WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 2-9-2020dbs
 “กันยา : เลือกซื้อหุ้นที่ธุรกิจฟื้นตัวและเติบโตได้ในระยะยาว”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
# ภาวะตลาดวานนี้ : SET Index แกว่งในกรอบ 1301-1316 จุด ปิดตลาดในระดับ 1305.57 ค่อนมาทางต่ำของวัน ส่วนหนึ่งมาจากความกังวลด้านการเมือง ซึ่งวานนี้ทางรมว.คลัง (คุณปรีดี ดาวฉาย) ได้ลาออกหลังรับตำแหน่งไม่ถึงเดือน ซึ่งแหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่าเกี่ยวเนื่องกับการถูกแทรกแซงการเปลี่ยนตัวข้าราชการ โดยเฉพาะกรมจัดเก็บภาษี นักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างชาติขายสุทธิ 1.4 และ 1.5 พันล้านบาท ตามลำดับ
# ปัจจัยและกลยุทธ์ : สำหรับเดือนก.ย.63 ปัจจัยภายนอกและในประเทศยัง Mixed โดยปัจจัยหนุน คือ 1) ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีน และอัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ลดลงเหลือ 3.3%, 2) การฟื้นตัวของภาคการผลิตหลังผ่อนคลาย Lockdown, 3) รัฐบาลประเทศต่างๆ ออกมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่มเติมรวมถึงไทยด้วย, 4) อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และน่าจะยาวนาน และ 5) สภาพคล่องสูงจากประเทศใหญ่ๆ ทำโครงการ QE (พิมพ์เงินออกมา) ส่วนปัจจัยเสี่ยง คือ 1) ความตึงเครียดทั้งประเด็นเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างสหรัฐกับจีน, 2) ไวรัสโควิด-19 เริ่มมีการหลายพันธุ์, 3) กำลังซื้อในประเทศฟื้นช้าเพราะว่างงานเพิ่ม ไทยเที่ยวไทยจึงไม่คึกคักนัก, 4) วิตก NPL สถาบันการเงิน, 5) Valuation ตลาดที่แพงเพราะกำไรดิ่ง ทาง DBS คาดกำไรตลาดหุ้นไทยปีนี้ -41%YoY(6M63 -58%YoY), 6) การแข็งค่าของเงินบาทหลังเงิน US$ อ่อนค่าเมื่อประธานเฟดประกาศเปลี่ยนจากเป้าหมายเงินเฟ้อตายตัว 2% เป็น “เงินเฟ้อเฉลี่ย 2%” ซึ่งบาทแข็งเป็นลบกับรายได้และมาร์จิ้นของผู้ส่งออก, 7) ปัญหาการเมืองทั้งในต่างประเทศและในประเทศ กลยุทธ์การลงทุน : เลือกซื้อหุ้นที่ธุรกิจมั่นคง ผลประกอบการฟื้นตัวและเติบโตได้ในระยะยาว
สำหรับธีมและหุ้นเด่นของเดือนก.ย.63 ประกอบด้วย กลุ่มดิจิตอล ซึ่งได้อานิสงค์บวกจาก New normal ที่มาเร็วเพราะโควิด-19 ช่วยกระตุ้น หุ้นเด่นเป็นADVANC/INTUCH กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งธุรกิจกำลังฟื้นตัวและไปได้ดีในระยะยาว หุ้นเด่นเป็น BEM, BTS กลุ่มที่พักอาศัย ที่ยังคงเป็น 1 ในปัจจัย 4 เน้นหุ้นที่ปรับกลยุทธ์ธุรกิจได้ดี โครงสร้างการเงินและผู้ถือหุ้นแข็งแรง หุ้นเด่นเป็น AP, LH, SC, SENA กลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งจะมีความต้องการใช้บริการเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของ Aging Soceity หุ้นเด่น BDMS, BCH, CHG กลุ่มพลังงาน มองว่ายังคงเป็นความต้องการใช้ขั้นพื้นฐานเพียงแต่กำลังเปลี่ยนโครงสร้างจากพลังงานฟอสซิลเป็นพลังงานทางเลือก หุ้นเด่น PTT (มีปัจจัยกระตุ้นจากการนำ PTTOR เข้าตลาดฯ), BGRIM, GPSC และกลุ่มอาหาร หุ้นแนะนำสำหรับเดือนก.ย.63 เป็น CPALL, OSP
# การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพหลักของตลาดยังคงเป็น “ขาลง” ในระยะกลาง การปรับขึ้นในระยะสั้นมองว่าเป็นเพียง “รีบาวด์ทางเทคนิค” เท่านั้น ประเมินทิศทาง SET Index ในเดือนก.ย.63 เป็นลักษณะ “แกว่งในกรอบ” โดยมีกรอบล่าง 1280, 1250 จุด และกรอบบน 1320-1330, 1350+/- (หรือ 1380 จุด แต่ให้น้ำหนักระดับนี้ไม่มาก) หุ้นเทคนิคแนะนำเดือนก.ย.63 - หุ้นรอรับ คือ KBANK (แนวรับ 75-60), ADVANC (แนวรับ 170-160) หุ้นไล่ซื้อ คือ DOHOME (แนวต้าน 15-16, 18 ถ้าหลุด 13 ให้ Stop loss), GLOBAL (แนวต้าน 22, 23-24 ถ้าหลุด 18.50 ให้ Stop loss)
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Update : TU (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 17.10)
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐพุ่งสูงสุดรอบกว่า 1 ปีครึ่งในเดือนส.ค.
# มาร์กิตเปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว และเพิ่มจาก 50.9 ในเดือนก.ค.63
# ISM เปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.เพิ่มเป็น 56.0 สูงสุดนับตั้งแต่ม.ค.ปี 62 และเพิ่มจาก 54.2 ในเดือนก.ค.63 ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขของมาร์กิต
+ จีน : ดัชนี PMI ภาคการผลิตขยายตัวสูงสุดในรอบ 10 ปี
# ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 53.1 ในเดือนส.ค. พุ่งขึ้นจากระดับ 52.8 ในเดือนก.ค. ทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีPMI ภาคการผลิตจีนจะอยู่ที่ 52.7 ในเดือนก.ค.
+ เกาหลีใต้ : เตรียมจัดสรรงบการคลังสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเจอพิษโควิด
# กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังเกาหลีใต้เปิดเผยว่าจะยื่นเสนองบประมาณรัฐบาลสำหรับปี 2564 ที่สูงเป็นประวัติการณ์เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเสนอไปที่555.8 ล้านล้านวอน (4.697 แสนล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นจากปี 63 เท่ากับ 8.5%
# เนื่องจากการของบประมาณที่สูงทำให้คาดกันว่าอัตราส่วนของหนี้สินประเทศต่อ GDP จะเพิ่มขึ้นแตะ 46.7% ในปี2564 จากปีนี้ที่ 43.5%
- ยูโรโซน : ดัชนี PMI ภาคการผลิตปรับตัวลงในเดือนส.ค.63
# ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนที่จัดทำโดยมาร์กิต ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.7 ในเดือนส.ค. จาก 51.8 ในเดือนก.ค. แต่ดัชนียังสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่าเติบโตเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ภาคการผลิตฝรั่งเศสกรีซ และสเปนเผชิญภาวะหดตัว ขณะที่เยอรมนี อิตาลี และไอร์แลนด์ขยายตัวได้
- ยูโรโซน : อัตราการว่างงานก.ค.63 เพิ่มขึ้นแตะ 7.9%
# สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานในยูโรโซนดีดตัวแตะระดับ 7.9% ในเดือนก.ค.จากระดับ 7.7% ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากบางประเทศกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่ง 215.61 จุด หรือ +0.76% ส่วนดัชนี Nasdaq +1.39%
# ดัชนี DJIA ปิดที่ 28,645.66 จุด เพิ่มขึ้น +215.61 จุด หรือ +0.76% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,939.67 จุด เพิ่มขึ้น+164.21 จุด หรือ +1.39% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,526.65 จุด เพิ่มขึ้น +26.34 จุด หรือ +0.75% หนุนโดยดัชนีPMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.ของสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่ง และแรงซื้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
# หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับขึ้นนำตลาด เช่น หุ้น Zoom (ใน 2Q63 มีคนใช้บริการเพิ่ม +4700%YoY เป็น 148.4 ล้านราย),หุ้นNetflix, หุ้น Amazon, หุ้น AMD, หุ้น Nvidia, หุ้น Facebook, หุ้น Apple เป็นต้น
+ Apple Inc เตรียมเปิดตัว iPhone 5G เดือนต.ค.63
# สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า บริษัทแอปเปิล อิงค์ เตรียมเปิดตัว iPhone 5G จำนวน 4 รุ่นในเดือนต.ค.63 โดยจะเป็นรุ่นมาตรฐาน 2 รุ่น ส่วนอีก 2 รุ่นจะเป็นรุ่นไฮเอนด์ ทั้งนี้ iPhone 5G รุ่นมาตรฐานของแอปเปิลจะมีหน้าจอ 5.4" และ 6.1" ส่วนรุ่นไฮเอนด์จะมีหน้าจอ 6.1" และ 6.7" ขณะนี้แอปเปิลได้แจ้งให้บริษัทซัพพลายเออร์ดำเนินการผลิต iPhone 5G จำนวน 75-80 ล้านเครื่องในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนเครื่องที่มีการแจ้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
# นอกจากนั้น ยังจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ เช่น Apple Watch, iPad Air และ HomePod ในเดือนต.ค.63 ด้วยเช่นกัน
# ราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นกว่า 30% นับตั้งแต่ที่บริษัทประกาศแตกพาร์ในสัดส่วน 1 : 4 ในวันที่ 30 ก.ค.63
• ราคาน้ำมันดิบ : ขยับขึ้นเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ +0.4% ปิดที่ 42.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ +0.7% ปิดที่ 45.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐและจีนออกมาแข็งแกร่ง ปัจจัยติดตาม คือ รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในคืนวันนี้ (เวลาไทย)
• ราคาทองคำ COMEX : ปิดทรงตัว
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,978.9ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.63
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ ซอฟต์โลนแอร์ไลน์เริ่มต.ค.63...ชี้กู้ได้ 2 ราย
# ปลัดคลังลั่นปล่อยกู้ "ซอฟต์โลน" อุ้มสภาพคล่องธุรกิจสายการบินภายใน ต.ค.นี้ วงในเผยให้ "เอ็กซิมแบงก์"ปล่อยกู้ตามแนวทางเดิม ชี้ 5 สายการบินระทึก ส่อกู้ ได้แค่ 2 ราย "ไทยแอร์เอเชีย-บางกอกแอร์เวย์ส" ที่มีแผนธุรกิจชัด-มีศักยภาพไปต่อได้ ระบุเงื่อนไขปล่อยกู้ตีกรอบวงเงินไม่เกิน 20% ของพอร์ตสินเชื่อคงค้าง แถมอาจต้องมี "ผู้บริหาร/บริษัท แม่" ค้ำประกัน (ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ)
- NOK ครึ่งปีอ่วม...ผู้สอบบัญชีไม่ให้ความเห็นงบการเงิน
# "นกแอร์" อ่วมหนัก! ครึ่งปีแรกขาดทุน 3,750 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 215.79% จากปีก่อน ผู้บริหารแจงรับผลกระทบโควิด-19แถมเจอมาตรฐานบัญชีใหม่ ต้องรับรู้ผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้น และต้องรับรู้ผลขาดทุนจากนกสกู๊ตเลิกกิจการ ขณะที่วานนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯแขวน SP เหตุผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นงบการเงินครึ่งปีแรก (ที่มา : ข่าวหุ้น)
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่ง 215.61 จุด หรือ +0.76% ส่วนดัชนี Nasdaq +1.39%
# ดัชนี DJIA ปิดที่ 28,645.66 จุด เพิ่มขึ้น +215.61 จุด หรือ +0.76% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,939.67 จุด เพิ่มขึ้น
+164.21 จุด หรือ +1.39% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,526.65 จุด เพิ่มขึ้น +26.34 จุด หรือ +0.75% หนุนโดยดัชนีPMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.ของสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่ง และแรงซื้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
# หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับขึ้นนำตลาด เช่น หุ้น Zoom (ใน 2Q63 มีคนใช้บริการเพิ่ม +4700%YoY เป็น 148.4 ล้านราย),หุ้นNetflix, หุ้น Amazon, หุ้น AMD, หุ้น Nvidia, หุ้น Facebook, หุ้น Apple เป็นต้น
+ Apple Inc เตรียมเปิดตัว iPhone 5G เดือนต.ค.63
# สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า บริษัทแอปเปิล อิงค์ เตรียมเปิดตัว iPhone 5G จำนวน 4 รุ่นในเดือนต.ค.63 โดยจะเป็นรุ่นมาตรฐาน 2 รุ่น ส่วนอีก 2 รุ่นจะเป็นรุ่นไฮเอนด์ ทั้งนี้ iPhone 5G รุ่นมาตรฐานของแอปเปิลจะมีหน้าจอ 5.4" และ 6.1" ส่วนรุ่นไฮเอนด์จะมีหน้าจอ 6.1" และ 6.7" ขณะนี้แอปเปิลได้แจ้งให้บริษัทซัพพลายเออร์ดำเนินการผลิต iPhone 5G จำนวน 75-80 ล้านเครื่องในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนเครื่องที่มีการแจ้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
# นอกจากนั้น ยังจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ เช่น Apple Watch, iPad Air และ HomePod ในเดือนต.ค.63 ด้วยเช่นกัน
# ราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นกว่า 30% นับตั้งแต่ที่บริษัทประกาศแตกพาร์ในสัดส่วน 1 : 4 ในวันที่ 30 ก.ค.63
• ราคาน้ำมันดิบ : ขยับขึ้นเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ +0.4% ปิดที่ 42.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ +0.7% ปิดที่ 45.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐและจีนออกมาแข็งแกร่ง ปัจจัยติดตาม คือ รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในคืนวันนี้ (เวลาไทย)
• ราคาทองคำ COMEX : ปิดทรงตัว
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,978.9ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.63
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ ซอฟต์โลนแอร์ไลน์เริ่มต.ค.63...ชี้กู้ได้ 2 ราย
# ปลัดคลังลั่นปล่อยกู้ "ซอฟต์โลน" อุ้มสภาพคล่องธุรกิจสายการบินภายใน ต.ค.นี้ วงในเผยให้ "เอ็กซิมแบงก์"ปล่อยกู้ตามแนวทางเดิม ชี้ 5 สายการบินระทึก ส่อกู้ ได้แค่ 2 ราย "ไทยแอร์เอเชีย-บางกอกแอร์เวย์ส" ที่มีแผนธุรกิจชัด-มีศักยภาพไปต่อได้ ระบุเงื่อนไขปล่อยกู้ตีกรอบวงเงินไม่เกิน 20% ของพอร์ตสินเชื่อคงค้าง แถมอาจต้องมี "ผู้บริหาร/บริษัท แม่" ค้ำประกัน (ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ)
- NOK ครึ่งปีอ่วม...ผู้สอบบัญชีไม่ให้ความเห็นงบการเงิน
# "นกแอร์" อ่วมหนัก! ครึ่งปีแรกขาดทุน 3,750 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 215.79% จากปีก่อน ผู้บริหารแจงรับผลกระทบโควิด-19แถมเจอมาตรฐานบัญชีใหม่ ต้องรับรู้ผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้น และต้องรับรู้ผลขาดทุนจากนกสกู๊ตเลิกกิจการ ขณะที่วานนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯแขวน SP เหตุผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นงบการเงินครึ่งปีแรก (ที่มา : ข่าวหุ้น)
+ ออมสินยืดพักหนี้ถึงสิ้นปี ช่วยลูกค้าได้รับผลกระทบโควิด-19
# ผู้อำนวยการธนาคารออมสินสั่งขยายเวลาพักชำระหนี้เพิ่มอีก 3 เดือน จากเดิมสิ้นสุด 30 ก.ย. ต่อถึง 31 ธ.ค.นี้ เนื่องจากลูกค้าได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังมีอีกมาก แบ่งเป็นแผนพักชำระต้น แต่จ่ายดอกอย่างเดียวและจ่ายดอกเต็ม จ่ายเงินต้น 50% (ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ)
+ หุ้นกลุ่ม Property Fund & REIT เริ่มกลับมา
# ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาดัชนีกลุ่ม Property Fund & REIT ปรับขึ้นต่อเนื่อง คาดว่ามาจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมากและอีกยาวนาน ประกอบกับธุรกิจต่างๆ ทยอยฟื้นตัวหลังจากรัฐบาลปลด Lockdown# ดัชนีกลุ่มดังกล่าวยังห่างไกลจุดสูงสุดที่เคยทำไว้ในเดือนก.ย.62 ที่ 264 จุด โดยปัจจุบันอยู่ที่ 188 จุด และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 160 จุด
# คำแนะนำ : เลือกลงทุนในกองทุนที่สินทรัพย์มีโอกาสกลับไปดีและขยายตัวได้ต่อเนื่องในอนาคต เช่น กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน (หุ้นที่แนะนำซื้อ คือ DIF, TFFIF) กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเช่าสูง (หุ้นที่แนะนำซื้อ ได้แก่ AIMRIT,WHART) เป็นต้น
+ CPALL น่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว...จัด 1.2 หมื่นล้านขยายสาขา
# CPALL จ่อออกหุ้นกู้ชุดใหม่ วงเงินราว 2-2.5 หมื่นล้านบาท รีไฟแนนซ์หนี้-ขยายธุรกิจ คาดชัดเจนช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ บิ๊ก "เกรียงไกร บุญโพธิ์อภิชาติ" มองธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 2/2563 หลังแนวโน้มยอดขายฟื้นตัวแถมเดินหน้าทุ่มงบ 1.2 หมื่นล้านบาท ขยายสาขาใหม่-เสริมแกร่งธุรกิจเพิ่ม (ที่มา : ทันหุ้น)
# ความเห็นเชิงกลยุทธ์ DBS : เรามองว่าธุรกิจ CPALL จะดีขึ้นใน 2H63 อย่างค่อยเป็นค่อยไป และเติบโตดีขึ้นในปี 64ส่วนระยะยาวการเติบโตจะมาจากการขยายลงทุน 7-11 ไปในต่างประเทศ เช่น ลาว, เมียนมา เป็นต้น เราแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 81.50 บาท
- ธุรกิจบัตรเครดิตแข่งขันดุเดือด..จับมือออกเคมเปญร่วมกับแอปอีคอมเมิร์ซกันถ้วนหน้า
# ธุรกิจบัตรเครดิตกำลังแข่งขันออกเคมเปญจูงใจลูกค้าใช้บริการจับจ่ายใช้สอย สมรภูมิบัตรเครดิต "โคแบรนด์"กลับมาคึกคัก "กรุงศรี คอนซูมเมอร์" จ่อคลอดหน้าบัตรใหม่กับพันธมิตรแพลตฟอร์ม ดีลิเวอรี่ภายใน ก.ย.นี้ ขณะที่"กสิกรไทย" ชี้หมวด "อีคอมเมิร์ซ" มาแรง ล่าสุดจับมือ "ช้อปปี้" ปั๊มสเปนดิ้ง 4.6 พันล้านบาทใน 1 ปี ฟาก "เคทีซี" ไม่กลัวคู่แข่งชิงจับมือพันธมิตร "ช็อปออนไลน์" ชี้โอกาสทำตลาดบัตรใหม่ยังเปิดกว้าง (ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ)
- รมว.คลังประกาศลาออก หลังรับตำแหน่งได้ไม่ถึง 1 เดือน
# นายปรีดี ดาวฉาย ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรมว.คลัง โดยแหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า การลาออกของนายปรีดีมาจากความอึดอัดใจถึงขั้นต้องลาออกมาจากความขัดแย้งเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในก.คลัง เนื่องจากคนภายในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีเข้ามาแทรกแซงการเปลี่ยนตัวข้าราชการตำแหน่งหลักๆ ของกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะกรมจัดเก็บภาษี ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากผู้บริหารบริษัทเอกชนด้านพลังงานโดยอ้างว่านายกรัฐมนตรีเห็นชอบด้วย ทั้งที่นายกรัฐมนตรีไม่ทราบเรื่อง นอกจากนั้นแหล่งข่าวกล่าวว่า กลุ่มทุนด้านพลังงานดังกล่าวเตรียมเสนอรายชื่อว่าที่ รมว.คลัง คนใหม่ที่จะมาแทนนายปรีดี โดยมีรายชื่ออยู่ในลิสต์ 4-5 คนหากผลักดันได้จริงจะมีผลกระทบกับการปรับโครงสร้างภาษีด้านพลังงานบางตัว (ที่มา : อินโฟเควสท์)
# การลาออกของรมว.คลังทำให้กังวลว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโครงการรัฐจะล่าช้า และฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โจทย์ยาก คือ รัฐบาลต้องเร่งหารมว.คลังคนใหม่ที่มีความสามารถและเป็นกลางจริงๆ
• วิปรัฐบาลนำ 206 รายชื่อส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลยื่นญัตติร่างแก้ไขรธน.แล้ว
# นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)นำรายชื่อส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุนจำนวน 206 รายชื่อ ยื่นญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อนำเข้าบรรจุญัตติการพิจารณาในที่ประชุมร่วมของรัฐสภาแล้ว โดยยอมรับว่าการใช้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ผ่านมาพบความบกพร่องในหลายจุด จึงเห็นว่าควรแก้ไขและการตั้งกมธ.ขึ้นมาศึกษาปัญหาและหลักเกณฑ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@th.dbs.com

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!