WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
คงแนะนำทยอยสะสมช่วงหุ้นลง

      KGI ประเมิน SET วันพุธแกว่งผันผวน หลังวานนี้ผิดคาดคือเด้งไม่ไหวในวัน โดยต่างชาติอาจยังมีแรงขายอยู่ ตามการปรับนโยบายลงทุนในประเทศที่มีกฎอัยการศึก แต่เนื่องจากสถานะสุทธิของต่างชาติมีไม่มาก (ตั้งแต่ต้นปียังขายสุทธิสะสม 1.6 หมื่นล้าน) คาดแรงขายมีจำกัด และเราคงมุมมองว่าจะมีข่าวบวกทางการเมืองเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะในประเด็นของหาทางออกของ สว. ซึ่งว่าที่ประธานวุฒิฯ ชี้ว่าจะประกาศแนวทางแก้ปัญหาในวันสองวันนี้ แนะนำให้หาจังหวะช่วง SET แกว่ง/ปรับลง สะสมหุ้น (ดูส่วนถัดไป)

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
      เก็งกำไร AJD / หุ้นใหญ่ Laggard + Domestic (คาดสัปดาห์นี้ สว. เปิด Roadmap)


      AJD (ไม่มีเป้า Consensus) แนะนำ “เก็งกำไร” การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้แนวโน้มเป็นบวก 1)ตั้งเป้ายอดขายกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ปีนี้ ~2 ล้านกล่อง (จุดเด่นที่ต่างจากคู่แข่ง คือมีจุดขายสินค้าตามห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง) เราคาดจะสร้างยอดขายราว 3.0 - 3.4 พันล้านบาท และประเมินกำไรสุทธิส่วนเพิ่มจากธุรกิจใหม่นี้ราว 130 – 150 ล้านบาท 2) ธุรกิจขายเครื่องใช้ไฟฟ้า (ธุรกิจปัจจุบัน) เดือน เม.ย. – พ.ค. ยอดขายเริ่มฟื้นตัวพ้นจุด Break – even เบื้องต้นเราประเมินกำไรสุทธิของธุรกิจขายเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้จะลดลงราว 50% YoY เป็น +/- 30 ล้านบาท 3) โดยรวมคาดกำไรสุทธิปีนี้ ~ 160 – 180 ล้านบาท (EPS 0.27 - 0.30 บาท/หุ้น) PE ตอนนี้ยังถูก 9 – 10 เท่า ... หากใช้เป้า PE 12 เท่า จะได้เป้าหมายพื้นฐานเบื้องต้นในกรอบ 3.2 – 3.6 บาท
หุ้นกลุ่ม Laggard + Domestic play (แบงก์ / รับเหมา / บ้าน / โรงแรม / ค้าปลีก) ที่เราแนะนำก่อนหน้า วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยตามคาด (บางกองฯมีนโยบายการลงทุน ที่ห้ามลงทุนในตลาดฯที่มีสถานการณ์ไม่ปกติทางการเมือง) คาดผลกระทบจากแรงขายจากต่างชาติจำกัด คาดภายในสัปดาห์นี้ สว. จะมีการเปิดเผยโรดแม็พแก้ไขปัญหาการเมือง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ แนะนำ “สะสม” หุ้นใหญ่ที่ Underperform ตลาดฯ (Laggard + Domestic play) และรูปแบบราคามีแนวโน้มฟื้นตัวจากแนวโน้มขาลงได้ กลุ่มแบงก์ เลือก BBL* (ตัดขาดทุนหากหลุด 184 บาท) และเพิ่ม KTB* (ตัดขาดทุนหากหลุด 17.6 บาท) / กลุ่มรับเหมา เลือก STEC* (ตัดขาดทุนหากหลุด 17 บาท) / กลุ่มบ้าน เลือก SPALI* (ตัดขาดทุนหากหลุด 18.2 บาท) / กลุ่มโรงแรม เลือก MINT* (ตัดขาดทุนหากหลุด 23.4 บาท) และเพิ่ม ERW* (ตัดขาดทุนหากหลุด 3.66 บาท) / กลุ่มค้าปลีก เลือก CPALL* (ตัดขาดทุนหากหลุด 42 บาท) และ HMPRO* (ตัดขาดทุนหากหลุด 8.2 บาท)


... RS* (เป้า Consensus 9.9 บาท) แนะนำ “เก็งกำไรสั้น” คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาสแรกเป็นจุดต่ำสุด (ไตรมาสแรกขาดทุน 4.5 ล้านบาท) 1) ไตรมาส 2/57 เริ่มรับรู้รายได้จากฟุตบอลโลก (ขายกล่อง Sun box และค่าลิขสิทธิ์ต่างๆ) เบื้องต้นคาดกำไรจาก Event นี้ราว +/-80 ล้านบาท 2) ประเมินแนวต้าน 8.4 บาท หากผ่านได้แนะนำ “เก็งกำไรต่อ” มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 8.95 บาท (ตัดขาดทุนหากหลุดแนวรับ 8.05 บาท)
... หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า พื้นฐานและรูปแบบราคายังดี เล่นเก็งกำไรต่อได:& 63243; CPF* (เป้าพื้นฐาน 31 บาท) รูปแบบราคายืนยันว่าได้ Breakout แนวโน้มขาลงแล้ว แนะนำ “ซื้อ” แนวต้านถัดไป +/- 30 บาท ...วันที่ 22 มีประชุมนักวิเคราะห์ / CHO (เป้าพื้นฐาน 2.60 บาท มี Upside risk ที่จะปรับขึ้น) วานนี้ราคาหุ้นปิด 2.08 บาท พักตัวในกรอบ Bollinger Band ตามคาด รูปแบบราคาคาดเป็นการฟื้นตัวจากแนวโน้มขาลง ยังคงแนะนำ “ซื้อ” (ตัดขาดทุนหากหลุด 1.88 บาท) ... รอข่าวประมูลรถเมล์ NGV / EFORL (เป้า Consensus 1.0 บาท) วานนี้ปิด 0.69 บาท แม้กลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น (3, 5, 8, 10, 12, 15 วัน) จะเริ่มปรับลง แต่กลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว (30, 35, 40, 45, 50, 60 วัน) ยังเรียงตัวในรูปแบบขาขึ้นอยู่ ขณะที่ Modified Stochastic ตัดขึ้นส่งสัญญาณซื้อ เรายังคงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ... รอข่าวซื้อกิจการ
... Analyst meeting + Opportunity day ที่น่าสนใจวันนี้: VGI* (คาดมีรายละเอียด MACO ในการประชุมด้วย)
... หุ้น MSCI (มีผลสิ้นเดือนนี้): MSCI เพิ่มหุ้น BH* / MSCI Small cap เพิ่ม BJCHI, NYT, MEGA, TTCL*
… กลุ่มสินค้าเกษตร (TVO, KSL, STA) รายงาน ENSO ล่าสุด ประเมินมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดปรากฏการณ์ El Nino ขึ้น ในกลางปีนี้ (โอกาสเกิด >70%) คาดเป็นบวกต่อแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรช่วงปลายปี - ต้นปีหน้า (จะเกิดภัยแล้งในเอเชีย และฝนตกมากผิดปกติในอเมริกา)

 

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ถือต่อได้แนวโน้มยังดี: BTS*, CPALL*, AIE, AI, JAS*, CHO
พอร์ตเก็งกำไร: MONO, TFD, กลุ่มส่งออกอาหาร (CPF*, GFPT*), EFORL, SOLAR, SAMART*, KCE*

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
      กลยุทธ์การลงทุน สถิติในอดีตชี้ว่า การเข้ามาดูแลสถานการณ์ของฝ่ายทหาร ชี้ว่าสถานการณ์การเมืองใกล้จบและตลาดหุ้นมักจะฟื้นตัวขึ้นในไม่ช้าหลังจากนั้น ด้วยประเด็นดังกล่าวผนวกกับมุมมองว่า สว. จะมี roadmap ทางการเมืองเร็วๆ นี้ ฝ่ายวิจัยคงแนะนำให้สะสมหุ้นในช่วงตลาดปรับตัวลดลง

ข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
(+) MAKRO*เดินหน้าเปิดสาขาใหม่ 10 สาขาภายในปี 2557 (โพสต์ทูเดย์) ซึ่งถือว่ามากกว่าที่เราประมาณการไว้เพียง 7 สาขา โดยเราประเมินสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่แน่นอน อาจทำให้การเปิดสาขาใหม่ต้องเลื่อนออกไป ทั้งนี้ นอกจากสาขาใหม่สามแห่งที่เพิ่งเปิดไปแล้ว (เกาะพงัน กับบึงกาฬ ในไตรมาสที่ 1/57 และพัทยา เหนือ ในไตรมาสที่ 2/57) MAKRO ยืนยันที่จะเปิดสาขาใหม่อีก 3 แห่งในรูปแบบ Class B ที่แม่สายในไตรมาสที่ 2/57 และที่ศาลายา กับ พัทลุงในครึ่งหลังของปีนี้ อีกทั้ง กำลังซื้อในส่วนของอาหารสดที่ยังขยายตัวได้ดี คาดจะช่วยหนุนให้กำไรปี 2557 ยังเติบโตได้ดีที่ 5.1 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม เราคงคำแนะนำ “ขาย” หุ้น MAKRO เนื่องจากราคาหุ้นในปัจจุบันเหลือ upside อยู่น้อยจากราคาเป้าหมายของเราที่ 34.00 บาทซึ่งคำนวณโดยวิธี DCF
(+) TICON * ลุ้นได้เงินแปลง TSR รวม 2,700 ล้านหวังใช้ซื้อที่ดิน (ข่าวหุ้น) TICON ลุ้นได้เงินแปลง TSR รวม 2,700 ล้านบาท หวังระดมทุนเพื่อไปซื้อที่ดินและก่อสร้างคลังสินค้า ฟากMAKRO ตั้งงบลงทุน 8,000 ล้านบาท เดินหน้าขยายธุรกิจ
(+) CHG ทุ่มงบรวม 700ล้าน สร้าง“จุฬารัตน์อาคเนย์” ปรับ-ขยาย รพ. ชลเวช (ข่าวหุ้น) CHG ทุ่มงบกว่า 500 ล้านบาท เดินหน้าก่อสร้าง “จุฬารัตน์อาคเนย์” จ.ปราจีนบุรี คาดเปิดให้บริการได้ในปี 59 ตั้งงบ 200 ล้านบาท ลงทุนปรับปรุงและขยายอาคารโรงพยาบาลชลเวช
(+) SPCG* แจ้ง COD เพิ่ม 2 โครงการ การันตีขายไฟครบ Q2 (ข่าวหุ้น) “เอสพีซีจี” แจ้ง COD เพิ่มอีก 2 โครงการ ดันกำลังการผลิตรวม 226.69 เมกะวัตต์ จาก 33 โครงการ มั่นใจครบ 36 โครงการ ภายใน Q2/57
(+) PTG ลั่นครบ1พันสาขา ย้ำแผนผลิตไบโอดีเซล เร่งโครงการจุดพักรถ (ข่าวหุ้น) PTG เดินหน้าขยายปั๊ม มั่นใจปีนี้ครบ 1,000 แห่ง พร้อมศึกษาการตั้งโรงงานผลิตไบโอดีเซล 100 ส่วนการพัฒนาโครงการจุดพักรถ ระบุเปิดให้บริการแล้วบางส่วน เชื่อเปิดเต็มรูปแบบได้ภายในสิ้นปีนี้

Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘ค่าเฉลี่ยเก้าวัน 1391 จุด
ดัชนี SET วันนี้ หากลดลงปิดต่ำกว่ารับ 1391 จุด อาจรักษาแรงกดลงในกรอบ 1391 - 1379 จุด แต่หากวันนี้ดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1391 จุดได้นั้น อาจผลักราคาทางขึ้นในกรอบ 1391 - 1414 จุด
แนวรับวันนี้: 1391/1385/1378 แนวต้านวันนี้: 1401/1410/1415
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 Research@kgi.co.th

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!