WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล. เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน 27-12-2021เมย์แบงก์

AT THE OPEN (#ATO)

S T R A T E G Y   R E P O R T / 27 ธันวาคม 2564

INVESTMENT STRATEGY

Sideways :

ย่อซื้อ มองปีหน้า 1,750

วันนี้คาด SET แกว่ง Sideways ในกรอบแนวรับ 1,630 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด เน้นหุ้นกำไรดีและมีปันผลสูง โดย ATO Picks แนะนำ “SCC, STANLY”

SCC

คาดกำไร 4Q64 ฟื้นตัวทั้ง 3 ธุรกิจ (ปิโตรเคมี, วัสดุก่อสร้าง, บรรจุภัณฑ์) หลังคลาย Lockdown และคาดจะยังคงเดินหน้าต่อในปี 65 จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ปรับขึ้น ในขณะที่ราคาหุ้นยังคงเทรดใน Valuation ที่ไม่แพง (PE 9.3 เท่า) และยังมีอัตราเงินปันผลสูงราว 4.5% ต่อปี

   เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 520 บาท

STANLY

คาดกำไร ต.ค.-ธค.64 ขยายตัวดี (+55%QoQ, -3%YoY) หลังสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น ปัญหาไมโครชิปขาดแคลนเริ่มดีขึ้น หนุนอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ส่วนปี 65 คาดเติบโต 15%YoY ในขณะที่ PE ปีหน้าเทรดเพียง 7.4 เท่า และมีคาดการจ่ายปันผลสูงราว 5.4% ต่อปี

เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 212 บาท

INVESTMENT THEME

ย่อซื้อ มองปีหน้า 1,750 : แนวโน้มการลงทุนในช่วง 1Q65 คาดตลาด แกว่งขึ้น โดยประเมินกรอบแกว่ง 1600-1700 จุด แรงขับเคลื่อนจากฟืนเฟืองทางเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าทั้งภาคการบริโภคในประเทศที่ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ การส่งออกที่เติบโตดีต่อเนื่องจากเศรษฐกิจคู่ค้าที่ขยายตัว การฉีดวัคซีนที่ทั่วถึงขึ้นหนุนความเชื่อมั่นต่อการลงทุนปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่การท่องเที่ยวจะค่อยๆฟื้นตัว และมี Upside Risk หากนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุล กระตุ้นบาทแข็ง เอื้อต่อกระแสเงินทุนไหลเข้า ส่วนปัจจัยเสี่ยงแนะระวังแรงขาย LTF ครบกำหนด, ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น, สภาพคล่องที่ลดลง รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

ปี 2565 เราประเมินกำไรต่อหุ้นของ SET ที่ 94.2 บาทต่อหุ้น (+13%YoY) อิง PE Ratio ที่ 18.6 เท่า เทียบเคียงกับระดับค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 5 ปีของ SET + 0.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation : SD) จะได้เป้าหมายดัชนีสิ้นปี 2565 ที่ระดับ 1,750 จุด

แนะทยอยสะสมหุ้นที่แนวโน้มกำไรขยายตัวดี ขานรับเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น ท่ามกลางวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น ผสานหุ้นปันผลสูงที่เป็นเป้าหมายนักลงทุนสถาบันช่วงต้นปี โดยเราเลือก ASK, GULF, SCC, SPRC, WICE เป็น 1Q65 Quarterly top picks

MARKET SUMMARY

วันศุกร์ที่ผ่านมา SET ย่อเล็กน้อย ปริมาณการซื้อขายชะลอตัว ก่อนเข้าคริสมาสต์ โดย SET ปิดที่ 1,637.22 (-4.25 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 5.7 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 6.8 หมื่นล้านบาท)

โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 1,322 ลบ. (นักลงทุนสถาบันขาย 1,251 ลบ. ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Short Future ที่ 321 สัญญา)

EYES ON

28 ธ.ค. ประชุม ครม.

29 ธ.ค. US Pending Home Sales

30 ธ.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยรายเดือน, ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ US

Thai Stanley El. (STANLY)

3Q64/65 จะฟื้นตัว ยัง Laggard กลุ่ม

BUY

Share Price                 THB 171.50

12 m Price Target       THB 212.00 (+24%)

Previous Price Target THB 212.00

ประเด็นการลงทุน

คาดกำไร 3Q64/65 จะฟื้นตัวดีขึ้น แรงหนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ฟื้นตัว   STANLY ยังได้รับคำสั่งซื้อใหม่ ไฟหน้า-ท้าย ต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Global Model บวกอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดจะหนุนให้แนวโน้มปี 2564/65 - 2565/66 จะเติบโตได้ดี ราคาหุ้น STANLY นับจากต้นปีปรับขึ้นเพียง 2%YTD เทียบกับดัชนีกลุ่มเพิ่มขึ้น 21% จึงยัง Laggard ในกลุ่ม หุ้นซื้อขาย P/E ต่ำ ปันผลดี ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น 244 บาท เราแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 212 บาท            

คาดกำไร 3Q64/65 จะฟื้นตัวดีขึ้น

ตัวเลขอุตสาหกรรมรถยนต์ไตรมาสสี่ คาดจะฟื้นตัวได้ดี 467,000 คัน (+27%QoQ, 0%YoY) หลังสถานการณ์ Covid-19 ดีขึ้น มีการคลายล็อกดาวน์ การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว และ ปัญหาไมโครชิปขาดแคลนเริ่มดีขึ้น ทำให้ยอดขายของ STANLY 3Q64/65 (ต.ค.-ธ.ค.64) คาดจะฟื้นตัวในทิศทางเดียวกัน 3,650 ล้านบาท (+21%QoQ, 0%YoY) และ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะดีขึ้น 17.8% จาก 16.0% ในไตรมาสก่อน และ 17.5% ในปีก่อน ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนคาดจะฟื้นตัว 66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% จากไตรมาสก่อน แต่ยังลดลงจากปีก่อน 22%YoY จากบริษัทลูกในเวียดนามยังไม่ฟื้นกลับมาเต็มที่ รวมแล้วคาดกำไร 3Q64/65 จะฟื้นตัวดีขึ้น 415 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาสก่อน 55%QoQ แต่จะยังปรับลดลงจากปีก่อน 3%YoY

แนวโน้มปี 2564/65 - 2565/66 คาดจะเติบโต

แนวโน้มปี 2565 กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประเมินยอดผลิตรถยนต์จะเติบโตต่อ 1.7-1.8 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 1%-6.5% หลังปี 2564 ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์เป็น 1.68-1.69 ล้านคัน เติบโต 18%

จากเป้าหมายเดิม 1.60 ล้านคัน โดย STANLY ยังได้รับคำสั่งซื้อใหม่ ไฟหน้า-ท้าย ต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Global Model ดังนั้น แนวโน้มผลประกอบการ 4Q64/65 (งวด ม.ค. – มี.ค. 2565) คาดจะฟื้นตัวดีขึ้นต่อ เราคาดยอดขาย STANLY ปี 2564/65 (เม.ย.64 - มี.ค. 2565) จะเท่ากับ 13,700 ล้านบาท โต 18% และ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,548 ล้านบาท โต 62% และ ปี 2565/66 (งวด เม.ย.2565 – มี.ค. 2566) คาดยอดขายจะเติบโตต่อ 10% สู่ระดับ 15,070 ล้านบาท และ มีกำไร 1,784 ล้านบาท เติบโต 15%

หุ้น Valuation ถูก และ ยัง Laggard ในกลุ่ม

ราคาหุ้น STANLY นับจากต้นปีปรับขึ้นเพียง 2%YTD เทียบกับดัชนีกลุ่มเพิ่มขึ้น 21% จึงยัง Laggard ในกลุ่ม ในขณะที่มีศักยภาพที่จะเติบโตสูงในกลุ่ม ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E ปีนี้ต่ำเพียง 8.5 เท่า มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 4.7% ต่ำกว่ามูลค่าบัญชี 244 บาท และ มีเงินสดในมือสูงถึง 5.3 พันล้านบาท เราประเมินราคาเป้าหมาย บนฐานค่าเฉลี่ย Forward P/E 10 ปี ประมาณ 10.5 เท่า จะได้เท่ากับ 212 บาท แนะนำ ซื้อ

Surachai Pramualcharoenkit

surachai.p@maybank-ke.co.th

(66) 2658 6300 ext 1470  

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!