WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1ทอดผาปา

ปชป.ยุ'ตู่'งัดม. 44 ฟันกทม. วิลาศลากไส้ซื้อเปียโน1.3 พันล. กรธ.ลั่นยึด'เลือกอ้อม'ที่มาสว.

       'วิลาศ จันทร์พิทักษ์' แฉยิบ กทม.ชี้ส่อโกงจัดซื้อเครื่องดนตรี 1.3 พันล้าน ยุ 'บิ๊กตู่'งัดมาตรา 44 เอาผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ให้ผู้บริหารกทม.ชดใช้ค่าเสียหายเหมือนคดีจำนำข้าว โต้พัลวันจับมือ'มาร์ค' ไล่ 'ชายหมู'พ้นปชป. กรธ.ถกวันนี้ จ่อเคาะที่มาส.ว. ยึดหลักเลือกตั้งทางอ้อมจาก 20 กลุ่มสังคม 'จาตุรนต์"ซัดกรธ.วาง กับดัก เพื่อปูทางให้มีรัฐบาลนอกระบบ เชื่อประชามติไม่ผ่านแน่ อดีตส.ส.ร.'คณิน บุญสุวรรณ' ข้องใจ'มีชัย'ตัดสิทธิ์'ยิ่งลักษณ์'ข้ามรธน. ชี้ทำไม่ได้ 'อลงกรณ์'แจงปฏิทินโรดแม็ประยะที่ 2 สปท.เดินตามเป้าหมาย นัด 21-22 ธ.ค. ถกรายงานปฏิรูปชุดแรก หวังมอบเป็นของขวัญปีใหม่คนไทย คดีขอนแก่นโมเดลยังไม่มีหมายจับเพิ่ม 'บิ๊กแป๊ะ สั่งหาตัวคนปล่อยหนังสือลับ เผย 4 ซีเรีย ไม่พบโยงไอเอ

วันที่ 08 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9141 ข่าวสดรายวัน

ทอดผ้าป่า - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางมาร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี พร้อมทั้งร่วมพิธีสืบชะตา ที่วัดศรีมุงเมือง ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.


วิลาศ ยันไม่ได้ฮั้ว มาร์ค ไล่ชายหมู
     เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานคณะกรรมการป้องกันและตรวจสอบการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงการบริหารงานของกทม. เกี่ยวกับโครงการพัฒนาทักษะทางดนตรีสากลในโรงเรียนสังกัดกทม.ว่า ตนทำหน้าที่ตรวจสอบ ในฐานะอดีตประธานกมธ. เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนและครูในสังกัดกทม.มาตรวจสอบ ซึ่งไม่ได้ขัดผลประโยชน์กับใคร หรือจับมือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขับไล่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ให้พ้นจากพรรคประชาธิปัตย์
     นายวิลาศ กล่าวว่า การตรวจสอบการบริหารงานของรองผู้ว่าฯ กทม.ก่อนหน้านี้ 2 คน เป็นการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และไม่เคยบอกกล่าวหัวหน้าพรรคหรือคนในพรรคมาก่อน ซึ่งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังปรากฏข่าวว่าตนจะตรวจสอบการจัดซื้อเปียโน และอุปกรณ์ดนตรีของกทม. ได้มีการสั่งการไปยังโรงเรียนกทม. เพื่อทำความสะอาดเครื่องดนตรีที่เคยกองสุมไว้ พร้อมสั่งห้ามไม่ให้ตนและทีมงานเข้าไปถ่ายรูปอุปกรณ์ดนตรีในกทม. และที่เลวร้ายที่สุดคือสั่งให้นักเรียนถ่ายรูปขณะเล่นเปียโนและอุปกรณ์ดนตรีเพื่อมาเผยแพร่ต่อสื่อเพื่อแก้ข่าวด้วย
      นายวิลาศ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวได้ใช้งบประมาณไปแล้ว 1.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง ปี 2551-57 ในโรงเรียน 437 โรง และยังมีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพบุคลากรในการถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็กนักเรียนในกทม. ของบประมาณเพิ่มในปี 2557 อีก 114 ล้านบาท รวมทั้งยังตั้งงบประมาณผูกพันค่ารักษาดูแลอีกโรงเรียนละ 2 หมื่นบาท อีกปีละ 8.4 ล้านบาท

ชง'บิ๊กตู่'ใช้ม.44 ฟันกทม.
     นายวิลาศ กล่าวว่า การตั้งงบเพื่ออบรมครู จึงเท่ากับยอมรับว่าที่ผ่านมากทม.ไม่มีความพร้อมและไม่มีครูสอนดนตรี แล้วจะซื้ออุปกรณ์ดนตรีล่วงหน้าไปเก็บไว้ทำไม ยิ่งการจัดซื้อครั้งหลังสุดปี 2557 ใน 197 โรงเรียน มีมากถึง 69 โรงเรียนที่มีนักเรียนต่ำกว่า 200 คน บางโรงเรียนมี ป.5-ป.6 ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เล่นเครื่องดนตรีใหญ่ได้ไม่ถึง 10 คนเท่านั้น แต่กลับซื้อเครื่องดนตรีเพิ่มให้อีกเป็น 10 ชิ้น โดยไม่มีการสำรวจว่า โรงเรียนใดมีความต้องการเครื่องดนตรีแบบใด รวมถึงความพร้อมทั้งครูและห้องสอนดนตรีด้วย โดยเฉพาะเปียโน 437 หลัง ที่ใช้จริงไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ซ้ำร้ายในสัญญายังต้องจัดงบประมาณในการบำรุงดูแลรักษาอุปกรณ์ดนตรีปีละ 20,000 บาทต่อโรงเรียนทุกปี เป็นการโกงชัดๆ เพราะเครื่องดนตรีส่วนใหญ่ยังไม่ได้ใช้ แต่กลับมีอนุมัติเบิกจ่ายให้ซ่อมบำรุงไปแล้ว
     นายวิลาศ กล่าวว่า ตนมีหลักฐานโครงการดังกล่าวที่ส่อทุจริตชัดเจน และขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งตามพ.ร.บ.ความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐปี 2539 เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายทันที เหมือนกับคดีจำนำข้าว

จ่อยื่นปปช.-สตง.สอบต่อ
     นายวิลาศ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า ตนจะนำเอกสารหลักฐานการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องดนตรีสากลที่มีการล็อกสเป๊กคุณสมบัติเครื่องดนตรี ที่เอื้อประโยชน์ให้เพียง 3 บริษัท ได้เข้าเป็นคู่สัญญากับกทม. ไปยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดังนั้น ในช่วงนี้ ขอให้ผู้บริหารกทม.ออกมาชี้แจงให้หมดว่า โครงการเหล่านี้ เด็กได้ประโยชน์อย่างไร เพื่อตนจะนำคำพูดแนบเป็นหลักฐาน และขอให้ผู้บริหาร กทม.ไปให้การต่อป.ป.ช. พร้อมกับตนด้วย
      นายวิลาศ กล่าวว่า ส่วนที่ผอ.สำนักการศึกษาฯ ระบุเป็นการจัดซื้อด้วยวิธีอีอ๊อกชั่นนั้น รัฐบาลได้ยกเลิกระบบนี้ไปแล้ว เพราะมันทุจริตและมีเพียง 3 บริษัทยื่นซอง ตนอยากให้สื่อไปถ่ายห้องดนตรี จะได้ประจานกัน และให้เด็กนักเรียนช่วยเล่นให้ดู เอาเพลงง่ายๆ แค่เพลงชาติ ตนท้าเลยว่าไม่มีโรงไหนเล่นได้ อยากให้รัฐบาล ใช้มาตรา 44 กับกทม. เพื่อเป็นคดีตัวอย่างองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น (อปท.) อื่นๆ จะได้เห็นเป็นตัวอย่างเหมือนคดีจัดซื้อปุ๋ย ยา สนามฟุตซอล ยังโดนมาแล้วให้เข็ดพิษสงการทุจริต

สปท.แจงโรดแม็ประยะที่ 2
      นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) คนที่ 1 กล่าวถึงความคืบหน้าในการทำงานว่า การขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศของสปท. เป็นไปตามแผนการทำงานและโรดแม็ป ระยะที่ 2 โดยร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสปท. นัดประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญกิจการสปท. หรือวิปสปท. ในวันที่ 9 ธ.ค. และ 17 ธ.ค.นี้ เพื่อพิจารณารายงานปฏิรูปชุดแรกของกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน และกมธ.วิสามัญการขับเคลื่อนฯด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น เพื่อบรรจุเป็นวาระการประชุมสปท. วันที่ 21 และ 22 ธ.ค.นี้
     นายอลงกรณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการประสานงานรวม 3 ฝ่าย หรือวิป 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ครม. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และสปท. จะประชุมช่วงเช้า วันที่ 9 และ 16 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพิจารณาสนับสนุนการทำงานของแต่ละฝ่าย ให้สอดคล้องกับแผนและขั้นตอนการขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศของสปท. ทั้งแผนปฏิรูป 11 ด้าน และร่างพ.ร.บ.เพื่อการปฏิรูปหรือกฎหมายอื่นที่จำเป็นต่อการปฏิรูป

ถกแผนปฏิรูป-ของขวัญปีใหม่
      นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกฟันเฟืองกำลังเร่งทำงานอย่างสอดประสานกันโดยเฉพาะรายงานการปฏิรูปประเทศที่จะพิจารณาในสปท. ตั้งแต่วันที่ 21 และ 22 ธ.ค.นี้ จะเป็นคลื่นการปฏิรูประลอกแรกของสปท. ซึ่งคาดว่าจะเป็นเสมือนของขวัญปีใหม่ให้กับประเทศและประชาชนต้อนรับปีใหม่ 2559 และการเกิดประชาคมอาเซียน ตามความคาดหวังของประชาชนและนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ที่ปรารถนาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศให้เป็นรูปธรรมเร็วที่สุด

กมธ.ยันไม่ขัดแย้งกรธ.
     นายวันชัย สอนศิริ โฆษกกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สปท.กล่าวว่า การที่กมธ.ขับเคลื่อนฯด้านการเมือง เสนอแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับจำนวนส.ส. วิธีการเลือกส.ส. ที่มาของส.ว. รวมทั้งที่มาของนายกฯนั้น บางเรื่องอาจไม่ตรงกับแนวทางของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) แต่ไม่ถือว่า เป็นข้อขัดแย้งของกมธ.และกรธ. เพราะไม่ว่าจะเป็นใคร จะเสนอมาอย่างไรก็เป็นอำนาจของกรธ.จะตัดสินใจ เพราะในที่สุดรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน อยู่ที่ประชาชนจะลงมติให้ความเห็นชอบหรือไม่ อำนาจที่แท้จริงจึงอยู่ที่ประชาชน ดังนั้น ข้อเสนอของทุกฝ่าย จึงเป็นเพียงข้อประกอบการพิจารณาของกรธ.เท่านั้น ไม่ใช่เป็นข้อตัดสินชี้ขาด จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องแพ้ชนะกัน

เน้นเลือกตั้งสุจริต-ปรองดอง
     นายวันชัย กล่าวว่า แผนการขับเคลื่อนปฏิรูปด้านการเมืองที่สำคัญ ที่กมธ.จะทำให้สัมฤทธิผลในเวลาที่เหลือคือ 1.การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม ต้องปฏิรูปทั้งตัวบทกฎหมาย วิธีการและกระบวนการปฏิบัติให้ได้ผลจริงในการเลือกตั้งครั้งหน้า 2.การสร้างปรองดอง ต้องหาจุดพอดีให้เกิดขึ้น ให้ทุกฝ่ายยอมรับและก้าวเดินไปด้วยกัน เพื่อการเลือกตั้งและการปฏิรูปประเทศ 3.การสร้างวัฒนธรรมทางการเมือง ปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนตื่นตัว มีส่วนร่วมทางการเมือง มีส่วนควบคุมการเลือกตั้งและสอดส่องดูแล
    นายวันชัย กล่าวว่า ทั้ง 3 เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการเมืองให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หากดำเนินการได้จนสัมฤทธิผลเชื่อว่าการเมืองต้องเปลี่ยนไปในแนวทางที่ดีได้แน่นอน และการปฏิวัติรัฐประหารก็ไม่ล้มเหลว อย่างไรก็ตาม เมื่อกมธ.มีข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว จะเสนอไปยังคสช. และรัฐบาลต่อไป

กรธ.เคาะที่มาสว.-ยึดเลือกทางอ้อม
       นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรธ. กล่าวถึงการคืบหน้าการร่างรัฐธรรมนูญว่า ในการประชุมกรธ. วันที่ 8 ธ.ค.นี้ มีวาระการพิจารณาเรื่องที่มาส.ว. ซึ่งค้างมาจากการประชุมกรธ.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลักการต่างๆ กรธ.จะยังคงไว้ตามเดิม คือการให้ส.ว.มาจากการเลือกตั้งทางอ้อม โดยจะพิจารณาในรายละเอียดเกี่ยวกับการรับสมัครและการลงคะแนนเลือกกันเองของผู้สมัครว่าจะให้ใครเป็นส.ว.
     นายอุดม กล่าวว่า ส่วนการสมัครส.ว.นั้น กรธ.จะให้มีที่มาจากกลุ่มทางสังคม 20 กลุ่มเหมือนเดิม ซึ่งจะเป็นการสมัครตั้งแต่ระดับอำเภอจังหวัด และส่วนกลางขึ้นมา ทั้งนี้ การสมัครระดับอำเภอนั้น ทางกรธ.จะไม่บังคับว่า ในแต่ละพื้นที่จะต้องได้ผู้สมัครครบ 20 กลุ่ม เพราะบางพื้นที่อาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับตัวผู้สมัครที่ส่งผลให้ไม่ได้ผู้สมัครครบ 20 กลุ่ม จึงเห็นว่าควรปล่อยตามสภาพของแต่ละพื้นที่
     เมื่อถามว่า กรธ.มีการพูดถึงอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภาในระหว่างที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎรหรือยุบสภาหรือไม่ เนื่องจากก่อนทำรัฐประหารปี 2557 มีความพยายามของกลุ่มการเมืองที่ต้องการให้วุฒิสภาทำหน้าที่เลือกนายกฯ นายอุดม กล่าวว่า กรธ.ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว เพราะส่วนใหญ่เห็นว่าน่าจะให้องค์กรอื่นทำหน้าที่แก้ไขปัญหาสุญญากาศทางการเมืองแทน โดยกรธ.หารือกันแค่ว่า ระหว่างที่ไม่มีสภานั้น วุฒิสภาจะไม่สามารถพิจารณากฎหมายได้ แต่จะมีอำนาจแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรม นูญ ซึ่งเป็นหลักการเดิมที่รัฐธรรมนูญในอดีตวางไว้

พท.จี้กรธ.ยึดมาตรฐานสากล
       นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการร่างรัฐธรรมนูญว่า หากกรธ. เป็นห่วงอนาคตและอยากให้รัฐธรรมนูญใช้ไปถึงลูกหลานก็ต้องร่างให้ดี มีมาตรฐานและเหตุผลรองรับ แต่มีหลายประเด็นที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วย และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในอนาคต เช่น เรื่องนายกฯที่ไม่มาจากส.ส. วุฒิสภาที่ประชาชนไม่ได้เลือกโดยตรง เพราะเรากำลังให้ผู้ที่จะเข้ามาใช้อำนาจทางการเมืองไม่ผ่านการคัดกรองโดยประชาชนและยึดโยงกับประชาชน จะทำให้การพัฒนาประชาธิปไตยลดน้อยลง ยิ่งกรธ.บอกว่าไม่มีคนใช้ปืนจี้หัวในการร่าง กรธ.ก็ควรใช้โอกาสนี้เขียนรัฐธรรมนูญ ให้เป็นฉบับประวัติศาสตร์ แต่แทนที่กรธ.จะดูมาตรฐานสากล แต่เน้นบริบทประเทศไทยและเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ปัญหาแบบไทยๆ มากเกินไป ในทำนองตัดเท้าให้เข้ากับรองเท้า

ค้านให้อำนาจศาลรธน.ผ่าทางตัน
    นายนพดล กล่าวว่า ส่วนประเด็นทางตันทางการเมืองนั้น กรธ.ควรใช้เวลาสร้างกลไกป้องกันไม่ให้มีทางตัน มากกว่าจะคิดตั้งหรือมอบอำนาจให้ใครเป็นองค์กรผ่าทางตัน เพราะที่ผ่านมาทางตันเกิดจากน้ำมือมนุษย์ ถ้าเราเล่นตามกติกาและบังคับใช้กติกาอย่างเด็ดขาดและเป็นธรรม กลไกที่มีอยู่แล้วนั้นมีมากพอจะทำให้การบริหารประเทศและการตรวจสอบเดินหน้าไปได้ ไม่ว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ การยุบสภา การถอดถอนออกจากตำแหน่ง การฟ้องคดีต่อศาล แต่ปัญหาที่ผ่านมา ไม่ใช่เราไม่มีกฎหมาย แต่การบังคับใช้กฎหมายเราอ่อนแอ และคนบางกลุ่มเชื่อว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรมในการบังคับใช้กฎหมาย นี่คือปัญหาใหญ่ที่กรธ.ควรให้ความสำคัญ
      "เราต้องหยุดฝากความหวังกับกลไกคล้ายยาขนานวิเศษที่จะแก้ปัญหาทางการเมืองและผ่าทางตันได้ตลอด การพยายามเขียนรัฐธรรมนูญให้องค์กรใดมีอำนาจมากเกินไปเป็นเรื่องน่ากังวล ว่าเราจะตรวจสอบการใช้อำนาจขององค์กรนั้นอย่างไร รัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุด ดังนั้น หลักสากลคือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญต้องใช้อำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญและไม่บัญญัติรัฐธรรมนูญขึ้นเอง ทางตันทางการเมืองจะไม่เกิดขึ้นถ้ากฎหมู่ไม่อยู่เหนือกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมายเด็ดขาด เป็นธรรม และเท่าเทียมภายใต้หลักนิติธรรม"นาย นพดลกล่าว

ซัดวางกับดักตั้งรบ.นอกระบบ
     นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีตรมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงแนวทางกรธ.ใช้ศาลรัฐธรรมนูญผ่านทางตัน แทนการมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ(คปป.) ว่า กรธ.อาจเห็นว่า คปป.เป็นสาเหตุสำคัญทำให้ร่างรัฐธรรมนูญของกมธ.ยกร่างฯ ถูกคว่ำมาแล้ว แต่เพื่อให้แนวทางของสปช.และสปท.ถูกนำไปใช้ กรธ.ก็สร้างกับดักไว้ ทั้งความคิดให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหาทางออกเมื่อวิกฤต ให้อำนาจถอดถอน การกำหนด เสียงของผู้สมัครหากน้อยกว่าเสียงโหวตโน จะไม่มีส.ส.ในเขตนั้น และไม่สามารถ คำนวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อได้ รวมถึงถ้ามีขัดขวางหรือบอยคอตเลือกตั้ง หรือการเลือกตั้งเกิดขึ้นไม่ได้ กลายเป็นการสร้างเงื่อนไขสู่วิกฤตเอง
      นายจาตุรนต์ กล่าวว่า แค่กติกาเหล่านี้ก็เห็นปัญหาใหญ่แล้ว ถ้าไปถึงขั้นตอนกำหนดรายละเอียด ไม่รู้ว่าจะเลวร้ายถึงขั้นไหน หนีไม่พ้นความต้องการให้มีรัฐบาลที่มาจากอำนาจนอกระบบ ที่มาจากกับดัก ทั้งการกำหนดส.ว.มาจากการลากตั้ง ยกอำนาจไปให้องค์กรที่ไม่มีความเชื่อมโยงกับประชาชน ส่วนใหญ่เป็นองค์กรอิสระที่ได้รับการแต่งตั้งจากคสช. ศาลรัฐธรรมนูญ ใช้ระบบการเลือกตั้งให้มีบัตรใบเดียว เลือกทั้งคนและพรรค ซึ่งบิดเบือนเจตนารมณ์ประชาชน ที่สำคัญกำหนดให้พรรคเสนอชื่อคนที่จะเป็นนายกฯ โดยมีเจตนาเปิดทางให้คนนอกเป็นนายกฯ มากกว่า

'อ๋อย'เชื่อไม่ผ่านประชามติ
     นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ส่วนการจะให้ส.ส.เป็นรัฐมนตรีได้ เหมือนให้อำนาจผู้ที่มาจากการเลือกตั้งมากขึ้น แต่อำนาจที่แท้จริงกลับไปอยู่ที่องค์กรอิสระ ส.ว.ลากตั้ง และศาลรัฐธรรมนูญ คงต้องดูในภาพรวมว่า กรธ.ต้องการอะไรแน่ แต่เจตนาจริงๆ คือต้องการให้คนนอกมาเป็นนายกฯ
     นายจาตุรนต์ กล่าวว่า โดยรวมแล้ว การเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญแบบนี้ พรรคนักการเมือง ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ ต่อให้ตั้งรัฐบาล ได้ก็ไม่สามารถอยู่ได้ หากไม่ถูกใจศาลรัฐธรรมนูญ สร้างรัฐธรรมนูญแบบนี้ไม่น่าผ่านประชามติ และประชาชนก็ไม่ควรให้ร่างนี้ผ่านมาใช้ คนที่อยากเห็นบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ต้องช่วยกันบอกคนในสังคมว่าถ้ารัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย การเลือกตั้งก็ไม่มีความหมาย ก็อย่าเลือกดีกว่า ไม่ต้องให้ผ่านการลงประชามติ และต้อง ช่วยคิดต่อว่าทำอย่างไรให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย การเลือกตั้งที่มีความหมายโดยเร็ว

คณิน ข้องใจมีชัย ตัดสิทธิ์ข้ามรธน.
      นายคณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2540 กล่าวถึงกรณีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ระบุ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หมดสิทธิ์สมัครส.ส. เนื่องจากเคยถูกถอดถอนโดยสนช.และ ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปีว่า ขอถาม นายมีชัย ซึ่งเป็นครูสอนกฎหมายระดับปรมาจารย์ 2 ข้อ 1.การเขียนกฎหมายเพื่อ ใช้บังคับกับกรณีใดกรณีหนึ่งหรือกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจง ทำได้หรือไม่ 2.การเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อเอาผิดหรือรอนสิทธิของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการย้อนหลังในลักษณะข้ามรัฐธรรมนูญทำได้หรือไม่
    นายคณิน กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 2554 ที่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์แถลงนโยบายต่อรัฐสภา จนถึงวันที่รัฐธรรมนูญปี 2550 ถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ถือว่าการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับความคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ทุกประการ และระหว่างนั้นไม่เคยมีการดำเนินการตาม ขั้นตอน วิธีการและกระบวนการที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2550 จนเป็นที่สิ้นสุดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดในข้อหาทุจริต หรือปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต และด้วยเหตุนั้น จนถึงวันที่ 22 พ.ค. 2557 น.ส.ยิ่งลักษณ์จึงไม่เคยถูกอัยการสูงสุดฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่สำคัญไม่เคยถูกถอดถอนโดยวุฒิสภา ซึ่งจะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

ฉะห้า'ปู'สมัครสส.ทำไม่ได้
      นายคณิน กล่าวว่า สรุปคือภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2550 น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เคยทำอะไรผิด แล้วจะมามีความผิดเมื่อรัฐธรรมนูญปี 2550 ถูกยกเลิกไปแล้วได้อย่างไร ต้องไม่ลืมว่าองค์กรที่ลงมติถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่วุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญปี 2550 แต่เป็น สนช.ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 แม้จะกำหนดให้สนช.ทำหน้าที่วุฒิสภา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้ สนช.มีอำนาจจัดการในสิ่งที่ไม่ได้เกิดภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และสนช.ชุดนี้ ยังได้รับการแต่งตั้งโดยหัวหน้าคสช. ซึ่งโค่นล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ หมายความว่าวันที่ถูก สนช.ลงมติถอดถอนนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีตำแหน่งแล้ว ดังนั้น การลงมติถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ของสนช. จึงถอดถอนข้ามรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่น่าจะมีสภาพบังคับใดๆ และไม่มีที่ไหนเขาทำกัน
     อดีตส.ส.ร.กล่าวว่า การที่นายมีชัยระบุว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีสิทธิสมัครส.ส. ตามรัฐธรรมนูญใหม่ เพราะถูกถอดถอนโดยสนช. จึงเป็นการตีความไปเองว่าน.ส. ยิ่งลักษณ์ถูกถอดถอนโดยวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญปี 2550 การตีความไปเองนั้นใครๆ ก็ทำได้ แต่ถ้าจะเอามาบัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ย่อมไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะจะเข้าข่ายเขียนกฎหมายเพื่อใช้บังคับกับกรณีใดกรณีหนึ่ง หรือกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยเฉพาะเจาะจง หรืออีกนัยหนึ่ง เป็นการตัดสิทธิข้ามรัฐธรรมนูญ

ชี้หวังผลตีปลาหน้าไซ
     นายคณิน กล่าวว่า การที่นายมีชัยหยิบยกเรื่องน.ส.ยิ่งลักษณ์หมดสิทธิสมัครส.ส. มาพูดถึงในช่วงนี้น่าจะเป็นการตีปลาหน้าไซมากกว่า เพราะที่สุดแล้ว เชื่อว่าคงมีแผนโยนเรื่องนี้ไปให้กกต.และศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งไม่ต้องคาดเดาว่าผลจะเป็นอย่างไร เพราะทั้งกกต.และศาลรัฐธรรมนูญ ยังคงเป็นชุดเดิมที่เคยสร้างวีรกรรมตรรกวิบัติเอาไว้มาก ก่อนที่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะถูกยึดอำนาจ ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เขียนให้ชัดเลยว่า ห้ามน.ส.ยิ่งลักษณ์สมัครรับเลือกตั้ง จะได้สะใจกันไปเลย กรธ.กล้าๆ หน่อย

'ปู'นำคณะทำบุญสืบชะตา
      เวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมคณะ ประมาณ 50 คน ได้เดินทางมาที่วัดศรีมุงเมือง ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เพื่อทำบุญทอดผ้าป่าและสืบชะตา หลังจากเสร็จพิธีเวลา 12.00 น. ร่วมรับประทานอาหารกับคณะ ในบริเวณศาลาวัดศรีมุงเมือง มีผู้ร่วมทำบุญประมาณ 150 คน

'บิ๊กแป๊ะ'สั่งสอบหนังสือลับ-หลุด
      ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกตร. กล่าวถึงกรณีมีการเผยแพร่หนังสือลับทางราชการ เรื่องการเฝ้าระวังและตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย ที่คาดว่าเป็นกลุ่มสมาชิกก่อการร้ายไอเอส ที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ว่า พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีหนังสือสั่งการให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบว่าเอกสารดังกล่าวมีการนำออกมาเผยได้อย่างไร อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบกับวันนี้เป็นวันหยุดราชการ จึงไม่สามารถตรวจสอบเอกสารได้ ต้องรอในวันที่ 8 ธ.ค. ส่วนกรอบเวลาการตรวจสอบไม่แน่ชัดว่า ผบ.ตร.กำหนดกรอบไว้กี่วัน
     โฆษกตร. กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีการโพสต์ภาพผู้ต้องสงสัยชาวซีเรีย 4 คน ที่ระบุว่าอยู่เกินกำหนดการขอวีซ่า และมีการเผยแพร่ภาพและหน้าหนังสือเดินทาง เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก็มีการเข้ามาแสดงตัวที่ สน.ลุมพินี และอีกคนแสดงตัวที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งพบว่ามีเพียงคนเดียวอยู่เกินกำหนด ซึ่งอยู่ระหว่างควบคุมตัว ส่วนอีก 2 คนอยู่ระหว่างทำเรื่องขออยู่ต่อในราชอาณาจักร จากการตรวจสอบ ยืนยันในขณะนี้ได้ว่าทั้ง 4 ราย ยังไม่พบความเกี่ยวข้องกับไอเอส

เผยชายซีเรียอยู่เกินวีซ่าแค่คนเดียว
      ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยถึงการควบคุมตัวชาวซีเรีย ผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย ไอเอส ทั้ง 4 รายว่า เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ควบคุมชายชาวซีเรีย 3 รายได้ในกรุงเทพฯ คือ 1.นายนาว์เฟล ฮัซซัน อายุ 34 ปี ซึ่งเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจหลังมีภาพปรากฏในสื่อ 2.นายอับดุล อาซิซ อรุค อายุ 44 ปี อาชีพนักร้อง ซึ่งถูกตำรวจ สน.ลุมพินีเชิญตัวมาให้ข้อมูล และ 3.นายมูอยาด เฮยาติ อายุ 29 ปี ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.ลุมพินี พบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวบการก่อการร้าย และช่วงเย็นทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุม นายฮาก็อป แกสสาเบียน อายุ 57 ปี ได้ที่จ.ชัยภูมิ จากการสอบปากคำก็พบว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอสเช่นกัน
    พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ตรวจสอบพบว่าชายชาวซีเรียแค่เพียงคนเดียว คือ นายอับดุล อาซิซ อรุค ที่มีความผิดฐานพักอาศัยอยู่ในประเทศเกินกำหนดเวลา (over stay) อยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนนายนาว์เฟล ฮัซซันกับนายมูอยาด เฮยาติ ถูกดำเนินคดีข้อหาหลบหนีเข้าเมือง อย่างไรก็ตาม นายฮาก็อป ได้แจ้งความดำเนินคดีผู้ที่นำภาพหนังสือเดินทางและเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมระบุเป็นบุคคลต้องสงสัยสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายฐานหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง นอกจากนี้ บช.ก. ได้ประสานกับตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) ตรวจสอบชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เข้ามาก่อเหตุร้าย

เตือนอย่าตกเป็นเครื่องมือผู้ไม่หวังดี
       พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 รองโฆษกตร. กล่าวว่า ชายชาวซีเรียทั้ง 4 คนที่ถูกควบคุมตัวนั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อให้เกิดความกระจ่างและชัดเจนว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย ส่วนกรณีการตรวจสอบหนังสือราชการลับของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) เรื่อง เฝ้าระวังและตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นกลุ่มสมาชิกก่อการร้ายไอเอส เดินทางเข้ามาในไทย ว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบของพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ส่วนจะดำเนินคดีกับบุคคลที่นำเอกสารดังกล่าวออกมาเผยแพร่หรือไม่นั้น ต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีเจตนาสร้างความตื่นตระหนกตกใจหรือไม่ อยากฝากถึงสื่อมวลชนรวมทั้งประชาชนผู้รับข่าวสารว่าอย่าตื่นตระหนกและอย่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี

คดีขอนแก่นยังไม่มีหมายจับเพิ่ม
     พล.ต.ต.ทรงพลกล่าวถึงความคืบหน้าคดีขอนแก่นโมเดลว่า ขณะนี้ยังไม่ได้จับกุม ผู้ต้องหาเพิ่ม และไม่มีการออกหมายจับเพิ่ม อยู่ระหว่างเร่งสรุปสำนวน ส่วนเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ทางกระทรวงยุติธรรมส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบปากคำ นายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม ที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดขอนแก่น และ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีขอนแก่นโมเดลด้วยนั้น เบื้องต้นตนยังไม่ได้รับรายงานความ คืบหน้าใดๆ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!