- Details
- Category: คลัง
- Published: Saturday, 28 September 2024 09:59
- Hits: 7565
คณะกรรมการ PPP เห็นชอบโครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่าโครงการกว่า 14,500 ล้านบาท สนับสนุนเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ของภูมิภาค
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2567 โดยสรุปผลการประชุมได้ ดังนี้
คณะกรรมการ PPP ได้เห็นชอบหลักการโครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของผู้ประกอบการรายที่ 2 ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (ทอท.) โดยเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการในรูปแบบ PPP Net Cost มูลค่าโครงการรวม 14,498 ล้านบาท ซึ่งเอกชนจะรับผิดชอบการจัดหาเงินทุน การออกแบบและก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง พร้อมทั้งจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับการให้บริการ
ตลอดจนรับผิดชอบในการดูแลบำรุงรักษา และบูรณะสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงการบริหารจัดการโครงการ ขณะที่ ทอท. จะกำกับดูแลและติดตามตรวจสอบคุณภาพการดำเนินงานของภาคเอกชน และได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนเป็นรายปี ทั้งนี้ โครงการมีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 หมุดหมายที่ 5 ที่มุ่งให้ไทยเป็นประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาค
โดยโครงการจะช่วยรองรับการเติบโตของปริมาณจราจรทางอากาศในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถสนับสนุนเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ของภูมิภาค ตลอดจนสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ
นอกจากนี้ คณะกรรมการ PPP ยังได้เห็นชอบการปรับปรุงแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน พ.ศ. 2563 - 2570 (แผนร่วมลงทุนฯ) เพื่อให้สอดคล้องกับความพร้อมของแต่ละโครงการและเป็นปัจจุบัน โดยมีรายการโครงการที่ประสงค์จะดำเนินการในรูปแบบ PPP รวม 138 โครงการ มูลค่ารวม 9.18 แสนล้านบาท ซึ่งมูลค่ารวมมีการปรับลดลงจากแผนร่วมลงทุนฯ ฉบับก่อนหน้า เนื่องจากมีโครงการร่วมลงทุนที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จและลงนามในสัญญาร่วมลงทุนแล้ว เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
และโครงการพัฒนาและบริหารจัดการศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข ๗ สายกรุงเทพมหานคร - บ้านฉาง ทั้งนี้ แผนร่วมลงทุนฯ ข้างต้น จะเป็นกรอบทิศทางการจัดทำโครงการ PPP ของประเทศที่ชัดเจน และจะช่วยสร้างความสนใจและดึงดูดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการของรัฐมากขึ้น อีกทั้ง คณะกรรมการ PPP ยังได้เร่งรัดโครงการร่วมลงทุนต่างๆ ให้สามารถเปิดให้บริการได้ตามแผนงาน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ