. 8 นายที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช รอง ผบก.ป. และ พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. ตำรวจ 2 ใน 8 นาย ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ที่ถูกสั่งให้ไปช่วยราชการก่อนหน้านี้ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการว่าเป็นอย่างไร ส่วนจะเกี่ยวกับการทำผิดหรือไม่ ตนไม่ทราบ ต้องสอบถามพนักงานสอบสวน

'พ.ต.ท.'กองปราบฯไขก๊อก

       ข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.2 บก.ป. ซึ่งเป็น 3 ใน 8 นายตำรวจที่ถูกย้ายไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ศปก.บชก.) ได้สมัครใจลาออกจากราชการตำรวจและอยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอเรื่องต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนเสนอให้ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พิจารณาอนุมัติภายใน 1-2 วันนี้ 

     ข่าวแจ้งว่า จากการสืบสวนและสอบถามนายตำรวจทั้ง 8 นาย พบว่ารู้จักกับ พ.ต.ต.ปรากรม แต่ไม่ได้มีพฤติการณ์ชัดเจนเหมือนกับ พ.ต.ต.ปรากรม เพียงแต่อาจรับทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบการกระทำความผิดในคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งในส่วนนี้ฝ่ายสืบสวนได้เสนอรายละเอียดให้ฝ่ายสอบสวน ที่มี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.รอง ผบ.ตร.) เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน พิจารณาว่าจะดำเนินการทางวินัยหรือไม่

'พท.'แถลงปมอุทยานราชภักดิ์

      ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค พท. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองหัวหน้าพรรค พท. นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค พท. นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรค พท. ร่วมอ่านแถลงการณ์เรื่องการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยนายปลอดประสพกล่าวว่า ตามที่ได้มีการจัดสร้างพระบรมราชา

     นุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม พร้อมจัดสร้างอุทยานประวัติศาสตร์ภายในพื้นที่ของกองทัพบก มีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณพระมหากษัตริย์ไทยในอดีตที่ทรงสร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศชาติ และได้พระราชทานนามว่าอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งมีความหมายว่าอุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย อุทยานราชภักดิ์เป็นโครงการที่มีความสำคัญยิ่งต่อความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศ ในการดำเนินโครงการจนแล้วเสร็จ ได้ปรากฏข้อเท็จจริงเปิดเผยต่อสาธารณชนว่า เกิดมีการทุจริตและแสวงหาประโยชน์ในหลายขั้นตอนของการดำเนินโครงการ การเกิดการทุจริตในครั้งนี้นอกจากจะกระทบต่อความรู้สึกของคนไทย ยังกระทบความเชื่อมั่นในนโยบายปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลอีกด้วย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในเรื่องดังกล่าว พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับท่าทีของกองทัพบกตามคำแถลงของโฆษกกองทัพบกที่แจ้งว่า กองทัพได้สั่งการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบและหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว โดยกำหนดระยะเวลา 7 วัน 

จี้รบ.ชี้แจงข้อสงสัย 4 ประเด็น 

     นายปลอดประสพ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ข้อมูลทั้งหมดของโครงการ เพราะเงินงบประมาณที่ใช้มาจากภาษีอากรและจากการบริจาคของประชาชนชาวไทย พรรคเพื่อไทยจึงขอเรียนเสนอข้อคิดเห็นและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลดังต่อไปนี้ 1.รัฐบาลจะต้องแถลงรายละเอียดของโครงการตั้งแต่ต้น ผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอนของโครงการ ลำดับขั้นตอนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด งบประมาณในการดำเนินโครงการทั้งหมด ทั้งในส่วนที่เป็นเงินงบประมาณแผ่นดินและเงินบริจาค 

     2.เนื่องจากผู้รับผิดชอบในโครงการดังกล่าวได้แถลงต่อสื่อมวลชน ยอมรับว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จากการดำเนินโครงการ แต่อ้างว่ามีการนำเงินดังกล่าวไปบริจาคแล้ว จึงมีความชัดเจนว่าได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้ว 

    3.เนื่องจากได้ปรากฏเป็นข่าวต่อเนื่องมาโดยตลอดว่า มีข้าราชการและเอกชนเรียกรับผลประโยชน์จากโครงการดังกล่าว และรัฐบาลได้ประกาศนโยบายสำคัญ 2 ด้าน คือ ปกป้องสถาบันและปราบปรามการทุจริต รัฐบาลจึงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบและผู้กระทำผิดโดยเร่งด่วน 

    นอกจากนั้น หากเป็นการกระทำของข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ย่อมถือว่าเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น หรือเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และ 149 

    การนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปบริจาค เข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 รัฐบาลจึงต้องดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยทันทีต่อไป 

     และ 4.การกระทำความผิดดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และขณะนี้ยังดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติอีกด้วย จึงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้รับผิดชอบโดยตรง รวมทั้งผู้บังคับบัญชาในลำดับชั้นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะต้องแสดงความชัดเจนและแถลงให้สาธารณชนได้รับทราบว่า คณะบุคคลดังกล่าวทั้งหมดจะมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร 

ดักคอ'ป.ป.ช.'ต้องร่วมสอบด้วย

     นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากกรณีที่กล่าวมาตามข้อ 1-4 แล้ว ปรากฏว่ามีผู้ที่เป็นข้าราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้องสามารถเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ ทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์และข้อระแวงสงสัยต่างๆ ต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ จึงชอบที่รัฐบาลในฐานะผู้ที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวโดยตรง ควรเร่งแถลงรายละเอียดและมาตรการการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อสาธารณะโดยเร่งด่วน พรรคเพื่อไทยจึงเรียกร้องมายังนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเปิดเผย โปร่งใส และประกาศให้สาธารณะได้ทราบโดยด่วน

    นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นเรื่องใหญ่อยู่ในขณะนี้ แต่กลับไม่มีใครร้องทุกข์กล่าวโทษ เกรงว่าเรื่องอาจเงียบหายไป ทั้งนี้ทางพรรคเพื่อไทยเห็นเป็นเรื่องสำคัญ เกี่ยวข้องกับความรู้สึกของประชาชนที่รักสถาบัน ที่สำคัญเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีอาญา ดังนั้นรัฐบาลต้องเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ต้องให้ความสำคัญและทำให้เกิดความโปร่งใสตามนโยบายแก้ปัญหาทุจริต

     ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลไม่ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ จะถือว่าเข้าข่ายผิดมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นเรื่องทางกฎหมาย ต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ควรต้องเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ทันที เมื่อถามต่อว่าทางพรรคจะไปยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เข้ามาตรวจสอบด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องใหญ่ขนาดนี้หาก ป.ป.ช.นิ่งเฉยก็อาจจะตรงกับที่ ป.ป.ช.เคยถูกข้อครหาว่าเลือกตรวจสอบเฉพาะบางเรื่องเท่านั้น

'ไก่อู'เลี่ยงโต้พท.ปมอุทยาน

     พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบและชี้แจงรายละเอียดและมาตรการดำเนินการกับผู้กระทำผิดในการดำเนินการก่อสร้างโครงการอุทยานราชภักดิ์ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้ดำเนินการโดยรัฐบาล หากไปตอบแทนจะไม่เห็นภาพ

      ผู้สื่อข่าวถามว่า บุคคลที่ดำเนินการเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ควรจะออกมาชี้แจงให้ชัดเจนหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า "เราจะชี้แจงในส่วนที่รัฐบาลดำเนินการ ในเมื่อไม่ใช่ก็ต้องถามจากส่วนที่ดำเนินการ คิดว่ายิ่งฟังข่าวลือที่ออกมายิ่งทำให้สังคมเกิดความสับสน รอฟังข้อกฎหมายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงจะดีกว่า" ส่วนกองทัพได้อธิบายในส่วนที่รับผิดชอบ หากถาม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม คงตอบในส่วนที่รับผิดชอบ ส่วนจะตอบหรือไม่นั้นเป็นอีกส่วน

'บิ๊กหมู'ตั้ง'บิ๊กตุ่ย'ประธานสอบ

      แหล่งข่าวจากกองทัพบก (ทบ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบหมายให้ พล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก (ปธ.คปษ.ทบ.) เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบโครงการอุทธยานราชภักดิ์ โดยมี พล.ท.สรรชัย อจลานนท์ เจ้ากรมกำลังพลกองทัพบก ทำหน้าที่เป็นเลขาฯ และมีกรมฝ่ายเสธ.กองทัพบกทั้งหมดเป็นกรรมการในการตรวจสอบ โดยการตรวจสอบจะเริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการจัดสร้าง อาทิ การคัดเลือกโรงหล่อ เงินบริจาค การปรับภูมิทัศน์ การจัดงาน "ไบค์ ฟอร์ ราชภักดิ์ แอนด์ คอนเสิร์ต" เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมาด้วย โดยเฉพาะเรื่องจำหน่ายโต๊ะจีนที่มีราคาสูงมาก กิจกรรมปลูกต้นไม้ในบริเวณอุทยานราชภักดิ์ ทั้งนี้ การตรวจสอบดังกล่าวไม่ใช่เป็นการจับผิด แต่เป็นการดำเนินการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ป้องกันข้อกังขาจากสังคม ก่อนที่จะมีการรับมอบมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพบก เพื่อมาดำเนินการต่อในส่วนของพิพิธภัณฑ์ที่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยการตรวจสอบต้องให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ และต้องแจ้งผลการตรวจสอบให้กับ พล.อ.ธีรชัยในวันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้

เล็งตรวจยิบเงินบริจาคทั้งหมด 

      แหล่งข่าว ทบ.กล่าวต่อว่า คณะกรรมการตรวจสอบจะได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะมีการตรวจสอบเงินบริจาคว่าใครบริจาคบ้างและบริจาคเท่าใด และมีการนำไปลดหย่อนภาษีจริงหรือไม่ จ่ายเงินไปเท่าไหร่ และนำเงินเข้ามูลนิธิจริงเท่าใด เพราะ ผบ.ทบ.เน้นย้ำว่าต้องดำเนินการตรงไปตรงมา ให้เกิดความโปร่งใส เพื่อปกป้องสถาบันและกองทัพ หากพบใครทำผิดจริงจะไม่ช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น และการดำเนินการทั้งในเรื่องอุทยานราชภักดิ์จะต้องเคลียร์และให้เสร็จสิ้นในสิ้นเดือนนี้ เนื่องจากเดือนหน้าจะเป็นเดือนมหามงคล หากมีการนำเสนอประเด็นดังกล่าว ห่วงจะส่งผลให้คนทั้งประเทศไม่สบายใจ ในส่วนกำลังพลของกองทัพบกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้น ถือเป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งขึ้นมา ก็ทำงานตามหน้าที่ เชื่อว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว แม้แต่กรมการเงิน กองทัพบกเองก็ตาม ที่มีหน้าที่บันทึกรายรับรายจ่าย รวมถึงเงินบริจาคว่ามีเงินเข้าเท่าใด ก็บันทึกไปตามนั้น เพียงแต่ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่เงินจะเข้ามาสู่ระบบของกองทัพ ขณะนี้ไม่ทราบว่ามีเงินบริจาคจริงๆ เท่าใด และเงินหายจริงเท่าใด ฉะนั้น ทางคณะกรรมการตรวจสอบชุดดังกล่าว จะไปตรวจสอบผู้บริจาคเงินทั้งหมดว่าแต่ละคนบริจาคจริงเท่าไหร่ และมียอดเงินตรงกับที่กรมการเงินกองทัพบกได้บันทึกไว้หรือไม่ หากไม่ตรง หายไปในขั้นตอนไหน

ไฟเขียวเอาผิด'ทหาร-คนนอก'

       "กองทัพบกทำงานแบบตรงไปตรงมา เงินเข้ามาเท่าไหร่ บันทึกไปตามนั้น แต่เนื่องจากการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ กองทัพบกทำงานร่วมกับหลายฝ่าย ทั้งภาคเอกชน ดังนั้นหลายๆ ขั้นตอนอยู่นอกเหนือการควบคุมของกองทัพบก แต่ ผบ.ทบ.เน้นย้ำว่า สิ่งใดก็ตามที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเกิดจากคนในหรือนอกกองทัพ กองทัพต้องลุยเต็มที่เพื่อเอาผิดให้ได้ เพราะเราทำงานถวายให้สถาบัน แต่มีคนมาแสวงหาผลประโยชน์จนทำให้สถาบันและกองทัพเสื่อมเสีย โดย ผบ.ทบ.ระบุว่าจะต้องฟ้องร้อง โดยให้กองทัพบกเป็นโจทก์ในการยื่นฟ้องกับคน 2 กลุ่ม คือ 1.ข้าราชการ โดยเฉพาะทหาร หากพบว่าผิดจริงก็ต้องปลดจากราชการ ฟ้องร้องทางแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหาย แจ้งข้อหากระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 คือจะเอาผิดทุกเรื่อง ทุกข้อหา 2.คนนอก จะดำเนินการทางกฎหมายทุกรูปแบบ นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ยังสั่งการให้เอาผิดกับเซียนพระ "อ" กรณีไล่หักหัวคิวจากโรงหล่อ ภายหลังที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมออกมายอมรับ เพราะทำให้กองทัพบกเกิดความเสียหาย ซึ่งหากมูลนิธิไม่ฟ้อง ทางกองทัพบกจะฟ้องเอง เพราะมีหลักฐานว่าทำผิดจริง" แหล่งข่าว ทบ.กล่าว

จ่อสอบทำเหรียญที่ระลึก

       รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้ น่าจะต้องตรวจสอบในประเด็นการดำเนินการจัดสร้างเหรียญที่ระลึกการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ และของที่ระลึก รวมทั้งรูปหล่อบูรพกษัตริย์แห่งสยามทั้ง 7 พระองค์ ประดิษฐานบนแท่นฐานจำลอง ขนาดความสูง 5 นิ้ว ด้วยชนิดเนื้อสัมฤทธิ์นอก สำหรับมอบให้ผู้ที่บริจาคสมทบทุนเช่นกัน

      ที่อาคารรับรองเกษะโกมล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในประเด็นการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ โดยระบุว่าให้ไปสอบถาม พล.อ.ธีรชัย ซึ่งได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์เรียบร้อยแล้ว

รับจดทะเบียนตั้ง'มูลนิธิราชภักดิ์'

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 132 ตอนที่ 121 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 เผยแพร่คำประกาศนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร เรื่องจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิราชภักดิ์ ซึ่งนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานครได้มีคำสั่งรับจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิเลขทะเบียนลำดับที่ กท 2585 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2558 ซึ่งมี พ.อ.ศักดิ์ศิริ เกาะสูงเนิน ผู้รับมอบอำนาจ ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิราชภักดิ์ต่อนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิตั้งอยู่ที่ เลขที่ 326/2 ถนนอำนวยสงคราม แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต โดยมีทรัพย์สินของมูลนิธิมีทุนเริ่มแรก คือ เงินสดจำนวน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) มีคณะกรรมการดำเนินงานประกอบไปด้วย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ประธานกรรมการ, พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รองประธานกรรมการ, พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร กรรมการ, พล.ท.สุทัศน์ จารุมณี กรรมการ, พ.อ.ชูชาติ สุกใส (ยศขณะนั้น) กรรมการและเหรัญญิก, และ พ.อ.สุชาติ พรมใหม่ (ยศขณะนั้น) กรรมการและเลขานุการ

'บิ๊กเจี๊ยบ'ยันดำเนินคดีโปร่งใส

       ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดำเนินคดีผู้ต้องหาตามกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งสื่อมวลชนต่างประเทศเริ่มมีการตั้งข้อสังเกต ต้องระมัดระวังอย่างไรถึงจะไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศว่า ความจริงทุกประเทศล้วนมีปัญหาทั้งสิ้น อยู่ที่ว่าจะไปขุดคุ้ยให้เป็นปัญหาหรือไม่ และทุกประเทศก็ย่อมมีกฎกติกาที่จะดำเนินการ

      "บางคนหน้าเป็นสิว 2-3 เม็ด แล้วไปพูดว่าเป็นสิวน่าเกลียดก็พูดได้ แต่ความจริงมีสิวบนหน้าแค่ 1-2 เม็ดเอง เพราะฉะนั้นทุกอย่างมีกฎกติกาและความเป็นไป ฉะนั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ดำเนินการตามกฎระเบียบกติกาอย่างโปร่งใส แต่ละประเทศก็มีแนวทางของตัวเอง บ้านเราถ้าบอกให้ใช้มีดส้อมกินข้าว ผมว่ามันก็ไม่ใช่ แต่ที่สำคัญคือประเทศไทยเป็นคนดี มีวัฒนธรรม มีพื้นฐานที่ดี มีความจงรักภักดี แล้วบางคนที่มาติเตียน ก็ลองดูการจัดอันดับว่ากรุงเทพฯเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 หรือ 2 ของโลก สลับกันไปมากับกรุงลอนดอน" พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าว

ขอคนไทยร่วมมือพูดเรื่องดีของปท.

     เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะมีคนนำประเด็นนี้ไปขยายผลต่อ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ทุกคนต้องร่วมมือ ถือเป็นงานของคนไทยและประเทศไทย เพราะฉะนั้น ถ้าทุกคนรักประเทศ อยากให้ประเทศสง่างามก็ต้องช่วยกัน เมื่อถามย้ำว่า บางฝ่ายอาจจ้องโจมตีกองทัพและรัฐบาลด้วยประเด็นนี้ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า "เราเป็นคนไทย ถ้าเรารักคนไทยก็ต้องร่วมกัน เพราะประเทศไทยยังคงต้องอยู่ต่อไปตลอดกาล ถ้าอยากอยู่ให้ดีทุกคนก็ต้องช่วยกัน เพราะนี่คือบ้านเรา"

      เมื่อถามถึงกรณีการตายของผู้ต้องหาในคดี 112 เริ่มมีคำถามต่างๆ ตามมา พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงไปแล้ว การป่วย แก่ เจ็บ ตาย ถือเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่อยู่ที่ว่าคนที่หวังดีหรือไม่หวังดีจะมองมุมไหนเท่านั้นเอง ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นจะสั่นคลอนความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อกองทัพหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกองทัพ เป็นเรื่องที่รัฐบาลดำเนินการ และทุกอย่างมีขั้นตอนโปร่งใส ผู้เกี่ยวข้องได้ชี้แจงชัดเจนทั้งหมดแล้ว ก็อยู่ที่สื่อมวลชน ถ้าเขียนให้ดีก็ดี ถ้าเขียนไม่ดีก็ไม่ดี บางครั้งตีข่าวเรื่องไม่จริงออกไป มันก็ไม่ใช่ ก่อนหน้านี้เป็น รมว.การต่างประเทศประมาณ 1 ปี ก็เห็นว่าต่างชาติต่างต้อนรับหมด หรือการที่เขาเลือกไทยเป็นประธานกลุ่มจี 77 ก็ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงในภาพใหญ่ จึงอยากให้มองในภาพนี้มากกว่ามองในจุดที่คนบางคนบ่อนทำลาย จึงควรพูดในมุมที่ดีของประเทศที่มีอยู่มากมาย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!