WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 4-11-2021May

AT THE OPEN (#ATO)

S T R A T E G Y   R E P O R T /4 พฤศจิกายน 2564

INVESTMENT STRATEGY

ฟื้นตัว :

ลด QE และไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย

วันนี้คาด SET ฟื้นตัว ในกรอบแนวรับ 1,608 จุด และแนวต้าน 1,630 จุด เน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรเด่น โดย ATO Picks แนะนำ “BH, JMT”

BH

รายงานกำไร 3Q64 ที่ 295 ล้านบาท (+36%QoQ, +33%YoY) ดีกว่าคาด 22% แรงหนุนจากรายได้ทีเกี่ยวข้องกับ COVID โดยในช่วงถัดไปคาดผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวขึ้น รับการเปิดประเทศที่ช่วยหนุนผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 70% ของรายได้ BH ให้เร่งตัวขึ้น

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 160 บาท

JMT

คาดกำไรสุทธิ 3Q64 ที่ 310 ล้านบาท (+7%QoQ , +9%YoY) เติบโตสวนทางกลุ่มการเงิน โดยฟื้นแบบ V-shape ในเดือน ก.ย. และกองหนี้ที่ตัดต้นทุนหมดเพิ่มขึ้น หนุนอัตรากำไรขั้นต้น +70bps และคาดกำไร 4Q64 จะทำจุดสูงสุดใหม่ 400 ล้านบาท และปี 65 กำไรจะเร่งขึ้นอีก 37%

   เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 58 บาท

INVESTMENT THEME

ลด QE และไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย : ผลการประชุม FED วานนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0-0.25% ตามเดิม และประกาศปรับลดมาตรการ QE ลง 1.5 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือน (พันธบัตร 1 หมื่นล้านเหรียญ และ MBS 5 พันล้านเหรียญ) จากวงเงินเดิมที่ 1.2 แสนล้านเหรียญ จะเริ่มลดในเดือน พ.ย. 64 ดังนั้น QE รอบนี้จะสิ้นสุดลงในเดือน มิ.ย.65 โดย FED ประเมินสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวดี ขณะที่ความเสี่ยงเงินเฟ้อสูงมองว่าจะค่อยๆลดลงในช่วง 1H65 ดังนั้นจึงไม่ต้องรีบขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว โดยสรุปจากมติของ FED สอดคล้องกับคาดการณ์ของเรา คาดจะส่งผลให้ SET คลายกังวล หนุนดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว  

ภาคแรงงานและภาคบริการสหรัฐฯดีกว่าคาด : การจ้างงานภาคเอกชน ADP ของสหรัฐฯ เดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น +5.71 แสนราย จากเดือนก่อนหน้าที่ +5.23 แสนราย และสูงกว่าที่ตลาดคาดที่ +4 แสนราย สะท้อนภาคแรงงานสหรัฐฯดีขึ้นต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ ดัชนี PMI และ ISM ภาคบริการที่เพิ่มขึ้น และดีกว่าคาด สนับสนุนมุมมอง FED ที่บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัว

สต๊อกน้ำมันดิบแย่กว่าคาด / จับตา OPEC : วานนี้ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ +3.29 ล้านบาร์เรล สูงกว่าคาดที่ +1.75 ล้านบาร์เรล กดดันราคาน้ำมันดิบโลกย่อตัวลง -3.2% โดยวันนี้แนะจับตาประชุม OPEC เพิ่มกำลังการผลิต 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ตามแผนเดิม อาจช่วยให้ราคาน้ำมันดิบเริ่มทรงตัวได้

MARKET SUMMARY

วานนี้ SET ย่อตัว ก่อนประชุม FED โดยมีแรงขายมากในกลุ่มสื่อสาร พลังงาน ขณะที่มีแรงซื้อกลุ่มการเงิน โดย SET ปิดที่ 1,611.92 (-5.97 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 8.5 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 7.7 หมื่นล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 269 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 426 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 5,

EYES ON

3 พ.ย. ประชุม FED, การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ จาก ADP, PMI ภาคบริการ US, ISM ภาคบริการของ US, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน US, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน US, สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ, Caixin China PMI ภาคบริการ

4 พ.ย. ประชุม OPEC, ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US, ดุลการค้า US, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย, PMI ภาคบริการยูโรโซน

5 พ.ย. การจ้างงานนอกภาคเกษตร US, ดัชนี CPI ไทย

  1. Karnchang (CK)

3Q64 บริษัทลูกจะช่วยประคองกำไร

BUY

Share Price               THB 21.00

12 m Price Target     THB 24.00 (+14%)

Previous Price Target THB 22.00

ประเด็นการลงทุน

3Q64 งานก่อสร้างจะถูกกระทบจาก Covid-19 แต่จะได้แรงหนุนจากบริษัทลูก คือ CKP และ TTW ทำให้มีกำไรประคองตัว 118 ล้านบาท ไม่ขาดทุน CK มีศักยภาพจะได้งานขนาดใหญ่หลายโครงการ หนุน Backlog เข้าสู่ New S-Curve CK มีเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของประเทศ คือ BEM, CKP และ TTW มีมูลค่าถึง 6.4 หมื่นล้านบาท หรือ คิดเป็น 38 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีแนวโน้มเติมโตในระยะยาว และ ช่วยเพิ่มงานให้ CK รวมถึงเพิ่มส่วนแบ่งกำไร และเงินปันผล เปลี่ยนไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 โดยวิธี Sum of the Part เท่ากับ 24 บาท เพิ่มจาก 22 บาท คงแนะนำ TRADING BUY    

3Q64 ถูกกระทบจาก Covid-19 แต่บริษัทลูกช่วยประคองกำไร

การแพร่ระบาดของ Covid-19 อย่างรุนแรงในเดือน ก.ค. – ส.ค. มีการล็อกดาวน์แคมป์คนงาน และ ปิดไซด์งานก่อสร้าง ในเดือน ก.ค. และ เดือน ส.ค. – ก.ย. ได้เริ่มกลับมาเปิดแคมป์คนงาน และ ไซต์งานก่อสร้าง แต่จะมีข้อจำกัดที่ต้องมีการเข็มงวด ในลักษณะ Bubble and Seal ระหว่างแคมป์คนงาน และ ไซต์งานก่อสร้าง คาดยอดรับรู้รายได้งานก่อสร้างจะลดลงเหลือ 2,000 ล้านบาท (-37%QoQ, -47%YoY) และ คาดจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านบาท (+1%QoQ, +10%YoY) ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักใกล้เดิม 8% อย่างไรก็ตามไตรมาสนี้จะมีผลการดำเนินงานบริษัทลูกเข้ามาช่วย คือ ปันผลจาก TTW 232 ล้านบาท และ ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน CKP + BEM 330 ล้านบาท (+8%QoQ, -40%YoY) รวมแล้วคาดจะมีกำไรสุทธิลดเหลือ 118ล้านบาท (-63%QoQ, -85%YoY)

ไตรมาส 4Q64 คาดจะมีการเร่งงานก่อสร้าง แต่ตัวช่วยบริษัทลูกจะลดลง

ไตรมาส 4Q64 การก่อสร้างเริ่มกลับมาปกติหลัง Covid-19 ผ่อนคลาย มีการคลายล็อกดาวน์ คาดจะมีการเร่งงานก่อสร้างมากขึ้นชดเชยงานก่อสร้างใน 3Q64 ที่หยุดไปใน อย่างไรก็ตามตัวช่วยของบริษัทลูกจะลดลง คือ จะไม่มีปันผลของ TTW 232 ล้านบาท และ CKP จะเข้าสู่ช่วงน้ำน้อยทำให้กำไรลดลง แต่ BEM จะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นหลังการเปิดเมือง รวมปี 2564 เราคาดจะมียอดรับรู้รายได้ 15,000 ล้านบาท ลดลง 10% และ คาดจะมีกำไรสุทธิ 888 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45%

คาดหวังงานใหม่จะหนุน Backlog เข้าสู่ New S-Curve

เราคาดหวังโครงการขนาดใหญ่ในอนาคต ที่ CK มีศักยภาพจะได้งานสูง คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ งานโยธา 7.87 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกและงานเดินรถ 1.27 แสนล้านบาท และ โรงไฟฟ้าหลวงพระบาง 1,410MW จะมีงานก่อสร้างประมาณ 8.5 หมื่นล้านบาท จะช่วยเติม Backlog ปัจจุบันที่ต่ำ 2.8 หมื่นล้านบาท และ มีงานรอลงนามอีก 4.6 หมื่นล้านบาท คือ รถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 2 สัญญา ดังนั้น โครงการขนาดใหญ่หลายโครงการจะช่วยหนุน Backlog CK เข้าสู่ New S-Curve

Surachai Pramualcharoenkit

surachai.p@maybank-ke.co.th

(66) 2658 6300 ext 1470

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!