WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 28-8-2020dbs
“เฟดใช้เป้าหมายเงินเฟ้อใหม่ ดาวโจนส์บวก แต่ทองร่วง”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : VGI (จากถือเป็น Fully Valued)
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วานนี้ ขยับขึ้นต่อ ปิด +4.26 จุด ที่ 1326.81 จุด มูลค่าซื้อขายปานกลาง 52 พันลบ. ถือว่าปรับขึ้นดีกว่าภูมิภาค และดัชนีฯปรับตัวขึ้นได้แม้ตลาดยุโรปและดาวโจนส์ Future ปรับลงก็ตาม ตลาดฯรอผลประชุมเฟดประจำปีวานนี้ Nasdaq ทำ New High ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นดี และไทยอยู่ในช่างมีการจัดงาน Thailand Focus อยู่ ซื้อสุทธิมาก-สถาบัน ขายสุทธิมาก-ต่างชาติ YTD ต่างชาติขายสูงขึ้นเป็น 244 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์: SET ไซด์เวย์ทางบวก เฟดเปลี่ยนวิธีเป้าหมายเงินเฟ้อแบบเฉลี่ย ยืดหยุ่นดีขึ้น ดาวโจนส์บวก แต่ทองคำลง ปัจจัยบวกคือ วิธีใหม่ของเฟดจะทำให้เงินเฟ้อปรับขึ้นได้ โดยยังไม่ต้องรีบปรับขึ้นดอกเบี้ยซึ่งจะฉุดเศรษฐกิจ ความคืบหน้าโควิด-19 จะมีแผ่นทดสอบแบบแอนติดเจน ทราบผลใน 15 นาทีว่าติดโรคหรือไม่ ดาวโจนส์+160 จุด ทองคำร่วง เฟดไม่มีอะไรใหม่ เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านและดาวโจนส์ Future ปรับตัวขึ้น ส่วนไทยจะส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าให้ไทยเป็นฮับอาเซียน ด้านปัจจัยลบคือ ตัวเลขยื่นขอสวัสดิการครั้งแรกที่ 1 ล้านตำแหน่งตามคาด ตัวเลขทบทวน GDP สหรัฐครั้งที่สองเป็น -31.7% แต่รับรู้อยู่แล้ว น้ำมัน WTI ปรับลง ดัชนีกังวล VIX ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 24.47 จุดและไทย- 7 แอร์ไลน์จะคุยกับนายกฯเพื่อเยียวยาจากโควิด-19 กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบ 1300-1340 จุด ทยอยขายแนวต้านลดเสี่ยง ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังย่ำแย่ ความเสี่ยง หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง และการเมืองไทยร้อนแรงขึ้น แต่ก็มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ วัคซีน-ยาคืบหน้า และไตรมาส 2 เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว ไบเดนชนะเลือกตั้งจะเป็นผลดีกับเอเซียมากกว่าตอนทรัมป์ จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดี หุ้นพลังงานช่วงนี้ผันผวนแต่แนะนำซื้อ-PTT,PTTEP,TOP,BGRIM.GPSC,BCP วัสดุก่อสร้างพื้นฐานดี-TASCO,DRT,DCC หุ้นกลุ่มการแพทย์เข้าไฮซีซัน-BCH,BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้นDefensive-ADVANC,DTAC,CPF,CHG,OSP หุ้นปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัวดี- AP,MTC,PTL, TASCO,TU,STI ราคาเนื้อสัตว์ดี- CPF ขนส่ง-กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูง ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIF,AIMIRT,IMPACT กลุ่มธนาคารไม่สดใส ยังต้องตั้งสำรอง ECL มากใน 2H63 แต่เก็งกำไรปันผล แนวรับคือ 1290-1280 จุด และ แนวต้าน 1330-1340 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1315 จุด ปัจจัยน่าติดตามคือKBANK มีกำหนดการจะขายหุ้นที่ซื้อคืนมาในตลาดฯ ระหว่างวันที่ 31 ส.ค.-16 ก.ย.63 แต่คาดว่ามีโอกาสน้อยที่จะขายออกมา เพราะต้นทุนซื้อมาที่ 134 บาทต่อหุ้นสูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบันที่ 85.50 บาทอยู่มาก ด้าน KKP ประกาศไม่จ่ายปันผลระหว่างกาลรอบครึ่งปี เราคาดว่าจะไม่มีผลกระทบเพราะ ทำตามนโยบายธปท. และสามารถไปจ่ายรวมตอนงวดปลายปีได้ คงคำแนะนำ ซื้อทั้ง KBANK และ KKP
# Stock Pick Today : CK ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q63 มีโอกาสได้งานใหม่คือ งานโยธาเขื่อนที่หลวงพระบางมูลค่าสูง 90-100 พันล้านบาทปลายปีนี้ ช่วยเติม Backlog ที่น้อยและรถไฟฟ้าสายสีส้ม ข้อดีจากนี้ไปคือ 1) Backlog มีอัตรากำไรในเกณฑ์ดีราว 8-10% 2) จะมีเงินปันผลรับจาก TTW อีก 232 ล้านบาท ใน 3Q63 3) BEM ฟื้นตัวจากการเปิดเมือง ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าใต้ดิน และ 4) CKP กลับมาดี จากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 3Q63 เป็นต้นไป ให้ราคาพื้นฐาน 23.00 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี Sum of Parts
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...กลับเป็นบวกเล็กๆ อาจมีรีบาวด์ช่วงสั้นๆต่อ แต่ยังคงให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicatorsเป็นบวกเล็กๆ”ต่อ {“ปิดบวก”เหนือ“SMA10วัน”ต่อ (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบยังให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มี“SMA10”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1330 (หรือ 1340 – 1350) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1315” (แนวรับย่อย “1290 – 1280 /1250” จุด)}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Industry Focus : ที่อยู่อาศัย
Company Guide : VGI (Fully Valued -ราคาพื้นฐาน 6.69)
Stock in Focus : BANPU (ซื้อเก็งกำไร -ราคาพื้นฐาน 6.90)
DCC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 3.00)
In The News : กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : ธปท.ออกมาตรการดูแลลูกหนี้บุคคล
Turnover List Watch : คาด ETC ติด Cash Balance 6 สัปดาห์
New Listing : ALL-W1
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: เฟดเปลี่ยนแนวทางกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ เพื่อจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นได้มากกว่าเดิม
# นายพาวเวลประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ โดยเฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ ซึ่งจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐ โดยการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินดังกล่าว ส่งผลให้เฟดมีแนวโน้มน้อยลงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่ออัตราว่างงานลดลง ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อไม่ได้ดีดตัวขึ้น
+ สหรัฐ: เครื่องมือใหม่คือ "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย"จะทำให้อัตราเงินเฟ้อยืดหยุ่น ดีดตัวได้มากกว่า 2%
# นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่นและสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% แทนที่จะกำหนดเป้าหมายตายตัวที่ 2% ก่อนหน้านี้ เฟดมีความเชื่อว่าอัตราว่างงานต่ำจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นจนถึงขีดอันตราย จึงทำให้เฟดดำเนินการล่วงหน้าด้วยการรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่อาจก่อตัวขึ้น
+ สหรัฐ: แอ๊บบอตฯ ได้รับอนุมัติจาก FDA ให้จำหน่ายแผ่นทดสอบแอนติเจนแบบพกพาใช้ตรวจโควิด-19
# ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ให้จำหน่ายแผ่นทดสอบแอนติเจนแบบพกพาเพื่อใช้ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งสามารถให้ผลการทดสอบภายใน 15 นาที ขณะที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะประกาศการซื้อชุดอุปกรณ์ดังกล่าวจำนวน 150 ล้านชุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำข้อตกลงวงเงิน 750 ล้านดอลลาร์กับบริษัทแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส
• สหรัฐ: ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.006 ล้านรายตามคาด
# กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.006 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้วสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากมีการรายงานจำนวน 1.104 ล้านรายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
• สหรัฐ: ตัวเลขประมาณการ GDP ครั้งที่ 2 หดตัวลง 31.7% แม้รุนแรง แต่เป็นที่ทราบกันแล้ว
# ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ประจำไตรมาส 2/2563 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง 31.7% ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2490 หรือกว่า 70 ปีก่อนหน้านี้ หลังจากหดตัว 5% ในไตรมาส 1
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดบวก 160.35 จุด รับถ้อยแถลง"พาวเวล",การรักษาโควิดคืบหน้า
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) ขานรับนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล เมื่อวานนี้ ซึ่งจะปูทางให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าในการผลิตชุดอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อโควิด-19ของบริษัทแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส
- น้ำมัน: WTI ปิดลบ 35 เซนต์ นักลงทุนเมินพายุถล่มอ่าวเม็กซิโก
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพายุเฮอร์ริเคนพัดถล่มอ่าวเม็กซิโกนั้น จะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการผลิตน้ำมันในพื้นที่ดังกล่าวและเชื่อว่าการผลิตน้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นในไม่ช้านี้
• ทองคำ: ปิดร่วง $19.9 นักลงทุนขายทำกำไรหลัง"พาวเวล"แถลง
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล เมื่อวานนี้โดยนักลงทุนมองว่า ถ้อยแถลงของนายพาวเวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อนั้น เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้แล้วก่อนหน้านี้
• ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ เศรษฐกิจไทย: นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 โดยเน้นการจ้างงานเพิ่ม
# พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เผยให้ความสำคัญกับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 โดยเน้นการจ้างงานเพิ่ม ซึ่งกำลังพิจารณาเสนอเรื่องเข้า ครม.ในสัปดาห์หน้า ให้มีการจ้างงานนักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบจำนวนมาก
+ ธปท.ออกมาตรการช่วยลูกหนี้รายย่อยจากพิษโควิดเพิ่มเติมด้วยการรวมหนี้
# ธปท.ออกมาตรการช่วยลูกหนี้รายย่อยจากพิษโควิดเพิ่มเติมด้วยการรวมหนี้ เพื่อเป็นทางเลือกในการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยเพิ่มเติม ซึ่ง ธปท.เห็นร่วมกันกับสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (debt consolidation) แต่ทางธนาคารคาดมีผลกระทบกับรายได้เล็กน้อย
+ ยานยนต์: รัฐอัดมาตรการหนุน 'อีวี' 'สุริยะ' ชูไทยฮับรถยนต์ไฟฟ้าอาเซียน-บีโอไอจ่อเพิ่มจูงใจลงทุน
# "สุริยะ" ดันแผนศูนย์กลางรถยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้าปี 2573 ผลิตให้ได้ 30% ของจำนวนผลิตทั้งหมด เตรียมหารือ "คลัง" หนุนรถเก่าแลกลดภาษีไม่เกิน 1 แสน "บีโอไอ" เตรียมหารือเพิ่มมาตรการส่งเสริมการลงทุน กฟภ.ตั้งเป้าปี 65 สร้างปั๊มชาร์จ137 แห่ง ทั่วประเทศ กฟน.เล็งทดสอบ ใช้รถอีวีในสำนักงาน เชื่ออัตราค่าไฟหนุนใช้รถอีวี (กรุงเทพธุรกิจ)
+ 7 แอร์ไลน์บุกทำเนียบวันนี้ ถก 'ประยุทธ์' เยียวยาโควิด ภูเก็ตโมเดลคืบหน้า
# ผู้บริหาร 7 สายการบินบุกทำเนียบพบนายกฯ วันนี้ ถกปมธุรกิจฝืดจากพิษโควิด ด้านรมว.ท่องเที่ยวฯ พร้อมพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ภูเก็ต 4-6 ก.ย.ดูความพร้อมสถานที่ ก่อนสรุปแผนเปิดภูเก็ตโมเดล ด้าน "ศบค." ดึงตัวแทนเอกชนท่องเที่ยว"สมุย-ภูเก็ต" ถก 31 ส.ค.นี้ เตรียมพร้อมรับทัวริสต์ต่างชาติ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ยัน "สมุย บับเบิล" ซีลแน่นทุกจุด (กรุงเทพธุรกิจ)
-/• KBANK: มี Overhang จากขายหุ้นซื้อคืนในตลาดหลักทรัพย์ ตลาดฯจะตอบรับในทางลบอีกหรือไม่
# ธนาคารมีมติจะขายหุ้นที่ซื้อหุ้นคืนช่วง 31 ส.ค.-16 ก.ย.63 ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังมีมติจากบอร์ด แต่ย้ำคำนึงถึงภาวะตลาด จำนวนหุ้นที่ซื้อคืนทั้งสิ้น 23.93 ล้านหุ้น คิดเป็น 1% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนาคาร ราคาทุนที่ซื้อมาเฉลี่ย 134 บาท/หุ้น เทียบราคาปัจจุบัน 85.50 บาท/หุ้น
# ผลกระทบ: ราคาหุ้นเคยปรับลงตอนต้น ส.ค.63 ติดตามว่าเมื่อใกล้วันเข้ามาแล้ว จะกลับมาลดลงอีกหรือไม่ คาดว่าจะมีความกังวลอยู่ 2 ประการคือ 1) มี Selling Pressure จากการที่ธนาคารจะขายหุ้นออกมา และ 2) หากขายขาดทุนจะทำให้มูลค่างทางบัญชี (Book Value) ธนาคารลดลง และความกังวลนี้จะหมดไปหลังจบ 16 ก.ย.63 นี้ แล้ว อย่างไรก็ตามทางธนาคารมีสิทธิ์เลือกที่จะไม่ขาย ขายบางส่วน หรือขายทั้งหมด หากสมมุติให้ธนาคารขายหุ้นไปทั้งหมดแล้วขาดทุน1,268.3 ล้านบาท หรือ 0.53 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 0.6% เทียบกับราคาปิดก็ถือว่าน้อยมากๆ ทางปัจจัยพื้นฐาน คงคำแนะนำ ซื้อ KBANK ราคาพื้นฐานที่ 107.00 บาท
• วานนี้มีการทำบิ๊กล็อต NER 4.87% เทรดเฉลี่ย 3.06 บ.ต่ำกว่ากระดานหลัก ดึงกองทุนไดวาจากญี่ปุ่นเข้าถือหุ้น
# แหล่งข่าววงใน บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) เปิดเผยว่า รายการบิ๊กล็อตหุ้น NER 75 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.87% จากทุนที่เรียกชำระแล้ว 1,540 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คาดว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทำดีลขายให้กับพันธมิตรใหม่ที่เป็นกองทุนญี่ปุ่นเข้ามาถือหุ้น เพราะเคยมีการเจรจากันมาในช่วงก่อนหน้านี้ วานนี้ราคาหุ้น NER เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย-0.59% ปิดที่ 3.38 บาท แม้ขายหุ้นต่ำกว่าราคาตลาด แต่ก็ได้พันธมิตรใหม่มาช่วยเสริมธุรกิจ
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : sombata@th.dbs.com

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!