WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 12-10-2021May

AT THE OPEN (#ATO)

S T R A T E G Y   R E P O R T / 12 ตุลาคม 2564

INVESTMENT STRATEGY

ฟื้นตัว :

เปิดประเทศ โดยไม่กักตัว

วันนี้คาด SET ฟื้นตัว ในกรอบแนวรับ 1,625 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด เน้นหุ้นอิงการเปิดประเทศ โดย ATO Picks แนะนำ “AOT, GLOBAL”

AOT

1 พ.ย. รัฐฯเตรียมเปิดประเทศ แบบไม่ต้องกักตัว คาดจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวเมืองไทยมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และคาดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในสนามบินที่จะค่อยๆลดลง ล้วนเป็นแรงหนุนต่อผลประกอบการ AOT ปรับตัวดีขึ้น  

   เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 72 บาท

GLOBAL

คาดกำไร 3Q64 เติบโต 39% YoY จากยอดขายเพิ่มขึ้นโดยคาดว่า SSSG +11% ผสานการเปิดสาขาใหม่ ด้านอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจากราคาเหล็กเพิ่ม และปรับราคาสินค้า House brand คาดน้ำท่วมจะหนุนความต้องการซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด ทำให้กำไร 4Q64 ยังเติบโตดีต่อเนื่อง YoY

   เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 27 บาท

INVESTMENT THEME

เปิดประเทศ โดยไม่กักตัว : วานนี้นายกฯแถลงการเตรียมเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. โดยจะรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ “ไม่ต้องทำการกักตัว” หากเข้าเงื่อนไข 1) มาจากประเทศความเสี่ยงต่ำ โดยเบื้องต้นกำหนดไว้อย่างน้อย 10 ประเทศ เช่น อังกฤษ, สิงคโปร์, เยอรมนี, จีน และอเมริกา 2) มีการฉีดวัคซีนครบโดส 3) มีผลตรวจ RT-PCR ถือเป็นปัจจัยบวกที่เร่งการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทยสอดคล้องกับการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นปลายปี โดยคาดหนุนเก็งกำไรในหุ้นกลุ่ม Reopening Play เช่น สนามบิน(AOT), โรงแรม (MINT, CENTEL, ERW), ค้าปลีก(CPALL, CPN), ธนาคาร(KBANK, BBL), สื่อสาร(ADVANC, DTAC), โรงพยาบาล(BH)

SET แกว่งตัวขึ้น : จากการเตรียมพร้อมเปิดประเทศ ผสานการผ่อนคลายมาตรการที่มากยิ่งขึ้น โดยล่าสุด 1 ธค. จะอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ รวมถึงการเปิดสถานบันเทิงต่างๆ ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขที่เหมาะสม บ่งชี้เศรษฐกิจในประเทศและความเชื่อมั่นในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น คาดจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ SET มีโอกาสปรับตัวขึ้น รวมทั้งค่าเงินบาทคาดจะพลิกกลับมาแข็งค่ามากขึ้นในช่วงถัดไป และน่าจะเป็นปัจจัยที่ดึงดูดกระแสเงินทุนไหลเข้ามากยิ่งขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี

MARKET SUMMARY

วานนี้ SET ย่อตัว โดยตลาดยังคงขาดปัจจัยใหม่ๆ และยังคงจับตาสถานการณ์น้ำท่วมในไทย โดย SET ปิดที่ 1,633.44 (-5.97 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 8.3 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 9.3 หมื่นล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 194 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 1,951 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Futures ที่ 595 สัญญา)

EYES ON

การรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคาร

สถานการณ์พายุ (ไลออนร็อค, คมปาซู, น้ำเทิน)

13 ต.ค. ดัชนี CPI ของ US, รายงานการประชุม FED รอบที่ผ่านมา, ดุลการค้าจีน

14 ต.ค. ผู้ขอรับสวัสดิการรายสัปดาห์ US, ดัชนี PPI ของ US, สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ US, ดัชนี CPI ของจีน

15 ต.ค. ยอดค้าปลีก US, ดุลการค้า ยูโรโซน

CP All (CPALL)

ทิศทางกำไรเริ่มฟื้นตัว

BUY

Share Price               THB 63.50

12 m Price Target     THB 68.00 (+7%)

Previous Price Target THB 68.00

ประเด็นการลงทุน

แม้คาดว่ากำไร 3Q64 ยังต่ำกว่าปีก่อน แต่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัว QoQ จากการที่ดอกเบี้ยจ่ายลดลงหลังการรีไฟแนนซ์เมื่อเดือน มิ.ย. แนวโน้มกำไรฟื้นตัวดีขึ้นใน 4Q64 เนื่องจากการเปิดเมืองและการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นซึ่งส่งผลบวกต่อ SSSG ขณะที่การขายหุ้น MAKRO (PO) จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสด และอาจทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลง เราแนะนำ ซื้อ CPALL ราคาเป้าหมาย 68 บาท (DCF, WACC 7.2%, G.4%)

คาดกำไร 3Q64 ลด 51% YoY แต่ฟื้น QoQ

จากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิดและเคอร์ฟิว ซึ่งกระทบต่อเวลาการเปิดร้านเซเว่นฯ ในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม รวมทั้งการมีฝนตกชุกและน้ำท่วมในบางพื้นที่ คาดว่าทำให้ SSSG 3Q64 ติดลบประมาณ 10% ขณะที่คาดว่ามีการขยายสาขา 160 สาขา ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 678 สาขา YoY (+5.5% YoY) อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าลดลงจากการที่สัดส่วนยอดขายจาก MAKRO (มีอัตรากำไรต่ำกว่าร้านเซเว่นฯ) เพิ่มขึ้น และการทำโปรโมชั่น ส่วนแบ่งขาดทุนจากโลตัสคาดว่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากการล็อกดาวน์และมีค่าใช้จ่ายในการรีแบรนด์ เราคาดว่า CPALL มีกำไรปกติ 1,965 ล้านบาท ลดลง 51% YoY แต่ฟื้นตัว 3% QoQ จากการที่ค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง 26% QoQ หลังจากการรีไฟแนนซ์ Bridging loan ที่ใช้ซื้อโลตัส อีกทั้งกำไร MAKRO เพิ่มขึ้นตามผลของฤดูกาล

แนวโน้มกำไรฟื้นตัวต่อเนื่องใน 4Q64

SSSG ในช่วง 4Q64 มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นจากฐานต่ำในปีก่อนซึ่งติดลบ 18% อีกทั้งมีปัจจัยผลักดันจากการเปิดเมือง และการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล โดยตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ย. ยอดขายในร้านเซเว่นฯ ที่อยู่ในปั้มน้ำมันตามเส้นทางท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวขึ้น อีกทั้งคาดว่าจะมีการเร่งขยายสาขาเพื่อให้ครบตามเป้าหมาย 700 สาขา ประกอบกับแนวโน้มกำไรของ MAKRO เป็นระดับสูงสุดของปี เนื่องจากเป็นไฮซีซั่น

ติดตามการพิจารณาอนุมัติดีลการแลกหุ้น

วันนี้จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาดีลการแลกหุ้นของบริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด (ทำธุรกิจโลตัส) กับ MAKRO แม้ CPALL จะมีสัดส่วนถือหุ้นใน MAKRO ลดลง แต่คาดว่าจะรับรู้กำไรจากโลตัสมากขึ้นในระยะยาวผ่านทาง MAKRO ซึ่งจะกลายเป็นบริษัทที่มีทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ครอบคลุมลูกค้า B2B และ B2C อีกทั้งเป็นผู้นำตลาดที่ชัดเจนในกลุ่มสินค้าอาหารสดซึ่งมีโอกาสเติบโตไปในระดับภูมิภาค นอกจากนั้น MAKRO จะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (PO) 1,362 ล้านหุ้น โดย CPALL จะขายหุ้น MAKRO ออกมาด้วย 363 ล้านหุ้น และมี Green shoe 340 ล้านหุ้น ทำให้ได้รับกำไรจาการขายหุ้นและคาดว่าจะได้รับเงินไม่ต่ำกว่า 1.58 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากนำไปคืนหนี้คาดว่าดอกเบี้ยจ่ายลดลงกว่า 500 ล้านบาทต่อปี

ความเสี่ยง: โควิดกลับมาระบาดมากขึ้น น้ำท่วมกระทบ Supply chain และการบริโภค

Suttatip Peerasub

suttatip.p@maybank-ke.co.th

(66) 2658 6300 ext 1430

TMT Steel (TMT)

คาด 3Q64 กำไรจะยังเด่น แม้ชะลอตัว

BUY

Share Price               THB 10.30

12 m Price Target     THB 13.00 (+26%)

Previous Price Target THB 13.00

ประเด็นการลงทุน

คาดกำไร 3Q64 จะยังเด่น 325 ล้านบาท (-46%QoQ, +108%YoY) แม้ว่าจะชะลอตัวจาก 2Q64 ที่มีกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ 605 ล้านบาท จากราคาเหล็กที่ยังปรับตัวสูงขึ้น สเปรดเหล็กปลายน้ำ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของ TMT จะยังดีต่อในไตรมาสสี่ แรงหนุนจาก TMT มีสินค้าครบ ขายสินค้าบวกด้วย Solution และ บริการ ในขณะที่คู่แข่งมีความไม่พร้อม คาดปี 2564 กำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ 1,448 ล้านบาท โต 169% ประมาณการมีอัพไซด์จากกำไร9เดือนแรกจะคิดเป็น93%ของประมาณการทั้งปี ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E ต่ำ และปันผลดี คงแนะนำ TRADING BUY เป้าหมาย 13 บาท    

คาดกำไร 3Q64 จะยังเด่น 325 ล้านบาท (-46%QoQ, +108%YoY)

ปริมาณขายใน 3Q64 คาดจะชะลอตัวลงเหลือ 167,000 ตัน (-2%QoQ, -16%YoY) ตามภาวะอุตสาหกรรมเหล็กและเศรษฐกิจในไตรมาสสาม แต่ TMT จะยังได้ประโยชน์จากราคาขายของ TMT ที่ยังปรับขึ้นต่อ แม้ว่าจะไม่แรงเหมือน 2Q64 คือ มีราคาขายเฉลี่ยเท่ากับ 33,540 บาท/ตัน (+10%QoQ, +76%YoY) เนื่องจากข้อจำกัดของสินค้า ผู้ผลิตเหล็กรายอื่นประสบปัญหา ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีประมาณ 11.0% ลดลงจากไตรมาสก่อน 18.5% แต่ดีขึ้นจากปีก่อน 9.4% รวมสุทธิแล้วคาด 3Q64 จะยังมีกำไรที่ยังเด่นเท่ากับ 325 ล้านบาท (-46%QoQ, +108%YoY)

ไตรมาส 4Q64 มีแนวโน้มจะดีขึ้น ประมาณการมีอัพไซด์

สถานการณ์ในไตรมาส 4Q64 ดีขึ้นลูกค้าในอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ มีคำสั่งซื้อเหล็ก และ มีการสต็อกเหล็กมากขึ้น หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ผ่อนคลาย ทำให้แนวโน้มปริมาณขายคาดจะเพิ่มเป็น 180,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 8%QoQ รวมถึงราคาเหล็กแผ่นก็มีทิศทางค่อยๆปรับเพิ่มขึ้นจากข้อจำกัดด้านชัพพลายของผู้ผลิตบางราย โดยผลิตภัณฑ์เหล็กปลายน้ำ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของ TMT จะยังดีต่อในไตรมาสสี่ จาก TMT มีสินค้าครบ ขายสินค้าบวกด้วย Solution และ บริการ ในขณะที่คู่แข่งมีความไม่พร้อม คาดปี 2564 กำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ 1,448 ล้านบาท โต 169% ประมาณการมีอัพไซดืจากกำไร9เดือนแรกจะคิดเป็น93%ของกำไรทั้งปี

หุ้นเหล็กที่ปันผลดี คาดปันผลครึ่งหลังไม่น้อยกว่าครึ่งแรก 0.60 บาท

TMT จ่ายปันผลกำไรครึ่งปีแรกเท่ากับ 0.60 บาท คิดเป็น 50% ของกำไรครึ่งปีแรก เราคาดครึ่งปีหลังจะปันผลไม่น้อยกว่าครึ่งปีแรก รวมคาดปันผลกำไรปีนี้ 1.35 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 13.1% ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E ปี 2564 ที่ต่ำ 6.2 เท่า เราประเมินราคาเป้าหมาย เท่ากับ 13 บาท บนฐานค่าเฉลีย 10 ปี Forward P/E 10 เท่า ของกำไรปี 2564 และ 2565 คงแนะนำ TRADING BUY

Surachai Pramualcharoenkit

surachai.p@maybank-ke.co.th

(66) 2658 6300 ext 1470

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!