WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1ถกญปน




'บิ๊กตู่-อาเบะ' ถกลงทุนทวาย 
กรธ.ริบดาบสว. ไม่ ให้ถอดถอน

       'บิ๊กตู่'ถึงกัวลาลัมเปอร์ ร่วมเวทีอาเซียนซัมมิตประกาศตั้งเออีซี-ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นทางการ ประเดิมถก'ซินโซ อาเบะ' เสนอตัวร่วมลงทุนกับญี่ปุ่นในโครงการทวาย มั่นใจ เป็นยุทธศาสตร์สำคัญและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน ที่จะเป็นส่วนสำคัญช่วยผลักดันการเจริญเติบโตในภูมิภาค ด้านกรธ.ยังไม่เคาะ ที่มาส.ว.อ้างต้องฟังหลายๆ ความเห็น ตั้งแง่ถ้าให้เลือกตั้งทั้งหมดต้องทำอย่างไรถึงจะโปร่งใส ได้คนมีความรู้ มีความเป็นกลางทาง การเมือง งึมงำเลือกตั้งทางอ้อมแค่แนวทาง ที่เสนอเข้ามา ยังไม่ไช่ข้อสรุป พร้อมเล็งริบมือไม่ให้อำนาจถอดถอนนักการเมือง แต่ให้องค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช.-ศาลรัฐธรรมนูญแทน 'ยิ่งลักษณ์'ลั้ลลาถิ่นชากังราวชิมเต้าฮวย ไหว้ 'หลวงพ่อเพชร' พระพุทธรูปชื่อดัง แวะนครสวรรค์ซื้อโมจิก่อนกลับกรุง


วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9124 ข่าวสดรายวัน

ถกญี่ปุ่น- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หารือทวิภาคีกับนายชินโซ อาเบะ นายกฯ ญี่ปุ่น เรื่องการลงทุนในเขตเศรษฐกิจทวาย ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่โรงแรมเรอเนสซองซ์ กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เมื่อ 20 พ.ย.

บิ๊กตู่ถึงอาเซียนซัมมิต-ถกอาเบะ

      วันที่ 20 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่านายกฯและคณะเดินทางจากท่าอากาศยาน นานาชาตินินอย อาคีโน กรุงมะนิลา สาธารณรัฐ ฟิลิปปินส์ เวลา 18.00 น. วันที่ 19 พ.ย. หลังจากเสร็จสิ้นการเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 23 ณ กรุงมะนิลา คณะนายกฯ เดินทางต่อมาประเทศ มาเลเซีย เพื่อร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 27 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ถึงท่าอากาศยานนานาชาติกัว ลาลัมเปอร์ เวลา 21.30 น. วันที่ 19 พ.ย. และเดินทางไปยังโรงแรมเรเนซองซ์ กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งรัฐบาลมาเลเซียจัดให้เป็นโรงแรมที่พัก

    เวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่า ประเทศไทย 1 ชั่วโมง พล.อ.ประยุทธ์และนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา พร้อมคณะเดินทางออกจากโรงแรมที่พักไปยังทำเนียบเอก อัครราชทูต กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อประชุมหารือร่วมกับทีมประเทศไทยในมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบาย

     คณะที่เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ, นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์, พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายอภิชาต ชินวรรโณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ช่วยทูตทหาร 3 เหล่าทัพ หลังการประชุม นายดำรง ใคร่ครวญ เอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และภริยา เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน

     เวลา 17.00 น. พล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดพบหารือทวิภาคีกับนายชินโซ อาเบะ นายกฯญี่ปุ่น ที่โรงแรมดังกล่าว

ร่วมประกาศตั้งประชาคมอาเซียน
      พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนระหว่างวันที่ 20-22 พ.ย. ของพล.อ.ประยุทธ์ว่า การประชุม สุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 27 มีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากการรวมกันเป็นประชาคมอาเซียนจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 ธ.ค.2558 โดยการประชุมจะประกาศการจัดตั้งประชาคม อย่างเป็นทางการ รวมถึงการเตรียมเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนฉบับใหม่ (2559-2568) ซึ่งกำหนดทิศทางที่สำคัญของอาเซียนในอีก 10 ปีข้างหน้า
    สำหรับ การประชุมครั้งนี้ประกอบด้วยผู้นำจากประเทศนอกภูมิภาคที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าร่วมด้วย อาทิ ประธานาธิบดีสหรัฐ นายกรัฐมนตรีจีน นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายกรัฐมนตรีอินเดีย ตลอดจนเลขาธิการสหประชา ชาติ โดยจะย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน กับภายนอกภูมิภาค ทิศทางในอนาคตของอาเซียน พร้อมยกระดับความสัมพันธ์ประเทศคู่เจรจา 2 ประเทศ คือสหรัฐอเมริกาและนิวซีแลนด์ให้เป็นประเทศหุ้นส่วนเชิงยุทธ ศาสตร์ (Strategic Partner) ของอาเซียนด้วย

ลงนามในปฏิญญากัวลาลัมเปอร์
      พล.ต.วีรชน กล่าวว่า นายกฯให้ความสำคัญการจัดตั้งประชาคมอาเซียนภายใต้แนวคิด 'Our People, our Community, Our Vision'และยืนยันความพร้อมของไทยในการเป็นประชาคมอาเซียน โดยไทยจะปฏิบัติตามแผนงานประชาคมอาเซียนทั้งสามเสาเพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์อาเซียน ค.ศ.2025 และความสำคัญกับความร่วมมือกับภายนอกภูมิภาคมากขึ้น เพื่อร่วมรับมือกับความท้าทายต่างๆ และจะเสนอให้ใช้โอกาสการรวมตัวกันของอาเซียนสร้างบทบาทที่เข้มแข็งและอำนาจต่อรองในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น
     พล.ต.วีรชนกล่าวว่า การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 27 ผู้นำอาเซียนจะร่วมลงนามในเอกสารสำคัญ 3 ฉบับ ได้แก่ 1.ปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยการจัดตั้งประชาคมอาเซียน ค.ศ.2015 2.ปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ ว่าด้วยอาเซียน ค.ศ.2025 : มุ่งหน้าไปด้วยกัน และ 3.อนุสัญญาอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก

ตีปี๊บประชารัฐ-มั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน
    พล.ต.วีรชนกล่าวว่า นายกฯกล่าวขอบคุณทีมประเทศไทยและชี้แจงถึงการทำงานของรัฐบาลว่า วันนี้เข้ามาทำหน้าที่เพื่อให้ประเทศชาติมีเสถียรภาพ ตามแนวคิด "มั่นคง มั่นคั่ง และยั่งยืน" ซึ่งความมั่นคงถือเป็นต้นทางของการสร้างความเจริญเติบโตต่างๆ ขณะเดียวกัน รัฐและประชาชนทุกระดับต้องมีความเข้มแข็ง เพื่อให้สามารถเติบโตไปด้วยกัน คือประชารัฐ เมื่อรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศก็แก้ปัญหาเร่งด่วนที่คั่งค้าง อาทิ ปัญหาประมง ปัญหาการบิน ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปฏิรูปโครง สร้างและเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลเน้นส่งเสริมศักยภาพไทยที่มีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ อาทิ อาหาร พลังงาน การท่องเที่ยว ด้านสุขภาพ ไทยจะต้องสร้างความเข้มแข็ง โดยเฉพาะภาคการเกษตรของไทย โดยใช้หลักการเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งการส่งเสริมศักยภาพเชื่อมโยงการท่องเที่ยวไทยในภูมิภาค
    "นายกฯยืนยันว่า ทุกประเทศต้องเป็นประชาธิปไตย รวมทั้งไทย แต่จะต้องดูความเหมาะสมและบริบทภายในของแต่ละประเทศเป็นสำคัญ ซึ่งรัฐบาลได้เดินตามกรอบโรด แม็ปเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งอย่างแน่นอน"พล.ต.วีรชนกล่าว

เสนอร่วมลงทุนกับยุ่นในทวาย
     เมื่อเวลา 17.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ หารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ภายหลังการหารือ พล.ต.วีรชน เปิดเผยว่า การพบปะระหว่างพล.อ.ประยุทธ์กับนายอาเบะ นับเป็นครั้งที่ 6 ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นพัฒนาก้าวหน้าในหลายเรื่อง อาทิ เขตเศรษฐกิจ พิเศษทวาย ไทยยินดีที่ญี่ปุ่นจะเข้ามาร่วมลงทุนในนิติบุคคลเฉพาะกิจ Special Propose Vehicle อย่างเต็มตัว และทั้งสองฝ่ายพร้อมเดินหน้าทํางานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยไทยได้ย้ำว่าโครงการนี้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับญี่ปุ่น จะเป็นส่วนสำคัญช่วยผลักดันการเจริญเติบโตในภูมิภาค
    พล.ต.วีรชนกล่าวว่า ผู้นำทั้งสองเห็นว่า ไทยกับญี่ปุ่นยังสามารถร่วมมือกันอีกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบรางในเขตเมือง ดาวเทียมสํารวจโลก รวมถึงการพัฒนาบุคลากรและการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัต กรรม ส่วนเรื่องสินค้าเกษตร นายกฯได้กล่าวขอบคุณนายกฯอาเบะที่ช่วยเร่งรัดการเปิดตลาดมะม่วง 2 สายพันธุ์ให้ โดยในส่วนของไทย นายกฯรับที่จะช่วยติดตามเรื่องผ่อนปรนมาตรการนําเข้าเนื้อวัวและส้มจากญี่ปุ่นเช่นกัน

หวังสมคิดช่วยดึงนักลงทุนเข้าไทย
      พล.ต.วีรชน กล่าวว่า นายกฯได้กล่าวถึงการเดินทางเยือนญี่ปุ่นของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ย.นี้ เพื่อชี้แจงนักลงทุนญี่ปุ่นเกี่ยวกับนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัส เตอร์ ซึ่งจะมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และมุ่งเน้นพัฒนาในพื้นที่อุตสาหกรรมหลักๆ ที่มีศักยภาพ และมีนักลงทุนญี่ปุ่นลงทุนอยู่มาก เช่น แหลมฉบังและมาบตาพุด
     ทั้งนี้ นายกฯหวังว่าในการเยือนญี่ปุ่นของรองนายกฯไทยและญี่ปุ่นจะสามารถร่วมมือที่ตอบสนองผลประโยชน์ร่วมกันได้ ซึ่งทราบว่า จะมีการตั้งกลไกหารือระดับสูงด้านเศรษฐกิจ และขอสนับสนุนให้มีการหารือระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับความร่วมมือในระดับภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย-ญี่ปุ่น จะยิ่งทวีความสําคัญ และเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาภูมิภาค หลังการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในปลายปีนี้ โดยในส่วนของไทยพร้อมจะร่วมมือกับญี่ปุ่นในการเสริมสร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศสมาชิกอาเซียนสามารถก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน

'บิ๊กตู่'ชี้มีการบิดเบือนให้รับรู้ผิดๆ
     เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติว่า ทุกคนล้วนมีความตั้งใจดีที่จะช่วยกันเขียนกติกาบริหารประเทศในระยะต่อไป ไม่ว่าจะเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ขณะนี้ก็อยู่ในกระบวนขั้นตอนการร่างและนำเสนอ อยาก ให้ประชาชนลองรับฟังวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียต่างๆ และเข้าใจว่าเวลานี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน มีปัญหามากมายที่ทุกคนต้องรับรู้โดยทั่วกัน เราต้องนำไปสู่การปฏิรูปให้ได้ นำประเทศชาติ ให้ปลอดภัย การนำเสนอกฎเกณฑ์ต่างๆ รัฐบาลหรือคสช.ก็พร้อมรับฟังว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง ข้อสำคัญคือประชาชนจะยอมรับได้หรือไม่ เพราะถ้ากฎเกณฑ์ที่ร่างมาไม่มีอะไรที่จะทำให้ประเทศปลอดภัย ก็จะกลับมาเป็นแบบเดิม ความขัดแย้ง ปัญหา การเจริญเติบโต ความยากจน ทำให้ปัญหาไม่มีวันสิ้นสุด ทุกภาคส่วนต้องควรช่วยกันทบทวน
    นายกฯกล่าวว่า ไม่ใช่รัฐบาลทำอะไรก็ติดขัดทั้งหมด เพราะหลายๆ คนอาจจะไม่เข้าใจปัญหาในเชิงโครงสร้างการบริหารราช การแผ่นดินว่ามีปัญหาอยู่ตรงไหน ตนพยายาม พูดให้เข้าใจก็อดทนกันหน่อย จะได้รู้ว่าต้องแก้ปัญหาอะไรบ้าง ต้องมีกฎเกณฑ์อย่างไรที่จะเหมาะสมกับสถานการณ์ และต้องการในอนาคต เมื่อพร้อมเต็มที่แล้วก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความเป็นไปในห้วงเวลานั้นๆ สิ่งที่เป็นกังวลก็คือการสร้างการรับรู้ การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร การพูดคุยกับพี่น้องประชาชน เป็นสิ่งสำคัญ แล้วอาจมีคนไม่หวังดีมาพูดบิด เบือนอะไรต่างๆ ทำให้ความเข้าใจเหล่านั้นมันผิดเพี้ยนไป เป็นปัญหาสำคัญของรัฐบาล

ทุจริตคอร์รัปชั่น ต้องดำเนินคดี
      พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับการทำงานของทั้งกรธ. สปท. และสนช. ไม่ว่าจะเป็นแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วน ดำเนินการระยะสั้น หรือระยะยาว ที่นำไปสู่การพัฒนาและปฏิรูปประเทศต้องอยู่บนพื้นฐานของการบริหารราชการแผ่นดินที่เหมาะสมที่เรียกว่าธรรมา ภิบาล ถ้าเราร่วมมือกันในช่วงนี้แล้วตกลงกันได้ว่าจะใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านเรื่องเหล่านี้ ให้มันเกิดความยั่งยืนเกิดขึ้นในอนาคต ในการที่เราจะมีรัฐบาลต่อไป ก็จะทำให้ประเทศเรามีความก้าวหน้า ไม่วนเวียนกลับไปสู่ความขัดแย้งเดิมๆ หรือปัญหาเดิมๆ หรือการเจริญเติบโตที่ไม่เท่าเทียมกัน
    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การทำงานของข้าราชการป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน ตนจำเป็นต้องกำกับดูแลการทำงานของข้าราชการ ในการนำนโยบายรัฐบาลแปลงสู่การปฏิบัติ ระหว่างแก้ปัญหาข้าราชการต้องสามารถอธิบายได้ด้วยเหตุและผลว่าทำไมถึงต้องทำอย่างนี้ ทำแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ไม่อย่างนั้นพี่น้องประชาชนไม่เข้าใจ ความขัดแย้งลงมาข้างล่างท้ายสุดก็กลับมาที่ว่ารัฐบาลสั่งอะไรทำให้ประชาชนเดือดร้อน ดังนั้น ตนจะได้ติดตามการทำงานประเมินการทำงานของคนในทุกระดับ ข้อสำคัญคือการมีส่วนร่วมของประชาชน การทุจริตคอร์รัปชั่นต้องไม่เกิดขึ้น ต้องถูกดำเนินคดี การร่วมมือในรูปแบบของ"ประชารัฐ" ต้องการให้เกิดขึ้น ข้าราชการทุกคนต้องทำงานเชิงรุก แก้ปัญหาได้ มีวิสัยทัศน์ ต้องพัฒนาตนเอง ไม่อย่างนั้นก็จะส่งผลกระทบโดยตรงกับประชาชน ถ้าเป็นอย่างนั้นข้า ราชการก็เดือดร้อนเพราะตนต้องประเมินข้าราชการ ตั้งแต่ปลัดกระทรวงลงไป


แห่ต้อนรับ- น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตระเวนกราบไหว้พระ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จ.กำแพงเพชร ท่ามกลางชาวบ้านแห่มาต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.

สั่งขรก.ห้ามมีสินค้าเหมือนๆ กัน

     นายกฯกล่าวว่า การพัฒนาประเทศวันที่ 12 พ.ย. ตนไปที่จ.อุบลราชธานี ติดตามมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล มีโครงการมากมาย มีงบประมาณลงไปก้อนใหญ่พอสมควร คืบหน้าไปมากตามแผน แต่ยังมีปัญหาข้อขัดข้อง การทำอาชีพในครัวเรือน ชุมชนให้ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น แต่ยังเห็นหลายๆ อย่างเป็นของเดิมๆ อยากให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนด้วยมาตรการที่ส่งเสริมในเรื่องของวัสดุต้นทุน การสร้างเครือข่ายการตลาด จังหวัดเดียวกันไม่จำเป็นต้องผลิตของอย่างเดียวกัน ถ้าทำแบบเดิมก็ขายได้เท่านี้ ยิ่งทุนมากๆ ยิ่งเสียหายมาก

      "ฝากข้าราชการ เจ้าหน้าที่แล้วหวังอย่างยิ่งว่าการตรวจเยี่ยมครั้งต่อไปจะเห็นในสิ่งที่ดีขึ้น อย่างที่กำหนดนโยบายไปแล้วแต่ที่ผ่านมาอาจยังไม่รู้ ไม่เข้าใจ ก็ไม่โทษ แต่ผมพูดวันนี้แล้ว ข้าราชการต้องไปทำใหม่ ครั้งหน้าไปตรวจเยี่ยมประชาชนแต่ละพื้นที่ ถ้าร้านค้ามีสินค้าเหมือนกันทั้งหมดตนก็ไม่ค่อยแฮปปี้ ไม่ค่อยมีความสุข แต่ถ้าจะรวมกลุ่มในสินค้าที่มีศักยภาพก็ได้ คาดหวังจะเห็นเรื่องเหล่านี้โดยเร็วไม่อยากเห็นเรื่องเดิมๆ"พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า โครงการพัฒนาชุมชนของตนเองเป็นส่วนสำคัญ ภาครัฐจะเข้าไปสนับสนุนเงินทุน การอำนวยความสะดวก การประกอบการ ต้องมีโครงการก่อ สร้าง จ้างงาน ทำถนน ขุดลอกคูคลอง เจาะน้ำ บาดาลของรัฐ หรือว่าการขุดลอกของประชาชน ขุดบ่อน้ำบาดาล ขุดบ่อน้ำตื้นของประชาชนเอง และทำเกษตรอย่างเดียวไม่ได้ต้องมีอาชีพเสริม ทุกคนต้องมีหลายอาชีพ ต้องคิดใหม่ ต้องมีทั้งเกษตรกรรม ปศุสัตว์ เลี้ยงสัตว์ แล้วก็มีทั้งการค้า ทั้งการเพิ่มมูลค่า ข้อสำคัญต้องมีเกษตรอุตสาหกรรม หรืออุตสาหกรรมที่ไม่ทำให้เกิดมลพิษ อุตสาหกรรม สีเขียวนี่ต้องเกิดขึ้น ถ้าไม่เกิดขึ้นในชุมชนมันไปไม่ได้

ลั่นจะลงพื้นที่พบประชาชนมากขึ้น
    นายกฯกล่าวว่า วันนี้โลกกำลังเจริญเติบโต มหาอำนาจเป็นประเทศอุตสาหกรรม เราไม่ต้องไปถึงตรงนั้น เพราะสร้างมลภาวะมากพอสมควร อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดหนักจะมีเฉพาะในบางพื้นที่ได้ แต่อุตสาหกรรมขนาดย่อมต้องเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ เพื่อต่อยอดแล้วก็ใช้วัสดุต้นทุนที่ผลิตกันจำนวนมาก ข้าว ยาง มันสำปะหลัง จากนี้ตนจะพยายามลงพื้นที่ให้บ่อยขึ้น เพื่อพบปะเยี่ยมเยือนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน รวมทั้งติดตามการดำเนินงานของรัฐบาลในทุกพื้นที่
    นายกฯกล่าวว่า ยังไม่มีการอนุมัติการปรับขึ้นอัตราภาษี อย่าให้ใครมาบิดเบือน แต่แค่สร้างความรู้ไปก่อน วันนี้ขออย่างเดียวว่า ปี 2559 การเสียภาษีของสถานประกอบการทั้งหมดต้องเป็นไปตามอัตรา กรุณาอย่าหลีกเลี่ยง หรือทุจริตในเรื่องนี้โดยเด็ดขาด ทั้งเจ้าหน้าที่ด้วย ทั้งเอกชนมีผลการประกอบการขอให้เสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถ้าไม่อย่างนั้นจะตรวจสอบภาษีย้อนหลัง บริษัทใดก็แล้วแต่ช่วยไม่ได้ เพราะเป็นกฎหมาย ยืนยันว่าเงินภาษีที่เก็บไปจะพยายามใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุดในการพัฒนาประเทศ เพราะไม่ได้มุ่งหวังรายได้จากงบประมาณแผ่นดิน การพัฒนาทุกโครงการของรัฐบาลนี้ต้องโปร่งใสและเป็นธรรม และฝากข้าราชการหลายส่วนอาจมีความคิดเดิมๆ ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่อย่างนั้นก็เจริญเติบโตก้าวหน้าไปไม่ได้เพราะทำร้ายประเทศ

'ปู'ไหว้หลวงพ่อเพชร-พระ 700 ปี
     เมื่อเวลา 08.30 น. ที่โรงแรมชากังราว ริเวอร์วิว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะ ประกอบ ด้วย นางมณฑาทิพย์ ชินวัตร นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช นายวราเทพ รัตนากร นายเกียรติชัย ติรณศักดิ์กุล นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ นางอุดมรัตน์ อาภรณ์รัตน์ นายไผ่ ลิกค์ นายอนันต์ ผลอำนวย และนางสุณีย์ เหลืองวิจิตร เป็นต้น ได้ร่วมรับประทานอาหาร เช้า หลังจากพักค้างคืนที่โรงแรมดังกล่าว
     จากนั้นคณะทั้งหมดได้เดินทางไปที่วัดบาง อ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อสักการะพระ พุทธรูปหลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปเก่าแก่คู่เมืองกำแพงเพชร อายุกว่า 700 ปี และได้เดินทางต่อไปยังวัดพระแก้ว ภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร วัดเก่าแก่ที่เคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต โดยมีคณะนักเรียนภายใน จ.กำแพงเพชร ที่เดินทางมาทัศนศึกษาเข้าร่วมทักทาย ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ร่วมถ่ายภาพกับคณะนักเรียนระดับประถมศึกษาอย่างสนุกสนาน

ชาวกำแพงเพชรฮือรับตะโกนสู้ๆ
    หลังจากนั้นได้เดินทางไปที่บ้านพักของนายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง เพื่อเข้าเยี่ยมที่บ้านหินอ่อนไร่เรืองวิทย์ ริมแม่น้ำปิง ต.หนองปลิง อ.เมือง ก่อนแวะมากราบสักการะพระบรมธาตุ ที่วัดพระ บรมธาตุนครชุม ต.นครชุม อ.เมือง โดยมี ชาวกำแพงเพชรมาให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบ พร้อมตะโกนให้น.ส.ยิ่งลักษณ์สู้ๆ เสร็จแล้วไปชิมเต้าฮวยชากังราว ของดีขึ้นชื่อซึ่งได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าเฉาก๊วย ชากังราว และแวะรับประทานอาหารที่ร้านริมทางก่อนเข้าตัวเมือง จ.นครสวรรค์
    จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์และคณะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเขาหน่อ จ.นครสวรรค์ รวมทั้งให้อาหารลิงจำนวนมาก แล้วเดินทางมายังเทศบาลตำบลบ้านแดง อ.บรรพตพิสัย ซึ่งมีชาวบ้านที่ทราบข่าวโดยเฉพาะชาวนาได้มาพบเพื่อให้กำลังใจ รวมทั้งบอกว่าตอนนี้เป็นหนี้มากขึ้นจากเมื่อก่อน และระหว่างเดินทางกลับกรุงเทพฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้แวะหาซื้อขนมโมจิ ของดีขึ้นชื่อของ จ.นครสวรรค์ ด้วย

กรธ.ผุดสโลแกนชวนร่างรธน.
    ที่รัฐสภา นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงความคืบหน้าในการประชุม กรธ.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาสโลแกนของการร่างรัฐธรรมนูญโดยภาษาไทยใช้คำว่า "ร่วมคิด ร่วมร่าง สร้างรัฐธรรมนูญใหม่" โดยใช้ถ้อยคำเป็นภาษาอังกฤษ คือ "Thinking, Drafting and Building the new Constitution together" เพื่อเผยแพร่ต่อไป
    นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาในหมวดของศาล ศาลปกครอง ศาลทหารและศาลรัฐธรรมนูญ โดยในส่วนของศาลปกครอง และศาลทหาร ได้มีการพิจารณาหลักการ การแต่งตั้งโยกย้าย การเลื่อนเงินเดือนหรือตำแหน่ง รวมถึงการบริหารงาน บุคคล และตุลาการปกครอง ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกกำหนด ในส่วนของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรธ. ซึ่งเบื้องต้น จะให้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญในการชี้แจงข้อขัดแย้งทุกเรื่อง ดังนั้น กรธ.เห็นว่าควรจะเพิ่มคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้เข้มข้นขึ้น

ใช้องค์กรอิสระถอดนักการเมือง
    นายอมร กล่าวว่า ที่ประชุม กรธ.ยังได้พิจารณาหลักการของหมวด องค์กรอัยการ เพื่อให้มีมาตรการป้องกันไม่ให้พนักงานอัยการกระทำหรือดำรงตำแหน่งใด ซึ่งขัดต่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม หรือทำให้มีส่วนได้เสียในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะไม่เขียนล็อกเอาไว้ ว่าห้ามอัยการเข้าไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจดังเช่นรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ได้เขียนกำหนดเอาไว้ แต่ข้อห้ามดังกล่าวจะไปปรากฏอยู่ในกฎหมายลูกหรือไม่ ยังไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของอัยการที่จะไปเป็นผู้ออกแบบเพื่อให้หน่วยงานของตัวเองมีประสิทธิภาพ
    นายอมร กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังพูดถึงเรื่ององค์กรที่จะเข้ามาทำหน้าที่ถอดถอนแทนส.ว. ชัดเจนแล้วว่าจะไม่ตั้งองค์กรใหม่ แต่จะใช้กลไกที่มีอยู่เดิมในรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ ซึ่งมีอยู่หลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ และตัดสินในเรื่องคุณสมบัติของนักการเมืองที่เข้าข่ายพ้นจากตำแหน่ง โดยกรธ.จะไปกำหนดว่าคดีในลักษณะใดที่จะเข้าข่ายให้องค์กรใดเป็นผู้พิจารณาให้พ้นจากตำแหน่ง เช่น หากเป็นคดีทุจริต ก็เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. พิจารณาให้พ้นจากตำแหน่ง ถ้าเป็นคุณสมบัติ อาจให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย เป็นต้น

ตัดอำนาจส.ว.-ไม่ให้ถอดถอน
     นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรธ. ในฐานะอนุกรรมการศึกษาโครงสร้างฝ่ายนิติบัญญัติ กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุป ในประเด็นที่มา ส.ว. เนื่องจากมีการเสนอความคิดเห็นที่หลากหลาย เช่น หากกำหนดให้มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ต้องคิดต่อไปว่าทำอย่างไรที่จะให้มีความโปร่งใส และได้คนที่มีความรู้ ความสามารถและคุณวุฒิที่เป็นกลางทางการเมือง และพร้อมที่จะเสียสละ
     ส่วนข้อเสนอที่มา ส.ว. เลือกตั้งแบบทางอ้อมนั้น นายชาติชายกล่าวว่าเป็นเพียงแนว ทางหนึ่งที่เสนอเข้ามา ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน แต่จะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ เบื้องต้นเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ส.ว.จะไม่มีอำนาจถอด ถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะมีหน้าที่เพียงกลั่นกรองกฎหมาย พิจารณาเห็นชอบองค์ประกอบของคณะกรรมการในองค์กรอิสระ เข้าชื่อเสนอกฎหมาย และเข้าชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ
    ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองเสนอให้ ส.ว. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด นายชาติชายกล่าวว่า หากให้ ส.ว. มาจากการเลือกตั้ง จะมีฐานคะแนนเสียงเดียวกันกับ ส.ส. ซึ่งไม่มีความแตกต่างกัน อย่างไรก็ดีที่มาของ ส.ว. จะต้องมาด้วยความชอบธรรม แต่ไม่จำเป็นจะต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรงเสมอไป ส่วนเรื่องจำนวน ส.ว.นั้น ที่ประชุมยังไม่ได้ตกผลึก แต่รัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาได้ระบุให้มีจำนวน ส.ว.100 คน, 150 คน หรือไม่เกิน 200 คน ยืนยันว่าร่างแรกของรัฐธรรมนูญจะเสร็จตามที่กำหนด ภายในสิ้นเดือน ม.ค.59 แน่นอน และจะพยายามร่างให้มีเนื้อหาที่สั้นและกระชับที่สุด

ปปช.กังวลคดีจีทูจีไม่เสร็จ
     ที่สำนักงานป.ป.ช. สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติรับรองและให้ความเห็นชอบรายชื่อ 5 กรรมการ ป.ป.ช.ใหม่เรียบร้อยแล้วว่า จากนี้ไปต้องรอให้ขั้นตอนต่างๆ ดำเนินการให้เรียบร้อยก่อน ส่วนคดีต่างๆ ที่ยังค้างอยู่นั้น ป.ป.ช. จะพยายาม ทำทุกคดีที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ให้แล้วเสร็จตามที่ได้เคยแถลงข่าวไปแล้ว แต่หากคดีใดยังไม่เสร็จกรรมการป.ป.ช.ที่เข้ามาใหม่ต้องรับหน้าที่ต่อไป
   นายวิชา กล่าวว่ายังไม่มีการสรุปว่ามีกี่คดีที่ยังค้างอยู่แต่กรรมการป.ป.ช.ทุกคนได้พยายาม เร่งรัดในทุกคดีอยู่แล้ว คาดว่าจะแถลงรายละเอียดอีกครั้งก่อนหมดวาระว่ามีรายละเอียดในแต่ละคดีอย่างไรบ้างที่ยังคั่งค้าง อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีที่ต้องเร่งรัดมีอยู่หลายคดี เช่น เรื่องการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) รอบสองที่กำลังดำเนินการสอบ 5 บริษัทค้าข้าว และตรวจสอบแคชเชียร์เช็คอีกหลายฉบับว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไร มูลค่ากว่าพันล้านบาท เรื่องดังกล่าวมีนายประสาท พงษ์ ศิวาภัย กรรมการป.ป.ช.เป็นผู้รับผิดชอบ ทราบว่านายประสาทกำลังเป็นกังวลอยู่ เพราะอยากทำให้คดีนี้มีความชัดเจนในช่วงที่ยังปฏิบัติหน้าที่กันอยู่

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!