WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

แม้ SET มีสิทธิลงแรง แต่ความคาดหวัง 'ปัญหาจบ'มีลุ้นหนุนดีดได้!!
      กลยุทธ์ : คาดว่า SET จะปรับตัวลงแล้วลุ้นแกว่งทรงตัวถึงขั้นรีบาวด์กลับได้ ดังนั้นจังหวะลบจึงแนะนำเลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อเทรดดิ้งได้ ในขณะที่ถ้าสถานการณ์ไม่รุนแรง ก็คาดว่าสุดท้าย SET ยังมีโอกาสที่จะกลับไปแกว่งขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นทยอยซื้อสะสมเพื่อถือลงทุนได้ด้วย
หุ้นเด่นทางเทคนิค : ANAN, DELTA, TUF(short)
      แนวโน้ม : FSS คาดว่าประเด็นหลักที่น่าจะกระทบกับตลาดหุ้นไทยมากที่สุดในเช้าวันนี้ คือการประกาศทำรัฐประหารในช่วงหลัง SET ปิดทำการวานนี้ โดยมีแนวโน้มที่จะมีแรงขายกดดันให้ดัชนีปรับตัวลงรุนแรงในช่วงต้นชั่วโมงได้ ทั้งจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศหรือสถาบันที่มีข้อจำกัดในเรื่องเงื่อนไขของการลงทุน อย่างไรก็ตามถ้าพิจารณาจากการแกว่งตัวของค่าเงินบาทเช้านี้ ก็ถือว่ายังไม่ได้มีสัญญาณว่าจะอ่อนตัวลงรุนแรงแต่อย่างใด ทำให้เราคาดว่าเมื่อ SET ปรับตัวลงก็จะมีแรงซื้อเก็งกำไรเกี่ยวกับโอกาสที่ปัญหาการเมืองจะคลี่คลาย และน่าจะนำไปสู่การเดินหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศช่วยหนุนให้ตลาดมีจังหวะรีบาวด์กลับเป็นลบน้อยลงได้ในระหว่างวัน ซึ่งจากนั้นเราคาดว่า SET จะมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนบ้าง แต่มีลุ้นที่จะเริ่มทรงตัวได้ดีขึ้นในช่วงถัดไป ในลักษณะคล้ายคลึงกับภาวะตลาดหลังการรัฐประหารเมื่อปี 2549 เพื่อรอติดตามความคืบหน้าของทั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศในระหว่างการปฏิรูปการเมือง ระยะเวลาในการบริหารประเทศก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ รวมทั้งรอดูท่าทีของฝ่ายที่เคยต่อต้านการทำรัฐประหารว่าจะส่อเค้าความรุนแรงหรือความวุ่นวายอีกหรือไม่ด้วย
แนวรับ 1395-1385 , 1380-1360 จุด แนวต้าน 1406-1410 จุด
      Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 ในปริมาณที่หนาแน่นขึ้น โดยส่วนใหญ่ไหลเข้าตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$286.8 ล้าน ไต้หวัน US$215.9 ล้าน อินโดนีเชีย US$32.4 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$8 ล้าน แต่ยังไหลออกจากไทย US$58 ล้าน และเวียนนาม US$3.9 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าต่อเนื่อง Flow น่าจะยังไหลเข้าต่อ

 

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ปฎิวัติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พร้อมด้วยผู้นำเหล่าทัพออกแถลงการณ์คุมอำนาจการปกครองประเทศวานนี้เวลา 16.30 น. พร้อมคุมตัวแกนนำทั้งหมด และประกาศให้ครม.รักษาการสิ้นสุดอำนาจทันที คาดว่าแนวทางหลังจากนี้น่าจะเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อปฎิรูปประเทศระยะใหญ่จากปัญหาความขัดแย้งที่สั่งสมมานานนับสิบปี การเลือกตั้งยังไม่น่าเกิดขึ้นในระยะนี้ สำหรับการปฎิวัติ 19 ก.ย. 2549 การเลือกตั้งทั่วไปหลังจากปฎิวัติคือวันที่ 23 ธ.ค. 2550
(0) ค่าเงินบาทอ่อนค่าทันที 0.20 บาทต่อดอลลาร์ แตะระดับ 32.585 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะเริ่มกลับมาแข็งค่าเช้านี้ที่ 32.458 บาท/ดอลลาร์ ค่าประกันความเสี่ยง CDS พุ่งขึ้น 6bps แตะ 132.995 ใกล้เคียงกับวันที่ประกาศกฎอัยการศึก ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแทบทุกช่วงอายุ
(0) ดัชนีวันที่ 21 ก.ย. 2549 ปรับลงลึกสุด 4% ในการปฎิวัติครั้งล่าสุด 19 ก.ย. 2549 ตลาดฯปิดทำการในวันที่ 20 ก.ย. พอเปิดตลาดฯวันที่ 21 ก.ย. SET ปรับลงลึกสุดระหว่างวัน 30 จุด หรือ 4% ก่อนจะรีบาวนด์ขึ้นมาปิดลบเพียง 10 จุด (-1.4%) วันถัดมาปรับลงต่ออีก 10 จุด รวม 2 วันปรับลง 3% แต่จุด low ไม่ต่ำกว่าวันแรก หลังจากนั้นรีบาวนด์ขึ้นลงสลับอยู่ 2 สัปดาห์ แล้วค่อยๆขยับขึ้น รวมเวลาทั้งหมด 1 เดือนจึงกลับไปอยู่จุดเดิมก่อนการปฎิวัติ ต่างชาติซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในวันที่ 21 ก.ย. ขณะที่กองทุนและรายย่อยขายหนัก ทำให้ตลอดทั้งสัปดาห์ต่างชาติเป็นผู้ซื้อ สวนทางกับกองทุนที่ขาย
(0) อิงเหตุการณ์ปี 2549 ดัชนีวันนี้อาจลงแรงสุด 50 จุด+/- นักลงทุนควรตั้งสติและหาจังหวะซื้อของถูก สำหรับการปฎิวัติในครั้งนี้ หาก SET ปรับลงลึกสุด 4% เป็นไปได้ว่าดัชนีวันนี้อาจร่วง 50 จุด+/- อยู่ที่ 1,350 จุด+/- คิดเป็น PE 13.3 เท่าปีนี้และเหลือเพียง 11.7 เท่าปีหน้า ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมสำหรับปัจจัยพื้นฐานในการลงทุนระยะยาว (กลุ่มที่แนะนำลงทุนระยะยาวมีกลุ่มท่องเที่ยว การแพทย์ ค้าปลีก สื่อสาร อาหาร และแบงก์) อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์การเมืองด้วยเพราะยังไม่นิ่ง
(0) กลุ่มร่วง-รุ่งในระยะสั้น ไม่ว่าจะดูจากการปฎิวัติปี 2549 หรือการประกาศกฎอัยการศึก 20 พ.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มที่เผชิญแรงขายหนักสุดในวันแรกได้แก่หุ้น Big cap ที่ต่างชาติมีอยู่เช่นกลุ่มแบงก์และสื่อสาร นอกนั้นกลุ่มที่ได้รับผลลบโดยตรงคือกลุ่มโรงแรม สายการบิน สนามบิน บันเทิง โรงพยาบาล และรับเหมาก่อสร้าง ขณะที่กลุ่มที่แข็งแรงกว่าตลาดได้แก่กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ อาหาร ยานยนต์ และโรงไฟฟ้า
(-) KCAR เราปรับลดคาดการณ์รายได้และกำไรจากธุรกิจรถมือสองลง 15% และ 18% ตามลำดับจ ากราคารถยนต์มือสองในปี 2014 โดยเฉลี่ยยังต่ำกว่าปีก่อน ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2014 ลดลงจากเดิม 10% เป็น 265 ล้านบาท -3% Y-Y และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 11 บาท ประเด็นการลงทุนระยะสั้นยังไม่เด่นชัด แต่ระยะกลาง-ยาวยังน่าถือจากธุรกิจรถเช่าซึ่งสร้างรายได้ได้อย่างมีเสถียรภาพทำให้คาดว่าน่าจะจ่ายเงินปันผลได้ระดับน่าจูงใจที่เกือบ 6% ต่อปี
ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาขยับขึ้นเล็กน้อย 10.02 จุด แม้ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนจะออกมาสลับมีทั้งบวกและลบ แต่ภาพรวมการลงทุนยังคงเป็นบวกต่อเนื่องจากถ้อยคำแถลงของ FED ในเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่ใช่เร็วๆนี้
      ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดขยับตัวขึ้นได้เล็กน้อยเช่นกันภายใต้การซื้อขายที่ผันผวนจากตัวเลขเศรษฐกิจทั้งภาคการผลิตและบริการที่ออกมาผสมทั้งดีและไม่ดี
      ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาคือการเมืองในไทยและยูเครนที่ตึงเครียดมากขึ้น
ค่าเงินบาทอ่อนค่าหลังจากที่มีการรัฐประหาร แต่เช้านี้กลับมาแข็งค่าขึ้น คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.38-32.60 บาท/ดอลลาร์
      ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับตัวลง 0.33 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 103.74 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังพุ่งขึ้นในวันก่อนหน้าค่อนข้างแรง แต่การปรับลงยังจำกัดเนื่องจากมีประเด็นเรื่อง Supply จากลิเบียรวมถึงตัวเลขเศราฐกิจของจีนและสหรัฐที่แข็งแกร่ง
      ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 6.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,295.00 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยยังได้แรงหนุนจากการที่ FED กล่าวว่าจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แต่ยังปรับขึ้นจำกัดเช่นกันเนื่องจากแรงขายของกองทุนทองคำที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 5 ปี
Contact person : Somchai Anektaweepon Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!