Details

Category: สำนักนายกฯ

Published: Tuesday, 19 April 2016 11:12

Hits: 4706

'สมคิด'เล็งเปิดลงทะเบียนเจ้าหนี้นอกระบบ ป้องกันขูดรีดประชาชน สั่ง ธ.ก.ส. เตรียมพร้อมรับมือภัยแล้ง

   'สมคิด'ล็งเปิดทางเจ้าหนี้นอกระบบลงทะเบียนเข้าระบบ พร้อมกำหนดเพดานดอกเบี้ย ป้องกันขูดรีดประชาชน สั่ง ธ.ก.ส.เตรียมพร้อมรับมือภัยแล้งภายใน 1-2 เดือน หากเกิดปัญหารุนแรงกว่าคาด พร้อมให้ออมสินเร่งปล่อยสินเชื่ออุ้มฐานราก หวังแก้หนี้นอกระบบ -ปั้นธุรกิจเกิดใหม่

     นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง การเป็นประธานการประชุมธนาคารของรัฐ ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ว่า การดำเนินงานของธ.ก.ส. เป็นไปตามที่ได้รับมอบหมาย โดยเฉพาะโครงกทร 1 ตำบล 1 เอสเอ็มอี ที่มีผู้ขอสินเชื่อแล้ว 9,000 กว่าล้านบาท ซึ่งเป็นนโนบายที่ตรงความต้องการ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างวิสาหกิจชุมชน

    “สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องคือ การช่วยกันยกระดับสินเชื่อไปสู่การสร้างมูลค่าให้กับเกษตรกร ยกระดับราคาสินค้า ว่าจะทำได้อย่างไร เช่นการปลูกพืชที่มีความหลากหลาย ซึ่งสินเชื่อดังกล่าวยังไม่ได้รับความนิยม ก็ต้องหาแนวทางว่าจะดำเนินการได้อย่างไรบ้าง เนื่องจากหากไม่เร่งดำเนินการในอนาคตเกษตรกรจะลำบากมา”นายสมคิด กล่าว

      นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ ธ.ก.ส.ตั้งสถาบันพัฒนาเกษตรกรในธนาคารของตัวเอง เพื่อช่วยเหลือ และให้ความรู้แก่เกษตรกรโดยเฉพาะ เพื่อยกระดับเกษตรกรให้สูงขึ้น สร้างการรับรู้ เผยแพร่นวัตกรรมต่างๆ โดยเฉพาะสิ่งที่เกษตรกรกังวลใจ เรื่องการปรับพฤติกรรมเกษตรในการปลูกพืชที่หลากหลาย เพื่อใช้น้ำน้อย ยังไม่มีผู้ขอสินเชื่อ เพราะเกษตรกรกังวลว่า หากเปลี่ยนการปลูกพืชจะมีความเสี่ยงว่าจะขายได้หรือไม่ ดังนั้น จึงได้หารือกับภาคเกษตรว่าจะเข้ามาช่วยดำเนินการในการรับซื้อได้หรือไม่ เพื่อเป็นการรับประกันความเสี่ยงว่าจะขายได้อย่างแน่นอน

     ส่วนปัญหาภัยแล้งนั้น คาดว่าหลังจากเดือนเมษายนสถานการณ์น่าจะเริ่มดีขึ้น แต่ทั้งนี้ รัฐบาลก็ได้เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยตนได้สั่งการให้ธ.ก.ส. เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือเกษตรกรทันทีภายใน 1-2 เดือนนี้ หากสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรง

      ด้านธนาคารออมสิน ได้สั่งการให้เป็นธนาคารเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายในการดูแลประชาชนฐานรากให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ รวมทั้งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบด้วย ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลัง และธนาคารออมสิน อยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อดึงเจ้าหนี้นอกระบบที่มีอยู่ขณะนี้ ให้เข้ามาลงทะเบียนอยู่ในระบบอย่างถูกต้อง ซึ่งไม่ต้องมีเงินทุนแบบนาโนไฟแนนซ์ โดยสามารถให้เงินกู้กับลูกหนี้ได้เหมือนเดิม แต่ต้องมีการกำหนดเพดานดอกเบี้ย เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบจากประชาชน

    “การดึงเอาเข้าหนี้เข้ามาในระบบ จะกำหนดเพดานไว้ว่าจะต้องไม่สูงเกินเท่าไหร่ เจ้าหนี้ก็ปล่อยได้เหมือนเดิม ขณะที่ลูกหนี้จะกู้กับเจ้าหนี้เดิม หรือ สถาบันการเงินก็ได้ โดยคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะแล้วเสร็จและสามารถเข้าสู้การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้”นายสมคิด กล่าว

     ส่วนการดำเนินการของกองทุนหมู่บ้านวงเงิน 35,000 ล้านบาท นั้น ภายในสิ้นเดือนนี้จะปล่อยลอตที่ 2 ออกมา โดยจะเร่งดำเนินการเพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ขณะที่บ้านประชาชนผ่านธนาคารออมสิน และธอสนั้น ในช่วง 1-2 สัปดาห์ สามารถปล่อยได้แล้วธนาคารละ 20,000 ล้านบาท ซึ่งนายอภิศํกดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังได้สั่งการให้กระบวนการพิจารณาเป็นไปด้วยความรวดเร็วที่สุด

   นายสมคิด กล่าวว่า ด้านธนาคารเอ็กซ์ซิมแบงก์นั้น ได้รายงานความคืบหน้าการปรับเปลี่ยนทิศทางการดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ได้ศึกษาการตั้งสาขาที่อิหร่าน และกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียร์มา และเวียดนาม เพื่อเป็นการทำตลาดเชิงรุก และเป็นที่พึ่งพาของกลุ่มผู้ส่งออก

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย