WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gสมคด คณะกรรมการ PPP พิจารณาโครงการต่ำกว่า 5 พันลบ. ตามมติครม. ชี้มี 35 โครงการรับอานิสงส์เดินหน้าเร็วขึ้น

      นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ PPP โดยพิจารณาร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนฯ เรื่องหลักเณฑ์และวิธีการให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการที่มีวงเงินมูลค่าต่ำกว่า 5 พันล้านบาท หลังจากที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้ขยายวงเงินมูลค่าโครงการที่จะเข้าเกณฑ์พรบ.ร่วมทุนฯ จาก 1,000 ล้านบาท เป็น 5,000 ล้านบาท

 โดยโครงการที่มีวงเงินมูลค่าต่ำกว่า 1 พันล้านบาท  จะเป็นโครงการขนาดเล็กที่ให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงต้นสังกัดเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาให้เอกชนร่วมลงทุนและให้ความเห็นชอบหลักการโครงการลงทุน และผลคัดเลือกและร่างสัญญาร่วมทุน ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายฯ ซึ่งก็จะเกิดความรวดเร็วในการลงทุนยิ่งขึ้น

 ส่วนโครงการที่มีวงเงินมากกว่า 1 พันล้านบาท แต่ไม่ถึง 5 พันล้านบาทนั้น  ให้รัฐมนตรีกระทรวงต้นสังกัดพิจารณาการร่วมทุนของแต่ละโครงการ และเสนอมาที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) หลังจากนั้นจึงเสนอ คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการ ที่มีคณะกรรมการมาจากส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องทำตามพรบ.ร่วมทุนฯเช่นในอดีตซึ่งจะใช้เวลานานและต้องเข้าสู่ที่ประชุมครม.ทุกครั้ง

  ทั้งนี้ โครงการเดิมตามกรอบยุทธศาตร์ การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการรัฐ ตามแผน ปี 2558-2562 มีทั้งสิ้น 66 โครงการ รวมวงเงิน 1.57 ล้านล้านบาท เช่น โครงการทางพิเศษระหว่างเมือง หรือ มอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง  บางปะอิน-นครราชสีมา,บางใหญ่-กาญจนบุรี และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-กาญจนาภิเษก โครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย เทศบาลรังสิต แต่เมื่อครม.มีการปรับวงเงินจาก 1 พันล้านเป็น 5 พันล้านบาท จึงทำให้โครงการที่เข้าข่ายดำเนินการตามพรบ.ร่วมทุนฯ เหลือ เพียง 31 โครงการขนาดใหญ่ ที่เหลือจะกลายเป็นโครงการขนาดกลางและเล็ก อีก 35 โครงการ ซึ่งจะทำให้ทั้ง  35 โครงการนี้ดำเนินการได้คล่องตัวในการลงทุนมากยิ่งขึ้น

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!