WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8621 ข่าวสดรายวัน


คสช.เร่งเครื่องปฏิรูป-ยําไม่อยากอยู่นาน '
บัวแก้ว'เดินสาย พบยูเอ็น-จีน-อียู


พักผ่อน- น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พาน้องไปป์ บุตรชาย มาพักผ่อนที่พัทยา จ.ชลบุรี ขณะเดินเที่ยวในห้างมีประชาชนมาทักทายและขอถ่ายรูปจำนวนมาก บางคนก็พูดให้กำลังใจ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.

     "บิ๊กตู่"ถกฝ่ายกฎหมายอีกรอบ ดูรายละเอียดร่างรธน.ชั่วคราว ปลัดกลาโหมเร่งระดมสมอง รวบรวมข้อมูลปฏิรูปประเทศให้เสร็จในเดือนก.ค.นี้ เปรย"คสช."ถูกมองไม่น่ารัก เลยไม่อยากอยู่นาน ปูทางให้รัฐบาลเลือกตั้งสานต่อ มั่นใจมีรมต.กลาโหมทันพิจารณาโผทหาร "มาร์ค"ไม่หนุนลูกพรรคปชป.ร่วมสภาปฏิรูป ผวากฎเหล็กห้ามลงเลือกตั้ง ปลัดกต.เตรียมเดินสายอีก พบเลขาฯยูเอ็น-จีน-อียู ยอมรับถอนพาสปอร์ต 3 ผู้ต้องหาคดี 112 

"บิ๊กตู่"เข้าทบ.-เร่งตรวจร่างรธน.

    วันที่ 5 ก.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบเแห่งชาติ (คสช.) เดินทางเข้ามาปฏิบัติงานภายในบก.ทบ.ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการคสช. พร้อมคณะทำงานคสช.ด้านกฎหมายเข้าร่วมหารือติดตามงานต่างๆ ที่ยังคั่งค้างให้ขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ คาดว่ามีการหยิบยกร่างรัฐธรรม นูญชั่วคราวที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาคสช.ด้านกฎหมาย ดำเนินการขึ้นมาพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมในเร็วๆ นี้

      ขณะเดียวกันพ.อ.ธเนศ กาลพฤกษ์ รอง เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก เป็นประธานการประชุมสรุปสถานการณ์ประจำวัน ตามนโยบายของคสช. โดยเฉพาะการดูแล รักษาความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ทั้งนี้ ในที่ประชุมไม่มี การรายงานเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน มีเพียงรายงานความคืบหน้าการจัดกิจกรรมคืนความสุขให้ประชาชนของหน่วยทหารต่างๆ ที่รับผิดชอบเท่านั้น

กห.ยันปฏิรูปการเมืองเรื่องด่วน

      เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องพินิตประชานาถ ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ถ.สนามไชย กระทรวงกลาโหมร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า จัดสัมมนา "การปฏิรูปประเทศไทย:การเข้าสู่อำนาจและการตรวจสอบ" ครั้งที่ 3 เพื่อระดมความคิดเห็นกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทนองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น(อปท.) กว่า 500 คน โดยจัดกลุ่มหารือ 12 กลุ่ม เพื่อระดมความเห็นก่อนรายงานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อรวบรวมข้อมูลส่งต่อให้สภาปฏิรูปดำเนินการ

    พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้ากลุ่มงานปรองดองและปฏิรูปคสช. กล่าวเปิดงานว่า หลังจากได้รับมอบหมาย จึงเปิดรับฟังความเห็นจากนักวิชาการ พร้อมดูงานวิจัยของนักวิชาการ ผู้มีชื่อเสียง ฝ่ายการเมือง พรรคการเมืองที่เคยเสนอเรื่องการปฏิรูปรวม 368 เล่ม เปิดเว็บไซต์และรับฟังความเห็นทางโทรศัพท์ที่มี 2,000 ความเห็น สรุปประเด็นเบื้องต้นได้ 11 ประเด็น ซึ่งเรื่องเร่งด่วนที่สุดคือการปฏิรูปการเมือง การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น การปฏิรูประบบราชการ กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะกฎหมายที่ไม่เอื้อต่อความสงบสุข 

เร่งรวมข้อมูลส่งสภาปฏิรูป

      ปลัดกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า การปฏิรูปการเมือง ได้เรียบเรียงได้ 5-6 ข้อ เช่น การเข้าสู่อำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติคือส.ส.และส.ว. การเข้าสู่อำนาจของนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) กติกาการเข้าสู่อำนาจที่ยุติธรรม การถอดถอนบุคคลที่ประพฤติมิชอบ พรรคการเมืองต้องเป็นพรรคของทุกคนไม่ใช่ของกลุ่มบุคคล รวมทั้งการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ถือเป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องไปหารือเพื่อให้เหมาะสมกับประเทศไทย ทั้งหมดนี้ต้องรับฟังจากทุกฝ่ายซึ่งตนจะรวบรวมเพื่อส่งต่อให้สภาปฏิรูปไปถกเถียงหาข้อสรุปต่อไป 

      "คสช. ไม่ได้น่ารักในกระบวนการประชาธิปไตย เลยไม่ค่อยอยากอยู่นาน แต่เป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้นจะต้องเร่งทำงานตามโรดแม็ปที่หัวหน้าคสช.กำหนดไว้ โดยข้อมูลการปฏิรูปทั้งหมดจะรวบรวมให้เสร็จสิ้นภายในเดือนก.ค.นี้ เพื่อส่งให้สภาปฏิรูปพิจารณาต่อไป" พล.อ.สุรศักดิ์กล่าว 

ชี้รัฐบาลใหม่ต้องสานต่อ

     จากนั้นพล.อ.สุรศักดิ์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่ระบุคสช.ไม่น่ารักจึงไม่อยากอยู่นานว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกระแสใดๆ แต่เป็นไปตามกรอบโรดแม็ปของหัวหน้าคสช. ไม่มีความหมายใดเป็นพิเศษ ส่วนการรับฟังความเห็นเพื่อปฏิรูปนั้น คิดว่าต้องใช้เวลาและยังไม่เสร็จในเร็ววันนี้ ซึ่งตามกระบวนการประชาธิปไตยมีการพัฒนาตลอดเวลา ไม่มีว่าเมื่อใดดีที่สุด แม้จะมีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลแล้วก็จะมีพัฒนา การต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกันทั่วโลก ฉะนั้นระยะเวลาไม่ใช่ตัวกำหนด การปกครองที่ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขเป็นสิ่งสำคัญกว่าระยะเวลาที่เรากำหนด 

      ปลัดกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า การปฏิรูปการเมืองจึงถือเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน แม้จะมีการเลือกตั้งจนมีรัฐบาลแล้ว การปฏิรูปในหลายเรื่องก็ยังไม่เสร็จ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องทำต่อไป แต่จะทำได้แค่ไหนก็เรื่องของเขา ส่วนรายละเอียดที่ได้รวบรวมจากการรับฟังความเห็นนั้น ยังไม่เผยแพร่ในขณะนี้ เพราะเกรงว่าหากเผยแพร่ทางสื่อแล้วไปสัมภาษณ์คนนั้นคนนี้อาจทะเลาะกันอีก อีกทั้งจะกล่าวหาว่าคสช.ไปวางกรอบกำหนดการทำงานของสภาปฏิรูปเอาไว้แล้ว ควรรอให้ ผู้มีหน้าที่ในสภาปฏิรูปหารือกันก่อน

โยนคสช.วางตัวสภาปฏิรูป

      เมื่อถามว่าหากมีรัฐบาลแล้วการปฏิรูปจะยังคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ใช่หรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับหัวหน้าคสช.กำหนด ตนมีหน้าที่เตรียมข้อมูล จัดลำดับความจำเป็นเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายเสนอเพื่อส่งต่อให้สภาปฏิรูปนำไปใช้ประโยชน์ เมื่อถามถึงกระแสข่าวคสช.จะสืบทอดอำนาจต่อ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า คสช.ใช้อำนาจตามกรอบที่วางไว้ และไม่มีการวางคนเพื่อสืบทอดอำนาจ 

     เมื่อถามว่าในฐานะหัวหน้าคณะปรองดองและปฏิรูปมีอำนาจกำหนดวางตัวบุคคลในสภาปฏิรูปหรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ไม่มี ขอย้ำว่ามีหน้าที่แค่ทำกรอบสภาปฏิรูป โดยรับฟังข้อมูลแล้วนำมาเสนอสภาปฏิรูป ส่วนตัวบุคคลจะเป็นใครนั้น ขึ้นอยู่กับคสช.จะกำหนดและยังไม่ทราบว่าคสช.วางตัวบุคคลใดไว้หรือยัง 

เชื่อบัญชีโยกย้ายทหารไร้ปัญหา

      เมื่อถามว่าใครจะเป็นผู้จัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกองทัพในช่วงที่ยังไม่มีรัฐบาล พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ยังดำเนินการตามปกติ ตนในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหม ได้จัดทำกรอบไว้ตามปกติเหมือนทุกปี ส่วนการทำบัญชีที่ว่างทดแทน แต่ละเหล่าทัพจะจัดทำจากนั้นจะประชุมร่วมกันโดยผ่านคณะกรรมการปรับย้าย ไม่ใช่สภากลาโหม คิดว่าเมื่อถึงเวลานั้นคงมีรัฐมนตรีกลาโหมเรียบร้อยแล้ว แต่หากยังไม่มีรัฐมนตรีกลาโหม ตนจะรักษาการรัฐมนตรีกลาโหมต่อ เชื่อว่าต้นเดือนก.ย.น่าจะเรียบร้อย ซึ่งการโยกย้ายถือเป็นการทำหน้าที่ตามระบบปกติ ไม่มีอะไรวุ่นวาย 

     เมื่อถามว่าการปรับย้ายข้าราชการต่างๆ จะดำเนินการหลังจากมีรัฐบาลแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละส่วนราชการที่รับผิดชอบ ส่วนการปรับย้ายข้ามหน่วยต้องพิจารณาร่วมกัน

     ผู้สื่อข่าวถามว่าตำแหน่งผบ.เหล่าทัพจะว่างลงในปีนี้ จะมีการต่ออายุราชการหรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า เป็นไปตามวงรอบ เมื่อถามย้ำว่าตำแหน่ง ผบ.ทบ.จะว่างลงหรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ

กต.ถอนจริง-พาสปอร์ต 3 ผู้ต้องหา

     นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงข่าวกระทรวงการต่างประเทศเพิกถอนหนังสือเดินทางของผู้ถูกหมายจับในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวม 3 ราย ได้แก่นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี และนางจรรยา ยิ้มประเสริฐ อดีตนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิแรงงานว่า เป็นเรื่องจริง โดยดำเนินการตามกระบวนการหลังจากได้รับแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

     เมื่อถามถึงความคืบหน้าการติดตามตัวนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำองค์กรเสรีไทยที่เคลื่อนไหวจัด ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น นายเสขกล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยได้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าบุคคลทั้งสองอยู่ประเทศใด

"สีหศักดิ์"เดินสายแจงต่างชาติ

     เมื่อถามถึงท่าทีของต่างประเทศหลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ประกาศกรอบเวลาที่ชัดเจนและทิศทางของแผนโรดแม็ปทั้ง 3 ขั้นตอน นายเสขกล่าวว่า ต่างประเทศมีความเข้าใจประเทศไทยมากขึ้น ทั้งนี้ ในเดือนก.ค.-ส.ค. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะไปร่วมประชุมตามพันธกรณีในหลายเวที ในฐานะปฏิบัติหน้าที่รมว.ต่างประเทศ โดยจะหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐสมาชิกต่างๆ ของแต่ละกรอบการประชุม เพื่ออธิบายถึงความชัดเจนของโรดแม็ปและพัฒนาการของประเทศไทยที่จะเดินหน้าเข้าสู่ประชา ธิปไตยที่ยั่งยืน และได้แสดงถึงบทบาทของไทยอย่างสร้างสรรค์ โดยจะอธิบายถึงแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน 5 โครงการตามแผนดำเนินงานของคสช.ให้ต่างประเทศรับทราบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคเอกชนและนักลงทุนต่างประเทศ พร้อมอธิบายถึงความมุ่งมั่นของไทยต่อการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันเพื่อขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ตามนโยบายของคสช.

พบเลขาฯยูเอ็น-เยือนจีน-ถกอียู

     นายเสข กล่าวว่า สำหรับกำหนดการเดินทางของนายสีหศักดิ์นั้น เริ่มจากเข้าร่วมประชุมคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก วันที่ 5-11 ก.ค.นี้ ส่วนการพบหารือกับนายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาตินั้น อยู่ระหว่างการประสานวันและเวลาที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม นายสีหศักดิ์จะใช้โอกาสนี้หารือทวิภาคีกับรมต.ต่างประเทศที่ไปร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย จากนั้นจะเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามกำหนดการเยือนอย่างเป็นทางการตาม คำเชิญของนายหวัง ยี่ รมว.ต่างประเทศของจีน ระหว่างวันที่ 11-12 ก.ค.นี้

    นายเสข กล่าวว่า ส่วนวันที่ 17-18 ก.ค. จะไปเยือนฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ ก่อนเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) ในวันที่ 20-25 ก.ค. ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งเวทีนี้จะมีรัฐมนตรีต่างประเทศ ในกลุ่มอียูทั้ง 28 ประเทศเข้าร่วมประชุม โดยนายสีหศักดิ์จะย้ำถึงพัฒนา การของไทยโดยเฉพาะก้าวต่อไปของประเทศไทย จากนั้นจะเดินทางในฐานะประธานร่วมกับรมว.ต่างประเทศเกาหลี ในการประชุมความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-เกาหลี ครั้งที่ 4 ที่กรุงโซล วันที่ 28-29 ก.ค. ส่วนวันที่ 5-10 ส.ค. จะไปร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่พม่า

ปั่นจักรยาน-วีลแชร์งานคืนสุข


คืนความสุข- กองพลทหารราบที่ 9 ร่วมกับฝ่ายปกครอง จัดกิจกรรม คสช.คืนความสุขให้ประชาชน ที่วัดบ่อเงิน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี มีการจำหน่ายสินค้าราคาถูก และการแสดงต่างๆ มากมาย เมื่อวันที่ 5 ก.ค.

     เมื่อเวลา 15.30 น. ที่สวนสันติภาพ พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน รองเสนาธิการศูนย์การทหารม้า จ.สระบุรี ในฐานะผบ.เหตุการณ์ในพื้นที่ พร้อมด้วย นางลักษณา โรจน์ธำรงค์ ผอ.เขตราชเทวี นายวรเศรษฐ์ ปภัสร์สุตานนท์ ผอ.เขตพญาไท เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดินแดง นักปั่นจักรยาน จัดงานคืนความสุขตามนโยบายของคสช. โดยร่วมกันปล่อยขบวนจักรยาน 100 คัน และขบวนรถเข็นวีลแชร์ ตั้งแต่สวนสันติภาพไปจนถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยใช้ผิวจราจรช่องซ้ายสุด ขณะเดียวกันภายในสวนสันติภาพ ยังมีกิจกรรมการแสดงของนักเรียนในชุมชนของสำนักงานเขตราชเทวี รวมทั้งการเสวนา คนดีเขตราชเทวีและเขตพญาไท การแสดงดนตรีและกิจกรรมนันทนาการอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก

"สุดารัตน์"หนุนทำประชามติรธน.

     เมื่อเวลา 13.30 น. ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานสถาบันสร้างอนาคตไทย กล่าวในการเสวนาวิชาการ "ก้าวข้ามความขัดแย้งด้วยธรรม" ครั้งที่ 2 เรื่องพุทธวิถีเชิงบูรณาการแก้ปัญหาความขัดแย้งการเมืองในปัจจุบัน ในวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกตามหลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา บัณฑิตวิทยาลัย ตอนหนึ่งว่า วิธีแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองไทย ควรอาศัยสภาธรรมา ธิปไตย ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้เชิงสังคมด้วยการประพฤติปฏิบัติตามกฎกติกา ผู้คนในสังคมร่วมกันพัฒนาขึ้น โดยเฉพาะสภาธรรมาธิปไตยระดับหมู่บ้านชุมชน มาเป็นเครื่องมือสร้างการเรียนรู้ประชาธิปไตยของคนไทยทั้งประเทศ 

     คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ครั้งนี้ ไม่ควรซ้ำ รอยความผิดพลาดเดิมอีก ควรอาศัยสภาธรรมาธิปไตยระดับหมู่บ้านชุมชน เป็นเครื่องมือระดมความคิดประชาชนให้มีส่วนร่วมในกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ เหมือนทำสัญญาประชาคมใหม่ของคนไทยทั้งประเทศ ถ้าคนไทยรู้สึกมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของรัฐธรรมนูญ ที่ร่วมคิดร่วมลงประชามติรับรองก็จะเกิดการยอมรับ และเคารพหวงแหน ส่งผลให้การทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญต่อไปทำได้ยากขึ้น เพราะประชาชนจะออกมาต่อต้าน และการทำรัฐประหารจะหมดไปจากประเทศไทย อีกทั้งจะส่งผลให้มีการคัดเลือกนักการเมืองที่มีคุณภาพต่อไป

ตั้งสภาธรรมาธิปไตยคู่ขนานสภาร่าง

    คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 18 ฉบับที่ผ่านมาเกิดจากการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญที่เรามองว่าคนเหล่านี้เป็นเทวดา เป็นคนดี รู้ทุกปัญหา แต่เมื่อคลอดรัฐธรรมนูญออกมากลับกลายเป็นปัญหา อยากเสนอว่าก่อนตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ควรตั้งสภาธรรมาธิปไตยระดับหมู่บ้านชุมชน ควบคู่กับสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อร่วมสำรวจความเห็นของประชาชนว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่ และหลังเสร็จภารกิจนี้ สภาธรรมาธิปไตยฯ ยังทำงานต่อไปในการอบรมกล่อมเกลาทางการเมืองให้คนในชุมชนโดยยึดหลักคุณธรรม สร้างการมีส่วนร่วมเสนอกติกาของบ้านเมือง เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ประชา ธิปไตยแบบธรรมาธิปไตยแบบยั่งยืนให้คนไทยทั่วประเทศ

"จรัล"ฟ้องอียู-นัดถกทูตฝรั่งเศส

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย เผยแพร่ข้อมูลความเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก"แนวร่วมขบวนการเสรีไทยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ" ระบุว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค. เวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส คณะขององค์กรเสรีไทยฯ นำโดยนายจรัล ดิษฐาภิชัย ผู้ประสานงานองค์กรเสรีไทยฯประจำยุโรป ได้เข้าพบคณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชน และคณะกรรมาธิการด้านต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อรายงานสถานการณ์การเมืองและปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทยหลังจากกองทัพไทยทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. พร้อมเสนอบันทึกรายงานสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทยและขอคำแนะนำจากคณะกรรมาธิการทั้ง 2 ชุด ทั้งนี้ องค์กรเสรีไทยฯ มีกำหนดจะเข้าพบเอกอัครราชทูตด้านสิทธิมนุษยชนของฝรั่งเศสในวันที่ 10 ก.ค.นี้ด้วย

"มาร์ค"ไม่หนุนปชป.ร่วมสภาปฏิรูป

     นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคสช.มีวิธีรับสมัครบุคคลทุกกลุ่มในการตั้งสภาปฏิรูปว่า ตนได้ปรึกษากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคแล้วและนายอภิสิทธิ์ ให้นโยบายว่าพรรคเราแสดงความคิดเห็นได้ แต่ไม่ควรเข้าไปเป็นสมาชิกในสภาปฏิรูป เพราะเรามีส่วนได้เสีย ถ้าไปเขียนหรือแก้รัฐธรรมนูญในสภาปฏิรูป ประชาชนจะไม่ไว้วางใจ ที่สำคัญหัวหน้าพรรคห่วงว่าถ้าพรรคส่งตัวแทนหรือใครก็ตามเข้าไปมีส่วนร่วมในสภานิติบัญญัติหรือสภาปฏิรูป สุดท้ายถ้าคสช.ขมวดกฎหมายว่าใครที่มีส่วนร่วมในสภาปฏิรูป ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง ถ้าป็นเช่นนั้นพรรคอาจสูญเสียบุคลากรดีๆ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งไม่ทราบว่าคสช.จะคิดเรื่องนี้อย่างไร แต่ถ้าคิดแบบนี้ พรรคส่งตัวแทนไปร่วมในสภาปฏิรูป พรรคก็จบ ทั้งนี้ เป็นเพียงแนวทางที่พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์เท่านั้น ไม่ใช่มติพรรค เพราะพรรคไม่สามารถเรียกประชุมได้ตามประกาศของ คสช.

"เทือก"ทำบุญวันเกิด-ไม่พูดเรื่องคสช.

   เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลาพิสิษฐ์กุล วัดชลประทานรังสฤษฏ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. จัดงานทำบุญวันเกิดอายุครบ 65 ปี เนื่องจากวันที่ 7 ก.ค.ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิด นายสุเทพติดภารกิจชี้แจงต่อศาลอาญารัชดาในคดีต่างๆ โดยนายสุเทพ ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์ 50 รูป โดยมีบุคคลในครอบครัวและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งแกนนำกปปส.มาร่วมงาน ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ไม่ได้มาร่วมงานเนื่องจากอยู่ในช่วงพักฟื้นหลังผ่าตัดกระดูกไหปลาร้า ได้ส่งกระเช้าดอกไม้มาร่วมอวยพร นายสุเทพปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นปฏิทินการเมืองของคสช. โดยกล่าวสั้นๆ ว่าไม่พูด ตนพูดมาเยอะแล้ว

สั่งชะลอตั้งรัฐสภาจังหวัด24แห่ง

      วันที่ 5 ก.ค. นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการจัดตั้งสำนักงานรัฐสภาประจำจังหวัดว่า ขณะนี้ได้ชะลอการจัดตั้งสำนักงานรัฐสภาประจำจังหวัดในส่วนที่เหลืออีก 24 จังหวัดออกไปชั่วคราว เพราะต้องรอผลการประเมินการทำงานของสำนักงานรัฐสภาประจำจังหวัด 6 แห่งที่นำร่อง คาดว่าจะประเมินเสร็จในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงสิ้นปีงบประมาณประจำปี 2557 หากผลออกมาในทางลบ ก็อาจพิจารณาทบทวนการจัดตั้งสำนักงานรัฐสภาประจำจังหวัดในอีก 24 จังหวัด ที่รัฐสภาได้ประกาศออกไปเมื่อปี 2556

    นายจเร กล่าวว่า เกณฑ์การประเมินนั้น จะประกอบด้วยดัชนีชี้วัดหลายตัว เช่น คุณภาพงานการเข้าถึงประชาชน ความสัมฤทธิผลของการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนร้องเรียน หากที่สุดแล้วผลประเมินทั้ง 6 แห่งไม่ผ่าน ก็อาจปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดตั้งสำนักงานรัฐสภาประจำจังหวัดจากเดิมจะตั้งในทุกจังหวัดมาเป็นจัดตั้งสำนักงานรัฐสภาเป็นรายภาคแทน เช่น แบ่งเป็น 9-10 ภาค เพื่อให้ครอบคลุม 77 จังหวัด ซึ่งต้องหารือกับคณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา(ก.ร.)เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป คิดว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนัก

คสช.ถกเอกชนแก้ปัญหาข้าว 

    เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงผลการลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังข้าวตามโครงการรับจำนำข้าว ว่า ต้องตรวจซ้ำเพราะที่ผ่านมาขาดความรอบคอบ ซึ่งผลการตรวจสอบ 2 วันที่ผ่านมาเบื้องต้นพบข้าวหายจำนวนมาก และมีบางกระสอบที่มีเลขรหัสข้างกระสอบไม่ตรงกับเอกสารที่แจ้งไว้ เหมือนการเวียนเทียนข้าวหรือที่เรียกว่า "เปาเกา" คือนำข้าวออกจากโกดังไปเร่ขายให้โรงสี จากนั้นโรงสีจะซื้อข้าวเก่าส่งเข้าโกดังแทน นอกจากนี้ยังมีข้าวเน่า ข้าวปลอม และไม่มีการรมยาโดยบริษัทเอกชนผู้รับผิดชอบ อีกทั้งในโกดังบางแห่ง พบข้าวร่วนป่นจนเป็นผง รวมถึงจัดเรียงกระสอบข้าวไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยตามหมวดหมู่เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ 

    ที่บก.ทบ. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ช่วยผบ.ทบ. รับผิดชอบงานด้านเศรษฐกิจ ประธานคณะคณะอนุกรรมการพิจารณาด้านการผลิตและการตลาดข้าว เชิญปลัดกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมข้าวมาหารือ เพื่อรับฟังข้อเสนอต่างๆ จากภาคเอกชน และร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมข้าวทั้งระบบ

     สำหรับการตรวจสอบโกดังข้าวทั่วประเทศ ที่จ.ยโสธร เจ้าหน้าที่ตรวจโกดังโรงสีอุบลถาวรค้าพืช พบมีข้าวเสียหายจากหลังคารั่ว มีข้าวเน่าและมอดกินข้าว 52 กระสอบ จาก 9,240 กระสอบ ที่จ.ศรีสะเกษ ตรวจสอบที่คลังสินค้ากลางชัยจงมีพืชผล พบข้าวเสียหายจากมอดจำนวนมาก และการจัดวางกระสอบไม่เป็นไปตามมาตรฐานกำหนด แต่ไม่มีสูญหาย 

      ที่จ.นครราชสีมา ตรวจสอบโกดังในพื้นที่อ.เฉลิมพระเกียรติ ไม่พบปัญหาหรือข้อพิรุธ ส่วนที่อ.ปักธงชัย พบบางแห่งมีสภาพสกปรกและคับแคบไปบ้าง ส่วนที่จ.พิจิตร พบปัญหาข้าวเสียหายจากมอดบ้าง โดยให้ส่งตรวจสอบว่ามีข้าวชนิดอื่นปลอมปนหรือไม่ ที่จ.พะเยา การตรวจสอบโกดังข้าวไม่พบปัญหาแต่อย่างใด ที่จ.อุบลราชธานี เข้าตรวจสอบที่โรงสีข้าวพรเจริญ อ.พิบูลมังสาหาร พบมีข้าวเสียหายจากมอด และมีข้าวหายไป 688 กระสอบ

กทม.-ปทุมฯ-คสช.คืนความสุข 

     เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่สวนสันติภาพ นางลักษณา โรจน์ธำรงค์ ผอ.สำนักงานเขตราชเทวีเปิดเผยว่า เขตราชเทวีร่วมกับกองบังคับการควบคุม กองพลทหารม้าที่ 2 รอ. และกรมพลาธิการทหารบก จัดกิจกรรมคืนความสุขคนในชาติ จากอนุสาวรีย์ชัยสู่สันติภาพ โดยแบ่งเป็น 2 พื้นที่ ได้แก่ สวนสันติภาพและเกาะพญาไท มีกิจกรรม อาทิ การรับบริจาคโลหิต ตรวจสุขภาพ บริการรถทันตกรรมและรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ตัดผมฟรี และฝึกสอนอาชีพ บูธจัดการขยะ แจก บูธออมเงิน นิทรรศการเศรษฐกิจพอเพียง มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีการจัดเสวนาคนเก่าเล่าเรื่อง โดยตัวแทนจากชุมชนในเขตพญาไทและราชเทวี โดยประชาชนที่เข้าร่วมงานจะให้ความสนใจการบริการตัดผมฟรี การสอนฝึกอาชีพ และการตรวจสุขภาพ

      ขณะที่ จ.ปทุมธานี นายพิทยา วงศ์ไกรศรีทอง นายอำเภอลาดหลุมแก้ว จัดกิจกรรม คสช.คืนความสุขให้ประชาชน ที่วัดบ่อเงิน ต.บ่อเงิน อ.ลาดหลุมแก้ว โดยมีนายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าฯ ปทุมธานี พล.ต.ไพโรจน์ ทองมาเอง ผบ.พล.ร.9 พ.ท.วรรธ อุบลเดชประชารักษ์ ผบ.บก.ควบคุม ร.19 พัน 3 เข้าร่วม ท่ามกลางประชาชนให้ความสนใจมาร่วมงานอย่างเนืองแน่น รวมทั้งเหล่าดารานักแสดงมาร่วมสร้างสีสันในงาน โดยมีการจัดกิจกรรมให้บริการประชาชนฟรี อาทิ ตัดผม และซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า การแจกพันธุ์ข้าวไรซ์เบอร์รี่พร้อมอบรมและแนะนำวิธีการปลูกดูแลรักษา

'สีหศักดิ์'ชูโรดแมปแจง อียู-ยูเอ็น เคลียร์ปมปว.-เศรษฐกิจเดินสายยาวถึงสิงหา คสช.รอเคาะธรรมนูญ ปฏิรูปคึกแห่ชงไอเดีย ที่มาสส.-ครม.-นายก

 

มติชนออนไลน์ :

ปลัดกระทรวงต่างประเทศเดินสาย 3 ทวีป แจง'โรดแมป' เดินหน้าเข้าโหมดเลือกตั้ง ไปนิวยอร์กพบเลขาฯยูเอ็น

@ "กลาโหม"จัดสัมมนาปฏิรูป

    เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 กรกฎาคม ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวเปิดงานสัมมนา "การปฏิรูปประเทศไทย : การเข้าสู่อำนาจและการตรวจสอบ" (ครั้งที่ 3) จัดโดยกระทรวงกลาโหมและสถาบันพระปกเกล้า เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แสดงความเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ นำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยมีทีมนักวิชาการสถาบันพระปกเกล้าร่วมจัดกระบวนการสานเสวนาระดมความคิดเห็นในประเด็นข้างต้น แบ่งกลุ่มอภิปราย 12 กลุ่ม และนำเสนอผลการประชุมความคิดเห็น โดยมีปลัดกระทรวงกลาโหมและคณะร่วมรับฟัง ก่อนนำไปรวบรวมวิเคราะห์ผลทำข้อเสนอเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองไทย

    ในส่วนกลุ่มนักวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ประกอบด้วย ดร.ถวิลวดี บุรีกุล ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนา นายณวัตน์ ศรีปัดถา ดร.สติธร ธนานิธิโชติ และ น.ส.ชมพูนุช ตั้งถาวร บรรยายถึงการได้มาซึ่ง ส.ส.และ ส.ว. ในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งอธิบายข้อดีและข้อเสียของทุกแบบ และกระบวนการถอดถอน ส.ส. ส.ว.ในปัจจุบัน ก่อนจะระดมความคิดเห็นเป็นกลุ่มย่อยในช่วงบ่าย อาทิ อยากให้มีสภาเดียว และ 2 สภา มี ส.ส.จากการเลือกตั้งแบบต่างๆ และ ส.ส.ควรสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่ รวมทั้งการปรับโครงสร้างพรรคการเมือง และการเลือกตั้งควรมีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีโดยตรงหรือไม่ เป็นต้น มีเพียงการได้มาซึ่ง ส.ว. ที่ไม่มีกลุ่มใดเสนอว่าควรมีการเลือกตั้ง ส.ว. เพราะเห็นว่าเพื่อให้ ส.ว.เข้ามาตรวจสอบการทำงานของ ส.ส.

@ "ปลัดกห."ย้ำงานเร่งด่วน6ข้อ

     ด้าน พล.อ.สุรศักดิ์ ในฐานะหัวหน้ากลุ่มงานปรองดองและปฏิรูป คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวเปิดงานว่า ได้รับมอบหมายจาก คสช.ให้เป็นผู้อำนวยความสะดวก จึงเปิดรับฟังความเห็นจากนักวิชาการ พร้อมงานวิจัยของนักวิชาการ ผู้มีชื่อเสียง ฝ่ายการเมือง และพรรคการเมืองที่เคยเสนอเรื่องการปฏิรูป จำนวน 230 เล่ม ขณะนี้รวมเป็น 368 เล่ม และเปิดช่องทางทั้งเว็บไซต์ อีเมล์ รวมถึงโทรศัพท์เพื่อรับฟังความเห็นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน จนความเห็นการปฏิรูปมีมากกว่า 2,000 ความเห็น สามารถสรุปประเด็นออกมา 11 ประเด็น และอาจจะมีมากกว่านี้ในอนาคต เรื่องเร่งด่วนที่สุดคือการปฏิรูปการเมือง การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น การปฏิรูประบบราชการ กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะกฎหมายที่ไม่เอื้อต่อความสงบสุข โดยการปฏิรูปการเมือง เรียบเรียงได้ 5-6 ข้อ อาทิ การเข้าสู่อำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ คือ ส.ส.และ ส.ว. การเข้าสู่อำนาจของฝ่ายบริหาร คือ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) กติกาการเข้าสู่อำนาจที่จะทำให้ยุติธรรม การถอดถอนบุคคลที่ประพฤติมิชอบ ส่วนการปฏิรูปการเมือง ต้องเป็นพรรคของทุกคนไม่ใช่ของกลุ่มบุคคล รวมทั้งการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นถือเป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องไปหารือเพื่อให้เหมาะสมกับประเทศไทย ทั้งหมดนี้ต้องรับฟังจากทุกฝ่าย 

@ คสช.คือสิ่งจำเป็นที่ไม่น่ารัก

     "ผมมีหน้าที่เรียบเรียงแล้วสรุปภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ไปสู่สภาปฏิรูป จะมีคนมาทำงานถกเถียงกันแต่ละประเด็น เอาข้อมูลจากเราไปใช้ประโยชน์แค่ไหนก็แล้ว แต่เราเป็นคณะเตรียมการ ถ้าเขาเข้ามาทำตรงนี้แล้วไม่มีอะไรเลยเขาก็เถียงกันไม่จบ อย่างน้อยเราก็มีกรอบให้แล้ว จะได้ไม่เสียเวลามาก ถ้าเสียเวลามาก เดี๋ยว คสช.อยู่นาน คนก็รังเกียจอีก ผมเรียนตรงๆ ว่า คสช.คือสิ่งจำเป็นที่ไม่น่ารักในกระบวนการประชาธิปไตย" พล.อ.สุรศักดิ์กล่าว

    จากนั้น พล.อ.สุรศักดิ์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว กรณีที่ระบุ คสช.ไม่น่ารักในระบอบประชาธิปไตยและไม่อยากอยู่ในอำนาจนานว่า ไม่เกี่ยวกับกระแสใดๆ เราแค่ทำตามโรดแมปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เท่านั้น ที่ตนกล่าวไปไม่มีความหมายใดเป็นพิเศษ ส่วนกรณีธรรมนูญปกครองฉบับชั่วคราวว่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยนั้น ไม่ทราบเพราะเป็นการทำงานคนละส่วน และยังไม่เห็นร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวแต่อย่างใด 

     เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว คสช.อาจจะอยู่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเพื่อประคับประคองสถานการณ์หรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ หน้าที่ตนคือจัดเตรียมข้อมูลให้สภาปฏิรูปนำไปใช้ประโชน์เท่านั้น ซึ่งก็คงรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนต่อไป

@ ทำกติกาเข้าสู่อำนาจให้ยุติธรรม

     เมื่อถามว่า เรื่องการปฏิรูปการเมืองมีรายละเอียดอย่างไร พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ทุกหัวข้อในการปฏิรูปเป็นเพียงข้อเสนอ มีทั้งเรื่องการเข้าสู่อำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ ก็คือ ส.ส. ส.ว. การเข้าสู่อำนาจของฝ่ายบริหาร ก็คือ นายกรัฐมนตรีและ ครม. และกติกาการเข้าสู่อำนาจควรจะเป็นอย่างไรให้บริสุทธิ์ยุติธรรม เมื่อเข้าสู่อำนาจแล้วจะทำยังไงเพื่อที่จะถอดถอนลงโทษและปฏิรูปพรรคการเมือง และเรื่องการกระจายอำนาจว่าทำอย่างไรให้เหมาะสมต่อประเทศ ซึ่งก็มีข้อคิดเห็นที่ทั้งเหมือนกันและแตกต่างกัน ตรงนี้ก็เป็นเรื่องสภาปฏิรูปจะนำไปถกเถียงกันต่อไป เพื่อให้ได้ข้อยุติที่ดีที่สุด 

เมื่อครบระยะที่ 3 ตามโรดแมป จนมีการเลือกตั้งแล้ว คิดว่าการปฏิรูปอีกหลายเรื่องคงยังไม่เสร็จดี คงต้องส่งต่อข้อมูลให้รัฐบาลจากการเลือกตั้งไปทำต่อไป จากที่รับฟังความคิดเห็นคิดว่าการปฏิรูปคงไม่เสร็จในเร็ววัน เพราะความเห็นของพี่น้องประชาชนตามกระบวนการประชาธิปไตยมีการพัฒนาตลอดเวลา ถึงแม้จะมีการเลือกตั้งแล้ว มีนักการเมืองเข้ามาบริหารตามปกติ ก็ยังจะมีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เป็นเช่นนี้ทั่วโลก ระยะเวลาจึงไม่ใช่ตัวกำหนด ส่วนรายละเอียดที่ได้รวบรวมจากการรับฟังความเห็นยังไม่เผยแพร่ในขณะนี้ เกรงว่าหากไปเผยแพร่ทางสื่อแล้วอาจกลับมาทะเลาะกันอีก อีกทั้งจะกล่าวหาว่า คสช.ไปวางกรอบกำหนดการทำงานของสภาปฏิรูปเอาไว้แล้ว ควรจะรอให้ผู้มีหน้าที่ในสภาปฏิรูปถกเถียงหารือกันก่อน 

@ "บิ๊กเต่า"เจอถามต่ออายุราชการ

เมื่อถามถึงการโยกย้ายนายทหารในช่วงปลายปีใครจะเป็นผู้ดำเนินการต้องมีรัฐบาลด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า จะเป็นไปตามขั้นตอนปกติ ในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหมนั้นก็ทำกรอบเวลาของการแต่งตั้งโยกย้ายตามปกติทุกปี ทำบัญชีที่ว่างทดแทน เป็นเรื่องที่แล้วแต่เหล่าทัพจะทำบัญชีมา และจัดการประชุมหารือร่วมกันผ่านคณะกรรมการปรับย้าย ไม่ใช่สภากลาโหม ในวันนั้นคงจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว ถ้าไม่มีตนก็จะรักษาการรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมต่อ เป็นไปตามระบบ ไม่มีอะไรวุ่นวาย

เมื่อถามว่าตำแหน่ง ผู้บัญชาการเหล่าทัพจะว่างลงในปีนี้จะมีการต่ออายุราชการหรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์ตอบว่า จะเป็นไปตามระบบปกติ ตามวงรอบทุกปี เมื่อถามว่าตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จะว่างลงในปีนี้หรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์ตอบว่าไม่ทราบ

@ ส่งร่างรธน.ให้คสช.สัปดาห์นี้

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้า คสช. ได้เข้ามาปฏิบัติงานภายใน บก.ทบ. มีการหารือร่วมกับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. และคณะทำงานของ คสช.ด้านกฎหมายในเรื่องงานต่างๆ ที่ต้องเดินหน้าขับเคลื่อนต่อไป คาดว่ามีการหยิบยกร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวขึ้นมาพิจารณาด้วย

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ร่างรัฐธรรมนูญอาจเข้าสู่การพิจารณาของ คสช.ในวันอังคารที่ 8 กรกฎาคมนี้

@ "หญิงหน่อย"ชูสภาธรรมาธิปไตย

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 13.30 น. ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานสถาบันสร้างอนาคตไทย นำเสนอกรอบแนวคิด "ปัญหาหลักการความขัดแย้ง และการก้าวข้ามความขัดแย้งด้วยสภาธรรมาธิปไตย" ในการเสวนาวิชาการ เรื่อง "ก้าวข้ามความขัดแย้งด้วยธรรม" ครั้งที่ 2 ตอนหนึ่งว่า ตลอดระยะ 82 ปีของประชาธิปไตย เราทำรัฐประหารทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จเฉลี่ย 4 ปีเศษต่อครั้ง ใช้รัฐธรรมนูญไปแล้ว 18 ฉบับ ที่ผ่านมามักจะกล่าวถึงแต่ผู้ที่ใช้อำนาจ แต่ความจริงผู้ที่มีความสำคัญไม่แพ้กันเลยคือ ประชาชนเจ้าของอำนาจที่บางครั้งก็ยังไม่เข้าใจหลักการและขาดธรรมเช่นเดียวกัน คิดว่ารากเหง้าปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนไทย 2 ฝ่าย ตลอดระยะเวลา 9 ปีผ่านมา ไม่มีฝ่ายใดผิดหรือถูก แต่ทั้ง 2 ฝ่ายมีเป็นเป้าหมายร่วมกันที่เห็นแก่ประโยชน์ประเทศทั้งสิ้น อยากเห็นการเมืองหรือระบอบประชาธิปไตยที่มีคุณภาพและคุณธรรม อย่างไรก็ตาม ตามหลักพุทธศาสนาประชาธิปไตยที่มีคุณภาพและคุณธรรมก็คือ ธรรมาธิปไตย นั่นเอง ประชาธิปไตยแบบธรรมาธิปไตยจะแก้ไขปัญหาในสังคมได้

@ เริ่มสร้างตั้งแต่หมู่บ้านชุมชน 

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวต่อว่า ตนได้นำทฤษฎีกำเนิดอำนาจรัฐในอัคคัญญสูตรที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับทฤษฎีสัญญาประชาคมของตะวันตกมาเป็นตัวเชื่อมหลักประชาธิปไตยให้สอดคล้องกับรากฐานทางศีลธรรมและวัฒนธรรมของสังคมไทยตลอดจนอาศัยสภาธรรมาธิปไตย หรือพื้นที่ทางสังคมที่จะเข้ามาแลกเปลี่ยนความเห็นกันเพื่อแก้ความขัดแย้ง ตาม 4 ขั้นของหลักคุณธรรมสี่ประการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทาน เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "สภาธรรมาธิปไตยระดับหมู่บ้านชุมชน" มาเป็นเครื่องมือสร้างการเรียนรู้ประชาธิปไตยของคนทั้งประเทศ

ธรรมาธิปไตยระดับหมู่บ้านชุมชนคือ การจำลองรูปแบบการถ่วงดุลอำนาจอธิปไตยระดับประเทศไปไว้ที่หมู่บ้าน ให้คนในหมู่บ้านออกเสียงในการประชุมสภาหมู่บ้านชุมชน แล้วเลือกประธานสภาทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม จากนั้น ค่อยเลือกคณะกรรมการหมู่บ้านชุมชน สภาหมู่บ้านชุมชนจะทำหน้าที่สร้างนโยบายสาธารณะรวมถึงกติกาด้วย การพิจารณาใช้งบประมาณตามโครงการที่รัฐบาลจัดสรรให้ 

@ ให้ปชช.มีส่วนร่วมควบคู่สนช.

"เราต้องใช้กระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งใหม่นี้ เป็นโอกาสสร้างการเรียนรู้ประชาธิปไตยครั้งใหญ่ รัฐธรรมนูญ 18 ฉบับที่ผ่านมา เกิดจากการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่มองว่าคนเหล่านี้เป็นเทวดา เป็นคนดี รู้ทุกปัญหา แต่เมื่อคลอดรัฐธรรมนูญออกมากลับกลายเป็นปัญหา อยากเสนอว่าก่อนที่จะมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ควรตั้งสภาธรรมาธิปไตยระดับหมู่บ้านชุมชนควบคู่กับสภาร่างรัฐธรรมนูญไปด้วย เพื่อร่วมสำรวจความเห็นของประชาชนว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่ จะทำให้รู้สึกมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของรัฐธรรมนูญที่มีโอกาสร่วมคิดร่วมทำ ร่วมลงประชามติรับรองก็จะเกิดการยอมรับ และเคารพหวงแหนในกติกาที่เกิดขึ้น จะส่งผลให้การทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญต่อไปทำได้ยากขึ้น เพราะประชาชนจะออกมาต่อต้าน และการทำรัฐประหารก็จะหมดไปจากประเทศไทย อีกทั้งจะส่งผลให้มีการคัดเลือกนักการเมืองที่มีคุณภาพต่อไป" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

@ กกต.ยึดเยอรมนีปฏิรูปเลือกตั้ง 

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ได้เรียกประชุม กกต.ทั้ง 5 คน เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เพื่อสรุปเป็นแนวทางให้กับคณะทำงานด้านปฏิรูปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ทางเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กกต.บางส่วน จึงนำข้อมูลมาหารือและศึกษาเพิ่มเติมถึงรูปแบบและวิธีการปฏิรูประบบเลือกตั้งที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย มีข้อเสนอที่น่าสนใจ ดังนี้ ในส่วนการเลือกตั้ง ส.ส. ควรใช้ระบบสัดส่วนเพื่อกำหนดจำนวนที่นั่งหรือโควต้าของพรรคการเมืองในสภา และให้ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคนั้นได้ที่นั่งไป แต่ถ้าไม่พอให้ผู้ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อในลำดับต้นเรียงไปตามจำนวนที่ยังมีที่นั่งว่างอยู่ตามแนวทางของประเทศเยอรมนี แต่จำกัดเฉพาะพรรคการเมืองและผู้สมัครต้องสังกัดพรรคการเมืองเท่านั้น เพื่อสนับสนุนระบบพรรคการเมือง รวมทั้งพรรคการเมืองต้องมีกลไกการมีส่วนร่วมในการเสนอชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วย มิให้มีการมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้พิจารณาเสนอชื่อ

@ ชงใช้ระบบเลือกตั้งของเยอรมนี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักเกณฑ์การตัดสินผลการเลือกตั้งในกรณีสัดส่วนและแบบแบ่งเขตเลือกตั้งควรใช้แบบเยอรมนี โดยให้อำนาจ กกต.พิจารณาเรื่องคัดค้านการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรมตลอดวาระการดำรงตำแหน่งของผู้ถูกคัดค้าน แต่จำกัดระยะเวลาในการดำเนินงานของ กกต.ในการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยภายใน 1 ปีต่อคำร้อง โดยไม่จำกัดระยะเวลาในการยื่นคำร้องหรือเมื่อปรากฏหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีความเห็นอีกว่า กรณีที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการเลือกตั้งมีอยู่ 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1.ปัญหาที่เกิดจากการบริหารจัดการ และ 2.ปัญหาที่เกิดจากการบังคับใช้กฎหมาย ที่ขณะนี้ กกต.ยังไม่มีความชัดเจนและแยกส่วนไม่ออกว่าอะไร กรณีส่วนที่ 1 ปัญหาใดที่เกิดจากการบริหารจัดการ เช่น เกิดจากการทำหน้าที่ของคณะกรรมการทั้งหลายอันประกอบด้วย คณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง เป็นต้น ระเบียบปฏิบัติมีขั้นตอนมากเกิดความจำเป็น เป็นต้น และส่วนที่ 2 ปัญหาใดที่เกิดจากการบังคับใช้กฎหมาย เช่น รัฐธรรมนูญไม่จำแนกความรับผิดชอบระหว่างนายกรัฐมนตรี กับประธาน กกต.ในกรณีการยุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้ง การที่รัฐธรรมนูญกำหนดบางส่วนบางตอนของระบบการเลือกตั้งไว้ (การลงคะแนน คุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และผู้สมัครรับเลือกตั้ง รวมถึงลักษณะต้องห้าม) การกำหนดจำนวนสมาชิกสภาในแต่ละจังหวัด เป็นต้น

อีกทั้งยังเห็นว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ กำหนดรายละเอียดมากเกินไป พื้นฐานการจัดการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นแตกต่างกับกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ส่วนการพิจารณาคดีเลือกตั้งในชั้นศาลอุทธรณ์หรือฎีกา กรณีที่ กกต.มีความเห็นควรเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสั่งเลือกตั้งใหม่ ศาลถือเอาความเห็นของ กกต. เป็นเพียงคำฟ้องหนึ่ง จึงมีการสอบพยานหรือรับฟังพยานซ้ำกับการสืบสวนสอบสวนในชั้น กกต. และผลการพิจารณาของศาล ยกคำร้องส่วนหนึ่งเป็นผลจากพยานกลับคำให้การ

@ ขอแยกฐานข้อมูลออกจากมท.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีความเห็นอีกว่าการกำหนดให้มีการลงทะเบียนเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยให้ฐานข้อมูลอยู่ที่สำนักงาน กกต. ต้องแยกออกจากฐานข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย หากแยกส่วนกันจะทำให้ข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับการเลือกตั้งของ กกต. เป็นปัจจุบันตลอดเวลา แก้ปัญหาการมีชื่อคนตายอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ตรงนี้ก็เป็นปัญหามาก รวมไปถึงการไม่ต้องกำหนดสัดส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้งต่อหน่วยเลือกตั้ง เพื่อแก้ไขปัญหาการกำหนดที่เลือกตั้งใหม่ กรณีมีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพิ่มเกินอัตราที่กำหนดก่อให้เกิดความสับสนแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่ให้เพิ่มจำนวนผู้ให้บริการ คือ กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งให้เหมาะสมกับข้อมูลจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้ง และในส่วนการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ควรจำกัดสิทธิเฉพาะผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้รับคำสั่งจากทางราชการ หน่วยงานของรัฐให้ไปปฏิบัติหน้าที่นอกเขตเลือกตั้ง และยังไม่นับคะแนนจนกว่าคะแนนเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งแพ้ชนะกันน้อยกว่าจำนวนผู้ลงคะแนนนอกเขตเลือกตั้ง

@ "สมยศ"เผยยังออกหมายจับเพิ่ม

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท. ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร รอง ผบช.ภ.1 และคณะประชุมเร่งรัดการสอบสวนคดีความมั่นคงและอาวุธสงคราม

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องกับคดีอาวุธสงครามเพื่อเร่งรัดคดี เร่งยื่นส่งฟ้อง ซึ่งได้กำหนดแนวทางการสอบสวนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำการออกหมายจับเพิ่มในกรณีที่ผู้ต้องหามีการซัดทอดและคดีที่มีหลักฐานเชื่อมโยง ยืนยันว่ามีการออกหมายจับเพิ่มเติม ไม่อยากให้เน้นไปที่ตัวนายจักรภพ เพ็ญแข แต่เพียงคนเดียว เราให้ความสำคัญในทุกคดี ทั้ง 13 คดีของภาค 1 มีความเชื่อมโยงกันเกือบทุกคดี และเกี่ยวโยงไปถึงคดีในนครบาล รวมถึงภาค 2 ภาค 4 ภาค 6 ด้วย ต้องออกหมายจับเพิ่ม เเต่ยังระบุไม่ได้ว่าอาวุธสงครามที่จับได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมหรือไม่

@ กต.ไล่หาแหล่งกบดานจารุพงศ์

นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวยืนยันกรณีข่าวกระทรวงการต่างประเทศได้ยกเลิกหนังสือเดินทางของผู้ถูกออกหมายจับในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ประกอบด้วยนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 23 (2) ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถยกเลิกหรือเรียกหนังสือเดินทางได้เมื่อปรากฏภายหลังว่าผู้ถือหนังสือเดินทางเป็นบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่อาจออกหนังสือเดินทางได้ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว รวมทั้ง เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 กระทรวงการต่างประเทศได้เพิกถอนหนังสือเดินทางของนางจรรยา ยิ้มประเสริฐ ตามระเบียบข้อ 23(2) ประกอบข้อ 21(2) ที่ระบุว่า กระทรวงสามารถปฏิเสธหรือยับยั้งคำขอหนังสือเดินทางเมื่อได้รับแจ้งว่าผู้ร้องเป็นผู้ซึ่งกำลังรับโทษในคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งศาลหรือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจเห็นว่าไม่ควรจะออกหนังสือเดินทางให้

เมื่อถามความคืบหน้าการติดตามตัวนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ และนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำองค์กรเสรีไทยที่เคลื่อนไหวจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น นายเสขกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศโดยสถานเอกอัครราชทูตไทยก็ได้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าบุคคลทั้งสองอยู่ประเทศใด

@ "สีหศักดิ์"เดินสายชี้แจงต่างชาติ

เมื่อถามถึงท่าทีของต่างประเทศภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ประกาศกรอบเวลาที่ชัดเจนและทิศทางของแผนโรดแมปทั้ง 3 ขั้นตอน นายเสขกล่าวว่าต่างประเทศมีความเข้าใจไทยมากขึ้น ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.การต่างประเทศ กำหนดเดินทางไปร่วมประชุมตามพันธกรณีในหลายเวทีโดยจะใช้โอกาสนี้หารือกับ รมต.ต่างประเทศของรัฐสมาชิกต่างๆ เพื่ออธิบายถึงความชัดเจนของโรดแมปและพัฒนาการที่จะเดินหน้าเข้าสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน พร้อมอธิบายถึงแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน 5 โครงการตามแผนดำเนินงานของ คสช. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคเอกชนและนักลงทุนต่างประเทศ พร้อมกับอธิบายถึงความมุ่งมั่นของไทยต่อการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง

ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกัน

@ มีคิวใหญ่เจอ"บันคีมุน-กลุ่มอียู"

นายเสขกล่าวว่า กำหนดการเดินทางจะเริ่มที่การประชุมคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ระหว่างวันที่ 5-11 กรกฎาคมนี้ ส่วนที่จะมีการพบหารือกับนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการประสานวันและเวลาที่ชัดเจน นายสีหศักดิ์ยังจะใช้โอกาสนี้หารือทวิภาคีกับ รมว.ต่างประเทศที่ร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามกำหนดเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายหวัง ยี่ รมว.ต่างประเทศจีน ระหว่างวันที่ 11-12 กรกฎาคมนี้ ต่อด้วยวันที่ 17-18 กรกฎาคม ไปเยือนฟิลิปปินส์อย่างเป็นทางการ ก่อนร่วมประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) ระหว่างวันที่ 20-25 กรกฎาคม ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในเวทีนี้จะมี รมต.ต่างประเทศกลุ่มอียูทั้ง 28 ประเทศเข้าร่วม นายสีหศักดิ์จะใช้โอกาสนี้ย้ำถึงพัฒนาการของไทย จากนั้นจะเดินทางไปร่วมประชุมความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-เกาหลี ครั้งที่ 4 ที่กรุงโซล ระหว่างวันที่ 28-29 กรกฎาคม ในฐานะประธานร่วมกับ รมว.ต่างประเทศเกาหลี ส่วนเดือนสิงหาคมจะร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ระหว่างวันที่ 5-10 สิงหาคม ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า

@ ทูตเกาหลีเข้าใจปัญหาในไทย

วันเดียวกัน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ สรุปผลการหารือหลังนายชอน แจ-มัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยได้เข้าพบหารือกับนายสีหศักดิ์ว่า ทางนายสีหศักดิ์ได้ชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องของโรดแมปของ คสช. ที่รวมอยู่ใน 3 ขั้นตอน หวังว่าทั้งสองประเทศจะร่วมกันสานต่อความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่างๆ ต่อไป

ด้านนายชอน แจ-มัน กล่าวว่า เกาหลีได้ติดตามสถานการณ์การเมืองในไทยอย่างใกล้ชิด มีความเข้าใจในความซับซ้อนของปัญหาในประเทศไทย หวังว่าจะไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และยั่งยืนในอนาคต ส่วนความร่วมมือในด้านทวิภาคีนั้น เกาหลีใต้จะยังคงสานต่อความร่วมมือที่มีกับไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เช่น การพัฒนาโครงสร้าง

พื้นฐาน และโครงการบริหารจัดการน้ำ

@ "สุนัย"โพสต์เฟซบุ๊กถึงคสช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุนัย จุลพงศธร อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นหนึ่งในผู้ที่ศาลทหารออกหมายจับฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เกี่ยวกับการทำรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา 

โดยนายสุนัยอ้างว่า หลังการยึดอำนาจ คสช.ได้นำกองกำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือและรถหุ้มเกราะไปปิดล้อมสถานทูตประเทศสำคัญหลายประเทศ เช่น สถานทูตสหรัฐอเมริกา และทหารทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สถานทูตที่เข้าออกทุกคน เพราะเกรงว่าจะมีรัฐมนตรีบางคนในคณะรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเข้าไปขอลี้ภัย และขอความปลอดภัยในสถานทูตสหรัฐ

ขณะที่องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย เผยแพร่ข้อมูลความเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ถึงการที่นายจรัล ดิษฐาอภิชัยผู้ประสานงานองค์กรเสรีไทย ประจำยุโรป ได้เข้าพบคณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชน และคณะกรรมาธิการด้านต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู)

@ ปชป.ไม่ส่งคนร่วมสภาปฏิรูป

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพท.จะสมัครเข้าร่วมสภาปฏิรูปหรือไม่ ตรงนี้ยังไม่ได้คุยกัน ส่วนตัวคิดว่าจะต้องมีการพูดคุยกันก่อน ยังไม่รู้ว่าคนในพรรคเห็นด้วยกับแนวทางนี้หรือไม่ ถ้าเห็นด้วยจะให้ใครไปก็คงจะต้องมา

คุยกันว่าใครมีประสบการณ์พอที่จะนำเสนอในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติได้บ้าง

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า ปชป. ได้ให้นโยบายไว้ว่าพรรคเราแสดงความคิดเห็นได้ แต่ไม่ควรเข้าไปเป็นสมาชิกในสภาปฏิรูป เพราะมีส่วนได้เสีย ถ้าไปเขียนหรือแก้รัฐธรรมนูญในสภาปฏิรูป ประชาชนจะไม่ไว้วางใจ เป็นเพียงแนวทางที่ได้พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์เท่านั้น ไม่ใช่มติพรรค เพราะพรรคไม่สามารถเรียกประชุมพรรคการเมืองได้ตามประกาศของ คสช. 

@ จัดคืนความสุขอนุสาวรีย์ชัยฯ 

กรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับกองทัพบก และเครือข่ายย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จัดกิจกรรมคืนความสุขให้คนในชาติจากอนุสาวรีย์ชัยสู่สันติภาพ โดยนางลักษณา โรจน์ธำรง ผู้อำนวยการเขตราชเทวี เปิดเผยว่า ช่วงเช้าเป็นการให้บริการตรวจสุขภาพ รับบริจาคโลหิต บริการทันตกรรม และเอกซเรย์เคลื่อนที่ ตัดผม ฝึกอาชีพฟรี และแจกต้นไม้พร้อมน้ำหมักชีวภาพฟรี ขณะที่จุดเด่นของงาน อยู่ที่ช่วงบ่าย มีการปล่อยขบวนจักรยาน และขบวนรถวีลแชร์กว่า 100 คัน จากสวนสันติภาพไปยังเกาะพญาไท โดยใช้ช่องทางการจราจรด้านซ้ายสุด ซึ่งกิจกรรมสิ้นสุดในเวลา 20.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเส้นทางที่มีการปล่อยขบวนจักรยาน ภาคส่วนต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ได้เข้าร่วมจัดกิจกรรมอย่างมากมาย อาทิ การแสดงศิลปะบนทางเท้า เกมส์ฉลาดซื้อ ฉลาดบริโภคกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นิทรรศการภาพอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจากอดีตถึงปัจจุบัน เพนต์กระถางต้นไม้ ปลูกต้นไม้ และประกวดโมเดลการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่โดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน ผู้บังคับการกรมนักเรียนโรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดกิจกรรมคืนความสุขให้ประชาชนที่สวนสันติภาพว่า การจัดกิจกรรมแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกเริ่มกันตั้งแต่ช่วงเช้า เป็นการบริการตัดผมฟรี ตรวจสุขภาพ ฝึกอาชีพ ตรวจฟัน บริจาคโลหิต ส่วนที่สอง เริ่มตั้งแต่บ่ายสามโมง การแข่งแรลลี่จักรยาน เริ่มต้นที่สวนสันติภาพไปจนถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณเกาะพญาไท รวม 18 จุด และส่วนที่สาม เป็นการจัดงานเสวนา ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงและจัดบันเทิงรื่นรมย์ 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ยังมีหลายพื้นที่ร่วมจัดกิจกรรมคืนความสุขให้คนในชาติ ที่ จ.ขอนแก่น ได้จัดที่สวนสัตว์ขอนแก่น ให้ประชาชนเข้าชมการแสดงและจัดอาหารฟรีให้ ส่วนที่ จ.ปทุมธานี พล.ต.ไพโรจน์ ทองมาเองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 พร้อมด้วยนายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าฯปทุมธานี ร่วมกันจัดที่วัดบ่อเงิน อ.ลาดหลุมแก้ว มีประชาชนเข้าร่วมงานกว่าพันคน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!