WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gมชย ฤชพนธ copyปึ้งฟันธงรธน. ไม่รอดแน่ มาร์คบี้ปมนายก จี้กรธ.พูดให้ชัด

     'ปึ้ง' ฟันธงร่างรธน.ไม่ผ่านประชามติ เหตุ 3 พรรคใหญ่รุมค้านแต่'มีชัย' ไม่ฟัง แนะ'บิ๊กตู่'เตรียมหาทางออกล่วงหน้าไว้ได้เลย 'มาร์ค'จี้ กรธ.ตอบชัดๆ จุดประสงค์นายกฯ คนนอก-เปิดชื่อนายกฯ ก่อนเลือกตั้ง รองประธาน กรธ.แจงความเห็นยังแกว่ง อย่าเพิ่งด่วนสรุป'พีระศักดิ์' ชี้เสนอรายชื่อนายกฯ แค่รายละเอียด มีหรือไม่มีก็ได้ หนุนส.ว.มาจากเลือกตั้ง-สรรหา'อนุสรณ์' ยันรัฐบาล คสช.เป็นคู่กรณี 'ปู'คดีจำนำข้าว
วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9118 ข่าวสดรายวัน


พท.ฟันธงรธน.ไม่ผ่านแน่
      กรณีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอสูตรที่มานายกรัฐมนตรี ที่ยังเปิดช่อง นายกฯคนนอก และกำหนดให้แต่ละพรรคต้องเสนอชื่อนายกฯ ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนเลือกตั้ง ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. เปิดแถลงชี้แจงต่อการคัดค้านข้อเสนอดังกล่าว
     วันที่ 14 พ.ย. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแถลงชี้แจงในประเด็นดังกล่าวของนายมีชัยว่า ท่าทีของนายมีชัย ดูเหมือนไม่ฟังข้อเสนอแนะและข้อท้วงติงจากพรรคการเมืองและนักการเมือง จึงขอฟันธงว่าร่างรัฐธรรมนูญที่กรธ.ยกร่างอยู่ในขณะนี้จะไม่ผ่านประชามติแน่นอน เพราะพรรคใหญ่และนักการเมืองซึ่งเป็นมือกฎหมายของทั้ง 3 พรรคใหญ่ ต่างออกมาคัดค้านโดยที่นายมีชัยเอง ไม่คิดจะรับฟัง แบบนี้รัฐธรรมนูญไปไม่รอดอย่างแน่นอน ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ควรเตรียมหาทางออกไว้รองรับได้เลย

เลือกตั้งต้นปี 60 ทำได้จริงหรือ
     นายสุรพงษ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ฝากให้เอกอัครราชทูตและทูตกว่า 90 ประเทศ ช่วยไปชี้แจงให้ต่างชาติเกิดความเข้าใจว่ารัฐบาลจะเดินตามโรดแม็ป และการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2560 และก.ค. 2560 จะได้รัฐบาลใหม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องคิดให้หนักว่าจะดำเนินงานให้เป็นไปตามที่พูดเอาไว้ได้หรือไม่ และได้มอบนโยบายให้ทูตไทยไปชี้แจงให้ต่างชาติรับทราบโดยทั่วกันแล้วหรือไม่ และจะทำให้เกิดเป็นจริงขึ้นมาได้อย่างไร ไม่อยากให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นห่วงและคิดว่านักการเมืองคิดแต่เรื่องเลือกตั้งอย่างเดียว ขอให้สบายใจได้เพราะหากมีกฎกติกาให้การเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง เคารพเสียงประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ปราศจากลูกเล่นซ่อนเอาไว้ มีขบวนการทางกฎหมายที่ยึดหลักแห่งความยุติธรรม พวกเราที่เป็นนักการเมืองก็พึงพอใจแล้ว
       แกนนำพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า วันนี้เราให้เวลานายกฯ ขอให้นำพาประเทศให้เดินหน้าตามที่ได้แต่งไว้ในเพลง และรักษาคำพูดไว้ให้มั่น และขอให้ยุติการกล่าวอ้างหรือโทษคนอื่นแบบว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ควรจะเป็นห่วงมากในตอนนี้คือการออกมาปฏิวัติในครั้งนี้จะเสียของและเสียเวลาประเทศชาติ และทำให้เราก้าวถอยหลังไปหลาย 10 ปี แต่ก็ขอให้กำลังใจ นำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างที่มุ่งหวังเอาไว้

มาร์คจี้กรธ.ตอบ 2 ข้อ
    เวลา 09.00 น. ที่วัดไตรรัตนาราม ซ.ราม อินทรา 8 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณี กรธ.มีแนวทางให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อบุคคลที่จะมาเป็นนายกฯไม่เกิน 5 คน ให้ประชาชนเลือกว่า เข้าใจว่ายังไม่มีข้อยุติ ถ้าตามหลักการ นายกฯ ต้องเป็นส.ส. จะทำให้ทุกอย่างง่าย เพราะใครจะมาเป็นนายกฯ ต้องผ่านการเลือกตั้ง เพราะผ่านกระบวนการตรวจสอบในระดับหนึ่งแล้ว แต่ถ้ามองว่าพรรคการเมืองจะไม่โปร่งใสก็ต้องหามาตรการป้องกัน
   นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นซ้อนกันอยู่ 2 เรื่อง คือ ความพยายามของ กรธ.ที่ต้องการให้ประชาชนได้ทราบชื่อล่วงหน้า กับอีกด้านหนึ่ง คือ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเปิดโอกาสให้คนนอกเข้ามาเป็นนายกฯ ได้หรือไม่ จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีความหวาดระแวงว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์หรือไม่
     "ผมอยากให้ กรธ.มีความชัดเจนทีละประเด็นว่า ประเด็นที่มานายกฯ จะต้องเป็นส.ส.หรือไม่ ถ้าไม่เป็นส.ส.จะใช้เงื่อนไขอะไร และการให้นักการเมืองเปิดเผยชื่อผู้ที่จะเป็นนายกฯ มีจุดประสงค์เพื่ออะไร เพราะหาก กรธ.มีความชัดเจนจะทำให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ ซึ่งถ้าเปิดช่องให้นายกฯ เป็นคนนอก ก็จะมีความกังวลว่าพรรคการเมืองจะไม่เปิดเผยชื่อ ทำให้ประชาชนไม่ทราบล่วงหน้า ดังนั้นต้องให้ได้ข้อยุติเสียก่อนว่าจะมีนายกฯ คนนอกหรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและความเข้าใจ" นายอภิสิทธิ์กล่าว

กรธ.ชี้ความเห็นยังแกว่ง
     ที่ จ.แพร่ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ รองประธานกรธ.ในฐานะประธานอนุกรรมการศึกษาโครงสร้างฝ่ายบริหาร ระบุถึงกรณีนักการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอของกรธ. เรื่องที่มานายกฯ ที่พรรคการเมืองต้องเสนอรายชื่อนายกฯ ให้ประชาชนทราบก่อนการเลือกตั้ง ว่า อย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรในเรื่องนี้ เพราะความเห็นยังแกว่งอยู่ ส่วนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นข้อเสนอที่วิปริตนั้น ไม่มีใครโกรธเคืองอะไร ประเด็นไหนที่ไม่เห็นด้วยก็สามารถเสนอมายังกรธ.ได้ เพราะนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.เป็นคนใจดี ตนทำงานด้วยก็สบายใจ เปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความเห็นได้เต็มที่

เสนอชื่อนายกฯมี-ไม่มีก็ได้
      ด้านนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้อเสนอของ กรธ. ในเรื่องเดียวกันว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้ข้อยุติ ขณะนี้เป็นการพูดคุยในชั้นอนุกรรมการเพื่อรอเข้าที่ประชุมกรธ.ใหญ่ ตนอยากฝากประชาชนว่าการร่างรัฐธรรมนูญเป็นเหมือนตุ๊กตาและต้องทำให้เสร็จในช่วงเดือนม.ค. จึงจะมีการเปิดเผย จากนั้นจะกลับเข้าสู่การรับฟังความเห็นเพื่อนำมาปรับเปลี่ยนอีกครั้ง ส่วนตัวเห็นว่านายกฯ ถ้าไม่มาจาก ส.ส.ควรให้สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบ โดยการเลือกต้องใช้เสียง 3 ใน 5 เพราะเป็นเรื่องสำคัญจึงจำเป็นต้องใช้เสียงจำนวนมาก กระบวนการประชา ธิปไตย ส.ส.คือตัวแทนประชาชน ส่วนวิธีการเสนอรายชื่อนายกฯเป็นเพียงรายละเอียดจะมีหรือไม่มีก็ได้

หนุนส.ว.ระบบผสม
     ส่วนข้อเสนอของกรธ.ที่ให้ตัดอำนาจถอดถอนของ ส.ว.โดยให้พิจารณากฎหมายเพียงอย่างเดียว นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ต้องดูที่มาของส.ว.ถ้าไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็ไม่สมควรมีอำนาจถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่ถ้าส.ว.มาจากการเลือกตั้งก็ควรคงอำนาจในการถอดถอนไว้เหมือนเดิม
      เมื่อถามว่าเหตุผลที่กรธ.ตัดอำนาจถอดถอน เพราะกลัวว่า ส.ส. ส.ว.จะถูกนักการเมืองครอบงำ นายพีระศักดิ์กล่าวว่า ถ้าประชาชนเลือก ส.ส. ส.ว.ที่มีคุณภาพก็จะไม่เกิดปัญหาดังกล่าว เพราะเวลานี้ ส.ส. ส.ว.ขาดความเป็นอิสระ เพราะต้องไปอิงกับงบประมาณจึงต้องอยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง อย่างไรก็ตามส่วนตัวขอยืนยันว่า ส.ว.ควรมาจากการสรรหาและการเลือกตั้ง เพราะทุกวิธีได้ลองมาหมดแล้ว ถ้าตัดการเลือกตั้งออกไปก็จะขาดความเชื่อมโยงประชาชน และสภาควรมีความหลากหลาย

แม่น้ำ 4 สายพบชาวแพร่
    เวลา 10.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดแพร่ นายพีระศักดิ์ พอจิต นำคณะ อาทิ นายกล้านรงค์ จันทิก พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ และนายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน เป็นต้น ลงพื้นที่จ.แพร่ ตามโครงการสนช.พบประชาชน เพื่อพบปะหารือกับส่วนราชการและประชาชน รวมทั้งติดตามตรวจสอบการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อที่ประชุมสนช. โดยมีนายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าฯแพร่และหัวหน้าส่วนราชการต้อนรับ ทั้งนี้ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ นายนรชิต สิงหเสนี ตัวแทนของ กรธ. นายคำนูณ สิทธิสมาน ตัวแทนสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และนายสุรศักดิ์ เรียงเครือ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนจากรัฐบาล ร่วมคณะลงพื้นที่ด้วย

ลงพื้นที่ 22 จังหวัดพบ 7 กลุ่มปัญหา
      นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 57 กำหนดให้สนช.ทำหน้าที่ทั้ง ส.ส.และส.ว.ซึ่งหน้าที่หลักสนช.คือหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ เช่น การตรากฎหมาย และก็มีหน้าที่แต่งตั้งและถอดถอน ที่ผ่านมาก็มีทั้งที่ถอดถอนได้และไม่สามารถถอดถอนได้ การลงพื้นที่จ.แพร่ครั้งนี้ถือเป็นการครั้งแรกที่แม่น้ำ 4 สาย ลงพื้นที่พร้อมกัน ที่ผ่านมาแต่ละครั้ง สนช.จะประสานไปยังส่วนราชการเพื่อรับฟังปัญหาเบื้องต้นก่อนเพื่อสรุปประเด็นหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างชัดเจน โดยพบว่าในส่วนของ จ.แพร่ มีปัญหาที่ประชาชนต้องการให้มีการแก้ไข 4 เรื่อง 1.น้ำ 2.ขยะ 3.คมนาคม และ4.เรื่องที่ประชาชนอยากให้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยจังหวัดแพร่ นอกจากนี้ คณะสนช.จะใช้โอกาสพบส่วนราชการและภาคเอกชนของจ.แพร่ ขณะเดียวกันจะมีคณะลงพื้นที่ อ.สูงเม่น เพื่อพบปะประชาชนด้วย
      นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน สนช. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ 22 จังหวัด เพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรคต่างๆ ของส่วนราชการและประชาชน พบว่ามีปัญหา 3,200 เรื่อง โดยมี 7 กลุ่มปัญหา คือ เรื่องที่ดินทำกิน คมนาคม แหล่งน้ำ การเกษตร เศรษฐกิจปากท้อง การเมือง และอื่นๆ ปัญหาเหล่านี้ ทาง สนช.ได้ส่งไปให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับปัญหานำไปแก้ไขให้ความช่วยเหลือประชาชน ส่งให้คณะกรรมาธิการสามัญประจำสนช.พิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหา ขณะที่บางเรื่องที่เกี่ยวกับระบบหรือนโยบายก็ได้ประสานไปยังรัฐบาล นอกจากนี้หากติดขัดเรื่องของกฎหมายทาง สนช.ก็จะดำเนินการแก้ไขกฎหมาย

พท.เย้ย"หมอวรงค์"ไม่รู้กฎหมาย
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอำนาจการพิจารณาคดีของศาล โดยอ้างว่าศาลแพ่งไม่มีอำนาจรับคดีรับจำนำข้าว รัฐบาลจึงใช้สิทธิเรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนโครงการรับจำนำข้าวว่า นพ.วรงค์พยายามสร้างความน่าเชื่อถือว่ามีความรู้ทางกฎหมาย โดยนำคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2502/2554 มาอ้างแบบผิด จึงขอทำความเข้าใจกับประชาชน ดังนี้
    1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2502/2554 ที่นพ.วรงค์นำมาอ้างมีข้อเท็จจริงแตกต่างจากกรณีอดีตนายกฯ จึงไม่อาจนำมาเทียบเคียงได้ เพราะคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวเป็นกรณีที่ เจ้าหน้าที่ของรัฐไปทำความเสียหายกับบุคคลภายนอกในการปฏิบัติหน้าที่ บุคคลภายนอกจะต้องฟ้องหน่วยงานโดยตรงต่อศาลปกครอง แต่จะฟ้องเจ้าหน้าที่ต่อศาลยุติธรรมไม่ได้ตามมาตรา 5 แห่งพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
      นายอนุสรณ์ กล่าวว่า คำพิพากษาศาลฎีกาจึงชอบแล้วแต่เป็นคนละเรื่องกับกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องที่รัฐจะเรียกร้องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งกรณีนี้หน่วยงานของรัฐสามารถใช้สิทธิเรียกร้องได้ 2 ทาง คือ ใช้สิทธิฟ้องร้องในมูลละเมิดเป็นคดีต่อศาลแพ่ง หรือใช้วิธีออกคำสั่งทางปกครองตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2345/2548 ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ยอมรับว่ารัฐบาลสามารถเลือกดำเนินการได้ 2 ทาง คือฟ้องแพ่งฐานละเมิด หรือการออกคำสั่งทางปกครอง จึงไม่ทราบว่านพ.วรงค์ซึ่งไม่ใช่นักกฎหมาย ฟังความเห็นจากใครแล้วแสดงความเห็นทำให้สังคมเข้าใจผิดในเรื่องกฎหมายที่ไม่มีความรู้

ย้ำรัฐบาลเป็นคู่กรณีจำนำข้าว
      2.การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ซึ่งเป็นผู้เสียหายจะต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของตนโดยพิสูจน์กันในศาลที่เป็นคนกลาง ไม่ใช่โดยรัฐบาลซึ่งเป็นคู่กรณีโดยตรงและมีส่วนได้ส่วนเสีย จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เนื่องจากมีการนำเอาเรื่องการรับจำนำข้าวมาเป็นประเด็นทางการเมือง มีการขัดขวางการจ่ายเงินให้กับชาวนาก่อนการยึดอำนาจจนนำเป็นหนึ่งในข้ออ้างของการยึดอำนาจ รัฐบาลจึงเป็นคู่กรณีทางการเมืองและมีส่วนได้เสียโดยตรงที่ไม่ควรใช้อำนาจทางปกครอง สิ่งที่เรียกร้องจึงไม่ผิดปกติ แต่ที่ผิดปกติคือคนที่พยายามหาเหตุผลมาขัดขวางไม่ให้ได้รับความเป็นธรรม

จี้แพทยสภาสอบหมอวรงค์
      3.การที่แจ้งสภาทนายความสอบจริยธรรมทนายความของอดีตนายกฯ ที่นำข้อกฎหมายมาบิดเบือนนั้น สิ่งที่ทนายความทำนอกจากจะเป็นการนำเสนอข้อกฎหมายอย่างถูกต้อง เพื่อปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมให้กับลูกความเป็นการทำหน้าที่ของทนายความตามกฎหมาย สวนทางกับสิ่งที่นพ.วรงค์ให้ความเห็นทางกฎหมาย ซึ่งแพทยสภาควรเข้ามาตรวจสอบการกระทำของนพ.วรงค์มากกว่า
   4.เรื่องนี้เป็นข้อกฎหมายซึ่งไม่ใช่ความเชี่ยวชาญของคุณหมอ ถ้าคุณหมอไม่มีมิจฉาทิฐิ มิจฉา แปลว่า วิปริต ส่วนทิฐิ แปลว่า ความเห็น อันเกิดจากการปล่อยให้อวิชชาครอบงำ เพราะมีความริษยาเป็นที่ตั้ง ไม่อวดรู้สู่ฉลาดและฟังผู้รู้อย่างนายวิษณุ ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทางกฎหมาย นพ.วรงค์คงไม่ออกมาทำให้สังคมสับสนและนำเรื่องที่ตนเองไม่มีความรู้ไปสอนคนอื่นให้หลงเชื่ออีกถือเป็นสุดยอดมิจฉาทิฐิ ถ้าเปรียบเทียบคำพังเพยไทยการกระทำดังกล่าว เรียกว่า "รู้น้อยพลอยรำคาญ"

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!