WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน  12-10-2020dbs
 “ผันผวน มาตรการเยียวยาใกล้บรรลุ แต่14 ต.ค.มีชุมนุม”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ---
# ภาวะตลาดและปัจจัยก่อนหน้า : SET วันศุกร์ ถูกขายทำกำไร ปิด -7.69 จุด ที่ 1267.14 จุด มูลค่าซื้อขาย 51 พันลบ. แกว่งแคบเหมือนเพื่อนบ้าน เกิดแรงขายทำกำไรหลัง SET ปรับขึ้นมา 4 วันทำการ รับข่าวบวกต่างๆไปแล้วคือ มาตรการ “ช็อปดีมีคืน” ลดภาษี 3 หมื่นบาทก่อนสิ้นปี, แนวโน้มมาตรการเยียวยาสหรัฐใกล้บรรลุ และรอดูการชุมนุม 14 ต.ค. ตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆ ส่วนซื้อสุทธิมาก-รายย่อย ขายสุทธิมาก-ต่างชาติ YTD ต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 286 พันลบ.
# ปัจจัยและกลยุทธ์: SET-ยังผันผวนก่อนหยุด มาตรการเยียวยาสหรัฐใกล้บรรลุ แต่น้ำมันร่วง-14 ต.ค.มีชุมนุม ปัจจัยบวกคือ ทรัมป์เรียกร้องให้สภาอนุมัติมาตรการแต่วงเงินช่วยเหลือยังห่างกัน ตลาดคาดไบเด็นชนะจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ดัชนีกังวล VIX ลดลงเป็น 25 จุด ส่วนไทยให้นักท่องเที่ยวชาวจีน 120คนเข้ามาได้ 30 วันที่ภูเก็ตในโปรแกรม STV ด้านปัจจัยลบคือ ส.ค.ตัวเลขสต็อกคงคลังค้าส่งและยอดขายภาคค้าส่งไม่สดใส WTO คาดปริมาณการค้าโลกปีนี้ -9.2%อังกฤษ GDP ส.ค.โตลดลง +2.1% ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงต่อเนื่อง ไทยกังวลสถานการณ์แม่สอด น้ำมัน WTI ลดลง 59 เซ็นต์หลังยุติประท้วงที่นอร์เวย์ ตลาดเพื่อนบ้านเช้านี้ Mix ดาวโจนส์ Future ลดลง ส่วนไทย FETCO สำรวจดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนจาก ก.ย.63 เป็น 67.4 ถือว่าซบเซา และติดตามชุมนุม 14 ต.ค.จะบานปลายหรือไม่ แต่คาดว่าไม่ สำหรับกลยุทธ์ระยะสั้น ความเสี่ยงยังมาก ควรเล่นรอบ ระยะนี้คาดดัชนีซื้อ-ขายช่วง 1260-1290 จุด หากหลุด 1260 จุดเป็นสัญญาณไม่ดีอีกครั้ง ให้ Stop Loss ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังไม่สดใส ความเสี่ยงคือ หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง และการเมืองไทยร้อนแรงขึ้น แต่ก็มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์ วัคซีน-ยาคืบหน้า ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ เงินออมบางส่วนไหลเข้าตลาดหุ้น มีมาตรการเยียวยา จึงแนะนำทยอยถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดี แนวรับคือ 1245-1230 จุด และ แนวต้าน 1280-1290 จุด สำหรับเป้าหมายดัชนีทางพื้นฐานปี63 เป็น 1340 จุด ด้วย Forward P/E ที่ระดับ 25.4 เท่า จากคาดการณ์ EPS ปี 63 และ 64 ที่มีการเปลี่ยนแปลงคือ -41%/+28% y-o-y ตามลำดับ ปัจจัยน่าติดตามคือ 1) MINT อาการยังหนัก ภาวะธุรกิจโดนผลกระทบโควิด-19 ต้องปลดพนักงานอีกเป็นจำนวนมากจากโรงแรมทั่วโลก คำแนะนำ ถือ ราคาพื้นฐาน21 บาท 2) แนวโน้มกำไรกลุ่มธนาคาร 3Q63 -50% y-o-y ทรุดตัวจากการดำเนินงานและฐานปีที่แล้ว SCB มีกำไรพิเศษจากการขายธุรกิจประกันมาก และแนวโน้ม 4Q63 ก็ยังไม่สดใส เพราะจบมาตรการเยียวยา สำรองหนี้มีโอกาสเพิ่มอีก แนะนำถ่วงน้ำหนักน้อย แต่ Top Pick เป็น TISCO และ 4) บ้านเสียหายจากน้ำท่วมมากอาจมีการเก็งกำไร HMPRO,GLOBAL,DOHOME
# Stock Pick Today TISCO ราคาหุ้นต่ำกว่าพื้นฐานมาก คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายทางพื้นฐานเป็น 85 บาท เทียบเท่ากับ P/BV ปี 64F ที่ 1.7 เท่า ราคาปิดมีส่วนเพิ่มถึง 29% คาดการณ์กำไรสุทธิปี 63 -18%YoY แล้วค่อยฟื้นตัว +6% ในปี 64 เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสูง คาดว่าปีนี้เป็น 6.98 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผลมากกว่า 10% นอกจากนี้ยังมีอัตราผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูงสุดในกลุ่มธนาคาร คาดว่าปี 63 และ 64 เป็น 15.1%/15.8% ตามลำดับ
กลยุทธ์ทางเทคนิค: ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เปลี่ยนกลับมาเป็นลบเล็กๆอีกครั้ง {“ปิดลบ”เหนือ“SMA10วัน” (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯสัปดาห์นี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(“SMA10”หนุน) จะช่วยให้มีรีบาวด์ฯก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1280 (หรือ 1290 – 1300) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1260” (แนวรับย่อย “1245 / 1230 – 1220” จุด)}
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Industry Focus : ธนาคารพาณิชย์
Company Update : BBL (ถือ -ราคาพื้นฐาน 109.00)
PTTGC (ถือ -ราคาพื้นฐาน 44.00)
Turnover List Watch : BEAUTY เข้าเกณฑ์ติด Cash Balance ตามคาด
In The News : ข่าวเด่นวันนี้
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+/- สหรัฐ: ทรัมป์เรียกร้องสภาอนุมัติมาตรการ แต่วงเงินช่วยเหลือที่ทำเนียบขาวเสนอยังต่ำกว่าเดโมแครต
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการต่างๆ ที่เขาจะลงนาม ซึ่งได้แก่ การแจกเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันคนละ 1,200 ดอลลาร์ รวมทั้งการอัดฉีดวงเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบินและวงเงิน 1.35 แสนล้านดอลลาร์สำหรับธุรกิจรายย่อย
# ส่วนทำเนียบขาวได้ยื่นข้อเสนอครั้งใหม่แก่พรรคเดโมแครต โดยจะเพิ่มวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสู่ระดับ 1.8ล้านล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่พรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์
+ สหรัฐ: ตลาดคาดหวัง หากไบเดนชนะจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
# ตลาดยังได้แรงหนุนจากแนวโน้มที่นายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐครั้งใหญ่ ขณะที่โพลชี้ไบเดนนำทรัมป์ในการดีเบตครั้งแรก
+/- สหรัฐ: สต็อกสินค้า ส.ค.เพิ่มขึ้นดีกว่า q-o-q แต่แย่ลง y-o-y ส่วนยอดขายภาคค้าส่งส.ค.ต่ำกว่าคาด
# กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบรายปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งดิ่งลง 5.2% ในเดือนส.ค.
# ส่วนยอดขายในภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.0% หลังจากพุ่งขึ้น 4.8%ในเดือนก.ค. และรายงานยังระบุด้วยว่า เจ้าของธุรกิจจะใช้เวลา 1.31 เดือนในการขายสินค้าจนหมดสต็อก ลดลงจากระดับ 1.32 เดือนในเดือนก.ค.
• นักลงทุนสหรัฐจับตารายงานผลประกอบการบจ. ไตรมาส 3/2563 เริ่มสัปดาห์หน้า
# ในสัปดาห์หน้า ตลาดจะจับตาการเริ่มต้นฤดูการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐ โดยธนาคารขนาดใหญ่จะเปิดฉากการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2563
-WTO คาดปริมาณการค้าโลกปีนี้ -9.2% ส่วนอังกฤษเผย GDP ส.ค. +2.1% โตชะลอลงกว่าสองเดือนก่อนหน้า
# องค์การการค้าโลก (WTO) เปิดเผยรายงานล่าสุดว่า ปริมาณการค้าโลกมีแนวโน้มหดตัวลง 9.2% ในปี 2563 ก่อนที่จะดีดตัวขึ้น 7.2% ในปี 2564
# สำนักงานสถิติอังกฤษ รายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหราชอาณาจักร ขยายตัว2.1% ในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งชะลอลงจากที่ขยายตัว 6.4% ในเดือนก.ค. และ 9.1% ในเดือนมิ.ย.
-โควิด-19: สถานการณ์ยังหนัก มีผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตเพิ่มขึ้นมาก สหรัฐอันดับ 1 เช่นเคย
# Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 37,450,143 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,077,218 ราย ขณะที่สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลกเกือบ 8 ล้านราย และเสียชีวิต 2.2 แสนราย
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดาวโจนส์ปิดบวก 161.39 จุด ขานรับเจรจามาตรการกระตุ้นศก.คืบหน้า
# ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความคืบหน้าในการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคาดว่าการเจรจาระหว่างนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรและนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลัง จะยังคงดำเนินต่อไป แม้จะยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ก็ตาม
- น้ำมัน: WTI ปิดลบ 59 เซนต์ ข่าวแรงงานน้ำมันนอร์เวย์ยุติประท้วงฉุดตลาด
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) หลังจากมีรายงานข่าวว่า การผละงานประท้วงเป็นเวลา 10 วันของแรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมันของนอร์เวย์ได้ยุติลงแล้ว ซึ่งข่าวดังกล่าวได้คลายความวิตกในตลาดเกี่ยวกับผลกระทบด้านการผลิตน้ำมัน และทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง
• ทองคำ: ทองปิดพุ่ง 31.1 ดอลล์ เหตุดอลล์อ่อนหนุนแรงซื้อทอง
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
- FETCO เผยเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าจาก ก.ย.ที่ 67.44 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ "ซบเซา"
# ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) สำรวจในเดือน ก.ย.63 พบว่า ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 67.44 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ "ซบเซา" ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือนโยบายภาครัฐและการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงความคาดหวังการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19
+/- กลุ่มนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ STV 120 คน มาไทย หลังเทศกาลกินเจ
# รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หลังเทศกาลกินเจ ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ จะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ (SpecialTourist VISA:STV) จากจีนประมาณ 120 คน เดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต โดยมีการเตรียมกิจกรรมให้กับนักท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างการกักตัว 14 วัน และนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเข้ามาอยู่ในไทยเป็นเวลา 30 วัน
# ผลกระทบ: แม้ว่าจะดีที่เริ่มให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ถือว่าเข้ามาได้ช้า ขณะที่เข้าสู่ไฮซีซั่น และต้องใช้เวลานานกว่าภาคการท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัว ฝ่ายวิจัยฯ จึงยังคงคำแนะนำ ถ่วงน้ำหนักน้อยสำหรับหลักทรัพย์กลุ่มเดินทาง-ท่องเที่ยว
-การเมืองไทย: คณะราษฎร ออกแถลงการณ์ประกาศจัดการชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค.
# คณะราษฎร ออกแถลงการณ์ประกาศจัดการชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน โดยเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี, ให้เปิดประชุมวิสามัญทันทีเพื่อรับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจากประชาชน และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ นำสถาบันกษัตริย์กลับมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญตาม ครรลองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
-กังวลสถานการณ์ชายแดนแม่สอด หลังมีข่าวตรวจพบคนขับรถจากพม่าติดโควิด 2 ราย ช่วงวันหยุด
# ชายแดนแม่สอดด่านหน้า ล่าสุด จนท.ตรวจคนขับรถพม่ารถเมียนมาที่ข้ามมาซื้อสินค้าในตลาดแม่สอด พบติดเชื้อโควิด2 ราย ทำแม่ค้าผวา ครวญค้าขายซบเซาหนัก ลูกค้าหนีหายหมด (ไทยรัฐ)
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : sombata@th.dbs.com

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!