Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Thursday, 03 July 2014 18:32

Hits: 2110

บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +20.17, NASDAQ -0.92, FTSE +13.45, CAC -16.40 และ DAX +8.86 โดยที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยหลังจากสหรัฐเปิดเผย (1) การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 281,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย. สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 205,000 ตำแหน่ง (2) ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือน พ.ค. ลดลง 0.5% มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.3%
  …..ราคาปิดน้ำมันดิบล่วงหน้า (Nymex) ส่งมอบ ส.ค. -US$0.86 อยู่ที่ US$104.48 ต่อบาร์เรล โดยที่ราคาน้ำมันลดลงมาปิดที่ระดับต่ำสุดตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. จากการที่ลิเบียอาจจะส่งออกน้ำมันดิบได้มากกว่าคาด ในขณะที่ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงถึง 3.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล
  …..ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ส.ค. อยู่ที่ +US$4.3 อยู่ที่ US$1,330.9 ต่อออนซ์ หลังจากมีคำสั่งซื้อจากกองทุน ETF เข้ามาเป็นจำนวนมาก
  (+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +628 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -40,406 ล้านบาท (สิ้นปี ’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)

ทิศทางตลาด
  ทิศทางตลาด : Sideway up? หลังจากดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง จากความคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกทั้งสหรัฐฯ และจีน โดยนักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศในวันนี้ หากออกมาดีกว่าที่คาดไว้ จะส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะฟื้นตัวต่อเนื่อง รวมถึง Fund Flow ที่มีแรงซื้อสุทธิเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หลังล่าสุดมียอดซื้อสุทธิเข้ามาอีกประมาณ 628 ล้านบาท ในขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาทเริ่มมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น
  .....และยังแนะติดตามประเด็นที่คาดส่งผลดีต่อการลงทุนหลังจากนี้ (1) โรดแมพของ คสช. เริ่มจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวในเดือน ก.ค. เพื่อนำไปสู่การตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติในเดือน ส.ค. และคาดว่าจะสามารถแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือน ก.ย. นี้ ต่อจากนั้นจะเป็นการตั้งสภาปฏิรูปในช่วงเดือน ต.ค. ’57 และคาดว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ประมาณเดือน ต.ค. ’58 คาดว่าจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน (2) แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของ คสช. รวมถึงแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ ทางด่วน และโครงการขยายสนามบิน ทั้งสุวรรณภูมิ และดอนเมือง เป็นต้น เบื้องต้นคาดใช้ระยะเวลา 8 ปี (ปี’58 – 65) วงเงินลงทุน 2.4 - 3.0 ล้านล้านบาท คาดมีความชัดเจนในโครงการและแหล่งเงินทุน ประมาณต้นเดือนกค. (3) การเปิดประมูล (E-Auction) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา – คลอง 19 – แก่งคอย สัญญาที่ 1 วงเงิน 1.02 หมื่นล้านบาท ในวันที่ 15/7/57 (เลื่อนครั้งที่ 2 จาก 23/6/57) ที่อาจทำให้มีการเก็งกำไรอีกครั้งในกลุ่มผู้ประกอบการที่ผ่านคุณสมบัติทั้งหมด 6 ราย โดย 4 รายอยู่ในตลาดฯ ได้แก่ ITD, CK, STEC และ UNIQ
  ....และยังแนะจับตากลุ่มพลังงาน หลังจากมีการแต่งตั้งกรรมการของ PTT จะทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น แม้คาดยังถูกกดดันจากประเด็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี

      ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.07 อยู่ที่ 2.63% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.33 อยู่ที่ 10.82
หุ้นแนะนำ : KBANK

ประเด็นที่ต้องติดตาม (3 ก.ค. – 4 กค.’57)
  3/7/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร - มิย. (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (3) ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ - พค. (4) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย - มิย. (5) ดัชนี PMI ภาคบริการ – มิย.
  4/7/57 : ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากหน่วยงานราชการ ตลาดหุ้น และตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการ – วันชาติสหรัฐฯ

นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ 02-684-8789