WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

“ยังคงให้เลือกซื้อหุ้นดีจังหวะอ่อนตัว”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : IVL (จากถือเป็นซื้อ)
• ภาพตลาดวันก่อน : SET Index อ่อนตัวลง 8.55 จุด มาปิดที่ 1388.29 มูลค่าซื้อขาย 4 หมื่นกว่าล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างชาติมีการขายสุทธิออกมา 449 ล้านบาท และ 3.4 พันล้านบาท ตามลำดับ ส่วนพอร์ตบล.และรายย่อยซื้อสุทธิ โดยข่าวการประท้วงของกลุ่มต่อต้านรัฐประหารเป็นปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาด ขณะเดียวกันนักลงทุนก็ Wait & See เรื่องนายกรัฐมนตรีคนกลางและครม.ใหม่ด้วย

• ปัจจัยและกลยุทธ์ : นักลงทุนกำลังติดตามแนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจและการเมืองของไทย โดยเฉพาะรายละเอียดของสภาปฏิรูปและสภานิติบัญญัติในรูปแบบใหม่ ซึ่งหากได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ และดำเนินการทั้งสองด้านไปได้อย่างราบรื่นก็ช่วยให้เศรษฐกิจและความเชื่อมั่นฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่เราได้สอบถาม พบว่าส่วนใหญ่รู้สึกดีขึ้น ทั้งจากเรื่องการเร่งใช้จ่ายและลงทุนในโครงการภาครัฐ การทยอยคืนเงินในโครงการรับจำนำข้าวให้กับชาวนา ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจในต่างจังหวัดดีขึ้น การค้าการลงทุนเดินหน้าต่อไปได้หลังชะลอมาหลายเดือนกลุ่มหลักทรัพย์ที่ได้รับผลดี คือ กลุ่มที่อิงกับอุปสงค์ในประเทศ เช่น แบงค์, รับเหมา & วัสดุก่อสร้าง, พาณิชย์, เช่าซื้อต่างจังหวัด, สื่อสาร เป็นต้น หุ้นเด่นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ได้แก่ BBL, KBANK, KTB, CK, STEC, SCC, DRT, DCC, CPALL, GLOBAL, MC, SINGER, TK เป็นต้น

สำหรับ ปัจจัยภายนอกวันนี้มีน้ำหนัก Neutral ในทางปัจจัยพื้นฐาน เรายังคงแนะนำทยอยซื้อลงทุนระยะกลาง-ยาวในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีในจังหวะราคาอ่อนตัว สำหรับการลงทุนตามรอบโดยใช้วิเคราะห์ทางเทคนิคมีกลยุทธ์ คือ โดยหลักเป็นการซื้อตามค่าบวก กลยุทธ์รองคือซื้ออ่อนตัว โดย SET มีพื้นที่แนวรับ 1370-1360, 1340-1330 จุด และแนวต้านระยะสั้น 1400-1400, 1430+/- จุด สำหรับหุ้นพื้นฐานที่น่าสนใจวันนี้ เป็น MC

 

Fundamental Pick
MC แนะนำซื้อปิด 17.40 บาท ราคาพื้นฐาน 20.36 บาท
• กำไรสุทธิ 1Q57 +14%YoY เป็น 207 ล้านบาท ตามคาด (ยอดขาย MC Brand +12%YoY &ทำงบรวมกับ Time Deco) เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 57-58 เติบโต Outperform ตลาดรวม โดยเป็นผลประโยชน์จากการขยายสาขา & การลงทุน ใน 1Q57 บริษัทเพิ่มจุดจำหน่ายในประเทศ &ต่างประเทศจำนวน 31 แห่ง และ 4 แห่ง ตามลำดับ รวมเป็นสาขาทั้งหมด 729 แห่ง ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ (ตั้งเป้าเพิ่มจุดจำหน่ายปี 57 ทั้งหมด 110 แห่ง โดยเป็นของ TimeDeco 12 แห่ง) เราเห็นว่า MC เป็นบริษัทหนึ่งที่จะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในต่างจังหวัด แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 20.36 บาท อิงกับ P/E ปี 57 ที่ 20 เท่า ทั้งนี้เรามองว่าMC มีโอกาสเติบโตได้ดีในระยะยาว ทั้งที่เป็น Organic growth และ Inorganic growthเนื่องจากแผนขยายธุรกิจเชิงรุกภายในบริษัทเอง และการที่บริษัทมีเงินสดในมือเหลืออยู่ก็เปิดโอกาสให้ร่วมทุนหรือเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมหากมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่เหมาะสม

ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์
+ ECB ส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
+ นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของ ECB กำลังจับตาอัตราเงินเฟ้อ โดยหากอัตราเงินเฟ้อยังคงลดลงต่อเนื่อง ก็พร้อมดำเนินการออกมาตรการเพิ่มเติมภายในเดือนมิ.ย.นี้ ทั้งนี้ ECB มีกำหนดจะประชุมนโยบายครั้งต่อไปในวันที่ 5 มิ.ย.57
• วานนี้ต.หุ้น & โภคภัณฑ์สหรัฐปิดทำการ • ตลาดหุ้นและโภคภัณฑ์สหรัฐปิดทำการในวันจันทร์ที่ 26 พ.ค.2557 เนื่องในวัน MemorialDay

 

ปัจจัยในประเทศและหลักทรัพย์
+ IVL : ปรับคำแนะนำจากถือเป็นซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 28 บาท

• ปัจจัยบวกที่เป็น Catalyst คือ ผลประกอบการฟื้นตัวเป็นกำไร โดย Spread ของ PTA เพิ่มเป็น 85 เหรียญสหรัฐ/ตันในช่วง YTD เทียบกับ 72 เหรียญสหรัฐ/ตันใน 4Q56 เนื่องจากกำลังการผลิตใหม่เข้ามาน้อยกว่าที่เคยประเมินกันไว้ (10 ล้านตัน) ซึ่งส่วนนี้ทำให้ราคา PX ซึ่งเป็นวัตถุดิบของ PTA ลดลงมากเป็น 1,180 เหรียญสหรัฐ/ตัน ต่ำสุดนับตั้งแต่ 4Q53 และ Spreadของ PX (บน Naphtha) ลดลงต่ำสุดในรอบ 6 ปีที่ 215 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งเป็นบวกกับ IVLโดยการเพิ่มขึ้นของ Spread PTA ทุกๆ 10 เหรียญสหรัฐ/ตันจะทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น14% ด้านปริมาณขาย มีการเติบโตที่ดี โดยบริษัทเพิ่มเป้าหมายปีนี้เป็น 6.5 ล้านตัน (เดิม 5.8ล้านตัน) เพราะโรงงาน MEG ที่สหรัฐผลิตเต็มที่ (ใน 2Q56 ปิดซ่อมบำรุงไป 2 เดือน) และโรงงานไฟเบอร์ใหม่ที่อินโดนีเซียเริ่มเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ใน 3Q57 (กำลังการผลิต 3.18แสนตัน/ปี) รวมทั้งมีการเพิ่มการผลิตโรงงาน PTA และ PET ที่มีอยู่เดิมด้วย หากตัดปริมาณการผลิต PTA เพื่อใช้ในการทำ PET ออกไป 1.2 ล้านตัน พบว่าปริมาณขายปีนี้จะเติบโต 15%YoYและการปรับขึ้นของ Spread PTA ใน 2H57 คาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญในครึ่งหลังของปีนี้
• ปรับคำแนะนำเป็นซื้อ และปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 28 บาท โดยรวมกำลังการผลิตจากโรงงานที่เข้าซื้อใหม่ คือ SASA ในตุรกีเข้าไปด้วย และปรับเพิ่มสมมติฐาน Spread ของPET ในยุโรปอีก 20 เหรียญสหรัฐ/ตัน เป็น 280 เหรียญสหรัฐ/ตันสำหรับปี 57 และไปข้างหน้า

+ ธ.ก.ส.จะจ่ายเงินชาวนาปี 56/57 ครบในเดือนมิ.ย.57...เป็นข่าวบวกกับกลุ่มพาณิชย์,เช่าซื้อ, ก่อสร้าง เป็นต้น...หลักทรัพย์ที่จะได้ผลดีเป็นบริษัทที่มีฐานลูกค้าหลักอยู่ในต่างจังหวัดมาก เช่น CPALL, MC, SINGER,TK, GLOBAL, DCC, DRT เป็นต้น
+ ชาวนาเฮ-รับเงิน บรรยากาศชื่นมื่นทั่วประเทศ หลังลำบากเป็นหนี้เป็นสินกันมานานหลายเดือน ด้านธ.ก.ส.เปิดเผยว่าจะเร่งจ่ายเงินจำนำข้าวปี 56/57 ที่ยังคงค้างเกษตรกรอีกกว่า 9 หมื่นล้านบาท โดยใช้เงินกองทุนช่วยเหลือชาวนาและเงินกู้ที่กระทรวงการคลังจัดหา โดยคาดว่าจะจ่ายได้หมดภายในเดือนมิ.ย.57 นี้

 

     ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : การทยอยจ่ายเงินชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจในต่างจังหวัดได้เป็นอย่างดี คาดว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆ กระเตื้องขึ้นจากกำลังซื้อที่ทยอยกลับมา กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์ คือ พาณิชย์, เช่าซื้อ, ก่อสร้างเป็นต้น ซึ่งหลักทรัพย์ที่จะได้ผลดีจะเป็นบริษัทที่มีฐานลูกค้าหลักอยู่ในต่างจังหวัดมาก เช่นCPALL, MC, SINGER, TK, GLOBAL, DCC, DRT เป็นต้น

 

• หลักทรัพย์ที่ทาง DBSV ทำการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานประกอบด้วย CPALL, GLOBAL และDCC ซึ่งสรุปประเด็นการลงทุนได้ดังนี้

# CPALL (แนะนำซื้อ - ราคาพื้นฐาน 48 บาท) : ธุรกิจของ CPALL ไปได้ดี บริษัทมีการปรับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นการเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าชิ้นเล็กๆ แต่มีความจำเป็นในการใช้ประจำวันของผู้บริโภค ซึ่งสินค้าดังกล่าวได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและปัญหาการเมืองยืดเยื้อไม่มาก ฝ่ายวิจัยฯ DBSV คาดว่า SSSG ปี 57 ยังเป็นบวก 4-5% ซึ่งถือว่าแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเฉลี่ยของอุตสาหกรรมค้าปลีกทั้งหมด เราจัดให้CPALL เป็นหุ้น Top Pick ในหมวดพาณิชย์ เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตกำไรที่สูง กลยุทธ์การตลาดที่มีความยืดหยุ่นได้ดี และได้ประโยชน์ในการเติบโตเร็วจากการซื้อ MAKROคาดการณ์ EPS Growth ปี 57 ไว้เท่ากับ 35% นับว่าโดดเด่นมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเติบโต 23% และการขยายตัวของกำไรตลาดที่ 9% แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 48บาท อิงกับ PEG ปี 57 ที่ 1.0 เท่า

# MC (แนะนำซื้อ – ราคาพื้นฐาน 20.36 บาท) : กำไรสุทธิ 1Q57 +14%YoY เป็น 207 ล้านบาท ตามคาด (ยอดขาย MC Brand +12%YoY & ทำงบรวมกับ Time Deco) เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 57-58 เติบโต Outperform ตลาดรวม โดยเป็นผลประโยชน์จากการขยายสาขา &การลงทุน ใน 1Q57 บริษัทเพิ่มจุดจำหน่ายในประเทศ & ต่างประเทศจำนวน 31 แห่ง และ 4แห่ง ตามลำดับ รวมเป็นสาขาทั้งหมด 729 แห่ง ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ (ตั้งเป้าเพิ่มจุดจำหน่ายปี 57 ทั้งหมด 110 แห่ง โดยเป็นของ Time Deco 12 แห่ง) เราเห็นว่า MC เป็นบริษัทหนึ่งที่จะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในต่างจังหวัด แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน20.36 บาท อิงกับ P/E ปี 57 ที่ 20 เท่า ทั้งนี้เรามองว่า MC มีโอกาสเติบโตได้ดีในระยะยาว ทั้งที่เป็น Organic growth และ Inorganic growth เนื่องจากแผนขยายธุรกิจเชิงรุกภายในบริษัทเองและการที่บริษัทมีเงินสดในมือเหลืออยู่ก็เปิดโอกาสให้ร่วมทุนหรือเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมหากมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่เหมาะสม

# GLOBAL (แนะนำซื้อ - ราคาพื้นฐาน 15.10 บาท) : อัตราการเติบโตจากสาขาเดิม(SSSG) ใน 1Q57 เป็น -7.1% เทียบกับ 4Q56 และ 1Q56 ที่ -6% และ 8.5% ตามลำดับ โดยเป็นผลจากเศรษฐกิจซบเซา สำหรับ 2Q57 คาดว่า SSSG น่าจะยังเป็นลบ แต่มีสัญญาณดีขึ้นโดยในเดือนเม.ย.57 มีการติดลบที่น้อยลงกว่า 1Q57 สำหรับแผนการขยายสาขาใหม่คือ2Q57-5 สาขา และ 2H57- 7 สาขา หลังจาก 1Q57 ที่เปิดไปแล้ว 2 สาขา เราคาดว่าแนวโน้มยอดขายใน 2H57 จะดีขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่ทางการเร่งจ่ายเงินให้กับชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว ให้สมมุติฐาน SSSG ปี 57 เป็น -2% แต่ยอดขายรวมยังขยายตัวได้จากการเปิดสาขาใหม่ แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 15.10 บาท ซึ่งประเมินด้วย PEG ปี 57 ที่ 1 เท่า

# DCC (แนะนำถือ - ราคาพื้นฐาน 53 บาท) : ปริมาณขายช่วง 1H57 อ่อนแอ แม้จะกระเตื้องขึ้นใน 2H57 แต่รวมทั้งปี 57 จะต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ 7% (ให้สมมติฐานยอดขายปี57 ขยายตัว 3%) แต่การลดค่าใช้จ่าย SG&A ช่วยชดเชยกับยอดขายที่น้อยลงได้ จึงคงคาดการณ์กำไรปีนี้เติบโต 4% เป็น 1.35 พันล้านบาท นับว่าความสามารถในการทำกำไร DCCยังโดดเด่นมากทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยคาดการณ์กำไรปี 58 เติบโตเพิ่มเป็น 15%แนะนำถือรับปันผลสูง ให้ราคาพื้นฐาน 53 บาท อิงกับ P/E ปี 57 ที่ 16 เท่า และคาดการณ์Dividend Yield ปี 57-58 เท่ากับ 6% และ 7% ตามลำดับ

• สำหรับ SINGER, TK และ DRT ที่ทางฝ่ายวิจัยฯ DBSV ไม่ได้ทำการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานนั้น ใน SAA Consensus มีคาดการณ์ผลประกอบการ คำแนะนำ และราคาเป้าหมายไว้ดังนี้

 

 

# SINGER : นักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรสุทธิปี 57-58 ขยายตัว -2% และ +28% ตามลำดับแนะนำซื้อ - 3 ราย และถือ - 1 ราย ให้ราคาเป้าหมาย 23.88 บาท (Average)

# TK : นักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรสุทธิปี 57-58 ขยายตัว -27% และ +27% ตามลำดับแนะนำซื้อเก็งกำไร - 1 ราย และขาย - 3 ราย ให้ราคาเป้าหมาย 8.18 บาท (Average)

# DRT : นักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรสุทธิปี 57-58 ขยายตัว -8% และ +11% ตามลำดับแนะนำถือ - 3 ราย, Neutral – 2 ราย และขาย - 3 ราย ให้ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท (Average)

• อย่างไรก็ตาม ถ้าการอุปโภคบริโภคและการลงทุนในประเทศมีการฟื้นตัวได้ดีใน 2H57ประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์ก็มีโอกาสปรับขึ้นได้

 

• การเมือง : พล.อ.ประยุทธ์เร่งสะสางทุกภาคส่วน สู่ปฏิรูปเพื่ออนาคต ยืนยันยึดหลักถูกต้อง-ชอบธรรม-โปร่งใส
• ในหลวงโปรดเกล้าฯหัวหน้าคสช. พล.อ.ประยุทธ์ถวายสัตย์ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ยึดหลักถูกต้อง-ชอบธรรม-โปร่งใส ลุยสะสางทุกมิติสู่ปฏิรูปเพื่ออนาคต รับกักตัวในค่ายหทารหวังให้สงบสติ ขอทุกฝ่ายเข้าใจต้องใช้ยาแรง ไม่เหลิงอำนาจแน่ ยันบริสุทธิ์ใจไร้ผลประโยชน์แฝงกำชับสื่อห้ามตอกลิ่มความขัดแย้ง แบ่งรับแบ่งสู้นั่งควบนายกรัฐมนตรี ยังไม่ตอบจะคืนอำนาจประชาชนเมื่อไหร่ ย้ำเคอร์ฟิวยังยึดประกาศเดิม TDRI แนะคสช.เปิดใจกว้าง ชี้ปฏิรูปได้ต้องเกิดภายใต้การมีส่วนร่วม รักษาการผบ.ตร.เร่งดันพ.ร.บ.ควบคุมฝูงชน (ที่มา : ไทยรัฐ วันที่ 27 พ.ค.2557)

 

• การเมือง : ยังมีการชุมนุมต่อต้านรัฐประหารเป็นจุดๆ ด้านพรรคเพื่อไทยยังนิ่ง รอดู Roadmap ปฏิรูป
• เมื่อวานนี้ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารออกมาหลายจุด แต่ทหารและตำรวจก็เข้าไปสลายกลุ่มผู้ชุมนุมโดยไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ด้านพรรคเพื่อไทยยังนิ่ง ไม่ขับเคลื่อนเพราะองคาพยบถูกควบคุมหมด รวมทั้งรอดู Roadmap ในการปฏิรูปที่จะออกมาก่อนด้วย
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 arparporns@th.dbsvickers.com 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!