Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Friday, 23 May 2014 16:04

Hits: 3170

บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
      (+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +10.02, NASDAQ +22.80, S&P +4.46, FTSE -0.48, CAC +9.18 และ DAX +23.04 นำโดยหุ้นในกลุ่มขนาดเล็กและหุ้นในกลุ่มอินเตอร์เน็ต ในขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯในเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด และดัชนี้ชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดเช่นกัน
       ….ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ ปรับตัวขึ้น แต่ตลาดหุ้นสเปนและอิตาลีลดลง จากความกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปอาจจะส่งผลลบต่อบางประเทศในยูโรโซน
      ....ราคาปิดน้ำมันดิบล่วงหน้า (Nymex) ส่งมอบ มิ.ย. -US$0.33 อยู่ที่ US$103.74 ต่อบาร์เรล จากการขายทำกำไร หลังจาก EIA รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลงตามคาด ในขณะที่แหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ทางภาคตะวันตกของลิเบียยังคงปิดทำการ
     .....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน มิ.ย. อยู่ที่ +US$6.9 อยู่ที่ US$1,295.0 ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากรายงานของเฟดที่ว่า เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,882 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -20,873 ล้านบาท (สิ้นปี ’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)

ทิศทางตลาด
      ทิศทางตลาด : ปรับลงจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ? คาดมีโอกาสปรับลง จากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ของนักลงทุนต่างชาติในกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และไอซีที ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นต่างประเทศจะมีแนวโน้มดีขึ้น หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (รสช.) เข้ายึดอำนาจการบริหารประเทศ เมื่อวานนี้ หลังจากการประชุม 7 ภาคส่วน เพื่อหาทางออกให้กับประเทศเมื่อวานนี้ไม่ได้ข้อสรุป คาดว่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของต่างประเทศ และจะกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวในระยะสั้น ในขณะที่ตลาดยังคงจับตาผลของการรัฐประหารครั้งนี้ ว่าจะนำพาประเทศเข้าสู่ความสงบได้อย่างไร? และเมื่อไหร่?
      ...สำหรับกลยุทธ์ เราแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ในระยะสั้น เนื่องจากจะได้รับผลกระทบจากการขายของนักลงทุนต่างชาติ แต่หากราคาหุ้นปรับลดลงมามาก แนะนำให้เข้าทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี และไม่ได้รับผลกระทบการเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงมีแนวโน้มชะลอตัว เช่นหุ้นในกลุ่มส่งออก และกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีความผันผวนของผลประกอบการต่ำ
   ..นอกจากนี้ยังคงต้องจับตา (1) การทำหน้าที่ขององค์กรอิสระต่างๆ เช่น ปปช., ศาล และวุฒิสภา ซึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป (2) การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีที่จะเข้ามาบริหารประเทศ จะสามารถเข้าบริหารประเทศได้เมื่อไหร่? และนโยบายทางเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศจะเป็นไปในรูปแบบใด? รวมถึงประเด็นความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดมีน้ำหนักมากขึ้นหลังจากนี้ไป ที่อาจเป็นประเด็นหลักที่ส่งผลต่อการพิจารณาปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.02 อยู่ที่ 2.56% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.12 อยู่ที่ 12.03

หุ้นแนะนำ : TUF

ประเด็นที่ต้องติดตาม (23 - 23 พค. ’57)
   23/5/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ยอดขายบ้านใหม่ - เมย.
นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ 02-684-8789