- Details
- Category: กกต.
- Published: Monday, 19 June 2023 19:47
- Hits: 142
กกต.ประกาศรับรอง 500 ส.ส.แล้ว ให้มารับหนังสือรับรอง 20-24 มิ.ย.สอยทีหลัง
เลขาฯ กกต. แถลงรับรอง 500 ส.ส.แล้ว ทยอยรับหนังสือรับรองได้ตั้งแต่ 20-24 มิ.ย. ชี้ ประกาศไปก่อน แต่หากมีหลักฐานทุจริตยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาให้เพิกถอนสิทธิได้ หลังสอบทุจริตไม่เสร็จภายใน 60 วัน ยันมีเวลาอีก 1 ปี หากพบทุจริตพร้อมสอยภายหลัง อุบตอบใช้ช่อง รธน. มาตรา 82 ยื่นศาลตีความสถานะ 'พิธา'ก่อนโหวตนายกฯ
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงผลการประชุม กกต.ว่า สำนักงาน กกต.ได้เสนอผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขต 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน และผลการตรวจสอบรายงานจากความเห็นของผู้ตรวจการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัด รายงานการตรวจสอบสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ได้รับเลือกตั้ง
และตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร รวมถึงแหล่งข้อมูลจากการตรวจสอบเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.ของกลุ่มภารกิจงานสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ทั้งนี้ เมื่อ กกต.ได้พิจารณาแล้วจึงมีมติให้ประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อครบทั้ง 100 คน
นายแสวง กล่าวต่อว่า กระบวนการหลังจากนี้ กกต.ยังมีอำนาจพิจารณาการสืบสวนไต่สวนตามมาตรา 138 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 หมายความว่า หลังการเลือกตั้งหากมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริต กกต.จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง
เลขาฯกกต.กล่าวว่า การที่ กกต.ประกาศรับรองผลไปก่อน เนื่องจากกระบวนการสืบสวนสอบสวนผู้ถูกร้องเรียนอาจดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และเห็นว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อีกทั้งขณะนี้มีการอ้างพยานหลักฐานเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยในจำนวน ส.ส. 400 เขต พบว่ามี ส.ส.ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้ง 318 คน ถูกร้องคัดค้านการเลือกตั้ง 82 คน อย่างไรก็ตาม ส.ส.ที่ กกต.ประกาศรับรองสามารถมารับหนังสือรับรองได้ตั้งแต่วันที่ 20-24 มิถุนายน เวลา 08.30-16.30 น.ไม่เว้นวันหยุดราชการ
เลขาฯกกต.กล่าวอีกว่า ส่วนจำนวนคะแนนเสียงที่เป็นคะแนนดีนำมาคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมีทั้งสิ้น 31,522,698 คะแนน โดยสัดส่วนคะแนนต่อ ส.ส. 1 คน คือ 375,226 คะแนน เมื่อคำนวณแล้วมีจำนวน 17 พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้ง ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 39 คน พรรคเพื่อไทย 29 คน พรรครวมไทยสร้างชาติ 13 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน พรรคภูมิใจไทย 3 คน พรรคประชาชาติ 2 คน ส่วน พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคท้องที่ไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคเป็นธรรม พรรคพลังประชารัฐ พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคเสรีรวมไทย และ พรรคใหม่ ได้พรรคละ 1 คน