WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แม้ว่าจะยังบวกได้ดี แต่ก็ต้องระวังแกว่งผันผวน ดังนั้นยังน่ารอซื้อลบ...
     กลยุทธ์ : แม้ SET ยังรีบาวด์ขึ้นมาต่อเนื่องได้ดีเกินคาดในช่วงท้ายสัปดาห์ก่อน แต่ในจังหวะดีดขึ้นก็ยังมีแรงขายออกมากดดันเป็นระยะ ทำให้คาดว่า SET ยังมีสิทธิแกว่งผันผวนและปรับย้อนลงอีกได้ โดยเฉพาะเช้านี้ตลาดหุ้นต่างประเทศไม่ได้สดใสนัก ขณะที่บ้านเราจะติดวันหยุดด้วย ดังนั้นเรายังแนะนำให้ดูจังหวะทยอยซื้อช่วงตลาดย้อนลบดีกว่า อย่างไรก็ตามส่วนถือลงทุนเรายังแนะนำเน้นถือต่อเนื่องได้

หุ้นเด่นทางเทคนิค : SVI, AAV, TICON(short)
      แนวโน้ม : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET แกว่งตัวเป็นลบแคบๆ เกือบจะตลอดวัน ก่อนที่ในช่วงชั่วโมงสุดท้ายจะมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นใหญ่หลายตัว ทำให้ดัชนีพลิกกลับมาวิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และสามารถขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ของรอบได้ที่ 1489.72 จุดบวกขึ้นกว่า 12 จุด ซึ่งคาดว่าแรงซื้อส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการทำปิดงวดบัญชีด้วย ก่อนที่ SET จะย้อนลงเหลือปิดบวกเพียง 5 จุดเศษ แสดงถึงแรงขายที่ยังมีอยู่พอควรเช่นกัน ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นภูมิภาคยังเปิดทำการด้วยลักษณะแกว่งตัวผันผวนมีทั้งบวกและลบแคบๆ อยู่ ประกอบกับตลาดหุ้นไทยจะติดวันหยุดในพรุ่งนี้ด้วย (1 ก.ค. วันหยุดครึ่งปีธนาคาร) ทำให้ FSS คาดว่ายังต้องระวังการแกว่งตัวผันผวนของตลาดหุ้นไทยอยู่เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม FSS มองว่ากรอบการปรับลงช่วงนี้จะยังค่อนข้างจำกัด และสุดท้ายแล้วเรายังคาดหมายว่า SET จะสามารถแกว่งตัวขึ้นไปหาแนวต้านเป้าหมายทางเทคนิคแถว 1500 จุดหรือสูงกว่าได้ ดังนั้นจังหวะอ่อนตัวยังเลือกหุ้นซื้อได้

แนวรับ 1480-1478 , 1475-1472 จุด แนวต้าน 1485-1490 , 1494-1500 จุด
      Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมายังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาค US$1,065 ล้าน ใกล้เคียงกับ US$1,035 ล้านในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนศุกร์ที่ผ่านมายังไหลเข้าต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 นักลงทุนต่างชาติซื้อในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$300.7 ล้าน ไต้หวัน US$108.5 ล้าน ไทย US$59 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$6.3 ล้าน และเวียดนาม US$6.6 ล้าน แต่ขายตลาดอินโดนีเซีย US$26.6 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย Flow น่าจะยังไหลเข้าต่อ

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (+) คสช.ตั้งซุปเปอร์บอร์ดคุมรัฐวิสาหกิจ หากมองในมิติเศรษฐกิจ เราคิดว่าเป็นผลดีเพราะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐวิสาหกิจทั้ง 56 แห่ง ลดผลตอบแทน โบนัส ผลประโยชน์ส่วนเกิน และค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้คล่องตัวขึ้น
  (0) ธปท.ปรับ GDP ปีนี้เหลือ 1.5% แต่ครึ่งหลังปีนี้เติบโตแบบ V-shape เป็นการปรับลงจากเดิมที่ 2.7% ซึ่งคาดเมื่อ มี.ค. จากการเมืองยืดเยื้อ โดยปรับลดการลงทุนของเอกชนลงมากที่สุด (จาก -0.5% เป็น -2.6%) แต่มองเศรษฐกิจใน 2H14 จะฟื้นแบบ V-shape หลังการเมืองชัดเจนตั้งแต่ปลาย พ.ค. ทำให้ความเชื่อมั่น การบริโภค และการลงทุนฟื้นตัว และจะกลับมาเป็นปกติในปีหน้า จึงคาด GDP ปี 2015 โต 5.5% แม้จะเป็น % ที่สูงกว่าเดิมที่คาด 4.8% แต่หากคิดเป็นมูลค่า กลับลดลงจากเดิมเล็กน้อย 0.5% เราจึงคาดว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ 2% ต่อไปจนถึงสิ้นปีเพื่อประคองเศรษฐกิจ
  (+) KBANK เราคาดกำไรสุทธิใน 2Q14 ลดลง 5% Q-Q เพราะไตรมาสก่อนมีกำไรพิเศษ แต่เพิ่มขึ้น 3% Y-Y จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ในขณะที่ NIM น่าจะทรงตัวในระดับสูงที่ 3.6% ซึ่งสูงกว่ากลุ่ม ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี 2014 น่าจะเติบโต 7% Y-Y (คงประมาณการเดิม) โตสูงสุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ เราแนะนำซื้อโดย KBANK ยังคงเป็น Top pick เราปรับราคาเป้าหมายไปเป็นปี 2015 ที่ 255 บาท จากคาดการณ์กำไรสุทธิโต 12% Y-Y บนสมมติฐานสินเชื่อเติบโต 10% และ NIM 3.55-3.60%
   (+) KTB เราคาดกำไรสุทธิใน 2Q14 ลดลง 15% Q-Q จากการตั้งสำรองที่สูงกว่าปกติ (หากไม่รวมการตั้งสำรอง คาดกำไรขยายตัว 9% Q-Q) แต่เพิ่ม 9% Y-Y เราปรับการเติบโตของสินเชื่อปี 2014 ขึ้นจาก 6% เป็น 9% แต่คงกำไรสุทธิที่ 3.4 หมื่นล้านบาท ทรงตัว Y-Y แต่ปรับกำไรสุทธิปี 2015 ขึ้น 5% เป็นเติบโต 13% Y-Y จากการปรับสินเชื่อจาก 9% เป็น 12% ยังคงแนะนำซื้อ ปรับราคาเป้าหมายเป็นปี 2015 ที่ 26 บาท
  (+) THCOM เราคาดกำไรปกติใน 2Q14 เติบโตดี +20% Q-Q, +14% Y-Y ส่วนกำไรสุทธิ +3% Q-Q, +116% Y-Y จากการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของดาวเทียม เรายังคงแนะนำซื้อ และมอง THCOM เป็น Growth stock จากกำไรที่คาดโตเฉลี่ยถึง 16% Y-Y ใน 3 ปีข้างหน้าจากดาวเทียมปัจจุบัน 3 ดวง และไทยคม 7 ที่จะยิงเดือน ส.ค. นี้ และไทยคม 8 ที่จะยิงประมาณกลางปี 2016 เราปรับราคาเป้าหมายปีนี้ขึ้นเป็น 46 บาทจากเดิม 44.50 บาทโดยรวมดาวเทียมไทยคม 7 เข้ามาในประมาณการ
   (+) THRE เพิ่มทุน 702.5 ล้านหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิม 10:1 และขาย PP ให้กับ HWIC Asia Fund ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 351 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3 บาท (XR 8 ส.ค. 2014) และโอนหนี้ค่าสินไหมส่วนที่เหลือจากเหตุการณ์น้ำท่วมให้กับ TIG ทำให้ต่อไปนี้เราไม่ต้องกังวลกับการตั้งสำรองของ THRE อีก ส่วนการเพิ่มทุนจะทำให้มีเงินกองทุนกว่า 140% เพียงพอต่อการขยายธุรกิจต่อไปในปี 2015 อย่างไรก็ตาม ยังมีค่าใช้จ่ายไม่เกิน 1.1 พันล้านบาทที่ THRE ต้องจ่ายให้ TIG เป็นค่าตอบแทนซึ่งจะบันทึกใน 2H14 ทำให้เราคาดว่าผลประกอบการปีนี้ยังขาดทุนประมาณ 500 ล้านบาท แต่จะ Turnaround ในปี 2015 เราแนะนำให้หาจังหวะซื้อ ราคาเป้าหมายปีนี้ 4.02 บาท

  ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ขยับขึ้นได้เล็กน้อยแต่โดยรวมทั้งสัปดาห์นั้นปรับตัวลดลงจากความกังวลต่อสถานการณ์ในอิรัก แต่อย่างไรก็ตามยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของ Nike หลังประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าคาดรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. ที่เพิ่มขึ้น
  ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกได้เล็กน้อยเช่นกันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีขึ้น
   ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวค่อนไปในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาน่าพอใจ
  ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวออกทางข้าง โดยล่าสุดแกว่งอยู่ในกรอบ 32.42-32.48 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ขยับลง 0.10 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยปิดที่ 105.74 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยนักลงทุนเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นต่อ Supply น้ำมันดิบจากอิรักหลังผู้ส่งออกยังคงไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปรับตัวขึ้น 3 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,320 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในอิรักซึ่งหนุนให้นักลงทุนเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัยอยู่
Contact person : Somchai Anektaweepon Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!