WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 25-10-2021May

Central Pattana (CPN)

จำนวนลูกค้ากลับมาฟื้นตัวเร็ว

BUY

Share Price               THB 58.50

12 m Price Target     THB 60.00 (+3%)

Previous Price Target THB 60.00

คำชี้แจงที่สำคัญ: บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) อาจมีธุรกรรมกับ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN)

ประเด็นการลงทุน

กำไร 3Q64 จะถูกกระทบค่อนข้างมากจากการล็อกดาวน์ในช่วงเดือน ก.ค. – ส.ค. แต่การที่ศูนย์การค้ากลับมาเปิดตั้งแต่เดือน ก.ย. ทำให้จำนวนลุกค้ากลับมาฟื้นตัวเร็ว และเพิ่มมากขึ้นในเดือน ต.ค. อีกทั้งจะได้ผลบวกจากการเปิดประเทศ และ CPN จะเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่ง อีกทั้งมีการรวมงบ SF ซึ่งได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศเช่นกัน ทำให้กำไรของ CPN มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญใน 4Q64 แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย (DCF) 60 บาท

คาดกำไร 3Q64 ลดลงมากทั้ง QoQ และ YoY

การปิดศูนย์การค้า 21 แห่ง (จากทั้งหมด 33 แห่ง) ในเดือน ก.ค. – ส.ค. ทำให้จำนวนลูกค้า (Traffic) ลดลงไปต่ำกว่า 20% ของระดับปกติ ส่วนลดค่าเช่า 60-70% แต่เมื่อศูนย์การค้ากลับมาเปิดในเดือน ก.ย. ลูกค้าเพิ่มเป็น 60-70% และส่วนลดเหลือ 40% กว่า ดังนั้น ภาพรวมใน 3Q64 จำนวนลูกค้าอยู่ที่ 40% และส่วนลดค่าเช่า 50-60% เราคาดว่ารายได้ 3Q64 ลดลงทุกธุรกิจทั้ง ค่าเช่า อาหารและเครื่องดื่ม โรงแรม และโครงการที่อยู่อาศัย CPN เริ่มรวมงบของ SF ตั้งแต่เดือน ก.ย. ซึ่งมีผลบวกเล็กน้อยต่อกำไรของ CPN เราคาดกำไรปกติ 3Q64 ที่ 306 ล้านบาท (-74% QoQ, -87% YoY) และกำไรสุทธิ 239 ล้านบาทเนื่องจากรายการพิเศษทางภาษีจากการขายหุ้นของบริษัทย่อย

มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนหลังเปิดเมือง

จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 70-80% ในเดือน ต.ค. โดยเฉพาะกลุ่มร้านอาหารที่ฟื้นตัวก้าวกระโดด จำนวนลูกค้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือน พ.ย. – ธ.ค. จากการเปิดประเทศ และเข้าสู่ช่วงเทศกาลซึ่งมีการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเราคาดว่าส่วนลดค่าเช่าจะลดลงไปที่ 20-30% ทำให้รายได้ค่าเช่าฟื้นตัวขึ้นใน 4Q64 อีกทั้ง CPN จะมีการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ที่ศรีราชาและอยุธยา ซึ่งมีการให้เช่าพื้นที่ไปแล้ว 80-90% และคาดว่าในวันเปิดจะมีอัตราเข้าเช่าไม่ต่ำกว่า 60% ซึ่งเป็นระดับ Breakeven  

เข้าถือหุ้น SF 96.24%

หลังจากการเทนเดอร์ออฟเฟอร์เสร็จเมื่อ 18 ต.ค. 2564 ทำให้ CPN มีสัดส่วนถือหุ้น SF 96.24% ส่งผลให้มีการรับรู้กำไรจาก SF มากขึ้นใน 4Q64 อีกทั้งได้ประโยชน์จากโครงการเมกาบางนาซึ่งมีอัตราเข้าเช่าสูงกว่า 95% และมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นมากหลังการเปิดเมือง ขณะที่เราคาดว่า CPN ยังคงมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนเพิ่มเป็น 0.8 เท่า จากเดิมที่ 0.4 เท่า

ความเสี่ยง: โควิดระบาดรอบใหม่ ปรับค่าเช่าได้น้อยกว่าคาด เลื่อนเปิดโครงการ  

Suttatip Peerasub

suttatip.p@maybank-ke.co.th

(66) 2658 6300 ext 1430

Kasikornbank (KBANK TB)

หุ้นเด่นกลุ่มแบงก์

BUY

Share Price               THB 141.50

12 m Price Target     THB 170.00 (+20%)

Previous Price Target THB 160.00

เพิ่มคาดการณ์กำไรและ TP ยังเป็นหุ้นเด่นของกลุ่มแบงก์

เราคาดว่าปัจจัยบวกจะมาจากอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้นและการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ดีขึ้น ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 64 - 66 ขึ้น 6-9% เพื่อสะท้อน NIM และการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น ขณะที่ต้นทุนเครดิตลดลง คงคำแนะนำ "ซื้อ" และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 170 บาท บน P/BV ปี 64 ที่ 0.85 เท่า และ ROE 9.3% เราชอบ KBANK มากกว่า SCB (ถือ, ราคาเป้าหมาย 135 บาท) เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ปรับความเสี่ยงได้ดีกว่าในราคาที่ถูกกว่า โดย KBANK ซื้อขายที่ PER ปี 65 ที่ 8.7 เท่า เทียบกับ SCB ที่ PER 11 เท่า ความเสี่ยงที่สำคัญคือคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้

กำไร 3Q64 ดีกว่าคาดจากการควบคุมต้นทุนได้ดี

กำไร 3Q64 เพิ่มขึ้น 29% YoY เป็น 8.6 พันล้านบาท จาก NII ที่สูงขึ้น การเติบโตของ NII ที่แข็งแกร่ง (+13% YoY) หนุนโดยการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งที่ 13% YoY และ 9% YTD หนึ่งในสามของการเติบโตของสินเชื่อมาจากมาตรการบรรเทาหนี้และส่วนที่เหลือจากสินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อจำนองและสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน ทั้งนี้ CFO ยังคงเป้าสินเชื่อเติบโต 4-6% และคาดลูกหนี้ธุรกิจจะชำระหนี้ได้ในไตรมาส 4/64 รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้น 10% YoY นำโดยค่าธรรมเนียมจากกองทุนรวมและนายหน้า อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลงเป็น 42.5% ในไตรมาส 3/64 จาก 44.7% ในไตรมาส 3/63 จากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ อัตราส่วน NPL ลดลง 16bp QoQ มาอยู่ที่ 4.33% ในขณะที่ตั้งสำรองไว้ที่ 1.13 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นต้นทุนเครดิต 187bp ในไตรมาส 3/64

ตั้งเป้าเพิ่มขนาดธุรกิจใหม่ก่อนปลดล็อกมูลค่า

KBANK ตั้งเป้าขยายการเติบโตของทั้งธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ในระยะยาว โดย CFO เชื่อว่าค่าธรรมเนียมจาก bancassurance การบริหารรสินทรัพย์ และนายหน้ายังคงเติบโตได้ดีหลังวิกฤต ขณะที่ธุรกิจใหม่ เขามองเห็นโอกาสที่ดีมากมายในการสร้างรายได้แหล่งใหม่ แต่จำเป็นต้องสร้างขนาดให้ใหญ่ขึ้นก่อนที่จะปลดล็อกมูลค่า โดยธนาคารกำลังทุ่มเทอย่างหนักเพื่อสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่

สินเชื่อภายใต้มาตรการบรรเทาหนี้เพิ่มขึ้น QoQ ใน 3Q64

ผู้บริหารเผยว่าสินเชื่อภายใต้โครงการบรรเทาหนี้เพิ่มขึ้น 6% QoQ เป็น 3.59 แสนล้านบาท หรือ 15% ของสินเชื่อทั้งหมดในไตรมาส 3/64 (เทียบกับ 14% ในไตรมาส 2/64) นำโดยสินเชื่อรายย่อย แม้ว่าสินเชื่อภายใต้มาตรการบรรเทาหนี้จะเพิ่มขึ้น QoQ แต่ KBANK เห็นว่าลูกค้าเดิมในโครงการสามารถจ่ายเงินสดได้มากขึ้น ดังนั้น สัดส่วนลูกค้าที่สามารถชำระหนี้ได้จึงไม่เปลี่ยนแปลง เราคาดว่าสินเชื่อในโครงการบรรเทาหนี้จะค่อยๆ ลดลงตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจตามแผนการเปิดประเทศในไตรมาส 4/64

Jesada Techahusdin, CFA

jesada.t@maybank-ke.co.th

(66) 2658 6300 ext 1395

Kiatnakin Bank (KKP TB)

ตลาดทุนบูมหนุนรายได้ค่าธรรมเนียม

BUY

Share Price               THB 59.00

12 m Price Target     THB 70.00 (+19%)

Previous Price Target THB 70.00

ผู้รับอานิสงส์หลักจากตลาดทุนที่แข็งแกร่ง “ซื้อ”

ในบรรดาแบงก์ต่างๆ เราเชื่อว่า KKP เป็นผู้รับอานิสงส์หลักจากตลาดทุนที่เติบโตแข็งแกร่ง โดยธุรกิจตลาดทุนคิดเป็น 22% ของรายได้รวม และคิดเป็น 46% ของรายได้รวมในงวด 9M64 เรามีมุมมองบวกต่อคุณภาพสินเชื่อที่ปรับตัวดีขึ้นของ KKP และสัดส่วนสำรองเผื่อหนี้สูญต่อสินเชื่อทั้งหมดที่สูงขึ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 70 บาท (P/BV ปี 64 ที่ 1.2 เท่า ROE 12.0%) ความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ คุณภาพสินทรัพย์แย่ลงและผลขาดทุนจากการขายรถยนต์ที่ยึดสูงเกินคาด

เน้นโอกาสเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพ

เรามีมุมมองบวกหลังจากร่วมประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดย CEO เผยว่า KKP จะมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อรายย่อยที่มีหลักประกัน (สินเชื่อเช่าซื้อ +13% YTD และสินเชื่อจำนอง +27% YTD ในไตรมาส 3/64) ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้อยจากการระบาดใหญ่เพื่อให้งบดุลแข็งแกร่งขึ้น เขาระบุว่าผลขาดทุนจากการขายรถยนต์ที่ยึดคืนที่สูงขึ้นนั้นเกิดจากจำนวนรถที่ขายได้สูงขึ้น ในขณะที่ผลขาดทุนต่อหน่วยยังคงทรงตัว QoQ ในไตรมาส 3/64

ค่าธรรมเนียมโตแกร่งจากตลาดทุนจะหนุน EPS โตแรง

CEO เผยว่าค่าธรรมเนียมตลาดทุนแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้เนื่องจากรายได้รวมเพิ่มขึ้น 30% YoY ใน 9M21 หนุนโดยธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ IB และธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง โดยฐานสินทรัพย์ในธุรกิจความมั่งคั่งส่วนตัวเพิ่มขึ้น 14% YTD เป็น 6.82 แสนล้านบาท โดยมีค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ย 31bp ใน 9 เดือนแรกของปี 64 เทียบกับ 23bp ในปี 63 เรามองบวกกับฐานสินทรัพย์ความมั่งคั่งที่กำลังเติบโต เนื่องจากจะสร้างรายได้ประจำมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจ IB มีแนวโน้มขยายตัวดีหลังจากบันทึกค่าธรรมเนียม 650 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 205% YoY ใน 9M64 สำหรับธุรกิจการลงทุน กำไรเบ็ดเสร็จเพิ่มขึ้น 128% YoY เป็น 1.7 พันล้านบาทใน 9M64

หนี้ตามมาตรการบรรเทาหนี้ลดลงเล็กน้อยใน 3Q64

สินเชื่อภายใต้โครงการบรรเทาหนี้ลดลงเหลือ 12% ของสินเชื่อรวมในไตรมาส 3/64 จาก 13% ในไตรมาส 2/64 นำโดยสินเชื่อ SME จากทั้งหมด 7% เป็น SME (ส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์) และ 5% เป็นสินเชื่อรายย่อย ในแง่บวก ธนาคารเห็นการขอความช่วยเหลือทางการเงินมากขึ้นในเดือนก.ค. และ ส.ค. จากมาตรการระงับหนี้ของ ธปท. 2 เดือน แต่จำนวนคำขอลดลงอย่างมากเนื่องจากเศรษฐกิจกลับมาเปิดใหม่ในเดือน ก.ย. ด้วยคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นและ NPL coverage สูงถึง 158% เราคาดว่าต้นทุนสินเชื่อจะทยอยลดลงในปี 2565-66

Jesada Techahusdin, CFA

jesada.t@maybank-ke.co.th

(66) 2658 6300 ext 1395  

Siam Commercial Bank (SCB TB)

ราคาหุ้นสะท้อนข่าวดีแล้ว

HOLD

Share Price               THB 124.00

12 m Price Target     THB 135.00 (+9%)

Previous Price Target THB 130.00

ราคาเต็มมูลค่า D/G เป็น “ถือ” ชอบ KBANK มากกว่า

เรามีมุมมองบวกกับแผนการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อสร้างมูลค่าระยะยาว โดยแยกบริษัทย่อยออกเพื่อเพิ่ม ROE เป็น 15-20% ในระยะเวลา 5 ปี อย่างไรก็ตาม เรามองว่าอัพไซด์เริ่มจำกัดหลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้น 42% และดีกว่า SET 29% YTD ลดน้ำหนักเป็น “ถือ” เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 135 บาท (P/BV ปี 64 ที่ 1.05 เท่า ROE 10.2%) เราแนะนำซื้อ KBANK (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 170 บาท) เนื่องจาก KBANK ซื้อขายที่ PER ปี 65 ที่ 8.7 เท่า เทียบกับ SCB ที่ PER 11.0 เท่า ซึ่งเรามองว่าห่างกันมาก

กำไร 3Q64 ดีกว่าคาดจากรายได้ non-NII ที่แข็งแกร่ง

SCB รายงานกำไรสุทธิ 8.8 พันล้านบาทสำหรับ 3Q64 เพิ่มขึ้น 90% YoY (ทรงตัว QoQ) จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นและต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง สินเชื่อเติบโต 5% YoY และ 1% YTD โดยได้แรงหนุนจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อ SME ขณะที่ Non-NII เพิ่มขึ้น 24% YoY เนื่องจากค่าธรรมเนียมจาก bancassurance การบริหารความมั่งคั่ง และ mark to market gain จากการลงทุน อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลงเป็น 42.8% ในไตรมาส 3/64 เทียบกับ 45.7% ในไตรมาส 3/63 เนื่องจากค่าใช้จ่ายพนักงานลดลง อัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 17bps QoQ เป็น 4.70% นำโดยสินเชื่อองค์กรและสินเชื่อเช่าซื้อ โดย SCB บันทึกผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 1 หมื่นล้านบาท (ต้นทุนเครดิต 175bp) ลดลง 23% YoY (ทรงตัว QoQ)

หนี้ภายใต้โครงการบรรเทาหนี้สูงขึ้นจากการพักชำระหนี้ 2 เดือนของ ธปท.

สินเชื่อภายใต้โครงการบรรเทาหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4.64 แสนล้านบาท (20% ของสินเชื่อทั้งหมด) ในไตรมาส 3/64 จาก 3.76 แสนล้านบาท (16%) ในไตรมาส 2/64 นำโดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยและรถยนต์ ผบห. ระบุว่าลูกหนี้โดยรวมยังคงชำระหนี้ได้ โดย 60% สามารถชำระตามเงื่อนไขเดิมได้ ขณะที่ 30% สามารถชำระหนี้ตามเงื่อนไขใหม่โดยมีงวดที่ต่ำกว่า ส่วนที่เหลือยังคงเลื่อนการชำระและมีโอกาสกลายเป็น NPLs ผบห. คาดต้นทุนเครดิตน่าจะทรงตัว QoQ ในไตรมาส 4/64 และอยู่ระหว่าง 130-175bp ในปี 2565 เทียบกับที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 165bp

เพิ่มคาดการณ์รายได้เพื่อสะท้อนต้นทุนเครดิตที่ลดลง

เราเพิ่มคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 64-66 ขึ้น 4-6% หลังจากสมมติฐานต้นทุนเครดิตที่ลดลง ตอนนี้เราคาดการณ์ว่ารายรับจะฟื้นตัว 31% ในปี 64 แล้วเติบโต 7-8% ต่อปีในปี 65-66 คาดว่า ROE จะดีขึ้นจาก 6.7% ในปี 63 เป็น 8.4-8.7% ในปี 64-66 เราคาดว่าค่าธรรมเนียมจากประกันและการบริหารความมั่งคั่งจะสนับสนุนรายได้ในอีก 3 ปีข้างหน้าก่อนที่ธนาคารจะสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูงและ ROE สูงได้

Jesada Techahusdin, CFA

jesada.t@maybank-ke.co.th

(66) 2658 6300 ext 1395  

Srinanaporn Marketing (SNNP)

กำไรจะกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q64

BUY

Share Price               THB 11.00

12 m Price Target     THB 13.50 (+23%)

Previous Price Target THB 13.50

ประเด็นการลงทุน

คาดกำไร 3Q64 ลดลง QoQ จากการที่โรงงานทำ Bubble and Seal ปัญหาการขนส่ง และการล็อกดาวน์ แต่กำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีตั้งแต่ 4Q64 เป็นต้นไป โดย SNNP เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ผลบวกจากการเปิดเมืองและเปิดเทอม รวมทั้งโรงงานกลับมาผลิตตามปกติและมีการออกสินค้าใหม่ๆ ขณะที่ยอดขายในต่างประเทศจะฟื้นตัวจากการคลายล็อกดาวน์ในต่างประเทศ เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย (DCF) 13.50 บาท

ยอดขายได้รับผลกระทบจาก Bubble and Seal และล็อกดาวน์

เราคาดว่ายอดขายในประเทศ 3Q64 ลดลง QoQ แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY เนื่องจากยอดขายผ่านทาง Traditional trade ลดลงจากการทำ Bubble and Seal ของโรงงานในเดือน ก.ค. ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิต ขณะที่ยอดขายผ่านทาง Modern trade ได้รับผลกระทบจากปัญหา Supply chain ในเดือน ส.ค. แต่บริษัทยังมีการบริหารจัดการได้ดีทำให้คาดว่ายอดขายทาง Modern trade ทรงตัว QoQ และเพิ่มขึ้น YoY ส่วนยอดขายในต่างประเทศคาดว่าจะลดลง เนื่องจากการล็อกดาวน์และการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ เราจึงประเมินว่ายอดขายรวมลดลง 8% QoQ แต่ทรงตัว YoY ที่ 980 ล้านบาท

คาดกำไร 3Q64 ลดลง QoQ แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY

แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นลดลงตามยอดขายและกำลังการผลิตที่ลดลง เราคาดว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการ IPO และงานวิจัยสินค้าเกี่ยวกับกัญชงและกัญชา ส่วนแบ่งจากบริษัทร่วมคาดว่าจะขาดทุนมากขึ้นจากปัญหาด้าน Supply chain อย่างไรก็ดี ดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะลดลงเหลือ 5 ล้านบาท จาก 17 ล้านบาทใน 2Q64 เนื่องจากการชำระคืนหนี้ทั้งหมดเมื่อปลายเดือน ก.ค. หลังจากได้รับเงินจากการ IPO เราคาดการณ์กำไรสุทธิ 60 ล้านบาท ลดลง 22% QoQ แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY

กลับมาเติบโตตั้งแต่ 4Q64 เป็นต้นไป

คาดว่ากำไร 4Q64 จะกลับมาเติบโตดีทั้ง QoQ และ YoY จากการที่โรงงานมีกำลังการผลิตกลับมาเป็นปกติ อีกทั้งความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นจากการเปิดเมืองและเปิดเทอม รวมทั้งการออกสินค้าใหม่ๆ เช่น เจเล่แบบใหม่ และสินค้าโลตัสที่มีส่วนผสมของกัญชง ขณะยอดขายในต่างประเทศคาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นเช่นกันจากการคลายล็อกดาวน์ เราคาดว่ากำไรจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2565 จากยอดขายฟื้นตัวขึ้นจากการเปิดเมืองซึ่งมาจากทั้งช่องทาง Traditional trade, Modern trade และต่างประเทศ

ความเสี่ยง: การระบาดของโควิดรอบใหม่ ต้นทุนการผลิตเพิ่ม การลงทุนต่างประเทศ

Suttatip Peerasub

suttatip.p@maybank-ke.co.th

(66) 2658 6300 ext 1430

TMBThanachart Bank (TTB TB)

ROE สูงขึ้น หนุน Re-rating

BUY

Share Price               THB 1.13

12 m Price Target     THB 1.35 (+19%)

Previous Price Target THB 1.10

คาดกำไรต่อหุ้นโตแข็งแกร่งในปี 65-66 เพิ่มน้ำหนักเป็น “ซื้อ”

เราเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” เนื่องจากการเติบโตของกำไรที่ดีขึ้นในปี 2565-66 เราชอบ TTB ที่มุ่งเน้นคุณภาพสินเชื่อเพื่อจำกัดความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ มองไปยังปี 2565 อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้น่าจะลดลง YoY เนื่องจาก TTB ได้บันทึกค่าใช้จ่ายในการรวมระบบแบบครั้งเดียวในปี 2564 นอกจากนี้ รายได้น่าจะดีขึ้นจากประโยชน์จากการผนึกกำลังในการขายผลิตภัณฑ์ใหม่ไปยังฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้น เพิ่มคาดการณ์กำไรปี 64-66 และเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 1.35 บาท (P/BV ปี 64 ที่ 0.6 เท่า ROE 8.1%) ความเสี่ยงที่สำคัญคือคุณภาพสินทรัพย์และการเติบโตของรายได้ที่อ่อนแอ

สินเชื่อขยายตัวดีขึ้นจากสินเชื่อเช่าซื้อ

CEO คาดว่าความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อจะฟื้นตัวจากการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/64 คาดการเติบโตของสินเชื่อทรงตัวในปีนี้ ขณะที่มีแผนที่จะลดการปล่อยสินเชื่อองค์กรที่ให้ผลตอบแทนต่ำลง และหันไปมุ่งเน้นปล่อยสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เงินสดแลกรถยนต์ โดย TTB วางแผนที่จะเสนอสินเชื่อเติมเงินให้กับลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเช่าซื้อที่มีอยู่ที่มีประวัติการชำระเงินที่ดีและวงเงินที่มีอยู่ ธนาคารมีแผนจะเปิดตัวแอพธนาคารบนมือถือใหม่ในไตรมาส 4/64 และตั้งเป้าที่จะสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมจาก bancassurance และกองทุนรวมผ่านแอพใหม่

Opex จะเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 4/64

แม้จะมีค่าใช้จ่ายครั้งเดียวที่เกี่ยวข้องกับการรวมและการแยกธุรกิจใน 9M64 แต่ TTB สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างดีจากสาขาที่ลดลง (-243 สาขาหลังการควบรวมกิจการ) และพนักงานลดลง (-4.1 พันคนหลังการควบรวมกิจการ) CEO ระบุว่า OPEx และ cost to Income (CIR) จะเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากยังมีค่าใช้จ่ายอีก 300 ล้านบาทจากความล่าช้าในการรีแบรนด์และการโอนสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า CIR จะอยู่ที่ 46.7% ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ 47-49% เล็กน้อย

เพิ่มคาดการณ์กำไรปี 64-66 จากการควบคุมต้นทุนที่ดี

เราเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปี 64-66 ขึ้น 1-5% เพื่อสะท้อนการเติบโตของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและสมมติฐานต้นทุนเครดิตที่ลดลง เราคาดว่ารายได้จะเติบโต 3-25% ในอีก 3 ปีข้างหน้าโดยได้แรงหนุนจาก NII ที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่าย EBT ที่ลดลง และต้นทุนเครดิตที่ลดลง สำหรับหนี้ในโครงการบรรเทาหนี้ ลดลงเหลือ 12% ของสินเชื่อทั้งหมดในไตรมาส 3/64 จาก 14% ในไตรมาส 2/64 เนื่องจากลูกหนี้ธุรกิจและ SME ที่เป็นลูกหนี้ที่ดีได้ออกจากโครงการแล้ว จากทั้งหมด ร้อยละ 80 สามารถชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยเต็มจำนวน

Jesada Techahusdin, CFA

jesada.t@maybank-ke.co.th

(66) 2658 6300 ext 1395

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!