- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 27 July 2021 13:01
- Hits: 9557
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 27-7-2021
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ปรับลงต่อ แต่ไม่รุนแรง
ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน SET Index วันอังคาร (หลังหยุดยาว 3 วัน และก่อนที่จะหยุดทำการอีกครั้งในวันพรุ่งนี้) ปรับลดลง... สะท้อนปัจจัยลบจากสถานการณ์ COVID-19 ที่รุนแรง และแนวโน้มฟันด์โฟลว์ในตลาดหุ้นเอเชียดูแย่ลง ทั้งจากแรงกดดันของ COVID-19 ต่อเศรษฐกิจประเทศต่างๆ ในครึ่งหลังของปีนี้ และประเด็นข่าวที่ทางการจีนเข้าแทรกแซงธุรกิจของ Tencent ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเหนือร่วงหนักเมื่อวานนี้... ด้านปัจจัยต่างประเทศเป็นลบเล็กน้อย นักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะชะลอเพื่อติดตามผลประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะแถลงในคืนวันที่ 28 ก.ค. ตามเวลาไทย ขณะที่ในช่วงปลายสัปดาห์ สหรัฐฯ จะมีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่สำคัญได้แก่ core PCE inflation เดือน มิ.ย. ส่วนฝั่งประเทศนั้น ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวเลขผู้ติดเชื้อฯ ยังคงเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ แต่สำหรับเช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อฯ ชะลอเล็กน้อย อยู่ที่ 14,150 ราย เสียชีวิต 118 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 9,168 ราย... ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ ได้ปรับลดเป้าหมายดัชนีฯ สิ้นปี 2564 จากเดิม 1,750 จุดเป็น 1,650 จุด สะท้อนความเสี่ยงด้านลบต่อเศรษฐกิจและผลประกอบการ บจ. ไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อย่างไรก็ดี ณ ระดับปัจจุบันของ SET Index น่าจะมีความเสี่ยงของราคาไม่มากแล้ว (อ่านเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน วันนี้)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร RCL, BCPG*, SIMAT
RCL (เป้า Consensus 60 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 56 บาท / แนวต้าน 58 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 65 บาท (Stop loss 54 บาท) 2) ประเมินแนวโน้ม Earnings momentum ยังเป็นขาขึ้นต่อไปอีกอย่างน้อย 2 ไตรมาสติดๆ (2Q-3Q) จาก Demand การขนส่งสินค้าทั่วโลกที่ยังเร่งตัวขึ้น ตัวเลขการส่งออกของไทยที่ยังเติบโต ขณะที่อุปทานเรือคอนเทนเนอร์มีจำกัด ส่งผลให้ดัชนีค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ล่าสุดยังปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง … ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ บล.เคจีไอ ไต้หวัน คาดการ Re-stock สินค้าทั่วโลกยังเร่งตัวขึ้นไปจนถึงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย 3) Trailing PE 10 เท่า คาดว่าจะลดลงไปอีกหลังการรายงานงบฯ 2Q – 3Q
BCPG* (เป้า Consensus 17 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.3 บาท / แนวต้าน 14.9 – 15.2 บาท (Stop loss 13.9 บาท) 2) ประเมินรับ Sentiment บวกจากประเด็นปริมาณน้ำฝนในภูมิภาคเอเชียที่สูง จากปรากฏการณ์ La Nina โดย BCPG* มีโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ลาว 3) การประกาศแผนลงทุนใหม่ๆ i) โรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่ลาว กำลังการผลิต 600MW ถือหุ้น 45% และ ii) การลงทุนธุรกิจแบตเตอรี่ (ระบบกักเก็บพลังงาน) โดยเข้าถือหุ้น 14% ในบริษัท VRB Energy 4) Valuation ยังไม่แพงด้วย Forward PE ปีนี้ที่ 18.6 เท่า
SIMAT (เป้าพื้นฐาน 6.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.8 บาท / แนวต้าน 6.4 – 6.8 บาท (Stop loss 5.4 บาท) 2) ประเมิน Earnings momentum เป็นบวก YoY, QoQ ใน 2Q – 3Q จาก i) การปรับโครงสร้างองค์กรตัดรายจ่าย SG&A ใหม่หมดหลังทีมบริหารใหม่เข้าบริหารจัดการแล้ว คาดเริ่มเห็นใน 3Q64 ii) บ.ลูก ฮินชิซึ (ทำงาน Silk screen และผลิตชิ้นส่วน iPhone) คาดกำไรโตเด่นตามการส่งออกที่เติบโต iii) รายได้จากโครงการเน็ตชายขอบเริ่มรับรู้แล้ว 3) Forward PE ปีนี้ยังไม่แพงเพียง ±25 เท่า (จากการคาดกำไรจะเร่งขึ้นใน 2Q-3Q) 4) เตรียมยื่นไฟลิ่ง บ.ลูก ฮินชิซึใน 4Q64 นี้เพื่อเตรียม IPO (คาดหวัง Pre-emptive right สิทธิจองซื้อหุ้น IPO ให้ผู้ถือหุ้น SIMAT)
หุ้นมีข่าว
(+ SAT, AH, EPG) 'สรรพสามิต' เร่งภาษี หนุนลงทุนอีวี-แบตชี้ ไม่กระทบรถปิกอัพ (กรุงเทพธุรกิจ) "สุพัฒน์พงษ์" นัดถกบอร์ดอีวีแห่งชาติสัปดาห์นี้ เร่งแผนดันไทยเป็นฐานการผลิตและการสร้างแรงจูงใจในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทย "สรรพามิต" เร่งคลอดมาตรการภาษีหนุนอีวีภายในปี 64 ยืนยันไม่กระทบรถกระบะ
(+) KWM หัน สกัด 'กัญชง-กัญชา' (กรุงเทพธุรกิจ) "เคดับบลิวเอ็ม" เตรียมขอไลเซ่นส์สกัดกัญชง-กัญชา จากเดิมเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรสกัด คาดอย.อนุมัติภายในปีนี้ คงเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 40% ปีก่อน เหตุส่งมอบเครื่องสกัดให้ลูกค้า 10 เครื่อง
(+) SIMAT อินเทอร์เน็ตภูธรผนึกพันธมิตรขยายฐาน (ทันหุ้น) SIMAT เผยความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง WFH-เรียนออนไลน์พุ่งขึ้น ล่าสุดจับมือพันธมิตรเคเบิลทีวีอันดับ 1 พัฒนาระบบ-ลดต้นทุน เร่งปูพรมขยายพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีก 7 จังหวัด ฟากโบรกแนะ "ซื้อ" มองโอกาสเติบโตสูง แถมแนวโน้มกำไรโดดเด่น ชี้เป้าไกล 8.40 บาท
(+) JAS ส่ง JTS ลุยขุดบิตคอยน์ (ข่าวหุ้น) JAS ส่ง JTS ลุยธุรกิจขุดบิตคอยน์ เล็งติดตั้งเครื่องขุดเพิ่ม 500 เครื่องภายในไตรมาส 3/64 ก่อนขยายเฟส 2 อีก 5,000 เครื่องภายในต้นปี 65 พร้อมเพิ่ม 50,000 เครื่อง หวังเป็นศูนย์กลางของ Bitcoin Mining Farm ใหญ่ที่สุดใน Southeast Asia ภายในปี 67
(+) ORI แตกไลน์ธุรกิจใหม่ นายหน้าขายประกันภัย บ้าน-คอนโดฯ-รถยนต์ (ข่าวหุ้น) “ออริจิ้น” แตกไลน์ธุรกิจนายหน้าประกันภัย ต่อยอดแผน “Next Level” ล่าสุด “พรีโม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์” คว้าใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัยจาก คปภ. นำร่องขายประกันบ้าน-คอนโดฯ-รถยนต์ทันที ในไตรมาส 3/64 พร้อมตั้งเป้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ใน 3 ปี
(-) PTG กำลังปรับลดเป้าหมายปริมาณการขายน้ำมันในปีนี้ (efinanceThai) ความเห็น: ผู้บริหารคาดว่าปริมาณการขายน้ำมันของบริษัทจะเติบโตเพียง 2-3% YoY ในปี 2564 ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะโต 8-12% เนื่องจากผลกระทบของการระบาดระลอกสามอย่างรุนแรงของ COVID-19 ในประเทศไทย ส่งผลให้ต้องล็อกดาวน์ใน 13 จังหวัดโซนสีแดงเข้มในเดือนกรกฎาคม โดยหากเราปรับลดการเติบโตของปริมาณการขายน้ำมันจาก 8% เป็น 3% ในปีนี้ จะทำให้ประมาณการกำไรของเราจะถูกปรับลดลง 10% เป็น 1.8 พันล้านบาทในปี 2564 และ 7% เป็น 2.1 พันล้านบาทในปี 2565 ในขณะเดียวกันราคาเป้าหมายปี 2565 ของเราจะได้รับผลกระทบประมาณ 1.50 บาท/หุ้น แต่อย่างไรก็ตาม เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” PTG ที่ราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลง 27.00 บาท เนื่องจากเราจะทบทวนประมาณการของเราหลังจากผลประกอบการ 2Q64 ประกาศในกลางเดือนสิงหาคม
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
GFPT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 12.3 บาท)
EPG (เป้าพื้นฐาน 15.5 บาท) แนวรับ 12.5 บาท / แนวต้าน 13.4 – 14.0 บาท (Trailing stop 12.5 บาท)
GPSC* (เป้าพื้นฐาน 79.25 บาท… มีโอกาสปรับขึ้นอีก) แนวรับ 78.5 บาท / แนวต้าน 82 - 85 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 77 บาท)
SA (เป้า Consensus 8.16 บาท) แนวรับ 6.75 บาท / แนวต้าน 7.0 - 7.25 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Stop loss 6.5 บาท)
KEX (เป้าพื้นฐาน 56 บาท) แนวรับ 40 บาท /แนวต้าน 44 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Stop loss 38 บาท)
BAFS (เป้าพื้นฐาน 33 บาท) แนวรับ 25 บาท / แนวต้าน 26.5 - 27 บาท (Stop loss 25 บาท)
W (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนวรับ 3.26 บาท / แนวต้าน 3.4 - 3.6 บาท (Stop loss 3.2 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
MAJOR* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท ฝ่ายวิจัยฯจะรายงานผลขาดทุนจากการดำเนินงาน -246 ล้านบาทใน 2Q64 ผลจากรายได้ที่ชะลอตัวลงเนื่องจากปิดโรงหนังชั่วคราวในพื้นที่เสี่ยงโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล อย่างไรก็ดีผลขาดทุนใน 2Q64 ลดลงจาก 2Q63 จากการควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯปีนี้ลง สะท้อนสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันที่แย่กว่าคาด และปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 26.75 บาท (เดิม 32.75 บาท) คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินกำไรจะเริ่ม Turnaround ใน 4Q64 และคาดปันผลพิเศษหลังการขาย SF ในปลาย 3Q64
CPN* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 57.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q64 = 1.34 พันล้านบาท (+186% YoY, -765% QoQ) ฝ่ายวิจัยฯยังคงประมาณการฯปี 2564 ไว้ตามเดิม แต่มีความเสี่ยงที่ผลการดำเนินงาน 3Q64 จะได้รับผลกระทบจากมาตรการล๊อคดาวน์ในปัจจุบัน (มีความเสี่ยง Downside ของประมาณการฯ)
SF แนะนำ “ขาย” เป้าพื้นฐาน 7.6 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรจากการดำเนินงาน 2Q64 = 204 ล้านบาท (Turnaround YoY, -29% QoQ) ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 7.6บาท ยังต่ำกว่าราคา Tender offer 12 บาท ที่เสนอโดยทาง CPN* จึงแนะนำ “ขาย”
GGC แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 11.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q64 = 72 ล้านบาท (Turnaround YoY, -24% QoQ) โดยคาดไตรมาสนี้จะมีผลขาดทุนสต๊อกราว -19 ล้านบาท (ขาดทุนลดลงเทียบ YoY, แต่พลิกเป็นขาดทุนจากที่กำไรใน 1Q64) เป็นผลจากราคาน้ำมันปาล์มดิบที่ลดลงระหว่าง 2Q64
Strategic SET daily
July 27, 2021 Market strategy Thailand
1 อดิศักดิ์ คำมูล
2 66.2658.8888 ต่อ 8843
จิตวิทยาตลาดวันนี้: -- นัยรับ 1543 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1543 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1543-1564 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1543 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1543-1530 จุด
แนวรับวันนี้: 1543/1531 แนวต้านวันนี้: 1550/1561
******************************************
