WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 2-9-2020k f
 Market Wrap-Up
•    SET ปิดวันที่ 1 ก.ย.63 ปิด -5.09 จุด อยู่ที่ 1,305.57 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,635 ลบ.ต่างชาติขาย 1,490 ลบ. สถาบันขาย 1,361 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 33 ลบ.ยอด NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 205 ลบ.โดยมียอดซื้อหุ้น TU,MINT,STA,ICHI,CPF และมียอดขายหุ้น BDMS,KBANK,PTTEP,BBL,AOT  มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 529 ลบ หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ CPF,AOT,KBANK โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 2,800 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 110,526 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 3,106 ลบ.  
•    ตลาดหุ้นสหรัฐ Down Jones ปิด +0.76% , S&P500 +1.39% และ Nasdaq +0.75%  ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Zoom ที่รายงานกำไร Q2 สูงกว่าคาดและจำนวนผู้ใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 148.4 ล.ราย +4,700 % YoY ช่วงไวรัสระบาด ขณะที่ Apple ได้แจ้งบริษัทซัพพลายเออร์เตรียมผลิต IPHONE 5 G จำนวน 75 – 80 ล.เครื่องและเตรียมเปิดตัว 4 รุ่นใหม่ในเดือนหน้า ส่วนรายงาน Markit PMI ภาคการผลิตสหรัฐ ส.ค. เพิ่มขึ้น 53.1 & ก.ค.50.90 และ ISM ภาคการผลิตสหรัฐ ส.ค. อยู่ที่ 56.0 ดีกว่าคาด 54.5 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 ปิด -0.35% หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการปรับลดลง จากความกังวลผู้ติดเชื้อใหม่ในโปรตุเกสที่เพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มธนาคารปรับลดลง หลังรายงานเงินเฟ้อทั่วไปยุโรป ส.ค. -0.20% & ก.ค. ที่ 0.40% และอัตราการว่างงานยูโรโซน ก.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 7.9%
Market View
•    ภาวะการลงทุนต่างประเทศวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Zoom, Apple เป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการทำงาน หรือเรียนผ่านระบบออนไลน์ ขณะที่ภาคการผลิตเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว หลังดัชนี Markit PMI ส.ค. ของสหรัฐ, จีน ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ในโซนขยายตัว โดยการประชุม ECB 10 ก.ย., Fed 15-16 ก.ย., BOJ 16 -17 ก.ย.  เฟดจะแถลงนโยบายเงินเฟ้อเฉลี่ย 2 % ซึ่งจะส่งผลให้ดอกเบี้ยสหรัฐอยู่ในระดับต่ำ 2 – 3 ปีส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนสถานการ์ระบาดไวรัส Covid-19 มีแนวโน้มกลับมาเพิ่มขึ้นและยังต้องรอผลการทดลองวัคซีนในช่วงปลายปีนี้ สำหรับดัชนีหุ้นไทยวานนี้ปิด -0.39% ต่างชาติขาย 1.49 พัน ลบ. สถาบันขาย -1.36 พัน ลบ. หลังข่าว รมว.คลัง คุณปรีดี ดาวฉาย ได้ยื่นใบลาออก ส่งผลให้ลบต่อจิตวิทยาการลงทุนเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันต้องการ รมว.คลังที่มีความสามารถในการเร่งออกนโยบายด้านคลังต่าง ๆ เช่น มาตราการด้านภาษี , การลงทุนเพื่อกระตุ้นการจ้างงาน ซึ่งอาจส่งกระทบลบต่อ GDP ไทยปีนี้อาจต่ำกว่าคาดการณ์ ธปท. ที่ -8.1 % วันนี้ติดตามการประชุม ศบศ. การพิจารณามาตรการหนุนการจ้างแรงงานใหม่ และมาตรการชิมช็อปใช้ เน้นที่รายย่อย  
Daily Strategy
•    ประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับลดงจากความเสี่ยงการขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้อาจต่ำกว่าคาด จากการขาดเสถียรภาพในการบริหารเศรษฐกิจ โดยวางแนวรับที่ 1,287 แนวต้าน 1,310 – 1,315 จุด กรณีดัชนีปิดต่ำ 1,300 แนะนำ Wait & See   
•    กลุ่มยางพารา อ้างอิงจากการรายงานของ กยท.ล่าสุด ราคาประมูลเฉลี่ย ณ ตลาดกลาง ยางพาราแผ่นดิบอยู่ที่ 55.83 บาท/กก.ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 60.05 บาท/กก.ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้ตามสัญญาการส่งมอบ สะท้อนจากตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนและสหรัฐที่ขยายตัว รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่อุปทานถูกกระทบจากประเทศผู้ผลิตยางขาดแคลนแรงงานกรีดยางและผลิตยางแห้งเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 เป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทั้งยางแผ่นดิบ ยางแผ่นรมควัน และน้ำยางสด โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์ STA NER (ผลิตยางแผ่น ยางก้อน) TRUBB (น้ำยางข้นธรรมชาติ 60%)
•    RJH* (ทะยอยซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 27.27 บาท) รายงานกำไรสุทธิงวดQ2/63ที่ 64.8 ล้านบาท(+34.19% YoY, -21.74% QoQ) ยังสามารถเติบโตYoY ได้ปัจจัยหนุนทางรายได้จากการตรวจเชื้อผู้ป่วย Covid-19 (คาดรายละประมาณ 2,500-3,500 บาท)ซึ่งจะยังคงต่อเนื่องไปจนกว่าจะหมดการระบาด นอกจากนี้ RJH* มีสัดส่วนรายได้จากโครงการประกันสังคมสูงราว 40%-45% จากผู้ประกันตนราว 1.95 แสนคนได้รับอานิสงค์จากค่าเหมาหัวของโครงการประกันสังคมที่ เพิ่มขึ้นราว 9.33% และมีโอกาสที่จะได้รับเงินส่วนเพิ่มในช่วงQ4/63 หรือQ1/64หาก Global Budget ของโครงการประกันสังคมมีเหลือ(Global Budget เพิ่มขึ้นราวๆ 16% เมื่อเทียบกับงบประมาณโครงการประกันสังคมปีที่แล้ว) ตลาดคาดกำไรสุทธิปี63 และ ปี64 ที่ 310  ลบ. ( -21.61%YoY )  และ  363 ลบ.( +16.97%YoY) ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update (+) WTI Futures ต.ค.ปิด +0.15 ดอลลาร์ อยู่ที่ $42.76 /บาร์เรล  Brent Futures พ.ย. ปิด +$0.30 ดอลลาร์ อยู่ที่ $45.58 /บาร์เรล ได้แรงหนุนจากดัชนีภาคการผลิตสหรัฐและจีน ส.ค. อยู่ในโซนขยายตัว ค่ำวันนี้ EIA จะรายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาคาดลดลง 1.2 ล.บาร์เรล ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5
Gold Update (+) Gold Futures ธ.ค.ปิด +0.30 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,978.90 ดอลลาร์/ออนซ์  ได้แรงหนุนจากการเปลี่ยนนโยบายการเงินเฟ้อของเฟด คาดจะส่งผลให้ดอกเบี้ยสหรัฐอยู่ระดับต่ำอีกนาน  ขณะที่ Dollar Index  แข็งค่า +0.21% อยู่ที่ 92.3572   
Fund Flow (-)  Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -101.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ขายหุ้นไทย -47.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด -47.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -5.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
 
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 31.223 บาทดอลลาร์สหรัฐ
(-) ดัชนี BDI ปิด -17 อยู่ที่ 1,471  
(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 0.672% , 2 ปี อยู่ที่ 0.131 %
(+) ค่าเงินหยวน off-shore แข็งค่าอยู่ที่ 6.8272/USD
(-) วานนี้สหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น 41,956 ราย รวมอยู่ที่ 6,257,548 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,164 ราย รวมอยู่ที่ 188,900 ราย / ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อ 25.8 ล.ราย เสียชีวิต 8.6 แสน ราย  ( Worldometers )
(-) GDP ออสเตรเลีย Q2/63  -7 % QoQ หดตัวมากกว่าคาดที่ -6 % QoQ
Economic Calendar
ในประเทศ
31 ส.ค.    ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
01 ก.ย.    ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) (ปีต่อปี) ( ส.ค.)
    ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย (ปีต่อปี) ( ส.ค.)    
03 ก.ย.    ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย ( ส.ค.)
04 ก.ย.     ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ (ดอลลาร์สหรัฐ)
ต่างประเทศ
31 ส.ค.    CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน ( ส.ค.)
01 ก.ย.    CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนจากสถาบัน Caixin ( ส.ค.)
    EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ส.ค.)  
US ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) ( ส.ค.)
02 ก.ย.    US การเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม (ADP)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
03 ก.ย.    US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) ( ส.ค.)
04 ก.ย.     US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ( ส.ค.)
    US อัตราการว่างงาน ( ส.ค.)
Theme Strategy
(1) กลุ่ม Defensive Stock BCPG*, BGRIM*, BPP*, GPSC*, GULF*, ADVANC, INTUCH*
(2) กลุ่มที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL, CBG*, ICHI*, OSP*
(3) กลุ่มรับประโยชน์ ศก.ชะลอ NPL เพิ่ม สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียน BAM*, CHAYO*, JMART*, JMT*, SINGER*
(4) กลุ่มส่งออกอาหารเงินบาทอ่อนค่า CPF*, GFPT*, TFG*, TU*, STA*
(5) กลุ่มรับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันอยู่ในระดับต่ำและการคลาย Lockdown TOP, PTTGC, IVL*, PRM*, PTG*, TASCO*
(6) กลุ่มรับประโยชน์จากปลดล็อก พ.ร.บ.งบประมาณ STEC, SEAFCO*, PYLON*
*หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio September 2020: WICE*, JKN*, BGC*, TKN, CPF*, BCH*
 
Analysts
Apichai Raomanachai            No. 002939
Nopporn Chaykaew               No. 043964
Piyatat Pasommanatsakul      No. 081741    

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!