WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8625 ข่าวสดรายวัน

ตปท.เสนอร่วม 'สภาปฏิรูป'คสช.จ่อปรับหวย ขายคู่ละ 81-90 บ.


แจงทูตทหาร- ผู้ช่วยทูตทหารต่างชาติและผู้แทนจาก 25 ประเทศ เข้ารับฟังแผนดำเนินงานของคสช. พร้อมแสดงความห่วงใยเรื่องการควบคุมตัวบุคคลเคลื่อนไหวต่อต้านคสช. และขอเสนอให้เชิญทูตทหารเป็นพยานในการทำลายอาวุธสงครามต่างๆ ที่ยึดมาได้ เมื่อ 9 ก.ค.

      คสช.เล็งปรับราคาลอต เตอรี่ จาก 80 เป็น 81-90 บาท เผยสรรหา ผอ.กองสลาก คนใหม่เสร็จ ใน 1 เดือน 'บิ๊กตู่'หัวโต๊ะถกซูเปอร์บอร์ด สั่งรื้อกฎหมายล้าสมัย ตั้งอนุกลั่นกรองแผนแก้ปัญหารัฐวิสาหกิจ 3 ชุด โยนกรรมการ ชุดใหม่วางหลักเกณฑ์สิทธิประโยชน์ บอร์ดองค์การเภสัชฯ ไขก๊อกยกชุด คสช.แจงผู้ช่วยทูตทหารรอบ 3 ย้ำโรดแม็ปปูทางเลือกตั้ง ต่างชาติขอร่วมมีส่วน'สภาปฏิรูป'กองปราบฯ ปล่อยตัวบ.ก.ฟ้าเดียวกัน จับ'ทอม ดันดี'อีกรอบข้อหาหมิ่นเบื้องสูง กกต.โต้ปมจำกัด วาระส.ส. 2 สมัย สวนปชป.ตอนเป็นรัฐบาลเคยเสนอ ห้ามนายก อปท.อยู่เกิน 2 วาระ

คสช.แจงผช.ทูตทหารอีก 
      วันที่ 9 ก.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบให้พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ. และเลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) เพื่อติดตามการดำเนินการงานด้านต่างๆ ของ กองทัพบก โดยเฉพาะการดูแลสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงเดือนรอมฎอน หลังจากคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมคณะทำงานของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ลงพื้นที่ จ.ยะลา และปัตตานี เพื่อติดตามผลการดำเนินงานด้านต่างๆ เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา 
      เวลา 10.00 น. ที่บก.ทบ. พล.ต.ปณต แสงเทียน เจ้ากรมข่าวทหารบก พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค ทีมโฆษกคสช.ด้านต่างประเทศ ร่วมชี้แจงผู้ช่วยทูตทหาร 20 ประเทศ ครั้งที่ 3 ถึงสถานการณ์ภายในประเทศและความคืบหน้าการดำเนินงานด้านต่างๆ ของคสช. โดยครั้งนี้ตัวแทน 5 ประเทศที่ไม่มีผู้ช่วยทูตทหารแต่เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ได้แก่ อิสราเอล บังกลาเทศ บรูไน เนปาล ยูเครน

ย้ำโรดแม็ปสู่เลือกตั้ง 
     พล.ต.ประณต ย้ำถึงโรดแม็ปของ คสช.ว่า ระยะที่ 1 การร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวจะทำคู่ขนานกับการแก้ไขปัญหาประเทศ โดย ก.ค.นี้จะนำร่างฯชั่วคราวขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม และบังคับใช้ ระยะ ที่ 2 การจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) และการจัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาตินั้น แบ่งเป็นห้วงเดือนส.ค.-ก.ย. ตั้งสนช. ครม. และสรรหาสภาปฏิรูปแห่งชาติ ช่วงเดือน ต.ค. จัดตั้งสภาปฏิรูปและเริ่มปฏิบัติหน้าที่ โดยในเดือนต.ค.2557-ก.ค.2558 สภาปฏิรูปจะจัดทำข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร และในเดือนก.ค.2558 รัฐธรรม นูญฉบับถาวรเสร็จ สำหรับระยะที่ 3 รัฐธรรมนูญฉบับถาวรมีผลบังคับใช้ จะแบ่งเป็นเดือน ส.ค.-ต.ค.2558 บังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวร จัดเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา และภายในปี 2558 จะเสร็จสิ้นทุกกระบวนการที่นำไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

ต่างชาติขอแจมสภาปฏิรูป 
    จากนั้น พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมงานโฆษกคสช. แถลงหลังชี้แจงผู้ช่วยทูตทหารว่า ผู้ช่วยทูตทหารหลายประเทศยังมีคำถามหลายประเด็น โดยเฉพาะการตั้งสภาปฏิรูป โดยเสนอความเห็นขอให้มีองค์กรต่างประเทศเข้าร่วมด้วย เพื่อช่วยดูรายละเอียดเพราะประเทศเหล่านั้นอาจมีผลประโยชน์ในแง่เศรษฐกิจของประเทศเขาเองด้วย ทีมโฆษกคสช.ชี้แจงว่าการตั้งสภาปฏิรูป รายละเอียดจะอยู่ในระยะที่ 2 หลังมีสนช.แล้วจะตั้งสภาปฏิรูปขึ้น และยังมีการสอบถามถึงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ในระยะแรก ซึ่งชี้แจงว่าเป็นช่วงที่ทำให้สังคมทุกระดับมีปฏิสัมพันธ์ ทัศนคติที่ดีและเกิดความรักสามัคคีในระดับหนึ่ง เพื่อเป็นพื้นฐานในการปฏิรูปประเทศขั้นต่อไป 
   พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ผู้ช่วยทูตทหารบางประเทศสอบถามถึงโครงการขนาดใหญ่ ชี้แจงว่าโครงการเร่งด่วนจะดำเนินการตามแผนงบประมาณปี 2557 ที่เหลือเวลาบริหาร 3-4 เดือนเท่านั้น ฉะนั้นโครงการใหญ่จึงยังไม่มีการพิจารณา แต่โครงการบริหารจัดการน้ำที่เป็นไปตามแผนปี 2557 จะเป็นการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เป็นไปตามเป้าหมายที่ตรงกับความต้องการกับประชาชนมากที่สุด ส่วนการพิจารณางบประมาณภาพรวม ชี้แจงว่าลำดับต่อไปขึ้นอยู่กับสภาพรูปแบบการบริหารราชการในขณะนั้น ขณะนี้คสช.ยังบริหารงานงบประมาณตามขั้นตอนปกติ ให้หน่วยงานเสนอขึ้นมาเพื่อพิจารณาตามลำดับขั้น เมื่อยังไม่มีรัฐบาลก็อยู่ในอำนาจการอนุมัติของ คสช. ส่วนการเตือนนักท่องเที่ยวแต่ละประเทศที่มาเที่ยวในไทยหลายประเทศลดระดับการแจ้งเตือนแล้วซึ่งมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ 

จี้ถามจับม็อบหน้าสถานทูตมะกัน
     พ.อ.วินธัย กล่าวว่า การออกหมายจับ ผู้เคลื่อนไหวในต่างประเทศเป็นไปตามกระบวนการและองค์ประกอบตามกฎหมาย แต่คสช.ยังให้ความสำคัญกับการโฟกัสในประเทศเป็นหลัก ส่วนพื้นที่ภายนอกประเทศยังไม่เห็นน้ำหนักที่ชัดเจน ทราบแต่ว่าผู้รับผิดชอบโดยตรงคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) และสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ดำเนินการอยู่แล้ว คสช.จึงไม่ได้เพ่งเล็งหรือให้น้ำหนักในเรื่องนั้น 
     พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ผู้ช่วยทูตทหารยังเสนอแนะว่าที่ผ่านมา คสช.จับอาวุธได้จำนวนมากหากทำลายขอให้ผู้ช่วยทูตทหารมีส่วนร่วมด้วย เพราะการทำลายอาวุธสงครามเป็นสิ่งที่ดี เป็นการทำลายอาวุธสงครามนอกระบบ ทีมโฆษก คสช.บอกว่าอาวุธสงครามที่ตรวจจับได้อยู่ในแผนที่จะทำลายอยู่แล้วรวมถึงสิ่งผิดกฎหมายทั้งหมด เช่น ตู้ม้าและยาเสพติด แต่เรื่องอาวุธต้องมีกระบวนการสืบสวนสอบสวนที่ต้องรอให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อน 
     ทีมโฆษกคสช. กล่าวว่า ยังมีข้อสงสัยกรณีจับกุมกลุ่มบุคคลหน้าสถานทูตสหรัฐ และการเชิญบุคคลมารายงานตัว ชี้แจงว่าปัจจุบันการเชิญบุคคลเข้ามารายงานตัวแทบไม่มีแล้ว ผู้ที่มารายงานตัวส่วนใหญ่เรียกมาทำความเข้าใจแต่กลับบ้านกันหมดแล้ว สำหรับผู้ที่ถูกจับกุมในลักษณะชุมนุมในช่วงนี้ ส่วนใหญ่จะเรียกมาตักเตือน ทำความเข้าใจและมีเงื่อนไขร่วมกันเพื่อไม่ให้ดำเนินการในลักษณะนี้อีก มีเพียงส่วนน้อยที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา แต่หากใครมีการชุมนุมอยู่ต้องถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินการ

โยนพื้นที่คุมตัวบก.ฟ้าเดียวกัน 
      พ.อ.วินธัย กล่าวว่า มีการสอบถามถึงการควบคุมตัวนายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการนิตยสารฟ้าเดียวกัน เป็นการดำเนินการของตำรวจและทหารของหน่วยในระดับพื้นที่ เนื่องจากผู้ต้องสงสัยรายนี้เคยกระทำผิด ในลักษณะรวมกลุ่มต่อต้านมาครั้งหนึ่ง แต่เจ้าหน้าที่ตักเตือนโดยไม่ตั้งข้อกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่อาจพบการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายจึงต้องเชิญตัว ส่วนจะตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ เป็นเรื่องของพนักงานสอบ สวนดำเนินการ ไม่ได้เกิดจากการดำเนินการของ คสช.ในส่วนกลาง 
      ด้าน พล.ต.ปณตกล่าวว่า ได้ชี้แจงทูตทหารกรณีการประชุมคณะกรรมการเพื่อติดตามการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะที่แบ่งเป็น 5 คณะทำงาน ด้านสื่อวิทยุสื่อโทรทัศน์ ด้านสื่อสิ่งพิมพ์ ด้านข่าวสารสื่อสังคมออนไลน์ และด้านข้อมูลข่าวสารสื่อต่างประเทศ โดย คสช.ยืนยันไม่ใช่การปิดกั้นข่าวสารและกระทบสิทธิการรับรู้ข้อเท็จจริงที่ประชาชนควรรู้ แต่เป็นการติดตาม รายงานข้อมูลข่าวสารที่มีผลกระทบต่อประชาชนหรือองค์กรหน่วยงาน เพื่อประสานหน่วยเกี่ยวข้องแก้ไขอย่างเป็นระบบและจะได้ข้อมูลถูกต้อง รวดเร็ว เหมาะสม ปราศจากการบิดเบือนจนนำไปสู่ความเกลียดชังบุคคลหรือองค์กรหน่วยงาน ทั้งนี้ จะเน้นการทำงานเสริมประสิทธิภาพฝั่งภาครัฐเพื่อให้การตอบกลับข่าวสารทันท่วงที ส่งผลการรับรู้จากภาครัฐรวดเร็วขึ้น โดยการทำงานยังแลกเปลี่ยนรับฟังด้วยเหตุผลข้อเท็จจริง เน้นผลประโยชน์ของประเทศชาติที่เหมาะสม

อุบข้อมูล'จักรภพ-6 แกนแดง'
       ส่วนการเคลื่อนไหวของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น พล.ต.ปณตกล่าวว่า การเคลื่อนไหวใดที่เป็นการปลุกปั่น และกระทำในต่างประเทศ ถือว่ามีข้อจำกัดในตัวเองอยู่แล้ว เพราะหลายประเทศจะไม่ยอมให้ใครเคลื่อนไหวแบบนี้ อาจถูกมองว่าแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่นได้ ที่สำคัญยังเชื่อมั่นว่าผู้บริโภคข่าวสารส่วนใหญ่มีวิจารณญาณพอจะแยกแยะได้ และคงไม่ให้ความสำคัญหรือเชื่อถือทุกข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะทางโซ เชี่ยลมีเดีย จึงไม่อยากให้มีการขยายผลสร้างกระแสเกินกว่าเหตุ
      พล.ต.ปณต กล่าวว่า กรณีการออกหมายจับนายจักรภพ เพ็ญแข ข้อหาเกี่ยวกับอาวุธสงครามนั้น เป็นไปตามพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน ถือเป็นแนวทางที่เหมาะสม ทั้งกรณีนายจักรภพและการถอนหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตของกลุ่มเสื้อแดง 6 คน มีข้อจำกัดในการเปิดเผยข้อมูล เพราะทุกอย่างอยู่ในสำนวนคดี ไม่สามารถเปิดเผยให้เห็นถึงขั้นตอนการกระทำความผิดของบุคคลนั้นๆ ได้ อีกทั้งไม่ต้องการให้เห็นภาพสังคมเกิดความแตกแยกจากความไม่เป็นธรรมอีกแล้ว
     พล.ต.ปณต กล่าวว่า ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา คสช.เชิญ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ และนายวีระ สมความคิด ที่จัดกิจกรรมเข้าข่ายกิจกรรมทางการเมืองมาทำความเข้าใจและปล่อยตัวไปแล้ว จึงขอความร่วมมือบุคคลทั่วไปหลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่เข้าข่ายกิจกรรมการเมืองในช่วงนี้ หากตรวจพบว่าไม่ได้ขออนุญาตจาก คสช.ก่อน เจ้าหน้าที่จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาพบต่อไป 

อาจารย์มธ.พยานช่วย'วรเจตน์'
       เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ พร้อมนางพัชรินทร์ ภาคีรัตน์ ภรรยาและทนายความ เข้าพบร.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ไม่เข้ารายงานตัวตามกำหนด โดยวันที่ 18 มิ.ย. นายวรเจตน์ ถูกควบคุมตัวมาดำเนินคดีหลังกลับจากต่างประเทศ
      การเข้าให้ปากคำครั้งนี้ นายวรเจตน์ พาภรรยาและเพื่อนอาจารย์มหาวิทยาลัยเดียวกันมาเป็นพยานเพื่อยืนยันถึงเหตุผลความจำเป็น และช่วงนั้นมีอาการป่วยอีกด้วยจึงไม่สามารถเข้ารายงานตัวได้ และหลังกลับถึงประเทศไทยไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนีก่อนจะถูกพิจารณาดำเนินคดีดังกล่าวและขณะนี้อยู่ระหว่างการประกันตัวต่อศาลทหาร เป็นผลัดที่ 2 ทั้งนี้ หลังพนักงานสอบสวนสอบปากคำเสร็จสิ้นจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป

10 กค.ฝากขัง'เสธ.หยอย'
     เวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.พร้อมคณะพนักงานสอบสวน เชิญตัวพล.ท.มนัส เปาริก หรือ เสธ.หยอย อายุ 65 ปี อดีตรองแม่ทัพภาค 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี ลงวันที่ 25 มิ.ย.2557 ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย มาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน จากนั้นจึงคุมตัวไปขออำนาจศาลทหารฝากขังในวันที่ 10 ก.ค.นี้ หากผู้ต้องหาจะยื่นเรื่องขอประกันตัว จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่

ปล่อยตัวบ.ก.ฟ้าเดียวกัน
      วันเดียวกัน พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ. ทำหนังสือถึงพ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.พิจารณาปล่อยตัว นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการนิตยสารฟ้าเดียวกัน หลังถูกควบคุมตัวฐานกระทำผิดเงื่อนไข เนื่องจากนายธนาพลยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังได้รับการปล่อยตัวไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี นายธนาพลรับปากแล้วว่าจะไม่กระทำผิดเงื่อนไขอีก รวมทั้งเจ้าหน้าที่สอบปากคำเพื่อปรับทัศนคติแล้วจึงพิจารณาปล่อยตัว 
     นายธนาพล เผยว่า ตนได้รับการปล่อยตัวจาก บก.ป. เวลา 15.30 น.วันนี้โดยไม่ถูกตั้งข้อหาเพิ่ม หลังถูกควบคุมตัวโดยทหารที่นัดไปดื่มกาแฟ เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ซึ่งเป็นการควบคุมตัวครั้งที่ 2 นับแต่ คสช.เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ


จับ"ทอมดันดี"- พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. รับผิดชอบดูแลงานความมั่นคง แถลงข่าวจับกุมตัวนายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือ "ทอม ดันดี" ดารานักแสดงแนวร่วมคนเสื้อแดง ตามหมายจับคดีปราศรัยหมิ่นสถาบัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อ 9 ก.ค.

      นายธนาพล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวห้ามเคลื่อนไหวการเมือง ห้ามแสดงออกทั้งการให้สัมภาษณ์หรือเขียน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สั่งฟ้อง หากทำผิดเงื่อนไขอีกคงเข้าข่ายละเมิดคำสั่ง คสช.จะต้องโทษจำคุก 2 ปี ทั้งนี้การถูกควบคุมตัวในครั้งที่ 2 เจ้าหน้าที่อ้างว่าตนโพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์ คสช. เข้าข่ายการยั่วยุปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก หลังจากนี้ตนจะทำหน้าที่ผลิตวารสารฟ้าเดียวกันต่อไป เนื้อหาต้องไม่หลุดกรอบจากคำสั่ง คสช. 

กกต.สวนปชป.-ปมส.ส.2 สมัย
     ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. กล่าวกรณีพรรคประชาธิปัตย์และนักวิชาการวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอการแก้ไขปัญหาการปฏิรูปการเลือกตั้งของกกต. โดยเฉพาะประเด็นการให้ ส.ส.ดำรงตำแหน่งได้แค่ 2 วาระหรือ 8 ปี ว่า กกต.เคารพและน้อมรับทุกข้อคิดเห็น แต่ที่ กกต.มีข้อเสนอดังกล่าวเป็นการรวบรวมจากประสบการณ์การจัดการเลือกตั้งมากกว่า 16 ปี ไม่ใช่เสนอไปตามสิ่งที่คสช.ต้องการจะเห็น และเห็นว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาการสืบทอดอำนาจทางการเมืองได้ 
      นายภุชงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็เคยเสนอแก้ไขกฎหมายไม่ให้นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำรงตำแหน่งต่อเนื่องกันเกินกว่า 2 วาระ เรื่องดังกล่าวกกต.จึงไม่ขอโต้แย้ง และอยากให้ทุกคนที่มองโลกในแง่ดีและเป็นนักการเมืองมาหลายสมัยได้เสียสละเวลารวบรวมความคิดและเขียนส่งความคิดเห็นดังกล่าวไปให้กับสภาปฏิรูป ที่พร้อมจะรับความคิดเห็นจากทุกฝ่าย 
     เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ข้อเสนอนี้เป็นเพียง 1 ใน 4 ที่กกต.ได้รวบรวมตอบโจทย์ 6 ข้อที่คณะทำงานด้านการปฏิรูปของคสช.ให้มาโดยมีเนื้อหาจำนวน 20 หน้า การหลุดไปเพียงเท่านี้กกต.ก็โดนกระหน่ำ แต่ของจริงคือรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่กกต.ดูแลอยู่รวม 5 ฉบับ ซึ่งกกต.จะพิจารณาเฉพาะที่กกต.มีอำนาจและมีหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด ในระดับสำนักงานจะเริ่มพิจารณาสัปดาห์เป็นการพิจารณาทุกวันจนกว่าจะเรียบร้อยเพื่อจะได้แล้วเสร็จโดยเร็ว

ถกมท.ปรับข้อมูลผู้มีสิทธิ์
     นายภุชงค์ กล่าวว่า การให้ข้อมูลกับคณะปฏิรูปครั้งนี้เป็นเพียงการรวบรวมปัญหาและข้อเสนอแนะ ไม่ได้มีการฟันธงใดๆ และกระแสที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็ไม่ได้มีในแง่ลบด้านเดียวแต่ก็มีในด้านบวก ซึ่งกกต.ก็เข้าใจว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับสภาปฏิรูป ในส่วนของ กกต.ได้ส่งข้อเสนอไปยังคสช.แล้วหลังประธานกกต.ลงนาม
    นายภุชงค์ เผยถึงการเข้าหารือกับปลัดกระทรวงมหาดไทยเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันว่า ไปขอบคุณที่มหาดไทยสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นที่ผ่านมา และหารือกรณีท้องถิ่นโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งของเทศบาลตำบลโคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้มา 3 ปีแล้ว เพราะมีการประกาศเขตปกครองทับซ้อนกัน รวมถึงการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เทศบาลต.จอหอ จ.นครราช สีมา และเทศบาล ต.นาหว้า จ.นครพนม ที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้จากกรณีเดียวกัน ทำให้ปลัดเทศบาลต้องรักษาการ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาหนึ่งหมู่บ้านมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพียง 1-2 คน โดยพบว่ามีหมู่บ้าน 28 แห่งใน 17 จังหวัดที่มีปัญหาดังกล่าวทำให้จัดเลือกตั้งไม่ได้ 
     เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ยังพูดคุยถึงการจะร่วมกันระหว่างกกต.กับกรมการปกครอง เพื่อจัดทำทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยจะปรับข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้เป็นปัจจุบันในทุกปีไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ และจะเสนอแก้ไขกฎหมายทั้งคุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น ให้มีชื่อในทะเบียนบ้านในระยะเวลาเท่ากัน เช่น ไม่น้อยกว่า 1 ปีเหมือนกัน โดยยึดการใช้สิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งส.ส. เมื่อวันที่ 2 ก.พ. และการเลือกตั้งส.ว.เมื่อวันที่ 30 มี.ค.เป็นฐาน รวมทั้งมีความเป็นไปได้ที่ในอนาคตจะมีการจัดทำสำมะโนประชากร

ปชป.จี้กกต.แก้เลือกตั้งท้องถิ่น 
      เวลา 10.25 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายถวิล ไพรสณฑ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงกรณีม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกฯ เรียกร้องสังคมคิดให้รอบคอบในข้อเสนอให้เลือกตั้งผู้ว่าฯทั่วประเทศโดยไม่ยึดโยงกับรัฐบาลว่า ตนไม่เห็นด้วย มั่นใจว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯไม่ทำให้ขาดการยึดโยงกับรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลยังสั่งการนโยบายเพื่อประชาชนได้ และรัฐบาลยังมีอำนาจเหนือท้องถิ่นเหมือนเดิม ในต่างประเทศก็เลือกตั้งผู้ว่าฯเช่นกัน และที่ผ่านมาการแต่งตั้งผู้ว่าฯจากส่วนกลางจะพบปัญหาล่าช้า กว่าจะเสร็จต้องผ่านหลายขั้นตอน 
    นายถวิล กล่าวว่า ขอเรียกร้องคสช. เร่งตัดสินใจแก้ปัญหากรณีสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น เทศบาล รวมถึงสมาชิกสภาเขต (ส.ข.)และสมาชิกสภากทม. (ส.ก.) หมดวาระและทยอยหมดวาระลงเกือบทั้งหมดในช่วง 1 ปีกว่าที่ยังไม่มีรัฐธรรมนูญ กทม.มีส.ก.ที่หมดวาระไปนานแล้ว 14 เขต จนบัดนี้ยังไม่มีการเลือกตั้ง เนื่องจากคสช.ประกาศใช้กฎอัยการศึก ห้ามชุมนุมจึงไม่สามารถหาเสียงได้ ที่สำคัญวันที่ 28 ก.ค. ทั้ง ส.ก.และส.ข.ชุดใหญ่จะหมดวาระลง จะกระทบทำให้ไม่มีงบประมาณบริหารท้องถิ่น เพราะเดือนส.ค.-ก.ย.เป็นช่วงจัดทำงบประมาณ ที่ต้องผ่านการพิจารณาของสภากทม.
      นายถวิล กล่าวว่า เรื่องนี้กกต.และกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงแต่ไม่ยอมออกมาพูด อยากให้คสช.เร่งแก้ปัญหานี้โดยด่วน ขอเสนอ 2 ทางออก 1.ให้คสช.ออกคำสั่ง งดบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นบางมาตรา และให้ผู้ที่หมดวาระลงรักษาการไปก่อนจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ และ 2.คสช.อาจออกคำสั่งแต่งตั้งโดยการสรรหาเป็นการชั่วคราว ซึ่งตนไม่เห็นด้วย แต่ถ้าจะทำเมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรแล้วก็ต้องให้มีการเลือกตั้งทันที

บิ๊กตู่ ถกซูเปอร์บอร์ด 
     เวลา 14.00 น. ที่บก.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้าคสช.ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือ ซูเปอร์บอร์ด เป็นประธานการประชุมซูเปอร์บอร์ดเป็นครั้งแรก เพื่อกำหนดนโยบายร่วมกันในการบริหารงานของรัฐวิสาหกิจ และรายงานความคืบหน้าการพิจารณาโครงการลงทุนมูลค่าเกินกว่า 100 ล้านบาทของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งการวางกรอบรัฐวิสาหกิจทั้งคณะกรรมการ ค่าตอบแทนและโบนัส ซึ่งมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้าคสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ เข้าร่วมประชุมด้วย
     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ซูเปอร์บอร์ดจะทำหน้าที่สร้างความไว้วางใจให้กับประชาชน เพราะการทำงานของรัฐวิสาหกิจจะกระทบกับประชาชนส่วนใหญ่ ดังนั้น การทำงานต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้และร่วมกันแก้ปัญหาที่เป็นข้อบกพร่องของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด อย่างไรก็ตาม อาจแทรกงานด้านความมั่นคงเข้าไปในหน่วยงานต่างๆ ของรัฐวิสาหกิจ เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่เออีซี
      ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกุลิศ สมบัติศิริ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐ วิสาหกิจ (สคร.) แถลงหลังการประชุมซูเปอร์บอร์ดว่า ที่ประชุมสั่งการให้ สคร. หารือร่วมกับคณะกรรมการกฤษฎีกาทบทวนแก้ไขกฎหมายหลายฉบับซึ่งใช้มานาน ไม่ทันสมัย ต้องแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารงานของรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ยังให้ สคร.ศึกษาพัฒนาระบบจัดซื้อจัดจ้าง นำรูปแบบของสถาบันต่างประเทศมาปรับใช้เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างโปร่งใส 

โยนบอร์ดใหม่ชี้ขาดโบนัส
     นายกุลิศ กล่าวว่า ที่ประชุมยังตั้งอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ 3 ชุด ประกอบด้วย 1.อนุกรรม การด้านการฟื้นฟู การปรับปรุงกิจการ และการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหาส่งแผนการฟื้นฟูองค์กรมาให้พิจารณา โดยจะพิจารณาความสามารถและแผนงานที่เสนอ จากนั้นจะเสนอคสช.พิจารณา 2.อนุกรรมการด้านกำหนดทิศทางการทำงานของรัฐวิสาหกิจ เพื่อพิจารณาแนวทางการบริหารงานควรเป็นอย่างไร มีแนวทางปรับองค์กรรองรับการแข่งขันอย่างไรบ้างเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การทำงานของรัฐวิสาหกิจ 3.อนุกรรมการด้านกำกับดูแล การตรวจสอบภายใน เมื่อพิจารณาแผนงานด้านต่างๆ แล้วจะเสนอคนร.พิจารณา คาดว่าแต่งตั้งได้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า 
    ผอ.สคร. กล่าวว่า คนร.จะประชุมประจำทุกเดือน ส่วนการพิจารณาสิทธิประโยชน์ของบอร์ดรัฐวิสาหกิจนั้น จะให้บอร์ดที่ตั้งเข้าไปใหม่พิจารณาสิทธิประโยชน์เองตามความเหมาะสม ส่วนการพิจารณาแผนการลงทุนเกิน 100 ล้านบาท เป็นหน้าที่ดูแลของสำนักงานสคร. อยู่ระหว่างการยกร่างระเบียบ เพื่อให้รัฐวิสาหกิจเสนอให้พิจารณาเพื่อเดินหน้าการลงทุน หลังผ่านการพิจารณาแผนลงทุนจากขั้นตอนต่างๆ แล้ว

บอร์ด'อภ.'ไขก๊อก 
     นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม เผยว่า เพื่อสนองนโยบายการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานรัฐ วิสาหกิจของคสช. คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม(อภ.) จึงประกาศลาออกจากตำแหน่ง 10 คนประกอบด้วย 1.นพ.สุพรรณ ศรีธรรมา อธิบดีกรมการแพทย์ 2.นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา 3.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย 4.นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ 5.นพ.สมชัย นิจพานิช 6.นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย 7.พล.อ.สหชาติ พิพิธกุล 8.น.ส.อัจนา ไวความดี 9.ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว และ10.นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ประธานบอร์ด โดยจะยื่นหนังสือลาออกวันที่ 10 ก.ค. และมีผลในวันเดียวกัน ยืนยันว่าการลาออกครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการยื่นข้อเรียกร้องของ 8 เครือข่ายองค์กรสุขภาพ ร้องคสช.ให้ปลดบอร์ดและผอ.อภ. กล่าวหาส่อทุจริตโรงงานผลิตยาแห่งใหม่
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บอร์ดอภ.มี 12 คน โดยทั้ง 10 คนที่ยื่นใบลาออกเป็นการลาออกโดยอิสระ สำหรับกรรมการที่ยังเหลืออยู่คือ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นคณะกรรมการโดยการแต่งตั้ง และนพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผอ.อภ. ซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง

เล็งขยับราคาหวย 81-90บาท
     นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เผยว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. มอบหมายนโยบายให้คณะกรรมการสลากฯ เร่งศึกษาและกำหนดราคาขายตามราคาที่ระบุบนหน้าสลาก เป็นไปได้ว่าจะปรับราคาหน้าสลากใหม่ให้สอดคล้องความเป็นจริงและเหมาะสม หากไม่สามารถขายที่ราคา 80 บาทต่อฉบับได้ อาจปรับเพิ่มขึ้นเป็น 81-90 บาท ซึ่งเป็นอำนาจของคณะกรรมการสลากฯ ตามที่ พ.ร.บ.สลาก 2517 ซึ่งดำเนินการได้ทันที
       นายสมชัย กล่าวว่า คสช.ยังมอบให้ พล.อ.ฉัตรชัย ดูแลสำนักงานสลากฯ กำกับนโยบายและการคัดสรรผอ.สำนักงานสลากฯ คาดว่าการสรรหาจะเสร็จภายใน 1 เดือน หากได้ตัวผอ.สำนักงานสลากฯแล้วจะเรียกประชุมบอร์ดเพื่อเดินหน้าเรื่องดังกล่าวทันที สำหรับสลากที่ครบอายุต่อสัญญาก็จะไม่ต่อสัญญา โดยดูว่าจะจัดสรรใหม่อย่างไร ระหว่างนี้ให้เจ้าหน้าที่ศึกษาข้อมูลการจัดสรรโควตาสลากใหม่ แต่ยังไม่ฟันธงว่าจะยกเลิกโควตาหรือไม่ เนื่องจากการมีโควตา ถือว่ามีประโยชน์ เพราะการพิมพ์แต่ละงวดจะมีเบอร์ที่ไม่มีใครซื้อกว่า 7-10% เช่น 000000, 777777 อย่างไรก็ดี คณะกรรมการจะพิจารณาเพื่อให้การจัดสรรสลาก ถึงมือผู้ที่ขายสลากอย่างแท้จริง จะได้ขายสลากตามราคาที่ระบุบนหน้าสลากได้

ทำเนียบทำพิธีปัดรังควาน
      รายงานข่าวจากสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ (สปน.) แจ้งว่า จากกรณีพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช.ฝ่ายกิจการพิเศษเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในทำเนียบรัฐบาล สั่งการให้ตั้งหัวหน้าคณะทำงานดูแลอาคารสถานที่ เตรียมความพร้อมรับรัฐบาลที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบ รวมถึงสถานที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ บ้านพิษณุโลก และที่บ้านมนังคศิลา กำหนดให้เสร็จภายใน 2 เดือน และมีการเสนอจากข้าราชการให้ประกอบพิธีบวงสรวงท่านท้าวมหาพรหม เพื่อปัดรังควานสิ่งไม่ดีให้พ้นไปจากทำเนียบนั้น ล่าสุด มอบให้ สปน.จัดพิธีบวงสรวงสักการบูชาท้าวมหาพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบในวันที่ 14 ก.ค. เวลา 11.45 น. โดยเชิญพระราชครูวามเทพมุนี (พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ) ประธานพระครูพราหมณ์ เป็นผู้ประกอบพิธี ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทั้งนี้ ในงานพิธีบวงสรวงได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานราชการและลูกจ้างของทุกส่วนราชการที่ปฏิบัติงานในทำเนียบเข้าร่วมพิธี


ขอบคุณ - นางสาโรจน์ ธราทิน มารดานายสุทิน ธราทิน แกนนำกคป. เข้ามอบดอกไม้ขอบคุณพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. ภายหลังตำรวจจับกุมนายสุรกริช ชัยมงคล (รูปเล็ก) ผู้ต้องสงสัยยิงนายสุทิน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 9 ก.ค.


ชาวบ้านแห่ร้องหัวหน้าคสช. 
     บรรยากาศที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล มีประชาชนจากกลุ่มต่างๆ เข้ายื่นร้องเรียนหัวหน้า คสช. จำนวนมาก เวลา 09.20 น. เครือข่ายเกษตรกรเพื่อเกษตรกรรมก้าวหน้าและยั่งยืน จ.สงขลา นำโดย นายกาจบัณฑิต รามมาก ประธานเครือข่าย ยื่นขอให้ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงกุ้งกุลาดำกับบริษัทเอกชนตั้งแต่ปี 2531 แต่ถูกฉ้อโกง ร้องขอให้คสช. ตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ผู้บริหารบริษัทเอกชนที่ฉ้อโกง และสนับสนุนงบกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรรับซื้อที่ดินจากธนาคารนำมาให้เกษตรกรที่ต้องการซื้อคืน ราคาร้อยละ 40 ของราคาที่กองทุนซื้อมา
      เวลา 10.30 น. กลุ่มประชาชนจากต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา นำโดยนายโกมินทร์ ณีลวงษ์ ผู้ใหญ่บ้านต.เกาะขนุน ยื่นคัดค้านการออกใบอนุญาตให้ก่อสร้าง โรงไฟฟ้าและใบอนุญาตประกอบกิจการ โรงไฟฟ้าของบริษัทแอ๊ดวานซ์ อะโกรเอเชีย จำกัด เนื่องจากเป็นพื้นที่อนุรักษ์ชนบท และเกษตรกรรมตามประกาศผังเมืองรวมจ.ฉะเชิงเทรา และเป็นเขตชุมชนและอยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำ 

ผู้ค้าสลากฯ ค้านขายด้วยเครื่อง 
      เวลา 14.30 น. นายณัฏฐชัย อักษรดิฐ นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย พร้อมสมาชิกสมาคม ร้องขอให้ระงับโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านการรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ของ กสทช. โดยการแจกคูปองทีวีดิจิตอล ขอให้ตรวจสอบการแจกคูปองเนื่องจากใช้งบจำนวนมากแต่ขาดหลักการและทำให้ประชาชนไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร ที่ระบุว่าจะแจกจ่ายให้ 25 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศเพื่อความเท่าเทียมและเพิ่มมูลค่าคูปองเป็น 1,000 บาท จากเดิม 690 บาท ขั้นตอนนี้ยังไม่ชัดเจนจึงขอให้เร่งตรวจสอบโดยเร็ว
      จากนั้นนายทศพล ฉิมอ่อน นายกสมาคมผู้ค้าสลากเลขท้าย พร้อมตัวแทนผู้ค้าสลากฯ ขอความเป็นธรรมการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการลงทุนในโครงการจำหน่ายสลากด้วยเครื่องจำหน่าย ในการซักซ้อมและเตรียมความพร้อมถึง 3 ครั้งตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2549 และเช่าสถานที่ติดตั้งเครื่องจำหน่าย จ้างพนักงานจำหน่ายรวมทั้งส่งพนักงานเข้าอบรม จึงขอให้คสช.ทบทวนการจำหน่ายสลากด้วยเครื่องจำหน่าย 

พท.โวยทหารร่วมเทศกิจรีดไถ
     นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากตัวแทนวินรถจักยานยนต์รับจ้างในซอยบางกระดี่ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน เย็นวันที่ 8 ก.ค. มีทหาร 6 นายพร้อมเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตบางขุนเทียนเข้า รื้อถอนเต็นท์ที่พักผู้โดยสาร หน้าตลาดสดปากทางถ.บางกระดี่ ตนโทรศัพท์สอบถามผบ.หน่วยที่รับผิดชอบ ชี้แจงว่าเข้าตรวจพื้นที่จริงและจุดดังกล่าวมีเต็นท์วางอยู่จึงเจรจาขอให้ขยับเข้าไปข้างใน 1-2 เมตร ไม่ได้สั่งให้รื้อถอน
     นายพิพัฒน์ชัย กล่าวว่า ตัวแทนวินบอกว่าเต็นท์ไม่ได้กีดขวางทางเดิน รู้สึกน้อยใจเพราะแม่ค้าวางโต๊ะเก้าอี้ขายของจนไม่มีทางเดิน เทศกิจกลับปล่อยให้ขายได้ จึงอยากฝากคสช.ว่าถ้าจะจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์แล้ว อยากฝากจัดระเบียบเจ้าหน้าที่ที่ชอบรีดไถสร้างอิทธิพลด้วย

ป.ป.ช.เล็งขยายอายุความคดีโกง
      เวลา 10.30 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงแนวทางการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระหว่างคสช.กับป.ป.ช.ว่า มีความร่วมมือกันหลายเรื่อง โดยป.ป.ช.จะเสนอและผลักดันกฎหมายต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานซึ่งมีการประสานงานกันอยู่ อาทิ เรื่องอนุมัติกฎหมายให้เป็นไปตามสนธิสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ซึ่งเป็นกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ กฎหมายอายุความคดีทุจริต กฎหมายติดตามทรัพย์สินคืน จะอาศัยช่วงนี้เสนอคสช. เพื่อแก้ไขในชั้น สนช. 
       นายปานเทพ กล่าวว่า ส่วนอายุความคดีทุจริตส่วนตัวเห็นว่ายังต้องมีอยู่ แต่อาจยืดเวลาออกไปเพื่อให้เหมาะสมและป้องกันไม่ให้ผู้ที่กระทำความผิดใช้ช่องว่างของกฎหมาย ทั้งนี้ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีอายุความ 15 ปี ซึ่งไม่มากนัก ส่วนมาตรา 151 มีอายุความ 20 ปี โดยจะขอเสนอให้ขยายอายุความไปถึง 30 ปี

สัปดาห์หน้าถก'ปู'ขอเพิ่มพยาน
     นายปานเทพกล่าวว่า ส่วนเรื่องโครงการข้าว คสช.ร่วมมือดีมาก ได้ตั้งอนุกรรมการมาดูแลหลายเรื่อง เช่น อนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวโดยป.ป.ช.เข้าไปร่วมด้วย ยังมีอนุกรรมการตรวจสอบสต๊อกข้าว ซึ่งคสช.ประสานให้ป.ป.ช.เป็นผู้สังเกตการณ์ ฉะนั้น การตรวจสอบในต่างจังหวัด ป.ป.ช. ให้สำนักงานป.ป.ช.จังหวัดร่วมด้วย หากพบทุจริตเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องด้วย คสช.ก็ส่ง ให้ป.ป.ช.ดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้ ป.ป.ช.จะลงพื้นที่ตรวจสต๊อกข้าวในส่วนที่มีการร้องต่อป.ป.ช. ซึ่งอาจต้องร่วมมือกับคสช.
     นายปานเทพ กล่าวว่า ส่วนที่ทนายของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยื่นขอไต่สวนพยานเพิ่มเติมในคดีทุจริตจำนำข้าวจำนวน 8 ปากนั้น ที่ประชุมป.ป.ช.เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมายังพิจารณาไม่จบ จะพิจารณาสัปดาห์หน้าอีกครั้งเนื่องจากเพิ่งยื่นเรื่องมา

ปนัดดาลงตรวจข้าวอยุธยา 
     บรรยากาศการตรวจสต๊อกข้าวในต่างจังหวัด ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นางประภาศรี บุญวิเศษ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯ พร้อมคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ลงพื้นที่พื้นที่ ต.สนับทึบ อ.วังน้อย ตรวจสอบโกดังข้าว 3 จุด คือโกดังพีพีแอนด์พี หลัง 3 และหลัง 1 A ชนิดปลายข้าว ไม่พบสิ่งผิดปกติ จุดที่ 3 โกดังเพชรรุ่งเรือง พืชผล หลัง 3 เป็นชนิดข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ 857 กระสอบ พบผังการเก็บข้าวไม่ตรงกับบัญชีและข้อมูลการรมยาไม่เป็นปัจจุบัน มีข้าวจำนวนมากถูกมอดกินเสียหาย ผู้ดูแลให้ข้อมูลว่าโกดังเพิ่งจะรมยาเมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่ยังพบมีมอดจำนวนมากกัดกินต้องเสนอให้รมยาใหม่ 
      คณะทำงานตรวจสอบไปแล้ว 6 โกดังจาก 14 โกดัง วันที่ 10 ก.ค. นี้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกฯ พร้อมรองแม่ทัพภาคที่ 1 จะลงพื้นที่สังเกตการณ์การตรวจสอบโกดังข้าวของศิริอโยธยา หลัง 1 ต.พระแก้ว อ.ภาชี 

บุรีรัมย์พบข้าวเสื่อมสภาพ 
     จ.บุรีรัมย์ เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่จังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอนางรอง เจ้าหน้าที่องค์กรการคลังสินค้า (อคส.) และตัวแทนบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าวหรือเซอร์เวเยอร์ ร่วมกันตรวจสอบการขนย้ายข้าวสารชนิดปลายข้าวหอมมะลิ (เอวันเลิศ) ออกจากคลังสินค้า เลขที่ 808 ต.นางรอง พบมีข้าวสารเสื่อมสภาพที่ถูกคัดแยกไว้เนื่องจากไม่ผ่านเกณฑ์การส่งออกแล้วกว่า 3,000 กระสอบ จากที่ตรวจนับเพื่อขนย้ายเพียง 5,000 กระสอบ คาดว่าจะมีข้าวเสื่อมสภาพไม่ต่ำกว่า 10,000 กระสอบ จากที่มีข้าวสารตามบัญชีในโกดังกลาง 41,349 กระสอบ 
      นายสมชาย ลาบฤทธิเดช ตัวแทนเซอร์ เวเยอร์ ระบุว่า สาเหตุที่ข้าวสารในโกดังกลางเสื่อมสภาพ เนื่องจากเก็บไว้นานกว่า 2 ปี แต่ไม่มีการระบายออก ซึ่งอคส.จะบันทึกรายงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

พบพิรุธกระสอบข้าว
     นายพงษ์ชัย เกษมทวีศักดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะทำงาน ชุดที่ 41 เผยหลังเข้าตรวจสอบโกดังกลาง คลังประทีปซีเมนต์บล็อก เลขที่ 133 ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ที่มีการร้องเรียนกองปราบปรามและแจ้งความไว้แล้วว่ามีปัญหาข้าวขาดหายกว่า 100 ตันว่า จากการตรวจนับเบื้องต้นพบข้าวสารขาดหายจริงมากกว่า 1,000 กระสอบ พบพิรุธกระสอบบรรจุข้าวไม่มีตรารหัสถูกต้องตามบัญชีหน้ากองอีกจำนวนมาก คาดว่าหากตรวจนับเสร็จอาจพบข้าวขาดหายเพิ่มอีก จะมอบให้อคส.แจ้งความร้องทุกข์ พร้อมทำบันทึกรายงานส่งกองทัพภาค 2 และสำนักนายกฯทราบ เพื่อสั่งการให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

อุบลฯ-พิจิตรข้าวหาย 
     จ.อุบลราชธานี คณะทำงานฯ ชุดที่ 43 และ ชุดที่ 44 ตรวจข้าวในความดูแลของ อคส. และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) รวม 41 โกดังในพื้นที่ 8 อำเภอ จำนวน 3,568,122 กระสอบ หรือกว่า 3.5 แสนตัน เริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. เป็นต้นมา ตรวจนับปริมาณข้าวไปได้ 30 เปอร์เซ็นต์ ล่าสุด พบข้าวหอมมะลิ 100 เปอร์เซ็นต์ ชั้น 2 ในความรับผิดชอบของ อ.ต.ก.หายไปจากโกดังโรงสีห้างหุ้นส่วนจำกัดพรเจริญทวีโชค อ.พิบูลมังสาหาร จำนวน 688 กระสอบ หรือ 68,749 กิโลกรัม
     นายปิ่นชัย ปิ่นแก้ว ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ประธานคณะตรวจสอบฯ ชุดที่ 84 พร้อมด้วยคณะ เดินทางมาตรวจไซโล บริษัท เคทีบีอะโกร จำกัด หมู่ที่ 3 ต.หอไก อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ซึ่งอยู่ในความดูแลของ อคส. เป็นวันที่ 3 หลังจาก 2 วันที่ผ่านมาตรวจพบไซโลที่ 2,3,4,5 ข้าวหายถึง 11,743 ตัน โดยครั้งนี้ตรวจไซไลที่ 6 และ 9 พบข้าวในไซโลที่ 6 แจ้งข้าวในบัญชีไว้ 11,980 ตัน พบว่าข้าวหายไป 3,377 ตัน ไซโลที่ 9 แจ้งไว้ 12,000 ตัน ข้าวหายไป 522 ตัน รวม 3,899 ตัน ทั้งนี้ ตรวจไซโลของบริษัท เคทีบีอะโกร จำกัด ไปแล้ว 10 ไซโล ข้าวหาย 30,641 ตัน ยังเหลืออีก 7 ไซโลที่ต้องตรวจ

รับฟ้อง'นพดล'ปมเอกยุทธ์
      เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 803 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งคดี อ.3000/2556 ที่ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนาย ความกลุ่มพันธมิตรฯ และอดีตทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดังที่ถูกอุ้มฆ่าเสียชีวิต พร้อม น.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายนพดล ปัทมะ ทนายความพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) จากกรณีวันที่ 15-16 ส.ค.2556 จำเลยโพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหาหมิ่นประมาทโจทก์ทำนองว่า กุเรื่องบิดเบือน ใช้จินตนาการเพื่อใส่ร้ายพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังการสังหารนายเอกยุทธ และเป็นทนายตัวอย่างที่เลว นำเรื่องความเท็จมาเพื่อใส่ร้ายคนอื่นเพื่อ หวังผลทางการเมือง ทำให้โจทก์เสื่อมเสีย ชื่อเสียง
      ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยเขียนข้อความเผยแพร่สู่สาธารณะผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ซึ่งบุคคลทั่วไปเข้าไปอ่านได้อย่างอิสระ พยานหลักฐานในชั้นนี้จึงมีมูลเพียงพอรับคดีไว้พิจารณา โดยนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 1 ก.ย. เวลา 09.00 น.

คสช.กำหนดเงื่อนไขออกอากาศ
      เมื่อเวลา 21.30 น. คสช.ออกประกาศฉบับที่ 79/2557 เรื่อง เงื่อนไขในการออกอากาศของสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ ตามที่มีประกาศ คสช.ฉบับที่ 66/2557 กำหนดให้สถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการออกอากาศต่อไปได้ตามปกติ เมื่อได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วนั้น เพื่อให้การดำเนินการชัดเจน และเผยแพร่ข่าวสารสู่ประชาชนถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือนหรือก่อให้เกิดความแตกแยก จึงประกาศให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงที่ใช้เครื่องส่ง ต้องผ่านการตรวจสอบและตามมาตรฐานทางเทคนิคตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต้องไม่เผยแพร่ข้อมูลที่มีเนื้อหาขัดต่อกฎหมายและประกาศคสช. กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ให้เจ้าหน้าที่สั่งระงับการกระทำหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ใช้ในการกระทำนั้นภายในเวลาที่กำหนด หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้เพิกถอนการอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและให้ยุติการออกอากาศทันที

ตั้งกก.บริหารกองทุนคลื่นความถี่
      ประกาศ คสช.ฉบับที่ 80/2557 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 เพื่อให้การกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ และการบริหารเงินที่ได้จากการประมูลคลื่นความถี่ เพื่อกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์ต่อรัฐอย่างสูงสุด มีเนื้อหาสำคัญให้ตั้งณะกรรมการบริหารกองทุน ประกอบด้วย ประธาน กสทช. เป็นประธานกรรมการ ปลัดสำนักนายกฯ ปลัดกระทรวงกลาโหม เลขาธิการศสช. ผอ.สำนักงบประมาณ อธิบดีกรมบัญชีกลาง และผอ.ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน เลขาธิการ กสทช.เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้เลขาธิการ กสทช.แต่งตั้งพนักงานของสำนักงาน กสทช.เป็นผู้ช่วยเลขานุการ 
      กรรมการมีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี และอาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้ แต่ติดต่อกันเกิน 2 วาระมิได้ และเงินที่ได้จากการประมูลตามมาตรา 41 วรรคหก ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ หากยังมิได้นำส่งเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

นักศึกษามธ.ค้านสอบอั้มเนโกะ 
     เวลา 11.00 น. วันที่ 9 ก.ค.ที่กองกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักศึกษาจากกลุ่มสภาหน้าโดม ศูนย์นิสิตนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย (ศนปท.) ยื่นหนังสือคัดค้านการตั้งคณะกรรมการสอบสวน นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรืออั้ม เนโกะ ตามคำสั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตที่ 060/2557 เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ถึงนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและการเรียนรู้ ปฏิบัติราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผ่านเจ้าหน้าที่กองกิจการนักศึกษา 
     หนังสือชระบุ กระบวนการสอบสวนไม่ใช่หน้าที่ของมหาวิทยาลัย เนื่องจากนายศรัณย์แสดงความเห็นทางการเมืองผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หากสอบสวนต่อไปจะถือว่าแทรกแซงการใช้เสรีภาพส่วนบุคคลและดูเป็นการกลั่นแกล้ง เนื่องจากการแสดงความเห็นของนายศรัณย์ ทำให้ขั้วการเมืองบางกลุ่มไม่พอใจ นำไปสู่การร้องเรียนให้มหาวิทยาลัยตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ อีกทั้งคณะกรรมการสอบสวนบางคนมีพฤติการณ์เป็นคู่ขัดแย้งทางการเมืองกับ นายศรัณย์ ซึ่งจะทำให้กระบวนการพิจารณาไม่เป็นธรรมจึงไม่เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เนื่องจากการแสดงออกดังกล่าวเป็นเรื่องเสรีภาพส่วนบุคคล ไม่ได้นำ ชื่อมหาวิทยาลัยไปใช้ หากการแสดงออกนั้นเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายควรเป็นไปตามวิถีครรลองตามกฎหมาย 
      นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า ตนทำหนังสือค้านในนามส่วนตัวก่อนแล้วจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับเพื่อนในกลุ่มอีกครั้ง การตั้งกรรมการสอบมาจากการร้องเรียนของขั้วการเมืองกลุ่มที่เป็นศิษย์เก่า และกรรมการก็ไม่มีตัวแทนนักศึกษาจากอุปนายกองค์การนักศึกษา มธ. หรือประธานสภานักศึกษา มธ.

รวบ'ทอม ดันดี'หมิ่นเบื้องสูง 
      เวลา 18.00 น. วันที่ 9 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบดูแลงานด้านความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา ผบก.ปอท. พ.ต.อ.สมพร แดงดี รองผบก.ปอท. แถลงข่าวการจับกุมตัวนายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือ ทอม ดันดี ผู้ต้องหาซึ่งมีหมายจับ 2 หมาย คือหมายจับของศาลทหารกรุงเทพ ที่ 106/2557 ลงวันที่ 7 ก.ค.2557 และหมายจับของศาลอาญา ที่ 1152/2557 ลงวันที่ 7 ก.ค.2557 ความผิดฐานหมิ่นสถาบันและนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมูลเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1) โดยพ.ต.อ.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบก.ปอท. และตำรวจ บก.ปอท. ร่วมกันจับกุมนายธานัท ได้เมื่อวันที่ 9 ก.ค.เวลา 14.00 น. ที่บ้านเลขที่ 84 ม.4 ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
      พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า นายธานัทปราศรัยหมิ่นสถาบันและเผยแพร่คลิปลงในเว็บไซต์ ยูทูบ คลิปแรกปราศรัยเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2556 ที่เรดการ์ดเรดิโอ คลิปที่สองปราศรัยวันที่ 13 พ.ย.2556 เวทีวงเวียนหลักสี่ เขตบางเขน กรุงเทพฯ พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ขออนุมัติต่อศาลทหารกรุงเทพ และศาลอาญา ออกหมายจับนายธานัท ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เบื้องต้นชัดเจนว่านายธานัทเป็นคนพูดปราศรัย ซึ่งจะสอบสวนขยายผลไปยังบุคคลที่อัพคลิปลงยูทูบ ซึ่งผบก.ปอท. จะนำตัวนายธานัท ไปสืบสวนก่อนส่งให้ศาลทหารต่อไป ส่วนกรณีอื่นๆ ที่มีการกระทำความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตนมอบให้ ผบก.ปอท. เร่งตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว 
      ด้านนายธานัท กล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นคนกล่าวปราศรัยจริงแต่การโพสต์ลงยูทูบยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนโพสต์เพราะใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น 

ตร.แถลงจับมือยิงแกนนำกปค.
      วันที่ 9 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินางสาโรจน์ ธาราทิน มารดานายสุทิน ธาราทิน แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) พร้อมนายทศพล แก้วทิมา แกนนำกคป. เข้าพบและมอบดอกไม้ขอบคุณพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และคณะพนักงานสอบสวน หลังออกหมายจับและจับกุมมือยิงนายสุทินได้ พร้อมนำหลักฐานยืนยัน นายธวัชชัย พรหมจันทร์ ที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 
     พล.ต.ท.ชัยยง เผยว่า ล่าสุด ตำรวจจับกุมนายสุรกริช ชัยมงคล ผู้ต้องหาร่วมกันยิงนายสุทิน เสียชีวิตระหว่างขึ้นรถปราศรัยต่อต้านการเลือกตั้ง ย่านบางนา ช่วงเหตุชุมนุมกปปส.ได้แล้ว โดยศาลอนุมัติหมายจับเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ตำรวจจับกุมได้ที่บ้านพักใน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พยานหลักฐานเชื่อได้ว่านายสุรกริช เป็นมือปืนที่ยิงนายสุทินแต่ยังให้การภาคเสธ รับเป็นเจ้าของอาวุธปืนแต่ไม่รับว่าเป็นคนยิง ตอนนี้ควบคุมตัวที่ตร. 
     ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวว่า การออกหมายจับเนื่องจากชุดสืบสวนตรวจสอบที่เกิดเหตุและนำภาพวงจรปิดภาพถ่ายที่มีมาดูซ้ำพบว่าวิถีการยิงจากข้างล่างขึ้นบน กระสุนเข้าทางใต้ราวนมขวาเฉียงขึ้นทะลุศีรษะ เป็นรูใหญ่ ตรวจสอบพบใช้อาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. ยิงระยะใกล้ไม่เกิน 20 เมตร จึงจำกัดวงคนร้ายต้องอยู่ในรัศมี 20 เมตรรอบตัวนายสุทิน จึงตัดคนที่อยู่นอกรัศมีออกได้ นอกจากนี้พบหัวกระสุน 2 หัวและปลอกกระสุน 4 ปลอก ขนาด 11 ม.ม.ทั้งหมด จึงนำไปตรวจเปรียบเทียบกับอาวุธปืนที่เคยใช้ก่อเหตุในระบบของตำรวจ ตรงกับปืนกระบอกหนึ่งซึ่งมีนายสุรกริชเป็นผู้ครอบครองและเคยถูกจับกุมข้อหาครอบครองอาวุธปืน จากนั้นตรวจสอบจากประจักษ์พยานซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บยืนยันภาพในที่เกิดเหตุว่าเห็นนายสุรกริช อยู่ในจุดเกิดเหตุระยะ 3 เมตร จึงขออนุมัติหมายจับและจับกุมได้ในวันนี้ เบื้องต้นเชื่อว่านายสุรกริช เป็นผู้ยิงนายสุทิน โดยการสืบสวนทราบว่านายสุรกริช เป็นกลุ่มแนวร่วมฝ่ายตรงข้ามของนายสุทินด้วย และขณะนี้ยังไม่มีการอนุมัติหมายจับเพิ่มเติม

กทม.เสียแชมป์เมืองท่องเที่ยว
      วันที่ 9 ก.ค. หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีตเจอร์นัลรายงานว่า มาสเตอร์การ์ด อินเด็กซ์ ออฟ โกลบอล เดสติเนชั่น ซิตีส์ เปิดเผยผลสำรวจสุดยอดเมืองท่องเที่ยวประจำปี 2557 จาก 132 เมืองทั่วโลกปรากฏว่า กรุงเทพฯ ซึ่งเพิ่งชนะกรุงลอนดอนของอังกฤษขึ้นเป็นสุดยอดเมืองท่องเที่ยวเมื่อปีก่อน เสียอันดับหนึ่งให้กับกรุงลอนดอนแล้วในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ไม่สงบทางการเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงร้อยละ 11 แต่ยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ขณะที่กรุงลอนดอนมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ส่วนอันดับสามคือกรุงปารีสของฝรั่งเศส
     มาสเตอร์การ์ด ระบุว่า ประเทศไทยเผชิญความไม่สงบทางการเมืองมานานหลายเดือนกระทั่งกองทัพนำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และรับหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ซึ่งเป็นการรัฐประหารครั้งที่ 12 ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของประเทศไทย
    มาสเตอร์การ์ด ประเมินว่า ปีนี้กรุงลอนดอนจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือน 18.7 ล้านคน และใช้จ่าย 19,300 ล้านดอลลาร์ หรือราว 617,600 ล้านบาท ขณะที่กรุงเทพฯ จะมีนักท่องเที่ยว มาเยือน 16.4 ล้านคน และใช้จ่ายราว 13,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 416,000 ล้านบาท

ปลัดบัวแก้วชี้แจงนิวยอร์กไทมส์
      วันที่ 9 ก.ค. ที่นครยิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่รมว.ต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมประชุมระดับสูงคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (ECOSOC) วันที่ 7-9 ก.ค. กล่าวถึงการพบปะกับ นางแครอล ไกอาโคโม บ.ก.ฝ่ายต่างประเทศ และนายไวกาส์ บาจจาจ์ บ.ก.ฝ่ายธุรกิจและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักข่าว เดอะนิวยอร์ก ไทมส์ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. (เวลาท้องถิ่น) ว่า ต่างประเทศมีมุมมองการยึดอำนาจในรูปแบบหนึ่ง ขณะที่เหตุการณ์วันที่ 22 พ.ค.เกิดขึ้นเพื่อรักษาประชาธิปไตยของไทยไม่ให้ล้มและเสริมสร้างประชาธิปไตยในระยะยาว ได้ให้ข้อมูลการดำเนินตามแผนแม่บท เช่น การปฏิรูปสภา ซึ่งจะสะท้อนความเห็นของทุกฝ่ายและนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 
      นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ไทยคงทำให้สหรัฐและประเทศตะวันตกเปลี่ยนมุมมองไม่ได้แต่อยากให้เขาเปิดมุมมอง ไม่ควรใช้บรรทัดฐานเดียวกันเนื่องจากสถานการณ์แต่ประเทศแตกต่างกัน และไทยเป็นเศรษฐกิจอันดับ 2 ของอาเซียน จึงอยากให้ตะวันตกคำนึงถึงความสัมพันธ์ระยะยาว นิวยอร์ก ไทมส์ สงสัยว่าเหตุการณ์ 22 พ.ค.จะแก้ปัญหาการเมืองไทยได้จริงหรือไม่ ในสายตาตะวันตกรับไม่ได้กับการยึดอำนาจ แต่กลับไม่คิดว่าหากไม่เกิดเหตุ วันที่ 22 พ.ค. อาจมีการนองเลือดมากกว่านี้ นอกจากนี้ มีการสอบถามตนถึงประเด็นค้ามนุษย์ ได้ชี้แจงว่าเราทำเต็มที่แล้วแต่ไทยไม่ได้รับเครดิตเพียงพอ เรามีคณะผู้แทนไทยไปหารือกับฝ่ายสหรัฐถือเป็นความพยายามที่เห็นได้ชัด 
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภารกิจวันที่ 9 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เดิมนายสีหศักดิ์ จะพบนายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แต่เลขาฯยูเอ็น ติดภารกิจ จึงจะพบกับนายจอห์น ดับเบิ้ลยู. อาเช่ ประธานการประชุมสมัชชาแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 68 นางซูซาน่า มัลคอร์ร่า Chef de cabinet to the Executive Office และนายมาร์ติน ซาจดิก ประธาน ECOSOC รวมทั้งพบปะกับชุมชนคนไทยด้วย

ตปท.ร่วมนั่งสภาปฏิรูป ทูตขอคสช. ปกป้องผลประโยชน์ศก.กกต.ชี้ยุคปชป.เคยทำ ให้นายกอปท.วาระ 2 ปี สีหศักดิ์รุกแจงสื่อนอก 10 บอร์ดอภ.ยื่นไขก๊อก บก.ฟ้าเดียวกันถึงบ้าน

      กกต.ถก มท.เล็งปรับรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้เท่ากันทั้งระดับชาติและท้องถิ่น สวน ปชป.เคยชงวาระ อปท. คสช.แจงทูตทหารเลือกตั้ง ต.ค.58 เผย ตปท.ขอร่วม ทำลายอาวุธ สภาปฏิรูป'หวั่นกระทบผลประโยชน์ ด้าน'สีหศักดิ์'บุกแจง'นิวยอร์กไทม์ส'

 

@ คสช.แจงทูตทหารเลือกตั้งต.ค.58

 

       เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.ปณต แสงเทียน เจ้ากรมข่าวทหารบก พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ด้านต่างประเทศ ร่วมชี้แจงทำความเข้าใจต่อผู้ช่วยทูตทหาร 20 ประเทศ ครั้งที่ 3 มีตัวแทน 5 ประเทศที่ไม่มีผู้ช่วยทูตทหาร แต่เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ได้แก่ อิสราเอล บังกลาเทศ บรูไน เนปาล ยูเครน

 

      พล.ต.ปณต กล่าวย้ำถึงโรดแมปของ คสช.ว่า ระยะที่ 1 การร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว จะทำคู่ขนานไปกับการแก้ไขปัญหาประเทศ โดยเดือนกรกฎาคม 2557 จะนำร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวนำขึ้นทูลเกล้าฯ และบังคับใช้ ระยะที่ 2 การจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) และการจัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาตินั้น แบ่งเป็นเดือนสิงหาคม เดือนกันยายนจะตั้ง สนช. ครม. และสรรหาสภาปฏิรูปแห่งชาติ ช่วงเดือนตุลาคมจัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ และเริ่มปฏิบัติหน้าที่ เดือนตุลาคม 2557 - กรกฎาคม 2558 สภาปฏิรูปแห่งชาติจะจัดทำข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร และเดือนกรกฎาคม 2558 รัฐธรรมนูญฉบับถาวรแล้วเสร็จ สำหรับระยะที่ 3 รัฐธรรมนูญฉบับถาวรมีผลบังคับใช้ จะแบ่งเป็นเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม 2558 จะบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวร จัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา และภายในปี 2558 จะเสร็จสิ้นทุกกระบวนการที่นำไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

 

@ เตือนงดจัดกิจกรรมการเมือง

 

     พล.ต.ปณต กล่าวว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่เป็นไปในลักษณะของการปลุกปั่น และไปกระทำการในต่างประเทศ ถือว่ามีข้อจำกัดในตัวเองอยู่แล้ว เพราะในหลายประเทศจะไม่ยอมให้ใครไปเคลื่อนไหวแบบนี้ อาจถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่นได้ ที่สำคัญยังเชื่อมั่นว่าผู้บริโภคข่าวสารส่วนใหญ่มีวิจารณญาณพอจะแยกแยะได้ คงไม่ได้ให้ความสำคัญหรือเชื่อถือทุกข้อมูลโดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดีย ไม่อยากให้ขยายผลสร้างกระแสเกินกว่าเหตุ ส่วนกรณีการออกหมายจับนายจักรภพ เพ็ญแข นักเคลื่อนไหวเครือข่ายกลุ่มเสื้อแดง ข้อหาเกี่ยวกับอาวุธสงคราม เป็นไปตามพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน ทั้งกรณีของนายจักรภพและการถอนหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตของกลุ่มเสื้อแดง 6 คน มีข้อจำกัดในการเปิดเผยข้อมูล เพราะทุกอย่างอยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยให้เห็นถึงขั้นตอนการกระทำความผิดของบุคคลนั้นๆ ได้ อีกทั้งไม่ต้องการให้เห็นภาพสังคมเกิดความแตกแยกจากความไม่เป็นธรรมอีกแล้ว

 

      "เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เชิญ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ และนายวีระ สมความคิด ไปจัดกิจกรรมเข้าข่ายเป็นกิจกรรมทางการเมืองมาทำความเข้าใจ และได้ปล่อยตัวไปแล้ว จึงขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมเข้าข่ายการเมืองในช่วงนี้ หากพบว่าไม่ได้ขออนุญาตจาก คสช.ก่อน เจ้าหน้าที่จะเชิญมาพบต่อไป" พล.ต.ปณตกล่าว

 

@ ทูตทหารขอร่วมทำลายอาวุธ

 

      พ.อ.วินธัย กล่าวชี้แจงว่า กรณีการออกหมายจับผู้ที่เคลื่อนไหวในต่างประเทศเป็นไปตามกฎหมาย แต่ คสช.ยังให้ความสำคัญกับการโฟกัสในประเทศเป็นหลัก พื้นที่ภายนอกประเทศยังไม่เห็นน้ำหนักที่ชัดเจน ทราบเพียงว่าผู้รับผิดชอบโดยตรงคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุดที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว ทาง คสช.จึงไม่ได้เพ่งเล็งหรือให้น้ำหนักในเรื่องนั้น โดยทางผู้ช่วยทูตทหารยังได้เสนอแนะว่า คสช.จับอาวุธได้จำนวนมาก หากมีการทำลายขอให้ทางผู้ช่วยทูตทหารเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย เพราะการทำลายอาวุธสงครามเป็นสิ่งที่ดี ถือเป็นการทำลายอาวุธสงครามนอกระบบ รวมถึงสิ่งผิดกฎหมายทั้งหมด เช่น ตู้ม้าและยาเสพติด แต่เรื่องอาวุธต้องมีกระบวนการสืบสวน สอบสวน ต้องรอให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อน ส่วนกรณีการจับกุมกลุ่มบุคคลหน้าสถานทูตสหรัฐ และการเชิญบุคคลมารายงานตัว ปัจจุบันการเชิญบุคคลเข้ามารายงานตัวแทบจะไม่มีแล้ว

     ผู้มารายงานตัวส่วนใหญ่ก็เรียกมาทำความเข้าใจ แต่กลับบ้านกันหมดแล้ว สำหรับผู้ถูกจับกุมในลักษณะที่ชุมนุมในช่วงนี้ ส่วนใหญ่จะเรียกมาตักเตือน ทำความเข้าใจ และมีเงื่อนไขร่วมกัน เพื่อไม่ให้ดำเนินการในลักษณะนี้อีก จะมีเพียงส่วนน้อยถูกตั้งข้อกล่าวหา แต่หากใครมีการชุมนุมอยู่ก็จะต้องถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ส่วนการควบคุมตัวนายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการนิตยสารฟ้าเดียวกัน ว่าเป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารของหน่วยในระดับพื้นที่ เนื่องจากเคยกระทำผิดในลักษณะรวมกลุ่มต่อต้านมาครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ตักเตือน ไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่อาจพบการ กระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย จึงต้องเชิญตัว ส่วนรายละเอียดจะตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน ไม่ได้เกิดจากการดำเนินการของ คสช.ส่วนกลาง

 

@ องค์กรตปท.ขอร่วมสภาปฏิรูป

 

      พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษก คสช. แถลงภายหลังการชี้แจงผู้ช่วยทูตทหารว่า ผู้ช่วยทูตทหารหลายประเทศยังมีคำถามหลายประเด็น โดยเฉพาะการตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ โดยเสนอความเห็นขอให้มีองค์กรต่างประเทศเข้าร่วมด้วย เพื่อช่วยดูรายละเอียด เพราะประเทศเหล่านั้นอาจมีผลประโยชน์ในแง่ของเศรษฐกิจของประเทศเขาเองด้วย ทีมโฆษก คสช.ได้ชี้แจงว่าเรื่องการตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ รายละเอียดจะอยู่ในระยะที่ 2 หลังจากมี สนช.แล้ว จะจัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติขึ้นมา ทั้งนี้ยังได้สอบถามถึงการดำเนินการการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ในระยะแรก ได้ชี้แจงไปว่าเป็นช่วงที่ต้องการทำให้สังคมทุกระดับมีปฏิสัมพันธ์ ทัศนคติที่ดีและเกิดความรักสามัคคีกันในระดับหนึ่ง เพื่อเป็นพื้นฐานดำเนินการในการปฏิรูปประเทศขั้นต่อไป

   นอกจากนั้นได้มีผู้ช่วยทูตทหารบางประเทศสอบถามถึงโครงการขนาดใหญ่ ทางทีมโฆษกฯได้ชี้แจงว่า โครงการเร่งด่วนจะดำเนินการตามแผนงบประมาณปี 57 เหลือเวลาบริหาร 3-4 เดือนเท่านั้น เพราะฉะนั้น โครงการใหญ่จึงยังไม่ได้พิจารณา แต่โครงการบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามแผนปี"57 จะเป็นลักษณะการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นไปตามเป้าหมาย ตรงกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด 

 

@ ยันเจรจาสันติดับไฟใต้ต่อ

 

      "สำหรับการพิจารณางบประมาณในภาพรวมนั้น ทีมโฆษกฯได้ชี้แจงว่า ในลำดับต่อไปขึ้นอยู่กับสภาพรูปแบบการบริหารราชการในขณะนั้น ขณะนี้ คสช.ยังบริหารงานงบประมาณตามขั้นตอนปกติ โดยให้หน่วยงานเสนอขึ้นมา เพื่อพิจารณาตามลำดับขั้น เมื่อยังไม่มีรัฐบาลก็อยู่ในอำนาจการอนุมัติของ คสช." พ.อ.วินธัยกล่าว และว่า ในกรณีการเตือนนักท่องเที่ยวแต่ละประเทศที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย หลายประเทศก็ได้ลดระดับการแจ้งเตือนดังกล่าวแล้วมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังได้มีการสอบถามถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาในสามจังหวัดชายแดนใต้ ทีมโฆษก คสช.ชี้แจงว่า โครงสร้างยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง แต่เน้นรูปแบบการปฏิบัติราชการให้เกิดการบูรณาการอย่างแท้จริงกับหน่วยราชการ กำกับดูแลให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด สำหรับการพูดคุยเจรจาสันติภาพมีแผนและแนวทางในการดำเนินการต่อ ภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญของไทย 

 

@ ปล่อยตัวบ.ก.ฟ้าเดียวกัน 

 

      พ.ท.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ. ได้ทำหนังสือถึง พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป.พิจารณาปล่อยตัว นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการนิตยสารฟ้าเดียวกัน หลังจากถูกควบคุมตัวฐานกระทำผิดเงื่อนไข เนื่องจากนายธนาพลยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังจากได้รับการปล่อยตัวไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม นายธนาพลได้รับปากแล้วว่าจะไม่กระทำผิดเงื่อนไขอีก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเพื่อปรับทัศนคติแล้ว จึงพิจารณาปล่อยตัว ก่อนที่จะกักตัวจนครบกำหนด 7 วัน ซึ่งสามารถกักตัวได้ถึงวันที่ 11 กรกฎาคมนี้

 

      ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวน เชิญตัว พล.ท.มนัส เปาริก หรือ เสธ.หยอย อายุ 65 ปี อดีตรองแม่ทัพภาค 3 ผู้ต้องหาร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงคราม ที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย มาสอบปากคำเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว หลังจากพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน จากนั้นจึงคุมตัวไปขออำนาจศาลทหารฝากขัง ในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ หากผู้ต้องหาจะยื่นเรื่องขอประกันตัว จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลที่จะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่

 

@ วรเจตน์ ให้ปากคำคดีฝืนคสช.

 

     ต่อมานายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ พร้อมนางพัชรินทร์ ภาคีรัตน์ ภรรยาของนายวรเจตน์ และทนายความ เข้าพบ ร.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ไม่เข้ารายงานตัวตามกำหนด โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา นายวรเจตน์ถูกควบคุมตัวมาดำเนินคดีหลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ

 

     ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการเข้าให้ปากคำในครั้งนี้ นายวรเจตน์ได้พาภรรยาและเพื่อนอาจารย์มหาวิทยาลัยเดียวกันมาเป็นพยานเพื่อยืนยันถึงเหตุผลความจำเป็น นอกจากนี้ในช่วงเวลานั้นมีอาการป่วยอีกด้วย จึงไม่สามารถเข้ารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. และภายหลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ไม่ได้มีพฤติกรรมที่จะหลบหนีไปไหน ก่อนถูกพิจารณาดำเนินคดีดังกล่าว และขณะนี้อยู่ระหว่างการประกันตัวต่อศาลทหาร เป็นผลัดที่ 2 โดยหลังจากพนักงานสอบสวนสอบปากคำเสร็จสิ้น จะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป

 

@ สีหศักดิ์แจงนิวยอร์กไทม์ส

 

     ที่นครนิวยอร์ก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.ต่างประเทศ อยู่ระหว่างเดินทางไปร่วมประชุมคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (อีโคซอค) ได้เข้าพบกับกองบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส นายสีหศักดิ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า วัตถุประสงค์ของการพบดังกล่าวเพราะประเทศตะวันตกมองไทยอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการรายงานข่าวของสื่อ นิวยอร์กไทม์สติดตามสถานการณ์การเมืองไทยและมีอิทธิพลพอสมควร จึงอยากให้เขาเข้าใจบริบทของการเมืองไทยมากขึ้น สื่อต่างประเทศมีมุมมองเกี่ยวกับการยึดอำนาจแบบหนึ่ง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคม เป็นการรักษาประชาธิปไตยของไทยไม่ให้ล้มและเสริมสร้างประชาธิปไตยไทยในระยะยาว ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการตามแผนโรดแมปของไทย รวมถึงการตั้งสภาปฏิรูป ต้องสะท้อนความเห็นของทุกฝ่ายด้วย

 

     "นิวยอร์กไทม์สยังสงสัยว่าการยึดอำนาจจะแก้ไขปัญหาในเมืองไทยได้จริงหรือไม่ เพราะในสายตาตะวันตกรับกับสิ่งเช่นนี้ไม่ได้ แต่เขาไม่คิดว่าหากไม่เกิดการยึดอำนาจขึ้นอาจมีการสูญเสียและนองเลือดเกิดขึ้น ไทยคงไม่สามารถทําให้สหรัฐและประเทศตะวันตกเปลี่ยนความคิดมุมมองได้ แต่อยากให้เขาเปิดมุมมองและไม่ควรใช้บรรทัดฐานเดียวกัน เนื่องจากสถานการณ์ในแต่ละประเทศแตกต่างออกไป ประเทศไทยจะไม่หายจากแผนที่โลก และเรายังเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน จึงอยากให้ตะวันตกคำนึงถึงความสัมพันธ์ในระยะยาว"นายสีหศักดิ์กล่าว

 

@ พยายามแก้ค้ามนุษย์เต็มที่

 

      นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า กองบรรณาธิการนิวยอร์กไทม์สยังได้สอบถามถึงการที่ไทยถูกปรับลดมาอยู่ในเทียร์ 3 ของรายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐ ได้ชี้แจงว่าไทยทำเต็มที่แล้ว แต่กลับไม่ได้รับการผลตอบแทนที่ดีพอ ไทยถูกปรับลดไปอยู่ระดับเดียวกับประเทศที่ไม่มีความพยายามในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเลย ทั้งที่มีการส่งคณะผู้แทนไปหารือถึงการพัฒนาการในการดำเนินการด้านต่างๆ กับฝ่ายสหรัฐตลอดเวลา ถือเป็นความพยายามอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัด

 

      นายสีหศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 9 กรกฎาคม (ตามเวลาสหรัฐ หรือ 10 กรกฎาคม ตามเวลาในไทย) เนื่องจากนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ติดภารกิจ ตนจึงจะพบกับ น.ส.ซูซานา มัลคอรา หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการยูเอ็นแทน นอกจากนี้ยังมีกำหนดจะพบกับนายจอห์น ดับเบิลยู. แอช ประธานสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 68 นายมาร์ติน ซาจดิค ประธานที่ประชุมอีโคซอค รวมทั้งพบปะชุมชนคนไทยด้วย

 

@ มาร์คจี้คสช.เปิดให้แสดงความเห็น

 

      นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี คสช.เชิญผู้ช่วยทูตทหารมาชี้แจงว่า คสช.ประกาศตารางการทำงานและการเลือกตั้งชัดเจน เชื่อว่าต่างชาติคงจับตาดูว่าได้เดินไปตามตารางที่ประกาศไว้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ระบุชัดว่าในระยะที่ 1 ต้องใช้เวลา 3 เดือน ขณะนี้ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นไปตามตารางการทำงาน เห็นด้วยกับหัวหน้า คสช.จะเป็นผู้ให้ข้อมูลสถานการณ์ทางการเมืองและตารางการทำงาน เพราะบางเรื่องไม่อยากให้เกิดความสับสน จะได้ชี้แจงไปในแนวทางเดียวกัน แต่ก็ควรเปิดโอกาสให้ภาคส่วนอื่นๆ แสดงความคิดเห็นในกระบวนการปฏิรูปโดยสุจริต เพื่อให้บรรยากาศการปฏิรูปเดินหน้าไปได้

 

     "นึกไม่ออกว่า ถ้าต้องการมีกระบวนการปฏิรูปแล้วไม่สามารถแสดงความเห็นได้ กระบวนการปฏิรูปจะเดินได้อย่างไร เพราะหลักการการมีส่วนร่วมเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ถ้าเปิดโอกาสให้คนแสดงความเห็นในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ด้วยความสุจริต ไม่ก่อให้เกิดความกระทบต่อความมั่นคงก็จำเป็นต้องเปิดโอกาสให้มีการแสดงความเห็น"นายอภิสิทธิ์กล่าว

 

@ ถวิลเร่งสางปมส.ก.หมดวาระ

 

    นายถวิล ไพรสณฑ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.แถลงถึงกรณีที่ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้สังคมคิดให้รอบคอบในข้อเสนอให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) ทั่วประเทศ โดยไม่ยึดโยงกับรัฐบาลว่า ไม่เห็นด้วย มั่นใจว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯทั่วประเทศไม่ทำให้ขาดการยึดโยงกับรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลยังสามารถสั่งการที่เป็นนโยบายเพื่อประชาชนได้ และถือว่ารัฐบาลยังเป็นผู้มีอำนาจเหนือท้องถิ่นเหมือนเดิม ในต่างประเทศก็มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเช่นกัน และที่ผ่านมาในการแต่งตั้ง ผู้ว่าฯจากส่วนกลางจะพบปัญหาการทำงานล่าช้า แต่ละงานกว่าจะเสร็จสิ้นต้องผ่านหลายขั้นตอน 

 

      นายถวิล กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยัง คสช. ให้เร่งแก้ปัญหาสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น เทศบาล รวมถึงสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) และสมาชิกสภา กทม.(ส.ก.) หมดวาระลงและกำลังทยอยหมดวาระลงเกือบทั้งหมดในช่วง 1 ปีกว่า ยังไม่มีรัฐธรรมนูญ ในส่วนของ กทม.มี ส.ก.หมดวาระไปแล้ว 14 เขต จนบัดนี้ยังไม่มีการเลือกตั้งกลับเข้ามา เนื่องจาก คสช.ประกาศใช้กฎอัยการศึก ห้ามชุมนุมทางการเมือง จึงไม่สามารถหาเสียงเลือกตั้งได้ ที่สำคัญในวันที่ 28 กรกฎาคม ทั้ง ส.ก.และ ส.ข.ชุดใหญ่ จะหมดวาระลง จะกระทบต่อการบริหารท้องถิ่น ไม่มีงบในการบริหาร เพราะในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน เป็นช่วงการจัดทำงบประมาณ ตามระเบียบต้องผ่านการพิจารณาของสภา กทม. เรื่องนี้ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง แต่ไม่ยอมออกมาพูด จึงอยากให้ คสช.เร่งแก้ปัญหานี้โดยด่วน ขอเสนอ 2 ทางออก คือ 1.ให้ คสช.ออกคำสั่งงดบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นบางมาตรา และให้ผู้ที่หมดวาระลงรักษาการไปก่อน จนกว่าจะมีการเลือกตั้งเข้ามาใหม่ และ 2.คสช.อาจออกคำสั่งให้มีการแต่งตั้ง โดยการสรรหาเป็นการชั่วคราว ตนไม่เห็นด้วย แต่ถ้าจะทำเมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรแล้ว ก็ต้องให้มีการเลือกตั้งทันที

 

@ กกต.ถกมหาดไทยปมเลือกตั้ง

 

     ที่สำนักงาน กกต. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.แถลงข่าวภายหลังเข้าพบกับนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งว่า ทาง กกต.ได้เข้าไปขอบคุณกระทรวงมหาดไทย หลังจากช่วยสนับสนุน กกต.จัดการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ และการเลือกตั้ง ส.ว.เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา รวมไปถึงการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย พร้อมกันนี้ยังได้ปรึกษาหารือถึงกรณีการแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งของเทศบาลตำบลโคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้มา 3 ปี เนื่องจากมีการประกาศเขตปกครองทับซ้อนกัน รวมถึงการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เทศบาล ต.จอหอ จ.นครราชสีมา และเทศบาล ต.นาหว้า จ.นครพนม ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้จากกรณีเดียวกันทำให้ปลัดเทศบาลต้องรักษาการ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาหนึ่งหมู่บ้านมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพียง 1-2 คน พบว่ามีหมู่บ้าน 28 แห่งใน 17 จังหวัดที่มีปัญหาดังกล่าวทำให้จัดเลือกตั้งไม่ได้ 

 

      นายภุชงค์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันยังได้พูดคุยถึงแนวทางการร่วมมือกันจัดทำทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยจะปรับข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้เป็นปัจจุบันในทุกปีไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ และจะเสนอแก้ไขกฎหมายทั้งคุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านในระยะเวลาเท่ากัน เช่น ไม่น้อยกว่า 1 ปีเหมือนกัน และจะยึดการใช้สิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ และการเลือกตั้ง ส.ว.เมื่อวันที่ 30 มีนาคม เป็นฐานข้อมูลหลัก รวมทั้งมีความเป็นไปได้ที่ในอนาคตจะมีการจัดทำสำมะโนประชากรเพื่อเป็นการยกระดับและอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้สิทธิเลือกตั้ง

 

@ สวนปชป.เคยชงวาระนายกอปท.

 

      นายภุชงค์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รวมทั้งนักวิชาการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอและแนวทางแก้ไขปัญหาการปฏิรูปการเลือกตั้งของ กกต.ว่า กกต.เคารพและน้อมรับทุกความคิดเห็น แต่ข้อเสนอและแนวทางที่ กกต.เสนอไปนั้นเป็นเพียงการรวบรวมข้อดีข้อเสีย จากประสบการณ์การจัดการเลือกตั้งมากว่า 16 ปี เห็นว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยเฉพาะประเด็นการจำกัดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ว่าไม่ควรดำรงตำแหน่งทางการเมืองเกิน 2 วาระ หรือ 8 ปี เพื่อเป็นการป้องกันการสืบทอดอำนาจทางการเมืองได้ อีกทั้งที่ผ่านมาสมัยที่พรรค ปชป.เป็นรัฐบาลก็เคยมีการเสนอแก้ไขกฎหมายไม่ให้นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำรงตำแหน่งต่อเนื่องกันเกินกว่า 2 วาระ ดังนั้น กรณีดังกล่าว กกต.จึงไม่ขอโต้แย้ง อยากให้มองโลกในแง่ดี หากมีข้อเสนอเป็นประโยชน์ก็สามารถส่งความคิดเห็นไปให้คณะทำงานปฏิรูปของ คสช.พิจารณาได้ 

 

      นายภุชงค์ กล่าวว่า ข้อเสนอที่ กกต.เปิดเผยต่อสื่อมวลชนนั้นเป็นเพียง 1 ใน 4 ที่รวบรวมตอบโจทย์ 6 ข้อที่คณะทำงานด้านการปฏิรูปของ คสช.ให้มาพิจารณา มีเนื้อหาจำนวน 20 หน้า หลุดไปเพียงเท่านี้ กกต.ก็โดนกระหน่ำ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่ของจริงคือรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ กกต.ดูแลอยู่รวม 5 ฉบับ กกต.จะพิจารณาจากเฉพาะที่ กกต.มีอำนาจและมีหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด ในระดับสำนักงาน จะเริ่มพิจารณาในสัปดาห์หน้า โดยจะหารือทุกวันจนกว่าจะเรียบร้อย เพื่อจะได้แล้วเสร็จโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม การให้ข้อมูลกับคณะปฏิรูปครั้งนี้เป็นเพียงการรวบรวมปัญหาและข้อเสนอแนะ ไม่ได้มีการฟันธงใดๆ และกระแสที่เกิดขึ้นในขณะนี้ก็ไม่ได้มีในแง่ลบด้านเดียว แต่ก็มีในด้านบวก กกต.เข้าใจว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับสภาปฏิรูปว่าจะนำแนวคิดที่ กกต.เสนอนั้นไปพิจารณาอย่างไร 

 

     นพ.วชิระ บถพิบูลย์ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า เครือข่ายองค์กรสุขภาพเรียกร้องให้ คสช.ตรวจสอบกรณีที่บอร์ด อภ.มีมติเปลี่ยนเส้นทางเงิน 70 ล้านบาท จะต้องส่งให้ สปสช.จัดสรรให้โรงพยาบาลต่างๆ ไปยังกระทรวงสาธารณสุข ตามหนังสือกระทรวงสาธารณสุข ที่ สธ.0205.02.5/13144 ลงวันที่ 30 กันยายน 2556 และหนังสือที่ สธ. 0205.02.5/13180 ลงวันที่ 30 กันยายน 2556 และขอให้สอบกรณีที่ นพ.พิพัฒน์จัดประชุมกรรมการบริษัทร่วมค้าที่สนามกอลฟ์หรู จ.นครปฐม และทำเรื่องเบิกบัญชีเงินสวัสดิการพนักงาน อภ. เป็นค่าตีกอลฟ์ 10,200 บาท ตามหนังสือลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 รวมทั้งเบิกค่าใช้จ่ายส่วนตัว 65,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าเดินทางไปดูงานโรงพยาบาลที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา 

 

       ทางด้าน นพ.สุวัชกล่าวภายหลังเข้าพบ นพ.ณรงค์ เพื่อชี้แจงประเด็นปัญหาการดำเนินการก่อสร้างโรงงานวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก จ.สระบุรี ว่า สัปดาห์หน้าคณะทำงานของกระทรวงสาธารณสุข และ อภ. จะสรุปรายละเอียดเตรียมชี้แจง คสช.ต่อไป

 

@ ยังไม่เคาะจัดงานวันเกิด"แม้ว" 

 

     รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า สำหรับวันคล้ายวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้เคาะว่าจะจัดงานที่ไหน แต่มีการพูดคุยกันว่าน่าจะจัดที่ฝั่งยุโรป เพราะหากจัดใกล้กับประเทศไทยอาจมีคนเดินทางไปหาเป็นจำนวนมาก อาจทำให้ คสช.ไม่สบายใจ หากไปจัดที่ยุโรปคนที่จะบินไปร่วมงานวันคล้ายวันเกิดน่าจะเป็นคนใกล้ชิดมากกว่า

 

@ ป.ป.ช.ถกพม.ส่งเสริมเด็กป้องโกง 

 

      ที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในหน่วยงานของรัฐ ระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช.กับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ว่าความร่วมมือดังกล่าวเป็นการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมในบุคลากรของกระทรวง พม. ส่งเสริมให้บุคลากรมีขีดความสามารถในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หลังจากนี้จะมีความร่วมมือกันระหว่าง ป.ป.ช. และกระทรวง พม. อาทิ ความร่วมมือในการอบรมให้บุคลากร นอกจากนี้ สืบเนื่องจากกระทรวง พม.จะต้องดูแลเด็กและเยาวชน จึงถือโอกาสนี้ให้กระทรวง พม.ไปส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของเด็กและเยาวชนในชุมชนต่างๆ จะบูรณาการร่วมมือกันตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวให้เป็นรูปธรรม และยังมีแนวทางต่อยอดในหลายเรื่องเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติต่อไป ทั้งการบังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง รวมถึงกฎหมายจัดซื้อจัดจ้าง

 

@ ชงยืดอายุความโกงถึง30ปี 

 

       นายปานเทพ กล่าวถึงแนวทางการป้องกันและปราบปรามการทุจริตระหว่าง คสช.กับ ป.ป.ช. ว่ามีความร่วมมือกันหลายเรื่อง ป.ป.ช.จะเสนอและผลักดันกฎหมายต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ขณะนี้กำลังประสานงานกันอยู่ อาทิ เรื่องอนุมัติกฎหมายให้เป็นไปตามสนธิสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต เป็นกฎหมายอาญาระหว่างประเทศ กฎหมายเกี่ยวกับอายุความของคดีทุจริต กฎหมายเกี่ยวกับการติดตามทรัพย์สินคืน กฎหมายเหล่านี้ยังไม่ได้แก้ไข จึงจะต้องอาศัยช่วงเวลานี้เสนอไป คสช.เพื่อจะแก้ไขกฎหมายในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สำหรับอายุความคดีทุจริต ส่วนตัวเห็นว่าจะยังต้องมีอยู่ แต่อาจจะยืดระยะเวลาออกไปเพื่อให้เหมาะสม และป้องกันไม่ให้ผู้ที่กระทำความผิดใช้ช่องว่างของกฎหมายในการหลุดพ้นไปได้ ฉะนั้นอาจยืดอายุความไปหรือให้อายุความสะดุดหยุดลง ต้องหารือกัน ปัจจุบันในส่วนของความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จะมีอายุความ 15 ปี เป็นระยะเวลาที่ไม่มากนัก ส่วนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 จะมีอายุความ 20 ปี โดยจะขอเสนอให้ขยายอายุความไปถึง 30 ปี

 

@ บอร์ดอภ.ออก-เว้นปลัดและเลขา 

 

       นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) เปิดเผยภายหลังประชุมบอร์ด อภ.ว่า เพื่อเป็นการสนองนโยบาย คสช. บอร์ด อภ. 12 คน เตรียมยื่นใบลาออก 10 คน ประกอบด้วย ตนในฐานะประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม นพ.สุพรรณ ศรีธรรมา อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ นพ.สมชัย นิจพานิช นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย พล.อ.สหชาติ พิพิธกุล ดร.อัจนา ไวความดี และ ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว ส่วนอีก 2 คน คือ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.สุวัช เซียศิริวัฒนา ผู้อำนวย อภ.ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม เพราะมาโดยตำแหน่ง จะยื่นหนังสือลาออกในวันที่ 10 กรกฎาคมและให้มีผลทันที การลาออกไม่เกี่ยวข้องกับการยื่นข้อเรียกร้องของ 8 เครือข่ายองค์กรสุขภาพ แต่บอร์ดได้พิจารณาและไตร่ตรองมาแล้วร่วมสัปดาห์ ต้องการให้ อภ.พัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ 

 

      ผู้สื่อข่าวถามว่า การลาออกครั้งนี้อาจถูกมองว่าเป็นการหนีปัญหาหรือไม่ นพ.พิพัฒน์กล่าวว่า อาจจะมีบ้างที่จะถูกมองว่าหนี แต่ยืนยันว่าไม่ได้หนี และสามารถตามไปตรวจสอบได้เสมอ แต่หากไม่ลาออกก็อาจจะถูกมองว่าอยู่เพื่อรักษาผลประโยชน์ได้เช่นกัน 

 

     นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีและเอดส์ประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีที่ต้องรับยาต้านไวรัสเอดส์จำนวนกว่า 2 แสนรายทั่วประเทศ กำลังหวาดวิตกว่ายาต้านไวรัสที่ อภ.ผลิตจะขาดตลาด เพราะการบริหารจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพของบอร์ด และผู้อำนวยการ อภ.

 

@ เครือข่ายสุขภาพจี้สอบบิ๊กอภ.

 

      นายอภิวัฒน์กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมียาจำเป็นหลายรายการ เช่น ยาเบาหวาน ยาต้านไวรัสเอดส์ อาทิ ยาผสม AZT ยาลามิวูดีน ยา Antivir รวมทั้งยาวัณโรคอีก 4 รายการ ไม่สามารถผลิตหรือจัดหาส่งให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระจายให้โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศได้ทันตามสัญญาซื้อขายที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน สัปดาห์หน้าตัวแทนเครือข่ายผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยวัณโรค และผู้ป่วยโรคไต จะนัดรวมตัวไปขอความช่วยเหลือจากประธาน คสช.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!