Details

Category: สำนักนายกฯ

Published: Tuesday, 05 April 2016 23:01

Hits: 8180

สมคิด ระบุ ราคาน้ำมันยังต่ำอีก 2-3 ปี ฉุดราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แนะภาคเกษตรฯ เร่งบูรณาการ อย่ารอการช่วยเหลือจากภาครัฐฯ อย่างเดียว

     "สมคิด"คาดราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำไปอีก 2-3 ปี ฉุดราคาสินค้าเกษตรตกต่ำไปด้วย แนะเกษตรกรตื่นตัวเร่งบูรณาการเพิ่มมูลค่า ไม่ควรงอมือรอรับการช่วยเหลือจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว

     นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดตัวโครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 SME เกษตร เพื่อสร้างความยั่งยืนของภาคเกษตรกรไทย ภายใต้แนวคิด “ปฏิรูปภาคเกษตรไทย 1 ตำบล 1 SME เกษตร ว่า ตนมองว่า ราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับต่ำอีก 2-3 ปี ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำไปด้วย ดังนั้น สิ่งที่เกษตรกรทั้งประเทศต้องทำ คือ จะต้องตื่นตัว และถึงเวลาที่เกษตรกรจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะหากรอให้รัฐบาลช่วยเหลือ เช่น จำนำราคาข้าว ณ ราคาที่เท่าไหร่นั้น จะต้องเกิดปัญหาในระยะยาว เพราะสิ่งสำคัญ คือ เกษตรกรจะต้องบูรณาการทางการเกษตร เพิ่มมูลค่า เป็นต้น

    “วันนี้ เราต้องเปลี่ยนแปลงภาคเกษตรของเรา เรามีข้าวไรซ์เบอร์รี่ มีการปลูกพืชแซมในนาข้าว มีการแปรรูป ส่งขายต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่จะทำให้เกษตรกรมีความมั่งคั่งขึ้น เกษตรกรต้องตื่นตัว อย่ามัวแต่รอให้รัฐบาลช่วย วันนี้จะจำนำสินค้าที่เราปลูกได้ ณ ราคาเท่าไหร่ สิ่งเหล่านั้นทำให้ยากขึ้นในอนาคตข้างหน้า เพราะยิ่งช่วยจะยิ่งทำให้เกษตรกรยิ่งจน วันนี้ประเทศเพื่อนบ้านเราเริ่มใช้เทคโนโลยี วิทยาการเข้ามา เขามีพื้นที่มาก แรงงานถูก ขณะที่ ดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลง ที่เคยชุ่มฉ่ำ ก็แล้งขึ้นทุกวัน สิ่งที่เราจะทำได้ก็ต้องปรับเปลี่ยนการผลิตบ้าง”นายสมคิด กล่าว

       นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนราคาน้ำมันที่ลดลงนั้น หากเกษตรกร 24 ล้านคน ไม่เปลี่ยนแปลง ชีวิตต่อไปจะเป็นอย่างไร เมื่อราคาสินค้าเกษตรตกต่ำมาก สิ่งที่เคยขายได้ก็ขายได้ครึ่งราคาเท่านั้น ลูกหลานจะเอาเงินที่ไหนเรียนหนังสือ จะเอาเงินที่ไหนกิน ซึ่งเป็นสิ่งเร่งด่วนที่รัฐบาลเร่งดำเนินการ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรรู้จักการเปลี่ยนแปลง ต้องใช้การบริหารจัดการเพื่อการเปลี่ยนแปลง ต้องรู้จักดัดแปลง เพราะหากไม่เร่งดำเนินการเกษตรกรจะยิ่งจนลง

    “ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่จะเกิด นับวันเกษตรกรจะยิ่งจนลง ลูกหลานเกษตรกรจะทิ้งที่นา ละทิ้งอาชีพ สิ่งนี้คือสิ่งที่รัฐบาลนี้ เป็นผู้นำ นายกรัฐมนตรีต้องการปฏิรูป เปลี่ยนแปลง เราเลือกเดินเส้นทางที่ยากลำบาก คือ การไม่ตามใจชาวนาชาวไร่แบบในอดีต แต่เราต้องสร้างให้เขาเข้มแข็ง และต้องใช้เวลา เราต้องสร้างความตื่นตัวให้เขารู้ว่า มันเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเปลี่ยนแปลง โดยจะทำอย่างไรให้ผลผลิต เกิดขึ้นให้ได้ ผลิตภาพการเกษตรเพิ่มขึ้น ทำอย่างไรให้แปลงนานั้นมีการปลูกพืชที่หลากหลาย มีการนำเครื่องจักรมาประยุกต์ใช้กับการเกษตรทำอย่างไรมีแหล่งน้ำมากขึ้น ทำอย่างไรให้มีมูลค่าผลผลิตของเราเพิ่มขึ้น แทนที่จะปลูกพืชเชิงเดียวก็หันมาปลูกหลายอย่าง ต้องมาศึกษาตลาด”นายสมคิด กล่าว

      นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนที่ผ่านมามีการอัดฉีดเงินเข้าระบบเป็นจำนวนมากนั้น ยืนยันว่า เราให้เงิน หรือแจกเงินให้กับเกษตรกร เพราะรัฐบาลต้องการให้ไปสร้างโครงสร้างพื้นฐาน หรือสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ หรือ เรียกว่า วิสาหกิจเริ่มต้น สิ่วที่ดำเนินการนั้นทำให้เกษตรกรบางกลุ่มเริ่มตื่นตัวมากขึ้น เพื่อความกินดีอยู่ดี แต่สิ่งที่เราต้องการคือ การเปนเอสเอ็มอีต้นแบบ สร้างเกษตรกรุ่นต่อไป เพื่อให้เกิดความมั่งคั่งเกิดขึ้น ทำให้คน 20 กว่าล้านคนมีความมั่งคั่ง ให้เกิดการพึ่งพาการส่งออกน้อยลง คือ การสร้างประเทศที่แท้จริง

      “เราจะทำให้เห็น ถ้าทุกคนร่วมกัน วันนี้ประชารัฐ ไม่ว่าภาคการศึกษา ภาคเอกชน ประชาชน เกษตร ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวเราสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศของเราได้”นายสมคิด กล่าว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย