WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 03 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8618 ข่าวสดรายวัน


คสช.คืนสุข'วันแม่'หยุด 4 วัน วีระขอบคุณบิ๊กตู่ 
ถึงไทย-ตร.อายัดตัวทันที ดำเนินคดีต่อยึดสนามบิน คสช.ขยายเวลาลดภาษีอีก อนุมัติ 5 พันล้าน-สร้างรพ. 'ลายจุด'ยันไม่ผิด-พร้อมสู้


ยื่นประกัน- นายวีระ สมความคิด ให้ปากคำกับพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. พร้อมยื่นหลักทรัพย์ 1 แสนบาท ขอประกันตัวในข้อหาปิดสนามบิน หลังถูกปล่อยจากเรือนจำเปรยซอร์ กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 ก.ค.

      "วีระ สมความคิด" กลับ ถึงไทยแล้ว เพื่อนที่ถูกรวบรุ่นเดียวกัน "พนิช วิกิตเศรษฐ์-แซมดิน เลิศบุศย์"รุดรับ ตม. อายัดตัวส่งกองปราบฯดำเนินคดี ข้อหายึดสนามบินทันที ก่อนจะได้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 1 แสนนัดส่งอัยการส่งฟ้องศาล 9 ก.ค. คสช.คืนความสุขยาว 4 วันรวด สั่งเพิ่มวันหยุดจันทร์ที่ 11 ส.ค.ด้วย ด้านโฆษกระบุกระตุ้นการท่องเที่ยว การใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ "ประยุทธ์"นั่งหัวโต๊ะประชุมคสช.ชุดใหญ่ผ่านงบผูกพันข้ามปีหลายโครงการ ปลื้มนักธุรกิจเกาหลีเข้าพบ พร้อมอนุมัติงบประมาณอีก 5 พันล้านบาทสร้างคุกภูเก็ต-ขยายร.พ.พระมงกุฎฯ "บ.ก.ลายจุด"ยันพร้อมสู้คดี ยืนยันไม่มีเจตนากระทำความผิด

คสช.ประชุมใหญ่ติดตามงาน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ก.ค. ที่บก.ทบ. ถ.ราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุม คสช.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 4/2557 มีพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ในฐานะรองหัวหน้าคสช. ดูแลฝ่ายความมั่นคง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. ในฐานะรองหัวหน้าคสช. ดูแลฝ่ายสังคมและจิตวิทยา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้าคสช. ดูแลฝ่ายเศรษฐกิจ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. ดูแลฝ่ายกิจการพิเศษ พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการคสช. รวมถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานด้านต่างๆ 

มีวาระสำคัญคือ การพิจารณาร่างธรรมนูญชั่วคราว 45 มาตรา ซึ่งขณะนี้คณะทำงานยกร่างชุดของนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาคสช.ฝ่ายกฎหมาย ได้ส่งให้หัวหน้าคสช.แล้ว หากเห็นชอบจะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยต่อไป นอกจากนี้ ที่ประชุมจะหารือกรณีกัมพูชาปล่อยตัวนายวีระ สมความคิด รวมถึงภาพรวมการจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ซึ่งมีรายงานว่าคสช.พิจารณาเปิดศูนย์ลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวหรือ One Stop Service เพิ่มเติมในอีกหลายจังหวัด เช่น สมุทรปราการ ชลบุรี ระนอง ระยอง รวมถึงการสรุปการทำงานด้านการปรองดองสมานฉันท์ที่กระทรวงกลาโหมเชิญแต่ละภาคส่วนเข้าหารือเพื่อปฏิรูป

อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกา3ฉบับ

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รายงานสถานะหนี้ของประเทศ และผลการดำเนินงานตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบ ประมาณ 2557 รวมทั้งสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมปี 2557 ให้หัวหน้าคสช.ได้รับทราบ 

ขณะที่หัวหน้าฝ่ายต่างๆ ของคณะทำงานคสช. ยังเสนอเรื่องให้หัวหน้าคสช. พิจารณา 19 เรื่อง อาทิ การขอความเห็นชอบร่าง ข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศ ไทยว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร วิธีการจัดเก็บค่าโดยสาร และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล การขออนุมัติก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า เป็นต้น 

ที่ประชุมยังเสนอให้คสช. พิจารณา มาตรการฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ โดยกระทรวงการคลังเสนอขยายเวลาการปรับลดภาษีเป็นมาตรการด้านการคลังที่สำคัญในการช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 ผ่านการบริโภคและการลงทุน โดยกระทรวงการคลังยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ ซึ่งใช้เป็นกรอบจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558พร้อมเสนอมาตรการขยายเวลาการปรับลดภาษี เงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติ บุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม ต่อไปอีก 1 ปี ซึ่งคสช. จะพิจารณาอนุมัติผ่านหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา 3 ฉบับต่อไป

"บิ๊กตู่"ต้อนรับ-แจงนักธุรกิจเกาหลี

พร้อมกันนี้ ฝ่ายเศรษฐกิจโดยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังยังเสนอหัวหน้าคสช. เห็นชอบการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2557/2558 ผ่าน 3 โครงการ คือโครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อการผลิตแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2557/2558 โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2557/2558 ทั้ง 3 โครงการ ฝ่ายเศรษฐกิจยืนยันว่าจะช่วยแก้ปัญหาผลผลิตข้าวที่ออกมาจำนวนมากในช่วงนี้ได้

เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ให้การต้อนรับคณะนักธุรกิจจากประเทศเกาหลีใต้ เพื่อขอความเชื่อมั่น ในการค้า การลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ ช่วงต้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต้อนรับพร้อมแนะนำรองหัวหน้าคสช.ทั้ง 4 คน โดยระบุว่าคสช.ได้แบ่งงานกันดูแลทั้ง 21 กระทรวงและขับเคลื่อนการทำงานกับข้าราชการกระทรวงต่างๆ พร้อมยกตัวอย่างว่าในอดีตเคยรับราชการในกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ซึ่งเป็นหน่วยที่ส่งกำลังพลไปร่วมรบในสงครามเกาหลีและได้สร้างอนุสาวรีย์ทหารผ่านศึกเกาหลีไว้ที่ จ.ชลบุรี 

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวชื่นชมประเทศเกาหลีที่เจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ พร้อมชี้แจงถึงความจำเป็นที่ต้องเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินของ คสช. โดยระบุว่าสถานการณ์ก่อนวันที่ 22 พ.ค. รัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตยไม่มีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน 

"สมยศ"เตือนอีก-นศ.ต้านคสช.

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร.ด้านความมั่นคง เปิดเผยถึงกรณีมีการวิจารณ์ตำรวจและทหารปฏิบัติกับผู้ชุมนุมไม่เท่าเทียมกันและเลือกปฏิบัติว่าพล.อ.ประยุทธ์ได้กำชับให้ทหารและตำรวจปฏิบัติกับผู้ต่อต้านและเห็นต่างทุกกลุ่มให้เท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติ ให้หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงและบังคับใช้กฎหมายจากเบาไปหาหนัก โดยวิธีที่เคยพูดไปหลายครั้งแล้วคือให้บันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวผู้ชุมนุม หรือผู้แสดงการต่อต้านแล้วเชิญตัว มาพบเพื่อพูดคุยและปรับความเข้าใจ ปรับทัศนคติเพื่อให้เกิดความเข้าใจ หากจำเป็นต้องจับกุมตัวก็ไม่ให้จับกุมในพื้นที่ชุมนุม เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกทางลบต่อสังคม และต่อสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อต่างประเทศ และตกเป็นเป้าโจมตีได้

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่าสำหรับบุคคลที่ยังเป็นเยาวชนและนักศึกษาก็เชิญตัวมาทำความเข้าใจพร้อมผู้เชิญปกครองมาร่วมทำความเข้าใจและตักเตือนผู้ปกครองด้วย หากคนใดยังทำพฤติกรรมซ้ำ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกดำเนินคดี อาจส่งผลกระทบต่ออนาคต หากใครยังทำพฤติกรรมซ้ำก็จำเป็นต้องจับกุมดำเนินคดี 

พล.ต.อ.สมยศกล่าวถึงการโพสต์ข้อความต่อต้านคสช.ในอินเตอร์เน็ต หรือโซเชี่ยลมีเดียว่า หากพบข้อความเนื้อหาที่รุนแรงส่อยุยง ส่งเสริมให้เกิดความแตกแยก ขั้นแรกจะตักเตือนก่อน แต่หากเตือนแล้วยังฝ่าฝืนก็ต้องถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี

"พนิช-แซมดิน"รุดรับ"วีระ"

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่หน้าห้องรับรองพิเศษ สนามบินสุวรรณภูมิ มีประชาชนจำนวนหนึ่ง รวมถึงร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ มารอต้อนรับนายวีระ สมความคิด แกนนำภาคีเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ ที่จะเดินทางกลับถึงไทย หลังจากได้รับการพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสครบ 1 ปี การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จเจ้านโรดม สีหนุ ในวันที่ 7 ก.ค.นี้ 

เวลา 11.40 น. นายวีระ พร้อมด้วยนาย สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการ ต่างประเทศ นายนิติธร ล้ำเหลือ เดินทาง ถึงห้องรับรอง โดยนายวีระมีสีหน้ายิ้มแย้ม ยกมือสวัสดีทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ โดยมวลชนต่างโห่ร้องดีใจ ตะโกนว่าวีระสู้ๆ โดยนายวีระให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ต่อไปจะทำงานตรวจสอบทุจริต ส่วนคดีความภายในประเทศ เชื่อว่าทำถูกต้องจึงไม่ซีเรียส ขอบคุณทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือ ถ้ามีโอกาสจะไปขอบคุณคสช. รวมทั้งให้อภัยและอโหสิกรรมแก่ทุกคน 

ตร.อายัดตัวต่อคดียึดสนามบิน

จากนั้นเวลา 12.00 น. พ.ต.ต.พจน์ เศรษฐกร สว.ตม.2 สุวรรณภูมิ แจ้งข้อหาให้นายวีระ ในคดีก่อการร้ายจากเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิสมัยการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อปี 2551 ก่อนถูกนำตัวขึ้นรถยนต์ไปยังกองบังคับการกองปราบปราม เพื่อยื่นประกันตัว

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายพนิชที่เคยถูกจับพร้อมกับนายวีระ กล่าวถึงกรณีนายวีระได้รับการอภัยโทษและถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำเปรย์ซอร์ว่า รู้สึกดีใจแทนครอบครัวของนายวีระมาก คิดว่านายวีระถูกคุมขังนานเกินไปทั้งที่โดนจับกุมพร้อมตน และถูกข้อกล่าวหาเพิ่มซึ่งเชื่อว่าทุกคนมองว่าไม่เป็นธรรมที่นายวีระต้องไปติดคุกที่กัมพูชา ขอชื่นชม คสช. และกระทรวงการต่างประเทศ ที่ทำงานหนัก ประสานนำตัวนายวีระออกมาได้และมีข้อตกลงที่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่บก.ป.เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป.ควบคุมตัวนายวีระ มาสอบสวนดำเนินคดีที่ บก.ป. โดยนายวีระ มีสีหน้า เรียบเฉย กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ดีใจที่ได้กลับประเทศไทย ส่วนเรื่องคดีความต้องขอปรึกษาทนายความก่อน ทั้งนี้มีมวลชนเครือข่ายต่างๆจำนวนมากมาให้กำลังใจ นอกจากนี้ ยังมี นางวิไลวรรณ สมความคิด มารดา และนาง พิศอำไพ สมความคิด ภรรยานายวีระ และน.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตส.ว.กทม.ด้วย

ให้ประกันตัว-นัดส่งอัยการ 9 ก.ค.

จากนั้น พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพร้อมประสานแพทย์จากร.พ.ตำรวจ เข้าตรวจร่างกายของนายวีระ พบว่ามีสภาพร่างกายสมบูรณ์เป็นปกติดี ส่วนข้อกล่าวหาคดีปิดสนามบินทั้ง 2 แห่งนั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหารวม 8 ข้อกล่าวหา ด้านนางพิศอำไพ กล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือให้นายวีระ ได้กลับประเทศไทยในครั้งนี้

ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.พร้อมคณะ ร่วมประชุมคณะทำงานติดตามคดีการจับกุมอาวุธสงครามจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมติดตามการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหานายวีระ ในคดีปิดสนามบิน 2 แห่งด้วย

พล.ต.อ.สมยศกล่าวภายหลังพนักงานสอบสวนสอบปากคำนายวีระว่า ทนายความยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 100,000 บาท ขอประกันตัวนายวีระในชั้นสอบสวน โดยพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันตัวได้ มีเงื่อนไขให้นายวีระเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันที่ 9 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.ก่อนสรุปสำนวนคดีนำส่งพนักงานอัยการต่อไป

ด้านนายวีระให้สัมภาษณ์ว่า ขอขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ ซึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เคยมีการเสนอข้อแลกเปลี่ยนแลกกับอิสรภาพของตน 3 ครั้ง แต่รับไม่ได้ ตนขอพูดเพียงเท่านี้ หากต่อไปในอนาคตบ้านเมืองสงบเรียบร้อยดี จะเปิดเผยรายละเอียด เวลานี้ขอกลับไปพักผ่อนและรักษาสุขภาพ

ยธ.แจงได้รับอภัยโทษจากกัมพูชา

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชาญเชาวน์ ไชยา นุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการปล่อยตัวนายวีระแลกกับเงื่อนไขไทยจะดูแลแรงงานและนักโทษกัมพูชาในไทยตอบแทนว่า กรณีนายวีระไม่ใช่การแลกเปลี่ยน แต่เป็นการดำเนิน 2 ทาง คือยื่นเรื่องขอโอนตัว ซึ่งกระบวนการดังกล่าวดำเนินการเรียบร้อยไปเมื่อ 6-7 เดือนที่ผ่านมาแล้ว และขอรับพระราชทานอภัยโทษ เท่าที่ทราบการปล่อยตัวครั้งนี้เป็นการรับพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชา โดยนายวีระไม่ต้องกลับมา รับโทษต่อที่ไทย

เมื่อถามถึงการนำตัวนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และนายจักรภพ เพ็ญแข ที่มีหมายจับและหลบหนีอยู่ต่างประเทศ นายชาญเชาวน์กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานอัยการสูงสุด รับทราบแนวทางปฏิบัติและอยู่ระหว่างการประสานเรื่องนี้ ส่วนกรณีน.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือโรส ที่ได้รับสัญชาติอังกฤษนั้น จะต้องหาช่องทางของกฎหมายว่าจะขอตัวเป็นไปได้หรือไม่ 

"จารุพงศ์"โวยถูกถอนพาสปอร์ต

เมื่อเวลา 11.20 น. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทย โพสต์ข้อความพร้อมภาพนิ่งในเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีคสช.สั่งเพิกถอนพาสปอร์ตว่า "พาสปอร์ตคือบัตรประจำตัวของคนไทยทุกคนที่ใช้เดินทางไปต่างประเทศ การถอนพาสปอร์ตถือเป็นการถอนสิทธิความเป็นคนไทยของผม ซึ่งคสช.ไม่มีสิทธิ์มาปล้นศักดิ์ศรีความเป็นคนไทยของผมและของคนไทยทั้งชาติได้ เพียงเพราะไม่ยอมก้มหัวยอมรับอำนาจเผด็จการทหาร"

เมื่อเวลา 15.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.พลภัทร วรรณภักตร์ เลขานุการกองทัพบก ผู้แทนหัวหน้าคสช. นำกระเช้าดอกไม้เข้าเยี่ยมนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากนายชวน ป่วยด้วยอาการติดเชื้อในท่อน้ำดี และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ส่องกล้องผ่าตัดขยายท่อน้ำดีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและแพทย์อนุญาตให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. ซึ่งขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว และนายชวนได้มาทำงานที่พรรคตามปกติ

ปปช.ชี้คดีต้องกำหนดอายุความ

ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถ.วิภาวดี นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงคสช.วางแนวนโยบายช่วยชาวนาเรื่องข้าวและเน้นปราบปรามทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าวว่า ป.ป.ช.ให้ความร่วมมือกับคสช.ในทุกเรื่อง อย่างกรณีคสช.ตั้งคณะทำงานเรื่องข้าว ป.ป.ช. ก็ส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยทำงานและช่วยสังเกต การณ์ อาทิ คณะทำงานตรวจสอบบัญชี คณะทำงานตรวจสอบสต๊อกข้าว ส่วนการตรวจสต๊อกข้าวหรือตรวจค้นโรงสีในพื้นที่ต่างจังหวัด เช่น จ.พิจิตร ทางป.ป.ช.ก็ขอความร่วมมือคสช.ส่งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจกับป.ป.ช.ด้วย 

นายปานเทพกล่าวว่า ตอนนี้ป.ป.ช.อยู่ระหว่างการเตรียมเสนอ คสช.ให้ปรับปรุงกฎหมายต่างๆ เช่น กฎหมายต่อยอดจากที่ไทยเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กฎหมายอายุความในคดีทุจริต ซึ่งหารือว่าควรขยายอายุความเป็นกี่ปี จึงอยู่ในรายละเอียดว่าจะยืดอายุความไปอย่างไร เพราะเดิมมาตรา 157 อายุความอยู่ที่ 15 ปี หรือมาตรา 151 อายุความ 20 ปี และยังมีปัญหาว่ากว่าคดีจะมาถึงป.ป.ช.ก็ช้า จึงต้องขอขยายอายุความหรือไม่มีอายุความเลย แต่กรณีไม่มีอายุความนั้นตนไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะกฎหมายต้องมีอายุความ เพียงแต่จะขยายออกไปอย่างไร

คสช.เพิ่มหยุด 4 วัน-11ส.ค.ด้วย

เมื่อเวลา 16.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคสช. แถลงว่า ที่ประชุมคสช.ครั้งที่ 4/2557 เห็นชอบให้วันจันทร์ที่ 11 ส.ค.2557 เป็นวันหยุดราชการ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว กระตุ้นระบบเศรษฐกิจให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในสังคม ส่วนที่มีข่าวว่าประกาศเป็นวันหยุดเพราะเป็นวันเกิดพล.อ.ประยุทธ์นั้น แค่ข่าวลือที่พูดกันไปเองทางไลน์ ทั้งนี้ เมื่อบรรยากาศประเทศเริ่มดีขึ้น จึงเห็นด้วยกับการกระตุ้นการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ การประกาศให้วันที่ 11 ส.ค.เป็นวันหยุดราชการส่งผลให้ราชการหยุดยาว 4 วันตั้งแต่วันที่ 9-12 ส.ค.เนื่องจากวันที่ 12 ส.ค.เป็นวันแม่แห่งชาติ

พ.อ.วินธัยกล่าวถึงการหารือเรื่องธรรมนูญปกครองในการประชุมคสช.ว่า ในที่ประชุมไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้เข้าหารือ ส่วนที่พล.อ.ประยุทธ์ระบุในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" จะนำเรื่องนี้เข้าหารือกับผู้เกี่ยวข้องในสัปดาห์นี้นั้น ตามปกติประเด็นที่เกี่ยวกับการเมืองการปกครอง หัวหน้าคสช.จะเป็นผู้ให้รายละเอียดเอง เรื่องธรรมนูญปกครอง ทีมโฆษกยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน ตามกรอบเวลาที่หัวหน้าคสช. ระบุว่าจะมีการบังคับใช้ต้นเดือนก.ย.นี้ ยังมีเวลาอีก 2 เดือน จึงคาดว่าช่วงเดือนส.ค.น่าจะชัดเจน 

โบ้ยถามวิษณุ-ธรรมนูญชั่วคราว

เมื่อถามว่าหากฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการเสร็จจะต้องนำเข้าที่ประชุมใหญ่คสช.พิจารณาเห็นชอบหรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า คาดว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่างรัฐธรรม นูญจะดำเนินการเอง เมื่อถามย้ำว่าโดยหลักแล้วหัวหน้าคสช.นำร่างธรรมนูญปกครองขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมได้เอง โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคสช.ได้หรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามจากนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาหัวหน้าคสช. 

พ.อ.วินธัยกล่าวถึงการปล่อยตัวนายวีระ สมความคิดว่า หัวหน้าคสช.จะทำหนังสือขอบคุณกัมพูชาทุกความร่วมมือในทุกด้านผ่านมาทั้งปัญหาแรงงานและกรณีนายวีระ ส่วนการปล่อยตัวในครั้งนี้ เท่าที่ทราบไม่มีเงื่อนไขอะไร ส่วนที่มีข่าวว่าแลกเปลี่ยนตัวนักโทษในรัฐบาลก่อนนั้น ยืนยันว่าไม่มี แต่พูดถึงกรณีมีแรงงานช่าวกัมพูชา 13 คนถูกนายหน้าหลอกให้นำเอกสารปลอมเดินทางเข้าไทยและถูกควบคุมตัว ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการอยู่

เตือนอย่าเชื่อแอบอ้างวิ่งเต้นคสช.

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง ทีมโฆษกคสช. แถลงกรณีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ยังคงเคลื่อนไหวโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ใครโพสต์ข้อความยุยงปลุกปั่น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและคณะดูแลติดตาม แต่อาจจะยังไม่เห็นผลได้ทันใจ

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ย้ำเรื่องการทุจริต รวมถึง การแอบอ้างว่า คสช.จะช่วยผลักดันเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ นั้นไม่เป็น ความจริง และไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบ นี้ขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญเป็น พิเศษ เพราะไม่ต้องการให้นำไปเรียกรับ ผลประโยชน์หรือหลอกลวงใคร 

เมื่อถามว่ามีตัวอย่างในเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วหรือยัง พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า เราพยายามติดตามอยู่ ซึ่งสังคมก็คาดหวังว่า คสช.จะทำหน้าที่เป็นที่พึ่งหวังของประชาชน ทำให้มีบางคนอาศัยความคาดหวังไปทำมาหากิน หัวหน้าคสช.จึงเน้นย้ำเป็นพิเศษว่า จะต้องไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพราะการทุจริตคอร์รัปชั่นถือเป็นเรื่องสำคัญ 

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวปฏิเสธข่าวธรรมนูญปกครองใกล้จะเสร็จและเตรียมกำหนดตัวบุคคลของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ว่า ไม่เป็นความจริง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน โดยสนช.จะเป็นผู้เลือกตัว นายกฯ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ยังไม่มีรายละเอียดออกมา ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงเรื่องดังกล่าวไว้จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนเหล่านั้น ต้องรักษาคำพูดตามที่พูดไว้ ตามวิสัยของทหาร พูดคำไหนต้องเป็นคำนั้น ขอให้รอติดตามเรื่องนั้น และใจเย็นๆ

อนุมัติทบ.ก่อหนี้ผูกพัน2.6พันล้าน

น.ส.ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ทีมโฆษกคสช. แถลงว่า คสช. เห็นชอบและอนุมัติการจัดจ้างก่อสร้างเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ตามแผนการจัดจ้างของกรมราชทัณฑ์ในวงเงิน 1,104,600,000 บาท เพื่อทดแทนเรือนจำหลังเดิมที่สร้างตั้งแต่ปี 2444 ซึ่งมีสภาพ เก่าแก่และทรุดโทรม 

น.ส.ปถมาภรณ์กล่าวว่า คสช.ยังอนุมัติให้กองทัพบกก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ 2557-61 วงเงิน 2,599,999,769 บาท เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารเฉลิมพระ เกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีเวลา ดำเนินงาน 1,440 วัน ให้จ่ายจากเงินรายรับของสถานพยาบาลในปีแรกเป็นเงินไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 20 ของวงเงินโครงการ 

น.ส.ปถมาภรณ์กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ยังอนุมัติตามกรมการทหารช่าง ขออนุมัติ ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณในโครงการ จัดสร้างระบบบริการตรวจวินิจฉัยผ่าตัดและรักษาพยาบาล อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ ระยะที่ 1 ซึ่งโครงการนี้ได้รับอนุมัติจากครม.แล้ว แต่ยังไม่ได้ทำสัญญาก่อหนี้ผูกพัน ข้ามปีงบประมาณ โดยมีวงเงินจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งสิ้น 1,738,800,000 บาท โดยจะจ่ายจากเงินงบประมาณปี 2557-59


กำลังใจ - ประชาชนแห่มอบดอกไม้ให้กำลังใจนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาฯ ขณะทหารนำตัวมาขอฝากขังผลัดที่ 4 อีก 12 วัน ฐานขัดคำสั่งคสช. โดยได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ที่ศาลทหาร สนามหลวง เมื่อวันที่ 2 ก.ค.

อนุมัติมาตรการช่วยชาวนา

วันเดียวกัน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน (ครสช.) เห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2557/58 จำนวน 3 แนวทาง วงเงิน 4,804.1 ล้านบาท ซึ่งได้ปรับปรุงใหม่ตามมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) คือ การลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกร 3% ต่อปี ระยะเวลา 6 เดือน วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 50,000 บาท มีวงเงินดำเนินการ 2,292 ล้านบาท,ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกรเพื่อรวบรวมข้าว วงเงิน 700 ล้านบาท และให้ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือก วงเงิน 1,100 ล้านบาท โดยให้ใช้เงินจากงบประมาณ 2558 มาดำเนินการ ช่วยเหลือเกษตรกรได้ครอบคลุม 3.5 ล้านราย 

"โครงการที่อนุมัติครั้งนี้ ได้รวมโครงการประกันภัยข้าว วงเงิน 376 ล้านบาทไปแล้ว ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์ยังได้เสนอให้คสช.ชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกษตรกร ขายข้าวเปลือกได้ในราคาที่เหมาะสมได้ทันฤดูกาลผลิต 57/58 ที่จะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนส.ค.2557 วงเงิน 315 ล้านบาท โดย ให้สำนักงบประมาณไปจัดหาแหล่งวงเงินก่อน ซึ่งโครงการนี้จะช่วยเสริมสภาพคล่องให้โรงสีและ ผู้ประกอบการค้าข้าวให้สามารถรับซื้อข้าวเปลือกช่วยต้นฤดูกาล เป็นการดึงผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาด 2 ล้านตัน ระยะเวลา 3-6 เดือน โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ 3% ต่อปี นับจากวันที่กู้ไปรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรในราคานำตลาด ตันละ 100-200 บาท"

อนุมัติขยายเวลาลด 3 ภาษีอีกปี

ร.อ.นพ.ยงยุทธเปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการขยายระยะเวลาการปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม ต่อไปอีก 1 ปี ทั้งนี้ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะจัดเก็บ 7 ขั้นบันได ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจาก 5 ขั้นเหมือนในปี 2557 คือ 5-10-15-20-25-30-35% เพื่อความสมดุล และเป็นธรรม โดยให้ผู้มีรายได้น้อยชำระภาษีน้อย ผู้มีรายได้มากควรชำระภาษีมาก ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคล รอบบัญชีที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2558 แต่ไม่เกินวันที่ 30 ธ.ค.2558 ให้เก็บในอัตรา 20% เหมือนปี 2557 จากที่ก่อนหน้านี้เก็บในอัตรา 30% เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจภาคเอกชนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ให้ขยายการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% ออกไปอีก 1 ปีตั้งแต่ 1 ต.ค.2557-30 ก.ย.2558 จากอัตราเดิม 10% เพื่อกระตุ้นการบริโภคของประชาชน และลดภาระค่าครองชีพ

สำหรับสาระสำคัญของมาตรการฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ คสช.ให้ความเห็นชอบในวันนี้ได้แก่การเห็นชอบให้มีการออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขยายอายุอัตราภาษีทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ 1.ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยให้ยังคงจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราขั้นบันได 7 ขั้นอัตราจากเดิมอัตราเดิม 5 ขั้นอัตรา ตามเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตรา 5-35% ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 2558 เพื่อความสมดุลและเป็นธรรม โดยให้ผู้มีรายได้น้อยชำระภาษีน้อย ผู้มีรายได้มากควรชำระภาษีมาก

ปลัดกห.พอใจรับฟังความคิดเห็น

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า หัวหน้าคสช. ให้คณะเตรียมการปฏิรูป ไปรับฟังความเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วนมากที่สุดนั้น ในช่วง 1 เดือน ภาพรวมถือว่าน่าดีใจที่ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมืออย่างดี ซึ่งจะรวบรวมความเห็นเสนอต่อหัวหน้า คสช. เพื่อให้สภาปฏิรูปนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ทั้งนี้ การปฏิรูปจะต้องเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลังที่เป็นปัญหาสังคม จึงเน้นประเด็นการปฏิรูปการเมืองว่าด้วยการเข้าสู่อำนาจของฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ การตรวจสอบและควบคุมการใช้อำนาจ อย่างไรก็ตาม การรวบรวมความเห็นยังไม่ถึงขั้น ทำประชามติ แม้คณะเตรียมการจะเสนอความเห็นให้ คสช. สิ้นเดือนก.ค.นี้ แต่จะไม่หยุดทำงาน จะเดินหน้ารับฟังความเห็นที่คู่ขนานกับสภาปฏิรูป เพราะเวลามีอภิปรายในสภา อาจมีประชาชนที่อยากเสนอความเห็น

เมื่อถามว่าจะเชิญนักวิชาการอย่างกลุ่ม นิติราษฎร์หรือกลุ่มอื่นมาให้ข้อมูลหรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า หัวข้อการปฏิรูปยัง ไม่ลงรายละเอียดด้านกฎหมาย แต่เราเปิดกว้างกับทุกกลุ่ม เชื่อว่าหลังจากปฏิรูปด้านการเมืองเรียบร้อย คงจะปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูประบบราชการ หรือปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ และจะนำมาหารือในภายหลัง ตนอยากให้ประชาชนเข้าใจว่าต้องใช้ความอดทน ค่อยๆ หลอมรวมกัน

ปปช.เข้มสอบขรก.-นักการเมือง

ที่สำนักงานป.ป.ช. สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะ กรรมการป.ป.ช. เป็นประธานประชุมร่วมกับ ผู้บริหารสถาบันการเงินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 80 คน เกี่ยวกับการใช้อำนาจ ของคณะกรรมการธุรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของป.ป.ช. 

นายปานเทพกล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้ป.ป.ช.มีอำนาจตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน โดยอาศัยอำนาจคณะกรรมการธุรกรรมทาง การเงินของ ปปง. สาระสำคัญอยู่ที่การตรวจสอบการทำธุรกรรมการเงินของนักการเมือง เดิมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องรายงานการทำธุรกรรมการเงินต่อปปง. แต่ปัจจุบันป.ป.ช.เตรียมออกประกาศป.ป.ช. กำหนดจำนวนเงินและมูลค่าทรัพย์สินในการทำธุรกรรมที่ต้องรายงานต่อป.ป.ช. จึงหารือกับผู้บริหารสถาบันการเงินว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ 

ด้านนายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า สาระสำคัญของการตรวจสอบธุรกรรมการเงินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามที่ป.ป.ช.จะออกประกาศนั้น จะกำหนดให้การทำธุรกรรมการเงินของ ผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. ทั้งนักการเมืองระดับชาติ ระดับท้องถิ่น และข้าราชการ ถ้าทำธุรกรรมที่เป็นอสังหาริม ทรัพย์ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป หรือเงินสดตั้งแต่ 5 แสนบาทขึ้นไป สถาบันการเงินจะต้องรายงานข้อมูลดังกล่าวให้ป.ป.ช.ทราบทุกคน เพื่อตรวจสอบว่ามีความผิดปกติหรือไม่

กกต.ยกคำร้องปชป.-40 สว.บี้"ปู"

ที่สำนักงานกกต. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. แถลงว่า ที่ประชุมกกต.มีมติเสียงข้างมากเห็นตามที่คณะกรรมการไต่สวนมีมติเป็นเอกฉันท์เสนอให้ยกคำร้องกรณีนายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตส.ว.สรรหา ขอให้ตรวจสอบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น สมาชิกพรรค เพื่อไทย 36 คน และพรรคเพื่อไทย กระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยออกประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จัดตั้งศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แต่งตั้งข้าราชการไปปฏิบัติหน้าที่ ใช้งบประมาณดำเนินการโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจาก กกต. และเอื้อประโยชน์ต่อสมาชิกและ พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งจะนำไปสู่การพิจารณาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งกกต.เห็นว่าการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย ประกอบกับศาลแพ่งมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ว่ากฎหมายให้อำนาจฝ่ายบริหารใช้ดุลพินิจพิจารณาสถานการณ์ต่างๆ ว่ามีเหตุรุนแรงเพียงพอจะออกประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ 

นายภุชงค์กล่าวต่อว่า สำนวนร้องคัดค้านน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นยังเหลืออีก 5 สำนวน ซึ่งกกต.จะเร่งพิจารณาให้เสร็จต่อไป

ผบ.สส.พม่าเข้าพบป๋า-ประยุทธ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยื่นใบลาออกจากประธานกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รวมถึงลาออกจากกรรมการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และกรรมการโรงงานยาสูบ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป เพื่อเปิดทางให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบอร์ดใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 4 ก.ค. เวลา 09.30 น. พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพม่า จะเข้าเยี่ยมคารวะพล.อ. ธนะศักดิ์ ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ตามคำเชิญของกองทัพไทย ซึ่งเป็นไปตามกำหนดการเดิมที่วางไว้ จากนั้นเวลา 11.15 น. พล.อ.มิน อ่อง หล่าย จะเข้าพบพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่บ้านพัก สี่เสาเทเวศร์ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 หลังเคย เข้าพบพล.อ.เปรม เมื่อเดือนม.ค.2555 และพ.ค.2556 และในเวลา 14.00 น. จะเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ ที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อเยี่ยมคารวะและหารืออย่างเป็นทางการ

แรงงานอ้างมะกัน-ยุโรปเชื่อมั่นไทย

ที่กระทรวงแรงงาน นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน แถลงภายหลังหารือร่วมกับนายเมาริซิโอ บุสซี่ ผอ.องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) ในเขตภูมิภาคเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก ว่า จากการหารือร่วมกัน นายเมาริซิโอ ยืนยันจะไม่ยกเลิกโครงการที่ไอแอลโอดำเนินการร่วมกับไทย และจะให้ความร่วมมือในเรื่องที่ร่วมมือกันอยู่แล้ว คือเรื่องแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (จีแอลพี) ซึ่งจะใช้เป็นกลไกป้องกันและแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ใน 4 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ถูกกระทรวงแรงงานสหรัฐขึ้นบัญชี คืออ้อย กุ้ง ปลา และเครื่องนุ่งห่ม

นายจีรศักดิ์กล่าวว่า ล่าสุดมีสถานประกอบการเข้าร่วมทำจีแอลพีแล้วกว่า 200 แห่ง ซึ่งสถานประกอบการจะได้รับใบรับรองจากกระทรวงแรงงานว่า มีการปฏิบัติต่อแรงงานที่ดี ใบรับรองมีอายุ 3 ปี เพื่อนำไปแสดง ต่อผู้ซื้อสินค้าในต่างประเทศว่าไม่มีการใช้แรงงานเด็กหรือการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรม วันนี้ผู้ซื้อรายใหญ่ในสหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) ยังเชื่อมั่นในสถานประกอบการของไทยว่ายังมีกระบวนการที่ปราศจากแรงงานเด็ก ค้ามนุษย์ และได้แก้ไขกฎกระทรวงแรงงานให้เรือประมงทะเลทุกลำจัดทำสัญญาจ้าง ที่ชัดเจน มีรายละเอียดการจ่ายค่าจ้าง ดูแลเรื่องอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน จากเดิมยกเว้นให้เรือที่มีลูกจ้างไม่เกิน 20 คน ไม่ต้องทำสัญญาจ้าง

เปิดศูนย์แรงงานต่างด้าวอีก 7 จว.

ปลัดกระทรวงแรงงานกล่าวว่า ส่วนการเปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (วันสต๊อปเซอร์วิส) นั้น วันที่ 7 ก.ค. นี้จะเปิดให้บริการเพิ่มในอีก 7 จังหวัด คือ สมุทรปราการ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ระยอง สุราษฎร์ธานี และสงขลา ส่วนการจัดการแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ คือ พม่า ลาว และกัมพูชา ที่ทำงานในไทยครบ 4 ปีตามบันทึกข้อตกลงระหว่างประเทศ (เอ็มโอยู) และต้องเดินทางกลับประเทศต้นทาง แต่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในไทยได้ชั่วคราวนั้น คณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและค้ามนุษย์ (กนร.) จะต้องพิจารณาแก้ไขเอ็มยูต่อไป

ด้านนายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จที่ จ.สมุทรสาคร ว่า วันที่ 30 มิ.ย. และ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา มีนายจ้างนำแรงงานต่างด้าวมาจดทะเบียนแล้ว 2,966 คน ส่วนทั้ง 4 ศูนย์ตามแนวชายแดนที่ สระแก้ว จันทบุรี ตราด และสุรินทร์ มีแรงงานกัมพูชาเข้ามาลงทะเบียน 3,713 คน แต่ออกใบอนุญาตได้ 3,091 คน ทั้งนี้ กกจ.จะเปิดศูนย์ฮอตไลน์ โทร.1694 เริ่มดำเนินการวันแรกวันที่ 4 ก.ค. นี้ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนและให้คำปรึกษาแรงงานข้ามชาติ มีเจ้าหน้าที่พูดได้ 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ พม่า และกัมพูชา แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลาคือ 06.00-09.00 น. และเวลา 16.00-20.00 น. ทุกวัน 

"อ๋อย"ขึ้นศาลทหารผลัดที่ 4

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ศาลทหาร กรมพระธรรมนูญ สนามหลวง นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ เดินทางมายังศาลทหารตามนัดหมายของพนักงานสอบสวน ขออำนาจศาลฝากขังผลัดที่ 4 ผลัดสุดท้ายอีก 12 วัน ตามฐานความผิดคือขัดคำสั่งคสช. ไม่ไปรายงานตัวโทษจำคุก 2 ปี กระทำผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยงให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง โทษจำคุก 7 ปี และกระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โทษจำคุก 5 ปี รวม 3 ข้อกล่าวหาโทษจำคุก 14 ปี 

บรรยากาศบริเวณศาลทหารเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนกว่า 100 คนมายืนรอตั้งแต่เช้าเพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจนายจาตุรนต์ ที่เดินทางมาถึงด้วยสีหน้ายิ้มแย้มผ่อนคลาย

ต่อมาเวลา 10.15 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 3 องค์คณะตุลาการศาลทหารนั่งบัลลังก์พิจารณาคำขอฝากขังผลัดสุดท้าย 12 วัน ของพนักงานสอบสวน ให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องสอบพยานซึ่งเป็นนักวิชาการอีก 2 ปาก ตามฐานความผิดพ.ร.บคอมพิวเตอร์ ต้องรอผลการตรวจสอบเว็บไซต์จากกระทรวงไอซีที และรอตรวจสอบว่า มาตรา 20 ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เป็นอำนาจของอัยการสูงสุดหรือไม่

ย้ำปาฐกถาเอฟซีซีทีไม่ได้ยุยง

ด้านนายจาตุรนต์ได้ขอคัดค้านคำฝากขังโดยชี้ว่าขั้นตอนการทำสำนวนของพนักงานสอบสวนไม่จำเป็นต้องคุมขังตนตามที่อ้าง อีกทั้งความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 จากกรณีตนแถลงข่าวที่สมาคม ผู้สื่อข่าวต่างประเทศหรือเอฟซีซีทีแล้วนำไปเผยแพร่ในสังคมออนไลน์จนถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เพิ่มเติมนั้น ไม่ใช่การปลุกปั่นยุงยง และเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริง จะพบว่านั่นคือแนวทางสร้างความสงบสุข 

จากนั้นศาลจึงพิเคราะห์โดยเห็นตามคำขอของพนักงานสอบสวน อนุญาตให้ฝากขัง ผู้ต้องหาผลัดสุดท้าย 12 วัน ระหว่างวันที่ 3-14 ก.ค. แต่ผู้ต้องหาได้รับอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว จึงไม่ต้องถูกกุมขัง ให้ยืนตามสัญญาประกันและปฏิบัติตามเงื่อนไข ทั้งนี้ ตุลาการยังชี้แจงกระบวนการพิจารณาของศาลทหารในขั้นต่อไปว่า เมื่อพนักงานสอบสวนทำสำนวนเสร็จ ต้องนัดนายจาตุรนต์ ให้มาศาลทหารกรุงเทพเพื่อส่งสำนวนและส่งตัว ผู้ต้องหาต่ออัยการศาลทหารต่อไป

ทนายความเผยแนวทางต่อสู้คดี

ต่อมาเวลา 10.40 น. นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ในฐานะทนายของนายจาตุรนต์ ให้สัมภาษณ์ว่า นับจากนี้นายจาตุรนต์ จะร่วมกันหารือตั้งทีมที่ปรึกษากฎหมายและทีมทนาย โดยพิจารณาบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิทั้งด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายมหาชน และกฎหมายทหารเพื่อต่อสู้คดีนี้ ให้ถึงที่สุด เนื่องจากข้อหาและฐานความผิด ที่นายจาตุรนต์ถูกแจ้งนั้น มีอัตราโทษสูง ที่สำคัญนายจาตุรนต์ เป็นพลเรือนที่ต้อง ขึ้นศาลทหารระหว่างใช้กฎอัยการศึกตาม พ.ร.บ. กฎอัยการศึก และตามพ.ร.บ. ศาลทหาร ซึ่งพิจารณาในศาลเดียวเท่านั้น ไม่มีอุทธรณ์ฎีกาและถือว่าคำพิพากษาของศาลทหารคือที่สุด ดังนั้นนายจาตุรนต์ จำเป็นต้องตั้งที่ปรึกษาและคณะทำงานด้านกฎหมายอย่างเต็มที่เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อไป

ด้านนายจาตุรนต์ ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องติดตามว่าพนักงานสอบสวนจะฟ้องตนในข้อกล่าวหาใดบ้าง ตนจะซักซ้อมการชี้แจงกับทีมทนายความ ขณะเดียวกันตนต้องคิดข้อเสนอเตรียมไว้ให้สังคม ถึงแนวทางการปรองดองและการปฏิรูปตามที่ตนถนัดและทำมาตลอด ซึ่งขณะนี้มีหลายเวที คาดว่าผู้จัดคงต้องการความคิดเห็นที่หลากหลาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนกว่า 100 รายที่มาให้กำลังใจนายจาตุรนต์ ยังคงปักหลักรออยู่ด้านหน้า กระทั่งกระบวนการพิจารณาเสร็จสิ้นรวมกว่า 3 ชั่วโมง พร้อมตะโกนให้กำลังใจดังกึกก้องว่า "จาตุรนต์สู้ๆ" ในช่วงที่นายจาตุรนต์เดินทางกลับ 

กกต.มีมติไม่คืนค่าสมัครส.ส.

วันที่ 2 ก.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการกกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง แถลงมติกกต.กรณีหัวหน้าพรรคพัฒนาคุณภาพชีวิตมีหนังสือขอเงินค่าธรรมเนียมการสมัครเลือกตั้งส.ส. ในการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า กกต.ไม่สามารถคืนเงินดังกล่าวได้เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับและตามพ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. มาตรา 38 ระบุว่าเมื่อสมัครแล้วไม่สามารถถอนตัวได้ รวมทั้งเงินค่าธรรมเนียมการสมัคร จะตกเป็นของกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง ซึ่งเงินจะหมุนเวียนกลับมาให้พรรคการเมือง

นายธนิศร์กล่าวว่า สำนักงาน กกต.ยังมีหนังสือไปยังพรรคต่างๆ ให้ระวังการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของพรรค ไม่ให้ขัดกับประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 57 ที่ห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง แต่มีบางกิจกรรมที่พรรคต้องดำเนินการตามกฎหมาย เช่น การจ่ายค่าเช่าสำนักงาน ค่าจ้างบุคลากร เพื่อให้กิจการพรรคดำเนินการต่อ แจ้งการเปลี่ยนแปลงสมาชิกพรรคทุก 3 เดือน การแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของกรรมการบริหารพรรค คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะกรณีลาออก แต่มีบางกิจกรรมที่ไม่สามารถดำเนินการได้

"หนังสือดังกล่าวแจ้งให้กรรมการบริหารพรรคระวังการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือกระทำการต้องห้ามตามประกาศ คสช. แต่หากพรรคใดไม่แน่ใจ ก็ทำหนังสือสอบถาม กกต.ได้และกกต.พร้อมให้ความร่วมมือและชี้แจงในทุกประเด็น" นายธนิศร์กล่าว

"ลายจุด"พร้อมสู้คดี-มั่นใจไม่ผิด

เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 2 ก.ค. ที่สภ.เมืองร้อยเอ็ด พ.ต.อ.กิตติรัชต์ น้อยโพนทอง ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด กล่าวถึงกรณีนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ถูกอายัดตัวและ ส่งมาดำเนินคดีที่จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 1 ก.ค. เนื่องจากถูกนายวิพุธ สุขประเสริฐ ชาวตำบลรอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด แจ้งความดำเนินคดีในข้อหามาตรา 112 ว่า เบื้องต้นนายสมบัติให้การปฏิเสธและได้รับการปล่อยตัวแล้วเมื่อเย็นวันที่ 1 ก.ค. โดยน.ส.ดวงฤดี อมรวิพุธพณิชย์ ภรรยานายสมบัติ ใช้เงินสด 3 แสนบาทประกันตัวต่อศาล และได้รับการประกันตัวชั่วคราว ทั้งนี้ นายสมบัติต้องมารายงานตัวที่สภ.เมืองร้อยเอ็ดทุก 30 วัน และรายงานศาลทหารกรุงเทพ ในคดีขัดคำสั่ง คสช.และความมั่นคงทุก 12 วัน ที่กทม.

นายสมบัติเปิดเผยว่า ตนได้รับการปล่อยตัวจากสภ.เมืองร้อยเอ็ด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 1 ก.ค. หลังมีผู้ไปแจ้งความคดีหมิ่นเบื้องสูง มีเงื่อนไขการปล่อยตัวว่าห้ามยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ห้ามยุยงปลุกปั่นประชาชนให้ละเมิดต่อกฎหมาย และห้ามออกนอกประเทศ พร้อมนัดให้ไปรายงานตัววันที่ 1 ส.ค.นี้ มั่นใจว่าไม่มีเจตนาและไม่ได้กระทำการเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

นายสมบัติกล่าวว่า ส่วนคดีที่ศาลทหารอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ แต่ไม่กังวล เพราะคดีนี้เป็นคดีการเมือง ซึ่งเกิดในช่วงบรรยากาศบ้านเมืองค่อนข้างโกลาหล จึงมีกระทบกระทั่งกันบ้าง หลังจากนี้เชื่อว่า คสช.จะผ่อนคลายเรื่องต่างๆ ลงเพื่อเข้าสู่โหมดปรองดอง แต่ไม่รู้จะมีท่าทีอย่างไรต่อกรณีของตนและผู้ที่แสดงความ ไม่เห็นด้วย หวังว่าบรรยากาศของบ้านเมืองจะดีขึ้นและเข้าสู่ภาวะปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายสมบัติถูกเจ้าหน้าที่ทหารนำตัวไปคุมขังในคดีฝ่าฝืน คำสั่ง คสช. ตามประประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดย ฝากขังที่ศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ก่อนได้รับการปล่อยตัวช่วงเย็นวันที่ 30 มิ.ย. จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองร้อยเอ็ด มารอรับนายสมบัติไปคุมตัวไว้ หลังจาก ถูกนายวิพุธ สุขประเสริฐ ชาวบ้านต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด แจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 

ถึงไทย-ขอบคุณประยุทธ์ วีระเปิดใจ ตร.แจ้งข้อหาก่อการร้าย 'วาง 1 แสน'ได้ประกัน ปปช.เข้มนักการเมือง รับ-จ่าย5แสนต้องแจ้ง บวรศักดิ์แนะวิธีปฏิรูป ให้ยึดตามแนวสมัยร.5


กลับไทย - นายวีระ สมความคิด พร้อมด้วยนางพิศอำไพ สมความคิด ภริยา เข้าขอบคุณนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.ต่างประเทศ ที่ช่วยเจรจาให้ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ ที่โรงแรมโซฟิเทล โพคีธรา กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ก่อนเดินทางกลับไทยช่วงสายวันเดียวกัน

 

 มติชนออนไลน์ :

      'บิ๊กเต่า'ชี้สิ้น ก.ค.สรุปปฏิรูป 'บวรศักดิ์'แนะยึดแนวสมัย ร.5 'จารุพงศ์'โพสต์โต้เดือดถูกถอนพาสปอร์ต 'อ๋อย'ได้ปล่อยชั่วคราว 'สีหศักดิ์'รับตัว'วีระ'กลับเมืองไทย ตร.ให้ประกันตัวคดีปิดสนามบิน เจ้าตัวลั่นไม่ขยาด

@ สีหศักดิ์แจ้งวีระเหตุได้ปล่อยตัว

      เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 09.20 น. นายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ได้รับพระราชทานอภัยโทษจากสมเด็จพระนโรดม สีหมุนี ได้เข้าขอบคุณนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.ต่างประเทศ ที่โรงแรมโซฟิเทล โพคีธรา ในกรุงพนมเปญ ก่อนที่คณะผู้แทนไทยจะเดินทางออกจากกรุงพนมเปญกลับมายังประเทศไทย โดยนายวีระได้กล่าวขอบคุณปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ขณะที่นายสีหศักดิ์ได้บอกกับนายวีระว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฝากให้ดูแล และในการหารือกับสมเด็จฯฮุน เซน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม สมเด็จฯฮุน เซนได้เล่าให้ฟังว่าเนื่องจากในโอกาสพระราชพิธีบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ จะมีขึ้นในช่วงวันเข้าพรรษาวันที่ 11-12 กรกฎาคมนี้ สมเด็จพระนโรดม สีหมุนี จึงพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวนายวีระ 

@ เผยฮุนเซนยันไม่หนุนกลุ่มต้าน

      นายสีหศักดิ์กล่าวว่า การเยือนกัมพูชาถือเป็นการเดินทางเยือนประเทศที่ 5 ในอาเซียน เป็นไปตามนโยบายของ คสช. เพื่อชี้แจงให้ต่างประเทศเข้าใจถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย และเชื่อมั่นในการดำเนินการตามโรดแมปที่จะนำประเทศไทยสู่ประชาธิปไตย การได้พบกับสมเด็จฯฮุน เซน นายกฯกัมพูชา และนายฮอ นัมฮง รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศกัมพูชา แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่กัมพูชาให้กับไทย ฝ่ายกัมพูชามีความเข้าใจและสนับสนุนแนวทางที่ไทยกำลังดำเนินการอยู่ ขณะนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญต้องเร่งพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แนบแน่น สมเด็จฯฮุน เซน ได้ยืนยันหลักการจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศเพื่อนบ้าน ไม่สนับสนุนกลุ่มต่อต้าน หรือส่งผลต่อต้านรัฐบาลของไทย ณ ขณะนี้

@ วีระลั่นยอมปล่อยคนให้ร้าย

     หลังจากนั้นนายวีระได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้รับการปล่อยตัว สุขภาพในช่วงหลังนี้ดีขึ้น พยายามรักษาสุขภาพให้ดี เพราะตั้งใจว่าจะเอาชีวิตกลับประเทศไทยให้ได้ เมื่อถามว่า กลับถึงประเทศไทยจะทำอะไรก่อน นายวีระตอบว่าไม่มั่นใจ เนื่องจากในช่วงหน้าก่อนนี้ มีคดีความตอนเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอยู่มาก ถ้ากลับถึงประเทศไทยแล้วถูกจับที่ ตม.คงไปศาลก่อน อย่างไรก็ตาม ขอความกรุณาศาล อยากกลับไปนอนบ้าน

     เมื่อถามว่า ชีวิตที่อยู่ในเรือนจำเป็นอย่างไรบ้าง นายวีระกล่าวว่า ขึ้นชื่อว่าคุกก็ลำบาก ไม่มีที่ไหนสุขสบาย เมื่อถามอีกว่า ทราบมาก่อนหรือไม่ว่าจะถูกปล่อยตัว นายวีระตอบว่า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำตัวเข้าไปในห้องขังก่อนเวลา สักพักหนึ่งก็มีผู้คุมมาบอกว่าจะปล่อยตัว ก็ยังไม่เชื่อเลย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวออกจากห้องขังจริง ถึงเชื่อว่าถูกปล่อยตัวจริง ทั้งนี้เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้ช่วยทูตทหารเข้าเยี่ยมและบอกกับตนว่า คสช.มีความพยายามหาทางช่วยเหลืออยู่ แต่ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านี้ว่าจะกลับเมื่อไร อย่างไร เมื่อถามอีกว่า มีเงื่อนไขในการปล่อยตัวด้วยหรือไม่ นายสีหศักดิ์ตอบแทนนายวีระว่า ไม่มีเงื่อนไขใดๆ จากนั้นนายวีระกล่าวเสริมอีกว่า ให้อภัยคนที่ให้ร้ายเนื่องจากยังมีหน้าที่อีกเยอะ 

@ ไม่ขยาด-อยู่เรือนจำเนื้อหอม

      เมื่อถามต่อว่า หลังจากนี้จะทำอะไรต่อไป นายวีระกล่าวว่า ยืนยันจะดูแลผลประโยชน์ของ ประเทศเหมือนเดิมอย่างที่เคยทำ โดยเฉพาะการต่อต้านคอร์รัปชั่น เมื่อถามว่า ไม่รู้สึกขยาดหรือ นายวีระกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกขยาดหรืออะไร และยังภูมิใจ ยังจะทำงานตรงนี้ต่อไปจนกว่าบ้านเมืองจะดีขึ้น และจนกว่าจะมีคนมาทำหน้าที่นี้

     จึงจะได้พักผ่อนเสียที เมื่อถามว่า ระหว่างอยู่เรือนจำทำอะไรบ้าง นายวีระกล่าวว่า พยายามทำหน้าที่ที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ ไม่เคยคิดว่าอยู่ในประเทศที่ทำร้าย ถือว่าทุกคนเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน รับชะตากรรมเดียวกัน จะเป็นนักโทษทุกคนทุกภาษา หากใครขอความช่วยเหลือ เรื่องยาหรือคำปรึกษา ก็มาหา เพราะห้องตนมียาคุณภาพดีกว่ายาโรงพยาบาลในเรือนจำ ทุกคนก็ชอบกันมาก

@ ยันไม่ถูกห้ามแสดงความเห็น

      นายวีระ กล่าวว่า ไม่ได้ตื่นเต้นที่ได้กลับประเทศไทย เพราะในชีวิตก็หวังใจว่าจะได้กลับอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่คิดว่าผลจะออกมาไว ที่ผ่านมาปลงกับชีวิตตั้งแต่เข้าไปอยู่ในเรือนจำได้ 1 เดือน ไม่ได้ถูกห้ามแสดงความคิดเห็น แต่ตั้งใจว่าจะไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการสร้างความปรองดอง หากมีโอกาสจะขอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์เพื่อขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือ ระหว่างอยู่ในเรือนจำได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจากสถานทูตไทย และผู้ช่วยทูตทหารที่แวะมาดูแลอย่างต่อเนื่อง

     นางพิศอำไพ สมความคิด ภรรยานายวีระ กล่าวว่า ต้องเดินทางไปเยี่ยมสามีทุกวันศุกร์ เป็นห่วงนายวีระเรื่องสุขภาพมากที่สุด แต่ก็เข้าใจอุดมการณ์ของนายวีระดีที่จะกลับไปทำงานปราบปรามคอร์รัปชั่น แต่ก็อยากให้ระวังตัว เพราะบางเรื่องต้องมีความเกี่ยวพันทางการเมือง

     นายปรีชา สมความคิด น้องชายนายวีระ กล่าวว่า แม่ดีใจ ใครอยู่ในความรู้สึกแบบนี้ก็ต้องดีใจ ความกดดันความทุกข์ใจได้ปลดปล่อยออกไปแล้ว ครอบครัวดีใจคนในครอบครัวได้กลับมาพร้อมหน้ากัน "ผมไปเยี่ยมคุณวีระที่กัมพูชามาตลอดต้องเวียนกันไปเยี่ยมทุกวันศุกร์ และก็ดีใจที่คุณวีระได้รับการปล่อยตัว" น้องชายนายวีระกล่าว

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานะของนักโทษไทยที่ยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกัมพูชาขณะนี้มีอยู่อีก 38 ราย เป็นชาย 20 ราย และหญิง 18 ราย เป็นนักโทษคดียาเสพติด 38 ราย คดีฆ่าคนตายและคดีฉ้อโกงอย่างละ 1 ราย 

@ ตม.รอรับตัวส่งกองปราบ

     ต่อมาเมื่อคณะของนายสีหศักดิ์เดินทางถึงห้องรับรองวีไอพี สนามบินสุวรรณภูมิ พล.ต.ต.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัตน์ ผบก.ตม.2 และ พ.ต.ต.พรต เศรษฐกร สว.ตม.2 สุวรรณภูมิ ได้มารอนายวีระอยู่แล้ว พร้อมกับแจ้งข้อหาต่อนายวีระถึงความผิดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2551 เวลา 12.00 น.

     กรณีเข้าบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และข้อหาก่อการร้าย โดยแจ้งข้อหาว่า ทำผิดฐานโฆษณาต่อบุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด อันมิใช่เป็นการกระทำตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจขืนใจเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมและประทุษร้ายแก่บุคคลทั่วไป เมื่อสั่งให้เลิกก็ไม่เลิก และเข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เข้าซ่อนตัวในอาคารโดยไม่มีสิทธิ เข้ายึดอุปกรณ์การบิน ขัดขืนคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบเรียบร้อยแก้ไขในสถานการณ์ฉุกเฉิน ปิดทางสาธารณะ และข้อหาก่อการร้าย

    หลังจากรับทราบข้อกล่าวหานายวีระไม่ได้เซ็นลงนามในเอกสาร โดยขอไปให้การในชั้นศาล พร้อมกับนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษาเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ในฐานะทนายความของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นผู้ลงนามรับทราบ และขอไปพบกลุ่มผู้สนับสนุนที่มารออยู่นอกห้องรับรองเป็นจำนวนมาก ก่อนจะเดินทางไปยังกองปราบปราม เพื่อยื่นขอประกันตัวในคดีดังกล่าวต่อไป

@ ตะโกน-เป่าหวีดลั่นสุวรรณภูมิ

     ขณะที่บรรยากาศที่บริเวณห้องรับรองพิเศษ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ นอกจากมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศมาเตรียมรับรองการเดินทางกลับประเทศไทยของนายวีระ หลังจากถูกจองจำนานกว่า 3 ปี 6 เดือน 2 วัน ยังมีกองทัพสื่อมวลชน ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงาน กองทัพธรรม นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกจับพร้อมกับนายวีระ และประชาชนจำนวนหนึ่งมารอต้อนรับด้วย กระทั่งเวลา 11.40 น. นายวีระ พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ลงลิฟต์มาถึงห้องรับรอง นายวีระมีสีหน้ายิ้มแย้มได้ยกมือสวัสดีทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับจำนวนมากในจำนวนนี้เป็นตัวแทนจากกลุ่มพันธมิตรรักชาติ กลุ่มกองทัพธรรม และกลุ่มสันติอโศก มีการถือธงชาติ เป่านกหวีด ชูป้ายและตะโกนให้กำลังใจ รวมถึงมอบดอกกุหลาบให้กับนายวีระ โดยมวลชนต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ พร้อมตะโกนว่า "วีระสู้ๆ" "วีระวีรบุรุษ" ก่อนนายวีระจะฝ่าฝูงชนขึ้นรถไปกับนายนิติธรในฐานะทนายความส่วนตัว เพื่อไปกองบังคับการกองปราบปราม เพื่อยื่นประกันตัวในคดีก่อการร้ายจากเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ สมัยการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร

@ เมียเผยวีระ ติดเชื้อราที่หลัง

    ที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อนายวีระเดินทางมาถึงสื่อมวลชนได้ถามความรู้สึก นายวีระกล่าวเพียงสั้นๆ ว่ารู้สึกดีใจที่ได้กลับประเทศไทย ส่วนเรื่องคดีความคงต้องขอปรึกษากับทางทนายความก่อน 

    ต่อมา พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ต.ท.สมเกียรติ ตันติกนกพร พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กก.2 บก.ป. ได้สอบปากคำ พร้อมกับประสานแพทย์จาก รพ.ตำรวจ เข้าตรวจร่างกายของนายวีระ พบว่ามีสภาพร่างกายสมบูรณ์เป็นปกติดี สำหรับข้อกล่าวหาคดีปิดสนามบินทั้ง 2 แห่งนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหารวม 8 ข้อกล่าวหา มีข้อหาร่วมกันก่อการร้ายเป็นข้อหาหลัก

    ด้านนางพิศอำไพกล่าวเพิ่มเติมว่า จะพานายวีระไปตรวจสุขภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากนายวีระติดเชื้อราที่แผ่นหลัง คาดว่าเกิดจากการถูกควบคุมตัวในเรือนจำมาเป็นเวลานาน ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ ทราบว่าทำอาหารรับประทานเอง เนื่องจากนายวีระทานมังสวิรัติ และทุกวันศุกร์จะบินไปกัมพูชา เพื่อไปให้กำลังใจและนำอาหารไปให้ด้วย หลังจากได้รับการปล่อยตัวอาหารมื้อแรกของนายวีระคือสลัดและข้าวผัดธัญพืช 

@ ได้ประกัน-ไปรักษารูมาตอยด์

     พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 100,000 บาท เพื่อขอประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยพนักงานสอบสวนพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวได้ มีเงื่อนไขให้นายวีระเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00 น. อย่างไรก็ตาม ทางทนายความระบุว่าจะทำคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรมอบให้พนักงานสอบสวนภายใน 60 วัน ก่อนจะสรุปสำนวนคดีนำส่งพนักงานอัยการต่อไป

    นายวีระ กล่าวอีกครั้งว่า ดีใจที่ได้เดินทางกลับประเทศไทย ขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าทางการกัมพูชาจะเปลี่ยนใจปล่อยตัว ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เคยมีการเสนอข้อแลกเปลี่ยนแลกกับอิสรภาพ 3 ครั้ง แต่รับไม่ได้ เนื่องจากเป็นกรณีที่ทำให้ประเทศเสียผลประโยชน์ การดำเนินการของฝ่ายกัมพูชาทำให้รู้สึกเสียใจไม่มากเท่ากับฝ่ายเรา

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเวลาแถลงข่าวและเดินทางกลับออกจากกองปราบมีกลุ่มมวลชนมามอบดอกกุหลาบให้กำลังใจนายวีระเป็นระยะๆ จากนั้นนายวีระขึ้นรถเดินทางไปยังสำนักสันติอโศก ซอยนวมินทร์ 46 เขตบึงกุ่ม กทม. ก่อนเดินทางกลับบ้านพักผ่อนต่อไป

@ พนิชเผยพร้อมร่วมงานวีระอีก

   นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ กล่าวว่า ยินดีที่นายวีระได้รับการปล่อยตัว หากในอนาคตจะร่วมงานกันอีกครั้ง ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือ เชื่อว่าทุกคนมองเหมือนกันว่าไม่เป็นธรรมที่นายวีระต้องไปติดคุกที่กัมพูชา คสช.และกระทรวงการต่างประเทศประสานนำตัวนายวีระออกมาได้ และมีข้อตกลงที่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย ส่วนที่นายวีระยืนยันจะทำงานตรวจสอบคอร์รัปชั่นเหมือนเดิมนั้น ไม่แปลกใจ เพราะระหว่างที่ไปรับนายวีระกลับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ยังเห็นแววตามุ่งมั่นตั้งใจของนายวีระคนเดิมเมื่อ 3 ปีก่อนในความตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นหรือเรื่องข้อพิพาทชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา

    นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรณีของนายวีระ สมความคิดนั้นได้มีการดำเนิน 2 ทางจากฝ่ายไทย คือการขอโอนตัวและขอรับพระราชทานอภัยโทษ แต่การปล่อยตัวครั้งนี้ไม่ได้เป็นการขอแลกเปลี่ยนนักโทษแต่เป็นการรับพระราชทานอภัยโทษตามปกติ และเมื่อได้รับพระราชทานอภัยโทษมาก็ไม่ต้องกลับมารับโทษต่อแต่อย่างใด ส่วนคดียึดสนามบินนายวีระเป็นผู้ต้องหาด้วยก็ยังคงถูกดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมตามปกติ

@ ราชทัณฑ์แจงโอนตัวนักโทษเขมร

   นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงการปล่อยตัวผู้ต้องขังชาวกัมพูชาตามหลักถ้อยทีถ้อยอาศัยหลังจากประเทศกัมพูชาได้พระราชทานอภัยโทษให้นายวีระ สมความคิด ถูกคุมขังในคดีจารกรรมข้อมูลและเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายว่า กรมราชทัณฑ์ได้ตรวจสอบข่าวผ่านหนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ที่ระบุว่า มีการขอโอนตัวผู้ต้องขังจำนวน 14 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำประเทศไทย เบื้องต้นพบว่าในพื้นที่จังหวัดสระแก้วมีผู้ต้องขังชาวกัมพูชา 13 ราย ถูกส่งเข้าเรือนจำในคดีปลอมแปลงเอกสาร เป็นการควบคุมตัวระหว่างการสอบสวน ล่าสุดให้เจ้าหน้าที่ไปประสานกับสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เพื่อตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนถึงจำนวนผู้ต้องขังชาวกัมพูชาที่ถูกคุมขังอยู่ในประเทศไทยว่ามีจำนวนเท่าใด ตรงกับรายชื่อผู้ต้องขังกัมพูชา 13 รายที่คุมขังอยู่ในพื้นที่จังหวัดสระแก้วหรือไม่ และผู้ต้องขังที่ระบุว่ามี 14 ราย อีกรายเป็นบุคคลใด ขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ที่ใด และยังไม่ใช่ผู้ต้องขังเด็ดขาด ดังนั้น จึงไม่เข้าเงื่อนไขการโอนตัวแต่สามารถใช้หลักทางรัฐศาสตร์ ด้วยการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งไม่ฟ้องเพื่อปล่อยตัวกลับประเทศได้ทันที

@ บิ๊กตู่ถกคสช.ชุดใหญ่ครั้งที่4

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุม คสช.ครั้งที่ 4/2557 โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ฝ่ายความมั่นคง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ฝ่ายสังคมและจิตวิทยา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ฝ่ายเศรษฐกิจ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ฝ่ายกิจการพิเศษ และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. รวมถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

     สำหรับ ประเด็นหารือที่สำคัญคือ การพิจารณาร่างธรรมนูญชั่วคราว 45 มาตรา ขณะนี้คณะทำงานยกร่างชุดของนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา คสช. ได้ส่งให้หัวหน้า คสช.แล้ว หากเห็นชอบก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อไป 

@ ปัดปล่อยวีระแลกแรงงานผิดกม.

    พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง ทีมโฆษก คสช. แถลงผลการประชุม คสช.ครั้งที่ 4/2557 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้า คสช.กล่าวก่อนการประชุม คสช. กรณีที่นายวีระ สมความคิด ได้รับการอภัยโทษปล่อยตัวว่า ถือว่าเป็นข่าวดีในการทำงานร่วมกันระหว่าง คสช. กระทรวงการต่างประเทศ และฝ่ายความมั่นคง ถือเป็นโอกาสดีที่ได้รับความเห็นใจจากสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาช่วยให้นายวีระได้กลับบ้าน เมื่อถามว่าการปล่อยตัวครั้งนี้มีเงื่อนไขว่าไทยต้องปล่อยตัวแรงงานกัมพูชาที่กระทำผิดหรือไม่ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มีเรื่องดังกล่าว

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า นอกจากนี้ ในที่ประชุม คสช. พล.อ.ประยุทธ์ได้ย้ำเกี่ยวกับเรื่องการทุจริต รวมถึงเรื่องการแอบอ้างว่า คสช.สามารถช่วยผลักดันในเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ ไม่เป็นความจริง และไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ 

เมื่อถามว่า มีตัวอย่างในเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วหรือยัง พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า เราพยายามติดตามอยู่ สังคมเองก็คาดหวังว่า คสช.จะทำหน้าที่เป็นที่พึ่งหวังของประชาชน ทำให้มีบางคนอาศัยความคาดหวังดังกล่าวไปทำมาหากิน หัวหน้า คสช.จึงเน้นย้ำเป็นพิเศษว่าจะต้องไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

@ จาตุรนต์ขึ้นศาลทหารผลัด4

ที่ศาลทหารกรมพระธรรมนูญ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เดินทางมายังศาลทหารตามนัดหมายของพนักงานสอบสวนขออำนาจศาลฝากขังผลัดที่ 4 ผลัดสุดท้าย อีก 12 วัน ตามฐานความผิดคือ ขัดคำสั่ง คสช. ไม่ไปรายงานตัว โทษจำคุก 2 ปี กระทำผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยงให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง โทษจำคุก 7 ปี และกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โทษจำคุก 5 ปี รวม 3 ข้อกล่าวหาโทษจำคุก 14 ปี นายจาตุรนต์ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่มีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ ห้ามร่วมการชุมนุมทางการเมือง ห้ามกระทำการด้วยวาจาหรือสื่อเพื่อยุยงให้ประชาชนทำผิดกฎหมาย บรรยากาศบริเวณศาลทหารก็เป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนกว่า 100 คน มามอบดอกไม้ให้กำลังใจนายจาตุรนต์ 

ที่ห้องพิจารณาคดี 3 องค์คณะตุลาการศาลทหารนั่งบัลลังก์พิจารณาคำขอฝากขังผลัดสุดท้าย 12 วัน ของพนักงานสอบสวนที่ให้เหตุผลว่ามีความจำเป็นต้องสอบพยานนักวิชาการอีก 2 ปาก ตามฐานความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต้องรอผลการตรวจสอบเว็บไซต์จากกระทรวงไอซีที และต้องรอการตรวจสอบว่ามาตรา 20 ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เป็นอำนาจของอัยการสูงสุดหรือไม่

@ ศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราว

นายจาตุรนต์ได้ขอคัดค้านคำฝากขัง โดยชี้ว่าขั้นตอนการทำสำนวนของพนักงานสอบสวนทั้งหมดไม่มีความจำเป็นต้องคุมขังตนตามที่กล่าวอ้าง อีกทั้งความผิดตามมาตรา 116 ของประมวลกฎหมายอาญา จากกรณีที่ได้แถลงข่าวยังสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ มีการนำไปเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ต่อมาจนถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เพิ่มเติมนั้น ไม่ใช่การปลุกปั่นยุยงแต่อย่างใด และเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงจะพบว่านั่นคือแนวทางการสร้างความสงบสุข 

จากนั้นศาลจึงพิเคราะห์โดยเห็นตามคำขอของพนักงานสอบสวน อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาผลัดสุดท้าย 12 วัน ระหว่างวันที่ 3 กรกฎาคม-14 กรกฎาคมนี้ แต่เนื่องด้วยผู้ต้องหาได้รับอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว จึงไม่ต้องถูกคุมขัง ให้ยืนตามสัญญาประกันและปฏิบัติตามเงื่อนไข ตุลาการยังชี้แจงกระบวนการพิจารณาของศาลทหารในขั้นต่อไปว่า เมื่อพนักงานสอบสวนทำสำนวนเสร็จสิ้น จะต้องนัดหมายนายจาตุรนต์ให้เดินทางมายังศาลทหารกรุงเทพ เพื่อส่งสำนวนและส่งตัวผู้ต้องหาต่ออัยการศาลทหารต่อไป

@ ตั้งทีมกม.สู้คดีในศาลทหาร

นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย และทนายนายจาตุรนต์ กล่าวว่า นับจากนี้ไปนายจาตุรนต์จะร่วมกับสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เพื่อตั้งทีมที่ปรึกษากฎหมายและทีมทนายความ จะพิจารณาบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งทางด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายมหาชนและกฎหมายทหาร เพื่อต่อสู้คดีนี้ให้ถึงที่สุด เนื่องจากข้อหาและฐานความผิดที่นายจาตุรนต์ถูกแจ้งนั้น มีอัตราโทษสูง ที่สำคัญที่สุดคือ นายจาตุรนต์เป็นพลเรือนต้องขึ้นศาลทหารในระหว่างการประกาศใช้กฎอัยการศึกตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก และตาม พ.ร.บ.ศาลทหาร มีการพิจารณาในศาลเดียวเท่านั้น ไม่มีอุทธรณ์ ฎีกา และถือว่าคำพิพากษาของศาลทหารคือที่สุด ดังนั้น นายจาตุรนต์จึงจำเป็นต้องตั้งที่ปรึกษาและทำงานด้านกฎหมายอย่างเต็มที่ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองต่อไป 

นายนรินท์พงศ์กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะต้องสรุปสำนวนพร้อมนัดนายจาตุรนต์ส่งไปยังอัยการศาลทหารกรุงเทพ ภายในวันที่ 14 กรกฎาคม ตามกำหนดสิ้นสุดการฝากขังนัดสุดท้าย ขอตั้งข้อสังเกตไว้ว่า การสรุปสำนวนและนัดส่งตัวผู้ต้องหาอาจเกิดขึ้นก่อนวันที่ 14 กรกฎาคม เนื่องจากวันที่ 12-13 กรกฎาคม คือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เมื่อถึงชั้นของอัยการศาลทหารแล้ว การขออนุญาตศาลปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาก็ต้องมาดำเนินการขอทำสัญญาการประกันตัวกันใหม่อีกครั้ง 

@ อ๋อยเตรียมหารือผู้เชี่ยวชาญสู้ 

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ต้องติดตามว่าพนักงานสอบสวนจะฟ้องในข้อกล่าวหาใดบ้าง และต้องซักซ้อมการชี้แจงกับทีมทนายความ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญต่อไป มีหลายคนโดนหลายคดี มีทั้งเหมือนและแตกต่างไปจากคดีของตน อีกทั้งการที่พลเรือนต้องมาขึ้นศาลทหารนั้นนับเป็นเรื่องใหม่ เคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ขณะเดียวกันก็ต้องคิดข้อเสนอเตรียมไว้ให้กับสังคม ถึงแนวทางการปรองดองและการปฏิรูปตามที่ตนเองถนัดและทำมาโดยตลอด ขณะนี้ก็มีหลายเวที คาดว่าผู้จัดก็คงต้องการความคิดเห็นที่หลากหลายเช่นกัน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการมารายงานตัวต่อศาลทหารมีประชาชนประมาณ 100 คน ที่มาร่วมให้กำลังใจนายจาตุรนต์ยังคงปักหลักรออยู่บริเวณศาลทหารจนกระทั่งกระบวนการพิจารณาเสร็จสิ้นรวมกว่า 3 ชั่วโมง พร้อมทั้งร่วมตะโกนให้กำลังใจว่า "จาตุรนต์สู้ๆ" เมื่อนายจาตุรนต์กำลังจะเดินทางกลับ

@ จารุพงศ์โต้ปมถอนพาสปอร์ต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และเลขาธิการองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย โพสต์ภาพและข้อความลายมือผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ" ว่า "คสช.สั่งถอนพาสปอร์ต พาสปอร์ตคือบัตรประจำตัวของคนไทยที่ใช้เดินทางไปต่างประเทศทุกคน การถอนพาสปอร์ต ถือว่าเป็นการถอนสิทธิความเป็นคนไทยโดยที่ คสช. ไม่มีสิทธิ"

นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) กล่าวถึงกรณีการนำตัวนายจารุพงศ์และนายจักรภพ เพ็ญแข ที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ ว่า หน่วยงานต่างๆ รับทราบแนวปฏิบัติเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กำลังประสานทำงานกันอยู่ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด ส่วนกรณีของโรส ลอนดอน หรือฉัตรวดี อมรพัฒน์ นั้น ก็ใช้กระบวนการเดียวกันที่ต้องหาช่องทางของกฎหมายว่าเป็นไปได้ 

@ กิตติพงษ์ชี้คสช.มาถูกทาง

นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ และนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปฏิบัติหน้าที่ปลัดกระทรวงยุติธรรมได้มาสักการะศาลพระพรหมที่ตึกไทยคู่ฟ้าและศาลพระภูมิประจำทำเนียบรัฐบาล หลังจากมีคำสั่ง คสช.ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ และให้นายชาญเชาวน์เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน โดยนายกิตติพงษ์กล่าวถึงความคืบหน้าในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ที่เคยทำจะเสนอ คสช.หรือไม่ นาย

กิตติพงษ์กล่าวว่า เบื้องต้นที่ดูโรดแมปของ คสช. เข้าใจว่ามีแนวทางตรงกันกับผู้ทำงานด้านการปรองดองอย่างที่เป็นอยู่แล้ว คือในช่วงแรกต้องเน้นในเรื่องปรองดอง ทางคณะที่เกี่ยวข้องพยายามให้ข้อเสนอแนะต่อ คสช.ว่า เรื่องความปรองดองนั้นมีความสำคัญ เพราะความขัดแย้งมีมาเป็นเวลายาวนาน ดังนั้น การสร้างบรรยากาศการปรองดองในเบื้องต้นจึงมีความสำคัญ การที่ คสช.เน้นจากจุดนี้ ถือว่ามาถูกทาง แต่การสร้างความปรองดองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การสร้างบรรยากาศให้คู่ขัดแย้งได้มาเจอกัน ในสภาพที่เป็นมิตร การลดเงื่อนไขกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งหรือความเกลียดชังจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่การแก้ไขที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น คสช.กำลังดำเนินการอยู่ คือพยายามทำให้ทุกฝ่ายได้มาเปิดใจและปรึกษาหารือกันถึงปัญหาที่เป็นข้อขัดข้องใจ เพื่อนำไปสู่การหาทางออกร่วมกัน ส่วนการปฏิรูป หากสามารถ

หาจุดร่วมที่เป็นความหวังร่วมกันของคนไทย ไม่ว่าจะฝ่ายใดหรือสีเสื้อใดได้นั้น การปฏิรูปก็จะเป็นทางออกในเรื่องของการปรองดองได้ในที่สุด

@ ปัดคสช.ทาบนั่งสภาปฏิรูป 

เมื่อถามว่าเครือข่ายการปฏิรูปที่นายกิตติพงษ์กำลังเดินหน้าอยู่นั้นจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ หรือจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ คสช.ฝ่ายเดียว นายกิตติพงษ์กล่าวว่า เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูปนั้นเป็นองค์กรของภาคเอกชน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาครัฐ เป็นอิสระ เป็นกลาง และเป็นเครือข่ายที่รวมตัวอย่างหลวมๆ 70 กว่าองค์กร จากภาคธุรกิจ นักวิชาการและภาคประชาคม ได้พูดคุยกันแล้วว่า เครือข่ายดังกล่าวจะเดินหน้าต่อไป เป็นอิสระจากภาครัฐ และจะช่วยรวบรวมข้อมูล และรวบรวมภาคประชาสังคม ทำให้การปฏิรูปเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ตรงประเด็นและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทำให้ภาคประชาสังคมมาช่วยและเป็นพลังให้ภาครัฐ ในอดีตได้คุยกันในเครือข่ายนั้น ความต้องการของประชาชนและการทำงานต่างๆ มีมาอยู่แล้วในอดีต แต่สิ่งที่ขาดไปคือความมุ่งมั่นของภาครัฐที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง จึงคาดหวังกับ คสช.เน้นย้ำเรื่องการปฏิรูป จะทำให้ความหวังของประชาชนเป็นจริงได้ 

เมื่อถามว่า คสช.ได้ทาบให้เข้าสู่สมาชิกสภาปฏิรูปหรือไม่ นายกิตติพงษ์กล่าวว่า ยังไม่มีการทาบทามใดๆ ทั้งสิ้น การทำหน้าที่ของตนยังสามารถทำได้ต่อไป เพราะเป็นการทำงานของภาคประชาสังคม ไม่จำเป็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาครัฐ และยังไม่มีการพูดคุยกันเรื่องตำแหน่งใดๆ ในคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า โอกาสจะมาทำงานในด้านบริหารจะเป็นไปได้หรือไม่ นายกิตติพงษ์กล่าวว่า อยากทำงานด้านปฏิรูป ริเริ่มด้านนี้มาตลอด มีเพื่อนในเครือข่ายหลายคนได้ร่วมงานกัน การจะทำอะไรในอนาคต ก็ต้องหารือกับเพื่อนในเครือข่าย และการเข้ามารับหน้าที่ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ก็หวังว่าจะมีเวลามากขึ้นที่จะมุ่งทำงานในสิ่งที่อยากทำก็คือเรื่องการปฏิรูป

@ บิ๊กเต่าชี้สิ้นก.ค.ชงแนวปฏิรูป 

ที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม มีการสัมมนาครั้งที่ 2 "การปฏิรูปประเทศไทย : การเข้าสู่อำนาจและการตรวจสอบ" โดยมี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ประธานคณะทำงานเตรียมการปฏิรูปประเทศไทย กล่าวเปิดงาน พร้อมกับมีการปาฐกถาพิเศษ โดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า 

พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวเปิดงานว่า ได้รับจดหมายจากประชาชนเสนอมากว่า 1,000 ฉบับ แยกได้ 11 ประเด็น หลังจากนั้นเชิญกลุ่มการเมืองมาเพื่อสัมภาษณ์เชิงลึก ยังมีกลุ่มการเมืองแกนนำต่างๆ ทั้งกลุ่ม นปช.และกลุ่ม กปปส.เข้าร่วม มีกลุ่มภาคธุรกิจและภาคการศึกษาก็มาร่วมกับคณะทำงานด้วย จะรวบรวมทุกความเห็นของกลุ่มต่างๆ มาเรียงลำดับแยกประเภท เพื่อจัดทำเป็นกรอบความเห็นร่วมของคนไทยทุกคน เพื่อไปสู่การปฏิรูปในสิ้นเดือนกรกฎาคม แล้วเสนอ คสช.ไปสู่สภาปฏิรูป หลังจากนั้นทางคณะทำงานเตรียมการปฏิรูปก็อาจจะทำงานควบคู่กันไปกับสภาปฏิรูป 

@ บวรศักดิ์แนะปฏิรูปยึดสมัยร.5 

นายบวรศักดิ์กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า บ้านเราประสบปัญหามาตลอดประวัติศาสตร์ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ต้องประสบกับการล่าอาณานิคม รัชกาลที่ 5 มีการปฏิรูปทุกอย่าง คือทรงปฏิรูปกำลังพล เลิกระบบไพร่ ปฏิรูปราชการ ปฏิรูปทหาร ปฏิรูปการปกครอง ผลคือไทยเป็นหนึ่งในเอเชียที่เป็นเอกราช ส่วนประเทศที่เหลือล้วนเป็นอาณานิคมทั้งสิ้น ต่อมาการปฏิรูปครั้งที่ 2 คือการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ของคณะราษฎร์ การปฏิรูปครั้งนั้นเปลี่ยนแปลงในแง่อำนาจการเมืองของกษัตริย์มาอยู่ที่ประชาชน แล้วก็มีการเลือกตั้ง จากนั้นการปฏิรูปรอบที่ 3 ไปเชื่อมกับการทหารที่มีการก่อตั้งซีอาร์โต้ ส่วนในทางเศรษฐกิจไปเชื่อมโยงกับธนาคารโลก เพื่อมากำหนดยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในสภาพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ จนบานปลายกลายเป็นความเหลื่อมล้ำอย่างมหาศาล สถานการณ์มาถึงยุคที่ 4 ปี 2517 การเมืองไม่เป็นประชาธิปไตยลุ่มๆ ดอนๆ มาถึงปี 2540 เถียงกันเรื่องรัฐธรรมนูญของประชาชน ท้ายที่สุดกลายเป็นปัญหาความขัดแย้งที่เห็นกันอยู่ นับจากปี 2550 ถึง 2557 การปฏิรูปวันนี้ต้องทำเหมือนสมัยรัชกาลที่ 5 คือหาสาเหตุแห่งปัญหา และหาทางแก้ให้ได้ว่าอะไรเป็นปัญหาความขัดแย้งเรื้อรังมาตั้งแต่ปี 2540 ถ้าหาไม่ได้แล้วมาปฏิรูปก็จะรักษาไม่ตรงจุด

@ โคทมแนะยึดโมเดลเยอรมนี 

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาสันติวิธีและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า แนวทางปฏิรูปการเมืองว่า ระบบเลือกตั้ง ส.ส. ควรใช้ระบบ Mixed-Member Proportional หรือ MMP ดังที่ใช้ในประเทศเยอรมนี ควรมี ส.ส.แบ่งเขต 300 คน แบบบัญชีรายชื่อ 200 คน ส่วนระบบวุฒิสภายังจำเป็นโดยเฉพา

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!