WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 5-11-2021May

AT THE OPEN (#ATO)

S T R A T E G Y   R E P O R T / 5 พฤศจิกายน 2564

INVESTMENT STRATEGY

Sideways :

OPEC เพิ่มกำลังผลิตตามคาด

วันนี้คาด SET แกว่ง Sideways ในกรอบแนวรับ 1,615 จุด และแนวต้าน 1,630 จุด เน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรเด่น โดย ATO Picks แนะนำ “AOT, ASK”

AOT

การเดินหน้าเปิดประเทศในเดือน พย. และให้นักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต่ำ 63 ประเทศ ไม่ต้องกักตัว คาดจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการมาเที่ยวไทย เป็นบวกต่อภาคท่องเที่ยวฟื้นตัว และบวกโดยตรงต่อรายได้ของ AOT จะฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 74 บาท

ASK

คาดกำไร 3Q64 ที่ 301 ล้านบาท (+30%YoY, +12%QoQ) จากการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งและการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ดี ซึ่งสามารถชดเชยต้นทุนสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นได้ และคาดว่ากำไรของบริษัทจะเติบโต QoQ ทุกไตรมาสถึง 4Q65 ในขณะที่ PEปี65 เทรดเพียง 13 เท่า

   เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 55 บาท

INVESTMENT THEME

OPEC เพิ่มกำลังการผลิตตามคาด : ผลการประชุม OPEC+ เมื่อคืนที่ผ่านมามีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิต 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ตามคาด แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากสหรัฐฯที่ต้องการให้กลุ่มฯ ปรับเพิ่มกำลังการผลิตให้เร่งมากขึ้นเพื่อชะลอความร้อนแรงของราคาน้ำมันโลก โดยมุมมองของ OPEC+ ยังคงมีความระมัดระวังต่อการปรับกำลังการผลิต เนื่องจากประเมินว่ายังมีความเสี่ยงด้านอุปสงศ์ที่อาจชะลอตัวได้หากเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในระลอกใหม่ โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์เมื่อวานปรับตัวลดลงราว -1.7% สู่ระดับ 80.54 เหรียญ ส่วนด้านหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์คาดยังคงผันผวน ดังนั้นแนะนำหุ้น Domestic Play อิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศจะน่าสนใจมากกว่า (ธนาคาร, ค้าปลีก, ท่องเที่ยว)

ตอกย้ำภาคแรงงาน US ฟื้นตัว : สหรัฐฯรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ระดับ 2.69 แสนตำแหน่ง ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.83 แสนตำแหน่ง และเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 2.75 แสนตำแหน่ง ถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 63 หรือต่ำสุดตั้งแต่สหรัฐฯเผชิญกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ดังนั้นถือเป็นตัวตอกย้ำว่าภาคแรงงานสหรัฐฯมีทิศทางที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยแนะติดตามตัวเลขสำคัญของภาคแรงงานอีกตัวหนึ่งที่จะรายงานในคืนนี้ คือ การจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนตุลาคม โดยคาดขยายตัว 4.5 แสนตำแหน่ง (จากเดือนก่อนที่ขยายตัว 1.94 แสนตำแหน่ง)

MARKET SUMMARY

วานนี้ SET ย่อตัว ก่อนประชุม FED โดยมีแรงขายมากในกลุ่มสื่อสาร พลังงาน ขณะที่มีแรงซื้อกลุ่มการเงิน โดย SET ปิดที่ 1,626.27 (+14.35 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 8.6 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 8.5 หมื่นล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 4,396 ลบ. (นักลงทุนสถาบันซื้อ 1,606 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 7,483 สัญญา)

EYES ON

3 พ.ย. ประชุม FED, การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ จาก ADP, PMI ภาคบริการ US, ISM ภาคบริการของ US, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน US, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน US, สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ, Caixin China PMI ภาคบริการ

4 พ.ย. ประชุม OPEC, ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US, ดุลการค้า US, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย, PMI ภาคบริการยูโรโซน

5 พ.ย. การจ้างงานนอกภาคเกษตร US, ดัชนี CPI ไทย

Bangkok Cml. Asset Mgmt. (BAM)

เก็บทรงได้อยู่

HOLD

Share Price               THB 18.90

12 m Price Target     THB 20.00 (+6%)

Previous Price Target THB 17.00

ประเด็นการลงทุน

แม้ระยะสั้นกำไร 3Q64 อาจชะลอตัวตามปัจจัยภายนอกที่กระทบ แต่กระบวนการติดตามหนี้-ขายทรัพย์ ยังทำได้ดีสะท้อนถึงอุปสงค์ทียังอยู่ในเกณฑ์ดี และผลลัพธ์จากการปรับกลยุทธ์ที่ทำให้การหมุนสินทรัพย์เร็วขึ้น ทำให้ผลประกอบการปี 2564 ยังสามารถทำได้ตามเป้า เช่นเดียวกับกำไรสุทธิ-กระแสเงินสดที่ฟื้นตัว สะท้อนมายังอัตราปันผลที่กลับมายืนระดับ 4% ได้ใน 12 เดือนข้างหน้า เราปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 20.00 บาท แนะนำ ถือ

คาดกำไร 3Q64 เท่ากับ 504 ลบ. -36%QoQ , +69%YoY

คาดยอดเก็บเงินสด 3,800 ลบ. –10%QoQ,+16%YoY การชะลอตัวมาจากทั้งฝั่งธุรกิจ NPL 2,000 ลบ. -10%QoQ,+15%YoY ผลกระทบปิดกรมบังคับคดีจำกัด แต่ความสามารถในการชำระของลูกหนี้ลดลงเนื่องจากการล็อคดาวน์ ฝั่งธุรกิจ NPA 1,800 ลบ. -9%QoQ,+17%YoY ยังขายทรัพย์ได้ต่อเนื่อง แม้มีลูกค้าใหญ่บางรายมีการชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ย -8%QoQ,+5%Y ขณะโครงสร้างต้นทุนที่ส่วนใหญ่คงที่ยังใกล้เคียงไตรมาสก่อน อัตรากำไรสุทธิลดลงเหลือ 20.6% เทียบกับ 27.7% ใน 2Q64

ยังคงประมาณการสำหรับปี 2564

ผลประกอบการยังอยู่ในกรอบที่เรามองไว้ทั้งกำไร 9M64 คาดทำได้ 70% ของเป้า 2,207 ลบ. เช่นเดียวกับยอดเก็บเงินสด 1.1 หมื่นลบ. ที่เรามองว่าจะทำได้ไม่น้อยกว่า 1.5 หมื่นลบ. (vs เป้าบริษัท 1.7 หมื่นลบ.) ภายในสิ้นปี เร่งเข้าเป้าได้จาก กลยุทธ์การเร่ง/ฟรีโอนที่ยังท่ำต่อเนื่อง , การขายทรัพย์ 70-100 ลบ. 2-3 รายในช่วงท้ายของปี , คุณภาพลูกหนี้ที่ฟื้นตัวขึ้นหลังเปิดเมือง

ขณะ BAM ได้เข้าลงทุนใน NPLs ใหม่ราว 1,000 ลบ. ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาและคาดว่าจะใช้งบราว 2-3 พันลบ. เพื่อชดเชยส่วนที่ขายไป โดยยังไม่เร่งการซื้อตุนเพราะยังมองว่าบริษัทมีของในมือที่มากเพียงพอ สำหรับอุปสงค์ที่จะดีขึ้นใน 2-3 ปีข้างหน้า

คงคำแนะนำ ถือ ปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 20.00 บาท

เราปรับราคาเหมาะสมขึ้น +18% โดยอิงวิธี DDM แม้ในปี 2564 จะมีระดับเงินปันผลคาดหวัง เพียง 3% เทียบเท่า 3Yr SET -1SD ผลตอบแทนระยะสั้นอาจดูไม่ตื่นเต้น ทว่าเราให้น้ำหนักกับเงินปันผล (DPS) ที่จะเพิ่มขึ้นจาก 0.60 เป็น 0.80 บ./หุ้นในปีหน้า สะท้อนผลประกอบการที่จะฟื้นตัว +42%YoY ซึ่งทำให้ Div.yield ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4%ในปี 2565 โดยยังไม่รวม Upside จากการเติบโตจากการจัดตั้ง JV อยู่ระหว่างศึกษาและอาจเห็นพัฒนาการช่วงถัดไป

Thanatphat Suksrichavalit

Thanatphat.S@maybank-ke.co.th

(66) 2658 5000 ext 1401

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!