WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 9-9-2020dbs
“วิตกสหรัฐลดความสัมพันธ์จีน-ดอลลาร์แข็งน้ำมันร่วง”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : RBF (จากซื้อเป็นถือ)
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วันอังคาร เผชิญแรงขายหลุด 1300 ปิด -18.15 จุด ที่ 1293.80 จุด มูลค่าซื้อขายบาง 45 พันลบ. ดัชนีฯปรับลงสวนทางตลาดเพื่อนบ้านซึ่งรีบาวด์ เพราะไทยเพิ่งรับข่าวลบหลังหยุดยาว ได้แก่ กังวลไทยติดเชื้อรอบ 2 หุ้นสหรัฐ-น้ำมันปรับลงมาก ปัญหาความขัดแย้งจีน-สหรัฐฯ ปัจจัยการเมืองไทยคุกรุ่นหลายประเด็น ยังไม่คืบหน้าเรื่องรมว.คลังคนใหม่ ซื้อสุทธิมาก-รายย่อย ขายสุทธิมาก-สถาบัน YTD ต่างชาติขายสุทธิสูงเป็น 259 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์: SET-มีโอกาสปรับตัวลงแรง หลังข่าวสหรัฐจะลดความสัมพันธ์กับจีน ดาวโจนส์และน้ำมันปรับตัวลงมาก ปัจจัยลบมีมาก ทรัมป์แถลงว่าจะลงโทษบริษัทที่ไปลงทุนต่างประเทศโดยเฉพาะจีน จะเก็บภาษีที่สูงเมื่อมาขายยังสหรัฐ ยุโรปวิตกอังกฤษไม่บรรลุข้อตกลงกับอียู ดาวโจนส์ปรับลง 632 จุด น้ำมัน WTI ปรับลงถึง 3 เหรียญกลับเข้าสู่ตลาดทองคำ ดัชนีกังวล Vix เพิ่มไปถึง 31.46 จุด เช้านี้ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านและดาวโจนส์ Future ปรับลง ด้านปัจจัยบวกคือ จีนจะใช้แผนข้อปฎิบัติการที่บริษัทไฮเท็คไปลงทุนต่างประเทศต้องทำตามกฎหมายและจัดการข้อมูลอย่างเหมาะสม ส่วนไทย-รัฐจะเน้นลงทุนโครงการขนาดใหญ่มากขึ้น เช่น Land Bridge ภาคใต้ กลยุทธ์ระยะสั้น เข้าไว-ออกไว เล่นรอบ คาดดัชนีซื้อ-ขายในกรอบที่ลดลง 1280-1320 จุด ทยอยขายแนวต้านลดเสี่ยง หากหลุด 1310 จุดเป็นสัญญาณไม่ดี ให้ Stop Loss ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังย่ำแย่ ความเสี่ยง หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง P/E SET สูง และการเมืองไทยร้อนแรงขึ้น แต่ก็มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ วัคซีน-ยาคืบหน้า และไตรมาส 2 เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว ไบเดนชนะเลือกตั้งจะเป็นผลดีกับเอเซียมากกว่าตอนทรัมป์ ดอกเบี้ยในตลาดต่ำเงินออมไม่มีทางเลือกนัก จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดี พาณิชย์-CPALL,MC มีโอกาสฟื้นตัวดี รับเหมาเด่น-CK วัสดุก่อสร้างพื้นฐานดี-TASCO,DRT,DCC หุ้นกลุ่มการแพทย์เข้าไฮซีซัน-BCH,BDMS,CHG,RJH,RPH หุ้นDefensive-ADVANC,DTAC,CPF,CHG,OSP หุ้นปันผลสูง-KKP,TISCO,LH เติบโต-ฟื้นตัวดี- AP,MTC,PTL,TASCO,TU,STI ขนส่ง-กลับมาฟื้นตัวเร็ว BEM,BTS ที่อยู่อาศัยขนาดปานกลาง ปันผลมาก- LALIN,NOBLE,SC,SENA หุ้นกลุ่ม REITs & IFFs ปันผลสูงดอกเบี้ยในตลาดต่ำ- DIF,AIMIRT,IMPACT กลุ่มธนาคารไม่สดใส ยังต้องตั้งสำรอง ECL มากใน 2H63 แต่เก็งกำไรปันผลปลายปี แนวรับคือ 1280-1250 จุด และแนวต้าน 1300-1320 จุด ส่วนตัดขาดทุนต่ำกว่า 1290 จุด ปัจจัยน่าติดตามคือ ทรัมป์พยายามใช้มาตรการที่เข้มขึ้นกับจีนเพื่อหาเสียงสู้ไบเด็น ต้องติดตามว่าจะเป็นแค่การต่อรองหรือไม่ และตลาดจับตา ECB ประชุมพฤหัสนี้อาจจะส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนระยะนี้ดอลลาร์แข็งค่า-กังวลอุปสงค์ต่ำ โควิด-19 ยังหนักทำให้ราคาน้ำมันปรับลงแรง การลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรฯ จึงควรระมัดระวัง
# Stock Pick Today : TU ได้ประโยชน์บาทอ่อน ธุรกิจมีแนวโน้มดีขึ้นในปี 64F ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 64F ต่ำเพียง 12 เท่า, P/BV 1.2 เท่า และคาดการณ์ DividendYield ปี 64F ไว้ที่ 4% ล่าสุดลงทุนใน Red Lobsters เพิ่มขึ้น คาดดีลแล้วเสร็จในเดือนก.ย.63 โดยเชื่อมั่นในศักยภาพของ Red Lobster ในระยะยาว โดยคาดว่าจะทำกำไรได้ดีขึ้นแม้ระยะสั้นถูกกระทบจากโควิด-19 แต่ก็ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q63 คาดว่า 2H63 จะขาดทุนน้อยลงจาก 2Q63 ให้ราคาพื้นฐาน TU ที่ 17.10 บาท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: สั้น...เป็นลบ แต่อาจมีรีบาวด์ช่วงสั้นๆตามมาได้ ยังคงให้น้ำหนักกับการลงในระยะกลาง ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นลบ {“ปิดลบแรง”ใต้“SMA10วัน”ต่อเนื่อง (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่งลง”เป็นหลัก แต่เพราะลงต่อเนื่อง (มี“Oversold ในกราฟรายนาที”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯสั้นๆตามมาได้ แนวต้าน 1300 – 1320 (หรือ 1330) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1290” (แนวรับย่อย “1280 / 1250” จุด)}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Hot Issue : ราคาน้ำมันดิบร่วง : โรงกลั่นอาจกลับไปขาดทุนสต็อกใน 3Q63F
Company Update : RBF (ถือ -ราคาพื้นฐาน 9.50)
In The News : กลุ่มสถาบันการเงิน : การรวมหนี้รายย่อยกับหนี้บ้านเพื่อลดดอกเบี้ยไม่ใช่เรื่องง่าย
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- สงครามการค้า: ทรัมป์จะลดระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีน และลงโทษบ.สหรัฐไปลงทุนที่ต่างประเทศ
# นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาวว่า เขาจะลดระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีนพร้อมกับขู่ว่าจะใช้มาตรการลงโทษบริษัทของสหรัฐที่ไปสร้างงานในต่างประเทศ และจะกีดกันบริษัทที่เข้าไปลงทุนในประเทศจีนไม่ให้ได้รับสัญญาทางธุรกิจกับรัฐบาลกลางสหรัฐ
+ จีน: นำเสนอแผน “ Global Initiative on Data Security”
# ทางด้านจีนได้ออกมาเคลื่อนไหวในเวลาต่อมา ด้วยการนำเสนอแผน "Global Initiative on Data Security" ในที่ประชุม"International Seminar on Global Digital Governance" ซึ่งจัดขึ้นผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อวานนี้ โดยระบุว่าบริษัทเทคโนโลยีควรปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของประเทศที่บริษัทนั้นๆ ดำเนินธุรกิจอยู่ ขณะเดียวกันประเทศต่างๆ ก็ไม่ควรเรียกร้องให้บริษัทภายในประเทศทำการเก็บข้อมูลของประเทศอื่นๆ พร้อมกับย้ำว่า ผู้จัดหาผลิตภัณฑ์และการบริการ ICT ไม่ควรติดตั้งระบบแบ็คดอร์ในผลิตภัณฑ์และการบริการเหล่านี้เพียงเพื่อให้ได้ข้อมูลของผู้ใช้งานอย่างผิดกฎหมาย
-ยุโรป: วิตกอังกฤษ-อียูไม่บรรลุข้อตกลงการค้า
# ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าอังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU)โดยไม่มีการทำข้อตกลงการค้า ขณะที่การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยีถ่วงตลาดลงมากที่สุด
- สหรัฐ: ภาวะตลาดมีโอกาสผันผวนช่วง 2 เดือนข้างหน้ามาก ก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 3 พ.ย.63
# ผู้จัดการกองทุนเตือนว่า การร่วงลงของตลาดอาจเป็นตัวอย่างของภาวะตลาดที่ผันผวนในช่วง 2 เดือนข้างหน้าก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. ขณะที่นักลงทุนสถาบันเริ่มกลับจากวันหยุดพักร้อน และจะมุ่งความสนใจไปที่แนวโน้มปัญหาด้านเศรษฐกิจอีกครั้ง
- ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดร่วง 632.42 จุดจากแรงขายหุ้นเทคโนฯ,วิตกข้อพิพาทจีน-สหรัฐ
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงอย่างหนักเนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าจะลดระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีน พร้อมกับขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีบริษัทสหรัฐที่ออกไปสร้างงานในจีนและประเทศอื่นๆ
- น้ำมัน: WTI ปิดร่วง $3.01 วิตกโควิดฉุดดีมานด์,ซาอุฯหั่นราคาน้ำมัน
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 37 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวซาอุดีอาระเบียวางแผนที่จะปรับลดราคาน้ำมันดิบในเดือนต.ค.
• ทองคำ: ปิดบวก $8.9 นักลงทุนซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังตลาดหุ้นร่วง
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกของทองคำ
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะทยอยประกาศสัปดาห์นี้
# นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนส.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ค.,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค.และอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค.
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ ที่ประชุม ครม.ล่าสุดคือรัฐบาลเน้นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ หันมาเน้นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ โครงการขนาดใหญ่
# นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ในช่วงนี้รัฐบาลเน้นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่จากเดิมที่มุ่งเน้นในภาคการส่งออกและท่องเที่ยว หันมาเน้นโครงการขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มรายได้และช่วยเศรษฐกิจในระยะยาวต่อไป เช่น โครงการเชื่อมการเดินทางจากฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตก หรือ โครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้ (LandBridge)
# ผลกระทบ: แสดงว่าภาครัฐจะใช้ตัว G หรือการใช้จ่ายภาครัฐ (Government Expenditure) ในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นไปอีก กลุ่มหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ในระยะยาวคือ วัสดุก่อสร้าง และรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากภาครัฐจะหันมาเน้นโครงการขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มรายได้และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เปลี่ยนจากวิถีเดิมที่มุ่งไปแต่การส่งออกและท่องเที่ยว
+ การท่องเที่ยว: ที่ประชุม ครม.เห็นชอบเพิ่มช่วงวันหยุดยาว กระตุ้นการท่องเที่ยว
# นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมฯ ได้หารือการเพิ่มช่วงวันหยุดยาว เพราะเห็นว่าทำให้เกิดการท่องเที่ยวทีมีเม็ดเงินหมุนเวียน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจหลายด้านปรับตัวดีขึ้น เพราะห่วงโซ่ขับเคลื่อนไปได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมยืนยันว่า ยังไม่พับโครงการ"ภูเก็ตโมเดล" แต่จะเน้นการท่องเที่ยวในประเทศก่อน
+/- ครม.มีมติเห็นชอบให้การช่วยเหลือการจ้างงาน นิสิต นักศึกษา ผู้จบการศึกษาใหม่ แต่ยังไม่พิจารณาการแจกเงิน 3 พันบาท
# ครม.มีมติเห็นชอบให้มีการจ้างงาน นิสิต นักศึกษา ผู้จบการศึกษาใหม่ รวมถึงปวช. และปวส. จำนวน 2.6 แสนตำแหน่งเป็นเวลา 12 เดือน และทางกระทรวงแรงงานเตรียมจัดงาน JOB EXPO THAILAND 2020 ซึ่งจะมีการจ้างงานของแต่ละกระทรวงอีก ประมาณ 1 ล้านคน ส่วนมาตรการแจกเงิน 3,000 บาทนั้น ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียด
+ จีเอ็มประกาศแผนซื้อหุ้นของบริษัทนิโคลา คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าของสหรัฐ
# หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ผู้ผลิตรถยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 7.93% หลังจากจีเอ็มประกาศแผนซื้อหุ้นของบริษัทนิโคลา คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าของสหรัฐ โดยจะซื้อหุ้นในสัดส่วน 11% คิดเป็นวงเงินราว 2 พันล้านดอลลาร์ขณะที่ราคาหุ้นนิโคลาปิดตลาดทะยานขึ้น 40.79%
# ผลกระทบ: เป็นบวกทางจิตวิทยาสำหรับ DELTA เพราะ GM เป็นลูกค้าของ DELTA แต่ต้องติดตามว่าในอนาคตจะมีคำสั่งซื้อจากส่วนนี้เพิ่มขึ้นมากหรือไม่ ปัจจุบันแนะนำ ซื้อ DELTA ราคาพื้นฐาน 120 บาท
• RML ยัน MESA THAI เข้าถือหุ้น 21.402% ไม่กระทบต่อนโยบาย-การดำเนินธุรกิจหลัก
# ตามที่ MESA THAI PTE. LTD. ได้ยื่นแบบรายงานการได้มาของหลักทรัพย์ (แบบ 246-2) เมื่อวันที่ 3กันยายน 2563 ถึงการได้มาซึ่งหุ้นของบริษัทรวมจำนวนทั้งสิ้น 893,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 21.402ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ส่งผลให้ MESA THAI PTE. LTD. กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท (MESATHAI PTE. LTD. เป็นบริษัทในสิงคโปร์ซึ่งมี Mr. Kwee Liong Tek เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว) โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ณ ปัจจุบันตามข้อมูลที่บริษัทรับทราบ ผู้ถือหุ้นรายใหม่ได้หุ้นมาเพียงร้อยละ 21.402 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท ซึ่งไม่เข้าข่ายการทำคำเสนอซื้อทั้งหมดของกิจการ
# ยังคงคำแนะนำในเชิงลบสำหรับ RML คือ Fully Valued ราคาพื้นฐาน 0.40 บาท เพราะคอนโดต้องรอลูกค้าจีนมาโอนซึ่งขณะนี้มีอุปสรรคเรื่องการเดินทาง ส่วน MESA จะทำให้บริษัทดีขึ้นมา จนมีการเก็งกำไร ยังเป็นเรื่องยาก เพราะภาวะอุตสาหกรรมคอนโดไม่เอื้ออำนวย
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : sombata@th.dbs.com

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!