WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1อทยานราชภกด


กสม.จี้รัฐบาล เปิดที่ขังนศ. ต๊อกรับตู่ สั่งรูดซิป ราชภักดิ์

      กสม.จี้เปิดเผยที่คุมขัง'ธเนตร'น.ศ.ที่ถูกจับกุม-คดีแผนผังอุทยานราชภักดิ์ แนะให้ญาติเข้าเยี่ยมตามกม.ด้วย อีกทั้งน.ศ.ยังอยู่ระหว่างรักษาตัวควรได้รับการดูแลต่อเนื่อง โดยกสม.จะติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งพิจารณาข้อเรียกร้องให้ขึ้นศาลพลเรือนแทนศาลทหาร ขณะที่ศาลอาญายกคำร้องขอปล่อยตัวน.ศ. ด้านโฆษกคสช.โต้จับน.ศ.หวังกลบ ราชภักดิ์ ส่วนบิ๊กป้อมปัดต้องเคลียร์ต๊อก-โด่ง ย้ำไม่มีปัญหากัน เผยเร่งสอบขยายผลถึงแกนนำโพสต์แผนผัง ด้าน 'ไพบูลย์'รับบิ๊กตู่สั่งรูดซิป ย้ำคำให้สัมภาษณ์เดิม-พร้อมรับผิดชอบคำพูด

วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9149 ข่าวสดรายวัน

'ป้อม'ปัดต้องเคลียร์ต๊อก-โด่ง

     เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการตรวจสอบอุทยานราช ภักดิ์ รวมถึงการเคลียร์ปัญหาระหว่างพล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กับพล.อ. อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ว่าไม่ต้องเคลียร์ ไม่มีปัญหา เขาไม่ได้หมายถึงโครงการ แต่หมายถึงใครข้างล่างที่เกี่ยวข้อง ไม่เกี่ยวกับพล.อ.อุดมเดช บก.ทบ.ได้ตรวจสอบแล้วว่าไม่มีการทุจริตในโครงการ ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้องหรือไม่ กำลังดำเนินการสอบอยู่ เขาไม่ได้บอกว่าคนไหนผิดคนไหนถูก แต่กำลังตรวจสอบว่ามีข้อเท็จจริงตรงไหนบ้าง

     เมื่อถามว่าได้ขอให้พล.อ.ไพบูลย์ งดให้สัมภาษณ์เรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี ระดับรัฐมนตรีไปสั่งเขาได้หรือ ไม่ได้

      เมื่อถามว่ากลุ่มการเมืองมองว่ากองทัพและคสช.เอาเรื่องสถาบันมาเป็นเกราะป้องกันการตรวจสอบ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ใช่ เมื่อไม่ใช่จะให้ตนชี้แจงอะไร เอาของผิดมาถามตนก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร ในเมื่อเราไม่ได้ทำอย่างนั้น

เมื่อถามถึงกรณีโพสต์แผนผังอุทยานราช ภักดิ์ จะจับกุมผู้กระทำความผิดในระดับแกนนำหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ต้องดำเนินคดีอยู่แล้ว ขณะนี้กำลังดำเนินการสอบอยู่

เมื่อถามว่ามีฝ่ายการเมืองอยู่เบื้องหลัง หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จำไม่ได้ ไม่อยากพาดพิงใคร

    เมื่อถามถึงผู้ที่กดไลก์ภาพหรือข้อความบนเฟซบุ๊กที่เกี่ยวกับแผนผังซึ่งจะมีความ ผิด พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขารู้อยู่แล้วว่ามีกฎหมาย คนที่เล่นอะไรเหล่านี้เขารู้อยู่แล้ว ก็ต้องระวัง

'ไพบูลย์'รับบิ๊กตู่สั่งรูดซิป

    ด้านพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร กล่าวถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้ออกมาชี้แจงรายละเอียดการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า รอให้คณะกรรมการที่ตรวจสอบชี้แจงก่อน เมื่อถามย้ำว่าถ้าคณะกรรมการชี้แจงไม่ละเอียด พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ให้เขาชี้แจงก่อนแล้วค่อยดูอีกที 

     ขณะที่พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา กล่าวถึงการเคลียร์ใจกับพล.อ.อุดมเดช ในประเด็นตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ว่า ไม่มีการพูดคุยในที่ประชุมครม. ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับรัฐบาล บอกไปแล้วว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์หรือตอบเรื่องนี้แล้ว

     ผู้สื่อข่าวถามว่าแม้จะมีผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการออกมาแล้ว แต่สังคมยังต้องการฟังคำชี้แจงที่ชัดเจน พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า นายกฯไม่ต้องการให้พูดเรื่องดังกล่าว รอให้เป็นไปตามขั้นตอน แต่อยากจะพูดว่าเรื่องนี้ให้ไปอ่านที่ตนให้สัมภาษณ์ว่าจะรับผิดชอบที่ให้สัมภาษณ์ทั้งหมด อีกทั้งเข้าใจว่าสื่อไปเขียนว่าตนไปกล่าวหาว่าสื่อลงผิดพลาดในทำนองนี้ ทั้งที่ความจริงมีคนถามเรื่องนี้ แต่ตนไม่ได้พูดอะไร แต่สิ่งที่ออกมากลายเป็นว่าตนปฏิเสธและไปกล่าวหาสื่อว่าเข้าใจและเขียนผิด

    เมื่อถามว่า การให้สัมภาษณ์เคยระบุเรื่องนี้ต้องมีคนผิดแน่นอน รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า ไม่ได้ตอบอะไร แต่วันรุ่งขึ้นมีข่าวว่าตนไม่รับผิดชอบการพูด โดยที่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์แบบนั้น แต่เป็นการผูกกันในหลายเรื่อง ที่ผ่านมารับราชการทหารและมีผู้บังคับบัญชาและคนในกองทัพรู้จักดีว่าเป็นคนอย่างไร แม้จะไม่สามารถไปประเมินตัวเองได้ แต่ในสังคมรู้ว่าเป็นอย่างไร

    ต่อข้อถามว่ามีโอกาสคุยกับพล.อ.อุดมเดชหรือไม่ รมว.ยุติธรรม ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าวและเดินขึ้นรถทันที

คสช.โต้จับน.ศ.กลบราชภักดิ์

      ที่บก.ทบ. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. กล่าวถึงการจับกุม 2 ผู้ต้องหาเผยแพร่แผนผังอุทยานราชภักดิ์ว่า เจ้าหน้าที่มองว่าไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นอย่างบริสุทธิ์ใจ มีลักษณะเข้าข่ายเจตนาเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จเชิงปรักปรำ เพื่อให้ร้ายบุคคลอื่นมากกว่า ความต้องการพื้นฐานในการอยากรู้ เพื่อไขข้อสงสัยที่ดูต่างจากคนอื่นทั่วไป ถือเป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่นเช่นกัน ขณะที่ล่าสุดยังไม่ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานไหนว่ามีเรื่องทุจริต จึงควรระมัดระวังการใช้ถ้อยคำ

      พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า การดำเนินคดีกับ ผู้ถูกกล่าวหา 2 คนล่าสุดนั้น เกิดจากเจ้าหน้าที่พบหลักฐานว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนใช้การสื่อสารทางโซเชี่ยลมีเดียในลักษณะผิดกฎหมาย ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ด้วยการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ มีผลทำให้บุคคลอื่นเสียหาย สำหรับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 กับมาตรา 112 ของผู้ต้องหาคนแรกนั้น พบเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ระยะหนึ่งแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงที่ทั้งสองมาเกี่ยวข้องเรื่องแผนผังอุทยานฯ แม้พฤติกรรมในอดีตผู้ต้องหามีประวัติเคยเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองมาเมื่อปี 2553 รวมทั้งเคยเข้าร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มนักศึกษาที่ต้องการเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ด้วยก็ตาม พฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้ถูกนำมาเชื่อมโยงกับข้อกล่าวหาครั้งนี้

      พ.อ.วินธัยกล่าวว่า มีบางกลุ่มเรียกร้องให้ คสช.และทหารเลิกนำเรื่องความมั่นคงของชาติและสถาบันมาเป็นเกราะ เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบนั้น เป็นเพียงข้ออ้างหวังสร้างกระแสทำลายความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการทำความผิดส่วนบุคคลตามข้อเท็จจริง ไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบโครงการ เพราะระบบการตรวจสอบยังคงดำเนินต่อเป็นปกติจากหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย ไม่มีอะไรเชื่อมโยงกันอย่างที่คนบางกลุ่มพยายามบิดเบือน

กสม.จี้เปิดสถานที่ขังผู้ต้องหา

     ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กทม. นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวภายหลังการร่วมงานวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธันวาคม ประจำปี 2558 ถึงกรณีการควบคุมตัวผู้ถูกจับและขังที่กระทำผิดมาตรา 112 และ 116 ว่าจากเหตุการณ์จับกุมตัวนายฐนกร ศิริไพบูลย์ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. และนายธเนตร อนันตวงษ์ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ต่อมาวันที่ 14 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายฐนกรไปฝากขังต่อศาลที่มีเขตอำนาจ ปัจจุบันนายฐนกรถูกคุมขังอยู่ที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนนายธเนตรยังไม่ปรากฏว่ามีการควบคุมตัวไว้ที่ใด กสม.ได้ติดตามทั้ง 2 เหตุการณ์อย่างใกล้ชิด และเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของบุคคล กสม.จึงขอให้การควบคุมหรือคุมขังสมควรเปิดเผยสถานที่ถูกควบคุมหรือขัง พร้อมแจ้งกับญาติของผู้ถูกควบคุมหรือขังโดยไม่ชักช้า เพื่อให้ญาติสามารถเข้าเยี่ยมได้ตามเวลาที่เหมาะสม ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2554 ข้อ 4 ซึ่งเป็น กติการะหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับที่ประไทยลงนามไว้

      นายวัส กล่าวต่อว่า กรณีผู้ถูกควบคุมตัวอยู่ระหว่างการรักษาพยาบาล ต้องมีหลักประกันว่าบุคคลนั้นจะได้รับการรักษาโรคอย่างต่อเนื่อง ตามแผนรักษาของแพทย์จนกว่าจะหายเป็นปกติ ดังนั้นกสม.ขอวอนให้องค์กรที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรม นูญและพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจและป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งในสังคมไทยขยายออกไป โดยกสม.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ไปควบคุมตัวผู้กระทำผิดถึงเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล แต่ข้อเท็จจริงยังไม่เป็นที่ยุติ ซึ่งการที่ข้อมูลมีความสับสนจะทำให้ปัญหาการตีความการบังคับใช้กฎหมายผิดไปด้วย

     เมื่อถามถึงสถานการณ์การจับกุมผู้ต้องหาคดี ม.112 ที่เพิ่มมากขึ้น นายวัสกล่าวว่า ขอไปศึกษาข้อเท็จจริงว่ามีการใช้บทบัญญัติมาตรานี้เป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือไม่ หรือควรมีองค์กรเข้าไปดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะหรือไม่ ส่วนที่เรียกร้องให้เปลี่ยนอำนาจการสอบสวนจากศาลทหารเป็นพนัก งานสอบสวนที่เป็นตำรวจและขึ้นศาลพลเรือนแทนศาลทหารตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญานั้น กสม.ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว เพราะเพิ่งเข้ามารับหน้าที่และมีงานสำคัญต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะการปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของไอซีซี แต่กสม.ก็ไม่ได้ละเลย โดยจะให้อนุกรรมการดำเนินการติดตามสถานการณ์และจะจัด เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบ

ศาลยกคำร้องขอปล่อยตัวน.ศ.

      ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา พร้อมด้วยน.ส.ภาวิณี ชุมศรี และนายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมาฟังคำสั่งที่ขอให้ศาลไต่สวนและปล่อยตัวนายธเนตร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร ตามมาตรา 116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีร่วมโพสต์แผนผังอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวจากร.พ.สิรินธร ไปสอบสวนเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา

     โดยศาลพิเคราะห์คำร้องแล้วเห็นว่าตามพฤติการณ์ที่ผู้ร้องบรรยายว่า นายปิยะรัฐ จงเทพ โทรศัพท์แจ้งผู้ร้องว่านายธเนตร เพื่อนของผู้ร้องถูกเจ้าหน้าที่ไม่ทราบหน่วยและสังกัด ควบคุมตัวไว้ที่กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. โดยอ้างว่าเป็นการควบคุมตัวที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่าผู้ร้องเพียงแต่ได้รับคำบอกเล่ามาจากนายปิยะรัฐอีกต่อหนึ่ง โดยไม่มีลักษณะเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่า นายธเนตรจะถูกคุมขังไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ นอกจากนี้ยังได้ความตามเอกสารท้ายคำร้องของผู้ร้องก็ระบุว่า นาย ธเนตรทราบข่าวแล้วว่าถูกออกหมายจับจากมือถือที่เพื่อนยื่นให้ จึงไม่คิดจะหลบหนีและแสดงเจตนาที่จะมอบตัวเพื่อพิสูจน์ตัวเอง แต่ถูกควบคุมตัวในห้องศัลยกรรมชายทันที ซึ่งขัดแย้งกับคำร้องที่ว่านายธเนตรถูกควบคุมตัวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ข้อเท็จจริงที่ได้ความตามคำร้องจึงยังไม่มีมูลเพียงพอที่ศาลจะรับไว้เพื่อดำเนินการไต่สวนตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญามาตรา 90 ให้ยกคำร้อง

     นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า ในวันที่ 16 ธ.ค. เวลา 13.00 น. จะเดินทางมายื่นคำร้องใหม่อีกครั้ง พร้อมนำพยานมาด้วย เพื่อให้คำร้องชัดเจนขึ้น เนื่องจากเห็นว่าจะครบกำหนดควบคุมตัว 48 ชั่วโมงแล้ว และการควบคุมตัวเป็นไปโดยไม่ชอบ ไม่ทราบแม้กระทั่งว่าผู้ที่ควบคุมตัวเป็นตำรวจหรือทหาร และไม่ทราบแน่ชัดว่าถูกควบคุมตัวอยู่ที่ไหน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!