WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BOA-Prasarnผู้ว่าธปท.เชื่อ มาตรการกระตุ้น ศก.ของรัฐบาล ส่งผลดีระยะสั้น ส่วนการอัดฉีดเงินเข้ากองทุนหมู่บ้าน 6 หมื่นลบ.แนะให้ระวังปัญหาหนี้ครัวเรือน

      ผู้ว่าธปท.เชื่อ มาตรการกระตุ้น ศก.ของรัฐบาล ส่งผลดีระยะสั้น ส่วนการอัดฉีดเงินเข้ากองทุนหมู่บ้าน 6  หมื่นลบ.แนะให้ระวังปัญหาหนี้ครัวเรือน ขณะที่ศก.ไทยครึ่งปีหลัง คาดโตใกล้เคียงครึ่งปีแรก พร้อมเตรียมหารือ รมว.คลัง พิจารณา พ.ร.บ. ชำระเงิน ก่อนนำเสนอ ครม.

       นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยถึงการที่ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ เตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 100,000 ล้านบาท ว่าจะบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศได้ และส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ รวมถึงการอุปโภคบริโภคในระยะสั้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีกลุ่มบางกลุ่ม เช่น บุคคลที่มีรายได้น้อย หรือภาคเกษตรขาดกำลังซื้อ ซึ่งคาดว่าจะไปช่วยบรรเทาปัญหาได้ในระยะสั้นหากดำเนินการได้ตรงจุด

      ส่วนกรณีที่จะมีการอัดฉีดเงินเข้ากองทุนหมูบ้าน และนำมาปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ วงเงินประมาณ 60,000 ล้านบาทนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง ถึงความสามารถในการชำระคืน ซึ่งมองว่าการดำเนินการดังกล่าวคงไม่ใช่มาตรการที่ตั้งโต๊ะแล้วนำเงินไปแจกอย่างแน่นอน

   “เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังเรื่องของหนี้ครัวเรือน ซึ่งมองว่าการอัดฉีดเงินเข้าระบบนั้นเชื่อว่า จะส่งผลดีในทางกิจกรรมทางเศรษฐกิจดีขึ้น แต่ทั้งนี้จะต้องดูถึงผู้ที่มากู้เงินด้วย ว่ามีความสามารถในการชำระคืนหรือไม่ แต่ยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวไม่ใช่การหว่านเงิน หรือการตั้งโต๊ะแจกเงินแน่นอน”นายประสาร กล่าว

   ผู้ว่าธปท.กล่าวต่อถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนั้น โดยมองว่า จะเติบโตใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก แต่มีปัจจัยที่ต้องจับตามอง คือ เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจจีนที่ต้องระวัง ความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่การส่งออกยังคงตกต่ำ การบริโภคในประเทศยังทรงตัวและอาจดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่อย่งไรก็ตามยืนยันว่า เสถีบรภาพในประเทศยังมั่นคง แต่การเติบโตนั้นอาจไม่ได้เติบโตเท่าในอดีตที่ผ่านมา

   ส่วนแผนกานร่างพ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน หรือ Payment Systems Act เพื่อบกระดับการกำกับดูแลระบบการชำระเงินของไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากุลเช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลกนั้น เตรียมที่จะนัดนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เพื่อหารือถึงพ.ร.บ.ดังกล่าว ก่อนที่จะนำเข้าครม.ในเร็วๆนี้ โดยพ.ร.บ.ดังกล่าวจะเป็นการยกระดับการกำกับดูแลระบบการชำระเงิน เป็นการรวบรวมกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบชำระเงิน ซึ่งมีอยู่กระจัดกระจายให้มาอยู่ในที่เกียวกัน ลดความซ้ำซ้อนในการกำกับดูแล เอื้อให้เกณฑ์กำกับดูแลให้ผู้ให้บริการต่างๆมีความยืดหยุ่นรวมถึงส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!