WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 17-8-2021May

AT THE OPEN (#ATO)

S T R A T E G Y   R E P O R T / 17 สิงหาคม 2564

INVESTMENT STRATEGY

ฟื้นตัว : GDPดีกว่าคาดแต่ยังต้องระวัง

วันนี้คาด SET ฟื้นตัว ในกรอบแนวรับ 1,520 จุด และแนวต้าน 1,545 จุด เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรดีต่อเนื่อง โดย ATO Picks แนะนำ “SCGP, KWM”

SCGP

เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 75 ใน Intan Group ประเทศอินโดนีเชีย คาดช่วยเพิ่มกำไรต่อปีอีกราว 1.3% ผสานกับโครงการต่างๆ ที่ขยายกำลังผลิต และการรวม M&P บริษัทต่างๆ ตั้งแต่ต้นปี คาดจะช่วยหนุนให้กำไรปีนี้เติบโต 33% สู่ระดับ 8,912 ล้านบาท และปี 65 คาดจะโตต่ออีก +19%YoY

   เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 72 บาท

KWM

รายงานกำไร 2Q64 ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน ที่ 25.6 ล้านบาท (+2.5%QoQ, +52%YoY) และดีกว่าคาด 22% จากยอดขายที่เด่นจากภาคเกษตรปีนี้ที่ดี และคาดทำจุดสูงสุดต่อเนื่องใน 3Q64 จากการเข้าสู่ฤดูเกี่ยวข้าว ผสานเครื่องสกัดกัญชงเป็น Upside เพิ่มเติม

   เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 7.15 บาท

INVESTMENT THEME

GDP ดีกว่าคาดแต่ยังต้องระวัง

GDP ไทย 2Q64 โตมากกว่าคาด : วานนี้สภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP ของไทยประจำ 2Q64 พบว่าขยายตัว +7.5% YoY ดีกว่าตลาดคาดที่ +6.6% และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้วจะพบว่าขยายตัว +0.4% QoQ (เทียบ 1Q64) โดยการขยายตัวในช่วง 2Q64 ส่วนใหญ่มาจากฐานที่ต่ำมากในช่วง 2Q63 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก COVID-19 ในระลอกแรก จึงทำให้ทั้งตัวเลขการบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชน ในช่วง 2Q64 ขยายตัวถึง +4.6% และ +9.2%YoY ตามลำดับ ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้า (ในรูปUSD) ยังคงขยายตัวได้โดดเด่น +36.2%YoY

ยังคงมีความเสี่ยงใน 2H64 : จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยังยากจะควบคุม ทั้งจากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับสูง วัคซีนที่ไม่เพียงพอ และการกลายพันธุ์ของเชื้อโรค ทำให้ยังคงต้องขยายมาตรการ Lockdown ออกไปต่อเนื่อง (ล่าสุด ศบค.ขยายระยะเวลา Lockdown ในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัดไปจนถึง 31 สิงหาคมนี้) เปิดความเสี่ยงต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ โดยด้านสภาพัฒน์ได้ทำการปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้ลงสู่ระดับ 0.7-1.2% สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ที่ กนง. ปรับลด GDP สู่ 0.7% และ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ปรับลงสู่กรอบ -1.5% ถึง 0% ดังนั้นยังคงต้องเกาะติดภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังอย่างใกล้ชิด    

MARKET SUMMARY

วานนี้ SET ย่อก่อนฟื้นตัว โดยเริ่มมีแรงซื้อกลับหลังหุ้นขนาดกลาง-เล็กปรับลงแรงในช่วงก่อหน้า โดย SET ปิดที่ 1,531.24 (+2.92 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 7.7 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 8.2 หมื่นล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 1,433 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 431 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 6,242 สัญญา)

EYES ON

17 ส.ค. ยอดค้าปลีก US, ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม US, GDP 2Q64 ของยูโรโซน

18 ส.ค. ยอดสร้างบ้านใหม่ US, FED Minutes, ดัชนี CPI ของยูโรโซน

19 ส.ค. ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US

AAPICO Hitech (AH)

2Q64 ชะลอตัว แต่ปี 2564-66 จะโตเด่น

BUY

Share Price                 THB 23.50

12 m Price Target       THB 28.00 (+19%)

Previous Price Target THB 28.00

ผลประกอบการ 2Q64

AH ประกาศผลประกอบการ 2Q64 มีกำไรสุทธิที่ชะลอตัวลงเหลือ 250 ล้านบาท ลดลง 39% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วงโลซีซั่น ส่วนโรงงานที่โปตุเกสประสบปัญหาชิปขาดทุน ในขณะที่ดีขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุน 631 ล้านบาท ยอดขายเท่ากับ 4,833 ล้านบาท (-13%QoQ, +139%YoY) ดีกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ยอดผลิตรถยนต์เท่ากับ 378,768 คัน (-19%QoQ, +148%YoY) อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ดี 11.6% ใกล้เคียงไตรมาสก่อน 12.1% และ ดีกว่าปีก่อนที่ติดลบ 11.2% รวมครึ่งปีแรกมียอดขาย 10,419 ล้านบาท เติบโต 50% และ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 661 ล้านบาท ดีขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุน 311 ล้านบาท    

แนวโน้มผลประกอบการ

แนวโน้มรวมปี 2564 เราคาดจะเป็นปีที่ฟื้นตัวโดดเด่น แรงหนุนจากอุตสาหกรรมรถยนต์ฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ ประเมินยอดขาย 20,950 ล้านบาท โต 22% และ มีกำไรสุทธิ 1,116 ล้านบาท โต 655%YoY กำไรสุทธิครึ่งปีแรกมีสัดส่วนสูงถึง 59% ของประมาณการทั้งปี ทำให้มีแนวโน้มจะมากกว่าคาด ซึ่งประมาณการของเราค่อนข้างอนุรักษ์นิยม แนวโน้มปี 2565 จะได้รับคำสั่งซื้อใหม่เป็นรถกระบะ Global Model ช่วยเพิ่มยอดขายอีก 1,500 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นประมาณ 8% ทำให้ปี 2565 เติบโตสูงต่อ และ ส่งผลบวกต่อเนื่องในปี 2566

คำแนะนำการลงทุน

ราคาหุ้นปัจจุบันมี Valuation ที่น่าสนใจ ซื้อขาย P/E ปี 2564 ที่ต่ำ 8.2 เท่า P/BV 1 เท่า และ อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.4% เราประเมินราคาเป้าหมายบนฐานค่าเฉลี่ย Forward P/E 10 ปี ประมาณ 9.9 เท่า ได้เท่ากับ 28 บาท เราคงแนะนำ TRADING BUY โดยในอดีต AH มีผลประกอบการค่อนข้างผันผวน

ความเสี่ยง

การแพร่ระบาดของ Covid-19 ทั่วโลกยังไม่ผ่อนคลาย / ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจ / แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศยังมีความไม่แน่นอน

Surachai Pramualcharoenkit

surachai.p@maybank-ke.co.th

(66) 2658 6300 ext 1470

  1. Karnchang (CK)

กำไร 2Q64 ดีขึ้น จากบริษัทลูก

BUY

Share Price                 THB 19.00

12 m Price Target       THB 22.00 (+16%)

Previous Price Target THB 22.00

ผลประกอบการ 2Q64

กำไร 2Q64 ดีขึ้น 318 ล้านบาท (+53%QoQ, +399%YoY) ใกล้เคียงกับที่เราคาดจะมีกำไร 300 ล้านบาท แรงหนุนสำคัญจากบริษัทลูก คือ รายรับปันผลจาก TTW 232 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนใน BEM และ CKP เพิ่มขึ้นเป็น 306 ล้านบาท (+92%QoQ, +577%YoY) หลักๆมาจาก CKP จากปีนี้น้ำมาก และ มีกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนอีก 143 ล้านบาท ในขณะที่ยอดรับรู้รายได้ในไตรมาส 2Q64 ยังอยู่ในระดับต่ำ 3,190 ล้านบาท (+9%QoQ, -20%YoY) เนื่องจาก Backlog ในปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำ และ ในช่วงปลายไตรมาสเริ่มถูกกระทบจากการปิดแคปม์คนงาน และ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 8.1% จาก 8.3% ในไตรมาสก่อน และ 9.0% ในปีก่อน    

แนวโน้มผลประกอบการ

ไตรมาส 3Q64 คาดจะได้แรงหนุนสำคัญจาก CKP ซึ่ง CK ถือหุ้น 30.67% คาดกำไรจะทำ New High ประมาณ 900-1,000 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาสสองที่มีกำไร 707 ล้านบาท จากปริมาณน้ำในปีนี้ที่สูงมากกว่าปกติ และ เป็นช่วงฤดูน้ำหลาก และ ยังได้แรงหนุนจากเงินปันผลรับจาก TTW 232 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากงานก่อสร้างจะถูกกระทบจากการปิดแคมป์คนงานในเดือน ก.ค. แต่บางไซต์งานก่อสร้างก็ได้รับการผ่อนผัน ส่วนเดือน ส.ค. เริ่มอนุญาติให้มีการก่อสร้างมากขึ้น รวมถึงเริ่มเปิดแคมป์คนงานในลักษณะ Bubble and Seal กำไรครึ่งปีแรกคิดเป็นสัดส่วน 59% ของประมาณการทั้งปี เราคงประมาณการคาดกำไรปีนี้ 888 ล้านบาท เติบโต 45%

คำแนะนำการลงทุน

ราคาหุ้น CK ปัจจุบันซื้อขายบน Valuation ที่ถูก คือ P/BV 1.2 เท่า อยู่บริเวณ Forward P/BV-2SD ระยะ 10 ปี ที่ 1.0X ในขณะที่ CK มีเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของประเทศ คือ BEM, CKP และ TTW มีมูลค่าถึง 6 หมื่นล้านบาท หรือ คิดเป็น 35 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีแนวโน้มเติมโตในระยะยาว และ ช่วยเพิ่มงานให้ CK รวมถึงเพิ่มส่วนแบ่งกำไร และเงินปันผล ประเมินเป้าหมาย โดยวิธี Sum of the Part เท่ากับ 22 บาท คงแนะนำ TRADING BUY

ความเสี่ยง

การแพร่ระบาดของCovid-19 อุปสรรคในการก่อสร้าง ต้นทุนวัสดุก่อสร้าง ปัญหาแรงงาน งานล่าช้า การแข่งขันในงานประมูลโครงการต่างๆ

Surachai Pramualcharoenkit

surachai.p@maybank-ke.co.th

(66) 2658 6300 ext 1470

Sino-Thai Engineering (STEC)

กำไร 2Q64 ทรุดหนัก ปรับประมาณการลง

BUY

Share Price               THB 12.30

12 m Price Target     THB 17.00 (+38%)

Previous Price Target THB 18.00

ผลประกอบการ 2Q64

STEC ประกาศผลประกอบการ 2Q64 มีกำไรที่ทรุดหนักเหลือเพียง 1 ล้านบาท (-99%QoQ, -99%YoY) เนื่องจากไตรมาสนี้ได้บันทึกผลขาดทุนจากการถูกฟ้องร้องคดีจำนวน 124 ล้านบาท ถ้าหากตัดรายการนี้จะยังมีระดับกำไรที่น่าผิดหวัง และ ทรุดลงเหลือ 125 ล้านบาท (-37%QoQ, -31%YoY) แม้ว่าไตรมาสนี้จะมีรายได้เงินปันผลเข้ามาช่วย 84 ล้านบาท ผลประกอบการถูกกดดันจากยอดรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างปรับลดลงเหลือ 7,072 ล้านบาท (-6%QoQ, -22%YoY) ถูกผลกระทบด้านลบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงเหลือ 3.2% เทียบกับ 5.1% ในไตรมาสก่อน และ 3.4% ในปีก่อน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ในระดับสูง 203 ล้านบาท (+12%QoQ, -5%YoY)    

แนวโน้มผลประกอบการ

แนวโน้มผลประกอบการ 3Q64 คาดจะถูกกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่รุนแรงมากขึ้น มีการปิดแคมป์คนงานในเดือน ก.ค. ส่วนเดือน ส.ค. เริ่มอนุญาติให้มีการก่อสร้างมากขึ้น รวมถึงเริ่มเปิดแคมป์คนงานในลักษณะ Bubble and Seal เราปรับประมาณการรายได้และกำไรปีนี้ลดลง 18%/53% ตามลำดับ คาดรายได้ 30,457 ล้านบาท ลดลง 15% และ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 518 ล้านบาท ลดลง 53% อย่างไรก็ตามในปี 2565 เราคาดจะมีการฟื้นตัวที่เด่นมากขึ้น จาก STEC เหลือ Backlog มากกว่า 1 แสนล้านบาท เป็นงานใหม่ที่ได้ในปีก่อน และกำลังจะลงนามร่วม 5-6 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีมาร์จิ้นดีขึน ในขณะที่งานกำไรน้อยกำลังทยอยหมดไป

คำแนะนำการลงทุน

ราคาหุ้น STEC ปัจจุบันซื้อขาย P/BV 1.3 เท่า บริเวณ Forward P/BV-2SD ระยะ 10ปี ในขณะที่มีเงินสดในมือและเงินลงทุนในกองทุนเปิดสูง 7.8 พันล้านบาท เราประเมินราคาเป้าหมายปี2565เท่ากับ 17 บาท อิงค่าเฉลี่ย10ปี Forward P/E = 25x ลดลงจากเดิม 18 บาท จากประมาณการที่ปรับลดลง แนะนำ TRADING BUY ในช่วงอ่อนตัว จากกำไรไตรมาส 2Q64-3Q64 จะน่าผิดหวัง แต่เราคาดปีหน้าจะดีขึ้น

ความเสี่ยง

ปัญหาการก่อสร้าง / ต้นทุนวัสดุและแรงงาน / ความล่าช้าของโครงการ

Surachai Pramualcharoenkit

surachai.p@maybank-ke.co.th

(66) 2658 6300 ext 1470

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!